Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
อภิมารเปสนํ
Abhimārapesanaṃ
๓๔๐. อถ โข เทวทโตฺต เยน อชาตสตฺตุ กุมาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อชาตสตฺตุํ กุมารํ เอตทโวจ – ‘‘ปุริเส, มหาราช, อาณาเปหิ, เย สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺตี’’ติฯ อถ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร มนุเสฺส อาณาเปสิ – ‘‘ยถา, ภเณ, อโยฺย เทวทโตฺต อาห ตถา กเรยฺยาถา’’ติฯ อถ โข เทวทโตฺต เอกํ ปุริสํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉาวุโส, อมุกสฺมิํ โอกาเส สมโณ โคตโม วิหรติฯ ตํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา อิมินา มเคฺคน อาคจฺฉา’’ติฯ ตสฺมิํ มเคฺค เทฺว ปุริเส ฐเปสิ – ‘‘โย อิมินา มเคฺคน เอโก ปุริโส อาคจฺฉติ, ตํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา อิมินา มเคฺคน อาคจฺฉถา’’ติฯ ตสฺมิํ มเคฺค จตฺตาโร ปุริเส ฐเปสิ – ‘‘เย อิมินา มเคฺคน เทฺว ปุริสา อาคจฺฉนฺติ, เต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อิมินา มเคฺคน อาคจฺฉถา’’ติฯ ตสฺมิํ มเคฺค อฎฺฐ ปุริเส ฐเปสิ – ‘‘เย อิมินา มเคฺคน จตฺตาโร ปุริสา อาคจฺฉนฺติ, เต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อิมินา มเคฺคน อาคจฺฉถา’’ติฯ ตสฺมิํ มเคฺค โสฬส ปุริเส ฐเปสิ – ‘‘เย อิมินา มเคฺคน อฎฺฐ ปุริสา อาคจฺฉนฺติ, เต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อาคจฺฉถา’’ติฯ
340. Atha kho devadatto yena ajātasattu kumāro tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā ajātasattuṃ kumāraṃ etadavoca – ‘‘purise, mahārāja, āṇāpehi, ye samaṇaṃ gotamaṃ jīvitā voropessantī’’ti. Atha kho ajātasattu kumāro manusse āṇāpesi – ‘‘yathā, bhaṇe, ayyo devadatto āha tathā kareyyāthā’’ti. Atha kho devadatto ekaṃ purisaṃ āṇāpesi – ‘‘gacchāvuso, amukasmiṃ okāse samaṇo gotamo viharati. Taṃ jīvitā voropetvā iminā maggena āgacchā’’ti. Tasmiṃ magge dve purise ṭhapesi – ‘‘yo iminā maggena eko puriso āgacchati, taṃ jīvitā voropetvā iminā maggena āgacchathā’’ti. Tasmiṃ magge cattāro purise ṭhapesi – ‘‘ye iminā maggena dve purisā āgacchanti, te jīvitā voropetvā iminā maggena āgacchathā’’ti. Tasmiṃ magge aṭṭha purise ṭhapesi – ‘‘ye iminā maggena cattāro purisā āgacchanti, te jīvitā voropetvā iminā maggena āgacchathā’’ti. Tasmiṃ magge soḷasa purise ṭhapesi – ‘‘ye iminā maggena aṭṭha purisā āgacchanti, te jīvitā voropetvā āgacchathā’’ti.
อถ โข โส เอโก ปุริโส อสิจมฺมํ คเหตฺวา ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต อวิทูเร ภีโต อุพฺพิโคฺค อุสฺสงฺกี อุตฺรโสฺต ปตฺถเทฺธน กาเยน อฎฺฐาสิฯ อทฺทสา โข ภควา ตํ ปุริสํ ภีตํ อุพฺพิคฺคํ อุสฺสงฺกิํ อุตฺรสฺตํ ปตฺถเทฺธน กาเยน ฐิตํฯ ทิสฺวาน ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘‘เอหาวุโส, มา ภายี’’ติฯ อถ โข โส ปุริโส อสิจมฺมํ เอกมนฺตํ กริตฺวา ธนุกลาปํ นิกฺขิปิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภเนฺต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ ทุฎฺฐจิโตฺต วธกจิโตฺต อิธูปสงฺกโนฺตฯ ตสฺส เม, ภเนฺต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฎิคฺคณฺหาตุ อายติํ สํวรายา’’ติฯ ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, อาวุโส, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยํ ตฺวํ ทุฎฺฐจิโตฺต วธกจิโตฺต อิธูปสงฺกโนฺตฯ ยโต จ โข ตฺวํ, อาวุโส , อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฎิคฺคณฺหามฯ วุฑฺฒิ เหสา, อาวุโส, อริยสฺส วินเย – โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรติ, อายติํ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติฯ
Atha kho so eko puriso asicammaṃ gahetvā dhanukalāpaṃ sannayhitvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavato avidūre bhīto ubbiggo ussaṅkī utrasto patthaddhena kāyena aṭṭhāsi. Addasā kho bhagavā taṃ purisaṃ bhītaṃ ubbiggaṃ ussaṅkiṃ utrastaṃ patthaddhena kāyena ṭhitaṃ. Disvāna taṃ purisaṃ etadavoca – ‘‘ehāvuso, mā bhāyī’’ti. Atha kho so puriso asicammaṃ ekamantaṃ karitvā dhanukalāpaṃ nikkhipitvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavato pādesu sirasā nipatitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘accayo maṃ, bhante, accagamā yathābālaṃ yathāmūḷhaṃ yathāakusalaṃ, yohaṃ duṭṭhacitto vadhakacitto idhūpasaṅkanto. Tassa me, bhante, bhagavā accayaṃ accayato paṭiggaṇhātu āyatiṃ saṃvarāyā’’ti. ‘‘Taggha tvaṃ, āvuso, accayo accagamā yathābālaṃ yathāmūḷhaṃ yathāakusalaṃ, yaṃ tvaṃ duṭṭhacitto vadhakacitto idhūpasaṅkanto. Yato ca kho tvaṃ, āvuso , accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikarosi, taṃ te mayaṃ paṭiggaṇhāma. Vuḍḍhi hesā, āvuso, ariyassa vinaye – yo accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikaroti, āyatiṃ saṃvaraṃ āpajjatī’’ti.
อถ โข ภควา ตสฺส ปุริสสฺส อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขเมฺม อานิสํสํ ปกาเสสิฯ ยทา ตํ ภควา อญฺญาสิ กลฺลจิตฺตํ, มุทุจิตฺตํ, วินีวรณจิตฺตํ, อุทคฺคจิตฺตํ, ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํฯ เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฎิคฺคเหยฺย, เอวเมว ตสฺส ปุริสสฺส ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติฯ อถ โข โส ปุริโส ทิฎฺฐธโมฺม ปตฺตธโมฺม วิทิตธโมฺม ปริโยคาฬฺหธโมฺม ติณฺณวิจิกิโจฺฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปโตฺต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต, อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺตฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภเนฺต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ อถ โข ภควา ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘‘มา โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมินา มเคฺคน คจฺฉ, อิมินา มเคฺคน คจฺฉาหี’’ติ อเญฺญน มเคฺคน อุโยฺยเชสิฯ
Atha kho bhagavā tassa purisassa anupubbiṃ kathaṃ kathesi, seyyathidaṃ – dānakathaṃ sīlakathaṃ saggakathaṃ, kāmānaṃ ādīnavaṃ okāraṃ saṃkilesaṃ, nekkhamme ānisaṃsaṃ pakāsesi. Yadā taṃ bhagavā aññāsi kallacittaṃ, muducittaṃ, vinīvaraṇacittaṃ, udaggacittaṃ, pasannacittaṃ, atha yā buddhānaṃ sāmukkaṃsikā dhammadesanā taṃ pakāsesi – dukkhaṃ, samudayaṃ, nirodhaṃ, maggaṃ. Seyyathāpi nāma suddhaṃ vatthaṃ apagatakāḷakaṃ sammadeva rajanaṃ paṭiggaheyya, evameva tassa purisassa tasmiṃyeva āsane virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādi – yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhammanti. Atha kho so puriso diṭṭhadhammo pattadhammo viditadhammo pariyogāḷhadhammo tiṇṇavicikiccho vigatakathaṃkatho vesārajjappatto aparappaccayo satthusāsane bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bhante, abhikkantaṃ, bhante. Seyyathāpi, bhante, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – cakkhumanto rūpāni dakkhantīti – evamevaṃ bhagavatā anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ, bhante, bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāmi, dhammañca, bhikkhusaṅghañca. Upāsakaṃ maṃ bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Atha kho bhagavā taṃ purisaṃ etadavoca – ‘‘mā kho tvaṃ, āvuso, iminā maggena gaccha, iminā maggena gacchāhī’’ti aññena maggena uyyojesi.
อถ โข เต เทฺว ปุริสา – กิํ นุ โข โส เอโก ปุริโส จิเรน อาคจฺฉตีติ – ปฎิปถํ คจฺฉนฺตา อทฺทสํสุ ภควนฺตํ อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เตสํ ภควา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ…เป.… อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต…เป.… อุปาสเก โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คเต’’ติฯ อถ โข ภควา เต ปุริเส เอตทโวจ – ‘‘มา โข ตุเมฺห, อาวุโส, อิมินา มเคฺคน คจฺฉิตฺถ, อิมินา มเคฺคน คจฺฉถา’’ติ อเญฺญน มเคฺคน อุโยฺยเชสิฯ
Atha kho te dve purisā – kiṃ nu kho so eko puriso cirena āgacchatīti – paṭipathaṃ gacchantā addasaṃsu bhagavantaṃ aññatarasmiṃ rukkhamūle nisinnaṃ. Disvāna yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Tesaṃ bhagavā anupubbiṃ kathaṃ kathesi…pe… aparappaccayā satthusāsane bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bhante…pe… upāsake no bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gate’’ti. Atha kho bhagavā te purise etadavoca – ‘‘mā kho tumhe, āvuso, iminā maggena gacchittha, iminā maggena gacchathā’’ti aññena maggena uyyojesi.
อถ โข เต จตฺตาโร ปุริสา…เป.… อถ โข เต อฎฺฐ ปุริสา…เป.… อถ โข เต โสฬส ปุริสา – กิํ นุ โข เต อฎฺฐ ปุริสา จิเรน อาคจฺฉนฺตีติ – ปฎิปถํ คจฺฉนฺตา อทฺทสาสุํ ภควนฺตํ อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เตสํ ภควา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ…เป.… อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต…เป.… อุปาสเก โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คเต’’ติฯ อถ โข ภควา เต ปุริเส เอตทโวจ – ‘‘มา โข ตุเมฺห, อาวุโส, อิมินา มเคฺคน คจฺฉิตฺถ, อิมินา มเคฺคน คจฺฉถา’’ติ อเญฺญน มเคฺคน อุโยฺยเชสิฯ
Atha kho te cattāro purisā…pe… atha kho te aṭṭha purisā…pe… atha kho te soḷasa purisā – kiṃ nu kho te aṭṭha purisā cirena āgacchantīti – paṭipathaṃ gacchantā addasāsuṃ bhagavantaṃ aññatarasmiṃ rukkhamūle nisinnaṃ. Disvāna yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Tesaṃ bhagavā anupubbiṃ kathaṃ kathesi, seyyathidaṃ – dānakathaṃ…pe… aparappaccayā satthusāsane bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bhante…pe… upāsake no bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gate’’ti. Atha kho bhagavā te purise etadavoca – ‘‘mā kho tumhe, āvuso, iminā maggena gacchittha, iminā maggena gacchathā’’ti aññena maggena uyyojesi.
อถ โข โส เอโก ปุริโส เยน เทวทโตฺต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เทวทตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นาหํ, ภเนฺต, สโกฺกมิ ตํ ภควนฺตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ; มหิทฺธิโก โส ภควา, มหานุภาโว’’ติฯ ‘‘อลํ, อาวุโส; มา ตฺวํ สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสิฯ อหเมว สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามี’’ติฯ
Atha kho so eko puriso yena devadatto tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā devadattaṃ etadavoca – ‘‘nāhaṃ, bhante, sakkomi taṃ bhagavantaṃ jīvitā voropetuṃ; mahiddhiko so bhagavā, mahānubhāvo’’ti. ‘‘Alaṃ, āvuso; mā tvaṃ samaṇaṃ gotamaṃ jīvitā voropesi. Ahameva samaṇaṃ gotamaṃ jīvitā voropessāmī’’ti.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ปกาสนียกมฺมาทิกถา • Pakāsanīyakammādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Chasakyapabbajjākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ปกาสนียกมฺมาทิกถา • Pakāsanīyakammādikathā