Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๖. อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา

    6. Accharāsuttavaṇṇanā

    ๔๖. ฉเฎฺฐ อจฺฉราคณสงฺฆุฎฺฐนฺติ อยํ กิร เทวปุโตฺต สตฺถุสาสเน ปพฺพชิตฺวา วตฺตปฎิปตฺติํ ปูรยมาโน ปญฺจวสฺสกาเล ปวาเรตฺวา เทฺวมาติกํ ปคุณํ กตฺวา กมฺมากมฺมํ อุคฺคเหตฺวา จิตฺตรุจิตํ กมฺมฎฺฐานํ อุคฺคณฺหิตฺวา สลฺลหุกวุตฺติโก อรญฺญํ ปวิสิตฺวา โย ภควตา มชฺฌิมยาโม สยนสฺส โกฎฺฐาโสติ อนุญฺญาโตฯ ตสฺมิมฺปิ สมฺปเตฺต ‘‘ปมาทสฺส ภายามี’’ติ มญฺจกํ อุกฺขิปิตฺวา รตฺติญฺจ ทิวา จ นิราหาโร กมฺมฎฺฐานเมว มนสากาสิฯ

    46. Chaṭṭhe accharāgaṇasaṅghuṭṭhanti ayaṃ kira devaputto satthusāsane pabbajitvā vattapaṭipattiṃ pūrayamāno pañcavassakāle pavāretvā dvemātikaṃ paguṇaṃ katvā kammākammaṃ uggahetvā cittarucitaṃ kammaṭṭhānaṃ uggaṇhitvā sallahukavuttiko araññaṃ pavisitvā yo bhagavatā majjhimayāmo sayanassa koṭṭhāsoti anuññāto. Tasmimpi sampatte ‘‘pamādassa bhāyāmī’’ti mañcakaṃ ukkhipitvā rattiñca divā ca nirāhāro kammaṭṭhānameva manasākāsi.

    อถสฺส อพฺภนฺตเร สตฺถกวาตา อุปฺปชฺชิตฺวา ชีวิตํ ปริยาทิยิํสุฯ โส ธุรสฺมิํเยว กาลมกาสิฯ โย หิ โกจิ ภิกฺขุ จงฺกเม จงฺกมมาโน วา อาลมฺพนตฺถมฺภํ นิสฺสาย ฐิโต วา จงฺกมโกฎิยํ จีวรํ สีเส ฐเปตฺวา นิสิโนฺน วา นิปโนฺน วา ปริสมเชฺฌ อลงฺกตธมฺมาสเน ธมฺมํ เทเสโนฺต วา กาลํ กโรติ, สโพฺพ โส ธุรสฺมิํ กาลํ กโรติ นามฯ อิติ อยํ จงฺกมเน กาลํ กตฺวา อุปนิสฺสยมนฺทตาย อาสวกฺขยํ อปฺปโตฺต ตาวติํสภวเน มหาวิมานทฺวาเร นิทฺทายิตฺวา ปพุชฺฌโนฺต วิย ปฎิสนฺธิํ อคฺคเหสิฯ ตาวเทวสฺส สุวณฺณโตรณํ วิย ติคาวุโต อตฺตภาโว นิพฺพตฺติฯ

    Athassa abbhantare satthakavātā uppajjitvā jīvitaṃ pariyādiyiṃsu. So dhurasmiṃyeva kālamakāsi. Yo hi koci bhikkhu caṅkame caṅkamamāno vā ālambanatthambhaṃ nissāya ṭhito vā caṅkamakoṭiyaṃ cīvaraṃ sīse ṭhapetvā nisinno vā nipanno vā parisamajjhe alaṅkatadhammāsane dhammaṃ desento vā kālaṃ karoti, sabbo so dhurasmiṃ kālaṃ karoti nāma. Iti ayaṃ caṅkamane kālaṃ katvā upanissayamandatāya āsavakkhayaṃ appatto tāvatiṃsabhavane mahāvimānadvāre niddāyitvā pabujjhanto viya paṭisandhiṃ aggahesi. Tāvadevassa suvaṇṇatoraṇaṃ viya tigāvuto attabhāvo nibbatti.

    อโนฺตวิมาเน สหสฺสมตฺตา อจฺฉรา ตํ ทิสฺวา, ‘‘วิมานสามิโก เทวปุโตฺต อาคโต, รมยิสฺสาม น’’นฺติ ตูริยานิ คเหตฺวา ปริวารยิํสุฯ เทวปุโตฺต น ตาว จุตภาวํ ชานาติ, ปพฺพชิตสญฺญีเยว อจฺฉรา โอโลเกตฺวา วิหารจาริกํ อาคตํ มาตุคามํ ทิสฺวา ลชฺชีฯ ปํสุกูลิโก วิย อุปริ ฐิตํ ฆนทุกูลํ เอกํสํ กโรโนฺต อํสกูฎํ ปฎิจฺฉาเทตฺวา อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปิตฺวา อโธมุโข อฎฺฐาสิฯ ตสฺส กายวิกาเรเนว ตา เทวตา ‘‘สมณเทวปุโตฺต อย’’นฺติ ญตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อยฺย, เทวปุตฺต, เทวโลโก นามายํ, น สมณธมฺมสฺส กรโณกาโส, สมฺปตฺติํ อนุภวโนกาโส’’ติฯ โส ตเถว อฎฺฐาสิฯ เทวตา ‘‘น ตาวายํ สลฺลเกฺขตี’’ติ ตูริยานิ ปคฺคณฺหิํสุฯ โส ตถาปิ อโนโลเกโนฺตว อฎฺฐาสิฯ

    Antovimāne sahassamattā accharā taṃ disvā, ‘‘vimānasāmiko devaputto āgato, ramayissāma na’’nti tūriyāni gahetvā parivārayiṃsu. Devaputto na tāva cutabhāvaṃ jānāti, pabbajitasaññīyeva accharā oloketvā vihāracārikaṃ āgataṃ mātugāmaṃ disvā lajjī. Paṃsukūliko viya upari ṭhitaṃ ghanadukūlaṃ ekaṃsaṃ karonto aṃsakūṭaṃ paṭicchādetvā indriyāni okkhipitvā adhomukho aṭṭhāsi. Tassa kāyavikāreneva tā devatā ‘‘samaṇadevaputto aya’’nti ñatvā evamāhaṃsu – ‘‘ayya, devaputta, devaloko nāmāyaṃ, na samaṇadhammassa karaṇokāso, sampattiṃ anubhavanokāso’’ti. So tatheva aṭṭhāsi. Devatā ‘‘na tāvāyaṃ sallakkhetī’’ti tūriyāni paggaṇhiṃsu. So tathāpi anolokentova aṭṭhāsi.

    อถสฺส สพฺพกายิกํ อาทาสํ ปุรโต ฐปยิํสุฯ โส ฉายํ ทิสฺวา จุตภาวํ ญตฺวา, ‘‘น มยา อิมํ ฐานํ ปเตฺถตฺวา สมณธโมฺม กโต, อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปเตฺถตฺวา กโต’’ติ สมฺปตฺติยา วิปฺปฎิสารี อโหสิ, ‘‘สุวณฺณปฎํ ปฎิลภิสฺสามี’’ติ ตกฺกยิตฺวา ยุทฺธฎฺฐานํ โอติณฺณมโลฺล มูลกมุฎฺฐิํ ลภิตฺวา วิยฯ โส – ‘‘อยํ สคฺคสมฺปตฺติ นาม สุลภา, พุทฺธานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ’’ติ จิเนฺตตฺวา วิมานํ อปวิสิตฺวาว อสมฺภิเนฺนเนว สีเลน อจฺฉราสงฺฆปริวุโต ทสพลสฺส สนฺติกํ อาคมฺม อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ฐิโต อิมํ คาถํ อภาสิฯ

    Athassa sabbakāyikaṃ ādāsaṃ purato ṭhapayiṃsu. So chāyaṃ disvā cutabhāvaṃ ñatvā, ‘‘na mayā imaṃ ṭhānaṃ patthetvā samaṇadhammo kato, uttamatthaṃ arahattaṃ patthetvā kato’’ti sampattiyā vippaṭisārī ahosi, ‘‘suvaṇṇapaṭaṃ paṭilabhissāmī’’ti takkayitvā yuddhaṭṭhānaṃ otiṇṇamallo mūlakamuṭṭhiṃ labhitvā viya. So – ‘‘ayaṃ saggasampatti nāma sulabhā, buddhānaṃ pātubhāvo dullabho’’ti cintetvā vimānaṃ apavisitvāva asambhinneneva sīlena accharāsaṅghaparivuto dasabalassa santikaṃ āgamma abhivādetvā ekamantaṃ ṭhito imaṃ gāthaṃ abhāsi.

    ตตฺถ อจฺฉราคณสงฺฆุฎฺฐนฺติ อจฺฉราคเณน คีตวาทิตสเทฺทหิ สโงฺฆสิตํฯ ปิสาจคณเสวิตนฺติ ตเมว อจฺฉราคณํ ปิสาจคณํ กตฺวา วทติฯ วนนฺติ นนฺทนวนํ สนฺธาย วทติฯ อยญฺหิ นิยามจิตฺตตาย อตฺตโน ครุภาเวน เทวคณํ ‘‘เทวคโณ’’ติ วตฺตุํ น โรเจติฯ ‘‘ปิสาจคโณ’’ติ วทติฯ นนฺทนวนญฺจ ‘‘นนฺทน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘โมหน’’นฺติ วทติ ฯ กถํ ยาตฺรา ภวิสฺสตีติ กถํ นิคฺคมนํ ภวิสฺสติ, กถํ อติกฺกโม ภวิสฺสติ, อรหตฺตสฺส เม ปทฎฺฐานภูตํ วิปสฺสนํ อาจิกฺขถ ภควาติ วทติฯ

    Tattha accharāgaṇasaṅghuṭṭhanti accharāgaṇena gītavāditasaddehi saṅghositaṃ. Pisācagaṇasevitanti tameva accharāgaṇaṃ pisācagaṇaṃ katvā vadati. Vananti nandanavanaṃ sandhāya vadati. Ayañhi niyāmacittatāya attano garubhāvena devagaṇaṃ ‘‘devagaṇo’’ti vattuṃ na roceti. ‘‘Pisācagaṇo’’ti vadati. Nandanavanañca ‘‘nandana’’nti avatvā ‘‘mohana’’nti vadati . Kathaṃ yātrā bhavissatīti kathaṃ niggamanaṃ bhavissati, kathaṃ atikkamo bhavissati, arahattassa me padaṭṭhānabhūtaṃ vipassanaṃ ācikkhatha bhagavāti vadati.

    อถ ภควา ‘‘อติสลฺลิขเตว อยํ เทวปุโตฺต, กิํ นุ โข อิท’’นฺติ? อาวเชฺชโนฺต อตฺตโน สาสเน ปพฺพชิตภาวํ ญตฺวา – ‘‘อยํ อจฺจารทฺธวีริยตาย กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพโตฺต, อชฺชาปิสฺส จงฺกมนสฺมิํเยว อตฺตภาโว อสมฺภิเนฺนน สีเลน อาคโต’’ติ จิเนฺตสิฯ พุทฺธา จ อกตาภินิเวสสฺส อาทิกมฺมิกสฺส อกตปริกมฺมสฺส อเนฺตวาสิโน จิตฺตกาโร ภิตฺติปริกมฺมํ วิย – ‘‘สีลํ ตาว โสเธหิ, สมาธิํ ภาเวหิ, กมฺมสฺสกตปญฺญํ อุชุํ กโรหี’’ติ ปฐมํ ปุพฺพภาคปฺปฎิปทํ อาจิกฺขนฺติ, การกสฺส ปน ยุตฺตปยุตฺตสฺส อรหตฺตมคฺคปทฎฺฐานภูตํ สณฺหสุขุมํ สุญฺญตาวิปสฺสนํเยว อาจิกฺขนฺติ, อยญฺจ เทวปุโตฺต การโก อภินฺนสีโล, เอโก มโคฺค อสฺส อนาคโตติ สุญฺญตาวิปสฺสนํ อาจิกฺขโนฺต อุชุโก นามาติอาทิมาหฯ

    Atha bhagavā ‘‘atisallikhateva ayaṃ devaputto, kiṃ nu kho ida’’nti? Āvajjento attano sāsane pabbajitabhāvaṃ ñatvā – ‘‘ayaṃ accāraddhavīriyatāya kālaṃ katvā devaloke nibbatto, ajjāpissa caṅkamanasmiṃyeva attabhāvo asambhinnena sīlena āgato’’ti cintesi. Buddhā ca akatābhinivesassa ādikammikassa akataparikammassa antevāsino cittakāro bhittiparikammaṃ viya – ‘‘sīlaṃ tāva sodhehi, samādhiṃ bhāvehi, kammassakatapaññaṃ ujuṃ karohī’’ti paṭhamaṃ pubbabhāgappaṭipadaṃ ācikkhanti, kārakassa pana yuttapayuttassa arahattamaggapadaṭṭhānabhūtaṃ saṇhasukhumaṃ suññatāvipassanaṃyeva ācikkhanti, ayañca devaputto kārako abhinnasīlo, eko maggo assa anāgatoti suññatāvipassanaṃ ācikkhanto ujuko nāmātiādimāha.

    ตตฺถ อุชุโกติ กายวงฺกาทีนํ อภาวโต อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค อุชุโก นามฯ อภยา นาม สา ทิสาติ นิพฺพานํ สนฺธายาหฯ ตสฺมิํ หิ กิญฺจิ ภยํ นตฺถิ, ตํ วา ปตฺตสฺส ภยํ นตฺถีติ ‘‘อภยา นาม สา ทิสา’’ติ วุตฺตํฯ รโถ อกูชโนติ อฎฺฐงฺคิโก มโคฺคว อธิเปฺปโตฯ ยถา หิ ปากติกรโถ อเกฺข วา อนพฺภญฺชิเต อติเรเกสุ วา มนุเสฺสสุ อภิรุเฬฺหสุ กูชติ วิรวติ, น เอวํ อริยมโคฺคฯ โส หิ เอกปฺปหาเรน จตุราสีติยาปิ ปาณสหเสฺสสุ อภิรุหเนฺตสุ น กูชติ น วิรวติฯ ตสฺมา ‘‘อกูชโน’’ติ วุโตฺตฯ ธมฺมจเกฺกหิ สํยุโตติ กายิกเจตสิกวีริยสงฺขาเตหิ ธมฺมจเกฺกหิ สํยุโตฺตฯ

    Tattha ujukoti kāyavaṅkādīnaṃ abhāvato aṭṭhaṅgiko maggo ujuko nāma. Abhayā nāma sā disāti nibbānaṃ sandhāyāha. Tasmiṃ hi kiñci bhayaṃ natthi, taṃ vā pattassa bhayaṃ natthīti ‘‘abhayā nāma sā disā’’ti vuttaṃ. Ratho akūjanoti aṭṭhaṅgiko maggova adhippeto. Yathā hi pākatikaratho akkhe vā anabbhañjite atirekesu vā manussesu abhiruḷhesu kūjati viravati, na evaṃ ariyamaggo. So hi ekappahārena caturāsītiyāpi pāṇasahassesu abhiruhantesu na kūjati na viravati. Tasmā ‘‘akūjano’’ti vutto. Dhammacakkehi saṃyutoti kāyikacetasikavīriyasaṅkhātehi dhammacakkehi saṃyutto.

    หิรีติ เอตฺถ หิริคฺคหเณน โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว โหติฯ ตสฺส อปาลโมฺพติ ยถา พาหิรกรถสฺส รเถ ฐิตานํ โยธานํ อปตนตฺถาย ทารุมยํ อปาลมฺพนํ โหติ, เอวํ อิมสฺส มคฺครถสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธาสมุฎฺฐานํ หิโรตฺตปฺปํ อปาลมฺพนํฯ สตฺยสฺส ปริวารณนฺติ รถสฺส สีหจมฺมาทิปริวาโร วิย อิมสฺสาปิ มคฺครถสฺส สมฺปยุตฺตา สติ ปริวารณํฯ ธมฺมนฺติ โลกุตฺตรมคฺคํ ฯ สมฺมาทิฎฺฐิปุเรชวนฺติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิปุเรชวา อสฺส ปุพฺพยายิกาติ สมฺมาทิฎฺฐิปุเรชโว, ตํ สมฺมาทิฎฺฐิปุเรชวํฯ ยถา หิ ปฐมตรํ ราชปุริเสหิ กาณกุณิอาทีนํนีหรเณน มเคฺค โสธิเต ปจฺฉา ราชา นิกฺขมติ, เอวเมวํ วิปสฺสนา สมฺมาทิฎฺฐิยา อนิจฺจาทิวเสน ขนฺธาทีสุ โสธิเตสุ ปจฺฉา ภูมิลทฺธวฎฺฎํ ปริชานมานา มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ธมฺมาหํ สารถิํ พฺรูมิ, สมฺมาทิฎฺฐิปุเรชว’’นฺติฯ

    Hirīti ettha hiriggahaṇena ottappampi gahitameva hoti. Tassa apālamboti yathā bāhirakarathassa rathe ṭhitānaṃ yodhānaṃ apatanatthāya dārumayaṃ apālambanaṃ hoti, evaṃ imassa maggarathassa ajjhattabahiddhāsamuṭṭhānaṃ hirottappaṃ apālambanaṃ. Satyassaparivāraṇanti rathassa sīhacammādiparivāro viya imassāpi maggarathassa sampayuttā sati parivāraṇaṃ. Dhammanti lokuttaramaggaṃ . Sammādiṭṭhipurejavanti vipassanāsammādiṭṭhipurejavā assa pubbayāyikāti sammādiṭṭhipurejavo, taṃ sammādiṭṭhipurejavaṃ. Yathā hi paṭhamataraṃ rājapurisehi kāṇakuṇiādīnaṃnīharaṇena magge sodhite pacchā rājā nikkhamati, evamevaṃ vipassanā sammādiṭṭhiyā aniccādivasena khandhādīsu sodhitesu pacchā bhūmiladdhavaṭṭaṃ parijānamānā maggasammādiṭṭhi uppajjati. Tena vuttaṃ ‘‘dhammāhaṃ sārathiṃ brūmi, sammādiṭṭhipurejava’’nti.

    อิติ ภควา เทสนํ นิฎฺฐาเปตฺวา อวสาเน จตฺตาริ สจฺจานิ ทีเปสิฯ เทสนาปริโยสาเน เทวปุโตฺต โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐาสิฯ ยถา หิ รโญฺญ โภชนกาเล อตฺตโน มุขปฺปมาเณ กพเฬ อุกฺขิเตฺต อเงฺก นิสิโนฺน ปุโตฺต อตฺตโน มุขปฺปมาเณเนว ตโต กพฬํ กโรติ, เอวเมวํ ภควติ อรหตฺตนิกูเฎน เทสนํ เทเสเนฺตปิ สตฺตา อตฺตโน อุปนิสฺสยานุรูเปน โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณนฺติฯ อยมฺปิ เทวปุโตฺต โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ภควนฺตํ คนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา ปกฺกามีติฯ ฉฎฺฐํฯ

    Iti bhagavā desanaṃ niṭṭhāpetvā avasāne cattāri saccāni dīpesi. Desanāpariyosāne devaputto sotāpattiphale patiṭṭhāsi. Yathā hi rañño bhojanakāle attano mukhappamāṇe kabaḷe ukkhitte aṅke nisinno putto attano mukhappamāṇeneva tato kabaḷaṃ karoti, evamevaṃ bhagavati arahattanikūṭena desanaṃ desentepi sattā attano upanissayānurūpena sotāpattiphalādīni pāpuṇanti. Ayampi devaputto sotāpattiphalaṃ patvā bhagavantaṃ gandhādīhi pūjetvā pakkāmīti. Chaṭṭhaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๖. อจฺฉราสุตฺตํ • 6. Accharāsuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๖. อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา • 6. Accharāsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact