Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi |
๑๕-๑๖. ภว-วิภวทิฎฺฐินิเทฺทโส
15-16. Bhava-vibhavadiṭṭhiniddeso
๑๔๘. โอลียนาภินิเวโส ภวทิฎฺฐิฯ อติธาวนาภินิเวโส วิภวทิฎฺฐิฯ อสฺสาททิฎฺฐิยา ปญฺจติํสาย อากาเรหิ อภินิเวโส กติ ภวทิฎฺฐิโย, กติ วิภวทิฎฺฐิโย? อตฺตานุทิฎฺฐิยา วีสติยา อากาเรหิ อภินิเวโส กติ ภวทิฎฺฐิโย กติ วิภวทิฎฺฐิโย…เป.… โลกวาทปฎิสํยุตฺตาย ทิฎฺฐิยา อฎฺฐหิ อากาเรหิ อภินิเวโส กติ ภวทิฎฺฐิโย กติ วิภวทิฎฺฐิโย?
148. Olīyanābhiniveso bhavadiṭṭhi. Atidhāvanābhiniveso vibhavadiṭṭhi. Assādadiṭṭhiyā pañcatiṃsāya ākārehi abhiniveso kati bhavadiṭṭhiyo, kati vibhavadiṭṭhiyo? Attānudiṭṭhiyā vīsatiyā ākārehi abhiniveso kati bhavadiṭṭhiyo kati vibhavadiṭṭhiyo…pe… lokavādapaṭisaṃyuttāya diṭṭhiyā aṭṭhahi ākārehi abhiniveso kati bhavadiṭṭhiyo kati vibhavadiṭṭhiyo?
อสฺสาททิฎฺฐิยา ปญฺจติํสาย อากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ อตฺตานุทิฎฺฐิยา วีสติยา อากาเรหิ อภินิเวโส ปนฺนรส ภวทิฎฺฐิโย, ปญฺจ วิภวทิฎฺฐิโยฯ มิจฺฉาทิฎฺฐิยา ทสหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา วิภวทิฎฺฐิโยฯ สกฺกายทิฎฺฐิยา วีสติยา อากาเรหิ อภินิเวโส ปนฺนรส ภวทิฎฺฐิโย, ปญฺจ วิภวทิฎฺฐิโยฯ สกฺกายวตฺถุกาย สสฺสตทิฎฺฐิยา ปนฺนรสหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา ภวทิฎฺฐิโยฯ สกฺกายวตฺถุกาย อุเจฺฉททิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา วิภวทิฎฺฐิโยฯ
Assādadiṭṭhiyā pañcatiṃsāya ākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo. Attānudiṭṭhiyā vīsatiyā ākārehi abhiniveso pannarasa bhavadiṭṭhiyo, pañca vibhavadiṭṭhiyo. Micchādiṭṭhiyā dasahi ākārehi abhiniveso sabbāva tā vibhavadiṭṭhiyo. Sakkāyadiṭṭhiyā vīsatiyā ākārehi abhiniveso pannarasa bhavadiṭṭhiyo, pañca vibhavadiṭṭhiyo. Sakkāyavatthukāya sassatadiṭṭhiyā pannarasahi ākārehi abhiniveso sabbāva tā bhavadiṭṭhiyo. Sakkāyavatthukāya ucchedadiṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā vibhavadiṭṭhiyo.
‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา ภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา วิภวทิฎฺฐิโย ฯ ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา วิภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’’นฺติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา ภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา ภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา วิภวทิฎฺฐิโยฯ ‘‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโย ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ – อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปญฺจหากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ
‘‘Sassato loko’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā bhavadiṭṭhiyo. ‘‘Asassato loko’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā vibhavadiṭṭhiyo . ‘‘Antavā loko’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo. ‘‘Anantavā loko’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo. ‘‘Taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’nti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā vibhavadiṭṭhiyo. ‘‘Aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’’nti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā bhavadiṭṭhiyo. ‘‘Hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā bhavadiṭṭhiyo. ‘‘Na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso sabbāva tā vibhavadiṭṭhiyo. ‘‘Hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo ‘‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti – antaggāhikāya diṭṭhiyā pañcahākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo.
ปุพฺพนฺตานุทิฎฺฐิยา อฎฺฐารสหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ อปรนฺตานุทิฎฺฐิยา จตุจตฺตารีสาย อากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ สโญฺญชนิกาย ทิฎฺฐิยา อฎฺฐารสหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ อหนฺติ – มานวินิพนฺธาย ทิฎฺฐิยา อฎฺฐารสหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา วิภวทิฎฺฐิโยฯ มมนฺติ – มานวินิพนฺธาย ทิฎฺฐิยา อฎฺฐารสหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สพฺพาว ตา ภวทิฎฺฐิโยฯ อตฺตวาทปฎิสํยุตฺตาย ทิฎฺฐิยา วีสติยา อากาเรหิ อภินิเวโส ปนฺนรส ภวทิฎฺฐิโย, ปญฺจ วิภวทิฎฺฐิโยฯ โลกวาทปฎิสํยุตฺตาย ทิฎฺฐิยา อฎฺฐหิ อากาเรหิ อภินิเวโส สิยา ภวทิฎฺฐิโย, สิยา วิภวทิฎฺฐิโยฯ
Pubbantānudiṭṭhiyā aṭṭhārasahi ākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo. Aparantānudiṭṭhiyā catucattārīsāya ākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo. Saññojanikāya diṭṭhiyā aṭṭhārasahi ākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo. Ahanti – mānavinibandhāya diṭṭhiyā aṭṭhārasahi ākārehi abhiniveso sabbāva tā vibhavadiṭṭhiyo. Mamanti – mānavinibandhāya diṭṭhiyā aṭṭhārasahi ākārehi abhiniveso sabbāva tā bhavadiṭṭhiyo. Attavādapaṭisaṃyuttāya diṭṭhiyā vīsatiyā ākārehi abhiniveso pannarasa bhavadiṭṭhiyo, pañca vibhavadiṭṭhiyo. Lokavādapaṭisaṃyuttāya diṭṭhiyā aṭṭhahi ākārehi abhiniveso siyā bhavadiṭṭhiyo, siyā vibhavadiṭṭhiyo.
สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย อสฺสาททิฎฺฐิโยฯ สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย อตฺตานุทิฎฺฐิโยฯ สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย มิจฺฉาทิฎฺฐิโยฯ สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย สกฺกายทิฎฺฐิโยฯ สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย อนฺตคฺคาหิกา ทิฎฺฐิโยฯ สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย สโญฺญชนิกา ทิฎฺฐิโยฯ สพฺพาว ตา ทิฎฺฐิโย อตฺตวาทปฎิสํยุตฺตา ทิฎฺฐิโยฯ
Sabbāva tā diṭṭhiyo assādadiṭṭhiyo. Sabbāva tā diṭṭhiyo attānudiṭṭhiyo. Sabbāva tā diṭṭhiyo micchādiṭṭhiyo. Sabbāva tā diṭṭhiyo sakkāyadiṭṭhiyo. Sabbāva tā diṭṭhiyo antaggāhikā diṭṭhiyo. Sabbāva tā diṭṭhiyo saññojanikā diṭṭhiyo. Sabbāva tā diṭṭhiyo attavādapaṭisaṃyuttā diṭṭhiyo.
ภวญฺจ ทิฎฺฐิํ วิภวญฺจ ทิฎฺฐิํ, เอตํ ทฺวยํ ตกฺกิกา นิสฺสิตาเส;
Bhavañca diṭṭhiṃ vibhavañca diṭṭhiṃ, etaṃ dvayaṃ takkikā nissitāse;
เตสํ นิโรธมฺหิ น หตฺถิ ญาณํ, ยตฺถายํ โลโก วิปรีตสญฺญีติฯ
Tesaṃ nirodhamhi na hatthi ñāṇaṃ, yatthāyaṃ loko viparītasaññīti.
๑๔๙. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ทิฎฺฐิคเตหิ ปริยุฎฺฐิตา เทวมนุสฺสา โอลียนฺติ 1 เอเก, อติธาวนฺติ เอเก; จกฺขุมโนฺต จ ปสฺสนฺติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเก? ภวารามา, ภิกฺขเว, เทวมนุสฺสา ภวรตา ภวสมฺมุทิตาฯ เตสํ ภวนิโรธาย ธเมฺม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฎฺฐติ นาธิมุจฺจติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเกฯ
149. ‘‘Dvīhi, bhikkhave, diṭṭhigatehi pariyuṭṭhitā devamanussā olīyanti 2 eke, atidhāvanti eke; cakkhumanto ca passanti. Kathañca, bhikkhave, olīyanti eke? Bhavārāmā, bhikkhave, devamanussā bhavaratā bhavasammuditā. Tesaṃ bhavanirodhāya dhamme desiyamāne cittaṃ na pakkhandati na pasīdati na santiṭṭhati nādhimuccati. Evaṃ kho, bhikkhave, olīyanti eke.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเก? ภเวเนว โข ปเนเก อฎฺฎียมานา 3 หรายมานา ชิคุจฺฉมานา วิภวํ อภินนฺทนฺติ – ‘‘ยโต กิร, โภ, อยํ อตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ เอตํ ยาถาวนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเกฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, atidhāvanti eke? Bhaveneva kho paneke aṭṭīyamānā 4 harāyamānā jigucchamānā vibhavaṃ abhinandanti – ‘‘yato kira, bho, ayaṃ attā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā ucchijjati vinassati na hoti paraṃ maraṇā, etaṃ santaṃ etaṃ paṇītaṃ etaṃ yāthāvanti. Evaṃ kho, bhikkhave, atidhāvanti eke.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, จกฺขุมโนฺต จ ปสฺสนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภูตํ ภูตโต ปสฺสติฯ ภูตํ ภูตโต ทิสฺวา ภูตสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฎิปโนฺน โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, จกฺขุมโนฺต จ ปสฺสนฺติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, cakkhumanto ca passanti? Idha, bhikkhave, bhikkhu bhūtaṃ bhūtato passati. Bhūtaṃ bhūtato disvā bhūtassa nibbidāya virāgāya nirodhāya paṭipanno hoti. Evaṃ kho, bhikkhave, cakkhumanto ca passanti.
ยถาภูเตธิมุจฺจติ, ภวตณฺหา ปริกฺขยาฯ
Yathābhūtedhimuccati, bhavataṇhā parikkhayā.
‘‘ส เว ภูตปริญฺญาโต, วีตตโณฺห ภวาภเว;
‘‘Sa ve bhūtapariññāto, vītataṇho bhavābhave;
ภูตสฺส วิภวา ภิกฺขุ, นาคจฺฉติ ปุนพฺภว’’นฺติฯ
Bhūtassa vibhavā bhikkhu, nāgacchati punabbhava’’nti.
๑๕๐. ตโย ปุคฺคลา วิปนฺนทิฎฺฐี, ตโย ปุคฺคลา สมฺปนฺนทิฎฺฐีฯ กตเม ตโย ปุคฺคลา วิปนฺนทิฎฺฐี? ติตฺถิโย จ, ติตฺถิยสาวโก จ, โย จ มิจฺฉาทิฎฺฐิโก – อิเม ตโย ปุคฺคลา วิปนฺนทิฎฺฐีฯ
150. Tayo puggalā vipannadiṭṭhī, tayo puggalā sampannadiṭṭhī. Katame tayo puggalā vipannadiṭṭhī? Titthiyo ca, titthiyasāvako ca, yo ca micchādiṭṭhiko – ime tayo puggalā vipannadiṭṭhī.
กตเม ตโย ปุคฺคลา สมฺปนฺนทิฎฺฐี? ตถาคโต จ, ตถาคตสาวโก จ, โย จ สมฺมาทิฎฺฐิโก – อิเม ตโย ปุคฺคลา สมฺปนฺนทิฎฺฐีฯ
Katame tayo puggalā sampannadiṭṭhī? Tathāgato ca, tathāgatasāvako ca, yo ca sammādiṭṭhiko – ime tayo puggalā sampannadiṭṭhī.
‘‘โกธโน อุปนาหี จ, ปาปมกฺขี จ โย นโร;
‘‘Kodhano upanāhī ca, pāpamakkhī ca yo naro;
สมฺปนฺนทิฎฺฐิ เมธาวี, ตํ ชญฺญา อริโย อิตีติฯ
Sampannadiṭṭhi medhāvī, taṃ jaññā ariyo itīti.
ติโสฺส วิปนฺนทิฎฺฐิโย, ติโสฺส สมฺปนฺนทิฎฺฐิโยฯ กตมา ติโสฺส วิปนฺนทิฎฺฐิโย? เอตํ มมาติ – วิปนฺนทิฎฺฐิฯ เอโสหมสฺมีติ – วิปนฺนทิฎฺฐิฯ เอโส เม อตฺตาติ – วิปนฺนทิฎฺฐิฯ อิมา ติโสฺส วิปนฺนทิฎฺฐิโยฯ
Tisso vipannadiṭṭhiyo, tisso sampannadiṭṭhiyo. Katamā tisso vipannadiṭṭhiyo? Etaṃ mamāti – vipannadiṭṭhi. Esohamasmīti – vipannadiṭṭhi. Eso me attāti – vipannadiṭṭhi. Imā tisso vipannadiṭṭhiyo.
กตมา ติโสฺส สมฺปนฺนทิฎฺฐิโย? เนตํ มมาติ – สมฺปนฺนทิฎฺฐิฯ เนโสหมสฺมีติ – สมฺปนฺนทิฎฺฐิฯ น เมโส อตฺตาติ – สมฺปนฺนทิฎฺฐิฯ อิมา ติโสฺส สมฺปนฺนทิฎฺฐิโยฯ
Katamā tisso sampannadiṭṭhiyo? Netaṃ mamāti – sampannadiṭṭhi. Nesohamasmīti – sampannadiṭṭhi. Na meso attāti – sampannadiṭṭhi. Imā tisso sampannadiṭṭhiyo.
เอตํ มมาติ – กา ทิฎฺฐิ, กติ ทิฎฺฐิโย, กตมนฺตานุคฺคหิตา ตา ทิฎฺฐิโย? เอโสหมสฺมีติ – กา ทิฎฺฐิ, กติ ทิฎฺฐิโย, กตมนฺตานุคฺคหิตา ตา ทิฎฺฐิโย? เอโส เม อตฺตาติ – กา ทิฎฺฐิ, กติ ทิฎฺฐิโย, กตมนฺตานุคฺคหิตา ตา ทิฎฺฐิโย?
Etaṃ mamāti – kā diṭṭhi, kati diṭṭhiyo, katamantānuggahitā tā diṭṭhiyo? Esohamasmīti – kā diṭṭhi, kati diṭṭhiyo, katamantānuggahitā tā diṭṭhiyo? Eso me attāti – kā diṭṭhi, kati diṭṭhiyo, katamantānuggahitā tā diṭṭhiyo?
เอตํ มมาติ – ปุพฺพนฺตานุทิฎฺฐิฯ อฎฺฐารส ทิฎฺฐิโยฯ ปุพฺพนฺตานุคฺคหิตา ตา ทิฎฺฐิโยฯ เอโสหมสฺมีติ – อปรนฺตานุทิฎฺฐิฯ จตุจตฺตารีสํ ทิฎฺฐิโยฯ อปรนฺตานุคฺคหิตา ตา ทิฎฺฐิโยฯ เอโส เม อตฺตาติ – วีสติวตฺถุกา อตฺตานุทิฎฺฐิฯ วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฎฺฐิฯ สกฺกายทิฎฺฐิปฺปมุขานิ 11 ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิฯ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุคฺคหิตา ตา ทิฎฺฐิโยฯ
Etaṃ mamāti – pubbantānudiṭṭhi. Aṭṭhārasa diṭṭhiyo. Pubbantānuggahitā tā diṭṭhiyo. Esohamasmīti – aparantānudiṭṭhi. Catucattārīsaṃ diṭṭhiyo. Aparantānuggahitā tā diṭṭhiyo. Esome attāti – vīsativatthukā attānudiṭṭhi. Vīsativatthukā sakkāyadiṭṭhi. Sakkāyadiṭṭhippamukhāni 12 dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni. Pubbantāparantānuggahitā tā diṭṭhiyo.
๑๕๑. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ นิฎฺฐํ คตา, สเพฺพ เต ทิฎฺฐิสมฺปนฺนาฯ เตสํ ทิฎฺฐิสมฺปนฺนานํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐา, ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐาฯ กตเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส, โกลํโกลสฺส, เอกพีชิสฺส, สกทาคามิสฺส, โย จ ทิเฎฺฐว ธเมฺม อรหา – อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐาฯ
151. ‘‘Ye keci, bhikkhave, mayi niṭṭhaṃ gatā, sabbe te diṭṭhisampannā. Tesaṃ diṭṭhisampannānaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā, pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā. Katamesaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā? Sattakkhattuparamassa, kolaṃkolassa, ekabījissa, sakadāgāmissa, yo ca diṭṭheva dhamme arahā – imesaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā.
‘‘กตเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, อุทฺธํโสตสฺส, อกนิฎฺฐคามิโน – อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐาฯ
‘‘Katamesaṃ pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā? Antarāparinibbāyissa, upahaccaparinibbāyissa, asaṅkhāraparinibbāyissa, sasaṅkhāraparinibbāyissa, uddhaṃsotassa, akaniṭṭhagāmino – imesaṃ pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā.
‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ นิฎฺฐํ คตา, สเพฺพ เต ทิฎฺฐิสมฺปนฺนาฯ เตสํ ทิฎฺฐิสมฺปนฺนานํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐา, อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐาฯ
‘‘Ye keci, bhikkhave, mayi niṭṭhaṃ gatā, sabbe te diṭṭhisampannā. Tesaṃ diṭṭhisampannānaṃ imesaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā, imesaṃ pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā.
‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา, สเพฺพ เต โสตาปนฺนาฯ เตสํ โสตาปนฺนานํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐา, ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐาฯ กตเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส , โกลํโกลสฺส, เอกพีชิสฺส, สกทาคามิสฺส, โย จ ทิเฎฺฐว ธเมฺม อรหา – อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐาฯ
‘‘Ye keci, bhikkhave, mayi aveccappasannā, sabbe te sotāpannā. Tesaṃ sotāpannānaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā, pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā. Katamesaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā? Sattakkhattuparamassa , kolaṃkolassa, ekabījissa, sakadāgāmissa, yo ca diṭṭheva dhamme arahā – imesaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā.
‘‘กตเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, อุทฺธํโสตสฺส, อกนิฎฺฐคามิโน – อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐาฯ
‘‘Katamesaṃ pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā? Antarāparinibbāyissa, upahaccaparinibbāyissa, asaṅkhāraparinibbāyissa, sasaṅkhāraparinibbāyissa, uddhaṃsotassa, akaniṭṭhagāmino – imesaṃ pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhā.
‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา, สเพฺพ เต โสตาปนฺนาฯ เตสํ โสตาปนฺนานํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ นิฎฺฐาฯ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฎฺฐาติ’’ฯ
‘‘Ye keci, bhikkhave, mayi aveccappasannā, sabbe te sotāpannā. Tesaṃ sotāpannānaṃ imesaṃ pañcannaṃ idha niṭṭhā. Imesaṃ pañcannaṃ idha vihāya niṭṭhāti’’.
ภววิภวทิฎฺฐินิเทฺทโส โสฬสโมฯ
Bhavavibhavadiṭṭhiniddeso soḷasamo.
ทิฎฺฐิกถา นิฎฺฐิตาฯ
Diṭṭhikathā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā / ๑๕-๑๖. ภววิภวทิฎฺฐินิเทฺทสวณฺณนา • 15-16. Bhavavibhavadiṭṭhiniddesavaṇṇanā