Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā

    อภิเญฺญยฺยนิเทฺทสวณฺณนา

    Abhiññeyyaniddesavaṇṇanā

    . อิทานิ วิสฺสชฺชนุเทฺทสสงฺคหิเต ธเมฺม ปเภทโต ทเสฺสตุํ กถํ อิเม ธมฺมา อภิเญฺญยฺยาติอาทิ นิเทฺทสวาโร อารโทฺธฯ ตตฺถ อภิเญฺญยฺยนิเทฺทสาทีสุ ปญฺจสุ อาทิโต เอกกาทิวเสน ทส ทส วิสฺสชฺชนานิ ทสุตฺตรปริยาเยน สํสเนฺทตฺวา อุทฺทิฎฺฐานิฯ เตสุ อภิเญฺญยฺยนิเทฺทเส ตาว สเพฺพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ สญฺญาภวาทีสุ เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สเพฺพ สตฺตาฯ อาหารฎฺฐิติกาติ อาหารโต ฐิติ เอเตสนฺติ อาหารฎฺฐิติกาฯ ฐิตีติ เจตฺถ สกกฺขเณ อตฺถิตา อธิเปฺปตาฯ อิติ สพฺพสตฺตานํ ฐิติเหตุ อาหาโร นา เอโก ธโมฺม อธิเกน ญาเณน ชานิตโพฺพฯ ปจฺจเย หิ อภิญฺญาเต ปจฺจยุปฺปนฺนาปิ อภิญฺญาตา โหนฺติ อุภินฺนมฺปิ อญฺญมญฺญาเปกฺขตฺตาฯ เอเตน ญาตปริญฺญา วุตฺตา โหติฯ นนุ จ เอวํ สเนฺต ยํ วุตฺตํ ‘‘อสญฺญสตฺตา เทวา อเหตุกา อนาหารา อผสฺสกา’’ติอาทิ (วิภ. ๑๐๑๗), ตํ วิรุชฺฌตีติฯ ตญฺจ น วิรุชฺฌติฯ เตสญฺหิ ฌานํ อาหาโรติฯ เอวํ สเนฺตปิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ฐิติยา, สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหายฯ กตเม จตฺตาโร? กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก วา สุขุโม วา, ผโสฺส ทุติโย, มโนสเญฺจตนา ตติยา, วิญฺญาณํ จตุตฺถ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) อิทํ วิรุชฺฌตีติฯ อิทมฺปิ น วิรุชฺฌติฯ เอตสฺมิญฺหิ สุเตฺต นิปฺปริยาเยน อาหารลกฺขณาว ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตาฯ อิธ ปน ปริยาเยน ปจฺจโย อาหาโรติ วุโตฺตฯ สพฺพสงฺขตธมฺมานญฺหิ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฎฺฎติ, โส จ ยํ ยํ ผลํ ชเนติ, ตํ ตํ อาหรติ นามฯ ตสฺมา อาหาโรติ วุจฺจติฯ เตเนวาห –

    2. Idāni vissajjanuddesasaṅgahite dhamme pabhedato dassetuṃ kathaṃ ime dhammā abhiññeyyātiādi niddesavāro āraddho. Tattha abhiññeyyaniddesādīsu pañcasu ādito ekakādivasena dasa dasa vissajjanāni dasuttarapariyāyena saṃsandetvā uddiṭṭhāni. Tesu abhiññeyyaniddese tāva sabbe sattāti kāmabhavādīsu saññābhavādīsu ekavokārabhavādīsu ca sabbabhavesu sabbe sattā. Āhāraṭṭhitikāti āhārato ṭhiti etesanti āhāraṭṭhitikā. Ṭhitīti cettha sakakkhaṇe atthitā adhippetā. Iti sabbasattānaṃ ṭhitihetu āhāro nā eko dhammo adhikena ñāṇena jānitabbo. Paccaye hi abhiññāte paccayuppannāpi abhiññātā honti ubhinnampi aññamaññāpekkhattā. Etena ñātapariññā vuttā hoti. Nanu ca evaṃ sante yaṃ vuttaṃ ‘‘asaññasattā devā ahetukā anāhārā aphassakā’’tiādi (vibha. 1017), taṃ virujjhatīti. Tañca na virujjhati. Tesañhi jhānaṃ āhāroti. Evaṃ santepi ‘‘cattārome, bhikkhave, āhārā bhūtānaṃ vā sattānaṃ ṭhitiyā, sambhavesīnaṃ vā anuggahāya. Katame cattāro? Kabaḷīkāro āhāro oḷāriko vā sukhumo vā, phasso dutiyo, manosañcetanā tatiyā, viññāṇaṃ catuttha’’nti (saṃ. ni. 2.11) idaṃ virujjhatīti. Idampi na virujjhati. Etasmiñhi sutte nippariyāyena āhāralakkhaṇāva dhammā āhārāti vuttā. Idha pana pariyāyena paccayo āhāroti vutto. Sabbasaṅkhatadhammānañhi paccayo laddhuṃ vaṭṭati, so ca yaṃ yaṃ phalaṃ janeti, taṃ taṃ āharati nāma. Tasmā āhāroti vuccati. Tenevāha –

    ‘‘อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํฯ โก จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย อาหาโร? ‘ปญฺจ นีวรณา’ติสฺส วจนียํฯ ปญฺจ นีวรเณปาหํ, ภิกฺขเว, สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเรฯ โก จ, ภิกฺขเว, ปญฺจนฺนํ นีวรณานํ อาหาโรฯ ‘อโยนิโส มนสิกาโร’ติสฺส วจนีย’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๖๑)ฯ อยํ อิธ อธิเปฺปโตฯ

    ‘‘Avijjampāhaṃ, bhikkhave, sāhāraṃ vadāmi, no anāhāraṃ. Ko ca, bhikkhave, avijjāya āhāro? ‘Pañca nīvaraṇā’tissa vacanīyaṃ. Pañca nīvaraṇepāhaṃ, bhikkhave, sāhāre vadāmi, no anāhāre. Ko ca, bhikkhave, pañcannaṃ nīvaraṇānaṃ āhāro. ‘Ayoniso manasikāro’tissa vacanīya’’ntiādi (a. ni. 10.61). Ayaṃ idha adhippeto.

    เอตสฺมิญฺหิ ปจฺจยาหาเร คหิเต ปริยายาหาโรปิ นิปฺปริยายาหาโรปิ สโพฺพ คหิโตว โหติฯ

    Etasmiñhi paccayāhāre gahite pariyāyāhāropi nippariyāyāhāropi sabbo gahitova hoti.

    ตตฺถ อสญฺญภเว ปจฺจยาหาโร ลพฺภติฯ อนุปฺปเนฺน หิ พุเทฺธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตฺวา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพเตฺตตฺวา ตโต วุฎฺฐาย ‘‘ธี จิตฺตํ, ธี จิตฺตํ, จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุฯ จิตฺตญฺหิ นิสฺสาย วธพนฺธนาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, จิเตฺต อสติ นเตฺถต’’นฺติ ขนฺติํ รุจิํ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํกตฺวา อสญฺญภเว นิพฺพตฺตนฺติฯ โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา ปญฺจ กปฺปสตานิ ติฎฺฐติฯ เอตฺตกํ อทฺธานํ นิปโนฺน วิย นิสิโนฺน วิย ฐิโต วิย โหติฯ เอวรูปานญฺจ สตฺตานํ ปจฺจยาหาโร ลพฺภติฯ เต หิ ยํ ฌานํ ภาเวตฺวา นิพฺพตฺตา , ตเท เนสํ ปจฺจโย โหติฯ ยถา ชิยาเวเคน ขิตฺตสโร ยาว ชิยาเวโค อตฺถิ, ตาว คจฺฉติ, เอวํ ยาว ฌานปจฺจโย อตฺถิ, ตาว ติฎฺฐนฺติฯ ตสฺมิํ นิฎฺฐิเต ขีณเวโค สโร วิย ปตนฺติฯ

    Tattha asaññabhave paccayāhāro labbhati. Anuppanne hi buddhe titthāyatane pabbajitvā vāyokasiṇe parikammaṃ katvā catutthajjhānaṃ nibbattetvā tato vuṭṭhāya ‘‘dhī cittaṃ, dhī cittaṃ, cittassa nāma abhāvoyeva sādhu. Cittañhi nissāya vadhabandhanādipaccayaṃ dukkhaṃ uppajjati, citte asati nattheta’’nti khantiṃ ruciṃ uppādetvā aparihīnajjhānā kālaṃkatvā asaññabhave nibbattanti. Yo yassa iriyāpatho manussaloke paṇihito ahosi, so tena iriyāpathena nibbattitvā pañca kappasatāni tiṭṭhati. Ettakaṃ addhānaṃ nipanno viya nisinno viya ṭhito viya hoti. Evarūpānañca sattānaṃ paccayāhāro labbhati. Te hi yaṃ jhānaṃ bhāvetvā nibbattā , tade nesaṃ paccayo hoti. Yathā jiyāvegena khittasaro yāva jiyāvego atthi, tāva gacchati, evaṃ yāva jhānapaccayo atthi, tāva tiṭṭhanti. Tasmiṃ niṭṭhite khīṇavego saro viya patanti.

    เย ปน เต เนรยิกา ‘‘เนวุฎฺฐานผลูปชีวิโน น ปุญฺญผลูปชีวิโน’’ติ วุตฺตา, เตสํ โก อาหาโรติ? เตสํ กมฺมเมว อาหาโรติฯ กิํ ปญฺจ อาหารา อตฺถีติ? ‘‘ปญฺจ, น ปญฺจา’’ติ อิทํ น วตฺตพฺพํฯ นนุ ‘‘ปจฺจโย อาหาโร’’ติ วุโตฺต, ตสฺมา เยน กเมฺมน เต นิรเย นิพฺพตฺตา, ตเทว เตสํ ฐิติปจฺจยตฺตา อาหาโรฯ ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๖; ม. นิ. ๓.๒๕๐)ฯ ตสฺมา อาหารฎฺฐิติกาติ ปจฺจยฎฺฐิติกาติ อโตฺถฯ กพฬีการํ อาหารํ อารพฺภาติ เจตฺถ วิวาโท น กาตโพฺพฯ มุเข อุปฺปนฺนเขโฬปิ หิ เตสํ อาหารกิจฺจํ สาเธติฯ เขโฬ หิ นิรเย ทุกฺขเวทนีโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, สเคฺค สุขเวทนีโยฯ อิติ กามภเว นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร อาหารา, รูปารูปภเวสุ ฐเปตฺวา อสญฺญภวํ เสสานํ ตโย , อสญฺญานเญฺจว อวเสสานญฺจ ปจฺจยาหาโรติ อิมินา อาหาเรน สเพฺพ สตฺตา อาหารฎฺฐิติกาฯ

    Ye pana te nerayikā ‘‘nevuṭṭhānaphalūpajīvino na puññaphalūpajīvino’’ti vuttā, tesaṃ ko āhāroti? Tesaṃ kammameva āhāroti. Kiṃ pañca āhārā atthīti? ‘‘Pañca, na pañcā’’ti idaṃ na vattabbaṃ. Nanu ‘‘paccayo āhāro’’ti vutto, tasmā yena kammena te niraye nibbattā, tadeva tesaṃ ṭhitipaccayattā āhāro. Yaṃ sandhāya idaṃ vuttaṃ ‘‘na tāva kālaṃ karoti, yāva na taṃ pāpakammaṃ byantī hotī’’ti (a. ni. 3.36; ma. ni. 3.250). Tasmā āhāraṭṭhitikāti paccayaṭṭhitikāti attho. Kabaḷīkāraṃ āhāraṃ ārabbhāti cettha vivādo na kātabbo. Mukhe uppannakheḷopi hi tesaṃ āhārakiccaṃ sādheti. Kheḷo hi niraye dukkhavedanīyo hutvā paccayo hoti, sagge sukhavedanīyo. Iti kāmabhave nippariyāyena cattāro āhārā, rūpārūpabhavesu ṭhapetvā asaññabhavaṃ sesānaṃ tayo , asaññānañceva avasesānañca paccayāhāroti iminā āhārena sabbe sattā āhāraṭṭhitikā.

    สเพฺพ สตฺตาติ จ ปุคฺคลาธิฎฺฐานา ธมฺมเทสนา, สเพฺพ สงฺขาราติ อธิปฺปาโยฯ ภควโตปิ หิ ธมฺมปุคฺคลานํ วเสน จตุพฺพิธา เทสนา – ธมฺมาธิฎฺฐานา ธมฺมเทสนา, ธมฺมาธิฎฺฐานา ปุคฺคลเทสนา, ปุคฺคลาธิฎฺฐานา ปุคฺคลเทสนา, ปุคฺคลาธิฎฺฐานา ธมฺมเทสนาติฯ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อญฺญํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ภาวิตํ กมฺมนิยํ โหติ, ยถยิทํ จิตฺตํฯ จิตฺตํ, ภิกฺขเว, ภาวิตํ กมฺมนิยํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๒) เอวรูปี ธมฺมาธิฎฺฐานา ธมฺมเทสนาฯ ‘‘อฎฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน ปุคฺคโล กญฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคเจฺฉยฺย, เนตํ ฐานํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๖๘) เอวรูปี ธมฺมาธิฎฺฐานา ปุคฺคลเทสนาฯ ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๑๗๐, ๓๐๙), เอวรูปี ปุคฺคลาธิฎฺฐานา ปุคฺคลเทสนาฯ ‘‘เอกปุคฺคลสฺส ภิกฺขเว, ปาตุภาวา มหโต จกฺขุสฺส ปาตุภาโว โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๕-๑๘๖) เอวรูปี ปุคฺคลาธิฎฺฐานา ธมฺมเทสนาฯ ตาสุ อิธ ปุคฺคลาธิฎฺฐานา ธมฺมเทสนา ฯ อุปริ ยาว ทสกา ธมฺมานํเยว คหิตตฺตา สตฺตคฺคหเณน ธมฺมคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน วา สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนธมฺมานํเยว อธิเกน ญาเณน สภาวโต อุปปริกฺขิตพฺพตฺตา สตฺตคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ, สงฺขาเร อุปาทาย สโตฺตติ ปญฺญตฺติมตฺตสมฺภวโต วา ผโลปจาเรน สงฺขารา ‘‘สตฺตา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํฯ น หิ โกจิ สโตฺต ปจฺจยฎฺฐิติโก อตฺถิ อญฺญตฺร สงฺขาเรหิ, โวหารวเสน ปน เอวํ วุจฺจติฯ เอวเมเตน ญาตปริญฺญา วุตฺตา โหติฯ

    Sabbe sattāti ca puggalādhiṭṭhānā dhammadesanā, sabbe saṅkhārāti adhippāyo. Bhagavatopi hi dhammapuggalānaṃ vasena catubbidhā desanā – dhammādhiṭṭhānā dhammadesanā, dhammādhiṭṭhānā puggaladesanā, puggalādhiṭṭhānā puggaladesanā, puggalādhiṭṭhānā dhammadesanāti. ‘‘Nāhaṃ, bhikkhave, aññaṃ ekadhammampi samanupassāmi, yaṃ evaṃ bhāvitaṃ kammaniyaṃ hoti, yathayidaṃ cittaṃ. Cittaṃ, bhikkhave, bhāvitaṃ kammaniyaṃ hotī’’ti (a. ni. 1.22) evarūpī dhammādhiṭṭhānā dhammadesanā. ‘‘Aṭṭhānametaṃ, bhikkhave, anavakāso yaṃ diṭṭhisampanno puggalo kañci saṅkhāraṃ niccato upagaccheyya, netaṃ ṭhānaṃ vijjatī’’ti (a. ni. 1.268) evarūpī dhammādhiṭṭhānā puggaladesanā. ‘‘Ekapuggalo, bhikkhave, loke uppajjamāno uppajjati bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussāna’’nti (a. ni. 1.170, 309), evarūpī puggalādhiṭṭhānā puggaladesanā. ‘‘Ekapuggalassa bhikkhave, pātubhāvā mahato cakkhussa pātubhāvo hotī’’ti (a. ni. 1.175-186) evarūpī puggalādhiṭṭhānā dhammadesanā. Tāsu idha puggalādhiṭṭhānā dhammadesanā . Upari yāva dasakā dhammānaṃyeva gahitattā sattaggahaṇena dhammaggahaṇaṃ katanti veditabbaṃ, visesena vā sattasantānapariyāpannadhammānaṃyeva adhikena ñāṇena sabhāvato upaparikkhitabbattā sattaggahaṇaṃ katanti veditabbaṃ, saṅkhāre upādāya sattoti paññattimattasambhavato vā phalopacārena saṅkhārā ‘‘sattā’’ti vuttāti veditabbaṃ. Na hi koci satto paccayaṭṭhitiko atthi aññatra saṅkhārehi, vohāravasena pana evaṃ vuccati. Evametena ñātapariññā vuttā hoti.

    เทฺว ธาตุโยติ สงฺขตา จ ธาตุ อสงฺขตา จ ธาตุฯ ตตฺถ อเนเกหิ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตา ปญฺจกฺขนฺธา สงฺขตา ธาตุ, เกหิจิ ปจฺจเยหิ อกตํ นิพฺพานํ อสงฺขตา ธาตุฯ

    Dve dhātuyoti saṅkhatā ca dhātu asaṅkhatā ca dhātu. Tattha anekehi paccayehi saṅgamma katā pañcakkhandhā saṅkhatā dhātu, kehici paccayehi akataṃ nibbānaṃ asaṅkhatā dhātu.

    ติโสฺส ธาตุโยติ กามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ (วิภ. ๑๘๑-๑๘๒)ฯ ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฎฺฐโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว อโนฺตกริตฺวา ยํ เอตสฺมิํ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธา ธาตู อายตนา รูปา เวทนา สญฺญา สงฺขารา วิญฺญาณํฯ อยํ วุจฺจติ กามธาตุ (วิภ. ๑๘๒; ธ. ส. ๑๒๘๗)ฯ ตตฺถ กตมา รูปธาตุ? เหฎฺฐโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิเฎฺฐ เทเว อโนฺตกริตฺวา ยํ เอตสฺมิํ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาฯ อยํ วุจฺจติ รูปธาตุฯ ตตฺถ กตมา อรูปธาตุ? เหฎฺฐโต อากาสานญฺจายตนูปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสญฺญานาสญฺญายตนูปเค เทเว อโนฺตกริตฺวา ยํ เอตสฺมิํ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาฯ อยํ วุจฺจติ อรูปธาตุฯ อฎฺฐกถายํ ปน ‘‘กามธาตูติ กามภโว ปญฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ, รูปธาตูติ รูปภโว ปญฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติฯ อรูปธาตูติ อรูปภโว จตฺตาโร ขนฺธา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ อยํ ทสุตฺตรปริยาเยน โยชนาฯ

    Tisso dhātuyoti kāmadhātu rūpadhātu arūpadhātu (vibha. 181-182). Tattha katamā kāmadhātu? Heṭṭhato avīcinirayaṃ pariyantaṃ karitvā uparito paranimmitavasavattī deve antokaritvā yaṃ etasmiṃ antare etthāvacarā ettha pariyāpannā khandhā dhātū āyatanā rūpā vedanā saññā saṅkhārā viññāṇaṃ. Ayaṃ vuccati kāmadhātu (vibha. 182; dha. sa. 1287). Tattha katamā rūpadhātu? Heṭṭhato brahmalokaṃ pariyantaṃ karitvā uparito akaniṭṭhe deve antokaritvā yaṃ etasmiṃ antare etthāvacarā ettha pariyāpannā samāpannassa vā upapannassa vā diṭṭhadhammasukhavihārissa vā cittacetasikā dhammā. Ayaṃ vuccati rūpadhātu. Tattha katamā arūpadhātu? Heṭṭhato ākāsānañcāyatanūpage deve pariyantaṃ karitvā uparito nevasaññānāsaññāyatanūpage deve antokaritvā yaṃ etasmiṃ antare etthāvacarā ettha pariyāpannā samāpannassa vā upapannassa vā diṭṭhadhammasukhavihārissa vā cittacetasikā dhammā. Ayaṃ vuccati arūpadhātu. Aṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘kāmadhātūti kāmabhavo pañcakkhandhā labbhanti, rūpadhātūti rūpabhavo pañcakkhandhā labbhanti. Arūpadhātūti arūpabhavo cattāro khandhā labbhantī’’ti vuttaṃ. Ayaṃ dasuttarapariyāyena yojanā.

    สงฺคีติปริยาเยน ปน ‘‘ติโสฺส กุสลธาตุโย – เนกฺขมฺมธาตุ อพฺยาปาทธาตุ อวิหิํสาธาตุฯ อปราปิ ติโสฺส ธาตุโย – รูปธาตุ อรูปธาตุ นิโรธธาตุฯ อปราปิ ติโสฺส ธาตุโย – หีนา ธาตุ มชฺฌิมา ธาตุ ปณีตา ธาตู’’ติ (ที. นิ. ๑.๓.๓๐๕) วุตฺตา ธาตุโยปิ เอตฺถ ยุชฺชนฺติ (วิภ. ๑๘๑-๑๘๒)ฯ เนกฺขมฺมปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก…เป.… สมฺมาสงฺกโปฺปฯ อยํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมธาตุฯ สเพฺพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมธาตุฯ อพฺยาปาทปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก…เป.… สมฺมาสงฺกโปฺป อพฺยาปาทธาตุฯ ยา สเตฺตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติฯ อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตุฯ อวิหิํสาปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก…เป.… สมฺมาสงฺกโปฺป อวิหิํสาธาตุฯ ยา สเตฺตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติฯ อยํ วุจฺจติ อวิหิํสาธาตุ (วิภ. ๑๘๒)ฯ รูปารูปธาตุโย วุตฺตาเยวฯ นิโรธธาตุ นิพฺพานํฯ หีนา ธาตุ ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทา, มชฺฌิมา ธาตุ อวเสสา เตภูมกธมฺมาฯ ปณีตา ธาตุ นว โลกุตฺตรธมฺมาฯ สพฺพาปิ จ นิชฺชีวเฎฺฐน ธาตุฯ

    Saṅgītipariyāyena pana ‘‘tisso kusaladhātuyo – nekkhammadhātu abyāpādadhātu avihiṃsādhātu. Aparāpi tisso dhātuyo – rūpadhātu arūpadhātu nirodhadhātu. Aparāpi tisso dhātuyo – hīnā dhātu majjhimā dhātu paṇītā dhātū’’ti (dī. ni. 1.3.305) vuttā dhātuyopi ettha yujjanti (vibha. 181-182). Nekkhammapaṭisaṃyutto takko vitakko…pe… sammāsaṅkappo. Ayaṃ vuccati nekkhammadhātu. Sabbepi kusalā dhammā nekkhammadhātu. Abyāpādapaṭisaṃyutto takko vitakko…pe… sammāsaṅkappo abyāpādadhātu. Yā sattesu metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti. Ayaṃ vuccati abyāpādadhātu. Avihiṃsāpaṭisaṃyutto takko vitakko…pe… sammāsaṅkappo avihiṃsādhātu. Yā sattesu karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti. Ayaṃ vuccati avihiṃsādhātu (vibha. 182). Rūpārūpadhātuyo vuttāyeva. Nirodhadhātu nibbānaṃ. Hīnā dhātu dvādasākusalacittuppādā, majjhimā dhātu avasesā tebhūmakadhammā. Paṇītā dhātu nava lokuttaradhammā. Sabbāpi ca nijjīvaṭṭhena dhātu.

    จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา อริยสจฺจํฯ อิเมสํ วณฺณนา สจฺจวิสฺสชฺชเนสุเยว ภวิสฺสติฯ

    Cattāri ariyasaccānīti dukkhaṃ ariyasaccaṃ, dukkhasamudayaṃ ariyasaccaṃ, dukkhanirodhaṃ ariyasaccaṃ, dukkhanirodhagāminī paṭipadā ariyasaccaṃ. Imesaṃ vaṇṇanā saccavissajjanesuyeva bhavissati.

    ปญฺจ วิมุตฺตายตนานีติ อตฺตโน หิตตฺถาย ปเรหิ ปวตฺติตธมฺมเทสนาสวนํ, ปเรสํ หิตตฺถาย อตฺตโน ยถาสุตธมฺมเทสนา, ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส สชฺฌายกรณํ, ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส เจตสา อนุวิตกฺกนํ, กสิณาสุภาทีสุ อนุกูลํ อารมฺมณนฺติ, อิมานิ ปญฺจ วิมุจฺจนการณานิฯ ยถาห –

    Pañca vimuttāyatanānīti attano hitatthāya parehi pavattitadhammadesanāsavanaṃ, paresaṃ hitatthāya attano yathāsutadhammadesanā, yathāsutassa dhammassa sajjhāyakaraṇaṃ, yathāsutassa dhammassa cetasā anuvitakkanaṃ, kasiṇāsubhādīsu anukūlaṃ ārammaṇanti, imāni pañca vimuccanakāraṇāni. Yathāha –

    ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธเมฺม อตฺถปฎิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฎิสํเวที จ, ตสฺส อตฺถปฎิสํเวทิโน ธมฺมปฎิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, อิทํ ปฐมํ วิมุตฺตายตนํฯ

    ‘‘Idha, bhikkhave, bhikkhuno satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, yathā yathā kho, bhikkhave, bhikkhuno satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, tathā tathā so tasmiṃ dhamme atthapaṭisaṃvedī ca hoti dhammapaṭisaṃvedī ca, tassa atthapaṭisaṃvedino dhammapaṭisaṃvedino pāmojjaṃ jāyati, pamuditassa pīti jāyati, pītimanassa kāyo passambhati, passaddhakāyo sukhaṃ vedeti, sukhino cittaṃ samādhiyati, idaṃ paṭhamaṃ vimuttāyatanaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติฯ ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน…เป.… สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ ทุติยํ วิมุตฺตายตนํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhuno na heva kho satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, api ca kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ deseti. Yathā yathā kho, bhikkhave, bhikkhuno…pe… sukhino cittaṃ samādhiyati. Idaṃ dutiyaṃ vimuttāyatanaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน นเหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติฯ ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน…เป.… สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ ตติยํ วิมุตฺตายตนํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhuno naheva kho satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, nāpi yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ deseti, api ca kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena sajjhāyaṃ karoti. Yathā yathā kho, bhikkhave, bhikkhuno…pe… sukhino cittaṃ samādhiyati. Idaṃ tatiyaṃ vimuttāyatanaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน นเหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตเกฺกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติฯ ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน…เป.… สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ จตุตฺถํ วิมุตฺตายตนํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhuno naheva kho satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, nāpi yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ deseti, nāpi yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena sajjhāyaṃ karoti, api ca kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ cetasā anuvitakketi anuvicāreti manasānupekkhati. Yathā yathā kho, bhikkhave, bhikkhuno…pe… sukhino cittaṃ samādhiyati. Idaṃ catutthaṃ vimuttāyatanaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน นเหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตเกฺกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ, อปิ จ ขฺวสฺส อญฺญตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฎิวิทฺธํ ปญฺญาย, ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อญฺญตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฎิวิทฺธํ ปญฺญาย ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธเมฺม อตฺถปฎิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฎิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฎิสํเวทิโน ธมฺมปฎิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ , ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ ปญฺจมํ วิมุตฺตายตน’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๒๖; ที. นิ. ๓.๓๒๒)ฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhuno naheva kho satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, nāpi yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ deseti, nāpi yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena sajjhāyaṃ karoti, nāpi yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ cetasā anuvitakketi anuvicāreti manasānupekkhati, api ca khvassa aññataraṃ samādhinimittaṃ suggahitaṃ hoti sumanasikataṃ sūpadhāritaṃ suppaṭividdhaṃ paññāya, yathā yathā kho, bhikkhave, bhikkhuno aññataraṃ samādhinimittaṃ suggahitaṃ hoti sumanasikataṃ sūpadhāritaṃ suppaṭividdhaṃ paññāya tathā tathā so tasmiṃ dhamme atthapaṭisaṃvedī ca hoti dhammapaṭisaṃvedī ca. Tassa atthapaṭisaṃvedino dhammapaṭisaṃvedino pāmojjaṃ jāyati , pamuditassa pīti jāyati, pītimanassa kāyo passambhati, passaddhakāyo sukhaṃ vedeti, sukhino cittaṃ samādhiyati. Idaṃ pañcamaṃ vimuttāyatana’’nti (a. ni. 5.26; dī. ni. 3.322).

    ฉ อนุตฺตริยานีติ เอตฺถ นตฺถิ เอเตสํ อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรานิ, อนุตฺตรานิ เอว อนุตฺตริยานิ, เชฎฺฐกานีติ อโตฺถฯ วุตฺตเญฺหตํ ภควตา –

    Cha anuttariyānīti ettha natthi etesaṃ uttaranti anuttarāni, anuttarāni eva anuttariyāni, jeṭṭhakānīti attho. Vuttañhetaṃ bhagavatā –

    ‘‘ฉยิมานิ (อ. นิ. ๖.๘, ๓๐), ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิฯ กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยนฺติฯ

    ‘‘Chayimāni (a. ni. 6.8, 30), bhikkhave, anuttariyāni. Katamāni cha? Dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ, pāricariyānuttariyaṃ, anussatānuttariyanti.

    ‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ หตฺถิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อสฺสรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, มณิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ทสฺสนาย คจฺฉติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ มิจฺฉาปฎิปนฺนํ ทสฺสนาย คจฺฉติฯ อเตฺถตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ, เนตํ นตฺถีติ วทามิฯ ตญฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สโมฺพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Katamañca, bhikkhave, dassanānuttariyaṃ? Idha, bhikkhave, ekacco hatthiratanampi dassanāya gacchati, assaratanampi dassanāya gacchati, maṇiratanampi dassanāya gacchati, uccāvacaṃ vā pana dassanāya gacchati, samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā micchādiṭṭhikaṃ micchāpaṭipannaṃ dassanāya gacchati. Atthetaṃ, bhikkhave, dassanaṃ, netaṃ natthīti vadāmi. Tañca kho etaṃ, bhikkhave, dassanaṃ hīnaṃ gammaṃ pothujjanikaṃ anariyaṃ anatthasaṃhitaṃ na nibbidāya na virāgāya na nirodhāya na upasamāya na abhiññāya na sambodhāya na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā dassanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Etadānuttariyaṃ, bhikkhave, dassanānaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā dassanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, dassanānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ.

    ‘‘สวนานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ เภริสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, วีณาสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, คีตสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สวนาย คจฺฉติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาปฎิปนฺนสฺส ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติฯ อเตฺถตํ, ภิกฺขเว, สวนํ, เนตํ นตฺถีติ วทามิ ฯ ตญฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, สวนํ หีนํ…เป.… น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สวนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป.… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สวนานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Savanānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco bherisaddampi savanāya gacchati, vīṇāsaddampi savanāya gacchati, gītasaddampi savanāya gacchati, uccāvacaṃ vā pana savanāya gacchati, samaṇassa vā brāhmaṇassa vā micchādiṭṭhikassa micchāpaṭipannassa dhammassavanāya gacchati. Atthetaṃ, bhikkhave, savanaṃ, netaṃ natthīti vadāmi . Tañca kho etaṃ, bhikkhave, savanaṃ hīnaṃ…pe… na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgatassa vā tathāgatasāvakassa vā dhammassavanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Etadānuttariyaṃ, bhikkhave, savanānaṃ sattānaṃ visuddhiyā…pe… nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgatassa vā tathāgatasāvakassa vā dhammassavanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, savanānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ.

    ‘‘ลาภานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ปุตฺตลาภมฺปิ ลภติ, ทารลาภมฺปิ ลภติ, ธนลาภมฺปิ ลภติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภมฺปิ ลภติฯ สมเณ วา พฺราหฺมเณ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิเก มิจฺฉาปฎิปเนฺน สทฺธํ ปฎิลภติฯ อเตฺถโส, ภิกฺขเว, ลาโภ, เนโส นตฺถีติ วทามิฯ โส จ โข เอโส, ภิกฺขเว, ลาโภ หีโน…เป.… น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฎิลภติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ลาภานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป.… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฎิลภติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ลาภานุตฺตริยํ ฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Lābhānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco puttalābhampi labhati, dāralābhampi labhati, dhanalābhampi labhati, uccāvacaṃ vā pana lābhampi labhati. Samaṇe vā brāhmaṇe vā micchādiṭṭhike micchāpaṭipanne saddhaṃ paṭilabhati. Attheso, bhikkhave, lābho, neso natthīti vadāmi. So ca kho eso, bhikkhave, lābho hīno…pe… na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgate vā tathāgatasāvake vā saddhaṃ paṭilabhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Etadānuttariyaṃ, bhikkhave, lābhānaṃ sattānaṃ visuddhiyā…pe… nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgate vā tathāgatasāvake vā saddhaṃ paṭilabhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, lābhānuttariyaṃ . Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ.

    ‘‘สิกฺขานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อสฺสสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, รถสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ธนุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ถรุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สิกฺขติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาปฎิปนฺนสฺส สิกฺขติฯ อเตฺถสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา, เนสา นตฺถีติ วทามิฯ สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา หีนา…เป.… น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปญฺญมฺปิ สิกฺขติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว , สิกฺขานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป.… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปญฺญมฺปิ สิกฺขติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สิกฺขานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Sikkhānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco hatthismimpi sikkhati, assasmimpi sikkhati, rathasmimpi sikkhati, dhanusmimpi sikkhati, tharusmimpi sikkhati, uccāvacaṃ vā pana sikkhati, samaṇassa vā brāhmaṇassa vā micchādiṭṭhikassa micchāpaṭipannassa sikkhati. Atthesā, bhikkhave, sikkhā, nesā natthīti vadāmi. Sā ca kho esā, bhikkhave, sikkhā hīnā…pe… na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgatappavedite dhammavinaye adhisīlampi sikkhati, adhicittampi sikkhati, adhipaññampi sikkhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Etadānuttariyaṃ, bhikkhave , sikkhānaṃ sattānaṃ visuddhiyā…pe… nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgatappavedite dhammavinaye adhisīlampi sikkhati, adhicittampi sikkhati, adhipaññampi sikkhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, sikkhānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ.

    ‘‘ปาริจริยานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ขตฺติยมฺปิ ปริจรติ, พฺราหฺมณมฺปิ ปริจรติ, คหปติมฺปิ ปริจรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ปริจรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ มิจฺฉาปฎิปนฺนํ ปริจรติฯ อเตฺถสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา, เนสา นตฺถีติ วทามิฯ สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา หีนา…เป.… น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป.… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Pāricariyānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco khattiyampi paricarati, brāhmaṇampi paricarati, gahapatimpi paricarati, uccāvacaṃ vā pana paricarati, samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā micchādiṭṭhikaṃ micchāpaṭipannaṃ paricarati. Atthesā, bhikkhave, pāricariyā, nesā natthīti vadāmi. Sā ca kho esā, bhikkhave, pāricariyā hīnā…pe… na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā paricarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Etadānuttariyaṃ, bhikkhave, pāricariyānaṃ sattānaṃ visuddhiyā…pe… nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā paricarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, pāricariyānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ, pāricariyānuttariyaṃ.

    ‘‘อนุสฺสตานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ปุตฺตลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ทารลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ธนลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน อนุสฺสรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ มิจฺฉาปฎิปนฺนํ อนุสฺสรติฯ อเตฺถสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ, เนสา นตฺถีติ วทามิฯ สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ หีนา…เป.… น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตีนํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป.… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตานุตฺตริยํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติ (อ. นิ. ๖.๓๐)ฯ

    ‘‘Anussatānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco puttalābhampi anussarati, dāralābhampi anussarati, dhanalābhampi anussarati, uccāvacaṃ vā pana anussarati, samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā micchādiṭṭhikaṃ micchāpaṭipannaṃ anussarati. Atthesā, bhikkhave, anussati, nesā natthīti vadāmi. Sā ca kho esā, bhikkhave, anussati hīnā…pe… na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā anussarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Etadānuttariyaṃ, bhikkhave, anussatīnaṃ sattānaṃ visuddhiyā…pe… nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā anussarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, anussatānuttariyaṃ. Imāni kho, bhikkhave, cha anuttariyānī’’ti (a. ni. 6.30).

    สตฺต นิทฺทสวตฺถูนีติ เอตฺถ นตฺถิ เอตสฺส ทสาติ นิทฺทโสฯ นิทฺทสสฺส นิทฺทสภาวสฺส วตฺถูนิ การณานิ นิทฺทสวตฺถูนิฯ ขีณาสโว หิ ทสวสฺสกาเล ปรินิพฺพุโต ปุน ปฎิสนฺธิยา อภาวา ปุน ทสวโสฺส น โหตีติ นิทฺทโสติ วุจฺจติฯ น เกวลญฺจ ทสวโสฺสว น โหติ, นววโสฺสปิ…เป.… เอกมุหุตฺติโกปิ น โหติเยวฯ น เกวลญฺจ ทสวสฺสกาเล ปรินิพฺพุโต, สตฺตวสฺสิกกาเล ปรินิพฺพุโตปิ นิสฺสโตฺต นิทฺทโส นิมุหุโตฺต โหติเยวฯ ติตฺถิยสมเย อุปฺปนฺนโวหารํ ปน สาสเน ขีณาสวสฺส อาโรเปตฺวา ตตฺถ ตาทิสสฺส อภาวํ, อิธ จ สพฺภาวํ ทเสฺสโนฺต ภควา ตาทิสสภาวสฺส การณานิ ‘‘สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ อาหฯ ยถาห –

    Satta niddasavatthūnīti ettha natthi etassa dasāti niddaso. Niddasassa niddasabhāvassa vatthūni kāraṇāni niddasavatthūni. Khīṇāsavo hi dasavassakāle parinibbuto puna paṭisandhiyā abhāvā puna dasavasso na hotīti niddasoti vuccati. Na kevalañca dasavassova na hoti, navavassopi…pe… ekamuhuttikopi na hotiyeva. Na kevalañca dasavassakāle parinibbuto, sattavassikakāle parinibbutopi nissatto niddaso nimuhutto hotiyeva. Titthiyasamaye uppannavohāraṃ pana sāsane khīṇāsavassa āropetvā tattha tādisassa abhāvaṃ, idha ca sabbhāvaṃ dassento bhagavā tādisasabhāvassa kāraṇāni ‘‘satta niddasavatthūnī’’ti āha. Yathāha –

    ‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, นิทฺทสวตฺถูนิฯ กตมานิ สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโมฯ ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโมฯ อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโมฯ ปฎิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ ปฎิสลฺลาเน อวิคตเปโมฯ วีริยารเมฺภ ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ วีริยารเมฺภ อวิคตเปโม ฯ สติเนปเกฺก ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ สติเนปเกฺก อวิคตเปโมฯ ทิฎฺฐิปฎิเวเธ ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ ทิฎฺฐิปฎิเวเธ อวิคตเปโมฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ (อ. นิ. ๗.๒๐)ฯ

    ‘‘Sattimāni, bhikkhave, niddasavatthūni. Katamāni satta? Idha, bhikkhave, bhikkhu sikkhāsamādāne tibbacchando hoti, āyatiñca sikkhāsamādāne avigatapemo. Dhammanisantiyā tibbacchando hoti, āyatiñca dhammanisantiyā avigatapemo. Icchāvinaye tibbacchando hoti, āyatiñca icchāvinaye avigatapemo. Paṭisallāne tibbacchando hoti, āyatiñca paṭisallāne avigatapemo. Vīriyārambhe tibbacchando hoti, āyatiñca vīriyārambhe avigatapemo . Satinepakke tibbacchando hoti, āyatiñca satinepakke avigatapemo. Diṭṭhipaṭivedhe tibbacchando hoti, āyatiñca diṭṭhipaṭivedhe avigatapemo. Imāni kho, bhikkhave, satta niddasavatthūnī’’ti (a. ni. 7.20).

    เถโรปิ ตเถว เทสนํ อุทฺธริตฺวา ‘‘สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ อาหฯ

    Theropi tatheva desanaṃ uddharitvā ‘‘satta niddasavatthūnī’’ti āha.

    อฎฺฐ อภิภายตนานีติ เอตฺถ อภิภุยฺยมานานิ อายตนานิ เอเตสํ ฌานานนฺติ อภิภายตนานิ, ฌานานิฯ อายตนานีติ อธิฎฺฐานเฎฺฐน อายตนสงฺขาตานิ กสิณารมฺมณานิฯ ญาณุตฺตริโก หิ ปุคฺคโล วิสทญาโณ ‘‘กิํ เอตฺถ อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํฯ น มยฺหํ จิเตฺตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’’ติ, ตานิ อารมฺมณานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพเตฺตตีติ อโตฺถฯ เอวํ อุปฺปาทิตานิ ฌานานิ ‘‘อภิภายตนานี’’ติ วุจฺจนฺติฯ

    Aṭṭha abhibhāyatanānīti ettha abhibhuyyamānāni āyatanāni etesaṃ jhānānanti abhibhāyatanāni, jhānāni. Āyatanānīti adhiṭṭhānaṭṭhena āyatanasaṅkhātāni kasiṇārammaṇāni. Ñāṇuttariko hi puggalo visadañāṇo ‘‘kiṃ ettha ārammaṇe samāpajjitabbaṃ. Na mayhaṃ cittekaggatākaraṇe bhāro atthī’’ti, tāni ārammaṇāni abhibhavitvā samāpajjati, saha nimittuppādenevettha appanaṃ nibbattetīti attho. Evaṃ uppāditāni jhānāni ‘‘abhibhāyatanānī’’ti vuccanti.

    ‘‘กตมานิ (อ. นิ. ๘.๖๕) อฎฺฐ? อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ปฐมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Katamāni (a. ni. 8.65) aṭṭha? Ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ paṭhamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati appamāṇāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ dutiyaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ตติยํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ tatiyaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati appamāṇāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ catutthaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ปญฺจมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati nīlāni nīlavaṇṇāni nīlanidassanāni nīlanibhāsāni. Seyyathāpi nāma umāpupphaṃ nīlaṃ nīlavaṇṇaṃ nīlanidassanaṃ nīlanibhāsaṃ, seyyathāpi vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ nīlaṃ nīlavaṇṇaṃ nīlanidassanaṃ nīlanibhāsaṃ, evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati nīlāni nīlavaṇṇāni nīlanidassanāni nīlanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ pañcamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ฉฎฺฐํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati pītāni pītavaṇṇāni pītanidassanāni pītanibhāsāni. Seyyathāpi nāma kaṇikārapupphaṃ pītaṃ pītavaṇṇaṃ pītanidassanaṃ pītanibhāsaṃ, seyyathāpi vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ pītaṃ pītavaṇṇaṃ pītanidassanaṃ pītanibhāsaṃ, evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati pītāni pītavaṇṇāni pītanidassanāni pītanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ chaṭṭhaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati lohitakāni lohitakavaṇṇāni lohitakanidassanāni lohitakanibhāsāni. Seyyathāpi nāma bandhujīvakapupphaṃ lohitakaṃ lohitakavaṇṇaṃ lohitakanidassanaṃ lohitakanibhāsaṃ, seyyathāpi vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ lohitakaṃ lohitakavaṇṇaṃ lohitakanidassanaṃ lohitakanibhāsaṃ, evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati lohitakāni lohitakavaṇṇāni lohitakanidassanāni lohitakanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ sattamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ อฎฺฐมํ อภิภายตนํฯ อิมานิ อฎฺฐ อภิภายตนานิ (อ. นิ. ๘.๖๕; ที. นิ. ๓.๓๕๘)ฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni. Seyyathāpi nāma osadhitārakā odātā odātavaṇṇā odātanidassanā odātanibhāsā, seyyathāpi vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ odātaṃ odātavaṇṇaṃ odātanidassanaṃ odātanibhāsaṃ, evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ aṭṭhamaṃ abhibhāyatanaṃ. Imāni aṭṭha abhibhāyatanāni (a. ni. 8.65; dī. ni. 3.358).

    นว อนุปุพฺพวิหาราติ ปุพฺพํ ปุพฺพํ อนุ อนุปุพฺพํ, อนุปุพฺพํ วิหริตพฺพโต สมาปชฺชิตพฺพโต วิหารา อนุปุพฺพวิหารา, อนุปฎิปาฎิยา สมาปชฺชิตพฺพวิหาราติ อโตฺถฯ

    Nava anupubbavihārāti pubbaṃ pubbaṃ anu anupubbaṃ, anupubbaṃ viharitabbato samāpajjitabbato vihārā anupubbavihārā, anupaṭipāṭiyā samāpajjitabbavihārāti attho.

    ‘‘กตเม นว? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๙.๓๓; ที. นิ. ๓.๓๔๓, ๓๕๙) วุตฺตา นว อนุปุพฺพวิหาราวฯ

    ‘‘Katame nava? Idha, bhikkhave, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Vitakkavicārānaṃ vūpasamā ajjhattaṃ sampasādanaṃ cetaso ekodibhāvaṃ avitakkaṃ avicāraṃ samādhijaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Pītiyā ca virāgā upekkhako ca viharati sato sampajāno, sukhañca kāyena paṭisaṃvedeti, yaṃ taṃ ariyā ācikkhanti ‘upekkhako satimā sukhavihārī’ti, tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso nevasaññānāsaññāyatanaṃ samatikkamma saññāvedayitanirodhaṃ upasampajja viharatī’’ti (a. ni. 9.33; dī. ni. 3.343, 359) vuttā nava anupubbavihārāva.

    ทส นิชฺชรวตฺถูนีติ มิจฺฉาทิฎฺฐาทีนิ นิชฺชรยนฺติ นาสยนฺตีติ นิชฺชรานิฯ วตฺถูนีติ การณานิฯ นิชฺชรานิ จ ตานิ วตฺถูนิ จาติ นิชฺชรวตฺถูนิฯ สมฺมาทิฎฺฐาทีนํ เอตํ อธิวจนํฯ

    Dasa nijjaravatthūnīti micchādiṭṭhādīni nijjarayanti nāsayantīti nijjarāni. Vatthūnīti kāraṇāni. Nijjarāni ca tāni vatthūni cāti nijjaravatthūni. Sammādiṭṭhādīnaṃ etaṃ adhivacanaṃ.

    ‘‘กตมานิ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๖; ที. นิ. ๓.๓๖๐) ทส? สมฺมาทิฎฺฐิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฎฺฐิ นิชฺชิณฺณา โหติฯ เย จ มิจฺฉาทิฎฺฐิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาทิฎฺฐิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Katamāni (a. ni. 10.106; dī. ni. 3.360) dasa? Sammādiṭṭhikassa, bhikkhave, micchādiṭṭhi nijjiṇṇā hoti. Ye ca micchādiṭṭhipaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammādiṭṭhipaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกโปฺป นิชฺชิโณฺณ โหติฯ เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ , เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāsaṅkappassa, bhikkhave, micchāsaṅkappo nijjiṇṇo hoti. Ye ca micchāsaṅkappapaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti , te cassa nijjiṇṇā honti, sammāsaṅkappapaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิชฺชิณฺณา โหติฯ เย จ มิจฺฉาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาวาจาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāvācassa, bhikkhave, micchāvācā nijjiṇṇā hoti. Ye ca micchāvācāpaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāvācāpaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมโนฺต นิชฺชิโณฺณ โหติฯ เย จ มิจฺฉากมฺมนฺตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมากมฺมนฺตปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammākammantassa, bhikkhave, micchākammanto nijjiṇṇo hoti. Ye ca micchākammantapaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammākammantapaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิชฺชิโณฺณ โหติฯ เย จ มิจฺฉาอาชีวปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาอาชีวปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāājīvassa, bhikkhave, micchāājīvo nijjiṇṇo hoti. Ye ca micchāājīvapaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāājīvapaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม นิชฺชิโณฺณ โหติฯ เย จ มิจฺฉาวายามปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาวายามปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāvāyāmassa, bhikkhave, micchāvāyāmo nijjiṇṇo hoti. Ye ca micchāvāyāmapaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāvāyāmapaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิชฺชิณฺณา โหติฯ เย จ มิจฺฉาสติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาสติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāsatissa, bhikkhave, micchāsati nijjiṇṇā hoti. Ye ca micchāsatipaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāsatipaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิชฺชิโณฺณ โหติฯ เย จ มิจฺฉาสมาธิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาสมาธิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāsamādhissa, bhikkhave, micchāsamādhi nijjiṇṇo hoti. Ye ca micchāsamādhipaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāsamādhipaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาญาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาญาณํ นิชฺชิณฺณํ โหติฯ เย จ มิจฺฉาญาณปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาญาณปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ

    ‘‘Sammāñāṇissa, bhikkhave, micchāñāṇaṃ nijjiṇṇaṃ hoti. Ye ca micchāñāṇapaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāñāṇapaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.

    ‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส , ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิชฺชิณฺณา โหติฯ เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๖; ที. นิ. ๓.๓๖๐) วุตฺตานิ ทส นิชฺชรวตฺถูนิฯ

    ‘‘Sammāvimuttissa , bhikkhave, micchāvimutti nijjiṇṇā hoti. Ye ca micchāvimuttipaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti, te cassa nijjiṇṇā honti, sammāvimuttipaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchantī’’ti (a. ni. 10.106; dī. ni. 3.360) vuttāni dasa nijjaravatthūni.

    . สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิเญฺญยฺยนฺติอาทิ ภควตา วุตฺตํ อิธ อาหริตฺวา ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ กิญฺจ-อิติ -กาโร ปทปูรณมเตฺต นิปาโตฯ จกฺขาทีนิ ติํส วิสฺสชฺชนานิ ฉสุ ทฺวาเรสุ เอเกกสฺมิํ ปญฺจ ปญฺจ กตฺวา ทฺวารารมฺมณปวตฺติกฺกเมน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ตตฺถ ทุวิธํ จกฺขุ – มํสจกฺขุ ปญฺญาจกฺขุ จฯ เตสุ พุทฺธจกฺขุ สมนฺตจกฺขุ ญาณจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ ธมฺมจกฺขูติ ปญฺจวิธํ ปญฺญาจกฺขุฯ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกโนฺต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๓๙; มหาว. ๙) อิทํ พุทฺธจกฺขุ นามฯ ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพญฺญุตญฺญาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๓๒; โมฆราชมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๘๕) อิทํ สมนฺตจกฺขุ นามฯ ‘‘จกฺขุํ อุทปาทิ ญาณํ อุทปาที’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) อิทํ ญาณจกฺขุ นามฯ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิเพฺพน จกฺขุนา วิสุเทฺธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๕) อิทํ ทิพฺพจกฺขุ นามฯ ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕) อิทํ เหฎฺฐิมมคฺคตฺตยสงฺขาตํ ญาณํ ธมฺมจกฺขุ นามฯ

    3.Sabbaṃ, bhikkhave, abhiññeyyantiādi bhagavatā vuttaṃ idha āharitvā dassitanti veditabbaṃ. Kiñca-iti ca-kāro padapūraṇamatte nipāto. Cakkhādīni tiṃsa vissajjanāni chasu dvāresu ekekasmiṃ pañca pañca katvā dvārārammaṇapavattikkamena niddiṭṭhāni. Tattha duvidhaṃ cakkhu – maṃsacakkhu paññācakkhu ca. Tesu buddhacakkhu samantacakkhu ñāṇacakkhu dibbacakkhu dhammacakkhūti pañcavidhaṃ paññācakkhu. ‘‘Addasaṃ kho ahaṃ, bhikkhave, buddhacakkhunā lokaṃ volokento’’ti (ma. ni. 1.283; 2.339; mahāva. 9) idaṃ buddhacakkhu nāma. ‘‘Samantacakkhu vuccati sabbaññutaññāṇa’’nti (cūḷani. dhotakamāṇavapucchāniddesa 32; mogharājamāṇavapucchāniddesa 85) idaṃ samantacakkhu nāma. ‘‘Cakkhuṃ udapādi ñāṇaṃ udapādī’’ti (saṃ. ni. 5.1081; mahāva. 15) idaṃ ñāṇacakkhu nāma. ‘‘Addasaṃ kho ahaṃ, bhikkhave, dibbena cakkhunā visuddhenā’’ti (ma. ni. 1.285) idaṃ dibbacakkhu nāma. ‘‘Virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādī’’ti (ma. ni. 2.395) idaṃ heṭṭhimamaggattayasaṅkhātaṃ ñāṇaṃ dhammacakkhu nāma.

    มํสจกฺขุปิ สสมฺภารจกฺขุ , ปสาทจกฺขูติ ทุวิธํ โหติฯ ยฺวายํ อกฺขิกูปเก ปติฎฺฐิโต เหฎฺฐา อกฺขิกูปกฎฺฐิเกน อุปริ ภมุกฎฺฐิเกน อุภโต อกฺขิกูเฎหิ พหิทฺธา อกฺขิปขุเมหิ ปริจฺฉิโนฺน อกฺขิกูปกมชฺฌา นิกฺขเนฺตน นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุเงฺค อาพโทฺธ เสตกณฺหาติกณฺหมณฺฑลวิจิโตฺต มํสปิโณฺฑ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นามฯ โย ปน เอตฺถ สิโต เอตฺถ ปฎิพโทฺธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นามฯ อิทมิธาธิเปฺปตํฯ ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มเชฺฌ อภิมุเข ฐิตานํ สรีรสณฺฐานุปฺปตฺติเทเส ทิฎฺฐิมณฺฑเล สตฺตสุ ปิจุปฎเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฎลานิ วิย สตฺต อกฺขิปฎลานิ พฺยาเปตฺวา ปมาณโต มุคฺควิทลมตฺตํ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฎฺฐติฯ ตํ จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ วิภาเวติ จาติ อโตฺถฯ รูปยนฺตีติ รูปา, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานา หทยงฺคตภาวํ ปกาเสนฺตีติ อโตฺถฯ จกฺขุโต ปวตฺตํ วิญฺญาณํ, จกฺขุสฺส วา วิญฺญาณํ จกฺขุวิญฺญาณํฯ ผุสตีติ ผโสฺสฯ อุปสเคฺคน ปทํ มเณฺฑตฺวา สมฺผโสฺสติ วุตฺตํฯ จกฺขุโต ปวโตฺต สมฺผโสฺส จกฺขุสมฺผโสฺสฯ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ จกฺขุวิญฺญาณสมฺปยุตฺตผสฺสปจฺจยาฯ เวทยิตนฺติ วินฺทนํ, เวทนาติ อโตฺถฯ ตเทว สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อโตฺถฯ สุฎฺฐุ วา ขาทติ, ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํฯ ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อโตฺถฯ น ทุกฺขํ น สุขนฺติ อทุกฺขมสุขํฯ ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุโตฺตฯ โส ปน จกฺขุสมฺผโสฺส อตฺตนา สมฺปยุตฺตาย เวทนาย สหชาต อญฺญมญฺญนิสฺสย วิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฎฺฐธา ปจฺจโย โหติ, สมฺปฎิจฺฉนสมฺปยุตฺตาย อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตวเสนปญฺจธา, สนฺตีรณาทิสมฺปยุตฺตานํ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติฯ

    Maṃsacakkhupi sasambhāracakkhu , pasādacakkhūti duvidhaṃ hoti. Yvāyaṃ akkhikūpake patiṭṭhito heṭṭhā akkhikūpakaṭṭhikena upari bhamukaṭṭhikena ubhato akkhikūṭehi bahiddhā akkhipakhumehi paricchinno akkhikūpakamajjhā nikkhantena nhārusuttakena matthaluṅge ābaddho setakaṇhātikaṇhamaṇḍalavicitto maṃsapiṇḍo, idaṃ sasambhāracakkhu nāma. Yo pana ettha sito ettha paṭibaddho catunnaṃ mahābhūtānaṃ upādāya pasādo, idaṃ pasādacakkhu nāma. Idamidhādhippetaṃ. Tadetaṃ tassa sasambhāracakkhuno setamaṇḍalaparikkhittassa kaṇhamaṇḍalassa majjhe abhimukhe ṭhitānaṃ sarīrasaṇṭhānuppattidese diṭṭhimaṇḍale sattasu picupaṭalesu āsittatelaṃ picupaṭalāni viya satta akkhipaṭalāni byāpetvā pamāṇato muggavidalamattaṃ cakkhuviññāṇādīnaṃ yathārahaṃ vatthudvārabhāvaṃ sādhayamānaṃ tiṭṭhati. Taṃ cakkhatīti cakkhu, rūpaṃ assādeti vibhāveti cāti attho. Rūpayantīti rūpā, vaṇṇavikāraṃ āpajjamānā hadayaṅgatabhāvaṃ pakāsentīti attho. Cakkhuto pavattaṃ viññāṇaṃ, cakkhussa vā viññāṇaṃ cakkhuviññāṇaṃ. Phusatīti phasso. Upasaggena padaṃ maṇḍetvā samphassoti vuttaṃ. Cakkhuto pavatto samphasso cakkhusamphasso. Cakkhusamphassapaccayāti cakkhuviññāṇasampayuttaphassapaccayā. Vedayitanti vindanaṃ, vedanāti attho. Tadeva sukhayatīti sukhaṃ, yassuppajjati, taṃ sukhitaṃ karotīti attho. Suṭṭhu vā khādati, khanati ca kāyacittābādhanti sukhaṃ. Dukkhayatīti dukkhaṃ, yassuppajjati, taṃ dukkhitaṃ karotīti attho. Na dukkhaṃ na sukhanti adukkhamasukhaṃ. Ma-kāro padasandhivasena vutto. So pana cakkhusamphasso attanā sampayuttāya vedanāya sahajāta aññamaññanissaya vipākaāhārasampayuttaatthiavigatavasena aṭṭhadhā paccayo hoti, sampaṭicchanasampayuttāya anantarasamanantaraanantarūpanissayanatthivigatavasenapañcadhā, santīraṇādisampayuttānaṃ upanissayavaseneva paccayo hoti.

    สุณาตีติ โสตํฯ ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อโนฺต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวธกสณฺฐาเน ปเทเส โสตวิญฺญาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฎฺฐติฯ สปฺปนฺตีติ สทฺทา, อุทาหรียนฺตีติ อโตฺถฯ ฆายตีติ ฆานํฯ ตํ สสมฺภารฆานพิลสฺส อโนฺต อชปทสณฺฐาเน ปเทเส ฆานวิญฺญาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฎฺฐติฯ คนฺธยนฺตีติ คนฺธา, อตฺตโน วตฺถุํ สูเจนฺตีติ อโตฺถฯ ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา, สายนเฎฺฐน วา ชิวฺหาฯ สา สสมฺภารชิวฺหาย อติอคฺคมูลปสฺสานิ วเชฺชตฺวา อุปริมตลมเชฺฌ ภินฺนอุปฺปลทลคฺคสณฺฐาเน ปเทเส ชิวฺหาวิญฺญาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฎฺฐติฯ รสนฺติ เต สตฺตาติ รสา, อสฺสาเทนฺตีติ อโตฺถฯ กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโยฯ อาโยติ อุปฺปตฺติเทโสฯ โส ยาวตา อิมสฺมิํ กาเย อุปาทิณฺณปฺปวตฺติ นาม อตฺถิ, ตตฺถ เยภุเยฺยน กายปสาโท กายวิญฺญาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมาโน ติฎฺฐติฯ ผุสียนฺตีติ โผฎฺฐพฺพาฯ มุนาตีติ มโน, วิชานาตีติ อโตฺถฯ อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมามโนติ สหาวชฺชนํ ภวงฺคํฯ ธมฺมาติ ทฺวาทสปเภทา ธมฺมารมฺมณา ธมฺมาฯ มโนวิญฺญาณนฺติ ชวนมโนวิญฺญาณํฯ มโนสมฺผโสฺสติ ตํสมฺปยุโตฺต ผโสฺสฯ โส สมฺปยุตฺตาย เวทนาย วิปากปจฺจยวเชฺชหิ เสเสหิ สตฺตหิ ปจฺจโย โหติ, อนนฺตราย เตเหว, เสสานํ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติฯ

    Suṇātīti sotaṃ. Taṃ sasambhārasotabilassa anto tanutambalomācite aṅgulivedhakasaṇṭhāne padese sotaviññāṇādīnaṃ yathārahaṃ vatthudvārabhāvaṃ sādhayamānaṃ tiṭṭhati. Sappantīti saddā, udāharīyantīti attho. Ghāyatīti ghānaṃ. Taṃ sasambhāraghānabilassa anto ajapadasaṇṭhāne padese ghānaviññāṇādīnaṃ yathārahaṃ vatthudvārabhāvaṃ sādhayamānaṃ tiṭṭhati. Gandhayantīti gandhā, attano vatthuṃ sūcentīti attho. Jīvitamavhāyatīti jivhā, sāyanaṭṭhena vā jivhā. Sā sasambhārajivhāya atiaggamūlapassāni vajjetvā uparimatalamajjhe bhinnauppaladalaggasaṇṭhāne padese jivhāviññāṇādīnaṃ yathārahaṃ vatthudvārabhāvaṃ sādhayamānā tiṭṭhati. Rasanti te sattāti rasā, assādentīti attho. Kucchitānaṃ sāsavadhammānaṃ āyoti kāyo. Āyoti uppattideso. So yāvatā imasmiṃ kāye upādiṇṇappavatti nāma atthi, tattha yebhuyyena kāyapasādo kāyaviññāṇādīnaṃ yathārahaṃ vatthudvārabhāvaṃ sādhayamāno tiṭṭhati. Phusīyantīti phoṭṭhabbā. Munātīti mano, vijānātīti attho. Attano lakkhaṇaṃ dhārentīti dhammā. Manoti sahāvajjanaṃ bhavaṅgaṃ. Dhammāti dvādasapabhedā dhammārammaṇā dhammā. Manoviññāṇanti javanamanoviññāṇaṃ. Manosamphassoti taṃsampayutto phasso. So sampayuttāya vedanāya vipākapaccayavajjehi sesehi sattahi paccayo hoti, anantarāya teheva, sesānaṃ upanissayavaseneva paccayo hoti.

    รูปาทีนิ ปญฺจ วิสฺสชฺชนานิ ขนฺธวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ สีตาทีหิ รุปฺปติ ปีฬียตีติ รูปํฯ เวทยตีติ เวทนาฯ สญฺชานาตีติ สญฺญาฯ สงฺขโรนฺตีติ สงฺขาราวิชานาตีติ วิญฺญาณํฯ จกฺขาทีนิ ธมฺมวิจารปริยนฺตานิ ทส ฉกฺกวเสน, สฎฺฐิ วิสฺสชฺชนานิ ปิยรูปสาตรูปวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา เวทนา ตํตํสมฺปยุตฺตาวฯ รูเปสุ สญฺญา รูปสญฺญาฯ สเญฺจตยตีติ สเญฺจตนา, อภิสนฺทหตีติ อโตฺถฯ ตสตีติ ตณฺหา, ปิปาสตีติ อโตฺถฯ วิตเกฺกตีติ วิตโกฺก, วิตกฺกนํ วา วิตโกฺก, อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติฯ อารมฺมเณ เตน จิตฺตํ วิจรตีติ วิจาโร, วิจรณํ วา วิจาโร, อนุสญฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติฯ

    Rūpādīni pañca vissajjanāni khandhavasena niddiṭṭhāni. Sītādīhi ruppati pīḷīyatīti rūpaṃ. Vedayatīti vedanā. Sañjānātīti saññā. Saṅkharontīti saṅkhārā. Vijānātīti viññāṇaṃ. Cakkhādīni dhammavicārapariyantāni dasa chakkavasena, saṭṭhi vissajjanāni piyarūpasātarūpavasena niddiṭṭhāni. Cakkhusamphassajādikā vedanā taṃtaṃsampayuttāva. Rūpesu saññā rūpasaññā. Sañcetayatīti sañcetanā, abhisandahatīti attho. Tasatīti taṇhā, pipāsatīti attho. Vitakketīti vitakko, vitakkanaṃ vā vitakko, ūhananti vuttaṃ hoti. Ārammaṇe tena cittaṃ vicaratīti vicāro, vicaraṇaṃ vā vicāro, anusañcaraṇanti vuttaṃ hoti.

    . ปถวีธาตาทีนิ ฉ วิสฺสชฺชนานิ สํขิเตฺตน นามรูปววตฺถานวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ปตฺถฎตฺตา ปถวีฯ อเปฺปติ, อาปียติ, อปฺปายตีติ วา อาโปฯ เตชยตีติ เตโชฯ วายตีติ วาโยฯ น กสฺสติ น นิกสฺสติ, กสิตุํ ฉินฺทิตุํ ภินฺทิตุํ วา น สกฺกาติ อากาโสฯ นิสฺสตฺตเฎฺฐน ธาตุ

    4.Pathavīdhātādīni cha vissajjanāni saṃkhittena nāmarūpavavatthānavasena niddiṭṭhāni. Patthaṭattā pathavī. Appeti, āpīyati, appāyatīti vā āpo. Tejayatīti tejo. Vāyatīti vāyo. Na kassati na nikassati, kasituṃ chindituṃ bhindituṃ vā na sakkāti ākāso. Nissattaṭṭhena dhātu.

    ปถวีกสิณาทีนิ ทส วิสฺสชฺชนานิ กสิณภาวนาวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ กสิณนฺติ สกลผรณวเสน กสิณมณฺฑลมฺปิ ตสฺมิํ อุปฎฺฐิตนิมิตฺตมฺปิ ตทารมฺมณํ ฌานมฺปิ วุจฺจติฯ อิธ ปน ฌานํ อธิเปฺปตํฯ อาทิมฺหิ จตฺตาริ มหาภูตกสิณารมฺมณานิ ฌานานิ, ตโต ปรานิ จตฺตาริ วณฺณกสิณารมฺมณานิฯ อากาสกสิณนฺติ ปริเจฺฉทากาโส, ตทารมฺมณญฺจ ฌานํ, กสิณุคฺฆาฎิมากาโส, ตทารมฺมณญฺจ อากาสานญฺจายตนํฯ วิญฺญาณกสิณนฺติ อากาสานญฺจายตนวิญฺญาณํ, ตทารมฺมณญฺจ วิญฺญาณญฺจายตนํฯ

    Pathavīkasiṇādīni dasa vissajjanāni kasiṇabhāvanāvasena niddiṭṭhāni. Kasiṇanti sakalapharaṇavasena kasiṇamaṇḍalampi tasmiṃ upaṭṭhitanimittampi tadārammaṇaṃ jhānampi vuccati. Idha pana jhānaṃ adhippetaṃ. Ādimhi cattāri mahābhūtakasiṇārammaṇāni jhānāni, tato parāni cattāri vaṇṇakasiṇārammaṇāni. Ākāsakasiṇanti paricchedākāso, tadārammaṇañca jhānaṃ, kasiṇugghāṭimākāso, tadārammaṇañca ākāsānañcāyatanaṃ. Viññāṇakasiṇanti ākāsānañcāyatanaviññāṇaṃ, tadārammaṇañca viññāṇañcāyatanaṃ.

    เกสาทีนิ ทฺวตฺติํส วิสฺสชฺชนานิ ทฺวตฺติํสาการกมฺมฎฺฐานวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ เตสุ ปน เกสาทีสุ ปฎิกูลโต อุปฎฺฐิเตสุ กายคตาสติวเสน อสุภกมฺมฎฺฐานํ โหติ, วณฺณโต อุปฎฺฐิเตสุ กสิณกมฺมฎฺฐานํ โหติ, ธาตุโต อุปฎฺฐิเตสุ จตุธาตุววตฺถานกมฺมฎฺฐานํ โหติ, เกสาติอาทีนิ จ ปฎิกูลโต วณฺณโต วา อุปฎฺฐิตานํ ตทารมฺมณานิ ฌานานิ, ธาตุโต อุปฎฺฐิตสฺส เต จ โกฎฺฐาสา ตทารมฺมณา จ ธาตุภาวนา เวทิตพฺพาฯ

    Kesādīni dvattiṃsa vissajjanāni dvattiṃsākārakammaṭṭhānavasena niddiṭṭhāni. Tesu pana kesādīsu paṭikūlato upaṭṭhitesu kāyagatāsativasena asubhakammaṭṭhānaṃ hoti, vaṇṇato upaṭṭhitesu kasiṇakammaṭṭhānaṃ hoti, dhātuto upaṭṭhitesu catudhātuvavatthānakammaṭṭhānaṃ hoti, kesātiādīni ca paṭikūlato vaṇṇato vā upaṭṭhitānaṃ tadārammaṇāni jhānāni, dhātuto upaṭṭhitassa te ca koṭṭhāsā tadārammaṇā ca dhātubhāvanā veditabbā.

    เกสา อุโภสุ ปเสฺสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปุรโต นลาฎเนฺตน, ปจฺฉโต จ คลวาฎเกน ปริจฺฉินฺนา สีสกฎาหเวฐนจเมฺม วีหคฺคมตฺตํ ปวิสิตฺวา ฐิตา อเนกสตสหสฺสสงฺขาฯ

    Kesā ubhosu passesu kaṇṇacūḷikāhi purato nalāṭantena, pacchato ca galavāṭakena paricchinnā sīsakaṭāhaveṭhanacamme vīhaggamattaṃ pavisitvā ṭhitā anekasatasahassasaṅkhā.

    โลมา ฐเปตฺวา เกสาทีนํ ปติฎฺฐิโตกาสํ หตฺถตลปาทตลานิ จ เยภุเยฺยน สรีรจเมฺม นวนวุติยา โลมกูปสหเสฺสสุ ลิกฺขามตฺตํ ปวิสิตฺวา ฐิตาฯ

    Lomā ṭhapetvā kesādīnaṃ patiṭṭhitokāsaṃ hatthatalapādatalāni ca yebhuyyena sarīracamme navanavutiyā lomakūpasahassesu likkhāmattaṃ pavisitvā ṭhitā.

    นขา องฺคุลีนํ อคฺคปิเฎฺฐสุ ฐิตา วีสติฯ

    Nakhā aṅgulīnaṃ aggapiṭṭhesu ṭhitā vīsati.

    ทนฺตา ทฺวีสุ หณุกฎฺฐิเกสุ ฐิตา เยภุเยฺยน ทฺวตฺติํสฯ

    Dantā dvīsu haṇukaṭṭhikesu ṭhitā yebhuyyena dvattiṃsa.

    ตโจ สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ปากฎกิโลมกสฺส อุปริ ฉวิยา เหฎฺฐา ฐิตํ จมฺมํฯ

    Taco sakalasarīraṃ pariyonandhitvā pākaṭakilomakassa upari chaviyā heṭṭhā ṭhitaṃ cammaṃ.

    มํสํ สาธิกานิ ตีณิ อฎฺฐิสตานิ อนุลิมฺปิตฺวา ฐิตานิ นวมํสเปสิสตานิฯ

    Maṃsaṃ sādhikāni tīṇi aṭṭhisatāni anulimpitvā ṭhitāni navamaṃsapesisatāni.

    นฺหารู สกลสรีเร อฎฺฐีนิ อาพนฺธิตฺวา ฐิตานิ นว นฺหารุสตานิฯ

    Nhārū sakalasarīre aṭṭhīni ābandhitvā ṭhitāni nava nhārusatāni.

    อฎฺฐี สกลสรีเร เหฎฺฐา อฎฺฐีนํ อุปริ ฐิตานิ สาธิกานิ ตีณิ อฎฺฐิสตานิฯ

    Aṭṭhī sakalasarīre heṭṭhā aṭṭhīnaṃ upari ṭhitāni sādhikāni tīṇi aṭṭhisatāni.

    อฎฺฐิมิญฺชา เตสํ เตสํ อฎฺฐีนํ อพฺภนฺตเร ฐิตา มิญฺชาฯ

    Aṭṭhimiñjā tesaṃ tesaṃ aṭṭhīnaṃ abbhantare ṭhitā miñjā.

    วกฺกํ คลวาฎกา นิกฺขเนฺตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ภิเนฺนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธา หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ฐิตา เทฺว มํสปิณฺฑิกาฯ

    Vakkaṃ galavāṭakā nikkhantena ekamūlena thokaṃ gantvā dvidhā bhinnena thūlanhārunā vinibaddhā hutvā hadayamaṃsaṃ parikkhipitvā ṭhitā dve maṃsapiṇḍikā.

    หทยํ สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ มเชฺฌ ฐิตํ อโนฺต จิตฺตสนฺนิสฺสยํ อฑฺฒปสตมตฺตโลหิตปุณฺณํ ปุนฺนาคฎฺฐิปติฎฺฐานมตฺตาวาฎกํ หทยมํสํฯ

    Hadayaṃ sarīrabbhantare dvinnaṃ thanānaṃ majjhe ṭhitaṃ anto cittasannissayaṃ aḍḍhapasatamattalohitapuṇṇaṃ punnāgaṭṭhipatiṭṭhānamattāvāṭakaṃ hadayamaṃsaṃ.

    ยกนํ ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ฐิตํ ยมกมํสปฎลํฯ

    Yakanaṃ dvinnaṃ thanānaṃ abbhantare dakkhiṇapassaṃ nissāya ṭhitaṃ yamakamaṃsapaṭalaṃ.

    กิโลมกํ หทยวกฺกานิ ปฎิจฺฉาเทตฺวา ฐิตํ ปฎิจฺฉนฺนกิโลมกสงฺขาตญฺจ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฎฺฐโต มํสํ ปริโยนนฺธิตฺวา ฐิตํ อปฺปฎิจฺฉนฺนกิโลมกสงฺขาตญฺจาติ ทุวิธํ ปริโยนหนมํสํฯ

    Kilomakaṃ hadayavakkāni paṭicchādetvā ṭhitaṃ paṭicchannakilomakasaṅkhātañca sakalasarīre cammassa heṭṭhato maṃsaṃ pariyonandhitvā ṭhitaṃ appaṭicchannakilomakasaṅkhātañcāti duvidhaṃ pariyonahanamaṃsaṃ.

    ปิหกํ หทยสฺส วามปเสฺส อุทรปฎลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ฐิตํ อุทรชิวฺหามํสํฯ

    Pihakaṃ hadayassa vāmapasse udarapaṭalassa matthakapassaṃ nissāya ṭhitaṃ udarajivhāmaṃsaṃ.

    ปปฺผาสํ สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อนฺตเร หทยยกนานํ อุปริ ฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ฐิตํ ทฺวตฺติํสมํสขณฺฑปฺปเภทํ ปปฺผาสมํสํฯ

    Papphāsaṃ sarīrabbhantare dvinnaṃ thanānaṃ antare hadayayakanānaṃ upari chādetvā olambantaṃ ṭhitaṃ dvattiṃsamaṃsakhaṇḍappabhedaṃ papphāsamaṃsaṃ.

    อนฺตํ อุปริ คลวาฎเก เหฎฺฐา กรีสมเคฺค วินิพนฺธตฺตา คลวาฎกกรีสมคฺคปริยเนฺต สรีรพฺภนฺตเร ฐิตา ปุริสสฺส ทฺวตฺติํสหตฺถา อิตฺถิยา อฎฺฐวีสติหตฺถา เอกวีสติยา ฐาเนสุ โอภคฺคา อนฺตวฎฺฎิฯ

    Antaṃ upari galavāṭake heṭṭhā karīsamagge vinibandhattā galavāṭakakarīsamaggapariyante sarīrabbhantare ṭhitā purisassa dvattiṃsahatthā itthiyā aṭṭhavīsatihatthā ekavīsatiyā ṭhānesu obhaggā antavaṭṭi.

    อนฺตคุณํ อนฺตโภเค เอกโต อคลเนฺต อาพนฺธิตฺวา เอกวีสติยา อนฺตโภคานํ อนฺตรา ฐิตํ พนฺธนํฯ

    Antaguṇaṃ antabhoge ekato agalante ābandhitvā ekavīsatiyā antabhogānaṃ antarā ṭhitaṃ bandhanaṃ.

    อุทริยํ ทนฺตมุสลสญฺจุณฺณิตํ ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตํ เขฬลาลาปลิพุทฺธํ ตํขณวิคตวณฺณคนฺธรสาทิสมฺปทํ ตนฺตวายขลิสุวานวมถุสทิสํ นิปติตฺวา ปิตฺตเสมฺหวาตปลิเวฐิตํ หุตฺวา อุทรคฺคิสนฺตาปเวคกุถิตํ กิมิกุลากุลํ อุปรูปริ เผณพุพฺพุฬกานิ มุญฺจนฺตํ ปรมกสมฺพุกทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวํ อาปชฺชิตฺวา อามาสยสงฺขาเต อุปรินาภิอนฺตปฎเล ฐิตํ นานปฺปการกํ อสิตปีตขายิตสายิตํฯ

    Udariyaṃ dantamusalasañcuṇṇitaṃ jivhāhatthaparivattitaṃ kheḷalālāpalibuddhaṃ taṃkhaṇavigatavaṇṇagandharasādisampadaṃ tantavāyakhalisuvānavamathusadisaṃ nipatitvā pittasemhavātapaliveṭhitaṃ hutvā udaraggisantāpavegakuthitaṃ kimikulākulaṃ uparūpari pheṇabubbuḷakāni muñcantaṃ paramakasambukaduggandhajegucchabhāvaṃ āpajjitvā āmāsayasaṅkhāte uparinābhiantapaṭale ṭhitaṃ nānappakārakaṃ asitapītakhāyitasāyitaṃ.

    กรีสํ ปกฺกาสยสงฺขาเต เหฎฺฐา นาภิปิฎฺฐิกณฺฎกมูลานํ อนฺตเร อุเพฺพเธน อฎฺฐงฺคุลมเตฺต อนฺตาวสาเน ฐิตํ วจฺจํฯ

    Karīsaṃ pakkāsayasaṅkhāte heṭṭhā nābhipiṭṭhikaṇṭakamūlānaṃ antare ubbedhena aṭṭhaṅgulamatte antāvasāne ṭhitaṃ vaccaṃ.

    ปิตฺตํ หทยมํสปปฺผาสานํ อนฺตเร ยกนมํสํ นิสฺสาย ฐิตํ มหาโกสาตกีโกสกสทิเส ปิตฺตโกสเก ฐิตํ พทฺธปิตฺตสงฺขาตญฺจ, เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฎฺฐานเญฺจว ถทฺธสุกฺขจมฺมญฺจ ฐเปตฺวา อวเสสํ สรีรํ พฺยาเปตฺวา ฐิตํ อพทฺธปิตฺตสงฺขาตญฺจาติ ทุวิธํ ปิตฺตํฯ

    Pittaṃ hadayamaṃsapapphāsānaṃ antare yakanamaṃsaṃ nissāya ṭhitaṃ mahākosātakīkosakasadise pittakosake ṭhitaṃ baddhapittasaṅkhātañca, kesalomanakhadantānaṃ maṃsavinimuttaṭṭhānañceva thaddhasukkhacammañca ṭhapetvā avasesaṃ sarīraṃ byāpetvā ṭhitaṃ abaddhapittasaṅkhātañcāti duvidhaṃ pittaṃ.

    เสมฺหํ อุทรปฎเล ฐิตํ เอกปตฺถปูรปฺปมาณํ เสมฺหํฯ

    Semhaṃ udarapaṭale ṭhitaṃ ekapatthapūrappamāṇaṃ semhaṃ.

    ปุโพฺพ ขาณุกณฺฎกปหรณคฺคิชาลาทีหิ อภิหเต วา สรีรปฺปเทเส อพฺภนฺตรธาตุโกฺขภวเสน วา อุปฺปเนฺนสุ คณฺฑปีฬกาทีสุ ปริปกฺกโลหิตปริณาโมฯ โลหิตํ ยกนสฺส เหฎฺฐาภาคํ ปูเรตฺวา หทยวกฺกปปฺผาสานํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรนฺตํ วกฺกหทยยกนปปฺผาเส เตมยมานํ ฐิตํ เอกปตฺถปูรมตฺตํ สนฺนิจิตโลหิตสงฺขาตญฺจ, เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฎฺฐานเญฺจว ถทฺธสุกฺขจมฺมญฺจ ฐเปตฺวา ธมนิชาลานุสาเรน สพฺพํ อุปาทิณฺณสรีรํ ผริตฺวา ฐิตํ สํสรณโลหิตสงฺขาตญฺจาติ ทุวิธํ โลหิตํฯ

    Pubbo khāṇukaṇṭakapaharaṇaggijālādīhi abhihate vā sarīrappadese abbhantaradhātukkhobhavasena vā uppannesu gaṇḍapīḷakādīsu paripakkalohitapariṇāmo. Lohitaṃ yakanassa heṭṭhābhāgaṃ pūretvā hadayavakkapapphāsānaṃ upari thokaṃ thokaṃ paggharantaṃ vakkahadayayakanapapphāse temayamānaṃ ṭhitaṃ ekapatthapūramattaṃ sannicitalohitasaṅkhātañca, kesalomanakhadantānaṃ maṃsavinimuttaṭṭhānañceva thaddhasukkhacammañca ṭhapetvā dhamanijālānusārena sabbaṃ upādiṇṇasarīraṃ pharitvā ṭhitaṃ saṃsaraṇalohitasaṅkhātañcāti duvidhaṃ lohitaṃ.

    เสโท อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิการาทีหิ สนฺตเตฺต สรีเร สพฺพเกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรณกอาโปธาตุฯ

    Sedo aggisantāpasūriyasantāpautuvikārādīhi santatte sarīre sabbakesalomakūpavivarehi paggharaṇakaāpodhātu.

    เมโท ถูลสฺส สกลสรีเร จมฺมมํสนฺตเร กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ นิสฺสาย ฐิโต ถินสิเนโหฯ

    Medo thūlassa sakalasarīre cammamaṃsantare kisassa jaṅghamaṃsādīni nissāya ṭhito thinasineho.

    อสฺสุ โสมนสฺสโทมนสฺสวิสภาคาหารอุตูหิ สมุฎฺฐหิตฺวา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฎฺฐนฺตี วา ปคฺฆรนฺตี วา อาโปธาตุฯ

    Assu somanassadomanassavisabhāgāhārautūhi samuṭṭhahitvā akkhikūpake pūretvā tiṭṭhantī vā paggharantī vā āpodhātu.

    วสา อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิสภาเคหิ อุสฺมาชาเตสุ เยภุเยฺยน หตฺถตลหตฺถปิฎฺฐิปาทตลปาทปิฎฺฐินาสาปุฎนลาฎอํสกูเฎสุ ฐิโต วิลีนสิเนโหฯ

    Vasā aggisantāpasūriyasantāpautuvisabhāgehi usmājātesu yebhuyyena hatthatalahatthapiṭṭhipādatalapādapiṭṭhināsāpuṭanalāṭaaṃsakūṭesu ṭhito vilīnasineho.

    เขโฬ ตถารูปํ อาหารํ ปสฺสนฺตสฺส วา สรนฺตสฺส วา มุเข วา ฐเปนฺตสฺส หทยํ วา อากิลายนฺตสฺส กิสฺมิญฺจิเทว วา ชิคุจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ภิโยฺย อุปฺปชฺชิตฺวา อุโภหิ กโปลปเสฺสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย ติฎฺฐมานา เผณมิสฺสา อาโปธาตุฯ

    Kheḷo tathārūpaṃ āhāraṃ passantassa vā sarantassa vā mukhe vā ṭhapentassa hadayaṃ vā ākilāyantassa kismiñcideva vā jigucchaṃ uppādentassa bhiyyo uppajjitvā ubhohi kapolapassehi oruyha jivhāya tiṭṭhamānā pheṇamissā āpodhātu.

    สิงฺฆาณิกา วิสภาคาหารอุตุวเสน สญฺชาตธาตุโกฺขภสฺส วา โรทนฺตสฺส วา อโนฺตสีเส มตฺถลุงฺคโต คลิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฎ ปูเรตฺวา ติฎฺฐนฺตํ วา ปคฺฆรนฺตํ วา ปูติ อสุจิ ปิจฺฉิลํฯ

    Siṅghāṇikā visabhāgāhārautuvasena sañjātadhātukkhobhassa vā rodantassa vā antosīse matthaluṅgato galitvā tālumatthakavivarena otaritvā nāsāpuṭe pūretvā tiṭṭhantaṃ vā paggharantaṃ vā pūti asuci picchilaṃ.

    ลสิกา อฎฺฐิสนฺธีนํ อพฺภญฺชนกิจฺจํ สาธยมานํ อสีติสตสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ฐิตํ ปิจฺฉิลกุณปํฯ

    Lasikā aṭṭhisandhīnaṃ abbhañjanakiccaṃ sādhayamānaṃ asītisatasandhīnaṃ abbhantare ṭhitaṃ picchilakuṇapaṃ.

    มุตฺตํ อาหารอุตุวเสน วตฺถิปุฎพฺภนฺตเร ฐิตา อาโปธาตุฯ

    Muttaṃ āhārautuvasena vatthipuṭabbhantare ṭhitā āpodhātu.

    มตฺถลุงฺคํ สีสกฎาหพฺภนฺตเร จตฺตาโร สิพฺพินิมเคฺค นิสฺสาย ฐิโต จตุปิณฺฑสโมธาโน มิญฺชราสิฯ

    Matthaluṅgaṃ sīsakaṭāhabbhantare cattāro sibbinimagge nissāya ṭhito catupiṇḍasamodhāno miñjarāsi.

    จกฺขายตนาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ทฺวาทสายตนวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ อายตนโต, อายานํ ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนํฯ จกฺขุรูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทินา กิเจฺจน อายตนฺติ อุฎฺฐหนฺติ ฆฎนฺติ, วายมนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ เต จ ปน อายภูเต ธเมฺม เอตานิ ตโนนฺติ, วิตฺถาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ อิทญฺจ อนมตเคฺค สํสาเร ปวตฺตํ อตีว อายตํ สํสารทุกฺขํ ยาว น นิวตฺตติ, ตาว นยนฺติ, ปวตฺตยนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ

    Cakkhāyatanādīni dvādasa vissajjanāni dvādasāyatanavasena niddiṭṭhāni. Āyatanato, āyānaṃ tananato, āyatassa ca nayanato āyatanaṃ. Cakkhurūpādīsu hi taṃtaṃdvārārammaṇā cittacetasikā dhammā sena sena anubhavanādinā kiccena āyatanti uṭṭhahanti ghaṭanti, vāyamantīti vuttaṃ hoti. Te ca pana āyabhūte dhamme etāni tanonti, vitthārentīti vuttaṃ hoti. Idañca anamatagge saṃsāre pavattaṃ atīva āyataṃ saṃsāradukkhaṃ yāva na nivattati, tāva nayanti, pavattayantīti vuttaṃ hoti.

    อปิจ นิวาสฎฺฐานเฎฺฐน อากรเฎฺฐน สโมสรณฎฺฐานเฎฺฐน สญฺชาติเทสเฎฺฐน การณเฎฺฐน จ อายตนํ ฯ ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฎฺฐานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติฯ ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโรฯ สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฎฺฐานํฯ ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สญฺชาติเทโสฯ ‘‘ตตฺร ตเตฺรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๓) การณํฯ จกฺขุอาทีสุ จาปิ เต เต จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา นิวสนฺติ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ จกฺขาทโย เนสํ นิวาสฎฺฐานํ , จกฺขาทีสุ จ เต อากิณฺณา ตนฺนิสฺสยตฺตา ตทารมฺมณตฺตา จาติ จกฺขาทโย จ เนสํ อากโร, ตตฺถ ตตฺถ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน สโมสรณโต จกฺขาทโย จ เนสํ สโมสรณฎฺฐานํ, ตํนิสฺสยารมฺมณภาเวน ตเตฺถว อุปฺปตฺติโต จกฺขาทโย จ เนสํ สญฺชาติเทโส, จกฺขาทีนํ อภาเว อภาวโต จกฺขาทโย จ เนสํ การณนฺติ ยถาวุเตฺตนเตฺถน จกฺขุ จ ตํ อายตนญฺจาติ จกฺขายตนํฯ เอวํ เสสานิปิฯ

    Apica nivāsaṭṭhānaṭṭhena ākaraṭṭhena samosaraṇaṭṭhānaṭṭhena sañjātidesaṭṭhena kāraṇaṭṭhena ca āyatanaṃ . Tathā hi loke ‘‘issarāyatanaṃ vāsudevāyatana’’ntiādīsu nivāsaṭṭhānaṃ ‘‘āyatana’’nti vuccati. ‘‘Suvaṇṇāyatanaṃ rajatāyatana’’ntiādīsu ākaro. Sāsane pana ‘‘manorame āyatane, sevanti naṃ vihaṅgamā’’tiādīsu (a. ni. 5.38) samosaraṇaṭṭhānaṃ. ‘‘Dakkhiṇāpatho gunnaṃ āyatana’’ntiādīsu sañjātideso. ‘‘Tatra tatreva sakkhibhabbataṃ pāpuṇāti sati satiāyatane’’tiādīsu (a. ni. 3.102; 5.23) kāraṇaṃ. Cakkhuādīsu cāpi te te cittacetasikā dhammā nivasanti tadāyattavuttitāyāti cakkhādayo nesaṃ nivāsaṭṭhānaṃ , cakkhādīsu ca te ākiṇṇā tannissayattā tadārammaṇattā cāti cakkhādayo ca nesaṃ ākaro, tattha tattha vatthudvārārammaṇavasena samosaraṇato cakkhādayo ca nesaṃ samosaraṇaṭṭhānaṃ, taṃnissayārammaṇabhāvena tattheva uppattito cakkhādayo ca nesaṃ sañjātideso, cakkhādīnaṃ abhāve abhāvato cakkhādayo ca nesaṃ kāraṇanti yathāvuttenatthena cakkhu ca taṃ āyatanañcāti cakkhāyatanaṃ. Evaṃ sesānipi.

    จกฺขุธาตาทีนิ อฎฺฐารส วิสฺสชฺชนานิ อฎฺฐารสธาตุวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ จกฺขาทีสุ เอเกโก ธโมฺม ยถาสมฺภวํ วิทหติ, ธียเต, วิธานํ วิธียเต, เอตาย, เอตฺถ วา ธียตีติ ธาตุฯ โลกิยา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตา หุตฺวา สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิย สุวณฺณรชตาทิํ, อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติฯ ภารหาเรหิ จ ภาโร วิย สเตฺตหิ ธียเนฺต, ธารียนฺตีติ อโตฺถฯ ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา อวสวตฺตนโตฯ เอตาหิ จ กรณภูตาหิ สํสารทุกฺขํ สเตฺตหิ อนุวิธียติฯ ตถาวิหิตเญฺจตํ เอตาเสฺวว ธียติ, ฐปียตีติ อโตฺถฯ อปิจ ยถา ติตฺถิยานํ อตฺตา นาม สภาวโต นตฺถิ, น เอวเมตาฯ เอตา ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโยฯ ยถา จ โลเก วิจิตฺตา หริตาลมโนสิลาทโย เสลาวยวา ธาตุโยติ วุจฺจนฺติ, เอวเมตาปิ ธาตุโย วิยาติ ธาตุโยฯ วิจิตฺตา เหตา ญาณเนยฺยาวยวาติฯ ยถา วา สรีรสงฺขาตสฺส สมุทายสฺส อวยวภูเตสุ รสโสณิตาทีสุ อญฺญมญฺญวิสภาคลกฺขณปริจฺฉิเนฺนสุ ธาตุสมญฺญา, เอวเมเวเตสุปิ ปญฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส อตฺตภาวสฺส อวยเวสุ ธาตุสมญฺญา เวทิตพฺพาฯ อญฺญมญฺญวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺนา เหเต จกฺขาทโยติฯ อปิจ ธาตูติ นิชฺชีวมตฺตเสฺสตํ อธิวจนํฯ ตถา หิ ภควา ‘‘ฉธาตุโร อยํ ภิกฺขุ ปุริโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๓-๓๔๔) ชีวสญฺญาสมูหนนตฺถํ ธาตุเทสนํ อกาสีติฯ ยถาวุเตฺตนเตฺถน จกฺขุ จ ตํ ธาตุ จาติ จกฺขุธาตุฯ เอวํ เสสาปิฯ มโนธาตูติ จ ติโสฺส มโนธาตุโยฯ ธมฺมธาตูติ เวทนาสญฺญาสงฺขารกฺขนฺธา โสฬส สุขุมรูปานิ นิพฺพานญฺจฯ มโนวิญฺญาณธาตูติ ฉสตฺตติ มโนวิญฺญาณธาตุโยฯ

    Cakkhudhātādīni aṭṭhārasa vissajjanāni aṭṭhārasadhātuvasena niddiṭṭhāni. Cakkhādīsu ekeko dhammo yathāsambhavaṃ vidahati, dhīyate, vidhānaṃ vidhīyate, etāya, ettha vā dhīyatīti dhātu. Lokiyā hi dhātuyo kāraṇabhāvena vavatthitā hutvā suvaṇṇarajatādidhātuyo viya suvaṇṇarajatādiṃ, anekappakāraṃ saṃsāradukkhaṃ vidahanti. Bhārahārehi ca bhāro viya sattehi dhīyante, dhārīyantīti attho. Dukkhavidhānamattameva cetā avasavattanato. Etāhi ca karaṇabhūtāhi saṃsāradukkhaṃ sattehi anuvidhīyati. Tathāvihitañcetaṃ etāsveva dhīyati, ṭhapīyatīti attho. Apica yathā titthiyānaṃ attā nāma sabhāvato natthi, na evametā. Etā pana attano sabhāvaṃ dhārentīti dhātuyo. Yathā ca loke vicittā haritālamanosilādayo selāvayavā dhātuyoti vuccanti, evametāpi dhātuyo viyāti dhātuyo. Vicittā hetā ñāṇaneyyāvayavāti. Yathā vā sarīrasaṅkhātassa samudāyassa avayavabhūtesu rasasoṇitādīsu aññamaññavisabhāgalakkhaṇaparicchinnesu dhātusamaññā, evamevetesupi pañcakkhandhasaṅkhātassa attabhāvassa avayavesu dhātusamaññā veditabbā. Aññamaññavisabhāgalakkhaṇaparicchinnā hete cakkhādayoti. Apica dhātūti nijjīvamattassetaṃ adhivacanaṃ. Tathā hi bhagavā ‘‘chadhāturo ayaṃ bhikkhu puriso’’tiādīsu (ma. ni. 3.343-344) jīvasaññāsamūhananatthaṃ dhātudesanaṃ akāsīti. Yathāvuttenatthena cakkhu ca taṃ dhātu cāti cakkhudhātu. Evaṃ sesāpi. Manodhātūti ca tisso manodhātuyo. Dhammadhātūti vedanāsaññāsaṅkhārakkhandhā soḷasa sukhumarūpāni nibbānañca. Manoviññāṇadhātūti chasattati manoviññāṇadhātuyo.

    จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ พาวีสติ วิสฺสชฺชนานิ พาวีสตินฺทฺริยวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ จกฺขุเมว ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ จกฺขุนฺทฺริยํฯ โสตเมว สวนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ โสตินฺทฺริยํฯ ฆานเมว ฆายนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ ฆานินฺทฺริยํฯ ชิวฺหา เอว สายนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ ชิวฺหินฺทฺริยํฯ กาโย เอว ผุสนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ กายินฺทฺริยํฯ มนเต อิติ มโน, วิชานาตีติ อโตฺถฯ อฎฺฐกถาจริยา ปนาหุ – นาลิยา มินมาโน วิย มหาตุลาย ธารยมาโน วิย จ อารมฺมณํ มนติ ชานาตีติ มโน, ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ มนินฺทฺริยํ

    Cakkhundriyādīni bāvīsati vissajjanāni bāvīsatindriyavasena niddiṭṭhāni. Cakkhumeva dassanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti cakkhundriyaṃ. Sotameva savanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti sotindriyaṃ. Ghānameva ghāyanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti ghānindriyaṃ. Jivhā eva sāyanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti jivhindriyaṃ. Kāyo eva phusanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti kāyindriyaṃ. Manate iti mano, vijānātīti attho. Aṭṭhakathācariyā panāhu – nāliyā minamāno viya mahātulāya dhārayamāno viya ca ārammaṇaṃ manati jānātīti mano, tadeva mananalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti manindriyaṃ.

    ชีวนฺติ เตน ตํสหชาตา ธมฺมาติ ชีวิตํ, ตเทว อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํฯ ตํ รูปชีวิตินฺทฺริยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ ทุวิธํฯ สพฺพกมฺมชรูปสหชํ สหชรูปานุปาลนํ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, สพฺพจิตฺตสหชํ สหชอรูปานุปาลนํ อรูปชีวิตินฺทฺริยํฯ

    Jīvanti tena taṃsahajātā dhammāti jīvitaṃ, tadeva anupālanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti jīvitindriyaṃ. Taṃ rūpajīvitindriyaṃ arūpajīvitindriyanti duvidhaṃ. Sabbakammajarūpasahajaṃ sahajarūpānupālanaṃ rūpajīvitindriyaṃ, sabbacittasahajaṃ sahajaarūpānupālanaṃ arūpajīvitindriyaṃ.

    ถียติ สงฺฆาตํ คจฺฉติ เอติสฺสา คโพฺภติ อิตฺถี, อิตฺถิลิงฺคาทีสุ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, นิยมโต อิตฺถิยา เอว อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ

    Thīyati saṅghātaṃ gacchati etissā gabbhoti itthī, itthiliṅgādīsu indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, niyamato itthiyā eva indriyaṃ itthindriyaṃ.

    ปุํ-วุจฺจติ นิรโย, ปุํ สงฺขาเต นิรเย ริสียติ หิํสียตีติ ปุริโส, ปุริสลิงฺคาทีสุ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, นิยมโต ปุริสเสฺสว อินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํฯ ทฺวีสุเปเตสุ เอเกกํ สภาวกสฺส เอเกกสฺส กมฺมชรูปสหชํ โหติฯ

    Puṃ-vuccati nirayo, puṃ saṅkhāte niraye risīyati hiṃsīyatīti puriso, purisaliṅgādīsu indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, niyamato purisasseva indriyaṃ purisindriyaṃ. Dvīsupetesu ekekaṃ sabhāvakassa ekekassa kammajarūpasahajaṃ hoti.

    กุสลวิปากกายวิญฺญาณสมฺปยุตฺตํ สุขํ, กายิกสาตลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สุขเมว อินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ

    Kusalavipākakāyaviññāṇasampayuttaṃ sukhaṃ, kāyikasātalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, sukhameva indriyaṃ sukhindriyaṃ.

    อกุสลวิปากกายวิญฺญาณสมฺปยุตฺตํ ทุกฺขํ, กายิกอสาตลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, ทุกฺขเมว อินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ

    Akusalavipākakāyaviññāṇasampayuttaṃ dukkhaṃ, kāyikaasātalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, dukkhameva indriyaṃ dukkhindriyaṃ.

    ปีติโสมนสฺสโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน, สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ, เจตสิกสาตลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, โสมนสฺสเมว อินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ

    Pītisomanassayogato sobhanaṃ mano assāti sumano, sumanassa bhāvo somanassaṃ, cetasikasātalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, somanassameva indriyaṃ somanassindriyaṃ.

    โทมนสฺสโยคโต ทุฎฺฐุ มโน อสฺสาติ, หีนเวทนตฺตา วา กุจฺฉิตํ มโน อสฺสาติ ทุมฺมโน, ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ, เจตสิกอสาตลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, โทมนสฺสเมว อินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํฯ สุขทุกฺขาการปวตฺติํ อุเปกฺขติ มชฺฌตฺตาการสณฺฐิตตฺตา เตนากาเรน ปวตฺตตีติ อุเปกฺขา, มชฺฌตฺตลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, อุเปกฺขา เอว อินฺทฺริยํ อุเปกฺขินฺทฺริยํ

    Domanassayogato duṭṭhu mano assāti, hīnavedanattā vā kucchitaṃ mano assāti dummano, dummanassa bhāvo domanassaṃ, cetasikaasātalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, domanassameva indriyaṃ domanassindriyaṃ. Sukhadukkhākārapavattiṃ upekkhati majjhattākārasaṇṭhitattā tenākārena pavattatīti upekkhā, majjhattalakkhaṇe indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, upekkhā eva indriyaṃ upekkhindriyaṃ.

    สทฺทหนฺติ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา, อสฺสทฺธิยสฺส อภิภวนโต อธิปติอเตฺถน อินฺทฺริยํ, อธิโมกฺขลกฺขเณ วา อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สทฺธาเยว อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยํ

    Saddahanti etāya, sayaṃ vā saddahati, saddahanamattameva vā esāti saddhā, assaddhiyassa abhibhavanato adhipatiatthena indriyaṃ, adhimokkhalakkhaṇe vā indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, saddhāyeva indriyaṃ saddhindriyaṃ.

    วีรภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ, วิธินา วา นเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ, โกสชฺชสฺส อภิภวนโต อธิปติอเตฺถน อินฺทฺริยํ, ปคฺคหณลกฺขเณ วา อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, วีริยเมว อินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ

    Vīrabhāvo vīriyaṃ, vīrānaṃ vā kammaṃ, vidhinā vā nayena īrayitabbaṃ pavattayitabbanti vīriyaṃ, kosajjassa abhibhavanato adhipatiatthena indriyaṃ, paggahaṇalakkhaṇe vā indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, vīriyameva indriyaṃ vīriyindriyaṃ.

    สรนฺติ ตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ, มุฎฺฐสจฺจสฺส อภิภวนโต อธิปติอเตฺถน อินฺทฺริยํ, อุปฎฺฐานลกฺขเณ วา อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สติ เอว อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ

    Saranti tāya, sayaṃ vā sarati, saraṇamattameva vā esāti sati, muṭṭhasaccassa abhibhavanato adhipatiatthena indriyaṃ, upaṭṭhānalakkhaṇe vā indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, sati eva indriyaṃ satindriyaṃ.

    อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อาธิยติ ฐเปตีติ สมาธิ, วิเกฺขปสฺส อภิภวนโต อธิปติอเตฺถน อินฺทฺริยํ, อวิเกฺขปลกฺขเณ วา อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สมาธิ เอว อินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ

    Ārammaṇe cittaṃ sammā ādhiyati ṭhapetīti samādhi, vikkhepassa abhibhavanato adhipatiatthena indriyaṃ, avikkhepalakkhaṇe vā indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, samādhi eva indriyaṃ samādhindriyaṃ.

    ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ ปชานาตีติ ปญฺญาฯ อฎฺฐกถายํ ปน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ปญฺญาปนวเสน ปญฺญา’’ติ วุตฺตํฯ อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติอเตฺถน อินฺทฺริยํ, ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฎฺฐํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, ปญฺญา เอว อินฺทฺริยํ ปญฺญินฺทฺริยํ

    ‘‘Idaṃ dukkha’’ntiādinā nayena ariyasaccāni pajānātīti paññā. Aṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘aniccaṃ dukkhamanattāti paññāpanavasena paññā’’ti vuttaṃ. Avijjāya abhibhavanato adhipatiatthena indriyaṃ, dassanalakkhaṇe vā indaṭṭhaṃ kāretīti indriyaṃ, paññā eva indriyaṃ paññindriyaṃ.

    อนมตเคฺค สํสารวเฎฺฎ อนญฺญาตํ อมตํ ปทํ จตุสจฺจธมฺมเมว วา ชานิสฺสามีติ ปฎิปนฺนสฺส อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฎฺฐสมฺภวโต จ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํฯ โสตาปตฺติมคฺคญาณเสฺสตํ นามํฯ

    Anamatagge saṃsāravaṭṭe anaññātaṃ amataṃ padaṃ catusaccadhammameva vā jānissāmīti paṭipannassa uppajjanato indriyaṭṭhasambhavato ca anaññātaññassāmītindriyaṃ. Sotāpattimaggañāṇassetaṃ nāmaṃ.

    ปฐมมเคฺคน ญาตํ มริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา เตสํเยว เตน มเคฺคน ญาตานํ จตุสจฺจธมฺมานเมว ชานนโต อินฺทฺริยฎฺฐสมฺภวโต จ อาชานนกํ อินฺทฺริยํ อญฺญินฺทฺริยํฯ โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ ฐาเนสุ ญาณเสฺสตํ นามํฯ

    Paṭhamamaggena ñātaṃ mariyādaṃ anatikkamitvā tesaṃyeva tena maggena ñātānaṃ catusaccadhammānameva jānanato indriyaṭṭhasambhavato ca ājānanakaṃ indriyaṃ aññindriyaṃ. Sotāpattiphalādīsu chasu ṭhānesu ñāṇassetaṃ nāmaṃ.

    อญฺญาตาวิโน จตุสเจฺจสุ นิฎฺฐิตญาณกิจฺจสฺส ขีณาสวสฺส อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฎฺฐสมฺภวโต จ อญฺญาตาวินฺทฺริยํ, อญฺญาตาวีนํ วา จตูสุ สเจฺจสุ นิฎฺฐิตกิจฺจานํ จตฺตาริ สจฺจานิ ปฎิวิชฺฌิตฺวา ฐิตานํ ธมฺมานํ อพฺภนฺตเร อินฺทฎฺฐสาธเนน อญฺญาตาวินฺทฺริยํฯ อรหตฺตผลญาณเสฺสตํ นามํฯ สพฺพานิเปตานิ ยถาโยคํ อินฺทลิงฺคเฎฺฐน อินฺทเทสิตเฎฺฐน อินฺททิฎฺฐเฎฺฐน อินฺทสิฎฺฐเฎฺฐน อินฺทชุฎฺฐเฎฺฐน จ อินฺทฺริยานิฯ ภควา หิ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ปรมิสฺสริยภาวโต อิโนฺท, กุสลากุสลญฺจ กมฺมํ กเมฺมสุ กสฺสจิ อิสฺสริยาภาวโตฯ เตเนเวตฺถ กมฺมชนิตานิ อินฺทฺริยานิ กุสลากุสลกมฺมํ อุลฺลิเงฺคนฺติ , เตน จ สิฎฺฐานีติ อินฺทลิงฺคเฎฺฐน อินฺทสิฎฺฐเฎฺฐน จ อินฺทฺริยานิฯ สพฺพาเนว ปเนตานิ ภควตา มุนิเนฺทน ยถาภูตโต ปกาสิตานิ อภิสมฺพุทฺธานิ จาติ อินฺทเทสิตเฎฺฐน อินฺททิฎฺฐเฎฺฐน จ อินฺทฺริยานิฯ เตเนว จ ภควตา มุนิเนฺทน กานิจิ โคจราเสวนาย, กานิจิ ภาวนาเสวนาย เสวิตานีติ อินฺทชุฎฺฐเฎฺฐนปิ อินฺทฺริยานิฯ อปิ จ อาธิปจฺจสงฺขาเตน อิสฺสริยเฎฺฐนปิ เอตานิ อินฺทฺริยานิฯ จกฺขุวิญฺญาณาทิปวตฺติยญฺหิ จกฺขาทีนํ สิทฺธมาธิปจฺจํ ตสฺมิํ ติเกฺข ติกฺขตฺตา มเนฺท จ มนฺทตฺตาติฯ

    Aññātāvino catusaccesu niṭṭhitañāṇakiccassa khīṇāsavassa uppajjanato indriyaṭṭhasambhavato ca aññātāvindriyaṃ, aññātāvīnaṃ vā catūsu saccesu niṭṭhitakiccānaṃ cattāri saccāni paṭivijjhitvā ṭhitānaṃ dhammānaṃ abbhantare indaṭṭhasādhanena aññātāvindriyaṃ. Arahattaphalañāṇassetaṃ nāmaṃ. Sabbānipetāni yathāyogaṃ indaliṅgaṭṭhena indadesitaṭṭhena indadiṭṭhaṭṭhena indasiṭṭhaṭṭhena indajuṭṭhaṭṭhena ca indriyāni. Bhagavā hi sammāsambuddho paramissariyabhāvato indo, kusalākusalañca kammaṃ kammesu kassaci issariyābhāvato. Tenevettha kammajanitāni indriyāni kusalākusalakammaṃ ulliṅgenti , tena ca siṭṭhānīti indaliṅgaṭṭhena indasiṭṭhaṭṭhena ca indriyāni. Sabbāneva panetāni bhagavatā munindena yathābhūtato pakāsitāni abhisambuddhāni cāti indadesitaṭṭhena indadiṭṭhaṭṭhena ca indriyāni. Teneva ca bhagavatā munindena kānici gocarāsevanāya, kānici bhāvanāsevanāya sevitānīti indajuṭṭhaṭṭhenapi indriyāni. Api ca ādhipaccasaṅkhātena issariyaṭṭhenapi etāni indriyāni. Cakkhuviññāṇādipavattiyañhi cakkhādīnaṃ siddhamādhipaccaṃ tasmiṃ tikkhe tikkhattā mande ca mandattāti.

    .

    5.

    กามธาตุอาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ภวปฺปเภทวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ กามราคสงฺขาเตน กาเมน ยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามสงฺขาตา วา ธาตุ กามธาตุฯ

    Kāmadhātuādīni dvādasa vissajjanāni bhavappabhedavasena niddiṭṭhāni. Kāmarāgasaṅkhātena kāmena yuttā dhātu kāmadhātu, kāmasaṅkhātā vā dhātu kāmadhātu.

    กามํ ปหาย รูเปน ยุตฺตา ธาตุ รูปธาตุ, รูปสงฺขาตา วา ธาตุ รูปธาตุฯ

    Kāmaṃ pahāya rūpena yuttā dhātu rūpadhātu, rūpasaṅkhātā vā dhātu rūpadhātu.

    กามญฺจ รูปญฺจ ปหาย อรูเปน ยุตฺตา ธาตุ อรูปธาตุ, อรูปสงฺขาตา วา ธาตุ อรูปธาตุฯ

    Kāmañca rūpañca pahāya arūpena yuttā dhātu arūpadhātu, arūpasaṅkhātā vā dhātu arūpadhātu.

    ตา เอว ธาตุโย ปุน ภวปริยาเยน วุตฺตาฯ ภวตีติ หิ ภโวติ วุจฺจติฯ สญฺญาย ยุโตฺต ภโว สญฺญาภโว, สญฺญาสหคโต วา ภโว สญฺญาภโว, สญฺญา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สญฺญาภโวฯ โส กามภโว จ อสญฺญาภวมุโตฺต รูปภโว จ เนวสญฺญานาสญฺญาภวมุโตฺต อรูปภโว จ โหติฯ

    Tā eva dhātuyo puna bhavapariyāyena vuttā. Bhavatīti hi bhavoti vuccati. Saññāya yutto bhavo saññābhavo, saññāsahagato vā bhavo saññābhavo, saññā vā ettha bhave atthīti saññābhavo. So kāmabhavo ca asaññābhavamutto rūpabhavo ca nevasaññānāsaññābhavamutto arūpabhavo ca hoti.

    น สญฺญาภโว อสญฺญาภโว, โส รูปภเวกเทโสฯ

    Na saññābhavo asaññābhavo, so rūpabhavekadeso.

    โอฬาริกตฺตาภาวโต เนวสญฺญา, สุขุมเตฺตน สมฺภวโต นาสญฺญาติ เนวสญฺญานาสญฺญา, ตาย ยุโตฺต ภโว เนวสญฺญานาสญฺญาภโวฯ อถ วา โอฬาริกาย สญฺญาย อภาวา, สุขุมาย จ ภาวา เนวสญฺญานาสญฺญา อสฺมิํ ภเวติ เนวสญฺญานาสญฺญาภโว, โส อรูปภเวกเทโสฯ

    Oḷārikattābhāvato nevasaññā, sukhumattena sambhavato nāsaññāti nevasaññānāsaññā, tāya yutto bhavo nevasaññānāsaññābhavo. Atha vā oḷārikāya saññāya abhāvā, sukhumāya ca bhāvā nevasaññānāsaññā asmiṃ bhaveti nevasaññānāsaññābhavo, so arūpabhavekadeso.

    เอเกน รูปกฺขเนฺธน โวกิโณฺณ ภโว เอเกน โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว, โส อสญฺญภโววฯ

    Ekena rūpakkhandhena vokiṇṇo bhavo ekena vokāro assa bhavassāti ekavokārabhavo, so asaññabhavova.

    จตูหิ อรูปกฺขเนฺธหิ โวกิโณฺณ ภโว จตูหิ โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ จตุโวการภโว , โส อรูปภโว เอวฯ

    Catūhi arūpakkhandhehi vokiṇṇo bhavo catūhi vokāro assa bhavassāti catuvokārabhavo, so arūpabhavo eva.

    ปญฺจหิ ขเนฺธหิ โวกิโณฺณ ภโว ปญฺจหิ โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ ปญฺจโวการภโว, โส กามภโว จ รูปภเวกเทโส จ โหติฯ

    Pañcahi khandhehi vokiṇṇo bhavo pañcahi vokāro assa bhavassāti pañcavokārabhavo, so kāmabhavo ca rūpabhavekadeso ca hoti.

    . ปฐมชฺฌานาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ฌานสมาปตฺติวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ฌานนฺติ อิธ พฺรหฺมวิหารมตฺตํ อธิเปฺปตํฯ วิตกฺกวิจารปีติสุขจิเตฺตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ปฐมํ ฌานํฯ ปีติสุขจิเตฺตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ทุติยํ ฌานํฯ สุขจิเตฺตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ตติยํ ฌานํฯ อุเปกฺขาจิเตฺตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ จตุตฺถํ ฌานํ

    6.Paṭhamajjhānādīni dvādasa vissajjanāni jhānasamāpattivasena niddiṭṭhāni. Jhānanti idha brahmavihāramattaṃ adhippetaṃ. Vitakkavicārapītisukhacittekaggatāsampayuttaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ. Pītisukhacittekaggatāsampayuttaṃ dutiyaṃ jhānaṃ. Sukhacittekaggatāsampayuttaṃ tatiyaṃ jhānaṃ. Upekkhācittekaggatāsampayuttaṃ catutthaṃ jhānaṃ.

    เมทติ เมชฺชตีติ เมตฺตา, สินิยฺหตีติ อโตฺถฯ มิเตฺต วา ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสา ปวตฺตีติ เมตฺตา, ปจฺจนีกธเมฺมหิ มุตฺตตฺตา อารมฺมเณ จาธิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, เจตโส วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ, เมตฺตา เอว เจโตวิมุตฺติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ

    Medati mejjatīti mettā, siniyhatīti attho. Mitte vā bhavā, mittassa vā esā pavattīti mettā, paccanīkadhammehi muttattā ārammaṇe cādhimuttattā vimutti, cetaso vimutti cetovimutti, mettā eva cetovimutti mettācetovimutti.

    กรุณา วุตฺตตฺถา เอวฯ

    Karuṇā vuttatthā eva.

    โมทนฺติ ตาย ตํสมงฺคิโน, สยํ วา โมทติ, โมทนมตฺตเมว วา ตนฺติ มุทิตาฯ ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทิพฺยาปารปฺปหาเนน มชฺฌตฺตภาวูปคมเนน จ อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขาฯ เมตฺตาทโย ตโย พฺรหฺมวิหารา ปฐมาทีหิ ตีหิ ฌาเนหิ ยุตฺตาฯ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร จตุตฺถชฺฌาเนน ยุโตฺตฯ

    Modanti tāya taṃsamaṅgino, sayaṃ vā modati, modanamattameva vā tanti muditā. ‘‘Averā hontū’’tiādibyāpārappahānena majjhattabhāvūpagamanena ca upekkhatīti upekkhā. Mettādayo tayo brahmavihārā paṭhamādīhi tīhi jhānehi yuttā. Upekkhābrahmavihāro catutthajjhānena yutto.

    ผรณวเสน นตฺถิ เอตสฺส อโนฺตติ อนโนฺตฯ อากาโส อนโนฺต อากาสานโนฺต, กสิณุคฺฆาฎิมากาโส ฯ อากาสานโนฺตเยว อากาสานญฺจํ, ตํ อากาสานญฺจํ อธิฎฺฐานเฎฺฐน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส ‘‘เทวานํ เทวายตนมิวา’’ติ อากาสานญฺจายตนํฯ อากาสานญฺจายตนเมว สมาปตฺติ อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติฯ ผรณวเสน จ นตฺถิ เอตสฺส อโนฺตติ อนนฺตํ, ตํ อากาสารมฺมณํ วิญฺญาณํฯ อนนฺตเมว อานญฺจํ, วิญฺญาณํ อานญฺจํ ‘‘วิญฺญาณานญฺจ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘วิญฺญาณญฺจ’’นฺติ วุตฺตํฯ อยเญฺหตฺถ รุฬฺหิสโทฺทฯ ตํ วิญฺญาณญฺจํ อธิฎฺฐานเฎฺฐน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส ‘‘เทวานํ เทวายตนมิวา’’ติ วิญฺญาณญฺจายตนํฯ นตฺถิ เอตสฺส กิญฺจนนฺติ อกิญฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฎฺฐํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติฯ อกิญฺจนสฺส ภาโว อากิญฺจญฺญํฯ อากาสานญฺจายตนวิญฺญาณาภาวเสฺสตํ อธิวจนํฯ ตํ อากิญฺจญฺญํฯ อธิฎฺฐานเฎฺฐน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส ‘‘เทวานํ เทวายตนมิวา’’ติ อากิญฺจญฺญายตนํฯ โอฬาริกาย สญฺญาย อภาวโต, สุขุมาย จ ภาวโต เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส สญฺญา นาสญฺญาติ เนวสญฺญานาสญฺญํฯ เนวสญฺญานาสญฺญญฺจ ตํ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตา อายตนญฺจาติ เนวสญฺญานาสญฺญายตนํฯ อถ วา ยายเมตฺถ สญฺญา สา ปฎุสญฺญากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสญฺญา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสญฺญาติ เนวสญฺญานาสญฺญา, เนวสญฺญานาสญฺญา จ สา เสสธมฺมานํ อธิฎฺฐานเฎฺฐน อายตนญฺจาติ เนวสญฺญานาสญฺญายตนํฯ อากิญฺจญฺญายตนารมฺมณาย สมาปตฺติยา เอตํ อธิวจนํฯ น เกวลํ เอตฺถ สญฺญา เอทิสี, อถ โข เวทนาปิ เนวเวทนา นาเวทนาฯ จิตฺตมฺปิ เนวจิตฺตํ นาจิตฺตํฯ ผโสฺสปิ เนวผโสฺส นาผโสฺสฯ เอส นโย เสสสมฺปยุตฺตธเมฺมสุฯ สญฺญาสีเสน ปนายํ เทสนา กตาติฯ

    Pharaṇavasena natthi etassa antoti ananto. Ākāso ananto ākāsānanto, kasiṇugghāṭimākāso . Ākāsānantoyeva ākāsānañcaṃ, taṃ ākāsānañcaṃ adhiṭṭhānaṭṭhena āyatanamassa sasampayuttadhammassa jhānassa ‘‘devānaṃ devāyatanamivā’’ti ākāsānañcāyatanaṃ. Ākāsānañcāyatanameva samāpatti ākāsānañcāyatanasamāpatti. Pharaṇavasena ca natthi etassa antoti anantaṃ, taṃ ākāsārammaṇaṃ viññāṇaṃ. Anantameva ānañcaṃ, viññāṇaṃ ānañcaṃ ‘‘viññāṇānañca’’nti avatvā ‘‘viññāṇañca’’nti vuttaṃ. Ayañhettha ruḷhisaddo. Taṃ viññāṇañcaṃ adhiṭṭhānaṭṭhena āyatanamassa sasampayuttadhammassa jhānassa ‘‘devānaṃ devāyatanamivā’’ti viññāṇañcāyatanaṃ. Natthi etassa kiñcananti akiñcanaṃ, antamaso bhaṅgamattampi assa avasiṭṭhaṃ natthīti vuttaṃ hoti. Akiñcanassa bhāvo ākiñcaññaṃ. Ākāsānañcāyatanaviññāṇābhāvassetaṃ adhivacanaṃ. Taṃ ākiñcaññaṃ. Adhiṭṭhānaṭṭhena āyatanamassa sasampayuttadhammassa jhānassa ‘‘devānaṃ devāyatanamivā’’ti ākiñcaññāyatanaṃ. Oḷārikāya saññāya abhāvato, sukhumāya ca bhāvato nevassa sasampayuttadhammassa jhānassa saññā nāsaññāti nevasaññānāsaññaṃ. Nevasaññānāsaññañca taṃ manāyatanadhammāyatanapariyāpannattā āyatanañcāti nevasaññānāsaññāyatanaṃ. Atha vā yāyamettha saññā sā paṭusaññākiccaṃ kātuṃ asamatthatāya nevasaññā, saṅkhārāvasesasukhumabhāvena vijjamānattā nāsaññāti nevasaññānāsaññā, nevasaññānāsaññā ca sā sesadhammānaṃ adhiṭṭhānaṭṭhena āyatanañcāti nevasaññānāsaññāyatanaṃ. Ākiñcaññāyatanārammaṇāya samāpattiyā etaṃ adhivacanaṃ. Na kevalaṃ ettha saññā edisī, atha kho vedanāpi nevavedanā nāvedanā. Cittampi nevacittaṃ nācittaṃ. Phassopi nevaphasso nāphasso. Esa nayo sesasampayuttadhammesu. Saññāsīsena panāyaṃ desanā katāti.

    อวิชฺชาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ปฎิจฺจสมุปฺปาทงฺควเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ปูเรตุํ อยุตฺตเฎฺฐน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อโตฺถฯ ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชาฯ ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชาฯ ขนฺธานํ ราสฎฺฐํ, อายตนานํ อายตนฎฺฐํ, ธาตูนํ สุญฺญฎฺฐํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฎฺฐํ, สจฺจานํ ตถฎฺฐํ อวิทิตํ กโรตีติ อวิชฺชาฯ ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา, อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิญฺญาณฎฺฐิติสตฺตาวาเสสุ สเตฺต ชวาเปตีติ อวิชฺชา, ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา, อปิ จ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฎิจฺจสมุปฺปาทปฎิจฺจสมุปฺปนฺนานญฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชาฯ สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขาราฯ วิชานาตีติ วิญฺญาณํฯ นมตีติ นามํ, นามยตีติ วา นามํฯ รุปฺปตีติ รูปํฯ อาเย ตโนติ , อายตญฺจ นยตีติ อายตนํฯ ผุสตีติ ผโสฺสฯ เวทยตีติ เวทนาฯ ปริตสฺสตีติ ตณฺหาฯ อุปาทิยติ ภุสํ คณฺหาตีติ อุปาทานํฯ ภวติ, ภาวยตีติ วา ภโวฯ ชนนํ ชาติฯ ชีรณํ ชราฯ มรนฺติ เอเตนาติ มรณํ

    Avijjādīni dvādasa vissajjanāni paṭiccasamuppādaṅgavasena niddiṭṭhāni. Pūretuṃ ayuttaṭṭhena kāyaduccaritādi avindiyaṃ nāma, aladdhabbanti attho. Taṃ avindiyaṃ vindatīti avijjā. Tabbiparītato kāyasucaritādi vindiyaṃ nāma, taṃ vindiyaṃ na vindatīti avijjā. Khandhānaṃ rāsaṭṭhaṃ, āyatanānaṃ āyatanaṭṭhaṃ, dhātūnaṃ suññaṭṭhaṃ, indriyānaṃ adhipatiyaṭṭhaṃ, saccānaṃ tathaṭṭhaṃ aviditaṃ karotīti avijjā. Dukkhādīnaṃ pīḷanādivasena vuttaṃ catubbidhaṃ catubbidhaṃ atthaṃ aviditaṃ karotītipi avijjā, antavirahite saṃsāre sabbayonigatibhavaviññāṇaṭṭhitisattāvāsesu satte javāpetīti avijjā, paramatthato avijjamānesu itthipurisādīsu javati, vijjamānesupi khandhādīsu na javatīti avijjā, api ca cakkhuviññāṇādīnaṃ vatthārammaṇānaṃ paṭiccasamuppādapaṭiccasamuppannānañca dhammānaṃ chādanatopi avijjā. Saṅkhatamabhisaṅkharontīti saṅkhārā. Vijānātīti viññāṇaṃ. Namatīti nāmaṃ, nāmayatīti vā nāmaṃ. Ruppatīti rūpaṃ. Āye tanoti , āyatañca nayatīti āyatanaṃ. Phusatīti phasso. Vedayatīti vedanā. Paritassatīti taṇhā. Upādiyati bhusaṃ gaṇhātīti upādānaṃ. Bhavati, bhāvayatīti vā bhavo. Jananaṃ jāti. Jīraṇaṃ jarā. Maranti etenāti maraṇaṃ.

    . ทุกฺขาทีนิ อฎฺฐสตานิ อฎฺฐ จ วิสฺสชฺชนานิ จตุสจฺจโยชนาวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ‘‘ทุกฺขํ อภิเญฺญยฺย’’นฺติอาทีสุ หิ ฉนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน จตุวีสติ วิสฺสชฺชนานิ ‘‘จกฺขุ ชรามรณ’’นฺติ เปยฺยาเล ‘‘จกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ โสตํ อภิเญฺญยฺย’’นฺติอาทินา ‘‘ชาติ อภิเญฺญยฺยา’’ติ ปริโยสาเนน ปญฺจนวุตาธิเกน วิสฺสชฺชนสเตน โยเชตฺวา วุตฺตานิฯ ปญฺจนวุตาธิกํ จตุกฺกสตํ โหติ, เตสํ จตุกฺกานํ วเสน อสีติอธิกานิ สตฺต วิสฺสชฺชนสตานิฯ ‘‘ชรามรณํ อภิเญฺญยฺย’’นฺติอาทิเก จตุเกฺก ‘‘จตฺตาริ วิสฺสชฺชนานี’’ติ เอวํ สพฺพานิ อฎฺฐ จ สตานิ อฎฺฐ จ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติฯ เอตฺถ จ ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส ปธานภูโต ปจฺจโย สมุทโยติ เวทิตโพฺพฯ สพฺพสงฺขาเรหิ สุญฺญํ นิพฺพานํ นิโรโธติ เวทิตพฺพํฯ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยาทีนํ ติณฺณมฺปิ หิ โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ เอตฺถ อภาวํ สนฺธาย อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยนิโรโธติอาทิ ยุชฺชติ ฯ นิโรธคามินิปฎิปทาติ จ สพฺพตฺถ อริยมโคฺค เอวฯ เอวญฺหิ วุจฺจมาเน ผเลปิ มคฺคโวหารสมฺภวโต อญฺญินฺทฺริยอญฺญาตาวินฺทฺริยานมฺปิ ยุชฺชติฯ ปุน ทุกฺขาทีนํ ปริญฺญฎฺฐาทิวเสน อฎฺฐสตานิ อฎฺฐ จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิ, ปุน ทุกฺขาทีนํ ปริญฺญาปฎิเวธฎฺฐาทิวเสน อฎฺฐสตานิ อฎฺฐ จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ ปริญฺญา จ สา ปฎิวิชฺฌิตพฺพเฎฺฐน ปฎิเวโธ จาติ ปริญฺญาปฎิเวโธฯ ปริญฺญาปฎิเวโธว อโตฺถ ปริญฺญาปฎิเวธโฎฺฐ

    7.Dukkhādīni aṭṭhasatāni aṭṭha ca vissajjanāni catusaccayojanāvasena niddiṭṭhāni. ‘‘Dukkhaṃ abhiññeyya’’ntiādīsu hi channaṃ catukkānaṃ vasena catuvīsati vissajjanāni ‘‘cakkhu jarāmaraṇa’’nti peyyāle ‘‘cakkhu abhiññeyyaṃ sotaṃ abhiññeyya’’ntiādinā ‘‘jāti abhiññeyyā’’ti pariyosānena pañcanavutādhikena vissajjanasatena yojetvā vuttāni. Pañcanavutādhikaṃ catukkasataṃ hoti, tesaṃ catukkānaṃ vasena asītiadhikāni satta vissajjanasatāni. ‘‘Jarāmaraṇaṃ abhiññeyya’’ntiādike catukke ‘‘cattāri vissajjanānī’’ti evaṃ sabbāni aṭṭha ca satāni aṭṭha ca vissajjanāni honti. Ettha ca tassa tassa dhammassa padhānabhūto paccayo samudayoti veditabbo. Sabbasaṅkhārehi suññaṃ nibbānaṃ nirodhoti veditabbaṃ. Anaññātaññassāmītindriyādīnaṃ tiṇṇampi hi lokuttarindriyānaṃ ettha abhāvaṃ sandhāya anaññātaññassāmītindriyanirodhotiādi yujjati . Nirodhagāminipaṭipadāti ca sabbattha ariyamaggo eva. Evañhi vuccamāne phalepi maggavohārasambhavato aññindriyaaññātāvindriyānampi yujjati. Puna dukkhādīnaṃ pariññaṭṭhādivasena aṭṭhasatāni aṭṭha ca vissajjanāni niddiṭṭhāni, puna dukkhādīnaṃ pariññāpaṭivedhaṭṭhādivasena aṭṭhasatāni aṭṭha ca vissajjanāni niddiṭṭhāni. Pariññā ca sā paṭivijjhitabbaṭṭhena paṭivedho cāti pariññāpaṭivedho. Pariññāpaṭivedhova attho pariññāpaṭivedhaṭṭho.

    . ปุน ตาเนว ทุกฺขาทีนิ ชรามรณปริยนฺตานิ ทฺวิอธิกานิ เทฺว ปทสตานิ สมุทยาทีหิ สตฺตหิ สตฺตหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ทฺวิอธิกานํ ทฺวินฺนํ อฎฺฐกสตานํ วเสน สหสฺสญฺจ ฉ จ สตานิ โสฬส จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ ตตฺถ ปธานภูโต ปจฺจโย สมุทโย, ตสฺส นิโรโธ สมุทยนิโรโธฯ ฉโนฺท เอว ราโค ฉนฺทราโค, ทุเกฺข สุขสญฺญาย ทุกฺขสฺส ฉนฺทราโค, ตสฺส นิโรโธ ฉนฺทราคนิโรโธฯ ทุกฺขํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชมานํ สุขํ โสมนสฺสํ ทุกฺขสฺส อสฺสาโทฯ ทุกฺขสฺส อนิจฺจตา ทุกฺขสฺส วิปริณามธมฺมตา ทุกฺขสฺส อาทีนโวฯ ทุเกฺข ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํฯ ‘‘ยํ โข ปน กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ (ปฎิ. ม. ๑.๒๔) วจนโต นิพฺพานเมว ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํฯ ‘‘ทุกฺขนิโรโธ สมุทยนิโรโธ ฉนฺทราคนิโรโธ ทุกฺขสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ นานาสงฺขตปฎิปกฺขวเสน นานาปริยายวจเนหิ จตูสุ ฐาเนสุ นิพฺพานเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เกจิ ปน ‘‘อาหารสมุทยา ทุกฺขสมุทโย อาหารนิโรธา ทุกฺขนิโรโธ สรสวเสน สมุทยนิโรโธ, อถ วา อุทยพฺพยทสฺสเนน สมุทยนิโรโธ สห วิปสฺสนาย มโคฺค ฉนฺทราคนิโรโธ’’ติ วทนฺติฯ เอวญฺจ วุจฺจมาเน โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ อวิปสฺสนูปคตฺตา น สพฺพสาธารณํ โหตีติ ปฐมํ วุตฺตนโยว คเหตโพฺพฯ โลกุตฺตรินฺทฺริเยสุ หิ ฉนฺทราคาภาวโตเยว ฉนฺทราคนิโรโธติ ยุชฺชติฯ สรีเร ฉนฺทราเคเนว สรีเรกเทเสสุ เกสาทีสุปิ ฉนฺทราโค กโตว โหติ, ชรามรณวเนฺตสุ ฉนฺทราเคเนว ชรามรเณสุปิ ฉนฺทราโค กโตว โหติฯ เอวํ อสฺสาทาทีนวาปิ โยเชตพฺพาฯ ปุน ทุกฺขาทีนิ ชรามรณปริยนฺตานิ ทฺวิอธิกานิ เทฺว ปทสตานิ สมุทยาทีหิ ฉหิ ฉหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ทฺวิอธิกานํ ทฺวินฺนํ สตฺตกสตานํ วเสน นยสหสฺสญฺจ จตฺตาริ จ สตานิ จุทฺทส จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ

    8. Puna tāneva dukkhādīni jarāmaraṇapariyantāni dviadhikāni dve padasatāni samudayādīhi sattahi sattahi padehi yojetvā dviadhikānaṃ dvinnaṃ aṭṭhakasatānaṃ vasena sahassañca cha ca satāni soḷasa ca vissajjanāni niddiṭṭhāni. Tattha padhānabhūto paccayo samudayo, tassa nirodho samudayanirodho. Chando eva rāgo chandarāgo, dukkhe sukhasaññāya dukkhassa chandarāgo, tassa nirodho chandarāganirodho. Dukkhaṃ paṭicca uppajjamānaṃ sukhaṃ somanassaṃ dukkhassa assādo. Dukkhassa aniccatā dukkhassa vipariṇāmadhammatā dukkhassa ādīnavo. Dukkhe chandarāgavinayo chandarāgappahānaṃ dukkhassa nissaraṇaṃ. ‘‘Yaṃ kho pana kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ paṭiccasamuppannaṃ nirodho tassa nissaraṇa’’nti (paṭi. ma. 1.24) vacanato nibbānameva dukkhassa nissaraṇaṃ. ‘‘Dukkhanirodho samudayanirodho chandarāganirodho dukkhassa nissaraṇa’’nti nānāsaṅkhatapaṭipakkhavasena nānāpariyāyavacanehi catūsu ṭhānesu nibbānameva vuttanti veditabbaṃ. Keci pana ‘‘āhārasamudayā dukkhasamudayo āhāranirodhā dukkhanirodho sarasavasena samudayanirodho, atha vā udayabbayadassanena samudayanirodho saha vipassanāya maggo chandarāganirodho’’ti vadanti. Evañca vuccamāne lokuttarindriyānaṃ avipassanūpagattā na sabbasādhāraṇaṃ hotīti paṭhamaṃ vuttanayova gahetabbo. Lokuttarindriyesu hi chandarāgābhāvatoyeva chandarāganirodhoti yujjati. Sarīre chandarāgeneva sarīrekadesesu kesādīsupi chandarāgo katova hoti, jarāmaraṇavantesu chandarāgeneva jarāmaraṇesupi chandarāgo katova hoti. Evaṃ assādādīnavāpi yojetabbā. Puna dukkhādīni jarāmaraṇapariyantāni dviadhikāni dve padasatāni samudayādīhi chahi chahi padehi yojetvā dviadhikānaṃ dvinnaṃ sattakasatānaṃ vasena nayasahassañca cattāri ca satāni cuddasa ca vissajjanāni niddiṭṭhāni.

    . อิทานิ รูปาทีนิ ชรามรณปริยนฺตานิ เอกาธิกานิ เทฺว ปทสตานิ สตฺตหิ อนุปสฺสนาหิ โยเชตฺวา นิทฺทิสิตุํ ปฐมํ ตาว อนิจฺจานุปสฺสนาทโย สตฺต อนุปสฺสนา นิทฺทิฎฺฐาฯ ตานิ สพฺพานิ สตฺตหิ สุทฺธิกอนุปสฺสนาวิสฺสชฺชเนหิ สทฺธิํ สหสฺสญฺจ จตฺตาริ จ สตานิ จุทฺทส จ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติฯ อนิจฺจนฺติ อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนาฯ สา นิจฺจสญฺญาปฎิปกฺขาฯ ทุกฺขนฺติ อนุปสฺสนา ทุกฺขานุปสฺสนาฯ สา สุขสญฺญาปฎิปกฺขาฯ อนตฺตาติ อนุปสฺสนา อนตฺตานุปสฺสนาฯ สา อตฺตสญฺญาปฎิปกฺขาฯ ติสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา นิพฺพินฺทตีติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทา จ สา อนุปสฺสนา จาติ นิพฺพิทานุปสฺสนาฯ สา นนฺทิปฎิปกฺขาฯ จตสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา วิรชฺชตีติ วิราโค, วิราโค จ โส อนุปสฺสนา จาติ วิราคานุปสฺสนาฯ สา ราคปฎิปกฺขาฯ ปญฺจนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา ราคํ นิโรเธตีติ นิโรโธ, นิโรโธ จ โส อนุปสฺสนา จาติ นิโรธานุปสฺสนาฯ สา สมุทยปฎิปกฺขาฯ ฉนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา ปฎินิสฺสชฺชตีติ ปฎินิสฺสโคฺค, ปฎินิสฺสโคฺค จ โส อนุปสฺสนา จาติ ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสนาฯ สา อาทานปฎิปกฺขาฯ โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ อสติปิ วิปสฺสนูปคเตฺต ‘‘สเพฺพ สงฺขารา อนิจฺจา, สเพฺพ สงฺขารา ทุกฺขา, สเพฺพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๗-๒๗๙; ปฎิ. ม. ๑.๓๑) วจนโต เตสมฺปิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตตฺตา ตตฺถ นิจฺจสุขตฺตสญฺญานํ นนฺทิยา ราคสฺส จ อภาวา นิโรธวนฺตานีติ อนุปสฺสนโต ปริจฺจาคปฎินิสฺสคฺคปกฺขนฺทนปฎินิสฺสคฺคสมฺภวโต จ เตหิปิ สตฺต อนุปสฺสนา โยชิตาติ เวทิตพฺพาฯ ชรามรณวเนฺตสุ อนิจฺจาทิโต ทิเฎฺฐสุ ชรามรณมฺปิ อนิจฺจาทิโต ทิฎฺฐํ นาม โหติ, ชรามรณวเนฺตสุ นิพฺพินฺทโนฺต วิรชฺชโนฺต ชรามรเณ นิพฺพิโนฺน จ วิรโตฺต จ โหติ, ชรามรณวเนฺตสุ นิโรธโต ทิเฎฺฐสุ ชรามรณมฺปิ นิโรธโต ทิฎฺฐํ นาม โหติ, ชรามรณวเนฺตสุ ปฎินิสฺสชฺชโนฺต ชรามรณํ ปฎินิสฺสชฺชโนฺตว โหตีติ ชรามรเณหิ สตฺต อนุปสฺสนา โยชิตาติ เวทิตพฺพาฯ

    9. Idāni rūpādīni jarāmaraṇapariyantāni ekādhikāni dve padasatāni sattahi anupassanāhi yojetvā niddisituṃ paṭhamaṃ tāva aniccānupassanādayo satta anupassanā niddiṭṭhā. Tāni sabbāni sattahi suddhikaanupassanāvissajjanehi saddhiṃ sahassañca cattāri ca satāni cuddasa ca vissajjanāni honti. Aniccanti anupassanā aniccānupassanā. Sā niccasaññāpaṭipakkhā. Dukkhanti anupassanā dukkhānupassanā. Sā sukhasaññāpaṭipakkhā. Anattāti anupassanā anattānupassanā. Sā attasaññāpaṭipakkhā. Tissannaṃ anupassanānaṃ paripūrattā nibbindatīti nibbidā, nibbidā ca sā anupassanā cāti nibbidānupassanā. Sā nandipaṭipakkhā. Catassannaṃ anupassanānaṃ paripūrattā virajjatīti virāgo, virāgo ca so anupassanā cāti virāgānupassanā. Sā rāgapaṭipakkhā. Pañcannaṃ anupassanānaṃ paripūrattā rāgaṃ nirodhetīti nirodho, nirodho ca so anupassanā cāti nirodhānupassanā. Sā samudayapaṭipakkhā. Channaṃ anupassanānaṃ paripūrattā paṭinissajjatīti paṭinissaggo, paṭinissaggo ca so anupassanā cāti paṭinissaggānupassanā. Sā ādānapaṭipakkhā. Lokuttarindriyānaṃ asatipi vipassanūpagatte ‘‘sabbe saṅkhārā aniccā, sabbe saṅkhārā dukkhā, sabbe dhammā anattā’’ti (dha. pa. 277-279; paṭi. ma. 1.31) vacanato tesampi aniccadukkhānattattā tattha niccasukhattasaññānaṃ nandiyā rāgassa ca abhāvā nirodhavantānīti anupassanato pariccāgapaṭinissaggapakkhandanapaṭinissaggasambhavato ca tehipi satta anupassanā yojitāti veditabbā. Jarāmaraṇavantesu aniccādito diṭṭhesu jarāmaraṇampi aniccādito diṭṭhaṃ nāma hoti, jarāmaraṇavantesu nibbindanto virajjanto jarāmaraṇe nibbinno ca viratto ca hoti, jarāmaraṇavantesu nirodhato diṭṭhesu jarāmaraṇampi nirodhato diṭṭhaṃ nāma hoti, jarāmaraṇavantesu paṭinissajjanto jarāmaraṇaṃ paṭinissajjantova hotīti jarāmaraṇehi satta anupassanā yojitāti veditabbā.

    ๑๐. อิทานิ อาทีนวญาณสฺส วตฺถุภูตานํ อุปฺปาทาทีนํ ปญฺจนฺนํ อารมฺมณานํ วเสน อุปฺปาทาทีนิ เตสํ เววจนานิ ปญฺจทส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิ, สนฺติปทญาณสฺส ตปฺปฎิปกฺขารมฺมณวเสน อนุปฺปาทาทีนิ ปญฺจทส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิ, ปุน ตาเนว อุปฺปาทานุปฺปาทาทีนิ ปทานิ ยุคฬกวเสน โยเชตฺวา ติํส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ เอวํ อิมสฺมิํ นเยว สฎฺฐิ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติฯ ตตฺถ อุปฺปาโทติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺติฯ ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺติฯ นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารนิมิตฺตํฯ โยคาวจรสฺส หิ สงฺขารา สสณฺฐานา วิย อุปฎฺฐหนฺติ, ตสฺมา นิมิตฺตนฺติ วุจฺจนฺติฯ อายูหนาติ อายติํ ปฎิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํฯ ตญฺหิ อภิสงฺขรณเฎฺฐน อายูหนาติ วุจฺจติฯ

    10. Idāni ādīnavañāṇassa vatthubhūtānaṃ uppādādīnaṃ pañcannaṃ ārammaṇānaṃ vasena uppādādīni tesaṃ vevacanāni pañcadasa vissajjanāni niddiṭṭhāni, santipadañāṇassa tappaṭipakkhārammaṇavasena anuppādādīni pañcadasa vissajjanāni niddiṭṭhāni, puna tāneva uppādānuppādādīni padāni yugaḷakavasena yojetvā tiṃsa vissajjanāni niddiṭṭhāni. Evaṃ imasmiṃ nayeva saṭṭhi vissajjanāni honti. Tattha uppādoti purimakammapaccayā idha uppatti. Pavattanti tathāuppannassa pavatti. Nimittanti sabbampi saṅkhāranimittaṃ. Yogāvacarassa hi saṅkhārā sasaṇṭhānā viya upaṭṭhahanti, tasmā nimittanti vuccanti. Āyūhanāti āyatiṃ paṭisandhihetubhūtaṃ kammaṃ. Tañhi abhisaṅkharaṇaṭṭhena āyūhanāti vuccati.

    ปฎิสนฺธีติ อายติํ อุปฺปตฺติฯ สา หิ ภวนฺตรปฎิสนฺธานโต ปฎิสนฺธีติ วุจฺจติฯ คตีติ ยาย คติยา สา ปฎิสนฺธิ โหติฯ สา หิ คนฺตพฺพโต คตีติ วุจฺจติฯ นิพฺพตฺตีติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํฯ อุปปตฺตีติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ปฎิ. ม. ๑.๗๒) เอวํ วุตฺตา วิปากปวตฺติฯ ชาตีติ ชนนํฯ ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ เตสํ ปฐมํ ปาตุภาโวฯ ชราติ ชีรณํฯ สา ทุวิธา ฐิตญฺญถตฺตลกฺขณสงฺขาตํ สงฺขตลกฺขณญฺจ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺนขนฺธานํ ปุราณภาโว จฯ สา อิธ อธิเปฺปตาฯ พฺยาธีติ ธาตุโกฺขภปจฺจยสมุฎฺฐิโต ปิตฺตเสมฺหวาตสนฺนิปาตอุตุวิปริณามวิสมปริหารอุปกฺกมกมฺมวิปากวเสน อฎฺฐวิโธ อาพาโธฯ วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหติ วิทหตีติ พฺยาธิ, พฺยาธยติ ตาเปติ, กมฺปยตีติ วา พฺยาธิฯ มรณนฺติ มรนฺติ เอเตนาติ มรณํฯ ตํ ทุวิธํ วยลกฺขณสงฺขาตํ สงฺขตลกฺขณญฺจ เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิเจฺฉโท จฯ ตํ อิธ อธิเปฺปตํฯ

    Paṭisandhīti āyatiṃ uppatti. Sā hi bhavantarapaṭisandhānato paṭisandhīti vuccati. Gatīti yāya gatiyā sā paṭisandhi hoti. Sā hi gantabbato gatīti vuccati. Nibbattīti khandhānaṃ nibbattanaṃ. Upapattīti ‘‘samāpannassa vā upapannassa vā’’ti (paṭi. ma. 1.72) evaṃ vuttā vipākapavatti. Jātīti jananaṃ. Tattha tattha nibbattamānānaṃ sattānaṃ ye ye khandhā pātubhavanti, tesaṃ tesaṃ paṭhamaṃ pātubhāvo. Jarāti jīraṇaṃ. Sā duvidhā ṭhitaññathattalakkhaṇasaṅkhātaṃ saṅkhatalakkhaṇañca khaṇḍiccādisammato santatiyaṃ ekabhavapariyāpannakhandhānaṃ purāṇabhāvo ca. Sā idha adhippetā. Byādhīti dhātukkhobhapaccayasamuṭṭhito pittasemhavātasannipātautuvipariṇāmavisamaparihāraupakkamakammavipākavasena aṭṭhavidho ābādho. Vividhaṃ dukkhaṃ ādahati vidahatīti byādhi, byādhayati tāpeti, kampayatīti vā byādhi. Maraṇanti maranti etenāti maraṇaṃ. Taṃ duvidhaṃ vayalakkhaṇasaṅkhātaṃ saṅkhatalakkhaṇañca ekabhavapariyāpannajīvitindriyappabandhavicchedo ca. Taṃ idha adhippetaṃ.

    โสโกติ โสจนํฯ ญาติโภคโรคสีลทิฎฺฐิพฺยสเนหิ ผุฎฺฐสฺส จิตฺตสนฺตาโปฯ ปริเทโวติ ปริเทวนํฯ ญาติพฺยสนาทีหิเยว ผุฎฺฐสฺส วจีปลาโปฯ อุปายาโสติ ภุโส อายาโสฯ ญาติพฺยสนาทีหิเยว ผุฎฺฐสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยวฯ เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปเญฺจว อาทีนวญาณสฺส วตฺถุวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสนฯ ‘‘นิพฺพตฺตี’’ติ หิ อุปฺปาทสฺส, ‘‘ชาตี’’ติ ปฎิสนฺธิยา เววจนํ, ‘‘คติ อุปปตฺตี’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติฯ อนุปฺปาทาทิวจเนหิ ปน นิพฺพานเมว วุตฺตํฯ

    Sokoti socanaṃ. Ñātibhogarogasīladiṭṭhibyasanehi phuṭṭhassa cittasantāpo. Paridevoti paridevanaṃ. Ñātibyasanādīhiyeva phuṭṭhassa vacīpalāpo. Upāyāsoti bhuso āyāso. Ñātibyasanādīhiyeva phuṭṭhassa adhimattacetodukkhappabhāvito dosoyeva. Ettha ca uppādādayo pañceva ādīnavañāṇassa vatthuvasena vuttā, sesā tesaṃ vevacanavasena. ‘‘Nibbattī’’ti hi uppādassa, ‘‘jātī’’ti paṭisandhiyā vevacanaṃ, ‘‘gati upapattī’’ti idaṃ dvayaṃ pavattassa, jarādayo nimittassāti. Anuppādādivacanehi pana nibbānameva vuttaṃ.

    ปุน ตาเนว อุปฺปาทานุปฺปาทาทีนิ สฎฺฐิ ปทานิ ทุกฺขสุขปเทหิ โยเชตฺวา สฎฺฐิ วิสฺสชฺชนานิ, ภยเขมปเทหิ โยเชตฺวา สฎฺฐิ วิสฺสชฺชนานิ, สามิสนิรามิสปเทหิ โยเชตฺวา สฎฺฐิ วิสฺสชฺชนานิ, สงฺขารนิพฺพานปเทหิ โยเชตฺวา สฎฺฐิ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ ตตฺถ ทุกฺขนฺติ อนิจฺจตฺตา ทุกฺขํฯ ทุกฺขปฎิปกฺขโต สุขํฯ ยํ ทุกฺขํ, ตํ ภยํฯ ภยปฎิปกฺขโต เขมํฯ ยํ ภยํ, ตํ วฎฺฎามิสโลกามิเสหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา สามิสํฯ สามิสปฎิปกฺขโต นิรามิสํฯ ยํ สามิสํ, ตํ สงฺขารมตฺตเมวฯ สงฺขารปฎิปกฺขโต สนฺตตฺตา นิพฺพานํฯ สงฺขารา หิ อาทิตฺตา, นิพฺพานํ สนฺตนฺติฯ ทุกฺขากาเรน ภยากาเรน สามิสากาเรน สงฺขารากาเรนาติ เอวํ เตน เตน อากาเรน ปวตฺติํ สนฺธาย ตถา ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติฯ

    Puna tāneva uppādānuppādādīni saṭṭhi padāni dukkhasukhapadehi yojetvā saṭṭhi vissajjanāni, bhayakhemapadehi yojetvā saṭṭhi vissajjanāni, sāmisanirāmisapadehi yojetvā saṭṭhi vissajjanāni, saṅkhāranibbānapadehi yojetvā saṭṭhi vissajjanāni niddiṭṭhāni. Tattha dukkhanti aniccattā dukkhaṃ. Dukkhapaṭipakkhato sukhaṃ. Yaṃ dukkhaṃ, taṃ bhayaṃ. Bhayapaṭipakkhato khemaṃ. Yaṃ bhayaṃ, taṃ vaṭṭāmisalokāmisehi avippamuttattā sāmisaṃ. Sāmisapaṭipakkhato nirāmisaṃ. Yaṃ sāmisaṃ, taṃ saṅkhāramattameva. Saṅkhārapaṭipakkhato santattā nibbānaṃ. Saṅkhārā hi ādittā, nibbānaṃ santanti. Dukkhākārena bhayākārena sāmisākārena saṅkhārākārenāti evaṃ tena tena ākārena pavattiṃ sandhāya tathā tathā vuttanti veditabbanti.

    ๑๑. ปริคฺคหฎฺฐาทีนิ เอกติํส วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺคกฺขณวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา หิ ธมฺมา อาทิโต ปภุติ อุปฺปาทนตฺถํ ปริคฺคยฺหเนฺต อิติ ปริคฺคหา, เตสํ สภาโว ปริคฺคหโฎฺฐฯ เตสํเยว อญฺญมญฺญปริวารภาเวน ปริวารโฎฺฐฯ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรโฎฺฐฯ เตสํเยว สมาธิวเสน เอการมฺมณปริคฺคหมเปกฺขิตฺวา เอกคฺคโฎฺฐฯ นานารมฺมณวิเกฺขปาภาวมเปกฺขิตฺวา อวิเกฺขปโฎฺฐฯ วีริยวเสน ปคฺคหโฎฺฐฯ สมาธิวเสน อุทเกน นฺหานียจุณฺณานํ วิย อวิปฺปกิณฺณตา อวิสารโฎฺฐฯ สมาธิโยเคน อลุลิตตฺตา อนาวิลโฎฺฐฯ อวิกมฺปิตตฺตา อนิญฺชนโฎฺฐฯ เอกตฺตุปฎฺฐานวเสนาติ สมาธิโยเคน จ เอการมฺมเณ ภุสํ ปติฎฺฐานวเสน จฯ ฐิตโฎฺฐติ อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน ปติฎฺฐิตโฎฺฐฯ ตสฺส นิพฺพานารมฺมณสฺส อาลมฺพนภาเวน อารมฺมณโฎฺฐฯ ตเตฺถว นิกามจารภาเวน โคจรโฎฺฐฯ นิสฺสรณปหานภาเวน นิพฺพานสฺส ปหานโฎฺฐฯ กิเลสปริจฺจาควเสน อริยมคฺคสฺส ปริจฺจาคโฎฺฐฯ ทุภโต วุฎฺฐานวเสน วุฎฺฐานโฎฺฐฯ นิมิตฺตปวเตฺตหิ นิวตฺตนวเสน นิวตฺตนโฎฺฐฯ นิพฺพุตตฺตา สนฺตโฎฺฐฯ อตปฺปกตฺตา อุตฺตมตฺตา จ ปณีตโฎฺฐฯ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา, อารมฺมเณ จ อธิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตโฎฺฐฯ อาสวานํ อวิสยภาเวน ปริสุทฺธตฺตา อนาสวโฎฺฐฯ กิเลสกนฺตารสํสารกนฺตาราติกฺกมเนน ตรณโฎฺฐฯ สงฺขารนิมิตฺตาภาเวน อนิมิตฺตโฎฺฐฯ ตณฺหาปณิธิอภาเวน อปฺปณิหิตโฎฺฐฯ อตฺตสาราภาเวน สุญฺญตโฎฺฐฯ วิมุตฺติรเสน เอกรสตาย, สมถวิปสฺสนานํ เอกรสตาย วา เอกรสโฎฺฐฯ สมถวิปสฺสนานํ อญฺญมญฺญํ อนติวตฺตนโฎฺฐฯ เตสํเยว ยุคนทฺธโฎฺฐฯ อริยมคฺคสฺส สงฺขารโต นิคฺคมเน นิยฺยานโฎฺฐฯ นิพฺพานสมฺปาปเนน เหตุโฎฺฐฯ นิพฺพานปจฺจกฺขกรเณน ทสฺสนโฎฺฐฯ อธิปติภาเวน อาธิปเตยฺยโฎฺฐติฯ

    11.Pariggahaṭṭhādīni ekatiṃsa vissajjanāni ariyamaggakkhaṇavasena niddiṭṭhāni. Ariyamaggasampayuttā hi dhammā ādito pabhuti uppādanatthaṃ pariggayhante iti pariggahā, tesaṃ sabhāvo pariggahaṭṭho. Tesaṃyeva aññamaññaparivārabhāvena parivāraṭṭho. Bhāvanāpāripūrivasena paripūraṭṭho. Tesaṃyeva samādhivasena ekārammaṇapariggahamapekkhitvā ekaggaṭṭho. Nānārammaṇavikkhepābhāvamapekkhitvā avikkhepaṭṭho. Vīriyavasena paggahaṭṭho. Samādhivasena udakena nhānīyacuṇṇānaṃ viya avippakiṇṇatā avisāraṭṭho. Samādhiyogena alulitattā anāvilaṭṭho. Avikampitattā aniñjanaṭṭho. Ekattupaṭṭhānavasenāti samādhiyogena ca ekārammaṇe bhusaṃ patiṭṭhānavasena ca. Ṭhitaṭṭhoti ārammaṇe niccalabhāvena patiṭṭhitaṭṭho. Tassa nibbānārammaṇassa ālambanabhāvena ārammaṇaṭṭho. Tattheva nikāmacārabhāvena gocaraṭṭho. Nissaraṇapahānabhāvena nibbānassa pahānaṭṭho. Kilesapariccāgavasena ariyamaggassa pariccāgaṭṭho. Dubhato vuṭṭhānavasena vuṭṭhānaṭṭho. Nimittapavattehi nivattanavasena nivattanaṭṭho. Nibbutattā santaṭṭho. Atappakattā uttamattā ca paṇītaṭṭho. Kilesehi vimuttattā, ārammaṇe ca adhimuttattā vimuttaṭṭho. Āsavānaṃ avisayabhāvena parisuddhattā anāsavaṭṭho. Kilesakantārasaṃsārakantārātikkamanena taraṇaṭṭho. Saṅkhāranimittābhāvena animittaṭṭho. Taṇhāpaṇidhiabhāvena appaṇihitaṭṭho. Attasārābhāvena suññataṭṭho. Vimuttirasena ekarasatāya, samathavipassanānaṃ ekarasatāya vā ekarasaṭṭho. Samathavipassanānaṃ aññamaññaṃ anativattanaṭṭho. Tesaṃyeva yuganaddhaṭṭho. Ariyamaggassa saṅkhārato niggamane niyyānaṭṭho. Nibbānasampāpanena hetuṭṭho. Nibbānapaccakkhakaraṇena dassanaṭṭho. Adhipatibhāvena ādhipateyyaṭṭhoti.

    ๑๒. สมถาทีนิ จตฺตาริ วิสฺสชฺชนานิ สมถวิปสฺสนาวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ อนิจฺจาทิวเสน อนุ อนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนโฎฺฐฯ ยุคนทฺธสฺส สมถวิปสฺสนาทฺวยสฺส เอกรสภาเวน อนติวตฺตนโฎฺฐฯ สิกฺขาทีนิ นว วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺคสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ สิกฺขิตพฺพตฺตา สิกฺขา ฯ ตสฺสา สมาทาตพฺพโต สมาทานโฎฺฐฯ สีเล ปติฎฺฐาย กมฺมฎฺฐานวเสน คหิตสฺส อารมฺมณสฺส ภาวนาปวตฺติฎฺฐานตฺตา โคจรฎฺฐานตฺตา จ โคจรโฎฺฐฯ สมถกาเล วิปสฺสนากาเล วา โกสชฺชวเสน ลีนสฺส จิตฺตสฺส ธมฺมวิจยวีริยปีติสโมฺพชฺฌงฺคภาวนาวเสน อุสฺสาหนโฎฺฐ ปคฺคหโฎฺฐฯ อุทฺธจฺจวเสน อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคภาวนาวเสน สนฺนิสีทาปนโฎฺฐ นิคฺคหโฎฺฐฯ อุโภ วิสุทฺธานนฺติ อุภโต วิสุทฺธานํ, ลีนุทฺธตปกฺขโต นิวาเรตฺวา วิสุทฺธานํ จิตฺตานนฺติ อโตฺถฯ มชฺฌิมภาเว ฐิตานํ สนฺตติวเสน ปวตฺตมานานํ จิตฺตานํ วเสน พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อุสฺสาหนสนฺนิสีทาปเนสุ สพฺยาปาราภาโว อชฺฌุเปกฺขนโฎฺฐฯ สมปฺปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส วเสน ภาวนา วิเสสาธิคมโฎฺฐฯ อริยมคฺคปาตุภาววเสน อุตฺตริปฎิเวธโฎฺฐฯ อริยมคฺคสิทฺธจตุสจฺจปฎิเวธวเสน สจฺจาภิสมยโฎฺฐฯ ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ ปติฎฺฐาปกโฎฺฐฯ สา หิ ตํสมงฺคิปุคฺคลํ นิโรธสงฺขาเต นิพฺพาเน ปติฎฺฐาเปติฯ

    12.Samathādīni cattāri vissajjanāni samathavipassanāvasena niddiṭṭhāni. Aniccādivasena anu anu passanato anupassanaṭṭho. Yuganaddhassa samathavipassanādvayassa ekarasabhāvena anativattanaṭṭho. Sikkhādīni nava vissajjanāni ariyamaggassa ādimajjhapariyosānavasena niddiṭṭhāni. Sikkhitabbattā sikkhā. Tassā samādātabbato samādānaṭṭho. Sīle patiṭṭhāya kammaṭṭhānavasena gahitassa ārammaṇassa bhāvanāpavattiṭṭhānattā gocaraṭṭhānattā ca gocaraṭṭho. Samathakāle vipassanākāle vā kosajjavasena līnassa cittassa dhammavicayavīriyapītisambojjhaṅgabhāvanāvasena ussāhanaṭṭho paggahaṭṭho. Uddhaccavasena uddhatassa cittassa passaddhisamādhiupekkhāsambojjhaṅgabhāvanāvasena sannisīdāpanaṭṭho niggahaṭṭho. Ubho visuddhānanti ubhato visuddhānaṃ, līnuddhatapakkhato nivāretvā visuddhānaṃ cittānanti attho. Majjhimabhāve ṭhitānaṃ santativasena pavattamānānaṃ cittānaṃ vasena bahuvacanaṃ katanti veditabbaṃ. Ussāhanasannisīdāpanesu sabyāpārābhāvo ajjhupekkhanaṭṭho. Samappavattassa cittassa vasena bhāvanā visesādhigamaṭṭho. Ariyamaggapātubhāvavasena uttaripaṭivedhaṭṭho. Ariyamaggasiddhacatusaccapaṭivedhavasena saccābhisamayaṭṭho. Phalasamāpattivasena nirodhe patiṭṭhāpakaṭṭho. Sā hi taṃsamaṅgipuggalaṃ nirodhasaṅkhāte nibbāne patiṭṭhāpeti.

    สทฺธินฺทฺริยาทีนิ ปญฺจ วิสฺสชฺชนานิ อินฺทฺริยฎฺฐวเสน วุตฺตานิฯ อธิโมกฺขโฎฺฐติ อธิมุจฺจนโฎฺฐฯ อุปฎฺฐานโฎฺฐติ อารมฺมณํ อุเปจฺจ ปติฎฺฐานโฎฺฐฯ ทสฺสนโฎฺฐติ สภาวเปกฺขนโฎฺฐฯ สทฺธาพลาทีนิ ปญฺจ วิสฺสชฺชนานิ พลฎฺฐวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ อกมฺปิยเฎฺฐน สทฺธาว พลนฺติ สทฺธาพลํฯ อสฺสทฺธิเยติ อสฺสทฺธิเยนฯ อสฺสทฺธิยนฺติ จ สทฺธาปฎิปกฺขภูโต จิตฺตุปฺปาโทฯ อกมฺปิยโฎฺฐติ อกเมฺปตพฺพโฎฺฐ, กเมฺปตุํ น สกฺกาติ อโตฺถฯ โกสเชฺชติ กุสีตภาวสงฺขาเตน ถินมิเทฺธนฯ ปมาเทติ สติปฎิปเกฺขน จิตฺตุปฺปาเทนฯ อุทฺธเจฺจติ อวูปสมสงฺขาเตน อุทฺธเจฺจนฯ อวิชฺชายาติ โมเหนฯ สติสโมฺพชฺฌงฺคาทีนิ สตฺต วิสฺสชฺชนานิ โพชฺฌงฺคฎฺฐวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ พุชฺฌนกสฺส อโงฺค โพชฺฌโงฺคฯ ปสโตฺถ สุนฺทโร จ โพชฺฌโงฺค สโมฺพชฺฌโงฺค, สติเยว สโมฺพชฺฌโงฺค สติสโมฺพชฺฌโงฺคฯ ธเมฺม วิจินาตีติ ธมฺมวิจโยฯ ปญฺญาเยตํ นามํฯ ปวิจยโฎฺฐติ วิจารโฎฺฐฯ ปีนยตีติ ปีติฯ ผรณโฎฺฐติ วิสรณโฎฺฐฯ ปสฺสมฺภนํ ปสฺสทฺธิอุปสมโฎฺฐติ นิทฺทรถโฎฺฐฯ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ เปกฺขติ อปกฺขปติตาว หุตฺวา เปกฺขตีติ อโตฺถฯ สา อิธ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา, โพชฺฌงฺคุเปกฺขาติปิ ตสฺสา นามํฯ สมวาหิตลกฺขณตฺตา ปฎิสงฺขานโฎฺฐ

    Saddhindriyādīni pañca vissajjanāni indriyaṭṭhavasena vuttāni. Adhimokkhaṭṭhoti adhimuccanaṭṭho. Upaṭṭhānaṭṭhoti ārammaṇaṃ upecca patiṭṭhānaṭṭho. Dassanaṭṭhoti sabhāvapekkhanaṭṭho. Saddhābalādīni pañca vissajjanāni balaṭṭhavasena niddiṭṭhāni. Akampiyaṭṭhena saddhāva balanti saddhābalaṃ. Assaddhiyeti assaddhiyena. Assaddhiyanti ca saddhāpaṭipakkhabhūto cittuppādo. Akampiyaṭṭhoti akampetabbaṭṭho, kampetuṃ na sakkāti attho. Kosajjeti kusītabhāvasaṅkhātena thinamiddhena. Pamādeti satipaṭipakkhena cittuppādena. Uddhacceti avūpasamasaṅkhātena uddhaccena. Avijjāyāti mohena. Satisambojjhaṅgādīni satta vissajjanāni bojjhaṅgaṭṭhavasena niddiṭṭhāni. Bujjhanakassa aṅgo bojjhaṅgo. Pasattho sundaro ca bojjhaṅgo sambojjhaṅgo, satiyeva sambojjhaṅgo satisambojjhaṅgo. Dhamme vicinātīti dhammavicayo. Paññāyetaṃ nāmaṃ. Pavicayaṭṭhoti vicāraṭṭho. Pīnayatīti pīti. Pharaṇaṭṭhoti visaraṇaṭṭho. Passambhanaṃ passaddhi. Upasamaṭṭhoti niddarathaṭṭho. Upapattito ikkhatīti upekkhā, samaṃ pekkhati apakkhapatitāva hutvā pekkhatīti attho. Sā idha tatramajjhattupekkhā, bojjhaṅgupekkhātipi tassā nāmaṃ. Samavāhitalakkhaṇattā paṭisaṅkhānaṭṭho.

    สมฺมาทิฎฺฐาทีนิ อฎฺฐ วิสฺสชฺชนานิ มคฺควเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ สมฺมา ปสฺสติ, สมฺมา วา ตาย ปสฺสนฺติ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา ทิฎฺฐีติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ ตสฺสา สมฺมาทิฎฺฐิยาฯ สมฺมา สงฺกเปฺปติ, สมฺมา วา เตน สงฺกเปฺปนฺติ, ปสโตฺถ สุนฺทโร วา สงฺกโปฺปติ สมฺมาสงฺกโปฺปฯ อภิโรปนโฎฺฐติ จิตฺตสฺส อารมฺมณาโรปนโฎฺฐฯ อารมฺมณาภินิโรปนโฎฺฐติปิ ปาโฐฯ สมฺมา วทติ , สมฺมา วา ตาย วทนฺติ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา วาจาติ สมฺมาวาจาฯ มิจฺฉาวาจาวิรติยา เอตํ นามํฯ ปริคฺคหโฎฺฐติ จตุพฺพิธวจีสํวรปริคฺคหโฎฺฐฯ สมฺมา กโรติ, สมฺมา วา เตน กโรนฺติ, ปสตฺถํ สุนฺทรํ วา กมฺมนฺติ สมฺมากมฺมํ, สมฺมากมฺมเมว สมฺมากมฺมโนฺตฯ มิจฺฉากมฺมนฺตวิรติยา เอตํ นามํฯ สมุฎฺฐานโฎฺฐติ ติวิธกายสํวรสมุฎฺฐานโฎฺฐฯ สมฺมา อาชีวติ, สมฺมา วา เตน อาชีวนฺติ, ปสโตฺถ สุนฺทโร วา อาชีโวติ สมฺมาอาชีโวฯ มิจฺฉาชีววิรติยา เอตํ นามํฯ โวทานโฎฺฐติ ปริสุทฺธโฎฺฐฯ สมฺมา วายมติ, สมฺมา วา เตน วายมนฺติ, ปสโตฺถ สุนฺทโร วา วายาโมติ สมฺมาวายาโมฯ สมฺมา สรติ, สมฺมา วา ตาย สรนฺติ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา สตีติ สมฺมาสติฯ สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วา เตน สมาธิยนฺติ, ปสโตฺถ สุนฺทโร วา สมาธีติ สมฺมาสมาธิ

    Sammādiṭṭhādīni aṭṭha vissajjanāni maggavasena niddiṭṭhāni. Sammā passati, sammā vā tāya passanti, pasatthā sundarā vā diṭṭhīti sammādiṭṭhi. Tassā sammādiṭṭhiyā. Sammā saṅkappeti, sammā vā tena saṅkappenti, pasattho sundaro vā saṅkappoti sammāsaṅkappo. Abhiropanaṭṭhoti cittassa ārammaṇāropanaṭṭho. Ārammaṇābhiniropanaṭṭhotipi pāṭho. Sammā vadati , sammā vā tāya vadanti, pasatthā sundarā vā vācāti sammāvācā. Micchāvācāviratiyā etaṃ nāmaṃ. Pariggahaṭṭhoti catubbidhavacīsaṃvarapariggahaṭṭho. Sammā karoti, sammā vā tena karonti, pasatthaṃ sundaraṃ vā kammanti sammākammaṃ, sammākammameva sammākammanto. Micchākammantaviratiyā etaṃ nāmaṃ. Samuṭṭhānaṭṭhoti tividhakāyasaṃvarasamuṭṭhānaṭṭho. Sammā ājīvati, sammā vā tena ājīvanti, pasattho sundaro vā ājīvoti sammāājīvo. Micchājīvaviratiyā etaṃ nāmaṃ. Vodānaṭṭhoti parisuddhaṭṭho. Sammā vāyamati, sammā vā tena vāyamanti, pasattho sundaro vā vāyāmoti sammāvāyāmo. Sammā sarati, sammā vā tāya saranti, pasatthā sundarā vā satīti sammāsati. Sammā samādhiyati, sammā vā tena samādhiyanti, pasattho sundaro vā samādhīti sammāsamādhi.

    ๑๓. อินฺทฺริยาทีนิ ทส วิสฺสชฺชนานิ ราสิกตฺวา อนุปุพฺพปฎิปาฎิวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ อาธิปเตยฺยโฎฺฐติ อินฺทฎฺฐกรณวเสน อธิปติอโตฺถฯ อกมฺปิยโฎฺฐติ ปฎิปเกฺขหิ กเมฺปตุํ อสกฺกุเณยฺยโฎฺฐฯ นิยฺยานโฎฺฐติ โลกิยโลกุตฺตรานมฺปิ ปฎิปกฺขโต นิคฺคมนโฎฺฐฯ เหตุโฎฺฐติ มิจฺฉาทิฎฺฐาทีนํ ปหานาย สมฺมาทิฎฺฐาทโย เหตูติ วา สเพฺพปิ สมฺมาทิฎฺฐาทโย นิพฺพานสมฺปาปกเหตูติ วา เหตุโฎฺฐฯ สติปฎฺฐาเนสุ อารมฺมเณสุ โอกฺขนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฎฺฐานโต อุปฎฺฐานํ, สติเยว อุปฎฺฐานํ สติปฎฺฐานํฯ กายเวทนาจิตฺตธเมฺมสุ ปนสฺสา อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเส สุภสุขนิจฺจตฺตสญฺญาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติฯ เอตานิ ปุพฺพภาเค นานาจิเตฺตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน เอกาเยว สติ จตฺตาริ นามานิ ลภติฯ

    13.Indriyādīni dasa vissajjanāni rāsikatvā anupubbapaṭipāṭivasena niddiṭṭhāni. Ādhipateyyaṭṭhoti indaṭṭhakaraṇavasena adhipatiattho. Akampiyaṭṭhoti paṭipakkhehi kampetuṃ asakkuṇeyyaṭṭho. Niyyānaṭṭhoti lokiyalokuttarānampi paṭipakkhato niggamanaṭṭho. Hetuṭṭhoti micchādiṭṭhādīnaṃ pahānāya sammādiṭṭhādayo hetūti vā sabbepi sammādiṭṭhādayo nibbānasampāpakahetūti vā hetuṭṭho. Satipaṭṭhānesu ārammaṇesu okkhanditvā pakkhanditvā upaṭṭhānato upaṭṭhānaṃ, satiyeva upaṭṭhānaṃ satipaṭṭhānaṃ. Kāyavedanācittadhammesu panassā asubhadukkhāniccānattākāragahaṇavase subhasukhaniccattasaññāpahānakiccasādhanavasena ca pavattito catudhā bhedo hoti. Etāni pubbabhāge nānācittesu labbhanti, maggakkhaṇe pana ekāyeva sati cattāri nāmāni labhati.

    สมฺมปฺปธาเนสุ ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํฯ สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปตฺตวิรหโต ปธานญฺจ หิตสุขนิปฺผาทกเตฺตน เสฎฺฐภาวาวหนโต ปธานภาวกรณโต วา สมฺมปฺปธานํฯ วีริยเสฺสตํ อธิวจนํฯ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานญฺจ อกุสลกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานานุปฺปตฺติอุปฺปาทฎฺฐิติกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺติโต ปนสฺส จตุธา เภโท โหติฯ เอตานิปิ ปุพฺพภาเค นานาจิเตฺตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน เอกเมว วีริยํ จตฺตาริ นามานิ ลภติฯ ปทหนโฎฺฐติ อุสฺสาหนโฎฺฐฯ ปธานโฎฺฐติปิ ปาโฐ, โสเยวโตฺถฯ

    Sammappadhānesu padahanti etenāti padhānaṃ, sobhanaṃ padhānaṃ sammappadhānaṃ. Sammā vā padahanti etenāti sammappadhānaṃ, sobhanaṃ vā taṃ kilesavirūpattavirahato padhānañca hitasukhanipphādakattena seṭṭhabhāvāvahanato padhānabhāvakaraṇato vā sammappadhānaṃ. Vīriyassetaṃ adhivacanaṃ. Uppannānuppannānaṃ anuppannuppannānañca akusalakusalānaṃ dhammānaṃ pahānānuppattiuppādaṭṭhitikiccasādhanavasena pavattito panassa catudhā bhedo hoti. Etānipi pubbabhāge nānācittesu labbhanti, maggakkhaṇe pana ekameva vīriyaṃ cattāri nāmāni labhati. Padahanaṭṭhoti ussāhanaṭṭho. Padhānaṭṭhotipi pāṭho, soyevattho.

    อิทฺธิปาทานนฺติ เอตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสุ เอเกโก อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อโตฺถฯ อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ, ปฐเมนเตฺถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฎฺฐาโสติ อโตฺถฯ ทุติเยนเตฺถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโทฯ ปาโทติ ปติฎฺฐา, อธิคมูปาโยติ อโตฺถฯ เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริ วิเสสสงฺขาตํ อิทฺธิํ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติฯ เอเต ฉนฺทาทโย ปุพฺพภาเค อธิปติวเสน นานาจิเตฺตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน สเหว ลพฺภนฺติฯ อิชฺฌนโฎฺฐติ นิปฺผชฺชนโฎฺฐ ปติฎฺฐานโฎฺฐ วาฯ สจฺจานนฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํฯ ตถโฎฺฐติ ยถาสภาวโฎฺฐฯ อิมานิ อฎฺฐ วิสฺสชฺชนานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิฯ ปโยคานนฺติ จตุนฺนํ อริยมคฺคปโยคานํฯ ปฎิปฺปสฺสทฺธโฎฺฐติ จตุนฺนํ อริยผลานํ ปฎิปฺปสฺสทฺธโฎฺฐฯ มคฺคปโยโค หิ ผลกฺขเณ ปฎิปฺปสฺสโทฺธ โหติ นิฎฺฐิตกิจฺจตฺตาฯ มคฺคปโยคานํ ผโลทเยน ปฎิปฺปสฺสทฺธภาโว วาฯ ผลานํ สจฺฉิกิริยโฎฺฐติ อริยผลานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปจฺจกฺขกรณโฎฺฐฯ อารมฺมณสจฺฉิกิริยา วุตฺตา โหติ, ผลกฺขเณ ปฎิลาภสจฺฉิกิริยา วาฯ วิตกฺกาทีนิ ปญฺจ วิสฺสชฺชนานิ ฌานงฺควเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ วิตกฺกนํ วิตโกฺก, อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติฯ วิจรณํ วิจาโร, อนุสญฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติฯ อุปวิจารโฎฺฐติ อนุมชฺชนโฎฺฐฯ อภิสนฺทนโฎฺฐติ เตมนโฎฺฐ สมาธิวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคโฎฺฐฯ

    Iddhipādānanti ettha chandavīriyacittavīmaṃsāsu ekeko ijjhatīti iddhi, samijjhati nipphajjatīti attho. Ijjhanti vā etāya sattā iddhā vuddhā ukkaṃsagatā hontīti iddhi, paṭhamenatthena iddhi eva pādo iddhipādo, iddhikoṭṭhāsoti attho. Dutiyenatthena iddhiyā pādoti iddhipādo. Pādoti patiṭṭhā, adhigamūpāyoti attho. Tena hi yasmā uparūpari visesasaṅkhātaṃ iddhiṃ pajjanti pāpuṇanti, tasmā pādoti vuccati. Ete chandādayo pubbabhāge adhipativasena nānācittesu labbhanti, maggakkhaṇe pana saheva labbhanti. Ijjhanaṭṭhoti nipphajjanaṭṭho patiṭṭhānaṭṭho vā. Saccānanti catunnaṃ ariyasaccānaṃ. Tathaṭṭhoti yathāsabhāvaṭṭho. Imāni aṭṭha vissajjanāni lokiyalokuttaramissakāni. Payogānanti catunnaṃ ariyamaggapayogānaṃ. Paṭippassaddhaṭṭhoti catunnaṃ ariyaphalānaṃ paṭippassaddhaṭṭho. Maggapayogo hi phalakkhaṇe paṭippassaddho hoti niṭṭhitakiccattā. Maggapayogānaṃ phalodayena paṭippassaddhabhāvo vā. Phalānaṃ sacchikiriyaṭṭhoti ariyaphalānaṃ paccavekkhaṇavasena paccakkhakaraṇaṭṭho. Ārammaṇasacchikiriyā vuttā hoti, phalakkhaṇe paṭilābhasacchikiriyā vā. Vitakkādīni pañca vissajjanāni jhānaṅgavasena niddiṭṭhāni. Vitakkanaṃ vitakko, ūhananti vuttaṃ hoti. Vicaraṇaṃ vicāro, anusañcaraṇanti vuttaṃ hoti. Upavicāraṭṭhoti anumajjanaṭṭho. Abhisandanaṭṭhoti temanaṭṭho samādhivasena cittassa ekaggaṭṭho.

    อาวชฺชนาทีนิ ปญฺจทส วิสฺสชฺชนานิ ปกิณฺณกวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ปญฺจทฺวารมโนทฺวาเรสุ ภวงฺคารมฺมณโต อญฺญารมฺมเณ จิตฺตสนฺตานํ นเมนฺตานํ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อาวชฺชนโฎฺฐฯ วิญฺญาณสฺส วิชานนโฎฺฐฯ ปญฺญาย ปชานนโฎฺฐฯ สญฺญาย สญฺชานนโฎฺฐฯ สมาธิสฺส เอโกทโฎฺฐฯ ทุติยชฺฌานสฺมิญฺหิ สมาธิ เอโก อุเทตีติ เอโกทีติ วุจฺจติ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา อโคฺค เสโฎฺฐ หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อโตฺถฯ เสโฎฺฐปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติฯ วิตกฺกวิจารวิรหิโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวา อุเทตีติปิ วฎฺฎติฯ สโพฺพปิ วา กุสลสมาธิ นีวรณาทีนํ อุทฺธจฺจเสฺสว วา ปฎิปกฺขตฺตา เตหิ อนชฺฌารุโฬฺหติ อโคฺค หุตฺวา อุเทตีติ วา เตหิ วิรหิโตติ อสหาโย หุตฺวา อุเทตีติ วา เอโกทีติ ยุชฺชติฯ อภิญฺญาย ญาตโฎฺฐติ ญาตปริญฺญาย สภาวชานนโฎฺฐฯ ปริญฺญาย ตีรณโฎฺฐติ ตีรณปริญฺญาย อนิจฺจาทิโต อุปปริกฺขณโฎฺฐฯ ปหานสฺส ปริจฺจาคโฎฺฐติ ปหานปริญฺญาย ปฎิปกฺขปชหนโฎฺฐฯ สมปฺปวตฺตาย ภาวนาย เอกรสโฎฺฐฯ ผสฺสนโฎฺฐติ ผุสนโฎฺฐ วินฺทนโฎฺฐฯ ปีฬาภารวหนาทินา ขนฺธโฎฺฐฯ สุญฺญาทินา ธาตุโฎฺฐฯ สกสกมริยาทายตนาทินา อายตนโฎฺฐฯ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตวเสน สงฺขตโฎฺฐฯ ตพฺพิปรีเตน อสงฺขตโฎฺฐ

    Āvajjanādīni pañcadasa vissajjanāni pakiṇṇakavasena niddiṭṭhāni. Pañcadvāramanodvāresu bhavaṅgārammaṇato aññārammaṇe cittasantānaṃ namentānaṃ dvinnaṃ cittānaṃ āvajjanaṭṭho. Viññāṇassa vijānanaṭṭho. Paññāya pajānanaṭṭho. Saññāya sañjānanaṭṭho. Samādhissa ekodaṭṭho. Dutiyajjhānasmiñhi samādhi eko udetīti ekodīti vuccati, vitakkavicārehi anajjhāruḷhattā aggo seṭṭho hutvā uppajjatīti attho. Seṭṭhopi hi loke ekoti vuccati. Vitakkavicāravirahito vā eko asahāyo hutvā udetītipi vaṭṭati. Sabbopi vā kusalasamādhi nīvaraṇādīnaṃ uddhaccasseva vā paṭipakkhattā tehi anajjhāruḷhoti aggo hutvā udetīti vā tehi virahitoti asahāyo hutvā udetīti vā ekodīti yujjati. Abhiññāya ñātaṭṭhoti ñātapariññāya sabhāvajānanaṭṭho. Pariññāya tīraṇaṭṭhoti tīraṇapariññāya aniccādito upaparikkhaṇaṭṭho. Pahānassa pariccāgaṭṭhoti pahānapariññāya paṭipakkhapajahanaṭṭho. Samappavattāya bhāvanāya ekarasaṭṭho. Phassanaṭṭhoti phusanaṭṭho vindanaṭṭho. Pīḷābhāravahanādinā khandhaṭṭho. Suññādinā dhātuṭṭho. Sakasakamariyādāyatanādinā āyatanaṭṭho. Paccayehi saṅgamma katavasena saṅkhataṭṭho. Tabbiparītena asaṅkhataṭṭho.

    ๑๔. จิตฺตฎฺฐาทีนิ ปญฺจทส วิสฺสชฺชนานิ จิตฺตสมฺพเนฺธน นิทฺทิฎฺฐานิฯ จิตฺตโฎฺฐติ เอตฺถ อารมฺมณํ จิเนฺตตีติ จิตฺตํ, วิชานาตีติ อโตฺถฯ ยํ ปเนตฺถ ชวนํ โหติ, ตํ ชวนวีถิวเสน อตฺตโน สนฺตานํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ, ยํ วิปากํ โหติ, ตํ กมฺมกิเลเสหิ จิตนฺติปิ จิตฺตํ, สพฺพมฺปิ ยถานุรูปํ จิตฺตตาย จิตฺตํ, จิตฺตกรณตาย จิตฺตํ, ยํ วฎฺฎสฺส ปจฺจโย โหติ, ตํ สํสารทุกฺขํ จิโนตีติปิ จิตฺตํฯ เอวํ อารมฺมเณ จิตฺตตาทิโต จิตฺตโฎฺฐฯ จิตฺตุปฺปาทเน ผลุปฺปาทเน วา นาสฺส อนฺตรมตฺถีติ อนนฺตรํ, อนนฺตรสฺส ภาโว อานนฺตริยํ, จิตฺตสฺส อานนฺตริยํ จิตฺตานนฺตริยํ, โส จิตฺตานนฺตริยโฎฺฐฯ อรหโต จุติจิตฺตํ วเชฺชตฺวา ยสฺส กสฺสจิ สมนนฺตรนิรุทฺธสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรจิตฺตุปฺปาทเน สมตฺถภาโว มคฺคจิตฺตสฺส อนนฺตรํ ผลุปฺปาทเน สมตฺถภาโวติ อธิปฺปาโยฯ จิตฺตสฺส วุฎฺฐานโฎฺฐติ โคตฺรภุจิตฺตสฺส นิมิตฺตโต, มคฺคจิตฺตสฺส นิมิตฺตปวตฺตโต วุฎฺฐานโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส วิวฎฺฎนโฎฺฐติ ตเสฺสว จิตฺตทฺวยสฺส ยถาวุตฺตโต วุฎฺฐิตสฺส นิพฺพาเน วิวฎฺฎนโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส เหตุโฎฺฐติ จิตฺตสฺส เหตุปจฺจยภูตานํ นวนฺนํ เหตูนํ เหตุโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส ปจฺจยโฎฺฐติ จิตฺตสฺส วตฺถารมฺมณาทีนํ อเนเกสํ ปจฺจยานํ ปจฺจยโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส วตฺถุโฎฺฐติ จิตฺตสฺส วตฺถุภูตานํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายหทยวตฺถูนํ วตฺถุโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส ภูมโฎฺฐติ จิตฺตสฺส อุปฺปตฺติเทสวเสน กามาวจราทิภูมิอโตฺถฯ จิตฺตสฺส อารมฺมณโฎฺฐติ รูปาทิอารมฺมณโฎฺฐฯ ปริจิตสฺสารมฺมณสฺส สญฺจรณฎฺฐานเฎฺฐน โคจรโฎฺฐฯ อุปริ วุตฺตวิญฺญาณจริยาวเสน จริยโฎฺฐฯ อถ วา ปโยคสมุทาจารโฎฺฐ จริยโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส คมนาภาเวปิ ทูรสนฺติการมฺมณคหณวเสน คตโฎฺฐฯ อภินีหารโฎฺฐติ คหิตารมฺมณโต อญฺญารมฺมณมนสิการตฺถํ จิตฺตสฺส อภินีหรณโฎฺฐฯ จิตฺตสฺส นิยฺยานโฎฺฐติ มคฺคจิตฺตสฺส วฎฺฎโต นิยฺยานโฎฺฐฯ ‘‘เนกฺขมฺมํ ปฎิลทฺธสฺส กามจฺฉนฺทโต จิตฺตํ นิสฺสฎํ โหตี’’ติอาทินา (ปฎิ. ม. ๑.๒๔, ๑๙๑ โถกํ วิสทิสํ) นเยน จิตฺตสฺส นิสฺสรณโฎฺฐ

    14.Cittaṭṭhādīni pañcadasa vissajjanāni cittasambandhena niddiṭṭhāni. Cittaṭṭhoti ettha ārammaṇaṃ cintetīti cittaṃ, vijānātīti attho. Yaṃ panettha javanaṃ hoti, taṃ javanavīthivasena attano santānaṃ cinotītipi cittaṃ, yaṃ vipākaṃ hoti, taṃ kammakilesehi citantipi cittaṃ, sabbampi yathānurūpaṃ cittatāya cittaṃ, cittakaraṇatāya cittaṃ, yaṃ vaṭṭassa paccayo hoti, taṃ saṃsāradukkhaṃ cinotītipi cittaṃ. Evaṃ ārammaṇe cittatādito cittaṭṭho. Cittuppādane phaluppādane vā nāssa antaramatthīti anantaraṃ, anantarassa bhāvo ānantariyaṃ, cittassa ānantariyaṃ cittānantariyaṃ, so cittānantariyaṭṭho. Arahato cuticittaṃ vajjetvā yassa kassaci samanantaraniruddhassa cittassa anantaracittuppādane samatthabhāvo maggacittassa anantaraṃ phaluppādane samatthabhāvoti adhippāyo. Cittassa vuṭṭhānaṭṭhoti gotrabhucittassa nimittato, maggacittassa nimittapavattato vuṭṭhānaṭṭho. Cittassa vivaṭṭanaṭṭhoti tasseva cittadvayassa yathāvuttato vuṭṭhitassa nibbāne vivaṭṭanaṭṭho. Cittassa hetuṭṭhoti cittassa hetupaccayabhūtānaṃ navannaṃ hetūnaṃ hetuṭṭho. Cittassa paccayaṭṭhoti cittassa vatthārammaṇādīnaṃ anekesaṃ paccayānaṃ paccayaṭṭho. Cittassa vatthuṭṭhoti cittassa vatthubhūtānaṃ cakkhusotaghānajivhākāyahadayavatthūnaṃ vatthuṭṭho. Cittassa bhūmaṭṭhoti cittassa uppattidesavasena kāmāvacarādibhūmiattho. Cittassa ārammaṇaṭṭhoti rūpādiārammaṇaṭṭho. Paricitassārammaṇassa sañcaraṇaṭṭhānaṭṭhena gocaraṭṭho. Upari vuttaviññāṇacariyāvasena cariyaṭṭho. Atha vā payogasamudācāraṭṭho cariyaṭṭho. Cittassa gamanābhāvepi dūrasantikārammaṇagahaṇavasena gataṭṭho. Abhinīhāraṭṭhoti gahitārammaṇato aññārammaṇamanasikāratthaṃ cittassa abhinīharaṇaṭṭho. Cittassa niyyānaṭṭhoti maggacittassa vaṭṭato niyyānaṭṭho. ‘‘Nekkhammaṃ paṭiladdhassa kāmacchandato cittaṃ nissaṭaṃ hotī’’tiādinā (paṭi. ma. 1.24, 191 thokaṃ visadisaṃ) nayena cittassa nissaraṇaṭṭho.

    ๑๕. เอกตฺตาทีนิ ทฺวาจตฺตาลีส วิสฺสชฺชนานิ เอกตฺตสมฺพเนฺธน นิทฺทิฎฺฐานิฯ เอกเตฺตติ อารมฺมเณกเตฺต, เอการมฺมเณติ อโตฺถฯ ปฐมชฺฌานวเสน ปกฺขนฺทนโฎฺฐฯ ทุติยชฺฌานวเสน ปสีทนโฎฺฐฯ ตติยชฺฌานวเสน สนฺติฎฺฐนโฎฺฐฯ จตุตฺถชฺฌานวเสน มุจฺจนโฎฺฐฯ ปจฺจเวกฺขณวเสน เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสนโฎฺฐฯ ยานีกตฎฺฐาทโย ปญฺจ สมาธิสฺส วสีภาววิเสสาฯ ยานีกตโฎฺฐติ ยุตฺตยานสทิสกตโฎฺฐฯ วตฺถุกตโฎฺฐติ ปติฎฺฐเฎฺฐน วตฺถุ วิย กตโฎฺฐฯ อนุฎฺฐิตโฎฺฐติ ปจฺจุปฎฺฐิตโฎฺฐฯ ปริจิตโฎฺฐติ สมนฺตโต จิตโฎฺฐฯ สุสมารทฺธโฎฺฐติ สุฎฺฐุ สมารทฺธโฎฺฐ , สุกตโฎฺฐติ อโตฺถฯ อาวชฺชนสมาปชฺชนอธิฎฺฐานวุฎฺฐานปจฺจเวกฺขณวสิตาวเสน วา ปฎิปาฎิยา ปญฺจ ปทานิ โยเชตพฺพานิฯ กสิณาทิอารมฺมณภาวนาย สิขาปฺปตฺตกาเล จิตฺตเจตสิกานํ ปริคฺคหปริวารปริปูรโฎฺฐฯ เตสํเยว สมฺมา สมาหิตตฺตา เอการมฺมเณ สโมสรเณน สโมธานโฎฺฐฯ เตสํเยว พลปฺปตฺติยา อารมฺมณํ อภิภวิตฺวา ปติฎฺฐานวเสน อธิฎฺฐานโฎฺฐฯ สมถสฺส วิปสฺสนาย วา อาทิโต, อาทเรน วา เสวนวเสน อาเสวนโฎฺฐฯ วฑฺฒนวเสน ภาวนโฎฺฐ ฯ ปุนปฺปุนํ กรณวเสน พหุลีกมฺมโฎฺฐฯ พหุลีกตสฺส สุฎฺฐุ สมุฎฺฐิตวเสน สุสมุคฺคตโฎฺฐฯ สุสมุคฺคตสฺส ปจฺจนีเกหิ สุฎฺฐุ วิมุตฺติวเสน อารมฺมเณ จ สุฎฺฐุ อธิมุตฺติวเสน สุวิมุตฺตโฎฺฐ

    15.Ekattādīni dvācattālīsa vissajjanāni ekattasambandhena niddiṭṭhāni. Ekatteti ārammaṇekatte, ekārammaṇeti attho. Paṭhamajjhānavasena pakkhandanaṭṭho. Dutiyajjhānavasena pasīdanaṭṭho. Tatiyajjhānavasena santiṭṭhanaṭṭho. Catutthajjhānavasena muccanaṭṭho. Paccavekkhaṇavasena etaṃ santanti passanaṭṭho. Yānīkataṭṭhādayo pañca samādhissa vasībhāvavisesā. Yānīkataṭṭhoti yuttayānasadisakataṭṭho. Vatthukataṭṭhoti patiṭṭhaṭṭhena vatthu viya kataṭṭho. Anuṭṭhitaṭṭhoti paccupaṭṭhitaṭṭho. Paricitaṭṭhoti samantato citaṭṭho. Susamāraddhaṭṭhoti suṭṭhu samāraddhaṭṭho , sukataṭṭhoti attho. Āvajjanasamāpajjanaadhiṭṭhānavuṭṭhānapaccavekkhaṇavasitāvasena vā paṭipāṭiyā pañca padāni yojetabbāni. Kasiṇādiārammaṇabhāvanāya sikhāppattakāle cittacetasikānaṃ pariggahaparivāraparipūraṭṭho. Tesaṃyeva sammā samāhitattā ekārammaṇe samosaraṇena samodhānaṭṭho. Tesaṃyeva balappattiyā ārammaṇaṃ abhibhavitvā patiṭṭhānavasena adhiṭṭhānaṭṭho. Samathassa vipassanāya vā ādito, ādarena vā sevanavasena āsevanaṭṭho. Vaḍḍhanavasena bhāvanaṭṭho. Punappunaṃ karaṇavasena bahulīkammaṭṭho. Bahulīkatassa suṭṭhu samuṭṭhitavasena susamuggataṭṭho. Susamuggatassa paccanīkehi suṭṭhu vimuttivasena ārammaṇe ca suṭṭhu adhimuttivasena suvimuttaṭṭho.

    พุชฺฌนฎฺฐาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ โพชฺฌงฺควเสน วุตฺตานิฯ โสตาปตฺติมคฺคโพชฺฌงฺคานํ พุชฺฌนโฎฺฐฯ สกทาคามิมคฺคโพชฺฌงฺคานํ อนุพุชฺฌนโฎฺฐฯ อนาคามิมคฺคโพชฺฌงฺคานํ ปฎิพุชฺฌนโฎฺฐฯ อรหตฺตมคฺคโพชฺฌงฺคานํ สมฺพุชฺฌนโฎฺฐฯ วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคานํ วา พุชฺฌนโฎฺฐฯ ทสฺสนมคฺคโพชฺฌงฺคานํ อนุพุชฺฌนโฎฺฐฯ ภาวนามคฺคโพชฺฌงฺคานํ ปฎิพุชฺฌนโฎฺฐฯ ผลโพชฺฌงฺคานํ สมฺพุชฺฌนโฎฺฐฯ ยถาวุตฺตนเยเนว โพชฺฌงฺคานํ ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส โพธนาทิกรเณน โพธนฎฺฐาทโย จตฺตาโร อตฺถา เวทิตพฺพาฯ ยถาวุตฺตานํเยว โพชฺฌงฺคานํ พุชฺฌนเฎฺฐน ‘‘โพโธ’’ติ ลทฺธนามสฺส ปุคฺคลสฺส ปเกฺข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นามฯ เตสํ ยถาวุตฺตานํเยว โพธิปกฺขิยฎฺฐาทโย จตฺตาโร อตฺถา เวทิตพฺพาฯ วิปสฺสนาปญฺญาวเสน โชตนโฎฺฐฯ กมโต จตุมคฺคปญฺญาวเสน อุโชฺชตนานุโชฺชตนปฎิโชฺชตนสโญฺชตนโฎฺฐฯ กมโต จตุมคฺคปญฺญาวเสน วา โชตนฎฺฐาทโย, ผลปญฺญาวเสน สโญฺชตนโฎฺฐ เวทิตโพฺพฯ

    Bujjhanaṭṭhādīni cattāri padāni bojjhaṅgavasena vuttāni. Sotāpattimaggabojjhaṅgānaṃ bujjhanaṭṭho. Sakadāgāmimaggabojjhaṅgānaṃ anubujjhanaṭṭho. Anāgāmimaggabojjhaṅgānaṃ paṭibujjhanaṭṭho. Arahattamaggabojjhaṅgānaṃ sambujjhanaṭṭho. Vipassanābojjhaṅgānaṃ vā bujjhanaṭṭho. Dassanamaggabojjhaṅgānaṃ anubujjhanaṭṭho. Bhāvanāmaggabojjhaṅgānaṃ paṭibujjhanaṭṭho. Phalabojjhaṅgānaṃ sambujjhanaṭṭho. Yathāvuttanayeneva bojjhaṅgānaṃ tassa tassa puggalassa bodhanādikaraṇena bodhanaṭṭhādayo cattāro atthā veditabbā. Yathāvuttānaṃyeva bojjhaṅgānaṃ bujjhanaṭṭhena ‘‘bodho’’ti laddhanāmassa puggalassa pakkhe bhavattā bodhipakkhiyā nāma. Tesaṃ yathāvuttānaṃyeva bodhipakkhiyaṭṭhādayo cattāro atthā veditabbā. Vipassanāpaññāvasena jotanaṭṭho. Kamato catumaggapaññāvasena ujjotanānujjotanapaṭijjotanasañjotanaṭṭho. Kamato catumaggapaññāvasena vā jotanaṭṭhādayo, phalapaññāvasena sañjotanaṭṭho veditabbo.

    ๑๖. ปตาปนฎฺฐาทีนิ อฎฺฐารส วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺควเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ อริยมโคฺค หิ ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ปตาเปติ ปภาเสติ วิโรจาเปตีติ ปตาปโน, ตสฺส ปตาปนโฎฺฐฯ ตเสฺสว อติปภสฺสรภาเวน สยํ วิโรจนโฎฺฐฯ กิเลสานํ วิโสสเนน สนฺตาปนโฎฺฐฯ อมลนิพฺพานารมฺมณตฺตา อมลโฎฺฐฯ สมฺปยุตฺตมลาภาเวน วิมลโฎฺฐฯ อารมฺมณกรณมลาภาเว นิมฺมลโฎฺฐฯ อถ วา โสตาปตฺติมคฺคสฺส อมลโฎฺฐฯ สกทาคามิอนาคามิมคฺคานํ วิมลโฎฺฐฯ อรหตฺตมคฺคสฺส นิมฺมลโฎฺฐฯ อถ วา สาวกมคฺคสฺส อมลโฎฺฐฯ ปเจฺจกพุทฺธมคฺคสฺส วิมลโฎฺฐฯ สมฺมาสมฺพุทฺธมคฺคสฺส นิมฺมลโฎฺฐฯ กิเลสวิสมาภาเวน สมโฎฺฐฯ ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘; อ. นิ. ๓.๓๓; ๕.๒๐๐) วิย กิเลสปฺปหานเฎฺฐน สมยโฎฺฐฯ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุเจฺฉทปฎิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสงฺขาเตสุ ปญฺจสุ วิเวเกสุ สมุเจฺฉทวิเวกตฺตา วิเวกโฎฺฐ, วินาภาวโฎฺฐฯ นิสฺสรณวิเวเก นิพฺพาเน จรณโต วิเวกจริยโฎฺฐฯ ปญฺจสุ วิราเคสุ สมุเจฺฉทวิราคตฺตา วิราคโฎฺฐ, วิรชฺชนโฎฺฐฯ นิสฺสรณวิราเค นิพฺพาเน จรณโต วิราคจริยโฎฺฐฯ ปญฺจสุ นิโรเธสุ สมุเจฺฉทนิโรธตฺตา นิโรธโฎฺฐฯ ทุกฺขนิโรเธ นิพฺพาเน จรณโต นิโรธจริยโฎฺฐฯ ปริจฺจาคปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา โวสคฺคโฎฺฐฯ อริยมโคฺค หิ สมุเจฺฉทวเสน กิเลสปฺปหานโต ปริจฺจาคโวสโคฺค, อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนโต ปกฺขนฺทนโวสโคฺค จฯ วิปสฺสนา ปน ตทงฺควเสน กิเลสปฺปหานโต ปริจฺจาคโวสโคฺค, ตนฺนินฺนภาเวน นิพฺพานปกฺขนฺทนโต ปกฺขนฺทนโวสโคฺคฯ น โส อิธ อธิเปฺปโตฯ โวสคฺคภาเวน จรณโต โวสคฺคจริยโฎฺฐฯ ปญฺจสุ วิมุตฺตีสุ สมุเจฺฉทวิมุตฺติตฺตา วิมุตฺตโฎฺฐฯ นิสฺสรณวิมุตฺติยํ จรณโต วิมุตฺติจริยโฎฺฐ

    16.Patāpanaṭṭhādīni aṭṭhārasa vissajjanāni ariyamaggavasena niddiṭṭhāni. Ariyamaggo hi yassuppajjati, taṃ patāpeti pabhāseti virocāpetīti patāpano, tassa patāpanaṭṭho. Tasseva atipabhassarabhāvena sayaṃ virocanaṭṭho. Kilesānaṃ visosanena santāpanaṭṭho. Amalanibbānārammaṇattā amalaṭṭho. Sampayuttamalābhāvena vimalaṭṭho. Ārammaṇakaraṇamalābhāve nimmalaṭṭho. Atha vā sotāpattimaggassa amalaṭṭho. Sakadāgāmianāgāmimaggānaṃ vimalaṭṭho. Arahattamaggassa nimmalaṭṭho. Atha vā sāvakamaggassa amalaṭṭho. Paccekabuddhamaggassa vimalaṭṭho. Sammāsambuddhamaggassa nimmalaṭṭho. Kilesavisamābhāvena samaṭṭho. ‘‘Sammā mānābhisamayā’’tiādīsu (ma. ni. 1.28; a. ni. 3.33; 5.200) viya kilesappahānaṭṭhena samayaṭṭho. Vikkhambhanatadaṅgasamucchedapaṭippassaddhinissaraṇasaṅkhātesu pañcasu vivekesu samucchedavivekattā vivekaṭṭho, vinābhāvaṭṭho. Nissaraṇaviveke nibbāne caraṇato vivekacariyaṭṭho. Pañcasu virāgesu samucchedavirāgattā virāgaṭṭho, virajjanaṭṭho. Nissaraṇavirāge nibbāne caraṇato virāgacariyaṭṭho. Pañcasu nirodhesu samucchedanirodhattā nirodhaṭṭho. Dukkhanirodhe nibbāne caraṇato nirodhacariyaṭṭho. Pariccāgapakkhandanavosaggattā vosaggaṭṭho. Ariyamaggo hi samucchedavasena kilesappahānato pariccāgavosaggo, ārammaṇakaraṇena nibbānapakkhandanato pakkhandanavosaggo ca. Vipassanā pana tadaṅgavasena kilesappahānato pariccāgavosaggo, tanninnabhāvena nibbānapakkhandanato pakkhandanavosaggo. Na so idha adhippeto. Vosaggabhāvena caraṇato vosaggacariyaṭṭho. Pañcasu vimuttīsu samucchedavimuttittā vimuttaṭṭho. Nissaraṇavimuttiyaṃ caraṇato vimutticariyaṭṭho.

    ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสงฺขาเตสุ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ เอเกกอิทฺธิปาทวเสน ทส ทส กตฺวา จตุริทฺธิปาทวเสน ฉนฺทฎฺฐาทีนิ จตฺตาลีส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ กตฺตุกมฺยตโฎฺฐ ฉนฺทโฎฺฐฯ ฉนฺทํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลโฎฺฐฯ สหชาตานํ ปติฎฺฐาภาเวน ปาทโฎฺฐฯ ปทโฎฺฐติ วา ปาโฐฯ อิทฺธิปาทตฺตา อธิปติภาเวน ปธานโฎฺฐฯ ปโยคกาเล อิชฺฌนโฎฺฐฯ สทฺธาสมฺปโยเคน อธิโมกฺขโฎฺฐฯ วีริยสมฺปโยเคน ปคฺคหโฎฺฐฯ สติสมฺปโยเคน อุปฎฺฐานโฎฺฐฯ สมาธิสมฺปโยเคน อวิเกฺขปโฎฺฐฯ ปญฺญาสมฺปโยเคน ทสฺสนโฎฺฐฯ ปคฺคหโฎฺฐ วีริยโฎฺฐฯ วีริยํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลโฎฺฐฯ สยํ วีริยตฺตา ปคฺคหโฎฺฐฯ จินฺตนฎฺฐาทิโก จิตฺตโฎฺฐฯ จิตฺตํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลโฎฺฐฯ อุปปริกฺขนโฎฺฐ วีมํสโฎฺฐฯ วีมํสํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลโฎฺฐฯ สยํ วีมํสตฺตา ทสฺสนโฎฺฐฯ

    Chandavīriyacittavīmaṃsāsaṅkhātesu catūsu iddhipādesu ekekaiddhipādavasena dasa dasa katvā caturiddhipādavasena chandaṭṭhādīni cattālīsa vissajjanāni niddiṭṭhāni. Kattukamyataṭṭho chandaṭṭho. Chandaṃ sīsaṃ katvā bhāvanārambhakāle mūlaṭṭho. Sahajātānaṃ patiṭṭhābhāvena pādaṭṭho. Padaṭṭhoti vā pāṭho. Iddhipādattā adhipatibhāvena padhānaṭṭho. Payogakāle ijjhanaṭṭho. Saddhāsampayogena adhimokkhaṭṭho. Vīriyasampayogena paggahaṭṭho. Satisampayogena upaṭṭhānaṭṭho. Samādhisampayogena avikkhepaṭṭho. Paññāsampayogena dassanaṭṭho. Paggahaṭṭho vīriyaṭṭho. Vīriyaṃ sīsaṃ katvā bhāvanārambhakāle mūlaṭṭho. Sayaṃ vīriyattā paggahaṭṭho. Cintanaṭṭhādiko cittaṭṭho. Cittaṃ sīsaṃ katvā bhāvanārambhakāle mūlaṭṭho. Upaparikkhanaṭṭho vīmaṃsaṭṭho. Vīmaṃsaṃ sīsaṃ katvā bhāvanārambhakāle mūlaṭṭho. Sayaṃ vīmaṃsattā dassanaṭṭho.

    ๑๗. ทุกฺขสฺส ปีฬนโฎฺฐติอาทีนิ โสฬส วิสฺสชฺชนานิ สจฺจานํ ตถลกฺขณวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ทุกฺขทสฺสเนเนว ปีฬนโฎฺฐฯ ทุกฺขายูหนสมุทยทสฺสเนน สงฺขตโฎฺฐฯ สพฺพกิเลสสนฺตาปหรสุสีตลมคฺคทสฺสเนน สนฺตาปโฎฺฐฯ อวิปริณามธมฺมนิโรธทสฺสเนน วิปริณามโฎฺฐฯ สมุทยทสฺสเนเนว อายูหนโฎฺฐฯ สมุทยายูหิตทุกฺขทสฺสเนน นิทานโฎฺฐฯ วิสโญฺญคภูตนิโรธทสฺสเนน สโญฺญคโฎฺฐฯ นิยฺยานภูตมคฺคทสฺสเนน ปลิโพธโฎฺฐฯ นิโรธทสฺสเนเนว นิสฺสรณโฎฺฐฯ อวิเวกภูตสมุทยทสฺสเนน วิเวกโฎฺฐฯ สงฺขตภูตมคฺคทสฺสเนน อสงฺขตโฎฺฐฯ วิสภูตทุกฺขทสฺสเนน อมตโฎฺฐฯ มคฺคทสฺสเนเนว นิยฺยานโฎฺฐฯ นิพฺพานสมฺปตฺติยา อเหตุภูตสมุทยทสฺสเนน เหตุโฎฺฐฯ สุทุทฺทสนิโรธทสฺสเนน ทสฺสนโฎฺฐฯ กปณชนสทิสทุกฺขทสฺสเนน อุฬารกุลสทิโส อาธิปเตยฺยโฎฺฐ ปาตุภวตีติฯ เอวํ ตํตํสจฺจทสฺสเนน ตทญฺญสจฺจทสฺสเนน จ เอเกกสฺส สจฺจสฺส จตฺตาโร จตฺตาโร ลกฺขณฎฺฐา วุตฺตาฯ

    17.Dukkhassa pīḷanaṭṭhotiādīni soḷasa vissajjanāni saccānaṃ tathalakkhaṇavasena niddiṭṭhāni. Dukkhadassaneneva pīḷanaṭṭho. Dukkhāyūhanasamudayadassanena saṅkhataṭṭho. Sabbakilesasantāpaharasusītalamaggadassanena santāpaṭṭho. Avipariṇāmadhammanirodhadassanena vipariṇāmaṭṭho. Samudayadassaneneva āyūhanaṭṭho. Samudayāyūhitadukkhadassanena nidānaṭṭho. Visaññogabhūtanirodhadassanena saññogaṭṭho. Niyyānabhūtamaggadassanena palibodhaṭṭho. Nirodhadassaneneva nissaraṇaṭṭho. Avivekabhūtasamudayadassanena vivekaṭṭho. Saṅkhatabhūtamaggadassanena asaṅkhataṭṭho. Visabhūtadukkhadassanena amataṭṭho. Maggadassaneneva niyyānaṭṭho. Nibbānasampattiyā ahetubhūtasamudayadassanena hetuṭṭho. Sududdasanirodhadassanena dassanaṭṭho. Kapaṇajanasadisadukkhadassanena uḷārakulasadiso ādhipateyyaṭṭho pātubhavatīti. Evaṃ taṃtaṃsaccadassanena tadaññasaccadassanena ca ekekassa saccassa cattāro cattāro lakkhaṇaṭṭhā vuttā.

    ตถฎฺฐาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ สพฺพธมฺมสงฺคาหกทฺวาทสปทวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ตถโฎฺฐติ ยถาสภาวโฎฺฐฯ อนตฺตโฎฺฐติ อตฺตวิรหิตโฎฺฐฯ สจฺจโฎฺฐติ อวิสํวาทนโฎฺฐฯ ปฎิเวธโฎฺฐติ ปฎิวิชฺฌิตพฺพโฎฺฐฯ อภิชานนโฎฺฐติ อภิชานิตพฺพโฎฺฐฯ ปริชานนโฎฺฐติ ญาตตีรณปริญฺญาย ปริชานิตพฺพโฎฺฐฯ ธมฺมโฎฺฐติ สภาวธารณาทิอโตฺถฯ ธาตุโฎฺฐติ สุญฺญาทิอโตฺถฯ ญาตโฎฺฐติ ชานิตุํ สกฺกุเณยฺยโฎฺฐฯ สจฺฉิกิริยโฎฺฐติ สจฺฉิกาตพฺพโฎฺฐฯ ผสฺสนโฎฺฐติ ญาเณน ผุสิตพฺพโฎฺฐฯ อภิสมยโฎฺฐติ ปจฺจเวกฺขณญาเณน อภิสมฺมาคนฺตพฺพโฎฺฐ, ญาเณน ปฎิลภิตพฺพโฎฺฐ วาฯ ปฎิลาโภปิ หิ ‘‘อตฺถาภิสมยา ธีโร’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๐) วิย อภิสมโยติ วุจฺจติฯ

    Tathaṭṭhādīni dvādasa vissajjanāni sabbadhammasaṅgāhakadvādasapadavasena niddiṭṭhāni. Tathaṭṭhoti yathāsabhāvaṭṭho. Anattaṭṭhoti attavirahitaṭṭho. Saccaṭṭhoti avisaṃvādanaṭṭho. Paṭivedhaṭṭhoti paṭivijjhitabbaṭṭho. Abhijānanaṭṭhoti abhijānitabbaṭṭho. Parijānanaṭṭhoti ñātatīraṇapariññāya parijānitabbaṭṭho. Dhammaṭṭhoti sabhāvadhāraṇādiattho. Dhātuṭṭhoti suññādiattho. Ñātaṭṭhoti jānituṃ sakkuṇeyyaṭṭho. Sacchikiriyaṭṭhoti sacchikātabbaṭṭho. Phassanaṭṭhoti ñāṇena phusitabbaṭṭho. Abhisamayaṭṭhoti paccavekkhaṇañāṇena abhisammāgantabbaṭṭho, ñāṇena paṭilabhitabbaṭṭho vā. Paṭilābhopi hi ‘‘atthābhisamayā dhīro’’tiādīsu (saṃ. ni. 1.130) viya abhisamayoti vuccati.

    ๑๘. เนกฺขมฺมาทีนิ สตฺต วิสฺสชฺชนานิ อุปจารชฺฌานวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ เนกฺขมฺมนฺติ กามจฺฉนฺทสฺส ปฎิปโกฺข อโลโภฯ อาโลกสญฺญาติ ถินมิทฺธสฺส ปฎิปเกฺข อาโลกนิมิเตฺต สญฺญาฯ อวิเกฺขโปติ อุทฺธจฺจสฺส ปฎิปโกฺข สมาธิฯ ธมฺมววตฺถานนฺติ วิจิกิจฺฉาย ปฎิปกฺขํ ญาณํฯ ญาณนฺติ อวิชฺชาย ปฎิปกฺขํ ญาณํฯ ปาโมชฺชนฺติ อรติปฎิปกฺขา ปีติฯ ปฐมชฺฌานาทีนิ อฎฺฐ วิสฺสชฺชนานิ รูปารูปสมาปตฺติวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ เหฎฺฐา ปน รูปสมาปตฺติอนนฺตรํ รูปชฺฌานสมฺพเนฺธน จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา นิทฺทิฎฺฐาฯ

    18. Nekkhammādīni satta vissajjanāni upacārajjhānavasena niddiṭṭhāni. Nekkhammanti kāmacchandassa paṭipakkho alobho. Ālokasaññāti thinamiddhassa paṭipakkhe ālokanimitte saññā. Avikkhepoti uddhaccassa paṭipakkho samādhi. Dhammavavatthānanti vicikicchāya paṭipakkhaṃ ñāṇaṃ. Ñāṇanti avijjāya paṭipakkhaṃ ñāṇaṃ. Pāmojjanti aratipaṭipakkhā pīti. Paṭhamajjhānādīni aṭṭha vissajjanāni rūpārūpasamāpattivasena niddiṭṭhāni. Heṭṭhā pana rūpasamāpattianantaraṃ rūpajjhānasambandhena cattāro brahmavihārā niddiṭṭhā.

    อนิจฺจานุปสฺสนาทีนิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส ปุพฺพภาเค อฎฺฐารสมหาวิปสฺสนาวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ เหฎฺฐา ปน รูปาทีหิ โยชนูปคา สตฺต อนุปสฺสนา เอว วุตฺตา, อิธ ปน สพฺพาปิ วุตฺตาฯ กลาปสมฺมสนอุทยพฺพยานุปสฺสนา กสฺมา น วุตฺตาติ เจ? ตาสํ ทฺวินฺนํ วเสน อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ สิชฺฌนโต อิมาสุ วุตฺตาสุ ตา เทฺวปิ วุตฺตาว โหนฺติ, อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ วา วินา ตาสํ ทฺวินฺนํ อปฺปวตฺติโต อิมาสุ วุตฺตาสุ ตา เทฺวปิ วุตฺตาว โหนฺติฯ ขยานุปสฺสนาติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ รูปกฺขนฺธาทีนํ ภงฺคทสฺสนญาณญฺจ ตํตํขนฺธภงฺคทสฺสนานนฺตรํ ตทารมฺมณจิตฺตเจตสิกภงฺคทสฺสนญาณญฺจฯ วยานุปสฺสนาติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ ภงฺคทสฺสนานนฺตรํ ตทนฺวเยเนว อตีตานาคตขนฺธานํ ภงฺคทสฺสนญาณํฯ วิปริณามานุปสฺสนาติ ตสฺมิํ ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ อธิมุตฺตตฺตา, อถ สเพฺพปิ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา วิปริณามวโนฺตติ สเพฺพสํ วิปริณามทสฺสนญาณํฯ อนิมิตฺตานุปสฺสนาติ เอวํ สพฺพสงฺขารานํ วิปริณามํ ทิสฺวา อนิจฺจโต วิปสฺสนฺตสฺส อนิจฺจานุปสฺสนาว นิจฺจนิมิตฺตปชหนวเสน นิจฺจนิมิตฺตาภาวา อนิมิตฺตานุปสฺสนา นาม โหติฯ อปฺปณิหิตานุปสฺสนาติ อนิจฺจานุปสฺสนานนฺตรํ ปวตฺตา ทุกฺขานุปสฺสนาว สุขปตฺถนาปชหนวเสน ปณิธิอภาวา อปฺปณิหิตานุปสฺสนา นาม โหติฯ

    Aniccānupassanādīni lokuttaramaggassa pubbabhāge aṭṭhārasamahāvipassanāvasena niddiṭṭhāni. Heṭṭhā pana rūpādīhi yojanūpagā satta anupassanā eva vuttā, idha pana sabbāpi vuttā. Kalāpasammasanaudayabbayānupassanā kasmā na vuttāti ce? Tāsaṃ dvinnaṃ vasena aniccānupassanādīnaṃ sijjhanato imāsu vuttāsu tā dvepi vuttāva honti, aniccānupassanādīhi vā vinā tāsaṃ dvinnaṃ appavattito imāsu vuttāsu tā dvepi vuttāva honti. Khayānupassanāti paccuppannānaṃ rūpakkhandhādīnaṃ bhaṅgadassanañāṇañca taṃtaṃkhandhabhaṅgadassanānantaraṃ tadārammaṇacittacetasikabhaṅgadassanañāṇañca. Vayānupassanāti paccuppannānaṃ khandhānaṃ bhaṅgadassanānantaraṃ tadanvayeneva atītānāgatakhandhānaṃ bhaṅgadassanañāṇaṃ. Vipariṇāmānupassanāti tasmiṃ bhaṅgasaṅkhāte nirodhe adhimuttattā, atha sabbepi atītānāgatapaccuppannā khandhā vipariṇāmavantoti sabbesaṃ vipariṇāmadassanañāṇaṃ. Animittānupassanāti evaṃ sabbasaṅkhārānaṃ vipariṇāmaṃ disvā aniccato vipassantassa aniccānupassanāva niccanimittapajahanavasena niccanimittābhāvā animittānupassanā nāma hoti. Appaṇihitānupassanāti aniccānupassanānantaraṃ pavattā dukkhānupassanāva sukhapatthanāpajahanavasena paṇidhiabhāvā appaṇihitānupassanā nāma hoti.

    สุญฺญตานุปสฺสนาติ ทุกฺขานุปสฺสนานนฺตรํ ปวตฺตา อนตฺตานุปสฺสนาว อตฺตาภินิเวสปชหนวเสน อตฺตสุญฺญตาทสฺสนโต สุญฺญตานุปสฺสนา นาม โหติฯ อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาติ เอวํ สงฺขารานํ ภงฺคํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนฺตสฺส สงฺขาราว ภิชฺชนฺติ, สงฺขารานํ มรณํ น อโญฺญ โกจิ อตฺถีติ ภงฺควเสน สุญฺญตํ คเหตฺวา ปวตฺตา วิปสฺสนาฯ สา หิ อธิปญฺญา จ ธเมฺมสุ จ วิปสฺสนาติ กตฺวา อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาติ วุจฺจติฯ ยถาภูตญาณทสฺสนนฺติ ภงฺคํ ทิสฺวา ทิสฺวา ‘‘สภยา สงฺขารา’’ติ ปวตฺตํ ภยตุปฎฺฐานญาณํฯ อาทีนวานุปสฺสนาติ ภยตุปฎฺฐานวเสน อุปฺปนฺนํ สพฺพภวาทีสุ อาทีนวทสฺสนญาณํฯ ‘‘ยา จ ภยตุปฎฺฐาเน ปญฺญา ยญฺจ อาทีนเว ญาณํ ยา จ นิพฺพิทา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฎิ. ม. ๑.๒๒๗) วจนโต ภยตุปฎฺฐานาทีนวานุปสฺสนาสุ วุตฺตาสุ นิพฺพิทานุปสฺสนา อิธาปิ วุตฺตาว โหติฯ อาทิโต จตุตฺถํ กตฺวา วุตฺตตฺตา ปนิธ น วุตฺตาฯ ปฎิสงฺขานุปสฺสนาติ มุญฺจิตุกมฺยตาญาณวเสน อุปฺปนฺนํ มุญฺจนสฺส อุปายกรณํ ปฎิสงฺขานุปสฺสนาสญฺญิตํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตานุปสฺสนาญาณํฯ ‘‘ยา จ มุญฺจิตุกมฺยตา ยา จ ปฎิสงฺขานุปสฺสนา ยา จ สงฺขารุเปกฺขา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฎิ. ม. ๑.๒๒๗) วจนโต ปฎิสงฺขานุปสฺสนาย วุตฺตาย มุญฺจิตุกมฺยตาสงฺขารุเปกฺขาญาณานิ วุตฺตาเนว โหนฺติฯ วิวฎฺฎนานุปสฺสนาติ อนุโลมญาณวเสน อุปฺปนฺนํ โคตฺรภุญาณํฯ อนุโลมญาเณน โคตฺรภุญาณสฺส สิชฺฌนโต โคตฺรภุญาเณ วุเตฺต อนุโลมญาณํ วุตฺตเมว โหติฯ เอวญฺหิ อฎฺฐารสนฺนํ มหาวิปสฺสนานํ ปฎิปาฎิ วุจฺจมานา ปาฬิยา สเมติฯ วุตฺตญฺหิ อินฺทฺริยกถายํ –

    Suññatānupassanāti dukkhānupassanānantaraṃ pavattā anattānupassanāva attābhinivesapajahanavasena attasuññatādassanato suññatānupassanā nāma hoti. Adhipaññādhammavipassanāti evaṃ saṅkhārānaṃ bhaṅgaṃ passitvā passitvā aniccādito vipassantassa saṅkhārāva bhijjanti, saṅkhārānaṃ maraṇaṃ na añño koci atthīti bhaṅgavasena suññataṃ gahetvā pavattā vipassanā. Sā hi adhipaññā ca dhammesu ca vipassanāti katvā adhipaññādhammavipassanāti vuccati. Yathābhūtañāṇadassananti bhaṅgaṃ disvā disvā ‘‘sabhayā saṅkhārā’’ti pavattaṃ bhayatupaṭṭhānañāṇaṃ. Ādīnavānupassanāti bhayatupaṭṭhānavasena uppannaṃ sabbabhavādīsu ādīnavadassanañāṇaṃ. ‘‘Yā ca bhayatupaṭṭhāne paññā yañca ādīnave ñāṇaṃ yā ca nibbidā, ime dhammā ekatthā, byañjanameva nāna’’nti (paṭi. ma. 1.227) vacanato bhayatupaṭṭhānādīnavānupassanāsu vuttāsu nibbidānupassanā idhāpi vuttāva hoti. Ādito catutthaṃ katvā vuttattā panidha na vuttā. Paṭisaṅkhānupassanāti muñcitukamyatāñāṇavasena uppannaṃ muñcanassa upāyakaraṇaṃ paṭisaṅkhānupassanāsaññitaṃ aniccadukkhānattānupassanāñāṇaṃ. ‘‘Yā ca muñcitukamyatā yā ca paṭisaṅkhānupassanā yā ca saṅkhārupekkhā, ime dhammā ekatthā, byañjanameva nāna’’nti (paṭi. ma. 1.227) vacanato paṭisaṅkhānupassanāya vuttāya muñcitukamyatāsaṅkhārupekkhāñāṇāni vuttāneva honti. Vivaṭṭanānupassanāti anulomañāṇavasena uppannaṃ gotrabhuñāṇaṃ. Anulomañāṇena gotrabhuñāṇassa sijjhanato gotrabhuñāṇe vutte anulomañāṇaṃ vuttameva hoti. Evañhi aṭṭhārasannaṃ mahāvipassanānaṃ paṭipāṭi vuccamānā pāḷiyā sameti. Vuttañhi indriyakathāyaṃ –

    ‘‘ปุพฺพภาเค ปญฺจหินฺทฺริเยหิ ปฐมชฺฌานวเสน ปญฺจินฺทฺริยานิ นิสฺสฎานิ โหนฺติ, ปฐเม ฌาเน ปญฺจหินฺทฺริเยหิ ทุติยชฺฌานวเสน ปญฺจินฺทฺริยานิ นิสฺสฎานิ โหนฺตี’’ติ (ปฎิ. ม. ๑.๑๙๒) –

    ‘‘Pubbabhāge pañcahindriyehi paṭhamajjhānavasena pañcindriyāni nissaṭāni honti, paṭhame jhāne pañcahindriyehi dutiyajjhānavasena pañcindriyāni nissaṭāni hontī’’ti (paṭi. ma. 1.192) –

    อาทินา นเยน ยาว อรหตฺตผลา อุตฺตรุตฺตริปฎิปาฎิยา อินฺทฺริยานิ วุตฺตานิฯ ตสฺมา อฎฺฐารส มหาวิปสฺสนา ยถาวุตฺตกฺกเมน ปาฬิยา ยุชฺชนฺติฯ วิสุทฺธิมเคฺค ปน –

    Ādinā nayena yāva arahattaphalā uttaruttaripaṭipāṭiyā indriyāni vuttāni. Tasmā aṭṭhārasa mahāvipassanā yathāvuttakkamena pāḷiyā yujjanti. Visuddhimagge pana –

    ‘‘ขยานุปสฺสนาติ ฆนวินิโพฺภคํ กตฺวา อนิจฺจํ ขยเฎฺฐนาติ เอวํ ขยํ ปสฺสโต ญาณํฯ วิปริณามานุปสฺสนาติ รูปสตฺตกอรูปสตฺตกาทิวเสน ตํ ตํ ปริเจฺฉทํ อติกฺกมฺม อญฺญถา ปวตฺติทสฺสนํฯ อุปฺปนฺนสฺส วา ชราย เจว มรเณน จ ทฺวีหากาเรหิ วิปริณามทสฺสนํฯ ยถาภูตญาณทสฺสนนฺติ สปจฺจยนามรูปปริคฺคโห’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๕๐) –

    ‘‘Khayānupassanāti ghanavinibbhogaṃ katvā aniccaṃ khayaṭṭhenāti evaṃ khayaṃ passato ñāṇaṃ. Vipariṇāmānupassanāti rūpasattakaarūpasattakādivasena taṃ taṃ paricchedaṃ atikkamma aññathā pavattidassanaṃ. Uppannassa vā jarāya ceva maraṇena ca dvīhākārehi vipariṇāmadassanaṃ. Yathābhūtañāṇadassananti sapaccayanāmarūpapariggaho’’ti (visuddhi. 2.850) –

    วุตฺตํฯ ตํ ตาย ปาฬิยา วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติฯ วิวฎฺฎนานุปสฺสนาติ สงฺขารุเปกฺขา เจว อนุโลมญฺจาติ วุตฺตํฯ ตญฺจ ปาฬิยา วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติฯ จริยากถายญฺหิ –

    Vuttaṃ. Taṃ tāya pāḷiyā viruddhaṃ viya dissati. Vivaṭṭanānupassanāti saṅkhārupekkhā ceva anulomañcāti vuttaṃ. Tañca pāḷiyā viruddhaṃ viya dissati. Cariyākathāyañhi –

    ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนตฺถาย อาวชฺชนกิริยาพฺยากตา วิญฺญาณจริยาฯ อนิจฺจานุปสฺสนา ญาณจริยา…เป.… ปฎิสงฺขานุปสฺสนตฺถาย อาวชฺชนกิริยาพฺยากตา วิญฺญาณจริยาฯ ปฎิสงฺขานุปสฺสนา ญาณจริยา’’ติ (ปฎิ. ม. ๑.๗๑) –

    ‘‘Aniccānupassanatthāya āvajjanakiriyābyākatā viññāṇacariyā. Aniccānupassanā ñāṇacariyā…pe… paṭisaṅkhānupassanatthāya āvajjanakiriyābyākatā viññāṇacariyā. Paṭisaṅkhānupassanā ñāṇacariyā’’ti (paṭi. ma. 1.71) –

    ยสฺส ยสฺส ญาณสฺส วิสุํ วิสุํ อาวชฺชนํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วิสุํ วิสุํ อาวชฺชนํ วุตฺตํฯ วิวฎฺฎนานุปสฺสนาย ปน อาวชฺชนํ อวตฺวาว ‘‘วิวฎฺฎนานุปสฺสนา ญาณจริยา’’ติ วุตฺตํฯ ยทิ สงฺขารุเปกฺขานุโลมญาณานิ วิวฎฺฎนานุปสฺสนา นาม สิยุํ, ตทาวชฺชนสมฺภวา ตทตฺถาย จ อาวชฺชนํ วเทยฺย, น จ ตทตฺถาย อาวชฺชนํ วุตฺตํฯ โคตฺรภุญาณสฺส ปน วิสุํ อาวชฺชนํ นตฺถิ อนุโลมาวชฺชนวีถิยํเยว อุปฺปตฺติโตฯ ตสฺมา วิวฎฺฎนานุปสฺสนตฺถาย อาวชฺชนสฺส อวุตฺตตฺตา โคตฺรภุญาณเมว ‘‘วิวฎฺฎนานุปสฺสนา’’ติ ยุชฺชติฯ

    Yassa yassa ñāṇassa visuṃ visuṃ āvajjanaṃ labbhati, tassa tassa visuṃ visuṃ āvajjanaṃ vuttaṃ. Vivaṭṭanānupassanāya pana āvajjanaṃ avatvāva ‘‘vivaṭṭanānupassanā ñāṇacariyā’’ti vuttaṃ. Yadi saṅkhārupekkhānulomañāṇāni vivaṭṭanānupassanā nāma siyuṃ, tadāvajjanasambhavā tadatthāya ca āvajjanaṃ vadeyya, na ca tadatthāya āvajjanaṃ vuttaṃ. Gotrabhuñāṇassa pana visuṃ āvajjanaṃ natthi anulomāvajjanavīthiyaṃyeva uppattito. Tasmā vivaṭṭanānupassanatthāya āvajjanassa avuttattā gotrabhuñāṇameva ‘‘vivaṭṭanānupassanā’’ti yujjati.

    ๑๙. โสตาปตฺติมคฺคาทีนิ อฎฺฐ วิสฺสชฺชนานิ โลกุตฺตรมคฺคผลวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ โสตสฺส อาปชฺชนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติ เอว มโคฺค โสตาปตฺติมโคฺคฯ โสตาปตฺติยา ผลํ โสตาปตฺติผลํ, สมาปชฺชียตีติ สมาปตฺติ, โสตาปตฺติผลเมว สมาปตฺติ โสตาปตฺติผลสมาปตฺติฯ ปฎิสนฺธิวเสน สกิํเยว อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มโคฺค สกทาคามิมโคฺคฯ สกทาคามิสฺส ผลํ สกทาคามิผลํฯ ปฎิสนฺธิวเสเนว กามภวํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มโคฺค อนาคามิมโคฺคฯ อนาคามิสฺส ผลํ อนาคามิผลํฯ กิเลเสหิ อารกตฺตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส อรานํ หตตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา อรหํ, อรหโต ภาโว อรหตฺตํฯ กิํ ตํ? อรหตฺตผลํฯ อรหตฺตสฺส มโคฺค อรหตฺตมโคฺคฯ อรหตฺตเมว ผลํ อรหตฺตผลํ

    19.Sotāpattimaggādīni aṭṭha vissajjanāni lokuttaramaggaphalavasena niddiṭṭhāni. Sotassa āpajjanaṃ sotāpatti, sotāpatti eva maggo sotāpattimaggo. Sotāpattiyā phalaṃ sotāpattiphalaṃ, samāpajjīyatīti samāpatti, sotāpattiphalameva samāpatti sotāpattiphalasamāpatti. Paṭisandhivasena sakiṃyeva imaṃ lokaṃ āgacchatīti sakadāgāmī, tassa maggo sakadāgāmimaggo. Sakadāgāmissa phalaṃ sakadāgāmiphalaṃ. Paṭisandhivaseneva kāmabhavaṃ na āgacchatīti anāgāmī, tassa maggo anāgāmimaggo. Anāgāmissa phalaṃ anāgāmiphalaṃ. Kilesehi ārakattā, kilesārīnaṃ hatattā, saṃsāracakkassa arānaṃ hatattā, pāpakaraṇe rahābhāvā, paccayādīnaṃ arahattā arahaṃ, arahato bhāvo arahattaṃ. Kiṃ taṃ? Arahattaphalaṃ. Arahattassa maggo arahattamaggo. Arahattameva phalaṃ arahattaphalaṃ.

    ‘‘อธิโมกฺขเฎฺฐน สทฺธินฺทฺริย’’นฺติอาทีนิ ‘‘ตถเฎฺฐน สจฺจา’’ติปริยนฺตานิ เตตฺติํส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฎฺฐานิฯ เหฎฺฐา ‘‘สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขโฎฺฐ’’ติอาทีหิ เตตฺติํสาย วิสฺสชฺชเนหิ สมานานิฯ เกวลญฺหิ ตตฺถ ธเมฺมหิ อตฺถา นิทฺทิฎฺฐา, อิธ อเตฺถหิ ธมฺมา นิทฺทิฎฺฐาติ อยํ วิเสโสฯ ‘‘อวิเกฺขปเฎฺฐน สมโถ’’ติอาทีนญฺจ จตุนฺนํ วิสฺสชฺชนานํ เหฎฺฐา ‘‘สมถสฺส อวิเกฺขปโฎฺฐ’’ติอาทีนญฺจ จตุนฺนํ วิสฺสชฺชนานํ วิเสโส วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ

    ‘‘Adhimokkhaṭṭhena saddhindriya’’ntiādīni ‘‘tathaṭṭhena saccā’’tipariyantāni tettiṃsa vissajjanāni niddiṭṭhāni. Heṭṭhā ‘‘saddhindriyassa adhimokkhaṭṭho’’tiādīhi tettiṃsāya vissajjanehi samānāni. Kevalañhi tattha dhammehi atthā niddiṭṭhā, idha atthehi dhammā niddiṭṭhāti ayaṃ viseso. ‘‘Avikkhepaṭṭhena samatho’’tiādīnañca catunnaṃ vissajjanānaṃ heṭṭhā ‘‘samathassa avikkhepaṭṭho’’tiādīnañca catunnaṃ vissajjanānaṃ viseso vuttanayeneva veditabbo.

    สํวรเฎฺฐนาติอาทีนิ อฎฺฐ วิสฺสชฺชนานิ สีลาทิพลปริโยสานธมฺมวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ สีลวิสุทฺธีติ สุปริสุทฺธปาติโมกฺขสํวราทิจตุพฺพิธํ สีลํ ทุสฺสีลฺยมลวิโสธนโตฯ จิตฺตวิสุทฺธีติ สอุปจารา อฎฺฐ สมาปตฺติโยฯ จิตฺตสีเสน เหตฺถ สมาธิ วุโตฺตฯ โส จิตฺตมลวิโสธนโต จิตฺตวิสุทฺธิฯ ทิฎฺฐิวิสุทฺธีติ นามรูปานํ ยถาสภาวทสฺสนํ สตฺตทิฎฺฐิมลวิโสธนโต ทิฎฺฐิวิสุทฺธิฯ มุตฺตเฎฺฐนาติ ตทงฺควเสน อุปกฺกิเลสโต วิมุตฺตเฎฺฐน อารมฺมเณ จ อธิมุตฺตเฎฺฐนฯ วิโมโกฺขติ ตทงฺควิโมโกฺขฯ ปฎิเวธเฎฺฐน วิชฺชาติ ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณํ ปุริมภวปฎิเวธเฎฺฐน วิชฺชา, ทิพฺพจกฺขุญาณํ สตฺตานํ จุตูปปาตปฎิเวธเฎฺฐน วิชฺชา, อาสวานํ ขเย ญาณํ สจฺจปฎิเวธเฎฺฐน วิชฺชาฯ ปฎิเวธเฎฺฐนาติ ชานนเฎฺฐนฯ ปริจฺจาคเฎฺฐน วิมุตฺตีติ ยํ ยํ ปริจฺจตฺตํ, ตโต ตโต วิมุตฺตตฺตา ผลวิมุตฺติฯ สมุเจฺฉทเฎฺฐน ขเย ญาณนฺติ กิเลสสมุจฺฉินฺทนเตฺถน กิเลสกฺขยกเร อริยมเคฺค ญาณํฯ ปฎิปฺปสฺสทฺธเฎฺฐน อนุปฺปาเท ญาณนฺติ มคฺคกิจฺจสงฺขาตปโยคปฎิปฺปสฺสทฺธตฺตา ปฎิสนฺธิวเสน อนุปฺปาทภูเต ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ อนุปฺปาทปริโยสาเน อุปฺปเนฺน อริยผเล ญาณํฯ

    Saṃvaraṭṭhenātiādīni aṭṭha vissajjanāni sīlādibalapariyosānadhammavasena niddiṭṭhāni. Sīlavisuddhīti suparisuddhapātimokkhasaṃvarādicatubbidhaṃ sīlaṃ dussīlyamalavisodhanato. Cittavisuddhīti saupacārā aṭṭha samāpattiyo. Cittasīsena hettha samādhi vutto. So cittamalavisodhanato cittavisuddhi. Diṭṭhivisuddhīti nāmarūpānaṃ yathāsabhāvadassanaṃ sattadiṭṭhimalavisodhanato diṭṭhivisuddhi. Muttaṭṭhenāti tadaṅgavasena upakkilesato vimuttaṭṭhena ārammaṇe ca adhimuttaṭṭhena. Vimokkhoti tadaṅgavimokkho. Paṭivedhaṭṭhena vijjāti pubbenivāsānussatiñāṇaṃ purimabhavapaṭivedhaṭṭhena vijjā, dibbacakkhuñāṇaṃ sattānaṃ cutūpapātapaṭivedhaṭṭhena vijjā, āsavānaṃ khaye ñāṇaṃ saccapaṭivedhaṭṭhena vijjā. Paṭivedhaṭṭhenāti jānanaṭṭhena. Pariccāgaṭṭhena vimuttīti yaṃ yaṃ pariccattaṃ, tato tato vimuttattā phalavimutti. Samucchedaṭṭhena khaye ñāṇanti kilesasamucchindanatthena kilesakkhayakare ariyamagge ñāṇaṃ. Paṭippassaddhaṭṭhena anuppāde ñāṇanti maggakiccasaṅkhātapayogapaṭippassaddhattā paṭisandhivasena anuppādabhūte taṃtaṃmaggavajjhakilesānaṃ anuppādapariyosāne uppanne ariyaphale ñāṇaṃ.

    ๒๐. ฉโนฺท มูลเฎฺฐนาติอาทีนิ นว วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺคสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน นิทฺทิฎฺฐานิฯ ฉโนฺท มูลเฎฺฐนาติ กุสลานํ ธมฺมานํ กตฺตุกมฺยตาฉโนฺท ปฎิปตฺติยา จ นิปฺผตฺติยา จ มูลตฺตา มูลเฎฺฐนฯ มนสิกาโร สมุฎฺฐานเฎฺฐนาติ โยนิโสมนสิกาโร สพฺพกุสลธเมฺม สมุฎฺฐาเปตีติ สมุฎฺฐานเฎฺฐนฯ ผโสฺส สโมธานเฎฺฐนาติ ยสฺมา ตณฺหาย วิเสเสน เวทนา ปธานการณํ, ตณฺหา จ ปหียมานา วิเสเสน เวทนาย ปริญฺญาตาย ปหียติ, ตสฺสา จ เวทนาย ผโสฺสว ปธานการณํ, ตสฺมิํ ปริญฺญาเต เวทนา ปริญฺญาตา โหติ, ตสฺมา สตฺตสุ อภิเญฺญยฺยวตฺถูสุ ผโสฺส ปฐมํ วุโตฺตฯ โส จ ติกสนฺนิปาตสงฺขาตสฺส อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา ‘‘ติกสนฺนิปาตปจฺจุปฎฺฐาโน’’ติ วุตฺตตฺตา สโมธานเฎฺฐน อภิเญฺญโยฺยฯ เกจิ ปน ‘‘ญาณผโสฺส ผโสฺส’’ติ วทนฺติฯ

    20.Chando mūlaṭṭhenātiādīni nava vissajjanāni ariyamaggassa ādimajjhapariyosānavasena niddiṭṭhāni. Chando mūlaṭṭhenāti kusalānaṃ dhammānaṃ kattukamyatāchando paṭipattiyā ca nipphattiyā ca mūlattā mūlaṭṭhena. Manasikāro samuṭṭhānaṭṭhenāti yonisomanasikāro sabbakusaladhamme samuṭṭhāpetīti samuṭṭhānaṭṭhena. Phasso samodhānaṭṭhenāti yasmā taṇhāya visesena vedanā padhānakāraṇaṃ, taṇhā ca pahīyamānā visesena vedanāya pariññātāya pahīyati, tassā ca vedanāya phassova padhānakāraṇaṃ, tasmiṃ pariññāte vedanā pariññātā hoti, tasmā sattasu abhiññeyyavatthūsu phasso paṭhamaṃ vutto. So ca tikasannipātasaṅkhātassa attano kāraṇassa vasena paveditattā ‘‘tikasannipātapaccupaṭṭhāno’’ti vuttattā samodhānaṭṭhena abhiññeyyo. Keci pana ‘‘ñāṇaphasso phasso’’ti vadanti.

    ยสฺมา ปน เวทนา จิตฺตเจตสิเก อตฺตโน วเส วตฺตาปยมานา ตตฺถ สโมสรติ ปวิสติ, จิตฺตสนฺตานเมว วา ปวิสติ, ตสฺมา สโมสรณเฎฺฐน อภิเญฺญยฺยาติ วุตฺตาฯ เกจิ ปน ‘‘สพฺพานิปิ ปริเญฺญยฺยานิ เวทนาสุ สโมสรนฺติ, เวทนาสุ ปริญฺญาตาสุ สพฺพํ ตณฺหาวตฺถุ ปริญฺญาตํ โหติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เวทนาปจฺจยา หิ สพฺพาปิ ตณฺหาฯ ตสฺมา เวทนา สโมสรณเฎฺฐน อภิเญฺญยฺยา’’ติ วทนฺติฯ ยสฺมา สพฺพโคปานสีนํ อาพนฺธนโต กูฎาคารกณฺณิกา วิย จิตฺตเจตสิกานํ สมฺปิณฺฑนโต สมาธิ กุสลานํ ธมฺมานํ ปมุโข โหติ เชฎฺฐโก, ตสฺมา สมาธิ ปมุขเฎฺฐนาติ วุตฺตํฯ ปามุขเฎฺฐนาติปิ ปาโฐฯ ยสฺมา สมถวิปสฺสนํ ภาเวนฺตสฺส อารมฺมณูปฎฺฐานาธิปติ โหติ สติ, สติยา อุปฎฺฐิเต อารมฺมเณ สเพฺพปิ กุสลา ธมฺมา สกํ สกํ กิจฺจํ สาเธนฺติ, ตสฺมา สติ อาธิปเตยฺยเฎฺฐนาติ วุตฺตํฯ ปญฺญา ตทุตฺตรเฎฺฐนาติ อริยมคฺคปญฺญา เตสํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุตฺตรเฎฺฐน เสฎฺฐเฎฺฐน อภิเญฺญยฺยาฯ อถ วา ตโต กิเลเสหิ, สํสารวฎฺฎโต วา อุตฺตรติ สมติกฺกมตีติ ตทุตฺตรา, ตสฺสา อโตฺถ ตทุตฺตรโฎฺฐฯ เตน ตทุตฺตรเฎฺฐนฯ ตตุตฺตรเฎฺฐนาติปิ ปาโฐ, ตโต อุตฺตรเฎฺฐนาติ อโตฺถฯ วิมุตฺติ สารเฎฺฐนาติ ผลวิมุตฺติ อปริหานิวเสน ถิรตฺตา สาโร, ตํ อติกฺกมิตฺวา อญฺญสฺส ปริเยสิตพฺพสฺส อภาวโตปิ สาโรฯ สา วิมุตฺติ เตน สารเฎฺฐน อภิเญฺญยฺยาฯ อมโตคธํ นิพฺพานนฺติ นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ, กิเลสวิสปฎิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ , สจฺฉิกิริยาย สตฺตานํ ปติฎฺฐาภูตนฺติ โอคธํ, สํสารทุกฺขสนฺติภูตตฺตา นิพฺพุตนฺติ นิพฺพานํ, นเตฺถตฺถ ตณฺหาสงฺขาตํ วานนฺติปิ นิพฺพานํฯ ตํ สาสนสฺส นิฎฺฐาภูตตฺตา ปริโยสานเฎฺฐน อภิเญฺญยฺยํฯ เอวํ อิมสฺมิํ อภิเญฺญยฺยนิเทฺทเส สตฺตสหสฺสานิ สตฺตสตานิ จตฺตาลีสญฺจ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติฯ

    Yasmā pana vedanā cittacetasike attano vase vattāpayamānā tattha samosarati pavisati, cittasantānameva vā pavisati, tasmā samosaraṇaṭṭhena abhiññeyyāti vuttā. Keci pana ‘‘sabbānipi pariññeyyāni vedanāsu samosaranti, vedanāsu pariññātāsu sabbaṃ taṇhāvatthu pariññātaṃ hoti. Taṃ kissa hetu? Vedanāpaccayā hi sabbāpi taṇhā. Tasmā vedanā samosaraṇaṭṭhena abhiññeyyā’’ti vadanti. Yasmā sabbagopānasīnaṃ ābandhanato kūṭāgārakaṇṇikā viya cittacetasikānaṃ sampiṇḍanato samādhi kusalānaṃ dhammānaṃ pamukho hoti jeṭṭhako, tasmā samādhi pamukhaṭṭhenāti vuttaṃ. Pāmukhaṭṭhenātipi pāṭho. Yasmā samathavipassanaṃ bhāventassa ārammaṇūpaṭṭhānādhipati hoti sati, satiyā upaṭṭhite ārammaṇe sabbepi kusalā dhammā sakaṃ sakaṃ kiccaṃ sādhenti, tasmā sati ādhipateyyaṭṭhenāti vuttaṃ. Paññā taduttaraṭṭhenāti ariyamaggapaññā tesaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ uttaraṭṭhena seṭṭhaṭṭhena abhiññeyyā. Atha vā tato kilesehi, saṃsāravaṭṭato vā uttarati samatikkamatīti taduttarā, tassā attho taduttaraṭṭho. Tena taduttaraṭṭhena. Tatuttaraṭṭhenātipi pāṭho, tato uttaraṭṭhenāti attho. Vimutti sāraṭṭhenāti phalavimutti aparihānivasena thirattā sāro, taṃ atikkamitvā aññassa pariyesitabbassa abhāvatopi sāro. Sā vimutti tena sāraṭṭhena abhiññeyyā. Amatogadhaṃ nibbānanti natthi etassa maraṇasaṅkhātaṃ matanti amataṃ, kilesavisapaṭipakkhattā agadantipi amataṃ , sacchikiriyāya sattānaṃ patiṭṭhābhūtanti ogadhaṃ, saṃsāradukkhasantibhūtattā nibbutanti nibbānaṃ, natthettha taṇhāsaṅkhātaṃ vānantipi nibbānaṃ. Taṃ sāsanassa niṭṭhābhūtattā pariyosānaṭṭhena abhiññeyyaṃ. Evaṃ imasmiṃ abhiññeyyaniddese sattasahassāni sattasatāni cattālīsañca vissajjanāni honti.

    อิทานิ เตสํ เอวํ นิทฺทิฎฺฐานํ ธมฺมานํ ‘‘เย เย ธมฺมา อภิญฺญาตา, เต เต ธมฺมา ญาตา โหนฺตี’’ติ นิคมนํ กโรติ, ตสฺส อภิมุขํ กตฺวา ญาตา โหนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ ตํญาตเฎฺฐน ญาณนฺติ เตสํ วุตฺตปฺปการานํ ธมฺมานํ ชานนเฎฺฐน ญาณํฯ ปชานนเฎฺฐน ปญฺญาติ ปการโต ชานนเฎฺฐน ปญฺญาฯ เตน วุจฺจตีติอาทิโต ปุจฺฉิตปุจฺฉา นิคเมตฺวา ทสฺสิตาฯ เตน การเณน ‘‘อิเม ธมฺมา อภิเญฺญยฺยาติ โสตาวธานํ, ตํปชานนา ปญฺญา สุตมเย ญาณ’’นฺติ วุจฺจตีติ อโตฺถติฯ

    Idāni tesaṃ evaṃ niddiṭṭhānaṃ dhammānaṃ ‘‘ye ye dhammā abhiññātā, te te dhammā ñātā hontī’’ti nigamanaṃ karoti, tassa abhimukhaṃ katvā ñātā hontīti adhippāyo. Taṃñātaṭṭhena ñāṇanti tesaṃ vuttappakārānaṃ dhammānaṃ jānanaṭṭhena ñāṇaṃ. Pajānanaṭṭhena paññāti pakārato jānanaṭṭhena paññā. Tena vuccatītiādito pucchitapucchā nigametvā dassitā. Tena kāraṇena ‘‘ime dhammā abhiññeyyāti sotāvadhānaṃ, taṃpajānanā paññā sutamaye ñāṇa’’nti vuccatīti atthoti.

    สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฎิสมฺภิทามคฺคฎฺฐกถาย

    Saddhammappakāsiniyā paṭisambhidāmaggaṭṭhakathāya

    อภิเญฺญยฺยนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Abhiññeyyaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๑. สุตมยญาณนิเทฺทโส • 1. Sutamayañāṇaniddeso


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact