Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā

    ๑๔. สิกฺขาปทวิภโงฺค

    14. Sikkhāpadavibhaṅgo

    ๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

    1. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā

    ๗๐๓. อิทานิ ตทนนฺตเร สิกฺขาปทวิภเงฺค ปญฺจาติ คณนปริเจฺฉโทฯ สิกฺขาปทานีติ สิกฺขิตพฺพปทานิ; สิกฺขาโกฎฺฐาสาติ อโตฺถฯ อปิจ อุปริ อาคตา สเพฺพปิ กุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขาฯ ปญฺจสุ ปน สีลเงฺคสุ ยํกิญฺจิ องฺคํ ตาสํ สิกฺขานํ ปติฎฺฐานเฎฺฐน ปทนฺติ สิกฺขานํ ปทตฺตา สิกฺขาปทานิฯ ปาณาติปาตาติ ปาณสฺส อติปาตา ฆาตนา มารณาติ อโตฺถฯ เวรมณีติ วิรติฯ อทินฺนาทานาติ อทินฺนสฺส อาทานา; ปรปริคฺคหิตสฺส หรณาติ อโตฺถฯ กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุฯ มิจฺฉาจาราติ กิเลสกามวเสน ลามกาจาราฯ มุสาวาทาติ อภูตวาทโตฯ สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานาติ เอตฺถ สุราติ ปิฎฺฐสุรา, ปูวสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปญฺจ สุราฯ เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, คุฬาสโว, มธฺวาสโว, สมฺภารสํยุโตฺตติ ปญฺจ อาสวาฯ ตทุภยมฺปิ มทนียเฎฺฐน มชฺชํฯ ยาย เจตนาย ตํ ปิวนฺติ, สา ปมาทการณตฺตา ปมาทฎฺฐานํ; ตสฺมา สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานาฯ อยํ ตาเวตฺถ มาติกานิเกฺขปสฺส อโตฺถฯ

    703. Idāni tadanantare sikkhāpadavibhaṅge pañcāti gaṇanaparicchedo. Sikkhāpadānīti sikkhitabbapadāni; sikkhākoṭṭhāsāti attho. Apica upari āgatā sabbepi kusalā dhammā sikkhitabbato sikkhā. Pañcasu pana sīlaṅgesu yaṃkiñci aṅgaṃ tāsaṃ sikkhānaṃ patiṭṭhānaṭṭhena padanti sikkhānaṃ padattā sikkhāpadāni. Pāṇātipātāti pāṇassa atipātā ghātanā māraṇāti attho. Veramaṇīti virati. Adinnādānāti adinnassa ādānā; parapariggahitassa haraṇāti attho. Kāmesūti vatthukāmesu. Micchācārāti kilesakāmavasena lāmakācārā. Musāvādāti abhūtavādato. Surāmerayamajjapamādaṭṭhānāti ettha surāti piṭṭhasurā, pūvasurā, odanasurā, kiṇṇapakkhittā, sambhārasaṃyuttāti pañca surā. Merayanti pupphāsavo, phalāsavo, guḷāsavo, madhvāsavo, sambhārasaṃyuttoti pañca āsavā. Tadubhayampi madanīyaṭṭhena majjaṃ. Yāya cetanāya taṃ pivanti, sā pamādakāraṇattā pamādaṭṭhānaṃ; tasmā surāmerayamajjapamādaṭṭhānā. Ayaṃ tāvettha mātikānikkhepassa attho.

    ๗๐๔. ปทภาชนีเย ปน ยสฺมิํ สมเย กามาวจรนฺติอาทิ สพฺพํ เหฎฺฐา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวฯ ยสฺมา ปน น เกวลํ วิรติเยว สิกฺขาปทํ, เจตนาปิ สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตํ ทเสฺสตุํ ทุติยนโย ทสฺสิโตฯ ยสฺมา จ น เกวลํ เอเตเยว เทฺว ธมฺมา สิกฺขาปทํ, เจตนาสมฺปยุตฺตา ปน ปโรปณฺณาสธมฺมาปิ สิกฺขิตพฺพโกฎฺฐาสโต สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตติยนโยปิ ทสฺสิโตฯ

    704. Padabhājanīye pana yasmiṃ samaye kāmāvacarantiādi sabbaṃ heṭṭhā vuttanayattā uttānatthameva. Yasmā pana na kevalaṃ viratiyeva sikkhāpadaṃ, cetanāpi sikkhāpadameva, tasmā taṃ dassetuṃ dutiyanayo dassito. Yasmā ca na kevalaṃ eteyeva dve dhammā sikkhāpadaṃ, cetanāsampayuttā pana paropaṇṇāsadhammāpi sikkhitabbakoṭṭhāsato sikkhāpadameva, tasmā tatiyanayopi dassito.

    ตตฺถ ทุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริยายสิกฺขาปทํ นิปฺปริยายสิกฺขาปทญฺจฯ ตตฺถ วิรติ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํฯ สา หิ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติ ปาฬิยํ อาคตา, โน เจตนาฯ วิรมโนฺต จ ตาย เอว ตโต ตโต วิรมติ, น เจตนายฯ เจตนํ ปน อาหริตฺวา ทเสฺสสิฯ ตถา เสสเจตนาสมฺปยุตฺตธเมฺมฯ วีติกฺกมกาเล หิ เวรเจตนา ทุสฺสีลฺยํ นามฯ ตสฺมา สา วิรติกาเลปิ สุสีลฺยวเสน วุตฺตาฯ ผสฺสาทโย ตํสมฺปยุตฺตตฺตา คหิตาติฯ

    Tattha duvidhaṃ sikkhāpadaṃ pariyāyasikkhāpadaṃ nippariyāyasikkhāpadañca. Tattha virati nippariyāyasikkhāpadaṃ. Sā hi ‘‘pāṇātipātā veramaṇī’’ti pāḷiyaṃ āgatā, no cetanā. Viramanto ca tāya eva tato tato viramati, na cetanāya. Cetanaṃ pana āharitvā dassesi. Tathā sesacetanāsampayuttadhamme. Vītikkamakāle hi veracetanā dussīlyaṃ nāma. Tasmā sā viratikālepi susīlyavasena vuttā. Phassādayo taṃsampayuttattā gahitāti.

    อิทานิ เอเตสุ สิกฺขาปเทสุ ญาณสมุเตฺตชนตฺถํ อิเมสํ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมโต, โกฎฺฐาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโต, กมฺมโต, สาวชฺชโต, ปโยคโต จ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพฯ

    Idāni etesu sikkhāpadesu ñāṇasamuttejanatthaṃ imesaṃ pāṇātipātādīnaṃ dhammato, koṭṭhāsato, ārammaṇato, vedanāto, mūlato, kammato, sāvajjato, payogato ca vinicchayo veditabbo.

    ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ ปญฺจเปเต ปาณาติปาตาทโย เจตนาธมฺมาว โหนฺติฯ ‘โกฎฺฐาสโต’ ปญฺจปิ กมฺมปถา เอวฯ

    Tattha ‘dhammato’ti pañcapete pāṇātipātādayo cetanādhammāva honti. ‘Koṭṭhāsato’ pañcapi kammapathā eva.

    ‘อารมฺมณโต’ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมโณฯ อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา สงฺขารารมฺมณํ วาฯ มิจฺฉาจาโร อิตฺถิปุริสารมฺมโณฯ มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วาฯ สุราปานํ สงฺขารารมฺมณํฯ

    ‘Ārammaṇato’ pāṇātipāto jīvitindriyārammaṇo. Adinnādānaṃ sattārammaṇaṃ vā saṅkhārārammaṇaṃ vā. Micchācāro itthipurisārammaṇo. Musāvādo sattārammaṇo vā saṅkhārārammaṇo vā. Surāpānaṃ saṅkhārārammaṇaṃ.

    ‘เวทนาโต’ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโนฯ อทินฺนาทานํ ติเวทนํฯ ตญฺหิ หฎฺฐตุฎฺฐสฺส อทินฺนํ อาทิยโต สุขเวทนํ โหติ, ภีตกาเล ทุกฺขเวทนํ, มชฺฌตฺตสฺส หุตฺวา คณฺหโต อทุกฺขมสุขเวทนํฯ มิจฺฉาจาโร สุขเวทโน วา อทุกฺขมสุขเวทโน วาฯ มุสาวาโท อทินฺนาทานํ วิย ติเวทโนฯ สุราปานํ สุขมชฺฌตฺตเวทนํฯ

    ‘Vedanāto’ pāṇātipāto dukkhavedano. Adinnādānaṃ tivedanaṃ. Tañhi haṭṭhatuṭṭhassa adinnaṃ ādiyato sukhavedanaṃ hoti, bhītakāle dukkhavedanaṃ, majjhattassa hutvā gaṇhato adukkhamasukhavedanaṃ. Micchācāro sukhavedano vā adukkhamasukhavedano vā. Musāvādo adinnādānaṃ viya tivedano. Surāpānaṃ sukhamajjhattavedanaṃ.

    ‘มูลโต’ ปาณาติปาโต โทสโมหมูโลฯ อทินฺนาทานํ กิญฺจิกาเล โลภโมหมูลํ, กิญฺจิกาเล โทสโมหมูลํฯ มิจฺฉาจาโร โลภโมหมูโลฯ มุสาวาโท กิญฺจิกาเล โลภโมหมูโล, กิญฺจิกาเล โทสโมหมูโลฯ สุราปานํ โลภโมหมูลํฯ

    ‘Mūlato’ pāṇātipāto dosamohamūlo. Adinnādānaṃ kiñcikāle lobhamohamūlaṃ, kiñcikāle dosamohamūlaṃ. Micchācāro lobhamohamūlo. Musāvādo kiñcikāle lobhamohamūlo, kiñcikāle dosamohamūlo. Surāpānaṃ lobhamohamūlaṃ.

    ‘กมฺมโต’ มุสาวาโท เจตฺถ วจีกมฺมํฯ เสสา กายกมฺมเมวฯ

    ‘Kammato’ musāvādo cettha vacīkammaṃ. Sesā kāyakammameva.

    ‘สาวชฺชโต’ ปาณาติปาโต อตฺถิ อปฺปสาวโชฺช, อตฺถิ มหาสาวโชฺชฯ ตถา อทินฺนาทานาทีนิฯ เตสํ นานากรณํ เหฎฺฐา ทสฺสิตเมวฯ

    ‘Sāvajjato’ pāṇātipāto atthi appasāvajjo, atthi mahāsāvajjo. Tathā adinnādānādīni. Tesaṃ nānākaraṇaṃ heṭṭhā dassitameva.

    อยํ ปน อปโร นโย – กุนฺถกิปิลฺลิกสฺส หิ วโธ อปฺปสาวโชฺช, ตโต มหนฺตตรสฺส มหาสาวโชฺช; โสปิ อปฺปสาวโชฺช, ตโต มหนฺตตราย สกุณิกาย มหาสาวโชฺช; ตโต โคธาย, ตโต สสกสฺส, ตโต มิคสฺส, ตโต ควยสฺส, ตโต อสฺสสฺส, ตโต หตฺถิสฺส วโธ มหาสาวโชฺช, ตโตปิ ทุสฺสีลมนุสฺสสฺส , ตโต โครูปสีลกมนุสฺสสฺส, ตโต สรณคตสฺส, ตโต ปญฺจสิกฺขาปทิกสฺส, ตโต สามเณรสฺส, ตโต ปุถุชฺชนภิกฺขุโน , ตโต โสตาปนฺนสฺส, ตโต สกทาคามิสฺส, ตโต อนาคามิสฺส, ตโต ขีณาสวสฺส วโธ อติมหาสาวโชฺชเยวฯ

    Ayaṃ pana aparo nayo – kunthakipillikassa hi vadho appasāvajjo, tato mahantatarassa mahāsāvajjo; sopi appasāvajjo, tato mahantatarāya sakuṇikāya mahāsāvajjo; tato godhāya, tato sasakassa, tato migassa, tato gavayassa, tato assassa, tato hatthissa vadho mahāsāvajjo, tatopi dussīlamanussassa , tato gorūpasīlakamanussassa, tato saraṇagatassa, tato pañcasikkhāpadikassa, tato sāmaṇerassa, tato puthujjanabhikkhuno , tato sotāpannassa, tato sakadāgāmissa, tato anāgāmissa, tato khīṇāsavassa vadho atimahāsāvajjoyeva.

    อทินฺนาทานํ ทุสฺสีลสฺส สนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ตโต โครูปสีลกสฺส สนฺตเก มหาสาวชฺชํ; ตโต สรณคตสฺส, ตโต ปญฺจสิกฺขาปทิกสฺส, ตโต สามเณรสฺส, ตโต ปุถุชฺชนภิกฺขุโน, ตโต โสตาปนฺนสฺส, ตโต สกทาคามิสฺส, ตโต อนาคามิสฺส สนฺตเก มหาสาวชฺชํ, ตโต ขีณาสวสฺส สนฺตเก อติมหาสาวชฺชํเยวฯ

    Adinnādānaṃ dussīlassa santake appasāvajjaṃ, tato gorūpasīlakassa santake mahāsāvajjaṃ; tato saraṇagatassa, tato pañcasikkhāpadikassa, tato sāmaṇerassa, tato puthujjanabhikkhuno, tato sotāpannassa, tato sakadāgāmissa, tato anāgāmissa santake mahāsāvajjaṃ, tato khīṇāsavassa santake atimahāsāvajjaṃyeva.

    มิจฺฉาจาโร ทุสฺสีลาย อิตฺถิยา วีติกฺกเม อปฺปสาวโชฺช, ตโต โครูปสีลกาย มหาสาวโชฺช; ตโต สรณคตาย, ปญฺจสิกฺขาปทิกาย, สามเณริยา, ปุถุชฺชนภิกฺขุนิยา, โสตาปนฺนาย, สกทาคามินิยา, ตโต อนาคามินิยา วีติกฺกเม มหาสาวโชฺช, ขีณาสวาย ปน ภิกฺขุนิยา เอกนฺตมหาสาวโชฺชวฯ

    Micchācāro dussīlāya itthiyā vītikkame appasāvajjo, tato gorūpasīlakāya mahāsāvajjo; tato saraṇagatāya, pañcasikkhāpadikāya, sāmaṇeriyā, puthujjanabhikkhuniyā, sotāpannāya, sakadāgāminiyā, tato anāgāminiyā vītikkame mahāsāvajjo, khīṇāsavāya pana bhikkhuniyā ekantamahāsāvajjova.

    มุสาวาโท กากณิกมตฺตสฺส อตฺถาย มุสากถเน อปฺปสาวโชฺช, ตโต อฑฺฒมาสกสฺส, มาสกสฺส, ปญฺจมาสกสฺส, อฑฺฒกหาปณสฺส, กหาปณสฺส, ตโต อนคฺฆนิยภณฺฑสฺส อตฺถาย มุสากถเน มหาสาวโชฺช, มุสา กเถตฺวา ปน สงฺฆํ ภินฺทนฺตสฺส เอกนฺตมหาสาวโชฺชวฯ

    Musāvādo kākaṇikamattassa atthāya musākathane appasāvajjo, tato aḍḍhamāsakassa, māsakassa, pañcamāsakassa, aḍḍhakahāpaṇassa, kahāpaṇassa, tato anagghaniyabhaṇḍassa atthāya musākathane mahāsāvajjo, musā kathetvā pana saṅghaṃ bhindantassa ekantamahāsāvajjova.

    สุราปานํ ปสตมตฺตสฺส ปาเน อปฺปสาวชฺชํ, อญฺชลิมตฺตสฺส ปาเน มหาสาวชฺชํ; กายจาลนสมตฺถํ ปน พหุํ ปิวิตฺวา คามฆาตนิคมฆาตกมฺมํ กโรนฺตสฺส เอกนฺตมหาสาวชฺชเมวฯ

    Surāpānaṃ pasatamattassa pāne appasāvajjaṃ, añjalimattassa pāne mahāsāvajjaṃ; kāyacālanasamatthaṃ pana bahuṃ pivitvā gāmaghātanigamaghātakammaṃ karontassa ekantamahāsāvajjameva.

    ปาณาติปาตญฺหิ ปตฺวา ขีณาสวสฺส วโธ มหาสาวโชฺช; อทินฺนาทานํ ปตฺวา ขีณาสวสนฺตกสฺส หรณํ, มิจฺฉาจารํ ปตฺวา ขีณาสวาย ภิกฺขุนิยา วีติกฺกมนํ, มุสาวาทํ ปตฺวา มุสาวาเทน สงฺฆเภโท, สุราปานํ ปตฺวา กายจาลนสมตฺถํ พหุํ ปิวิตฺวา คามนิคมฆาตนํ มหาสาวชฺชํฯ สเพฺพหิปิ ปเนเตหิ มุสาวาเทน สงฺฆเภทนเมว มหาสาวชฺชํฯ ตญฺหิ กปฺปํ นิรเย ปาจนสมตฺถํ มหากิพฺพิสํฯ

    Pāṇātipātañhi patvā khīṇāsavassa vadho mahāsāvajjo; adinnādānaṃ patvā khīṇāsavasantakassa haraṇaṃ, micchācāraṃ patvā khīṇāsavāya bhikkhuniyā vītikkamanaṃ, musāvādaṃ patvā musāvādena saṅghabhedo, surāpānaṃ patvā kāyacālanasamatthaṃ bahuṃ pivitvā gāmanigamaghātanaṃ mahāsāvajjaṃ. Sabbehipi panetehi musāvādena saṅghabhedanameva mahāsāvajjaṃ. Tañhi kappaṃ niraye pācanasamatthaṃ mahākibbisaṃ.

    ‘ปโยคโต’ติ ปาณาติปาโต สาหตฺถิโกปิ โหติ อาณตฺติโกปิฯ ตถา อทินฺนาทานํฯ มิจฺฉาจารมุสาวาทสุราปานานิ สาหตฺถิกาเนวาติฯ

    ‘Payogato’ti pāṇātipāto sāhatthikopi hoti āṇattikopi. Tathā adinnādānaṃ. Micchācāramusāvādasurāpānāni sāhatthikānevāti.

    เอวเมตฺถ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมาทิวเสน วินิจฺฉยํ ญตฺวา ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีนมฺปิ ธมฺมโต, โกฎฺฐาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโต, กมฺมโต, ขณฺฑโต, สมาทานโต, ปโยคโต จ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพฯ

    Evamettha pāṇātipātādīnaṃ dhammādivasena vinicchayaṃ ñatvā pāṇātipātā veramaṇītiādīnampi dhammato, koṭṭhāsato, ārammaṇato, vedanāto, mūlato, kammato, khaṇḍato, samādānato, payogato ca vinicchayo veditabbo.

    ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ ปริยายสีลวเสน ปฎิปาฎิยา ปญฺจ เจตนาธมฺมาวฯ ‘โกฎฺฐาสโต’ติ ปญฺจปิ กมฺมปถา เอวฯ ‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาตา เวรมณี ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ กตฺวา อตฺตโน เวรเจตนาย วิรมติฯ อิตราสุปิ เอเสว นโยฯ สพฺพาปิ หิ เอตา วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวรเจตนาหิเยว วิรมนฺติฯ ‘เวทนาโต’ติ สพฺพาปิ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วาฯ ‘มูลโต’ติ ญาณสมฺปยุตฺตจิเตฺตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหมูลา โหนฺติ, ญาณวิปฺปยุตฺตจิเตฺตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสมูลา โหนฺติฯ ‘กมฺมโต’ติ มุสาวาทา เวรมณีเยเวตฺถ วจีกมฺมํ; เสสา กายกมฺมํฯ ‘ขณฺฑโต’ติ คหฎฺฐา ยํ ยํ วีติกฺกมนฺติ, ตํ ตเทว ขณฺฑํ โหติ ภิชฺชติ, อวเสสํ น ภิชฺชติฯ กสฺมา? คหฎฺฐา หิ อนิพทฺธสีลา โหนฺติ, ยํ ยํ สโกฺกนฺติ ตํ ตเทว โคเปนฺติฯ สามเณรานํ ปน เอกสฺมิํ วีติกฺกมเนฺต สพฺพานิ ภิชฺชนฺติฯ น เกวลญฺจ เอตานิ, เสสสีลานิปิ ภิชฺชนฺติเยวฯ เตสํ ปน วีติกฺกโม ทณฺฑกมฺมวตฺถุโกฯ ‘ปุน เอวรูปํ น กริสฺสามี’ติ ทณฺฑกเมฺม กเต สีลํ ปริปุณฺณํ โหติฯ ‘สมาทานโต’ติ สยเมว ‘ปญฺจ สีลานิ อธิฎฺฐหามี’ติ อธิฎฺฐหเนฺตนปิ, ปาฎิเยกฺกํ ปาฎิเยกฺกํ สมาทิยเนฺตนปิ สมาทิณฺณานิ โหนฺติฯ อญฺญสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ‘ปญฺจ สีลานิ สมาทิยามี’ติ สมาทิยเนฺตนปิ, ปาฎิเยกฺกํ ปาฎิเยกฺกํ สมาทิยเนฺตนปิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติฯ ‘ปโยคโต’ สพฺพานิปิ สาหตฺถิกปโยคาเนวาติ เวทิตพฺพานิฯ

    Tattha ‘dhammato’ti pariyāyasīlavasena paṭipāṭiyā pañca cetanādhammāva. ‘Koṭṭhāsato’ti pañcapi kammapathā eva. ‘Ārammaṇato’ti pāṇātipātā veramaṇī parassa jīvitindriyaṃ ārammaṇaṃ katvā attano veracetanāya viramati. Itarāsupi eseva nayo. Sabbāpi hi etā vītikkamitabbavatthuṃ ārammaṇaṃ katvā veracetanāhiyeva viramanti. ‘Vedanāto’ti sabbāpi sukhavedanā vā honti majjhattavedanā vā. ‘Mūlato’ti ñāṇasampayuttacittena viramantassa alobhaadosaamohamūlā honti, ñāṇavippayuttacittena viramantassa alobhaadosamūlā honti. ‘Kammato’ti musāvādā veramaṇīyevettha vacīkammaṃ; sesā kāyakammaṃ. ‘Khaṇḍato’ti gahaṭṭhā yaṃ yaṃ vītikkamanti, taṃ tadeva khaṇḍaṃ hoti bhijjati, avasesaṃ na bhijjati. Kasmā? Gahaṭṭhā hi anibaddhasīlā honti, yaṃ yaṃ sakkonti taṃ tadeva gopenti. Sāmaṇerānaṃ pana ekasmiṃ vītikkamante sabbāni bhijjanti. Na kevalañca etāni, sesasīlānipi bhijjantiyeva. Tesaṃ pana vītikkamo daṇḍakammavatthuko. ‘Puna evarūpaṃ na karissāmī’ti daṇḍakamme kate sīlaṃ paripuṇṇaṃ hoti. ‘Samādānato’ti sayameva ‘pañca sīlāni adhiṭṭhahāmī’ti adhiṭṭhahantenapi, pāṭiyekkaṃ pāṭiyekkaṃ samādiyantenapi samādiṇṇāni honti. Aññassa santike nisīditvā ‘pañca sīlāni samādiyāmī’ti samādiyantenapi, pāṭiyekkaṃ pāṭiyekkaṃ samādiyantenapi samādinnāneva honti. ‘Payogato’ sabbānipi sāhatthikapayogānevāti veditabbāni.

    ๗๑๒. อิทานิ ยาสํ สิกฺขานํ โกฎฺฐาสภาเวน อิมานิ ปญฺจ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตานิ ทเสฺสตุํ กตเม ธมฺมา สิกฺขาติ อยํ สิกฺขาวาโร อารโทฺธฯ ตตฺถ ยสฺมา สเพฺพปิ จตุภูมกกุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพภาวโต สิกฺขา, ตสฺมา เต ทเสฺสตุํ ยสฺมิํ สมเย กามาวจรนฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ เหฎฺฐา จิตฺตุปฺปาทกเณฺฑ (ธ. ส. ๑) วุตฺตนเยเนว ปาฬิํ วิตฺถาเรตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อิธ ปน มุขมตฺตเมว ทสฺสิตนฺติฯ

    712. Idāni yāsaṃ sikkhānaṃ koṭṭhāsabhāvena imāni pañca sikkhāpadāni vuttāni, tāni dassetuṃ katame dhammā sikkhāti ayaṃ sikkhāvāro āraddho. Tattha yasmā sabbepi catubhūmakakusalā dhammā sikkhitabbabhāvato sikkhā, tasmā te dassetuṃ yasmiṃ samaye kāmāvacarantiādi vuttaṃ. Tattha heṭṭhā cittuppādakaṇḍe (dha. sa. 1) vuttanayeneva pāḷiṃ vitthāretvā attho veditabbo. Idha pana mukhamattameva dassitanti.

    อภิธมฺมภาชนียวณฺณนาฯ

    Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๑๔. สิกฺขาปทวิภโงฺค • 14. Sikkhāpadavibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๑๔. สิกฺขาปทวิภโงฺค • 14. Sikkhāpadavibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๔. สิกฺขาปทวิภโงฺค • 14. Sikkhāpadavibhaṅgo


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact