Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๖. อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา
6. Accharāsuttavaṇṇanā
๔๖. ‘‘อจฺฉราคณสงฺฆุฎฺฐ’’นฺติ คาถา เทวปุเตฺตน เยนาธิปฺปาเยน คายิตา, โส อนุปุพฺพิกถาย วินา น ปญฺญายตีติ ตํ อาคมนโต ปฎฺฐาย กเถโนฺต ‘‘อยํ กิร เทวปุโตฺต’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สาสเนติ อิมเสฺสว สตฺถุสาสเนฯ กมฺมากมฺมนฺติ กมฺมวินิจฺฉยํฯ อตฺถปุเรกฺขารตาย อปฺปกิจฺจตาย จ สลฺลหุกวุตฺติโกฯ สยนสฺส โกฎฺฐาโสติ ทิวสํ ปุริมยามญฺจ ภาวนานุโยควเสน กิลนฺตกายสฺส สมสฺสาสนตฺถํ เสยฺยาย อุปคมนภาโค อนุญฺญาโตฯ
46. ‘‘Accharāgaṇasaṅghuṭṭha’’nti gāthā devaputtena yenādhippāyena gāyitā, so anupubbikathāya vinā na paññāyatīti taṃ āgamanato paṭṭhāya kathento ‘‘ayaṃ kira devaputto’’tiādimāha. Tattha sāsaneti imasseva satthusāsane. Kammākammanti kammavinicchayaṃ. Atthapurekkhāratāya appakiccatāya ca sallahukavuttiko. Sayanassa koṭṭhāsoti divasaṃ purimayāmañca bhāvanānuyogavasena kilantakāyassa samassāsanatthaṃ seyyāya upagamanabhāgo anuññāto.
อพฺภนฺตเรติ กุจฺฉิยํ ภตฺตสฺส ปริตฺตตาย สตฺถกวาตาติ ติกฺขภาเวน สตฺถกา วิย กนฺตนกา วาตาฯ ธุรสฺมิํเยวาติ กิเลสมาเรน ยุเทฺธ เอวฯ วิมุตฺตายตนสีเส ฐตฺวา ธมฺมํ เทเสโนฺต วาฯ อุปนิสฺสยมนฺทตาย อปริปกฺกญาณตาย อาสวกฺขยํ อปฺปโตฺต กาลํ กตฺวาติ โยชนาฯ อุปริ ฐิตนฺติ ปริกฺขารภาเวน ทิพฺพทุสฺสูปริ ฐิตํฯ ตเถว อฎฺฐาสีติ ตาหิ ตถา วุเตฺตปิ ยถา ตโต ปุเพฺพ, ตเถว อฎฺฐาสิฯ สุวณฺณปฎฺฎนฺติ นิพฺพุเทฺธ ปฎิชินิตฺวา ลทฺธพฺพสุวณฺณปฎฺฎํฯ วีติกฺกมสฺส อกตตฺตา อสมฺภิเนฺนเนว สีเลนฯ ยสฺมา ตสฺมิํ สตฺถุ สนฺติกํ อาคจฺฉเนฺต ตาปิ เตน สทฺธิํ อาคมํสุ ตสฺมา ‘‘อจฺฉราสงฺฆปริวุโต’’ติ วุตฺตํฯ
Abbhantareti kucchiyaṃ bhattassa parittatāya satthakavātāti tikkhabhāvena satthakā viya kantanakā vātā. Dhurasmiṃyevāti kilesamārena yuddhe eva. Vimuttāyatanasīse ṭhatvā dhammaṃ desento vā. Upanissayamandatāya aparipakkañāṇatāya āsavakkhayaṃ appatto kālaṃ katvāti yojanā. Upari ṭhitanti parikkhārabhāvena dibbadussūpari ṭhitaṃ. Tatheva aṭṭhāsīti tāhi tathā vuttepi yathā tato pubbe, tatheva aṭṭhāsi. Suvaṇṇapaṭṭanti nibbuddhe paṭijinitvā laddhabbasuvaṇṇapaṭṭaṃ. Vītikkamassa akatattā asambhinneneva sīlena. Yasmā tasmiṃ satthu santikaṃ āgacchante tāpi tena saddhiṃ āgamaṃsu tasmā ‘‘accharāsaṅghaparivuto’’ti vuttaṃ.
สโงฺฆสิตนฺติ สงฺคมฺม โฆสิตํ, ตตฺถ ตตฺถ อจฺฉรานํ คีตสทฺทวเสน โฆสิตํฯ ปิสาจคณํ กตฺวา วทติ อจฺฉนฺทราคตายฯ นิยามจิตฺตตายาติ สมฺมตฺตนิยาเม นินฺนจิตฺตตายฯ ครุภาเวนาติ ตาสํ วเส อวตฺตนโต ครุฎฺฐานภาเวนฯ ยาตฺราติ นิพฺพานํ ปติ ยาตฺราฯ ตํ ปน วฎฺฎโต นิคฺคมนํ โหตีติ อาห ‘‘กถํ นิคฺคมนํ ภวิสฺสตี’’ติฯ
Saṅghositanti saṅgamma ghositaṃ, tattha tattha accharānaṃ gītasaddavasena ghositaṃ. Pisācagaṇaṃ katvā vadati acchandarāgatāya. Niyāmacittatāyāti sammattaniyāme ninnacittatāya. Garubhāvenāti tāsaṃ vase avattanato garuṭṭhānabhāvena. Yātrāti nibbānaṃ pati yātrā. Taṃ pana vaṭṭato niggamanaṃ hotīti āha ‘‘kathaṃ niggamanaṃ bhavissatī’’ti.
อติสเลฺลขเตวาติ อติวิย กิเลสานํ สเลฺลขิตวุตฺติโกฯ อกตาภินิเวสสฺสาติ ภาวนมนนุยุตฺตสฺส อนารทฺธวิปสฺสกสฺสฯ การกสฺสาติ สุคโตวาทการกสฺส สมฺมาปฎิปชฺชโตฯ สุญฺญตาวิปสฺสนนฺติ สุญฺญตาทีปนํ วิปสฺสนํ ทุจฺจริตตณฺหาย ทูรีกรเณน เอกวิหาริตายฯ เอโก มโคฺค อสฺสาติ โลกุตฺตรมโคฺค เอว อสฺส อนาคโต, ปุพฺพภาคมโคฺค ปน กตปริจโยติ อโตฺถฯ
Atisallekhatevāti ativiya kilesānaṃ sallekhitavuttiko. Akatābhinivesassāti bhāvanamananuyuttassa anāraddhavipassakassa. Kārakassāti sugatovādakārakassa sammāpaṭipajjato. Suññatāvipassananti suññatādīpanaṃ vipassanaṃ duccaritataṇhāya dūrīkaraṇena ekavihāritāya. Eko maggo assāti lokuttaramaggo eva assa anāgato, pubbabhāgamaggo pana kataparicayoti attho.
กายวงฺกาทีนนฺติ กายทุจฺจริตาทีนํ อภาวโต สมุจฺฉินฺทเนน อนุปลพฺภนโตฯ นตฺถิ เอตฺถ ภยํ, อสฺมิํ วา อธิคเต ปุคฺคลสฺส นตฺถิ ภยนฺติ อภยํ นามฯ สํสารกนฺตารํ อติกฺกมิตฺวา นิพฺพานสงฺขาตํ เขมํ อมตฎฺฐานํ คมเน สุคตสารถินา สุสชฺชิตยานภาวโต รโถ อกูชโนติ อฎฺฐงฺคิโก มโคฺคว อธิเปฺปโตฯ ธมฺมโต อนเปตตาย อปราปรุปฺปตฺติยา จ ธมฺมจเกฺกหิฯ
Kāyavaṅkādīnanti kāyaduccaritādīnaṃ abhāvato samucchindanena anupalabbhanato. Natthi ettha bhayaṃ, asmiṃ vā adhigate puggalassa natthi bhayanti abhayaṃ nāma. Saṃsārakantāraṃ atikkamitvā nibbānasaṅkhātaṃ khemaṃ amataṭṭhānaṃ gamane sugatasārathinā susajjitayānabhāvato ratho akūjanoti aṭṭhaṅgiko maggova adhippeto. Dhammato anapetatāya aparāparuppattiyā ca dhammacakkehi.
โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว อวินาภาวาฯ อปาลโมฺพติ อวสฺสโยฯ ปริวาโรติ ปริกฺขาโร อภิสงฺขรณโตฯ มคฺคสฺส กรณฎฺฐาเน ธโมฺม ตปฺปริยาปนฺนา สมฺมาทิฎฺฐิฯ อนิจฺจาทิวเสนาติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสนฯ โสธิเตสุ วชฺฌมาเนสุฯ ภูมิลทฺธวฎฺฎนฺติ ภูมิลทฺธสงฺขาตํ วฎฺฎํฯ ตตฺถ วิปสฺสนาย ปวตฺติฎฺฐานภาวโต ปญฺจกฺขนฺธา ภูมิ นาม, วฎฺฎมยกมฺมภาวโต ตตฺถ อุปฺปชฺชนารหํ กิเลสชาตํ ภูมิลทฺธวฎฺฎํฯ ปริชานมานาติ ปริจฺฉินฺทนวเสน สมติกฺกมวเสน ชานมานา ปฎิวิชฺฌนฺตีฯ
Ottappampi gahitameva avinābhāvā. Apālamboti avassayo. Parivāroti parikkhāro abhisaṅkharaṇato. Maggassa karaṇaṭṭhāne dhammo tappariyāpannā sammādiṭṭhi. Aniccādivasenāti aniccānupassanādivasena. Sodhitesu vajjhamānesu. Bhūmiladdhavaṭṭanti bhūmiladdhasaṅkhātaṃ vaṭṭaṃ. Tattha vipassanāya pavattiṭṭhānabhāvato pañcakkhandhā bhūmi nāma, vaṭṭamayakammabhāvato tattha uppajjanārahaṃ kilesajātaṃ bhūmiladdhavaṭṭaṃ. Parijānamānāti paricchindanavasena samatikkamavasena jānamānā paṭivijjhantī.
กสฺมา เทวปุโตฺต โสตาปตฺติผเลเยว ปติฎฺฐาสิ, นนุ จ สา เทสนา ภควตา จตุมคฺคปฺปธานภาเวน ปวตฺติตาติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิฯ
Kasmā devaputto sotāpattiphaleyeva patiṭṭhāsi, nanu ca sā desanā bhagavatā catumaggappadhānabhāvena pavattitāti āha ‘‘yathā hī’’tiādi.
อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Accharāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๖. อจฺฉราสุตฺตํ • 6. Accharāsuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๖. อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา • 6. Accharāsuttavaṇṇanā