Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
2. Dutiyapaṇṇāsakaṃ
(๖) ๑. ปุคฺคลวโคฺค
(6) 1. Puggalavaggo
๕๓. ‘‘เทฺวเม , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม เทฺว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ราชา จ จกฺกวตฺตีฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติฯ
53. ‘‘Dveme , bhikkhave, puggalā loke uppajjamānā uppajjanti bahujanahitāya bahujanasukhāya, bahuno janassa atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame dve? Tathāgato ca arahaṃ sammāsambuddho, rājā ca cakkavattī. Ime kho, bhikkhave, dve puggalā loke uppajjamānā uppajjanti bahujanahitāya bahujanasukhāya, bahuno janassa atthāya hitāya sukhāya devamanussāna’’nti.
๕๔. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อจฺฉริยมนุสฺสาฯ กตเม เทฺว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ราชา จ จกฺกวตฺตีฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อจฺฉริยมนุสฺสา’’ติฯ
54. ‘‘Dveme, bhikkhave, puggalā loke uppajjamānā uppajjanti acchariyamanussā. Katame dve? Tathāgato ca arahaṃ sammāsambuddho, rājā ca cakkavattī. Ime kho, bhikkhave, dve puggalā loke uppajjamānā uppajjanti acchariyamanussā’’ti.
๕๕. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลานํ กาลกิริยา พหุโน ชนสฺส อนุตปฺปา โหติฯ กตเมสํ ทฺวินฺนํ? ตถาคตสฺส จ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, รโญฺญ จ จกฺกวตฺติสฺสฯ อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ กาลกิริยา พหุโน ชนสฺส อนุตปฺปา โหตี’’ติฯ
55. ‘‘Dvinnaṃ, bhikkhave, puggalānaṃ kālakiriyā bahuno janassa anutappā hoti. Katamesaṃ dvinnaṃ? Tathāgatassa ca arahato sammāsambuddhassa, rañño ca cakkavattissa. Imesaṃ kho, bhikkhave, dvinnaṃ puggalānaṃ kālakiriyā bahuno janassa anutappā hotī’’ti.
๕๖. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ถูปารหาฯ กตเม เทฺว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ราชา จ จกฺกวตฺตีฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ถูปารหา’’ติฯ
56. ‘‘Dveme, bhikkhave, thūpārahā. Katame dve? Tathāgato ca arahaṃ sammāsambuddho, rājā ca cakkavattī. Ime kho, bhikkhave, dve thūpārahā’’ti.
๕๗. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, พุทฺธาฯ กตเม เทฺว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ปเจฺจกพุโทฺธ จฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว พุทฺธา’’ติฯ
57. ‘‘Dveme, bhikkhave, buddhā. Katame dve? Tathāgato ca arahaṃ sammāsambuddho, paccekabuddho ca. Ime kho, bhikkhave, dve buddhā’’ti.
๕๘. ‘‘เทฺวเม , ภิกฺขเว, อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺติฯ กตเม เทฺว? ภิกฺขุ จ ขีณาสโว, หตฺถาชานีโย จฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺตี’’ติฯ
58. ‘‘Dveme , bhikkhave, asaniyā phalantiyā na santasanti. Katame dve? Bhikkhu ca khīṇāsavo, hatthājānīyo ca. Ime kho, bhikkhave, dve asaniyā phalantiyā na santasantī’’ti.
๕๙. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺติฯ กตเม เทฺว? ภิกฺขุ จ ขีณาสโว, อสฺสาชานีโย จฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺตี’’ติฯ
59. ‘‘Dveme, bhikkhave, asaniyā phalantiyā na santasanti. Katame dve? Bhikkhu ca khīṇāsavo, assājānīyo ca. Ime kho, bhikkhave, dve asaniyā phalantiyā na santasantī’’ti.
๖๐. ‘‘เทฺวเม , ภิกฺขเว, อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺติฯ กตเม เทฺว? ภิกฺขุ จ ขีณาสโว, สีโห จ มิคราชาฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺตี’’ติฯ
60. ‘‘Dveme , bhikkhave, asaniyā phalantiyā na santasanti. Katame dve? Bhikkhu ca khīṇāsavo, sīho ca migarājā. Ime kho, bhikkhave, dve asaniyā phalantiyā na santasantī’’ti.
๖๑. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา กิํปุริสา มานุสิํ วาจํ น ภาสนฺติฯ กตเม เทฺว? มา จ มุสา ภณิมฺหา, มา จ ปรํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขิมฺหาติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา กิํปุริสา มานุสิํ วาจํ น ภาสนฺตี’’ติฯ
61. ‘‘Dveme, bhikkhave, atthavase sampassamānā kiṃpurisā mānusiṃ vācaṃ na bhāsanti. Katame dve? Mā ca musā bhaṇimhā, mā ca paraṃ abhūtena abbhācikkhimhāti. Ime kho, bhikkhave, dve atthavase sampassamānā kiṃpurisā mānusiṃ vācaṃ na bhāsantī’’ti.
๖๒. ‘‘ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ, ภิกฺขเว, อติโตฺต อปฺปฎิวาโน มาตุคาโม กาลํ กโรติฯ กตเมสํ ทฺวินฺนํ? เมถุนสมาปตฺติยา จ วิชายนสฺส จฯ อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อติโตฺต อปฺปฎิวาโน มาตุคาโม กาลํ กโรตี’’ติฯ
62. ‘‘Dvinnaṃ dhammānaṃ, bhikkhave, atitto appaṭivāno mātugāmo kālaṃ karoti. Katamesaṃ dvinnaṃ? Methunasamāpattiyā ca vijāyanassa ca. Imesaṃ kho, bhikkhave, dvinnaṃ dhammānaṃ atitto appaṭivāno mātugāmo kālaṃ karotī’’ti.
๖๓. ‘‘อสนฺตสนฺนิวาสญฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สนฺตสนฺนิวาสญฺจฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
63. ‘‘Asantasannivāsañca vo, bhikkhave, desessāmi santasannivāsañca. Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อสนฺตสนฺนิวาโส โหติ, กถญฺจ อสโนฺต สนฺนิวสนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เถรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ น วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ น วเทยฺย, นโวปิ มํ น วเทยฺย; เถรมฺปาหํ น วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ น วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ น วเทยฺยํฯ เถโร เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี, โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเฐยฺยํ 1 ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฎิกเรยฺยํฯ มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป.… นโว เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี, โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฎิกเรยฺยํ’ ฯ มชฺฌิมสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ…เป.… นวสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ น วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ น วเทยฺย, นโวปิ มํ น วเทยฺย; เถรมฺปาหํ น วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ น วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ น วเทยฺยํฯ เถโร เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฎิกเรยฺยํฯ มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป.… นโว เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี, โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฎิกเรยฺยํ’ฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสนฺตสนฺนิวาโส โหติ, เอวญฺจ อสโนฺต สนฺนิวสนฺติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, asantasannivāso hoti, kathañca asanto sannivasanti? Idha, bhikkhave, therassa bhikkhuno evaṃ hoti – ‘theropi maṃ na vadeyya, majjhimopi maṃ na vadeyya, navopi maṃ na vadeyya; therampāhaṃ na vadeyyaṃ, majjhimampāhaṃ na vadeyyaṃ, navampāhaṃ na vadeyyaṃ. Thero cepi maṃ vadeyya ahitānukampī maṃ vadeyya no hitānukampī, noti naṃ vadeyyaṃ viheṭheyyaṃ 2 passampissa nappaṭikareyyaṃ. Majjhimo cepi maṃ vadeyya…pe… navo cepi maṃ vadeyya ahitānukampī maṃ vadeyya no hitānukampī, noti naṃ vadeyyaṃ viheṭheyyaṃ passampissa nappaṭikareyyaṃ’ . Majjhimassapi bhikkhuno evaṃ hoti…pe… navassapi bhikkhuno evaṃ hoti – ‘theropi maṃ na vadeyya, majjhimopi maṃ na vadeyya, navopi maṃ na vadeyya; therampāhaṃ na vadeyyaṃ, majjhimampāhaṃ na vadeyyaṃ, navampāhaṃ na vadeyyaṃ. Thero cepi maṃ vadeyya ahitānukampī maṃ vadeyya no hitānukampī noti naṃ vadeyyaṃ viheṭheyyaṃ passampissa nappaṭikareyyaṃ. Majjhimo cepi maṃ vadeyya…pe… navo cepi maṃ vadeyya ahitānukampī maṃ vadeyya no hitānukampī, noti naṃ vadeyyaṃ viheṭheyyaṃ passampissa nappaṭikareyyaṃ’. Evaṃ kho, bhikkhave, asantasannivāso hoti, evañca asanto sannivasanti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, สนฺตสนฺนิวาโส โหติ, กถญฺจ สโนฺต สนฺนิวสนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เถรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ วเทยฺย, นโวปิ มํ วเทยฺย; เถรมฺปาหํ วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ วเทยฺยํฯ เถโร เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฎิกเรยฺยํฯ มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป.… นโว เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น นํ วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฎิกเรยฺยํ’ฯ มชฺฌิมสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ…เป.… นวสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ วเทยฺย, นโวปิ มํ วเทยฺย; เถรมฺปาหํ วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ วเทยฺยํฯ เถโร เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น นํ วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฎิกเรยฺยํฯ มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป.… นโว เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น นํ วิเหเฐยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฎิกเรยฺยํ’ฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, สนฺตสนฺนิวาโส โหติ, เอวญฺจ สโนฺต สนฺนิวสนฺตี’’ติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, santasannivāso hoti, kathañca santo sannivasanti? Idha, bhikkhave, therassa bhikkhuno evaṃ hoti – ‘theropi maṃ vadeyya, majjhimopi maṃ vadeyya, navopi maṃ vadeyya; therampāhaṃ vadeyyaṃ, majjhimampāhaṃ vadeyyaṃ, navampāhaṃ vadeyyaṃ. Thero cepi maṃ vadeyya hitānukampī maṃ vadeyya no ahitānukampī, sādhūti naṃ vadeyyaṃ na viheṭheyyaṃ passampissa paṭikareyyaṃ. Majjhimo cepi maṃ vadeyya…pe… navo cepi maṃ vadeyya hitānukampī maṃ vadeyya no ahitānukampī, sādhūti naṃ vadeyyaṃ na naṃ viheṭheyyaṃ passampissa paṭikareyyaṃ’. Majjhimassapi bhikkhuno evaṃ hoti…pe… navassapi bhikkhuno evaṃ hoti – ‘theropi maṃ vadeyya, majjhimopi maṃ vadeyya, navopi maṃ vadeyya; therampāhaṃ vadeyyaṃ, majjhimampāhaṃ vadeyyaṃ, navampāhaṃ vadeyyaṃ. Thero cepi maṃ vadeyya hitānukampī maṃ vadeyya no ahitānukampī, sādhūti naṃ vadeyyaṃ na naṃ viheṭheyyaṃ passampissa paṭikareyyaṃ. Majjhimo cepi maṃ vadeyya…pe… navo cepi maṃ vadeyya hitānukampī maṃ vadeyya no ahitānukampī, sādhūti naṃ vadeyyaṃ na naṃ viheṭheyyaṃ passampissa paṭikareyyaṃ’. Evaṃ kho, bhikkhave, santasannivāso hoti, evañca santo sannivasantī’’ti.
๖๔. ‘‘ยสฺมิํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อุภโต วจีสํสาโร ทิฎฺฐิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตํ โหติ, ตเสฺมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฎิกงฺขํ – ‘ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ น ผาสุํ 3 วิหริสฺสนฺติ’ฯ ยสฺมิญฺจ โข, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อุภโต วจีสํสาโร ทิฎฺฐิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ อชฺฌตฺตํ สุวูปสนฺตํ โหติ, ตเสฺมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฎิกงฺขํ – ‘น ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ ผาสุํ วิหริสฺสนฺตี’’’ติฯ
64. ‘‘Yasmiṃ, bhikkhave, adhikaraṇe ubhato vacīsaṃsāro diṭṭhipaḷāso cetaso āghāto appaccayo anabhiraddhi ajjhattaṃ avūpasantaṃ hoti, tasmetaṃ, bhikkhave, adhikaraṇe pāṭikaṅkhaṃ – ‘dīghattāya kharattāya vāḷattāya saṃvattissati, bhikkhū ca na phāsuṃ 4 viharissanti’. Yasmiñca kho, bhikkhave, adhikaraṇe ubhato vacīsaṃsāro diṭṭhipaḷāso cetaso āghāto appaccayo anabhiraddhi ajjhattaṃ suvūpasantaṃ hoti, tasmetaṃ, bhikkhave, adhikaraṇe pāṭikaṅkhaṃ – ‘na dīghattāya kharattāya vāḷattāya saṃvattissati, bhikkhū ca phāsuṃ viharissantī’’’ti.
ปุคฺคลวโคฺค ปฐโมฯ
Puggalavaggo paṭhamo.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / (๖) ๑. ปุคฺคลวคฺควณฺณนา • (6) 1. Puggalavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / (๖) ๑. ปุคฺคลวคฺควณฺณนา • (6) 1. Puggalavaggavaṇṇanā