Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๗. อเจลกสฺสปสุตฺตํ
7. Acelakassapasuttaṃ
๑๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อทฺทสา โข อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุเจฺฉยฺยาม มยํ ภวนฺตํ โคตมํ กญฺจิเทว 1 เทสํ, สเจ โน ภวํ โคตโม โอกาสํ กโรติ ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติฯ
17. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya rājagahaṃ piṇḍāya pāvisi. Addasā kho acelo kassapo bhagavantaṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho acelo kassapo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘puccheyyāma mayaṃ bhavantaṃ gotamaṃ kañcideva 2 desaṃ, sace no bhavaṃ gotamo okāsaṃ karoti pañhassa veyyākaraṇāyā’’ti.
‘‘อกาโล โข ตาว, กสฺสป, ปญฺหสฺส; อนฺตรฆรํ ปวิฎฺฐมฺหา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ ‘‘ปุเจฺฉยฺยาม มยํ ภวนฺตํ โคตมํ กญฺจิเทว เทสํ, สเจ โน ภวํ โคตโม โอกาสํ กโรติ ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติฯ ‘‘อกาโล โข ตาว, กสฺสป, ปญฺหสฺส; อนฺตรฆรํ ปวิฎฺฐมฺหา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข อเจโล กสฺสโป…เป.… อนฺตรฆรํ ปวิฎฺฐมฺหาติฯ เอวํ วุเตฺต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข ปน มยํ ภวนฺตํ โคตมํ พหุเทว ปุจฺฉิตุกามา’’ติฯ ‘‘ปุจฺฉ, กสฺสป, ยทากงฺขสี’’ติฯ
‘‘Akālo kho tāva, kassapa, pañhassa; antaragharaṃ paviṭṭhamhā’’ti. Dutiyampi kho acelo kassapo bhagavantaṃ etadavoca ‘‘puccheyyāma mayaṃ bhavantaṃ gotamaṃ kañcideva desaṃ, sace no bhavaṃ gotamo okāsaṃ karoti pañhassa veyyākaraṇāyā’’ti. ‘‘Akālo kho tāva, kassapa, pañhassa; antaragharaṃ paviṭṭhamhā’’ti. Tatiyampi kho acelo kassapo…pe… antaragharaṃ paviṭṭhamhāti. Evaṃ vutte, acelo kassapo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘na kho pana mayaṃ bhavantaṃ gotamaṃ bahudeva pucchitukāmā’’ti. ‘‘Puccha, kassapa, yadākaṅkhasī’’ti.
‘‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, ‘สยํกตํ ทุกฺข’นฺติ? ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ ภควา อโวจฯ ‘กิํ ปน, โภ โคตม, ปรํกตํ ทุกฺข’นฺติ? ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ ภควา อโวจฯ ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, สยํกตญฺจ ปรํกตญฺจ ทุกฺข’นฺติ? ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ ภควา อโวจฯ ‘กิํ ปน โภ โคตม, อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ ทุกฺข’นฺติ? ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ ภควา อโวจฯ ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, นตฺถิ ทุกฺข’นฺติ? ‘น โข, กสฺสป, นตฺถิ ทุกฺขํฯ อตฺถิ โข, กสฺสป, ทุกฺข’นฺติฯ ‘เตน หิ ภวํ โคตโม ทุกฺขํ น ชานาติ, น ปสฺสตี’ติฯ ‘น ขฺวาหํ, กสฺสป, ทุกฺขํ น ชานามิ, น ปสฺสามิฯ ชานามิ ขฺวาหํ, กสฺสป, ทุกฺขํ; ปสฺสามิ ขฺวาหํ, กสฺสป, ทุกฺข’’’นฺติฯ
‘‘Kiṃ nu kho, bho gotama, ‘sayaṃkataṃ dukkha’nti? ‘Mā hevaṃ, kassapā’ti bhagavā avoca. ‘Kiṃ pana, bho gotama, paraṃkataṃ dukkha’nti? ‘Mā hevaṃ, kassapā’ti bhagavā avoca. ‘Kiṃ nu kho, bho gotama, sayaṃkatañca paraṃkatañca dukkha’nti? ‘Mā hevaṃ, kassapā’ti bhagavā avoca. ‘Kiṃ pana bho gotama, asayaṃkāraṃ aparaṃkāraṃ adhiccasamuppannaṃ dukkha’nti? ‘Mā hevaṃ, kassapā’ti bhagavā avoca. ‘Kiṃ nu kho, bho gotama, natthi dukkha’nti? ‘Na kho, kassapa, natthi dukkhaṃ. Atthi kho, kassapa, dukkha’nti. ‘Tena hi bhavaṃ gotamo dukkhaṃ na jānāti, na passatī’ti. ‘Na khvāhaṃ, kassapa, dukkhaṃ na jānāmi, na passāmi. Jānāmi khvāhaṃ, kassapa, dukkhaṃ; passāmi khvāhaṃ, kassapa, dukkha’’’nti.
‘‘กิ นุ โข, โภ โคตม, ‘สยํกตํ ทุกฺข’นฺติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปน, โภ โคตม, ปรํกตํ ทุกฺข’นฺติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, สยํกตญฺจ ปรํกตญฺจ ทุกฺข’นฺติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปน, โภ โคตม, อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ ทุกฺข’นฺติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘มา เหวํ, กสฺสปา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, นตฺถิ ทุกฺข’นฺติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘น โข, กสฺสป, นตฺถิ ทุกฺขํ , อตฺถิ โข, กสฺสป, ทุกฺข’นฺติ วเทสิฯ ‘เตน หิ ภวํ โคตโม ทุกฺขํ น ชานาติ น ปสฺสตี’ติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘น ขฺวาหํ, กสฺสป, ทุกฺขํ น ชานามิ น ปสฺสามิฯ ชานามิ ขฺวาหํ, กสฺสป, ทุกฺขํ; ปสฺสามิ ขฺวาหํ, กสฺสป, ทุกฺข’นฺติ วเทสิฯ อาจิกฺขตุ จ 3 เม, ภเนฺต, ภควา ทุกฺขํฯ เทเสตุ จ 4 เม, ภเนฺต, ภควา ทุกฺข’’นฺติฯ
‘‘Ki nu kho, bho gotama, ‘sayaṃkataṃ dukkha’nti iti puṭṭho samāno ‘mā hevaṃ, kassapā’ti vadesi. ‘Kiṃ pana, bho gotama, paraṃkataṃ dukkha’nti iti puṭṭho samāno ‘mā hevaṃ, kassapā’ti vadesi. ‘Kiṃ nu kho, bho gotama, sayaṃkatañca paraṃkatañca dukkha’nti iti puṭṭho samāno ‘mā hevaṃ, kassapā’ti vadesi. ‘Kiṃ pana, bho gotama, asayaṃkāraṃ aparaṃkāraṃ adhiccasamuppannaṃ dukkha’nti iti puṭṭho samāno ‘mā hevaṃ, kassapā’ti vadesi. ‘Kiṃ nu kho, bho gotama, natthi dukkha’nti iti puṭṭho samāno ‘na kho, kassapa, natthi dukkhaṃ , atthi kho, kassapa, dukkha’nti vadesi. ‘Tena hi bhavaṃ gotamo dukkhaṃ na jānāti na passatī’ti iti puṭṭho samāno ‘na khvāhaṃ, kassapa, dukkhaṃ na jānāmi na passāmi. Jānāmi khvāhaṃ, kassapa, dukkhaṃ; passāmi khvāhaṃ, kassapa, dukkha’nti vadesi. Ācikkhatu ca 5 me, bhante, bhagavā dukkhaṃ. Desetu ca 6 me, bhante, bhagavā dukkha’’nti.
‘‘‘โส กโรติ โส ปฎิสํเวทยตี’ติ 7 โข, กสฺสป, อาทิโต สโต ‘สยํกตํ ทุกฺข’นฺติ อิติ วทํ สสฺสตํ เอตํ ปเรติฯ ‘อโญฺญ กโรติ อโญฺญ ปฎิสํเวทยตี’ติ โข, กสฺสป, เวทนาภิตุนฺนสฺส สโต ‘ปรํกตํ ทุกฺข’นฺติ อิติ วทํ อุเจฺฉทํ เอตํ ปเรติฯ เอเต เต, กสฺสป, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มเชฺฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ – ‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา; สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ อวิชฺชาย เตฺวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ; สงฺขารนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’’ติฯ
‘‘‘So karoti so paṭisaṃvedayatī’ti 8 kho, kassapa, ādito sato ‘sayaṃkataṃ dukkha’nti iti vadaṃ sassataṃ etaṃ pareti. ‘Añño karoti añño paṭisaṃvedayatī’ti kho, kassapa, vedanābhitunnassa sato ‘paraṃkataṃ dukkha’nti iti vadaṃ ucchedaṃ etaṃ pareti. Ete te, kassapa, ubho ante anupagamma majjhena tathāgato dhammaṃ deseti – ‘avijjāpaccayā saṅkhārā; saṅkhārapaccayā viññāṇaṃ…pe… evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa samudayo hoti. Avijjāya tveva asesavirāganirodhā saṅkhāranirodho; saṅkhāranirodhā viññāṇanirodho…pe… evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa nirodho hotī’’’ti.
เอวํ วุเตฺต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต, อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต! เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย…เป.… จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภเนฺต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ ลเภยฺยาหํ, ภเนฺต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติฯ
Evaṃ vutte, acelo kassapo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bhante, abhikkantaṃ, bhante! Seyyathāpi, bhante, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya…pe… cakkhumanto rūpāni dakkhantīti; evamevaṃ bhagavatā anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ, bhante, bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāmi dhammañca bhikkhusaṅghañca. Labheyyāhaṃ, bhante, bhagavato santike pabbajjaṃ, labheyyaṃ upasampada’’nti.
‘‘สเจ , ภเนฺต, อญฺญติตฺถิยปุโพฺพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, จตฺตาโร มาเส ปริวสติฯ จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน 13 (ปริวุตฺถปริวาสํ) อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู 14 ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวายฯ อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ , จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน 15 (ปริวุตฺถปริวาสํ) อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติฯ
‘‘Sace , bhante, aññatitthiyapubbo imasmiṃ dhammavinaye ākaṅkhati pabbajjaṃ, ākaṅkhati upasampadaṃ, cattāro māse parivasati. Catunnaṃ māsānaṃ accayena 16 (parivutthaparivāsaṃ) āraddhacittā bhikkhū 17 pabbājenti upasampādenti bhikkhubhāvāya. Ahaṃ cattāri vassāni parivasissāmi , catunnaṃ vassānaṃ accayena 18 (parivutthaparivāsaṃ) āraddhacittā bhikkhū pabbājentu upasampādentu bhikkhubhāvāyā’’ti.
อลตฺถ โข อเจโล กสฺสโป ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ อจิรูปสมฺปโนฺน จ ปนายสฺมา กสฺสโป เอโก วูปกโฎฺฐ อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต นจิรเสฺสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ ‘‘ขีณา ชาติ วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโร จ ปนายสฺมา กสฺสโป อรหตํ อโหสีติฯ สตฺตมํฯ
Alattha kho acelo kassapo bhagavato santike pabbajjaṃ, alattha upasampadaṃ. Acirūpasampanno ca panāyasmā kassapo eko vūpakaṭṭho appamatto ātāpī pahitatto viharanto nacirasseva – yassatthāya kulaputtā sammadeva agārasmā anagāriyaṃ pabbajanti tadanuttaraṃ – brahmacariyapariyosānaṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja vihāsi. ‘‘Khīṇā jāti vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’’ti abbhaññāsi. Aññataro ca panāyasmā kassapo arahataṃ ahosīti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. อเจลกสฺสปสุตฺตวณฺณนา • 7. Acelakassapasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. อเจลกสฺสปสุตฺตวณฺณนา • 7. Acelakassapasuttavaṇṇanā