Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๕. อเจลกวโคฺค
5. Acelakavaggo
๑. อเจลกสิกฺขาปทํ
1. Acelakasikkhāpadaṃ
๒๖๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส ขาทนียํ อุสฺสนฺนํ โหติฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘เตนหานนฺท, วิฆาสาทานํ ปูวํ เทหี’’ติฯ ‘‘เอวํ ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา วิฆาสาเท ปฎิปาฎิยา นิสีทาเปตฺวา เอเกกํ ปูวํ เทโนฺต อญฺญตริสฺสา ปริพฺพาชิกาย เอกํ มญฺญมาโน เทฺว ปูเว อทาสิฯ สามนฺตา ปริพฺพาชิกาโย ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ชาโร เต เอโส สมโณ’’ติฯ ‘‘น เม โส สมโณ ชาโร, เอกํ มญฺญมาโน เทฺว ปูเว อทาสี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท เอเกกํ ปูวํ เทโนฺต ตสฺสาเยว ปริพฺพาชิกาย เอกํ มญฺญมาโน เทฺว ปูเว อทาสิฯ สามนฺตา ปริพฺพาชิกาโย ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ชาโร เต เอโส สมโณ’’ติฯ ‘‘น เม โส สมโณ ชาโร, เอกํ มญฺญมาโน เทฺว ปูเว อทาสี’’ติฯ ‘‘ชาโร น ชาโร’’ติ ภณฺฑิํสุฯ อญฺญตโรปิ อาชีวโก ปริเวสนํ อคมาสิฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ ปหูเตน สปฺปินา โอทนํ มทฺทิตฺวา ตสฺส อาชีวกสฺส มหนฺตํ ปิณฺฑํ อทาสิฯ อถ โข โส อาชีวโก ตํ ปิณฺฑํ อาทาย อคมาสิฯ อญฺญตโร อาชีวโก ตํ อาชีวกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ตยา, อาวุโส, ปิโณฺฑ ลโทฺธ’’ติ? ‘‘ตสฺสาวุโส, สมณสฺส โคตมสฺส มุณฺฑคหปติกสฺส ปริเวสนาย ลโทฺธ’’ติฯ
269. Tena samayena buddho bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Tena kho pana samayena saṅghassa khādanīyaṃ ussannaṃ hoti. Atha kho āyasmā ānando bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Tenahānanda, vighāsādānaṃ pūvaṃ dehī’’ti. ‘‘Evaṃ bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paṭissuṇitvā vighāsāde paṭipāṭiyā nisīdāpetvā ekekaṃ pūvaṃ dento aññatarissā paribbājikāya ekaṃ maññamāno dve pūve adāsi. Sāmantā paribbājikāyo taṃ paribbājikaṃ etadavocuṃ – ‘‘jāro te eso samaṇo’’ti. ‘‘Na me so samaṇo jāro, ekaṃ maññamāno dve pūve adāsī’’ti. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho āyasmā ānando ekekaṃ pūvaṃ dento tassāyeva paribbājikāya ekaṃ maññamāno dve pūve adāsi. Sāmantā paribbājikāyo taṃ paribbājikaṃ etadavocuṃ – ‘‘jāro te eso samaṇo’’ti. ‘‘Na me so samaṇo jāro, ekaṃ maññamāno dve pūve adāsī’’ti. ‘‘Jāro na jāro’’ti bhaṇḍiṃsu. Aññataropi ājīvako parivesanaṃ agamāsi. Aññataro bhikkhu pahūtena sappinā odanaṃ madditvā tassa ājīvakassa mahantaṃ piṇḍaṃ adāsi. Atha kho so ājīvako taṃ piṇḍaṃ ādāya agamāsi. Aññataro ājīvako taṃ ājīvakaṃ etadavoca – ‘‘kuto tayā, āvuso, piṇḍo laddho’’ti? ‘‘Tassāvuso, samaṇassa gotamassa muṇḍagahapatikassa parivesanāya laddho’’ti.
อโสฺสสุํ โข อุปาสกา เตสํ อาชีวกานํ อิมํ กถาสลฺลาปํฯ อถ โข เต อุปาสกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิเม, ภเนฺต, ติตฺถิยา อวณฺณกามา พุทฺธสฺส อวณฺณกามา ธมฺมสฺส อวณฺณกามา สงฺฆสฺสฯ สาธุ, ภเนฺต, อยฺยา ติตฺถิยานํ สหตฺถา น ทเทยฺยุ’’นฺติฯ อถ โข ภควา เต อุปาสเก ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข เต อุปาสกา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามิ ทส อตฺถวเส ปฎิจฺจ – สงฺฆสุฎฺฐุตาย, สงฺฆผาสุตาย …เป.… สทฺธมฺมฎฺฐิติยา, วินยานุคฺคหายฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Assosuṃ kho upāsakā tesaṃ ājīvakānaṃ imaṃ kathāsallāpaṃ. Atha kho te upāsakā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te upāsakā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘ime, bhante, titthiyā avaṇṇakāmā buddhassa avaṇṇakāmā dhammassa avaṇṇakāmā saṅghassa. Sādhu, bhante, ayyā titthiyānaṃ sahatthā na dadeyyu’’nti. Atha kho bhagavā te upāsake dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho te upāsakā bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamiṃsu. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññapessāmi dasa atthavase paṭicca – saṅghasuṭṭhutāya, saṅghaphāsutāya …pe… saddhammaṭṭhitiyā, vinayānuggahāya. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๒๗๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อเจลกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
270.‘‘Yo pana bhikkhu acelakassa vā paribbājakassa vā paribbājikāya vā sahatthā khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā dadeyya, pācittiya’’nti.
๒๗๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
271.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
อเจลโก นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปโนฺน นโคฺคฯ
Acelako nāma yo koci paribbājakasamāpanno naggo.
ปริพฺพาชโก นาม ภิกฺขุญฺจ สามเณรญฺจ ฐเปตฺวา โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปโนฺนฯ
Paribbājako nāma bhikkhuñca sāmaṇerañca ṭhapetvā yo koci paribbājakasamāpanno.
ปริพฺพาชิกา นาม ภิกฺขุนิญฺจ สิกฺขมานญฺจ สามเณริญฺจ ฐเปตฺวา ยา กาจิ ปริพฺพาชิกสมาปนฺนาฯ
Paribbājikā nāma bhikkhuniñca sikkhamānañca sāmaṇeriñca ṭhapetvā yā kāci paribbājikasamāpannā.
ขาทนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – อุทกทนฺตโปนํ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ
Khādanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – udakadantaponaṃ ṭhapetvā avasesaṃ khādanīyaṃ nāma.
โภชนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํฯ
Bhojanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ.
ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Dadeyyāti kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā nissaggiyena vā deti, āpatti pācittiyassa.
๒๗๒. ติตฺถิเย ติตฺถิยสญฺญี สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ติตฺถิเย เวมติโก สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ติตฺถิเย อติตฺถิยสญฺญี สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
272. Titthiye titthiyasaññī sahatthā khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā deti, āpatti pācittiyassa. Titthiye vematiko sahatthā khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā deti, āpatti pācittiyassa. Titthiye atitthiyasaññī sahatthā khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā deti, āpatti pācittiyassa.
อุทกทนฺตโปนํ เทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อติตฺถิเย ติตฺถิยสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อติตฺถิเย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อติตฺถิเย อติตฺถิยสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Udakadantaponaṃ deti, āpatti dukkaṭassa. Atitthiye titthiyasaññī, āpatti dukkaṭassa. Atitthiye vematiko, āpatti dukkaṭassa. Atitthiye atitthiyasaññī, anāpatti.
๒๗๓. อนาปตฺติ ทาเปติ น เทติ, อุปนิกฺขิปิตฺวา เทติ, พาหิราเลปํ เทติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
273. Anāpatti dāpeti na deti, upanikkhipitvā deti, bāhirālepaṃ deti, ummattakassa, ādikammikassāti.
อเจลกสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ
Acelakasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.
๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทํ
2. Uyyojanasikkhāpadaṃ
๒๗๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ภาตุโน สทฺธิวิหาริกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เอหาวุโส, คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติฯ ตสฺส อทาเปตฺวา อุโยฺยเชสิ – ‘‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธิํ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’’ติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อุปกเฎฺฐ กาเล นาสกฺขิ ปิณฺฑาย จริตุํ, ปฎิกฺกมเนปิ ภตฺตวิสฺสคฺคํ น สมฺภาเวสิ, ฉินฺนภโตฺต อโหสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ภิกฺขุํ – ‘เอหาวุโส, คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’ติ ตสฺส อทาเปตฺวา อุโยฺยเชสฺสตี’’ติ …เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, ภิกฺขุํ – ‘‘เอหาวุโส, คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติ ตสฺส อทาเปตฺวา อุโยฺยเชสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ภิกฺขุํ – ‘‘เอหาวุโส, คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติ ตสฺส อทาเปตฺวา อุโยฺยเชสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว , อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
274. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto bhātuno saddhivihārikaṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘ehāvuso, gāmaṃ piṇḍāya pavisissāmā’’ti. Tassa adāpetvā uyyojesi – ‘‘gacchāvuso, na me tayā saddhiṃ kathā vā nisajjā vā phāsu hoti, ekakassa me kathā vā nisajjā vā phāsu hotī’’ti. Atha kho so bhikkhu upakaṭṭhe kāle nāsakkhi piṇḍāya carituṃ, paṭikkamanepi bhattavissaggaṃ na sambhāvesi, chinnabhatto ahosi. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto bhikkhuṃ – ‘ehāvuso, gāmaṃ piṇḍāya pavisissāmā’ti tassa adāpetvā uyyojessatī’’ti …pe… saccaṃ kira tvaṃ, upananda, bhikkhuṃ – ‘‘ehāvuso, gāmaṃ piṇḍāya pavisissāmā’’ti tassa adāpetvā uyyojesīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, bhikkhuṃ – ‘‘ehāvuso, gāmaṃ piṇḍāya pavisissāmā’’ti tassa adāpetvā uyyojessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave , imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๒๗๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ – ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’ติ ตสฺส ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วา อุโยฺยเชยฺย – ‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธิํ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’ติ, เอตเทว ปจฺจยํ กริตฺวา อนญฺญํ, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
275.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuṃ – ‘‘ehāvuso, gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya pavisissāmā’ti tassa dāpetvā vā adāpetvā vā uyyojeyya – ‘gacchāvuso, na me tayā saddhiṃ kathā vā nisajjā vā phāsu hoti, ekakassa me kathā vā nisajjā vā phāsu hotī’ti, etadeva paccayaṃ karitvā anaññaṃ, pācittiya’’nti.
๒๗๖. โย ปนาติ โย, ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
276.Yo panāti yo, yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
ภิกฺขุนฺติ อญฺญํ ภิกฺขุํฯ
Bhikkhunti aññaṃ bhikkhuṃ.
เอหาวุโส, คามํ วา นิคมํ วาติ คาโมปิ นิคโมปิ นครมฺปิ, คาโม เจว นิคโม จฯ
Ehāvuso, gāmaṃ vā nigamaṃ vāti gāmopi nigamopi nagarampi, gāmo ceva nigamo ca.
ตสฺส ทาเปตฺวาติ ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทาเปตฺวาฯ
Tassa dāpetvāti yāguṃ vā bhattaṃ vā khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā dāpetvā.
อทาเปตฺวาติ น กิญฺจิ ทาเปตฺวาฯ
Adāpetvāti na kiñci dāpetvā.
อุโยฺยเชยฺยาติ มาตุคาเมน สทฺธิํ หสิตุกาโม กีฬิตุกาโม รโห นิสีทิตุกาโม อนาจารํ อาจริตุกาโม เอวํ วเทติ – ‘‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธิํ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’’ติ อุโยฺยเชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทสฺสนูปจารํ วา สวนูปจารํ วา วิชหนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ วิชหิเต, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Uyyojeyyāti mātugāmena saddhiṃ hasitukāmo kīḷitukāmo raho nisīditukāmo anācāraṃ ācaritukāmo evaṃ vadeti – ‘‘gacchāvuso, na me tayā saddhiṃ kathā vā nisajjā vā phāsu hoti, ekakassa me kathā vā nisajjā vā phāsu hotī’’ti uyyojeti, āpatti dukkaṭassa. Dassanūpacāraṃ vā savanūpacāraṃ vā vijahantassa āpatti dukkaṭassa. Vijahite, āpatti pācittiyassa.
เอตเทว ปจฺจยํ กริตฺวา อนญฺญนฺติ น อโญฺญ โกจิ ปจฺจโย โหติ อุโยฺยเชตุํฯ
Etadeva paccayaṃ karitvā anaññanti na añño koci paccayo hoti uyyojetuṃ.
๒๗๗. อุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี อุโยฺยเชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส ฯ อุปสมฺปเนฺน เวมติโก อุโยฺยเชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญี อุโยฺยเชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
277. Upasampanne upasampannasaññī uyyojeti, āpatti pācittiyassa . Upasampanne vematiko uyyojeti, āpatti pācittiyassa. Upasampanne anupasampannasaññī uyyojeti, āpatti pācittiyassa.
กลิสาสนํ อาโรเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปนฺนํ อุโยฺยเชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กลิสาสนํ อาโรเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Kalisāsanaṃ āropeti, āpatti dukkaṭassa. Anupasampannaṃ uyyojeti, āpatti dukkaṭassa. Kalisāsanaṃ āropeti, āpatti dukkaṭassa. Anupasampanne upasampannasaññī, āpatti dukkaṭassa. Anupasampanne vematiko, āpatti dukkaṭassa. Anupasampanne anupasampannasaññī, āpatti dukkaṭassa.
๒๗๘. อนาปตฺติ ‘‘อุโภ เอกโต น ยาเปสฺสามา’’ติ อุโยฺยเชติ, ‘‘มหคฺฆํ ภณฺฑํ ปสฺสิตฺวา โลภธมฺมํ อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ อุโยฺยเชติ, ‘‘มาตุคามํ ปสฺสิตฺวา อนภิรติํ อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ อุโยฺยเชติ, ‘‘คิลานสฺส วา โอหิยฺยกสฺส วา วิหารปาลสฺส วา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา นีหรา’’ติ อุโยฺยเชติ, น อนาจารํ อาจริตุกาโม, สติ กรณีเย อุโยฺยเชติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
278. Anāpatti ‘‘ubho ekato na yāpessāmā’’ti uyyojeti, ‘‘mahagghaṃ bhaṇḍaṃ passitvā lobhadhammaṃ uppādessatī’’ti uyyojeti, ‘‘mātugāmaṃ passitvā anabhiratiṃ uppādessatī’’ti uyyojeti, ‘‘gilānassa vā ohiyyakassa vā vihārapālassa vā yāguṃ vā bhattaṃ vā khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā nīharā’’ti uyyojeti, na anācāraṃ ācaritukāmo, sati karaṇīye uyyojeti, ummattakassa, ādikammikassāti.
อุโยฺยชนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ
Uyyojanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.
๓. สโภชนสิกฺขาปทํ
3. Sabhojanasikkhāpadaṃ
๒๗๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต สหายกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ตสฺส ปชาปติยา สทฺธิํ สยนิฆเร 1 นิสชฺชํ กเปฺปสิฯ อถ โข โส ปุริโส เยนายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส ปุริโส ปชาปติํ เอตทโวจ – ‘‘ทเทหายฺยสฺส ภิกฺข’’นฺติฯ อถ โข สา อิตฺถี อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส ภิกฺขํ อทาสิฯ อถ โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉถ, ภเนฺต, ยโต อยฺยสฺส ภิกฺขา ทินฺนา’’ติฯ อถ โข สา อิตฺถี สลฺลเกฺขตฺวา – ‘‘ปริยุฎฺฐิโต อยํ ปุริโส’’ติ, อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิสีทถ, ภเนฺต, มา อคมิตฺถา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข โส ปุริโส…เป.… ตติยมฺปิ โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉถ, ภเนฺต, ยโต อยฺยสฺส ภิกฺขา ทินฺนา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข สา อิตฺถี อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิสีทถ, ภเนฺต, มา อคมิตฺถา’’ติฯ
279. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto sahāyakassa gharaṃ gantvā tassa pajāpatiyā saddhiṃ sayanighare 2 nisajjaṃ kappesi. Atha kho so puriso yenāyasmā upanando sakyaputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho so puriso pajāpatiṃ etadavoca – ‘‘dadehāyyassa bhikkha’’nti. Atha kho sā itthī āyasmato upanandassa sakyaputtassa bhikkhaṃ adāsi. Atha kho so puriso āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ etadavoca – ‘‘gacchatha, bhante, yato ayyassa bhikkhā dinnā’’ti. Atha kho sā itthī sallakkhetvā – ‘‘pariyuṭṭhito ayaṃ puriso’’ti, āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ etadavoca – ‘‘nisīdatha, bhante, mā agamitthā’’ti. Dutiyampi kho so puriso…pe… tatiyampi kho so puriso āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ etadavoca – ‘‘gacchatha, bhante, yato ayyassa bhikkhā dinnā’’ti. Tatiyampi kho sā itthī āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ etadavoca – ‘‘nisīdatha, bhante, mā agamitthā’’ti.
อถ โข โส ปุริโส นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขู อุชฺฌาเปสิ – ‘‘อยํ, ภเนฺต, อโยฺย อุปนโนฺท มยฺหํ ปชาปติยา สทฺธิํ สยนิฆเร นิสิโนฺนฯ โส มยา อุโยฺยชียมาโน น อิจฺฉติ คนฺตุํฯ พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho so puriso nikkhamitvā bhikkhū ujjhāpesi – ‘‘ayaṃ, bhante, ayyo upanando mayhaṃ pajāpatiyā saddhiṃ sayanighare nisinno. So mayā uyyojīyamāno na icchati gantuṃ. Bahukiccā mayaṃ bahukaraṇīyā’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappessatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, upananda, sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappesīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๒๘๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
280.‘‘Yo pana bhikkhu sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappeyya, pācittiya’’nti.
๒๘๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
281.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
สโภชนํ นาม กุลํ อิตฺถี เจว โหติ ปุริโส จ, อิตฺถี จ ปุริโส จ อุโภ อนิกฺขนฺตา โหนฺติ, อุโภ อวีตราคาฯ
Sabhojanaṃ nāma kulaṃ itthī ceva hoti puriso ca, itthī ca puriso ca ubho anikkhantā honti, ubho avītarāgā.
อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวาฯ
Anupakhajjāti anupavisitvā.
นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ มหลฺลเก ฆเร ปิฎฺฐสงฺฆาฎสฺส 3 หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา นิสีทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ขุทฺทเก ฆเร ปิฎฺฐิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสีทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Nisajjaṃ kappeyyāti mahallake ghare piṭṭhasaṅghāṭassa 4 hatthapāsaṃ vijahitvā nisīdati, āpatti pācittiyassa. Khuddake ghare piṭṭhivaṃsaṃ atikkamitvā nisīdati, āpatti pācittiyassa.
๒๘๒. สยนิฆเร สยนิฆรสญฺญี สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สยนิฆเร เวมติโก สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สยนิฆเร นสยนิฆรสญฺญี สโภชเน กุเล อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
282. Sayanighare sayanigharasaññī sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Sayanighare vematiko sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Sayanighare nasayanigharasaññī sabhojane kule anupakhajja nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.
นสยนิฆเร สยนิฆรสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นสยนิฆเร เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นสยนิฆเร นสยนิฆรสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Nasayanighare sayanigharasaññī, āpatti dukkaṭassa. Nasayanighare vematiko, āpatti dukkaṭassa. Nasayanighare nasayanigharasaññī, anāpatti.
๒๘๓. อนาปตฺติ มหลฺลเก ฆเร ปิฎฺฐสงฺฆาฎสฺส หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา นิสีทติ, ขุทฺทเก ฆเร ปิฎฺฐิวํสํ อนติกฺกมิตฺวา นิสีทติ, ภิกฺขุ ทุติโย โหติ, อุโภ นิกฺขนฺตา โหนฺติ, อุโภ วีตราคา, นสยนิฆเร, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
283. Anāpatti mahallake ghare piṭṭhasaṅghāṭassa hatthapāsaṃ avijahitvā nisīdati, khuddake ghare piṭṭhivaṃsaṃ anatikkamitvā nisīdati, bhikkhu dutiyo hoti, ubho nikkhantā honti, ubho vītarāgā, nasayanighare, ummattakassa, ādikammikassāti.
สโภชนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ
Sabhojanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.
๔. รโหปฎิจฺฉนฺนสิกฺขาปทํ
4. Rahopaṭicchannasikkhāpadaṃ
๒๘๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต สหายกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ตสฺส ปชาปติยา สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปสิฯ อถ โข โส ปุริโส อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อโยฺย อุปนโนฺท มยฺหํ ปชาปติยา สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส ปุริสสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต มาตุคาเมน สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตีติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, มาตุคาเมน สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, มาตุคาเมน สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
284. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto sahāyakassa gharaṃ gantvā tassa pajāpatiyā saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappesi. Atha kho so puriso ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma ayyo upanando mayhaṃ pajāpatiyā saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappessatī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tassa purisassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto mātugāmena saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappessatīti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, upananda, mātugāmena saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappesīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, mātugāmena saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๒๘๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
285.‘‘Yopana bhikkhu mātugāmena saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappeyya, pācittiya’’nti.
๒๘๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
286.Yopanāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี น เปตี น ติรจฺฉานคตา, อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรีฯ
Mātugāmo nāma manussitthī, na yakkhī na petī na tiracchānagatā, antamaso tadahujātāpi dārikā, pageva mahattarī.
สทฺธินฺติ เอกโตฯ
Saddhinti ekato.
5 รโห นาม จกฺขุสฺส รโห โสตสฺส รโหฯ จกฺขุสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ อกฺขิํ วา นิขณียมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปียมาเน สีสํ วา อุกฺขิปียมาเน ปสฺสิตุํฯ โสตสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุํฯ
6Raho nāma cakkhussa raho sotassa raho. Cakkhussa raho nāma na sakkā hoti akkhiṃ vā nikhaṇīyamāne bhamukaṃ vā ukkhipīyamāne sīsaṃ vā ukkhipīyamāne passituṃ. Sotassa raho nāma na sakkā hoti pakatikathā sotuṃ.
นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ มาตุคาเม นิสิเนฺน ภิกฺขุ อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ภิกฺขุ นิสิเนฺน มาตุคาโม อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุโภ วา นิสินฺนา โหนฺติ อุโภ วา นิปนฺนา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Nisajjaṃ kappeyyāti mātugāme nisinne bhikkhu upanisinno vā hoti upanipanno vā, āpatti pācittiyassa. Bhikkhu nisinne mātugāmo upanisinno vā hoti upanipanno vā, āpatti pācittiyassa. Ubho vā nisinnā honti ubho vā nipannā, āpatti pācittiyassa.
๒๘๗. มาตุคาเม มาตุคามสญฺญี รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม เวมติโก รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
287. Mātugāme mātugāmasaññī raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Mātugāme vematiko raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Mātugāme amātugāmasaññī raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.
ยกฺขิยา วา เปติยา วา ปณฺฑเกน วา ติรจฺฉานคตาย วา มนุสฺสวิคฺคหิตฺถิยา วา สทฺธิํ รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม มาตุคามสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Yakkhiyā vā petiyā vā paṇḍakena vā tiracchānagatāya vā manussaviggahitthiyā vā saddhiṃ raho paṭicchanne āsane nisajjaṃ kappeti, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme mātugāmasaññī, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme amātugāmasaññī, anāpatti.
๒๘๘. อนาปตฺติ โย โกจิ วิญฺญู ปุริโส ทุติโย โหติ, ติฎฺฐติ น นิสีทติ, อรโหเปโกฺข, อญฺญวิหิโต นิสีทติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
288. Anāpatti yo koci viññū puriso dutiyo hoti, tiṭṭhati na nisīdati, arahopekkho, aññavihito nisīdati, ummattakassa, ādikammikassāti.
รโหปฎิจฺฉนฺนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ
Rahopaṭicchannasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.
๕. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ
5. Rahonisajjasikkhāpadaṃ
๒๘๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต สหายกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ตสฺส ปชาปติยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสิฯ อถ โข โส ปุริโส อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อโยฺย อุปนโนฺท มยฺหํ ปชาปติยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส ปุริสสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปาสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
289. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto sahāyakassa gharaṃ gantvā tassa pajāpatiyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappesi. Atha kho so puriso ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma ayyo upanando mayhaṃ pajāpatiyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessatī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tassa purisassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, upananda, mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappesīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pāsādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๒๙๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
290.‘‘Yo pana bhikkhu mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappeyya, pācittiya’’nti.
๒๙๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
291.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี น เปตี น ติรจฺฉานคตา, วิญฺญู ปฎิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลํ อาชานิตุํฯ
Mātugāmo nāma manussitthī, na yakkhī na petī na tiracchānagatā, viññū paṭibalā subhāsitadubbhāsitaṃ duṭṭhullāduṭṭhullaṃ ājānituṃ.
สทฺธินฺติ เอกโตฯ
Saddhinti ekato.
เอโก เอกายาติ ภิกฺขุ เจว โหติ มาตุคาโม จฯ
Ekoekāyāti bhikkhu ceva hoti mātugāmo ca.
13 รโห นาม จกฺขุสฺส รโห, โสตสฺส รโหฯ จกฺขุสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ อกฺขิํ วา นิขณียมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปียมาเน สีสํ วา อุกฺขิปียมาเน ปสฺสิตุํฯ โสตสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุํฯ
14Raho nāma cakkhussa raho, sotassa raho. Cakkhussa raho nāma na sakkā hoti akkhiṃ vā nikhaṇīyamāne bhamukaṃ vā ukkhipīyamāne sīsaṃ vā ukkhipīyamāne passituṃ. Sotassa raho nāma na sakkā hoti pakatikathā sotuṃ.
นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ มาตุคาเม นิสิเนฺน ภิกฺขุ อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ภิกฺขุ นิสิเนฺน มาตุคาโม อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุโภ วา นิสินฺนา โหนฺติ อุโภ วา นิปนฺนา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Nisajjaṃ kappeyyāti mātugāme nisinne bhikkhu upanisinno vā hoti upanipanno vā, āpatti pācittiyassa. Bhikkhu nisinne mātugāmo upanisinno vā hoti upanipanno vā, āpatti pācittiyassa. Ubho vā nisinnā honti ubho vā nipannā, āpatti pācittiyassa.
๒๙๒. มาตุคาเม มาตุคามสญฺญี เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม เวมติโก เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
292. Mātugāme mātugāmasaññī eko ekāya raho nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Mātugāme vematiko eko ekāya raho nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Mātugāme amātugāmasaññī eko ekāya raho nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.
ยกฺขิยา วา เปติยา วา ปณฺฑเกน วา ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคหิตฺถิยา วา 15 สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม มาตุคามสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Yakkhiyā vā petiyā vā paṇḍakena vā tiracchānagatamanussaviggahitthiyā vā 16 saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappeti, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme mātugāmasaññī, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme amātugāmasaññī, anāpatti.
๒๙๓. อนาปตฺติ โย โกจิ วิญฺญู ปุริโส ทุติโย โหติ, ติฎฺฐติ น นิสีทติ, อรโหเปโกฺข อญฺญวิหิโต นิสีทติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
293. Anāpatti yo koci viññū puriso dutiyo hoti, tiṭṭhati na nisīdati, arahopekkho aññavihito nisīdati, ummattakassa, ādikammikassāti.
รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ
Rahonisajjasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทํ
6. Cārittasikkhāpadaṃ
๒๙๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส อุปฎฺฐากกุลํ อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ ภเตฺตน นิมเนฺตสิฯ อเญฺญปิ ภิกฺขู ภเตฺตน นิมเนฺตสิฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ปุเรภตฺตํ, กุลานิ ปยิรุปาสติฯ อถ โข เต ภิกฺขู เต มนุเสฺส เอตทโวจุํ – ‘‘เทถาวุโส ภตฺต’’นฺติฯ ‘‘อาคเมถ, ภเนฺต, ยาวาโยฺย อุปนโนฺท อาคจฺฉตี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู…เป.… ตติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู เต มนุเสฺส เอตทโวจุํ – ‘‘เทถาวุโส, ภตฺตํ; ปุเร กาโล อติกฺกมตี’’ติฯ ‘‘ยมฺปิ มยํ, ภเนฺต, ภตฺตํ กริมฺหา อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส การณาฯ อาคเมถ, ภเนฺต, ยาวาโยฺย อุปนโนฺท อาคจฺฉตี’’ติฯ
294. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena āyasmato upanandassa sakyaputtassa upaṭṭhākakulaṃ āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ bhattena nimantesi. Aññepi bhikkhū bhattena nimantesi. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto purebhattaṃ, kulāni payirupāsati. Atha kho te bhikkhū te manusse etadavocuṃ – ‘‘dethāvuso bhatta’’nti. ‘‘Āgametha, bhante, yāvāyyo upanando āgacchatī’’ti. Dutiyampi kho te bhikkhū…pe… tatiyampi kho te bhikkhū te manusse etadavocuṃ – ‘‘dethāvuso, bhattaṃ; pure kālo atikkamatī’’ti. ‘‘Yampi mayaṃ, bhante, bhattaṃ karimhā ayyassa upanandassa kāraṇā. Āgametha, bhante, yāvāyyo upanando āgacchatī’’ti.
อถ โข อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ปุเรภตฺตํ กุลานิ ปยิรุปาสิตฺวา ทิวา อาคจฺฉติฯ ภิกฺขู น จิตฺตรูปํ ภุญฺชิํสุฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho āyasmā upanando sakyaputto purebhattaṃ kulāni payirupāsitvā divā āgacchati. Bhikkhū na cittarūpaṃ bhuñjiṃsu. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjissatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, upananda, nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjasīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
‘‘Yo pana bhikkhu nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjeyya, pācittiya’’nti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๒๙๕. 17 เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส อุปฎฺฐากกุลํ สงฺฆสฺสตฺถาย ขาทนียํ ปาเหสิ – ‘‘อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส ทเสฺสตฺวา สงฺฆสฺส ทาตพฺพ’’นฺติฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต คามํ ปิณฺฑาย ปวิโฎฺฐ โหติฯ อถ โข เต มนุสฺสา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉิํสุ – ‘‘กหํ, ภเนฺต, อโยฺย อุปนโนฺท’’ติ ? ‘‘เอสาวุโส, อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต คามํ ปิณฺฑาย ปวิโฎฺฐ’’ติฯ ‘‘อิทํ, ภเนฺต, ขาทนียํ อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส ทเสฺสตฺวา สงฺฆสฺส ทาตพฺพ’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ปฎิคฺคเหตฺวา นิกฺขิปถ ยาว อุปนโนฺท อาคจฺฉตี’’ติฯ
295.18 Tena kho pana samayena āyasmato upanandassa sakyaputtassa upaṭṭhākakulaṃ saṅghassatthāya khādanīyaṃ pāhesi – ‘‘ayyassa upanandassa dassetvā saṅghassa dātabba’’nti. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭho hoti. Atha kho te manussā ārāmaṃ gantvā bhikkhū pucchiṃsu – ‘‘kahaṃ, bhante, ayyo upanando’’ti ? ‘‘Esāvuso, āyasmā upanando sakyaputto gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭho’’ti. ‘‘Idaṃ, bhante, khādanīyaṃ ayyassa upanandassa dassetvā saṅghassa dātabba’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, paṭiggahetvā nikkhipatha yāva upanando āgacchatī’’ti.
อถ โข อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต – ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺตํ ปุเรภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตุ’’นฺติ ปจฺฉาภตฺตํ กุลานิ ปยิรุปาสิตฺวา ทิวา ปฎิกฺกมิ, ขาทนียํ อุสฺสาริยิตฺถฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho āyasmā upanando sakyaputto – ‘‘bhagavatā paṭikkhittaṃ purebhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjitu’’nti pacchābhattaṃ kulāni payirupāsitvā divā paṭikkami, khādanīyaṃ ussāriyittha. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto pacchābhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjissatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, upananda, pacchābhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjasīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, pacchābhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana bhikkhave imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
‘‘Yo pana bhikkhu nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjeyya, pācittiya’’nti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๒๙๖. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู จีวรทานสมเย กุกฺกุจฺจายนฺตา กุลานิ น ปยิรุปาสนฺติฯ จีวรํ ปริตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรทานสมเย กุลานิ ปยิรุปาสิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
296. Tena kho pana samayena bhikkhū cīvaradānasamaye kukkuccāyantā kulāni na payirupāsanti. Cīvaraṃ parittaṃ uppajjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, cīvaradānasamaye kulāni payirupāsituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺย, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ จีวรทานสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ
‘‘Yo pana bhikkhu nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjeyya, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Cīvaradānasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๒๙๗. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู จีวรกมฺมํ กโรนฺติ, อโตฺถ จ โหติ สูจิยาปิ สุเตฺตนปิ สตฺถเกนปิฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา กุลานิ น ปยิรุปาสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรการสมเย กุลานิ ปยิรุปาสิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
297. Tena kho pana samayena bhikkhū cīvarakammaṃ karonti, attho ca hoti sūciyāpi suttenapi satthakenapi. Bhikkhū kukkuccāyantā kulāni na payirupāsanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, cīvarakārasamaye kulāni payirupāsituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺย , อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํ ฯ ตตฺถายํ สมโยฯ จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ
‘‘Yopana bhikkhu nimantito sabhatto samāno purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjeyya , aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๒๙๘. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู คิลานา โหนฺติ, อโตฺถ จ โหติ เภสเชฺชหิฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา กุลานิ น ปยิรุปาสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สนฺตํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉา กุลานิ ปยิรุปาสิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
298. Tena kho pana samayena bhikkhū gilānā honti, attho ca hoti bhesajjehi. Bhikkhū kukkuccāyantā kulāni na payirupāsanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, santaṃ bhikkhuṃ āpucchā kulāni payirupāsituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๒๙๙. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภโตฺต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺย, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ
299.‘‘Yo pana bhikkhu nimantito sabhatto samāno santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjeyya, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.
๓๐๐. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
300.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
นิมนฺติโต นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน โภชเนน นิมนฺติโตฯ
Nimantito nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena bhojanena nimantito.
สภโตฺต นาม เยน นิมนฺติโต เตน สภโตฺตฯ
Sabhatto nāma yena nimantito tena sabhatto.
สนฺตํ นาม ภิกฺขุํ สกฺกา โหติ อาปุจฺฉา ปวิสิตุํฯ
Santaṃ nāma bhikkhuṃ sakkā hoti āpucchā pavisituṃ.
อสนฺตํ นาม ภิกฺขุํ น สกฺกา โหติ อาปุจฺฉา ปวิสิตุํฯ
Asantaṃ nāma bhikkhuṃ na sakkā hoti āpucchā pavisituṃ.
ปุเรภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต ตํ อภุตฺตาวีฯ
Purebhattaṃ nāma yena nimantito taṃ abhuttāvī.
ปจฺฉาภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต ตํ อนฺตมโส กุสเคฺคนปิ 19 ภุตฺตํ โหติฯ
Pacchābhattaṃ nāma yena nimantito taṃ antamaso kusaggenapi 20 bhuttaṃ hoti.
กุลํ นาม จตฺตาริ กุลานิ – ขตฺติยกุลํ, พฺราหฺมณกุลํ, เวสฺสกุลํ, สุทฺทกุลํฯ
Kulaṃ nāma cattāri kulāni – khattiyakulaṃ, brāhmaṇakulaṃ, vessakulaṃ, suddakulaṃ.
กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺยาติ อญฺญสฺส ฆรูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปฐมํ ปาทํ อุมฺมารํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Kulesucārittaṃ āpajjeyyāti aññassa gharūpacāraṃ okkamantassa āpatti dukkaṭassa. Paṭhamaṃ pādaṃ ummāraṃ atikkāmeti, āpatti dukkaṭassa. Dutiyaṃ pādaṃ atikkāmeti, āpatti pācittiyassa.
อญฺญตฺร สมยาติ ฐเปตฺวา สมยํฯ
Aññatrasamayāti ṭhapetvā samayaṃ.
จีวรทานสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปญฺจ มาสาฯ
Cīvaradānasamayo nāma anatthate kathine vassānassa pacchimo māso, atthate kathine pañca māsā.
จีวรการสมโย นาม จีวเร กยิรมาเนฯ
Cīvarakārasamayo nāma cīvare kayiramāne.
๓๐๑. นิมนฺติเต นิมนฺติตสญฺญี สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ, อญฺญตฺร สมยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ นิมนฺติเต เวมติโก สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ, อญฺญตฺร สมยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ นิมนฺติเต อนิมนฺติตสญฺญี สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ, อญฺญตฺร สมยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
301. Nimantite nimantitasaññī santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjati, aññatra samayā, āpatti pācittiyassa. Nimantite vematiko santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjati, aññatra samayā, āpatti pācittiyassa. Nimantite animantitasaññī santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā kulesu cārittaṃ āpajjati, aññatra samayā, āpatti pācittiyassa.
อนิมนฺติเต นิมนฺติตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนิมนฺติเต เวมติโก , อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนิมนฺติเต อนิมนฺติตสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Animantite nimantitasaññī, āpatti dukkaṭassa. Animantite vematiko , āpatti dukkaṭassa. Animantite animantitasaññī, anāpatti.
๓๐๒. อนาปตฺติ สมเย, สนฺตํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉา ปวิสติ, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปวิสติ, อญฺญสฺส ฆเรน มโคฺค โหติ, ฆรูปจาเรน มโคฺค โหติ, อนฺตรารามํ คจฺฉติ, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คจฺฉติ, ติตฺถิยเสยฺยํ คจฺฉติ, ปฎิกฺกมนํ คจฺฉติ, ภตฺติยฆรํ คจฺฉติ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
302. Anāpatti samaye, santaṃ bhikkhuṃ āpucchā pavisati, asantaṃ bhikkhuṃ anāpucchā pavisati, aññassa gharena maggo hoti, gharūpacārena maggo hoti, antarārāmaṃ gacchati, bhikkhunupassayaṃ gacchati, titthiyaseyyaṃ gacchati, paṭikkamanaṃ gacchati, bhattiyagharaṃ gacchati, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
จาริตฺตสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ
Cārittasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.
๗. มหานามสิกฺขาปทํ
7. Mahānāmasikkhāpadaṃ
๓๐๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สเกฺกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมิํ นิโคฺรธาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน มหานามสฺส สกฺกสฺส เภสชฺชํ อุสฺสนฺนํ โหติฯ อถ โข มหานาโม สโกฺก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข มหานาโม สโกฺก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ จตุมาสํ 21 เภสเชฺชน ปวาเรตุ’’นฺติฯ ‘‘สาธุ สาธุ , มหานาม! เตน หิ ตฺวํ, มหานาม, สงฺฆํ จตุมาสํ เภสเชฺชน ปวาเรหี’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุมาสํ เภสชฺชปฺปจฺจยปวารณํ สาทิตุนฺติฯ
303. Tena samayena buddho bhagavā sakkesu viharati kapilavatthusmiṃ nigrodhārāme. Tena kho pana samayena mahānāmassa sakkassa bhesajjaṃ ussannaṃ hoti. Atha kho mahānāmo sakko yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho mahānāmo sakko bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, bhante, saṅghaṃ catumāsaṃ 22 bhesajjena pavāretu’’nti. ‘‘Sādhu sādhu , mahānāma! Tena hi tvaṃ, mahānāma, saṅghaṃ catumāsaṃ bhesajjena pavārehī’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, catumāsaṃ bhesajjappaccayapavāraṇaṃ sāditunti.
๓๐๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มหานามํ สกฺกํ ปริตฺตํ เภสชฺชํ วิญฺญาเปนฺติฯ ตเถว มหานามสฺส สกฺกสฺส เภสชฺชํ อุสฺสนฺนํ โหติฯ ทุติยมฺปิ โข มหานาโม สโกฺก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข มหานาโม สโกฺก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ อปรมฺปิ จตุมาสํ เภสเชฺชน ปวาเรตุ’’นฺติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, มหานาม! เตน หิ ตฺวํ, มหานาม, สงฺฆํ อปรมฺปิ จตุมาสํ เภสเชฺชน ปวาเรหี’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุน ปวารณมฺปิ สาทิตุนฺติฯ
304. Tena kho pana samayena bhikkhū mahānāmaṃ sakkaṃ parittaṃ bhesajjaṃ viññāpenti. Tatheva mahānāmassa sakkassa bhesajjaṃ ussannaṃ hoti. Dutiyampi kho mahānāmo sakko yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho mahānāmo sakko bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, bhante, saṅghaṃ aparampi catumāsaṃ bhesajjena pavāretu’’nti. ‘‘Sādhu sādhu, mahānāma! Tena hi tvaṃ, mahānāma, saṅghaṃ aparampi catumāsaṃ bhesajjena pavārehī’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, puna pavāraṇampi sāditunti.
๓๐๕. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มหานามํ สกฺกํ ปริตฺตํเยว เภสชฺชํ วิญฺญาเปนฺติฯ ตเถว มหานามสฺส สกฺกสฺส เภสชฺชํ อุสฺสนฺนํ โหติฯ ตติยมฺปิ โข มหานาโม สโกฺก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข มหานาโม สโกฺก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ ยาวชีวํ เภสเชฺชน ปวาเรตุ’’นฺติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, มหานาม! เตน หิ ตฺวํ, มหานาม, สงฺฆํ ยาวชีวํ เภสเชฺชน ปวาเรหี’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นิจฺจปวารณมฺปิ สาทิตุนฺติฯ
305. Tena kho pana samayena bhikkhū mahānāmaṃ sakkaṃ parittaṃyeva bhesajjaṃ viññāpenti. Tatheva mahānāmassa sakkassa bhesajjaṃ ussannaṃ hoti. Tatiyampi kho mahānāmo sakko yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho mahānāmo sakko bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, bhante, saṅghaṃ yāvajīvaṃ bhesajjena pavāretu’’nti. ‘‘Sādhu sādhu, mahānāma! Tena hi tvaṃ, mahānāma, saṅghaṃ yāvajīvaṃ bhesajjena pavārehī’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, niccapavāraṇampi sāditunti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ทุนฺนิวตฺถา โหนฺติ ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนาฯ มหานาโม สโกฺก วตฺตา โหติ – ‘‘กิสฺส ตุเมฺห, ภเนฺต, ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา? นนุ นาม ปพฺพชิเตน สุนิวเตฺถน ภวิตพฺพํ สุปารุเตน อากปฺปสมฺปเนฺนนา’’ติ? ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู มหานาเม สเกฺก อุปนนฺธิํสุฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘เกน นุ โข มยํ อุปาเยน มหานามํ สกฺกํ มงฺกุ กเรยฺยามา’’ติ? อถ โข ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘มหานาเมน โข, อาวุโส, สเกฺกน สโงฺฆ เภสเชฺชน ปวาริโตฯ หนฺท มยํ, อาวุโส, มหานามํ สกฺกํ สปฺปิํ วิญฺญาเปมา’’ติฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เยน มหานาโม สโกฺก เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มหานามํ สกฺกํ เอตทโวจุํ – ‘‘โทเณน, อาวุโส, สปฺปินา อโตฺถ’’ติฯ ‘‘อชฺชโณฺห, ภเนฺต, อาคเมถฯ มนุสฺสา วชํ คตา สปฺปิํ อาหริตุํฯ กาลํ อาหริสฺสถา’’ติ 23ฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū dunnivatthā honti duppārutā anākappasampannā. Mahānāmo sakko vattā hoti – ‘‘kissa tumhe, bhante, dunnivatthā duppārutā anākappasampannā? Nanu nāma pabbajitena sunivatthena bhavitabbaṃ supārutena ākappasampannenā’’ti? Chabbaggiyā bhikkhū mahānāme sakke upanandhiṃsu. Atha kho chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kena nu kho mayaṃ upāyena mahānāmaṃ sakkaṃ maṅku kareyyāmā’’ti? Atha kho chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘mahānāmena kho, āvuso, sakkena saṅgho bhesajjena pavārito. Handa mayaṃ, āvuso, mahānāmaṃ sakkaṃ sappiṃ viññāpemā’’ti. Atha kho chabbaggiyā bhikkhū yena mahānāmo sakko tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā mahānāmaṃ sakkaṃ etadavocuṃ – ‘‘doṇena, āvuso, sappinā attho’’ti. ‘‘Ajjaṇho, bhante, āgametha. Manussā vajaṃ gatā sappiṃ āharituṃ. Kālaṃ āharissathā’’ti 24.
ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู มหานามํ สกฺกํ เอตทโวจุํ – ‘‘โทเณน, อาวุโส, สปฺปินา อโตฺถ’’ติฯ ‘‘อชฺชโณฺห, ภเนฺต, อาคเมถฯ มนุสฺสา วชํ คตา สปฺปิํ อาหริตุํฯ กาลํ อาหริสฺสถา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตยา, อาวุโส, อทาตุกาเมน ปวาริเตน, ยํ ตฺวํ ปวาเรตฺวา น เทสี’’ติ! อถ โข มหานาโม สโกฺก อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา – ‘อชฺชโณฺห, ภเนฺต, อาคเมถา’ติ วุจฺจมานา นาคเมสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู มหานามสฺส สกฺกสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู มหานาเมน สเกฺกน – ‘อชฺชโณฺห, ภเนฺต, อาคเมถา’ติ วุจฺจมานา นาคเมสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, มหานาเมน สเกฺกน – ‘‘อชฺชโณฺห, ภเนฺต, อาคเมถา’’ติ วุจฺจมานา นาคเมถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, มหานาเมน สเกฺกน – ‘‘อชฺชโณฺห, ภเนฺต อาคเมถา’’ติ วุจฺจมานา นาคเมสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho chabbaggiyā bhikkhū mahānāmaṃ sakkaṃ etadavocuṃ – ‘‘doṇena, āvuso, sappinā attho’’ti. ‘‘Ajjaṇho, bhante, āgametha. Manussā vajaṃ gatā sappiṃ āharituṃ. Kālaṃ āharissathā’’ti. ‘‘Kiṃ pana tayā, āvuso, adātukāmena pavāritena, yaṃ tvaṃ pavāretvā na desī’’ti! Atha kho mahānāmo sakko ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā – ‘ajjaṇho, bhante, āgamethā’ti vuccamānā nāgamessantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū mahānāmassa sakkassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū mahānāmena sakkena – ‘ajjaṇho, bhante, āgamethā’ti vuccamānā nāgamessantī’’ti…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, mahānāmena sakkena – ‘‘ajjaṇho, bhante, āgamethā’’ti vuccamānā nāgamethāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, mahānāmena sakkena – ‘‘ajjaṇho, bhante āgamethā’’ti vuccamānā nāgamessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๓๐๖. ‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา จตุมาสปฺปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา , อญฺญตฺร ปุนปวารณาย, อญฺญตฺร นิจฺจปวารณาย; ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
306.‘‘Agilānena bhikkhunā catumāsappaccayapavāraṇā sāditabbā, aññatra punapavāraṇāya, aññatra niccapavāraṇāya; tato ce uttari sādiyeyya, pācittiya’’nti.
๓๐๗. อคิลาเนน ภิกฺขุนา จตุมาสปฺปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพาติ คิลานปฺปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพาฯ
307.Agilānena bhikkhunā catumāsappaccayapavāraṇā sāditabbāti gilānappaccayapavāraṇā sāditabbā.
ปุนปวารณาปิ สาทิตพฺพาติ ยทา คิลาโน ภวิสฺสามิ ตทา วิญฺญาเปสฺสามีติฯ
Punapavāraṇāpi sāditabbāti yadā gilāno bhavissāmi tadā viññāpessāmīti.
นิจฺจปวารณาปิ สาทิตพฺพาติ ยทา คิลาโน ภวิสฺสามิ ตทา วิญฺญาเปสฺสามีติฯ
Niccapavāraṇāpi sāditabbāti yadā gilāno bhavissāmi tadā viññāpessāmīti.
ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ อตฺถิ ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตา น รตฺติปริยนฺตา, อตฺถิ ปวารณา รตฺติปริยนฺตา น เภสชฺชปริยนฺตา, อตฺถิ ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จ, อตฺถิ ปวารณา เนว เภสชฺชปริยนฺตา น รตฺติปริยนฺตาฯ
Tatoce uttari sādiyeyyāti atthi pavāraṇā bhesajjapariyantā na rattipariyantā, atthi pavāraṇā rattipariyantā na bhesajjapariyantā, atthi pavāraṇā bhesajjapariyantā ca rattipariyantā ca, atthi pavāraṇā neva bhesajjapariyantā na rattipariyantā.
เภสชฺชปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ – ‘‘เอตฺตเกหิ เภสเชฺชหิ ปวาเรมี’’ติฯ รตฺติปริยนฺตา นาม รตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ – ‘‘เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ปวาเรมี’’ติฯ เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จ นาม เภสชฺชานิ จ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ – ‘‘เอตฺตเกหิ เภสเชฺชหิ เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ปวาเรมี’’ติฯ เนว เภสชฺชปริยนฺตา น รตฺติปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ จ อปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ อปริคฺคหิตาโย โหนฺติฯ
Bhesajjapariyantā nāma bhesajjāni pariggahitāni honti – ‘‘ettakehi bhesajjehi pavāremī’’ti. Rattipariyantā nāma rattiyo pariggahitāyo honti – ‘‘ettakāsu rattīsu pavāremī’’ti. Bhesajjapariyantā ca rattipariyantā ca nāma bhesajjāni ca pariggahitāni honti rattiyo ca pariggahitāyo honti – ‘‘ettakehi bhesajjehi ettakāsu rattīsu pavāremī’’ti. Neva bhesajjapariyantā na rattipariyantā nāma bhesajjāni ca apariggahitāni honti rattiyo ca apariggahitāyo honti.
๓๐๘. เภสชฺชปริยเนฺต – เยหิ เภสเชฺชหิ ปวาริโต โหติ ตานิ เภสชฺชานิ ฐเปตฺวา อญฺญานิ เภสชฺชานิ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ รตฺติปริยเนฺต – ยาสุ รตฺตีสุ ปวาริโต โหติ, ตา รตฺติโย ฐเปตฺวา อญฺญาสุ รตฺตีสุ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ เภสชฺชปริยเนฺต จ รตฺติปริยเนฺต จ – เยหิ เภสเชฺชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ ฐเปตฺวา ยาสุ รตฺตีสุ ปวาริโต โหติ, ตา รตฺติโย ฐเปตฺวา อญฺญานิ เภสชฺชานิ อญฺญาสุ รตฺตีสุ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ เนว เภสชฺชปริยเนฺต น รตฺติปริยเนฺต, อนาปตฺติฯ
308. Bhesajjapariyante – yehi bhesajjehi pavārito hoti tāni bhesajjāni ṭhapetvā aññāni bhesajjāni viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Rattipariyante – yāsu rattīsu pavārito hoti, tā rattiyo ṭhapetvā aññāsu rattīsu viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Bhesajjapariyante ca rattipariyante ca – yehi bhesajjehi pavārito hoti, tāni bhesajjāni ṭhapetvā yāsu rattīsu pavārito hoti, tā rattiyo ṭhapetvā aññāni bhesajjāni aññāsu rattīsu viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Neva bhesajjapariyante na rattipariyante, anāpatti.
๓๐๙. น เภสเชฺชน กรณีเยน 25 เภสชฺชํ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อเญฺญน เภสเชฺชน กรณีเยน อญฺญํ เภสชฺชํ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ตตุตฺตริ ตตุตฺตริสญฺญี เภสชฺชํ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ตตุตฺตริ เวมติโก เภสชฺชํ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ตตุตฺตริ นตตุตฺตริสญฺญี เภสชฺชํ วิญฺญาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
309. Na bhesajjena karaṇīyena 26 bhesajjaṃ viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Aññena bhesajjena karaṇīyena aññaṃ bhesajjaṃ viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Tatuttari tatuttarisaññī bhesajjaṃ viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Tatuttari vematiko bhesajjaṃ viññāpeti, āpatti pācittiyassa. Tatuttari natatuttarisaññī bhesajjaṃ viññāpeti, āpatti pācittiyassa.
นตตุตฺตริ ตตุตฺตริสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นตตุตฺตริ เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นตตุตฺตริ นตตุตฺตริสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Natatuttari tatuttarisaññī, āpatti dukkaṭassa. Natatuttari vematiko, āpatti dukkaṭassa. Natatuttari natatuttarisaññī, anāpatti.
๓๑๐. อนาปตฺติ เยหิ เภสเชฺชหิ ปวาริโต โหติ ตานิ เภสชฺชานิ วิญฺญาเปติ, ยาสุ รตฺตีสุ ปวาริโต โหติ ตาสุ รตฺตีสุ วิญฺญาเปติ , ‘‘อิเมหิ ตยา เภสเชฺชหิ ปวาริตามฺห , อมฺหากญฺจ อิมินา จ อิมินา จ เภสเชฺชน อโตฺถ’’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิญฺญาเปติ, ‘‘ยาสุ ตยา รตฺตีสุ ปวาริตามฺห ตาโย จ รตฺติโย วีติวตฺตา อมฺหากญฺจ เภสเชฺชน อโตฺถ’’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิญฺญาเปติ, ญาตกานํ ปวาริตานํ, อญฺญสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนน, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
310. Anāpatti yehi bhesajjehi pavārito hoti tāni bhesajjāni viññāpeti, yāsu rattīsu pavārito hoti tāsu rattīsu viññāpeti , ‘‘imehi tayā bhesajjehi pavāritāmha , amhākañca iminā ca iminā ca bhesajjena attho’’ti ācikkhitvā viññāpeti, ‘‘yāsu tayā rattīsu pavāritāmha tāyo ca rattiyo vītivattā amhākañca bhesajjena attho’’ti ācikkhitvā viññāpeti, ñātakānaṃ pavāritānaṃ, aññassatthāya, attano dhanena, ummattakassa, ādikammikassāti.
มหานามสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ สตฺตมํฯ
Mahānāmasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ sattamaṃ.
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทํ
8. Uyyuttasenāsikkhāpadaṃ
๓๑๑. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล เสนาย อพฺภุยฺยาโต โหติฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย อคมํสุฯ อทฺทสา โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉเนฺตฯ ทิสฺวาน ปโกฺกสาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส ตุเมฺห, ภเนฺต, อาคตตฺถา’’ติ? ‘‘มหาราชานํ มยํ ทฎฺฐุกามา’’ 27 ติฯ ‘‘กิํ, ภเนฺต, มํ ทิเฎฺฐน ยุทฺธาภินนฺทินํ 28; นนุ ภควา ปสฺสิตโพฺพ’’ติ? มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย อาคจฺฉิสฺสนฺติ! อมฺหากมฺปิ อลาภา, อมฺหากมฺปิ ทุลฺลทฺธํ, เย มยํ อาชีวสฺส เหตุ ปุตฺตทารสฺส การณา เสนาย อาคจฺฉามา’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺฉิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺฉถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺฉิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
311. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena rājā pasenadi kosalo senāya abbhuyyāto hoti. Chabbaggiyā bhikkhū uyyuttaṃ senaṃ dassanāya agamaṃsu. Addasā kho rājā pasenadi kosalo chabbaggiye bhikkhū dūratova āgacchante. Disvāna pakkosāpetvā etadavoca – ‘‘kissa tumhe, bhante, āgatatthā’’ti? ‘‘Mahārājānaṃ mayaṃ daṭṭhukāmā’’ 29 ti. ‘‘Kiṃ, bhante, maṃ diṭṭhena yuddhābhinandinaṃ 30; nanu bhagavā passitabbo’’ti? Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā uyyuttaṃ senaṃ dassanāya āgacchissanti! Amhākampi alābhā, amhākampi dulladdhaṃ, ye mayaṃ ājīvassa hetu puttadārassa kāraṇā senāya āgacchāmā’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū uyyuttaṃ senaṃ dassanāya gacchissantī’’ti…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, uyyuttaṃ senaṃ dassanāya gacchathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, uyyuttaṃ senaṃ dassanāya gacchissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คเจฺฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
‘‘Yopana bhikkhu uyyuttaṃ senaṃ dassanāya gaccheyya, pācittiya’’nti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๓๑๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน มาตุโล เสนาย คิลาโน โหติ ฯ โส ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อหญฺหิ เสนาย คิลาโนฯ อาคจฺฉตุ ภทโนฺตฯ อิจฺฉามิ ภทนฺตสฺส อาคต’’นฺติฯ อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ – ‘น อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คนฺตพฺพ’นฺติฯ อยญฺจ เม มาตุโล เสนาย คิลาโนฯ กถํ นุ โข มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตถารูปปฺปจฺจยา เสนาย คนฺตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
312. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno mātulo senāya gilāno hoti . So tassa bhikkhuno santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘ahañhi senāya gilāno. Āgacchatu bhadanto. Icchāmi bhadantassa āgata’’nti. Atha kho tassa bhikkhuno etadahosi – ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ – ‘na uyyuttaṃ senaṃ dassanāya gantabba’nti. Ayañca me mātulo senāya gilāno. Kathaṃ nu kho mayā paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tathārūpappaccayā senāya gantuṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๓๑๓. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คเจฺฉยฺย, อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
313.‘‘Yo pana bhikkhu uyyuttaṃ senaṃ dassanāya gaccheyya, aññatra tathārūpappaccayā, pācittiya’’nti.
๓๑๔. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
314.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
อุยฺยุตฺตา นาม เสนา คามโต นิกฺขมิตฺวา นิวิฎฺฐา วา โหติ ปยาตา วาฯ
Uyyuttā nāma senā gāmato nikkhamitvā niviṭṭhā vā hoti payātā vā.
เสนา นาม หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตีฯ ทฺวาทสปุริโส หตฺถี, ติปุริโส อโสฺส, จตุปุริโส รโถ, จตฺตาโร ปุริสา สรหตฺถา ปตฺติฯ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ยตฺถ ฐิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ทสฺสนูปจารํ วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Senā nāma hatthī assā rathā pattī. Dvādasapuriso hatthī, tipuriso asso, catupuriso ratho, cattāro purisā sarahatthā patti. Dassanāya gacchati, āpatti dukkaṭassa. Yattha ṭhito passati, āpatti pācittiyassa. Dassanūpacāraṃ vijahitvā punappunaṃ passati, āpatti pācittiyassa.
อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยาติ ฐเปตฺวา ตถารูปปฺปจฺจยํฯ
Aññatra tathārūpappaccayāti ṭhapetvā tathārūpappaccayaṃ.
๓๑๕. อุยฺยุเตฺต อุยฺยุตฺตสญฺญี ทสฺสนาย คจฺฉติ, อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุยฺยุเตฺต เวมติโก ทสฺสนาย คจฺฉติ, อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุยฺยุเตฺต อนุยฺยุตฺตสญฺญี ทสฺสนาย คจฺฉติ, อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
315. Uyyutte uyyuttasaññī dassanāya gacchati, aññatra tathārūpappaccayā, āpatti pācittiyassa. Uyyutte vematiko dassanāya gacchati, aññatra tathārūpappaccayā, āpatti pācittiyassa. Uyyutte anuyyuttasaññī dassanāya gacchati, aññatra tathārūpappaccayā, āpatti pācittiyassa.
เอกเมกํ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ยตฺถ ฐิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทสฺสนูปจารํ วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุยฺยุเตฺต อุยฺยุตฺตสญฺญี , อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุยฺยุเตฺต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุยฺยุเตฺต อนุยฺยุตฺตสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Ekamekaṃ dassanāya gacchati, āpatti dukkaṭassa. Yattha ṭhito passati, āpatti dukkaṭassa. Dassanūpacāraṃ vijahitvā punappunaṃ passati, āpatti dukkaṭassa. Anuyyutte uyyuttasaññī , āpatti dukkaṭassa. Anuyyutte vematiko, āpatti dukkaṭassa. Anuyyutte anuyyuttasaññī, anāpatti.
๓๑๖. อนาปตฺติ อาราเม ฐิโต ปสฺสติ, ภิกฺขุสฺส ฐิโตกาสํ วา นิสิโนฺนกาสํ วา นิปโนฺนกาสํ วา อาคจฺฉติ, ปฎิปถํ คจฺฉโนฺต ปสฺสติ, ตถารูปปฺปจฺจยา, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
316. Anāpatti ārāme ṭhito passati, bhikkhussa ṭhitokāsaṃ vā nisinnokāsaṃ vā nipannokāsaṃ vā āgacchati, paṭipathaṃ gacchanto passati, tathārūpappaccayā, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ
Uyyuttasenāsikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทํ
9. Senāvāsasikkhāpadaṃ
๓๑๗. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สติ กรณีเย เสนํ คนฺตฺวา อติเรกติรตฺตํ เสนาย วสนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา เสนาย วสิสฺสนฺติ! อมฺหากมฺปิ อลาภา, อมฺหากมฺปิ ทุลฺลทฺธํ, เย มยํ อาชีวสฺส เหตุ ปุตฺตทารสฺส การณา เสนาย ปฎิวสามา’’ติฯ อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติเรกติรตฺตํ เสนาย วสิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อติเรกติรตฺตํ เสนาย วสถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, อติเรกติรตฺตํ เสนาย วสิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
317. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū sati karaṇīye senaṃ gantvā atirekatirattaṃ senāya vasanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā senāya vasissanti! Amhākampi alābhā, amhākampi dulladdhaṃ, ye mayaṃ ājīvassa hetu puttadārassa kāraṇā senāya paṭivasāmā’’ti. Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū atirekatirattaṃ senāya vasissantī’’ti…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, atirekatirattaṃ senāya vasathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, atirekatirattaṃ senāya vasissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๓๑๘. ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เสนํ คมนาย, ทิรตฺตติรตฺตํ เตน ภิกฺขุนา เสนาย วสิตพฺพํฯ ตโต เจ อุตฺตริํ วเสยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
318.‘‘Siyā ca tassa bhikkhuno kocideva paccayo senaṃ gamanāya, dirattatirattaṃ tena bhikkhunā senāya vasitabbaṃ. Tato ce uttariṃ vaseyya, pācittiya’’nti.
๓๑๙. สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เสนํ คมนายาติ สิยา ปจฺจโย สิยา กรณียํฯ
319.Siyā ca tassa bhikkhuno kocideva paccayo senaṃ gamanāyāti siyā paccayo siyā karaṇīyaṃ.
ทิรตฺตติรตฺตํ เตน ภิกฺขุนา เสนาย วสิตพฺพนฺติ เทฺวติโสฺส รตฺติโย วสิตพฺพํฯ
Dirattatirattaṃtena bhikkhunā senāya vasitabbanti dvetisso rattiyo vasitabbaṃ.
ตโต เจ อุตฺตริ วเสยฺยาติ จตุเตฺถ ทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Tato ce uttari vaseyyāti catutthe divase atthaṅgate sūriye senāya vasati, āpatti pācittiyassa.
๓๒๐. อติเรกติรเตฺต อติเรกสญฺญี เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อติเรกติรเตฺต เวมติโก เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อติเรกติรเตฺต อูนกสญฺญี เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
320. Atirekatiratte atirekasaññī senāya vasati, āpatti pācittiyassa. Atirekatiratte vematiko senāya vasati, āpatti pācittiyassa. Atirekatiratte ūnakasaññī senāya vasati, āpatti pācittiyassa.
อูนกติรเตฺต อติเรกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อูนกติรเตฺต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อูนกติรเตฺต อูนกสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Ūnakatiratte atirekasaññī, āpatti dukkaṭassa. Ūnakatiratte vematiko, āpatti dukkaṭassa. Ūnakatiratte ūnakasaññī, anāpatti.
๓๒๑. อนาปตฺติ เทฺวติโสฺส รตฺติโย วสติ, อูนกเทฺวติโสฺส รตฺติโย วสติ, เทฺว รตฺติโย วสิตฺวา ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสติ, คิลาโน วสติ, คิลานสฺส กรณีเยน วสติ, เสนา วา ปฎิเสนาย รุทฺธา โหติ, เกนจิ ปลิพุโทฺธ โหติ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
321. Anāpatti dvetisso rattiyo vasati, ūnakadvetisso rattiyo vasati, dve rattiyo vasitvā tatiyāya rattiyā purāruṇā nikkhamitvā puna vasati, gilāno vasati, gilānassa karaṇīyena vasati, senā vā paṭisenāya ruddhā hoti, kenaci palibuddho hoti, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
เสนาวาสสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ
Senāvāsasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.
๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทํ
10. Uyyodhikasikkhāpadaṃ
๓๒๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ทิรตฺตติรตฺตํ เสนาย วสมานา อุโยฺยธิกมฺปิ พลคฺคมฺปิ เสนาพฺยูหมฺปิ อนีกทสฺสนมฺปิ คจฺฉนฺติฯ อญฺญตโรปิ ฉพฺพคฺคิโย ภิกฺขุ อุโยฺยธิกํ คนฺตฺวา กเณฺฑน ปฎิวิโทฺธ โหติฯ มนุสฺสา ตํ ภิกฺขุํ อุปฺปเณฺฑสุํ – ‘‘กจฺจิ, ภเนฺต, สุยุทฺธํ อโหสิ, กติ เต ลกฺขานิ ลทฺธานี’’ติ? โส ภิกฺขุ เตหิ มนุเสฺสหิ อุปฺปณฺฑียมาโน มงฺกุ อโหสิฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อุโยฺยธิกํ ทสฺสนาย อาคจฺฉิสฺสนฺติ! อมฺหากมฺปิ อลาภา, อมฺหากมฺปิ ทุลฺลทฺธํ, เย มยํ อาชีวสฺส เหตุ ปุตฺตทารสฺส การณา อุโยฺยธิกํ อาคจฺฉามา’’ติฯ อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ ฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุโยฺยธิกํ ทสฺสนาย คจฺฉิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อุโยฺยธิกํ ทสฺสนาย คจฺฉถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, อุโยฺยธิกํ ทสฺสนาย คจฺฉิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว , อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
322. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū dirattatirattaṃ senāya vasamānā uyyodhikampi balaggampi senābyūhampi anīkadassanampi gacchanti. Aññataropi chabbaggiyo bhikkhu uyyodhikaṃ gantvā kaṇḍena paṭividdho hoti. Manussā taṃ bhikkhuṃ uppaṇḍesuṃ – ‘‘kacci, bhante, suyuddhaṃ ahosi, kati te lakkhāni laddhānī’’ti? So bhikkhu tehi manussehi uppaṇḍīyamāno maṅku ahosi. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā uyyodhikaṃ dassanāya āgacchissanti! Amhākampi alābhā, amhākampi dulladdhaṃ, ye mayaṃ ājīvassa hetu puttadārassa kāraṇā uyyodhikaṃ āgacchāmā’’ti. Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ . Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū uyyodhikaṃ dassanāya gacchissantī’’ti…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, uyyodhikaṃ dassanāya gacchathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, uyyodhikaṃ dassanāya gacchissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave , imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๓๒๓. ‘‘ทิรตฺตติรตฺตํ เจ ภิกฺขุ เสนาย วสมาโน อุโยฺยธิกํ วา พลคฺคํ วา เสนาพฺยูหํ วา อนีกทสฺสนํ วา คเจฺฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
323.‘‘Dirattatirattaṃ ce bhikkhu senāya vasamāno uyyodhikaṃ vā balaggaṃ vā senābyūhaṃ vā anīkadassanaṃ vā gaccheyya, pācittiya’’nti.
๓๒๔. ทิรตฺตติรตฺตํ เจ ภิกฺขุ เสนาย วสมาโนติ เทฺวติโสฺส รตฺติโย วสมาโนฯ
324.Dirattatirattaṃ ce bhikkhu senāya vasamānoti dvetisso rattiyo vasamāno.
อุโยฺยธิกํ นาม ยตฺถ สมฺปหาโร ทิสฺสติฯ
Uyyodhikaṃ nāma yattha sampahāro dissati.
พลคฺคํ นาม เอตฺตกา หตฺถี, เอตฺตกา อสฺสา, เอตฺตกา รถา, เอตฺตกา ปตฺตีฯ
Balaggaṃ nāma ettakā hatthī, ettakā assā, ettakā rathā, ettakā pattī.
เสนาพฺยูหํ นาม อิโต หตฺถี โหนฺตุ, อิโต อสฺสา โหนฺตุ, อิโต รถา โหนฺตุ, อิโต ปตฺติกา โหนฺตุฯ
Senābyūhaṃ nāma ito hatthī hontu, ito assā hontu, ito rathā hontu, ito pattikā hontu.
อนีกํ นาม หตฺถานีกํ, อสฺสานีกํ , รถานีกํ, ปตฺตานีกํฯ ตโย หตฺถี ปจฺฉิมํ หตฺถานีกํ, ตโย อสฺสา ปจฺฉิมํ อสฺสานีกํ, ตโย รถา ปจฺฉิมํ รถานีกํ, จตฺตาโร ปุริสา สรหตฺถา ปตฺตี ปจฺฉิมํ ปตฺตานีกํฯ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ยตฺถ ฐิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ทสฺสนูปจารํ วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Anīkaṃ nāma hatthānīkaṃ, assānīkaṃ , rathānīkaṃ, pattānīkaṃ. Tayo hatthī pacchimaṃ hatthānīkaṃ, tayo assā pacchimaṃ assānīkaṃ, tayo rathā pacchimaṃ rathānīkaṃ, cattāro purisā sarahatthā pattī pacchimaṃ pattānīkaṃ. Dassanāya gacchati, āpatti dukkaṭassa. Yattha ṭhito passati, āpatti pācittiyassa. Dassanūpacāraṃ vijahitvā punappunaṃ passati, āpatti pācittiyassa.
เอกเมกํ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ยตฺถ ฐิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทสฺสนูปจารํ วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Ekamekaṃ dassanāya gacchati, āpatti dukkaṭassa. Yattha ṭhito passati, āpatti dukkaṭassa. Dassanūpacāraṃ vijahitvā punappunaṃ passati, āpatti dukkaṭassa.
๓๒๕. อนาปตฺติ อาราเม ฐิโต ปสฺสติ, ภิกฺขุสฺส ฐิโตกาสํ วา นิสิโนฺนกาสํ วา นิปโนฺนกาสํ วา อาคนฺตฺวา สมฺปหาโร ทิสฺสติ, ปฎิปถํ คจฺฉโนฺต ปสฺสติ, สติ กรณีเย คนฺตฺวา ปสฺสติ , อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
325. Anāpatti ārāme ṭhito passati, bhikkhussa ṭhitokāsaṃ vā nisinnokāsaṃ vā nipannokāsaṃ vā āgantvā sampahāro dissati, paṭipathaṃ gacchanto passati, sati karaṇīye gantvā passati , āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
อุโยฺยธิกสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ
Uyyodhikasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.
อเจลกวโคฺค ปญฺจโมฯ
Acelakavaggo pañcamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ปูวํ กโถปนนฺทสฺส, ตยํปฎฺฐากเมว จ;
Pūvaṃ kathopanandassa, tayaṃpaṭṭhākameva ca;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Acelakasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Uyyojanasikkhāpadavaṇṇanā
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Sabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Cārittasikkhāpadavaṇṇanā
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Mahānāmasikkhāpadavaṇṇanā
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Uyyuttasenāsikkhāpadavaṇṇanā
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Senāvāsasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Uyyodhikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Acelakasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Uyyojanasikkhāpadavaṇṇanā
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Sabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Cārittasikkhāpadavaṇṇanā
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Mahānāmasikkhāpadavaṇṇanā
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Uyyuttasenāsikkhāpadavaṇṇanā
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Senāvāsasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Uyyodhikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Acelakasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Uyyojanasikkhāpadavaṇṇanā
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Sabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
๔. รโหปฎิจฺฉนฺนสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Rahopaṭicchannasikkhāpadavaṇṇanā
๕. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Rahonisajjasikkhāpadavaṇṇanā
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Cārittasikkhāpadavaṇṇanā
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Mahānāmasikkhāpadavaṇṇanā
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Uyyuttasenāsikkhāpadavaṇṇanā
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Senāvāsasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Uyyodhikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Acelakasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Uyyojanasikkhāpadavaṇṇanā
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Sabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Cārittasikkhāpadavaṇṇanā
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Mahānāmasikkhāpadavaṇṇanā
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Uyyuttasenāsikkhāpadavaṇṇanā
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Senāvāsasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Uyyodhikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi
๑. อเจลกสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Acelakasikkhāpada-atthayojanā
๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทํ • 2. Uyyojanasikkhāpadaṃ
๓. สโภชนสิกฺขาปทํ • 3. Sabhojanasikkhāpadaṃ
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทํ • 6. Cārittasikkhāpadaṃ
๗. มหานามสิกฺขาปทํ • 7. Mahānāmasikkhāpadaṃ
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทํ • 8. Uyyuttasenāsikkhāpadaṃ
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทํ • 9. Senāvāsasikkhāpadaṃ
๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทํ • 10. Uyyodhikasikkhāpadaṃ