Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā

    ๓. อาจามทายิกาวิมานวณฺณนา

    3. Ācāmadāyikāvimānavaṇṇanā

    ปิณฺฑาย เต จรนฺตสฺสาติ อาจามทายิกาวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคเห อญฺญตรํ กุลํ อหิวาตโรเคน อุปทฺทุตํ อโหสิฯ ตตฺถ สเพฺพ ชนา มตา ฐเปตฺวา เอกํ อิตฺถิํฯ สา เคหํ เคหคตญฺจ สพฺพํ ธนธญฺญํ ฉเฑฺฑตฺวา มรณภยภีตา ภิตฺติฉิเทฺทน ปลาตา อนาถา หุตฺวา ปรเคหํ คนฺตฺวา ตสฺส ปิฎฺฐิปเสฺส วสติฯ ตสฺมิํ เคเห มนุสฺสา กรุณายนฺตา อุกฺขลิอาทีสุ อวสิฎฺฐํ ยาคุภตฺตอาจามาทิํ ตสฺสา เทนฺติฯ สา ตํ ภุญฺชิตฺวา ชีวิกํ กเปฺปติฯ

    Piṇḍāyate carantassāti ācāmadāyikāvimānaṃ. Tassa kā uppatti? Bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena rājagahe aññataraṃ kulaṃ ahivātarogena upaddutaṃ ahosi. Tattha sabbe janā matā ṭhapetvā ekaṃ itthiṃ. Sā gehaṃ gehagatañca sabbaṃ dhanadhaññaṃ chaḍḍetvā maraṇabhayabhītā bhittichiddena palātā anāthā hutvā paragehaṃ gantvā tassa piṭṭhipasse vasati. Tasmiṃ gehe manussā karuṇāyantā ukkhaliādīsu avasiṭṭhaṃ yāgubhattaācāmādiṃ tassā denti. Sā taṃ bhuñjitvā jīvikaṃ kappeti.

    เตน จ สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป สตฺตาหํ นิโรธสมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฎฺฐิโต ‘‘กํ นุ โข อหํ อชฺช อาหารปฎิคฺคหเณน อนุคฺคเหสฺสามิ, ทุคฺคติโต จ ทุกฺขโต จ โมเจสฺสามี’’ติ จิเนฺตโนฺต ตํ อิตฺถิํ อาสนฺนมรณํ นิรยสํวตฺตนิกญฺจสฺสา กมฺมํ กโตกาสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยิ คเต อตฺตนา ลทฺธํ อาจามํ ทสฺสติ, เตเนว นิมฺมานรติเทวโลเก อุปฺปชฺชิสฺสติ, เอวํ นิรยูปปตฺติโต โมเจตฺวา หนฺทาหํ อิมิสฺสา สคฺคสมฺปตฺติํ นิปฺผาเทสฺสามี’’ติ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย ตสฺสา นิเวสนฎฺฐานาภิมุโข คจฺฉติฯ อถ สโกฺก เทวานมิโนฺท อญฺญาตกเวเสน อเนกรสํ อเนกสูปพฺยญฺชนํ ทิพฺพาหารํ อุปเนสิฯ ตํ ญตฺวา เถโร ‘‘โกสิย, ตฺวํ กตกุสโล, กสฺมา เอวํ กโรสิ, มา ทุคฺคตานํ กปณานํ สมฺปตฺติํ วิลุมฺปี’’ติ ปฎิกฺขิปิตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา ปุรโต อฎฺฐาสิฯ

    Tena ca samayena āyasmā mahākassapo sattāhaṃ nirodhasamāpattiṃ samāpajjitvā tato vuṭṭhito ‘‘kaṃ nu kho ahaṃ ajja āhārapaṭiggahaṇena anuggahessāmi, duggatito ca dukkhato ca mocessāmī’’ti cintento taṃ itthiṃ āsannamaraṇaṃ nirayasaṃvattanikañcassā kammaṃ katokāsaṃ disvā ‘‘ayaṃ mayi gate attanā laddhaṃ ācāmaṃ dassati, teneva nimmānaratidevaloke uppajjissati, evaṃ nirayūpapattito mocetvā handāhaṃ imissā saggasampattiṃ nipphādessāmī’’ti pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaraṃ ādāya tassā nivesanaṭṭhānābhimukho gacchati. Atha sakko devānamindo aññātakavesena anekarasaṃ anekasūpabyañjanaṃ dibbāhāraṃ upanesi. Taṃ ñatvā thero ‘‘kosiya, tvaṃ katakusalo, kasmā evaṃ karosi, mā duggatānaṃ kapaṇānaṃ sampattiṃ vilumpī’’ti paṭikkhipitvā tassā itthiyā purato aṭṭhāsi.

    สา เถรํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มหานุภาโว เถโร, อิมสฺส ทาตพฺพยุตฺตกํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา อิธ นตฺถิ, อิทญฺจ กิลิฎฺฐภาชนคตํ ติณจุณฺณรชานุกิณฺณํ อโลณํ สีตลํ อปฺปรสํ อาจามกญฺชิยมตฺตํ เอทิสสฺส ทาตุํ น อุสฺสหามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ‘‘อติจฺฉถา’’ติ อาหฯ เถโร เอกปทนิเกฺขปมตฺตํ อปสกฺกิตฺวา อฎฺฐาสิฯ เคหวาสิโน มนุสฺสา ภิกฺขํ อุปเนสุํ, เถโร น สมฺปฎิจฺฉติฯ สา ทุคฺคติตฺถี ‘‘มเมว อนุคฺคหตฺถาย อิธาคโต, มม สนฺตกเมว ปฎิคฺคเหตุกาโม’’ติ ญตฺวา ปสนฺนมานสา อาทรชาตา ตํ อาจามํ เถรสฺส ปเตฺต อากิริฯ เถโร ตสฺสา ปสาทสํวทฺธนตฺถํ ภุญฺชนาการํ ทเสฺสสิ, มนุสฺสา อาสนํ ปญฺญาเปสุํฯ เถโร ตตฺถ นิสีทิตฺวา ตํ อาจามํ ภุญฺชิตฺวา ปิวิตฺวา โอนีตปตฺตปาณี อนุโมทนํ กตฺวา ตํ ทุคฺคติตฺถิํ ‘‘ตฺวํ อิโต ตติเย อตฺตภาเว มม มาตา อโหสี’’ติ วตฺวา คโตฯ สา เตน เถเร อติปสาทญฺจ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺสา รตฺติยา ปฐมยาเม กาลํ กตฺวา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชิฯ อถ สโกฺก เทวราชา ตสฺสา กาลกตภาวํ ญตฺวา ‘‘กตฺถ นุ โข อุปฺปนฺนา’’ติ อาวเชฺชโนฺต ตาวติํเสสุ อทิสฺวา รตฺติยา มชฺฌิมยาเม อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ อุปสงฺกมิตฺวา ตสฺสา นิพฺพตฺตฎฺฐานํ ปุจฺฉโนฺต –

    Sā theraṃ disvā ‘‘ayaṃ mahānubhāvo thero, imassa dātabbayuttakaṃ khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā idha natthi, idañca kiliṭṭhabhājanagataṃ tiṇacuṇṇarajānukiṇṇaṃ aloṇaṃ sītalaṃ apparasaṃ ācāmakañjiyamattaṃ edisassa dātuṃ na ussahāmī’’ti cintetvā ‘‘aticchathā’’ti āha. Thero ekapadanikkhepamattaṃ apasakkitvā aṭṭhāsi. Gehavāsino manussā bhikkhaṃ upanesuṃ, thero na sampaṭicchati. Sā duggatitthī ‘‘mameva anuggahatthāya idhāgato, mama santakameva paṭiggahetukāmo’’ti ñatvā pasannamānasā ādarajātā taṃ ācāmaṃ therassa patte ākiri. Thero tassā pasādasaṃvaddhanatthaṃ bhuñjanākāraṃ dassesi, manussā āsanaṃ paññāpesuṃ. Thero tattha nisīditvā taṃ ācāmaṃ bhuñjitvā pivitvā onītapattapāṇī anumodanaṃ katvā taṃ duggatitthiṃ ‘‘tvaṃ ito tatiye attabhāve mama mātā ahosī’’ti vatvā gato. Sā tena there atipasādañca uppādetvā tassā rattiyā paṭhamayāme kālaṃ katvā nimmānaratīnaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajji. Atha sakko devarājā tassā kālakatabhāvaṃ ñatvā ‘‘kattha nu kho uppannā’’ti āvajjento tāvatiṃsesu adisvā rattiyā majjhimayāme āyasmantaṃ mahākassapaṃ upasaṅkamitvā tassā nibbattaṭṭhānaṃ pucchanto –

    ๑๘๕.

    185.

    ‘‘ปิณฺฑาย เต จรนฺตสฺส, ตุณฺหีภูตสฺส ติฎฺฐโต;

    ‘‘Piṇḍāya te carantassa, tuṇhībhūtassa tiṭṭhato;

    ทลิทฺทา กปณา นารี, ปราคารํ อปสฺสิตาฯ

    Daliddā kapaṇā nārī, parāgāraṃ apassitā.

    ๑๘๖.

    186.

    ‘‘ยา เต อทาสิ อาจามํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ;

    ‘‘Yā te adāsi ācāmaṃ, pasannā sehi pāṇibhi;

    สา หิตฺวา มานุสํ เทหํ, กํ นุ สา ทิสตํ คตา’’ติฯ –

    Sā hitvā mānusaṃ dehaṃ, kaṃ nu sā disataṃ gatā’’ti. –

    เทฺว คาถา อภาสิฯ

    Dve gāthā abhāsi.

    ๑๘๕. ตตฺถ ปิณฺฑายาติ ปิณฺฑปาตตฺถายฯ ตุณฺหีภูตสฺส ติฎฺฐโตติ อิทํ ปิณฺฑาย จรณาการทสฺสนํ, อุทฺทิสฺส ติฎฺฐโตติ อโตฺถฯ ทลิทฺทาติ ทุคฺคตาฯ กปณาติ วรากีฯ ‘‘ทลิทฺทา’’ติ อิมินา ตสฺสา โภคปาริชุญฺญํ ทเสฺสติ, ‘‘กปณา’’ติ อิมินา ญาติปาริชุญฺญํฯ ปราคารํ อปสฺสิตาติ ปรเคหํ นิสฺสิตา, ปเรสํ ฆเร พหิปิฎฺฐิฉทนํ นิสฺสาย วสนฺตีฯ

    185. Tattha piṇḍāyāti piṇḍapātatthāya. Tuṇhībhūtassa tiṭṭhatoti idaṃ piṇḍāya caraṇākāradassanaṃ, uddissa tiṭṭhatoti attho. Daliddāti duggatā. Kapaṇāti varākī. ‘‘Daliddā’’ti iminā tassā bhogapārijuññaṃ dasseti, ‘‘kapaṇā’’ti iminā ñātipārijuññaṃ. Parāgāraṃ apassitāti paragehaṃ nissitā, paresaṃ ghare bahipiṭṭhichadanaṃ nissāya vasantī.

    ๑๘๖. กํ นุ สา ทิสตํ คตาติ ฉสุ กามเทวโลเกสุ อุปฺปชฺชนวเสน กํ นาม ทิสํ คตาฯ อิติ สโกฺก ‘‘เถเรน ตถา กตานุคฺคหา อุฬาราย ทิพฺพสมฺปตฺติยา ภาคินี, น จ ทิสฺสตี’’ติ เหฎฺฐา ทฺวีสุ เทวโลเกสุ อปสฺสโนฺต สํสยาปโนฺน ปุจฺฉติฯ

    186.Kaṃnu sā disataṃ gatāti chasu kāmadevalokesu uppajjanavasena kaṃ nāma disaṃ gatā. Iti sakko ‘‘therena tathā katānuggahā uḷārāya dibbasampattiyā bhāginī, na ca dissatī’’ti heṭṭhā dvīsu devalokesu apassanto saṃsayāpanno pucchati.

    อถสฺส เถโร –

    Athassa thero –

    ๑๘๗.

    187.

    ‘‘ปิณฺฑาย เม จรนฺตสฺส, ตุณฺหีภูตสฺส ติฎฺฐโต;

    ‘‘Piṇḍāya me carantassa, tuṇhībhūtassa tiṭṭhato;

    ทลิทฺทา กปณา นารี, ปราคารํ อปสฺสิตาฯ

    Daliddā kapaṇā nārī, parāgāraṃ apassitā.

    ๑๘๘.

    188.

    ‘‘ยา เม อทาสิ อาจามํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ;

    ‘‘Yā me adāsi ācāmaṃ, pasannā sehi pāṇibhi;

    สา หิตฺวา มานุสํ เทหํ, วิปฺปมุตฺตา อิโต จุตาฯ

    Sā hitvā mānusaṃ dehaṃ, vippamuttā ito cutā.

    ๑๘๙.

    189.

    ‘‘นิมฺมานรติโน นาม, สนฺติ เทวา มหิทฺธิกา;

    ‘‘Nimmānaratino nāma, santi devā mahiddhikā;

    ตตฺถ สา สุขิตา นารี, โมทตาจามทายิกา’’ติฯ –

    Tattha sā sukhitā nārī, modatācāmadāyikā’’ti. –

    ปุจฺฉิตนิยาเมเนว ปฎิวจนํ เทโนฺต ตสฺสา นิพฺพตฺตฎฺฐานํ กเถสิฯ

    Pucchitaniyāmeneva paṭivacanaṃ dento tassā nibbattaṭṭhānaṃ kathesi.

    ๑๘๘. ตตฺถ วิปฺปมุตฺตาติ ตโต มนุสฺสโทภคฺคิยโต ปรมการุญฺญวุตฺติโต วิปฺปมุตฺตา อปคตาฯ

    188. Tattha vippamuttāti tato manussadobhaggiyato paramakāruññavuttito vippamuttā apagatā.

    ๑๘๙. โมทตาจามทายิกาติ อาจามมตฺตทายิกา, สาปิ นาม ปญฺจเม กามสเคฺค ทิพฺพสมฺปตฺติยา โมทติ, ปสฺส ตาว เขตฺตสมฺปตฺติผลนฺติ ทเสฺสติฯ

    189.Modatācāmadāyikāti ācāmamattadāyikā, sāpi nāma pañcame kāmasagge dibbasampattiyā modati, passa tāva khettasampattiphalanti dasseti.

    ปุน สโกฺก ตสฺสา ทานสฺส มหปฺผลตํ มหานิสํสตญฺจ สุตฺวา ตํ โถเมโนฺต –

    Puna sakko tassā dānassa mahapphalataṃ mahānisaṃsatañca sutvā taṃ thomento –

    ๑๙๐.

    190.

    ‘‘อโห ทานํ วรากิยา, กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิตํ;

    ‘‘Aho dānaṃ varākiyā, kassape suppatiṭṭhitaṃ;

    ปราภเตน ทาเนน, อิชฺฌิตฺถ วต ทกฺขิณาฯ

    Parābhatena dānena, ijjhittha vata dakkhiṇā.

    ๑๙๑.

    191.

    ‘‘ยา มเหสิตฺตํ กาเรยฺย, จกฺกวตฺติสฺส ราชิโน;

    ‘‘Yā mahesittaṃ kāreyya, cakkavattissa rājino;

    นารี สพฺพงฺคกลฺยาณี, ภตฺตุ จาโนมทสฺสิกา;

    Nārī sabbaṅgakalyāṇī, bhattu cānomadassikā;

    เอตสฺสาจามทานสฺส, กลํ นาคฺฆติ โสฬสิํฯ

    Etassācāmadānassa, kalaṃ nāgghati soḷasiṃ.

    ๑๙๒.

    192.

    ‘‘สุตํ นิกฺขา สตํ อสฺสา, สตํ อสฺสตรีรถา;

    ‘‘Sutaṃ nikkhā sataṃ assā, sataṃ assatarīrathā;

    สตํ กญฺญาสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

    Sataṃ kaññāsahassāni, āmuttamaṇikuṇḍalā;

    เอตสฺสาจามทานสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํฯ

    Etassācāmadānassa, kalaṃ nāgghanti soḷasiṃ.

    ๑๙๓.

    193.

    ‘‘สตํ เหมวตา นาคา, อีสาทนฺตา อุรูฬฺหวา;

    ‘‘Sataṃ hemavatā nāgā, īsādantā urūḷhavā;

    สุวณฺณกจฺฉา มิตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสา;

    Suvaṇṇakacchā mitaṅgā, hemakappanavāsasā;

    เอตสฺสาจามทานสฺส, กลํ นาคจฺฉนฺติ โสฬสิํฯ

    Etassācāmadānassa, kalaṃ nāgacchanti soḷasiṃ.

    ๑๙๔.

    194.

    ‘‘จตุนฺนมปิ ทีปานํ, อิสฺสรํ โยธ การเย;

    ‘‘Catunnamapi dīpānaṃ, issaraṃ yodha kāraye;

    เอตสฺสาจามทานสฺส, กลํ นาคฺฆติ โสฬสิ’’นฺติฯ – อาห;

    Etassācāmadānassa, kalaṃ nāgghati soḷasi’’nti. – āha;

    ๑๙๐. ตตฺถ อโหติ อจฺฉริยเตฺถ นิปาโตฯ วรากิยาติ กปณิยาฯ ปราภเตนาติ ปรโต อานีเตน, ปเรสํ ฆรโต อุจฺฉาจริยาย ลเทฺธนาติ อโตฺถฯ ทาเนนาติ ทาตเพฺพน อาจามมเตฺตน เทยฺยธเมฺมนฯ อิชฺฌิตฺถ วต ทกฺขิณาติ ทกฺขิณา ทานํ อโห นิปฺผชฺชิตฺถ, อโห มหปฺผลา มหาชุติกา มหาวิปฺผารา อหุวตฺถาติ อโตฺถฯ

    190. Tattha ahoti acchariyatthe nipāto. Varākiyāti kapaṇiyā. Parābhatenāti parato ānītena, paresaṃ gharato ucchācariyāya laddhenāti attho. Dānenāti dātabbena ācāmamattena deyyadhammena. Ijjhittha vata dakkhiṇāti dakkhiṇā dānaṃ aho nipphajjittha, aho mahapphalā mahājutikā mahāvipphārā ahuvatthāti attho.

    ๑๙๑. อิทานิ ‘‘อิตฺถิรตนาทีนิปิ ตสฺส ทานสฺส สตภาคมฺปิ สหสฺสภาคมฺปิ น อุเปนฺตี’’ติ ทเสฺสตุํ ‘‘ยา มเหสิตฺตํ กาเรยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สพฺพงฺคกลฺยาณีติ ‘‘นาติทีฆา นาติรสฺสา นาติกิสา นาติถูลา นาติกาฬี นาโจฺจทาตา อติกฺกนฺตา มานุสวณฺณํ อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณ’’นฺติ เอวํ วุเตฺตหิ สเพฺพหิ อเงฺคหิ การเณหิ, สเพฺพหิ วา องฺคปจฺจเงฺคหิ กลฺยาณี โสภนา สุนฺทราฯ ภตฺตุ จาโนมทสฺสิกาติ สามิกสฺส อลามกทสฺสนา สาติสยํ ทสฺสนียา ปาสาทิกาฯ เอตสฺสาจามทานสฺส, กลํ นาคฺฆติ โสฬสินฺติ เอตสฺส เอตาย ทินฺนสฺส อาจามทานสฺส ผลํ โสฬสภาคํ กตฺวา ตโต เอกํ ภาคํ ปุน โสฬสภาคํ กตฺวา คหิตภาคสงฺขาตํ โสฬสิํ กลํ จกฺกวตฺติรโญฺญ อิตฺถิรตนภาโวปิ นาคฺฆติ นานุโภติ น ปาปุณาติฯ ‘‘สุวณฺณสฺส ปญฺจทสธรณํ นิกฺข’’นฺติ วทนฺติ, ‘‘สตธรณ’’นฺติ อปเรฯ

    191. Idāni ‘‘itthiratanādīnipi tassa dānassa satabhāgampi sahassabhāgampi na upentī’’ti dassetuṃ ‘‘yā mahesittaṃ kāreyyā’’tiādi vuttaṃ. Tattha sabbaṅgakalyāṇīti ‘‘nātidīghā nātirassā nātikisā nātithūlā nātikāḷī nāccodātā atikkantā mānusavaṇṇaṃ appattā dibbavaṇṇa’’nti evaṃ vuttehi sabbehi aṅgehi kāraṇehi, sabbehi vā aṅgapaccaṅgehi kalyāṇī sobhanā sundarā. Bhattu cānomadassikāti sāmikassa alāmakadassanā sātisayaṃ dassanīyā pāsādikā. Etassācāmadānassa, kalaṃ nāgghati soḷasinti etassa etāya dinnassa ācāmadānassa phalaṃ soḷasabhāgaṃ katvā tato ekaṃ bhāgaṃ puna soḷasabhāgaṃ katvā gahitabhāgasaṅkhātaṃ soḷasiṃ kalaṃ cakkavattirañño itthiratanabhāvopi nāgghati nānubhoti na pāpuṇāti. ‘‘Suvaṇṇassa pañcadasadharaṇaṃ nikkha’’nti vadanti, ‘‘satadharaṇa’’nti apare.

    ๑๙๓. เหมวตาติ หิมวติ ชาตา, เหมวตชาติกา วาฯ เต หิ มหนฺตา ถามชวสมฺปนฺนา จ โหนฺติฯ อีสาทนฺตาติ รถีสาสทิสทนฺตา, โถกํเยว อวนตทนฺตาติ อโตฺถฯ เตน วิสาลกทาฐีภาวํ นิวาเรติฯ อุรูฬฺหวาติ ถามชวปรกฺกเมหิ พฺรูหโนฺต, มหนฺตํ ยุทฺธกิจฺจํ วหิตุํ สมตฺถาติ อโตฺถฯ สุวณฺณกจฺฉาติ เหมมยคีเวยฺยกปฎิมุกฺกาฯ กจฺฉสีเสน หิ สพฺพํ หตฺถิโยคฺคํ วทติฯ เหมกปฺปนวาสสาติ สุวณฺณขจิตคชตฺถรณกงฺกนาทิหตฺถาลงฺการสมฺปนฺนาฯ

    193.Hemavatāti himavati jātā, hemavatajātikā vā. Te hi mahantā thāmajavasampannā ca honti. Īsādantāti rathīsāsadisadantā, thokaṃyeva avanatadantāti attho. Tena visālakadāṭhībhāvaṃ nivāreti. Urūḷhavāti thāmajavaparakkamehi brūhanto, mahantaṃ yuddhakiccaṃ vahituṃ samatthāti attho. Suvaṇṇakacchāti hemamayagīveyyakapaṭimukkā. Kacchasīsena hi sabbaṃ hatthiyoggaṃ vadati. Hemakappanavāsasāti suvaṇṇakhacitagajattharaṇakaṅkanādihatthālaṅkārasampannā.

    ๑๙๔. จตุนฺนมปิ ทีปานํ อิสฺสรนฺติ ทฺวิสหสฺสปริตฺตทีปปริวารานํ ชมฺพุทีปาทีนํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ อิสฺสริยํฯ เตน สตฺตรตนสมุชฺชลํ สกลํ จกฺกวตฺติสิริํ วทติฯ ยํ ปเนตฺถ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวฯ

    194.Catunnamapi dīpānaṃ issaranti dvisahassaparittadīpaparivārānaṃ jambudīpādīnaṃ catunnaṃ mahādīpānaṃ issariyaṃ. Tena sattaratanasamujjalaṃ sakalaṃ cakkavattisiriṃ vadati. Yaṃ panettha, taṃ heṭṭhā vuttanayameva.

    อิธ สเกฺกน เทวราเชน อตฺตนา จ วุตฺตํ สพฺพํ อายสฺมา มหากสฺสปเตฺถโร ภควโต อาโรเจสิฯ ภควา ตํ อฎฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิฯ สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติฯ

    Idha sakkena devarājena attanā ca vuttaṃ sabbaṃ āyasmā mahākassapatthero bhagavato ārocesi. Bhagavā taṃ aṭṭhuppattiṃ katvā sampattaparisāya vitthārena dhammaṃ desesi. Sā desanā mahājanassa sātthikā ahosīti.

    อาจามทายิกาวิมานวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ācāmadāyikāvimānavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi / ๓. อาจามทายิกาวิมานวตฺถุ • 3. Ācāmadāyikāvimānavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact