Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา
Ācariyavattakathāvaṇṇanā
๗๕. อุปเสนวตฺถุมฺหิ อาจิณฺณนฺติ จริตํ วตฺตํ อนุธมฺมตาฯ กจฺจิ ภิกฺขุ ขมนียนฺติ ภิกฺขุ กจฺจิ ตุยฺหํ อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ขมนียํ สกฺกา ขมิตุํ สหิตุํ ปริหริตุํ, น กิญฺจิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตีติฯ กจฺจิ ยาปนียนฺติ กจฺจิ สพฺพกิเจฺจสุ ยาเปตุํ สกฺกา, น กิญฺจิ อนฺตรายํ ทเสฺสตีติฯ ชานนฺตาปิ ตถาคตาติเอวมาทิ ยํ ปรโต ‘‘กติ วโสฺสสิ ตฺวํ ภิกฺขู’’ติอาทินา ปุจฺฉิ, ตสฺส ปริหารทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ตตฺรายํ สเงฺขปโตฺถ – ตถาคตา นาม ชานนฺตาปิ สเจ ตาทิสํ ปุจฺฉาการณํ โหติ, ปุจฺฉนฺติฯ สเจ ปน ตาทิสํ ปุจฺฉาการณํ นตฺถิ, ชานนฺตาปิ น ปุจฺฉนฺติฯ ยสฺมา ปน พุทฺธานํ อชานนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อชานนฺตาปี’’ติ น วุตฺตํฯ กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺตีติ สเจ ตสฺสา ปุจฺฉาย โส กาโล โหติ, เอวํ ตํ กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺติฯ สเจ น โหติ, เอวมฺปิ กาลํ วิทิตฺวาว น ปุจฺฉนฺติฯ เอวํ ปุจฺฉนฺตาปิ จ อตฺถสํหิตํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ยํ อตฺถนิสฺสิตํ การณนิสฺสิตํ, ตเทว ปุจฺฉนฺติ, โน อนตฺถสํหิตํฯ กสฺมา? ยสฺมา อนตฺถสํหิเต เสตุฆาโต ตถาคตานํฯ เสตุ วุจฺจติ มโคฺค, มเคฺคเนว ตาทิสสฺส วจนสฺส ฆาโต สมุเจฺฉโทติ วุตฺตํ โหติฯ
75. Upasenavatthumhi āciṇṇanti caritaṃ vattaṃ anudhammatā. Kacci bhikkhu khamanīyanti bhikkhu kacci tuyhaṃ idaṃ catucakkaṃ navadvāraṃ sarīrayantaṃ khamanīyaṃ sakkā khamituṃ sahituṃ pariharituṃ, na kiñci dukkhaṃ uppādetīti. Kacci yāpanīyanti kacci sabbakiccesu yāpetuṃ sakkā, na kiñci antarāyaṃ dassetīti. Jānantāpi tathāgatātievamādi yaṃ parato ‘‘kati vassosi tvaṃ bhikkhū’’tiādinā pucchi, tassa parihāradassanatthaṃ vuttaṃ. Tatrāyaṃ saṅkhepattho – tathāgatā nāma jānantāpi sace tādisaṃ pucchākāraṇaṃ hoti, pucchanti. Sace pana tādisaṃ pucchākāraṇaṃ natthi, jānantāpi na pucchanti. Yasmā pana buddhānaṃ ajānanaṃ nāma natthi, tasmā ‘‘ajānantāpī’’ti na vuttaṃ. Kālaṃ viditvā pucchantīti sace tassā pucchāya so kālo hoti, evaṃ taṃ kālaṃ viditvā pucchanti. Sace na hoti, evampi kālaṃ viditvāva na pucchanti. Evaṃ pucchantāpi ca atthasaṃhitaṃ tathāgatā pucchanti, yaṃ atthanissitaṃ kāraṇanissitaṃ, tadeva pucchanti, no anatthasaṃhitaṃ. Kasmā? Yasmā anatthasaṃhite setughāto tathāgatānaṃ. Setu vuccati maggo, maggeneva tādisassa vacanassa ghāto samucchedoti vuttaṃ hoti.
อิทานิ อตฺถสํหิตนฺติ เอตฺถ ยํ อตฺถนิสฺสิตํ วจนํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ทฺวีหิ อากาเรหี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อากาเรหีติ การเณหิ ฯ ธมฺมํ วา เทเสสฺสามาติ อฎฺฐุปฺปตฺติยุตฺตํ สุตฺตํ วา ปุพฺพจริตการณยุตฺตํ ชาตกํ วา กถยิสฺสามฯ สาวกานํ วา สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามาติ สาวกานํ วา ตาย ปุจฺฉาย วีติกฺกมํ ปากฎํ กตฺวา ครุกํ วา ลหุกํ วา สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสาม อาณํ ฐเปสฺสามฯ อติลหุนฺติ อติสีฆํฯ
Idāni atthasaṃhitanti ettha yaṃ atthanissitaṃ vacanaṃ tathāgatā pucchanti, taṃ dassento ‘‘dvīhi ākārehī’’tiādimāha. Tattha ākārehīti kāraṇehi . Dhammaṃ vā desessāmāti aṭṭhuppattiyuttaṃ suttaṃ vā pubbacaritakāraṇayuttaṃ jātakaṃ vā kathayissāma. Sāvakānaṃ vā sikkhāpadaṃ paññapessāmāti sāvakānaṃ vā tāya pucchāya vītikkamaṃ pākaṭaṃ katvā garukaṃ vā lahukaṃ vā sikkhāpadaṃ paññapessāma āṇaṃ ṭhapessāma. Atilahunti atisīghaṃ.
๗๖. อญฺญติตฺถิยวตฺถุมฺหิ อญฺญติตฺถิยปุโพฺพติ ปุเพฺพ อญฺญติตฺถิโย ภูโตติ อญฺญติตฺถิยปุโพฺพฯ เอตฺถ (อ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๓.๖๒) จ ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกโร ชานิตโพฺพ , ติตฺถิยา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพาฯ ตตฺถ ติตฺถํ นาม ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิโยฯ เอตฺถ หิ สตฺตา ตรนฺติ อุปฺปิลวนฺติ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, ตสฺมา ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุจฺจนฺติฯ ตาสํ ทิฎฺฐีนํ อุปฺปาเทตา ติตฺถกโร นาม ปูรณกสฺสปาทิโกฯ ตสฺส ลทฺธิํ คเหตฺวา ปพฺพชิตา ติตฺถิยา นามฯ เต หิ ติเตฺถ ชาตาติ ติตฺถิยา, ยถาวุตฺตํ วา ทิฎฺฐิคตสงฺขาตํ ติตฺถํ เอเตสํ อตฺถีติ ติตฺถิกา, ติตฺถิกา เอว ติตฺถิยาฯ เตสํ ปจฺจยทายกา ติตฺถิยสาวกาติ เวทิตพฺพาฯ สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ สหธมฺมิเกน วุจฺจมาโน, กรณเตฺถ อุปโยควจนํฯ ปญฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา, เตสํ วา สนฺตกตฺตา ‘‘สหธมฺมิก’’นฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปญฺญเตฺตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโนติ อโตฺถฯ ปสูโรติ ตสฺส นามํฯ ปริพฺพาชโกติ คิหิพนฺธนํ ปหาย ปพฺพชฺชุปคโตฯ
76. Aññatitthiyavatthumhi aññatitthiyapubboti pubbe aññatitthiyo bhūtoti aññatitthiyapubbo. Ettha (a. ni. aṭṭha. 2.3.62) ca titthaṃ jānitabbaṃ, titthakaro jānitabbo , titthiyā jānitabbā, titthiyasāvakā jānitabbā. Tattha titthaṃ nāma dvāsaṭṭhi diṭṭhiyo. Ettha hi sattā taranti uppilavanti ummujjanimujjaṃ karonti, tasmā ‘‘tittha’’nti vuccanti. Tāsaṃ diṭṭhīnaṃ uppādetā titthakaro nāma pūraṇakassapādiko. Tassa laddhiṃ gahetvā pabbajitā titthiyā nāma. Te hi titthe jātāti titthiyā, yathāvuttaṃ vā diṭṭhigatasaṅkhātaṃ titthaṃ etesaṃ atthīti titthikā, titthikā eva titthiyā. Tesaṃ paccayadāyakā titthiyasāvakāti veditabbā. Sahadhammikaṃ vuccamānoti sahadhammikena vuccamāno, karaṇatthe upayogavacanaṃ. Pañcahi sahadhammikehi sikkhitabbattā, tesaṃ vā santakattā ‘‘sahadhammika’’nti laddhanāmena buddhapaññattena sikkhāpadena vuccamānoti attho. Pasūroti tassa nāmaṃ. Paribbājakoti gihibandhanaṃ pahāya pabbajjupagato.
ตํเยว ติตฺถายตนนฺติ เอตฺถ ทฺวาสฎฺฐิทิฎฺฐิสงฺขาตํ ติตฺถเมว อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ, ติตฺถํ วา เอเตสํ อตฺถีติ ติตฺถิโน, ติตฺถิยา, เตสํ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํฯ อายตนนฺติ จ ‘‘อสฺสานํ กโมฺพโช อายตนํ, คุนฺนํ ทกฺขิณปโถ อายตน’’นฺติ เอตฺถ สญฺชาติฎฺฐานํ อายตนํ นามฯ
Taṃyeva titthāyatananti ettha dvāsaṭṭhidiṭṭhisaṅkhātaṃ titthameva āyatananti titthāyatanaṃ, titthaṃ vā etesaṃ atthīti titthino, titthiyā, tesaṃ āyatanantipi titthāyatanaṃ. Āyatananti ca ‘‘assānaṃ kambojo āyatanaṃ, gunnaṃ dakkhiṇapatho āyatana’’nti ettha sañjātiṭṭhānaṃ āyatanaṃ nāma.
‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา;
‘‘Manorame āyatane, sevanti naṃ vihaṅgamā;
ฉายํ ฉายตฺถิโน ยนฺติ, ผลตฺถํ ผลโภชิโน’’ติฯ (อ. นิ. ๕.๓๘) –
Chāyaṃ chāyatthino yanti, phalatthaṃ phalabhojino’’ti. (a. ni. 5.38) –
เอตฺถ สโมสรณฎฺฐานํฯ ‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, วิมุตฺตายตนานี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖) เอตฺถ การณํ, ตํ อิธ สพฺพมฺปิ ลพฺภติฯ สเพฺพปิ หิ ทิฎฺฐิคติกา สญฺชายมานา อิมาสุเยว ทฺวาสฎฺฐิยา ทิฎฺฐีสุ สญฺชายนฺติ, สโมสรมานาปิ เอตาสุเยว สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฎฺฐิคติกภาเว จ เนสํ อิมาเยว ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิโย การณํ, ตสฺมา ยถาวุตฺตํ ติตฺถเมว สญฺชาติอาทินา อเตฺถน อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ, เตเนวเตฺถน ติตฺถีนํ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํฯ
Ettha samosaraṇaṭṭhānaṃ. ‘‘Pañcimāni, bhikkhave, vimuttāyatanānī’’ti (a. ni. 5.26) ettha kāraṇaṃ, taṃ idha sabbampi labbhati. Sabbepi hi diṭṭhigatikā sañjāyamānā imāsuyeva dvāsaṭṭhiyā diṭṭhīsu sañjāyanti, samosaramānāpi etāsuyeva samosaranti sannipatanti, diṭṭhigatikabhāve ca nesaṃ imāyeva dvāsaṭṭhi diṭṭhiyo kāraṇaṃ, tasmā yathāvuttaṃ titthameva sañjātiādinā atthena āyatananti titthāyatanaṃ, tenevatthena titthīnaṃ āyatanantipi titthāyatanaṃ.
อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามีติ เอตฺถ อายสฺมโตติ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํ, อายสฺมนฺตํ นิสฺสาย วสิสฺสามีติ อโตฺถฯ พฺยโตฺต…เป.… วุตฺตลกฺขโณเยวาติ ปริสุปฎฺฐาปกพหุสฺสุตํ สนฺธาย วทติฯ ปญฺจหุปาลิ อเงฺคหีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติฯ
Āyasmato nissāya vacchāmīti ettha āyasmatoti upayogatthe sāmivacanaṃ, āyasmantaṃ nissāya vasissāmīti attho. Byatto…pe… vuttalakkhaṇoyevāti parisupaṭṭhāpakabahussutaṃ sandhāya vadati. Pañcahupāli aṅgehītiādīsu yaṃ vattabbaṃ, taṃ parato āvi bhavissati.
อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ācariyavattakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๑๘. อาจริยวตฺตกถา • 18. Ācariyavattakathā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อาจริยวตฺตกถา • Ācariyavattakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา • Ācariyavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา • Ācariyavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๘. อาจริยวตฺตกถา • 18. Ācariyavattakathā