Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā |
อภิภายตนกถา
Abhibhāyatanakathā
๒๐๔. เอวํ อฎฺฐสุ กสิเณสุ รูปาวจรกุสลํ นิทฺทิสิตฺวา, อิทานิ ยสฺมา สมาเนปิ อารมฺมเณ ภาวนาย อสมานํ อิเมสุ อฎฺฐสุ กสิเณสุ อญฺญมฺปิ อภิภายตนสงฺขาตํ รูปาวจรกุสลํ ปวตฺตติ, ตสฺมา ตํ ทเสฺสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสญฺญาวิรหิโตฯ พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา อฎฺฐสุ กสิเณสุ กตปริกมฺมตาย ปริกมฺมวเสน เจว อปฺปนาวเสน จ ตานิ พหิทฺธา อฎฺฐสุ กสิเณสุ รูปานิ ปสฺสติฯ ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิฯ ตานิ อภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคหณิโก กฎจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘กิํ เอตฺถ ภุญฺชิตพฺพํ อตฺถี’ติ สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมว ญาณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทญาโณ ‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติฯ สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพเตฺตตีติ อโตฺถฯ ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส ปุพฺพภาโค กถิโตฯ อาคมฎฺฐกถาสุ ปน วุตฺตํ – อิมินาสฺส ปน อาโภโค กถิโตฯ โส จ โข สมาปตฺติโต วุฎฺฐิตสฺส, น อโนฺตสมาปตฺติยนฺติ (อ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๘.๖๕)ฯ
204. Evaṃ aṭṭhasu kasiṇesu rūpāvacarakusalaṃ niddisitvā, idāni yasmā samānepi ārammaṇe bhāvanāya asamānaṃ imesu aṭṭhasu kasiṇesu aññampi abhibhāyatanasaṅkhātaṃ rūpāvacarakusalaṃ pavattati, tasmā taṃ dassetuṃ puna katame dhammā kusalātiādi āraddhaṃ. Tattha ajjhattaṃ arūpasaññīti alābhitāya vā anatthikatāya vā ajjhattarūpe parikammasaññāvirahito. Bahiddhā rūpāni passatīti bahiddhā aṭṭhasu kasiṇesu kataparikammatāya parikammavasena ceva appanāvasena ca tāni bahiddhā aṭṭhasu kasiṇesu rūpāni passati. Parittānīti avaḍḍhitāni. Tāni abhibhuyyāti yathā nāma sampannagahaṇiko kaṭacchumattaṃ bhattaṃ labhitvā ‘kiṃ ettha bhuñjitabbaṃ atthī’ti saṅkaḍḍhitvā ekakabaḷameva karoti, evameva ñāṇuttariko puggalo visadañāṇo ‘kimettha parittake ārammaṇe samāpajjitabbaṃ atthi, nāyaṃ mama bhāro’ti tāni rūpāni abhibhavitvā samāpajjati. Saha nimittuppādenevettha appanaṃ nibbattetīti attho. Jānāmi passāmīti iminā panassa pubbabhāgo kathito. Āgamaṭṭhakathāsu pana vuttaṃ – imināssa pana ābhogo kathito. So ca kho samāpattito vuṭṭhitassa, na antosamāpattiyanti (a. ni. aṭṭha. 3.8.65).
อปฺปมาณานีติ วฑฺฒิตปฺปมาณานิฯ อภิภุยฺยาติ เอตฺถ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘อญฺญาปิ โหตุ ‘กิเมสา มยฺหํ กริสฺสตี’ติ ตํ น มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว ญาณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทญฺญาโณ ‘กิเมตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, น อิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิเตฺตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’ติ ตานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติฯ สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพเตฺตตีติ อโตฺถฯ
Appamāṇānīti vaḍḍhitappamāṇāni. Abhibhuyyāti ettha pana yathā mahagghaso puriso ekaṃ bhattavaḍḍhitakaṃ labhitvā ‘aññāpi hotu ‘kimesā mayhaṃ karissatī’ti taṃ na mahantato passati, evameva ñāṇuttaro puggalo visadaññāṇo ‘kimettha samāpajjitabbaṃ, na idaṃ appamāṇaṃ, na mayhaṃ cittekaggatākaraṇe bhāro atthī’ti tāni abhibhavitvā samāpajjati. Saha nimittuppādenevettha appanaṃ nibbattetīti attho.
ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณนฺติ อิธ ปริตฺตานีติ อาคตตฺตา อปฺปมาณารมฺมณตา น คหิตา, ปรโต อปฺปมาณานีติ อาคตตฺตา ปริตฺตารมฺมณตาฯ อฎฺฐกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘อิมสฺมิํ ฐาเน จตฺตาริ จตฺตาริ อารมฺมณานิ อคฺคเหตฺวา เทฺว เทฺวว คหิตานิ ฯ กิํ การณา? จตูสุ หิ คหิเตสุ เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา โหติ, สตฺถารา จ เหฎฺฐา โสฬสกฺขตฺตุกา เทสนา กิลญฺชมฺหิ ติเล ปตฺถรเนฺตน วิย วิตฺถารโต กถิตาฯ ตสฺส อิมสฺมิํ ฐาเน อฎฺฐกฺขตฺตุกํ เทสนํ กาตุํ อชฺฌาสโยฯ ตสฺมา เทฺว เทฺวเยว คหิตานีติ เวทิตพฺพานีติฯ
Parittaṃ parittārammaṇaṃ appamāṇaṃ parittārammaṇanti idha parittānīti āgatattā appamāṇārammaṇatā na gahitā, parato appamāṇānīti āgatattā parittārammaṇatā. Aṭṭhakathāyaṃ pana vuttaṃ – ‘imasmiṃ ṭhāne cattāri cattāri ārammaṇāni aggahetvā dve dveva gahitāni . Kiṃ kāraṇā? Catūsu hi gahitesu desanā soḷasakkhattukā hoti, satthārā ca heṭṭhā soḷasakkhattukā desanā kilañjamhi tile pattharantena viya vitthārato kathitā. Tassa imasmiṃ ṭhāne aṭṭhakkhattukaṃ desanaṃ kātuṃ ajjhāsayo. Tasmā dve dveyeva gahitānīti veditabbānīti.
สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณานิฯ ปริสุทฺธานิ หิ นีลาทีนิ สุวณฺณานิ, อปริสุทฺธานิ จ ทุพฺพณฺณานีติ อิธ อธิเปฺปตานิฯ อาคมฎฺฐกถาสุ ปน ‘สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตอปฺปมาณวเสเนว อิมานิ อภิภายตนานิ เทสิตานี’ติ (อ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๘.๖๕) วุตฺตํฯ อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสนฯ เอเตสญฺหิ เอตานิ สปฺปายานิฯ สา จ เตสํ สปฺปายตา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๓) จริยนิเทฺทเส วุตฺตาฯ
Suvaṇṇadubbaṇṇānīti parisuddhāparisuddhavaṇṇāni. Parisuddhāni hi nīlādīni suvaṇṇāni, aparisuddhāni ca dubbaṇṇānīti idha adhippetāni. Āgamaṭṭhakathāsu pana ‘suvaṇṇāni vā hontu dubbaṇṇāni vā, parittaappamāṇavaseneva imāni abhibhāyatanāni desitānī’ti (a. ni. aṭṭha. 3.8.65) vuttaṃ. Imesu pana catūsu parittaṃ vitakkacaritavasena āgataṃ, appamāṇaṃ mohacaritavasena, suvaṇṇaṃ dosacaritavasena, dubbaṇṇaṃ rāgacaritavasena. Etesañhi etāni sappāyāni. Sā ca tesaṃ sappāyatā vitthārato visuddhimagge (visuddhi. 1.43) cariyaniddese vuttā.
กสฺมา ปน, ยถา สุตฺตเนฺต ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๘.๖๕) วุตฺตํ, เอวํ อวตฺวา อิธ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญิตาว วุตฺตาติ? อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโตฯ ตตฺถ วา หิ อิธ วา พหิทฺธารูปาเนว อภิภวิตพฺพานิ, ตสฺมา ตานิ นิยมโต วตฺตพฺพานีติ ตตฺรปิ อิธปิ วุตฺตานิฯ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญีติ อิทํ ปน สตฺถุ เทสนาวิลาสมตฺตเมวฯ อยํ ตาว จตูสุ อภิภายตเนสุ อปุพฺพปทวณฺณนาฯ สุทฺธิกนยปฎิปทาเภโท ปเนตฺถ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เอเกกสฺมิํ อภิภายตเน เวทิตโพฺพฯ เกวลเญฺจตฺถ อารมฺมณจตุกฺกํ อารมฺมณทุกํ โหติ, โสฬสกฺขตฺตุกญฺจ อฎฺฐกฺขตฺตุกํฯ เสสํ ตาทิสเมวฯ เอวเมตฺถ เอเกกสฺมิํ อภิภายตเน เอโก สุทฺธิกนวโก, จตฺตาโร ปฎิปทานวกา, เทฺว อารมฺมณนวกา, อารมฺมณปฎิปทามิสฺสเก อฎฺฐ นวกาติ ปนฺนรส นวกาติ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ สมสฎฺฐิ นวกา เวทิตพฺพาฯ
Kasmā pana, yathā suttante ‘‘ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittānī’’tiādi (dī. ni. 2.173; ma. ni. 2.249; a. ni. 8.65) vuttaṃ, evaṃ avatvā idha catūsupi abhibhāyatanesu ajjhattaṃ arūpasaññitāva vuttāti? Ajjhattarūpānaṃ anabhibhavanīyato. Tattha vā hi idha vā bahiddhārūpāneva abhibhavitabbāni, tasmā tāni niyamato vattabbānīti tatrapi idhapi vuttāni. Ajjhattaṃ arūpasaññīti idaṃ pana satthu desanāvilāsamattameva. Ayaṃ tāva catūsu abhibhāyatanesu apubbapadavaṇṇanā. Suddhikanayapaṭipadābhedo panettha pathavīkasiṇe vuttanayeneva ekekasmiṃ abhibhāyatane veditabbo. Kevalañcettha ārammaṇacatukkaṃ ārammaṇadukaṃ hoti, soḷasakkhattukañca aṭṭhakkhattukaṃ. Sesaṃ tādisameva. Evamettha ekekasmiṃ abhibhāyatane eko suddhikanavako, cattāro paṭipadānavakā, dve ārammaṇanavakā, ārammaṇapaṭipadāmissake aṭṭha navakāti pannarasa navakāti catūsupi abhibhāyatanesu samasaṭṭhi navakā veditabbā.
๒๔๖. ปญฺจมอภิภายตนาทีสุ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํฯ นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน, นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน, อปญฺญายมานวิวรานิ, อสมฺภินฺนวณฺณานิ, เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ นีลนิภาสานีติ อิทํ ปน โอภาสนวเสน วุตฺตํ; นีโลภาสานิ นีลปฺปภายุตฺตานีติ อโตฺถฯ เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทเสฺสติฯ สุวิสุทฺธวณฺณวเสน หิ อิมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ วุตฺตานิฯ ปีตานีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ นีลกสิณํ อุคฺคณฺหโนฺต นีลสฺมิํ นิมิตฺตํ คณฺหาติฯ ปุปฺผสฺมิํ วา วตฺถสฺมิํ วา วณฺณธาตุยา วาติอาทิกํ ปเนตฺถ กสิณกรณญฺจ ปริกมฺมญฺจ อปฺปนาวิธานญฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๙๓ อาทโย) วิตฺถารโต วุตฺตเมวฯ ยถา จ ปถวีกสิเณ เอวเมตฺถ เอเกกสฺมิํ อภิภายตเน ปญฺจวีสติ ปญฺจวีสติ นวกา เวทิตพฺพาฯ
246. Pañcamaabhibhāyatanādīsu nīlānīti sabbasaṅgāhikavasena vuttaṃ. Nīlavaṇṇānīti vaṇṇavasena, nīlanidassanānīti nidassanavasena, apaññāyamānavivarāni, asambhinnavaṇṇāni, ekanīlāneva hutvā dissantīti vuttaṃ hoti. Nīlanibhāsānīti idaṃ pana obhāsanavasena vuttaṃ; nīlobhāsāni nīlappabhāyuttānīti attho. Etena nesaṃ suvisuddhataṃ dasseti. Suvisuddhavaṇṇavasena hi imāni cattāri abhibhāyatanāni vuttāni. Pītānītiādīsupi imināva nayena attho veditabbo. Nīlakasiṇaṃ uggaṇhanto nīlasmiṃ nimittaṃ gaṇhāti. Pupphasmiṃ vā vatthasmiṃ vā vaṇṇadhātuyā vātiādikaṃ panettha kasiṇakaraṇañca parikammañca appanāvidhānañca sabbaṃ visuddhimagge (visuddhi. 1.93 ādayo) vitthārato vuttameva. Yathā ca pathavīkasiṇe evamettha ekekasmiṃ abhibhāyatane pañcavīsati pañcavīsati navakā veditabbā.
อภิภายตนกถาฯ
Abhibhāyatanakathā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธมฺมสงฺคณีปาฬิ • Dhammasaṅgaṇīpāḷi / รูปาวจรกุสลํ • Rūpāvacarakusalaṃ
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā / อภิภายตนกถาวณฺณนา • Abhibhāyatanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā / อภิภายตนกถาวณฺณนา • Abhibhāyatanakathāvaṇṇanā