Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เทฺวมาติกาปาฬิ • Dvemātikāpāḷi

    ๕. อเจลกวโคฺค

    5. Acelakavaggo

    ๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา

    1. Acelakasikkhāpadavaṇṇanā

    อเจลกวคฺคสฺส ปฐเม เอเตสํ อเจลกาทีนํ อญฺญติตฺถิยานํ ยํกิญฺจิ อามิสํ เอกปฺปโยเคน เทนฺตสฺส เอกํ ปาจิตฺติยํ, อวจฺฉินฺทิตฺวา อวจฺฉินฺทิตฺวา เทนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํฯ

    Acelakavaggassa paṭhame etesaṃ acelakādīnaṃ aññatitthiyānaṃ yaṃkiñci āmisaṃ ekappayogena dentassa ekaṃ pācittiyaṃ, avacchinditvā avacchinditvā dentassa payoge payoge pācittiyaṃ.

    เวสาลิยํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อารพฺภ ปริพฺพาชิกาย เทฺว ปูเว ทานวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อสาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อุทกทนฺตโปนํ เทนฺตสฺส, อติตฺถิเย ติตฺถิยสญฺญิสฺส, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฎํฯ อติตฺถิเย อติตฺถิยสญฺญิสฺส, อนุปสมฺปเนฺนน ทาเปนฺตสฺส, เตสํ สนฺติเก ภาชนํ นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ภณนฺตสฺส, เตสํ วา นิกฺขิตฺตภาชเน เทนฺตสฺส, พาหิรเลปํ เทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อญฺญติตฺถิยตา, อนนุญฺญาตตา, อโชฺฌหรณียํ อโชฺฌหรณตฺถาย สหตฺถา อนิกฺขิตฺตภาชเน ทานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ

    Vesāliyaṃ āyasmantaṃ ānandaṃ ārabbha paribbājikāya dve pūve dānavatthusmiṃ paññattaṃ, asādhāraṇapaññatti, anāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, udakadantaponaṃ dentassa, atitthiye titthiyasaññissa, vematikassa ca dukkaṭaṃ. Atitthiye atitthiyasaññissa, anupasampannena dāpentassa, tesaṃ santike bhājanaṃ nikkhipitvā ‘‘idaṃ gaṇhathā’’ti bhaṇantassa, tesaṃ vā nikkhittabhājane dentassa, bāhiralepaṃ dentassa, ummattakādīnañca anāpatti. Aññatitthiyatā, ananuññātatā, ajjhoharaṇīyaṃ ajjhoharaṇatthāya sahatthā anikkhittabhājane dānanti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.

    อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Acelakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๒. อุโยฺยชนสิกฺขาปทวณฺณนา

    2. Uyyojanasikkhāpadavaṇṇanā

    ทุติเย ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ ยํกิญฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา น ทาเปตฺวา วาฯ อุโยฺยเชยฺยาติ มาตุคาเมน สทฺธิํ หสนกีฬนรโหนิสชฺชาทีนิ กตฺตุกาโม ‘คจฺฉา’ติอาทีนิ วตฺวา อุโยฺยเชยฺยฯ เอตเทวาติ เอตํ อนาจารเมว ปจฺจยํ กริตฺวา, น อญฺญํ ปติรูปํ การณํฯ ปาจิตฺติยนฺติ อุโยฺยชนมเตฺต ตาว ทุกฺกฎํ, ยทา ปนสฺส โส ทสฺสนูปจารํ วา สวนูปจารํ วา เอเกน ปาเทน วิชหติ, อปรํ ทุกฺกฎํ, ทุติเยน วิชหิเต ปาจิตฺติยํฯ เอตฺถ จ ทสฺสนูปจารสฺส อโชฺฌกาเส ฐตฺวา ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ, ตถา สวนูปจารสฺสฯ สเจ ปน อนฺตรา กุฎฺฎทฺวารปาการาทโย โหนฺติ, เตหิ อนฺตริตภาโวเยว อุปจาราติกฺกโมฯ

    Dutiye dāpetvā vā adāpetvā vāti yaṃkiñci āmisaṃ dāpetvā vā na dāpetvā vā. Uyyojeyyāti mātugāmena saddhiṃ hasanakīḷanarahonisajjādīni kattukāmo ‘gacchā’tiādīni vatvā uyyojeyya. Etadevāti etaṃ anācārameva paccayaṃ karitvā, na aññaṃ patirūpaṃ kāraṇaṃ. Pācittiyanti uyyojanamatte tāva dukkaṭaṃ, yadā panassa so dassanūpacāraṃ vā savanūpacāraṃ vā ekena pādena vijahati, aparaṃ dukkaṭaṃ, dutiyena vijahite pācittiyaṃ. Ettha ca dassanūpacārassa ajjhokāse ṭhatvā dvādasahatthappamāṇaṃ, tathā savanūpacārassa. Sace pana antarā kuṭṭadvārapākārādayo honti, tehi antaritabhāvoyeva upacārātikkamo.

    สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ อุโยฺยชนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาธารณปญฺญตฺติ, อุโยฺยชนาณตฺติกาย สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปเนฺน ติกทุกฺกฎํ, อุภินฺนมฺปิ กลิสาสนาโรปเน ทุกฺกฎเมว, ‘‘อุโภ เอกโต น ยาเปสฺสามา’’ติ เอวมาทีหิ ปติรูปการเณหิ อุโยฺยเชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อนาจารํ อาจริตุกามตา, ตทตฺถเมว อุปสมฺปนฺนสฺส อุโยฺยชนํ, เอวํ อุโยฺยชิตสฺส อุปจาราติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานีติฯ

    Sāvatthiyaṃ upanandaṃ ārabbha uyyojanavatthusmiṃ paññattaṃ, sādhāraṇapaññatti, uyyojanāṇattikāya sāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, anupasampanne tikadukkaṭaṃ, ubhinnampi kalisāsanāropane dukkaṭameva, ‘‘ubho ekato na yāpessāmā’’ti evamādīhi patirūpakāraṇehi uyyojentassa, ummattakādīnañca anāpatti. Anācāraṃ ācaritukāmatā, tadatthameva upasampannassa uyyojanaṃ, evaṃ uyyojitassa upacārātikkamoti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni adinnādānasadisānīti.

    อุโยฺยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Uyyojanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

    3. Sabhojanasikkhāpadavaṇṇanā

    ตติเย สห อุโภหิ ชเนหีติ สโภชนํ, ตสฺมิํ สโภชเนฯ อถ วา สโภชเนติ สโภเค, ราคปริยุฎฺฐิตปุริสสฺส หิ อิตฺถี โภโค, อิตฺถิยา จ ปุริโส, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘อิตฺถี เจว โหติ, ปุริโส จา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๒๘๑) วุตฺตํฯ อนุปขชฺช นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ อนุปวิสิตฺวา นิสีเทยฺย, ยํ ตสฺมิํ กุเล สยนิฆรํ, ตสฺส มหาจตุสฺสาลาทีสุ กตสฺส มหลฺลกสฺส ปิฎฺฐสงฺฆาฎโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา อโนฺตสยนสฺส อาสเนฺน ฐาเน, ขุทฺทกสฺส วา เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา นิสีเทยฺยาติ อโตฺถ, เอวํ นิสินฺนสฺส ปาจิตฺติยํฯ

    Tatiye saha ubhohi janehīti sabhojanaṃ, tasmiṃ sabhojane. Atha vā sabhojaneti sabhoge, rāgapariyuṭṭhitapurisassa hi itthī bhogo, itthiyā ca puriso, tenevassa padabhājane ‘‘itthī ceva hoti, puriso cā’’tiādi (pāci. 281) vuttaṃ. Anupakhajja nisajjaṃ kappeyyāti anupavisitvā nisīdeyya, yaṃ tasmiṃ kule sayanigharaṃ, tassa mahācatussālādīsu katassa mahallakassa piṭṭhasaṅghāṭato hatthapāsaṃ vijahitvā antosayanassa āsanne ṭhāne, khuddakassa vā vemajjhaṃ atikkamitvā nisīdeyyāti attho, evaṃ nisinnassa pācittiyaṃ.

    สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ อนุปขชฺช นิสชฺชนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อสยนิฆเร สยนิฆรสญฺญิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฎํฯ นสยนิฆรสญฺญิสฺส, วุตฺตลกฺขณํ ปเทสํ อนติกฺกมิตฺวา นิสินฺนสฺส, ภิกฺขุสฺมิํ ทุติยเก สติ, อุโภสุ นิกฺขเนฺตสุ วา, วีตราเคสุ วา นิสีทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อวีตราคชายมฺปติกานํ สนฺนิหิตตา, สยนิฆรตา, ทุติยสฺส ภิกฺขุโน อภาโว, อนุปขชฺช นิสีทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ ปฐมปาราชิกสทิสานีติฯ

    Sāvatthiyaṃ upanandaṃ ārabbha anupakhajja nisajjanavatthusmiṃ paññattaṃ, sādhāraṇapaññatti, anāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, asayanighare sayanigharasaññino, vematikassa vā dukkaṭaṃ. Nasayanigharasaññissa, vuttalakkhaṇaṃ padesaṃ anatikkamitvā nisinnassa, bhikkhusmiṃ dutiyake sati, ubhosu nikkhantesu vā, vītarāgesu vā nisīdantassa, ummattakādīnañca anāpatti. Avītarāgajāyampatikānaṃ sannihitatā, sayanigharatā, dutiyassa bhikkhuno abhāvo, anupakhajja nisīdananti imānettha cattāri aṅgāni. Samuṭṭhānādīni paṭhamapārājikasadisānīti.

    สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sabhojanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๔-๕. รโหปฎิจฺฉนฺน-รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

    4-5. Rahopaṭicchanna-rahonisajjasikkhāpadavaṇṇanā

    จตุตฺถปญฺจมานิ สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ ปฎิจฺฉนฺนาสเน จ, รโห จ นิสชฺชนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตานิ, สาธารณปญฺญตฺติโย, เอเตสมฺปิ สมุฎฺฐานาทีนิ ปฐมปาราชิกสทิสาเนวฯ เสโส กถานโย อนิยตทฺวเย วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ

    Catutthapañcamāni sāvatthiyaṃ upanandaṃ ārabbha paṭicchannāsane ca, raho ca nisajjanavatthusmiṃ paññattāni, sādhāraṇapaññattiyo, etesampi samuṭṭhānādīni paṭhamapārājikasadisāneva. Seso kathānayo aniyatadvaye vuttanayeneva veditabbo.

    รโหปฎิจฺฉนฺน-รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Rahopaṭicchanna-rahonisajjasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

    6. Cārittasikkhāpadavaṇṇanā

    ฉเฎฺฐ นิมนฺติโตติ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน นิมนฺติโตฯ สภโตฺต สมาโนติ เตเนว นิมนฺตนภเตฺตน สภโตฺต สมาโนฯ สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉาติ อโนฺตอุปจารสีมาย ทสฺสนูปจาเร ภิกฺขุํ ทิสฺวา ยํ สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาปุจฺฉิตุํ, ตาทิสํ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปชฺชามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวาฯ ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วาติ เยน ภเตฺตน นิมนฺติโต, ตสฺมิํ ภุเตฺต วา อภุเตฺต วาฯ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปเชฺชยฺยาติ ยสฺมิํ กุเล นิมนฺติโต, ตโต อญฺญานิ กุลานิ ปวิเสยฺยฯ อญฺญตฺร สมยา ปาจิตฺติยนฺติ สเจ โส ภิกฺขุ วุตฺตลกฺขณํ ทุวิธมฺปิ สมยํ ฐเปตฺวา อวีติวเตฺต มชฺฌนฺหิเก อญฺญํ กุลํ ปวิสติ, อถสฺส ฆรูปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฎํ, ปฐมปาเทน อุมฺมารํ อติกฺกมนฺตสฺส อปรมฺปิ ทุกฺกฎํ, ทุติยปาเทน อติกฺกเม ปาจิตฺติยํฯ

    Chaṭṭhe nimantitoti pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena nimantito. Sabhatto samānoti teneva nimantanabhattena sabhatto samāno. Santaṃ bhikkhuṃ anāpucchāti antoupacārasīmāya dassanūpacāre bhikkhuṃ disvā yaṃ sakkā hoti pakativacanena āpucchituṃ, tādisaṃ ‘‘ahaṃ itthannāmassa gharaṃ gacchāmī’’ti vā ‘‘cārittaṃ āpajjāmī’’ti vā īdisena vacanena anāpucchitvā. Purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vāti yena bhattena nimantito, tasmiṃ bhutte vā abhutte vā. Kulesu cārittaṃ āpajjeyyāti yasmiṃ kule nimantito, tato aññāni kulāni paviseyya. Aññatra samayā pācittiyanti sace so bhikkhu vuttalakkhaṇaṃ duvidhampi samayaṃ ṭhapetvā avītivatte majjhanhike aññaṃ kulaṃ pavisati, athassa gharūpacārokkamane dukkaṭaṃ, paṭhamapādena ummāraṃ atikkamantassa aparampi dukkaṭaṃ, dutiyapādena atikkame pācittiyaṃ.

    ราชคเห อุปนนฺทํ อารพฺภ จาริตฺตาปชฺชนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ, อนาปุจฺฉา, ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ, อญฺญตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ จตุพฺพิธา อนุปญฺญตฺติ, สาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนิมนฺติเต นิมนฺติตสญฺญิสฺส, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ อนิมนฺติตสญฺญิสฺส, สมเย สนฺตํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉิตฺวา, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉิตฺวา ปวิสโต, อญฺญสฺส ฆเรน วา ฆรูปจาเรน วา มโคฺค โหติ, เตน คจฺฉโต, อนฺตรารามภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยปฎิกฺกมนภตฺติยฆรานิ คจฺฉโต, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน นิมนฺตนสาทิยนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา, ภตฺติยฆรโต อญฺญฆรปฺปวิสนํ, มชฺฌนฺหิกานติกฺกโม, สมยสฺส วา อาปทานํ วา อภาโวติ อิมาเนตฺถ ปญฺจ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ ปฐมกถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติฯ

    Rājagahe upanandaṃ ārabbha cārittāpajjanavatthusmiṃ paññattaṃ, ‘‘santaṃ bhikkhuṃ, anāpucchā, purebhattaṃ pacchābhattaṃ, aññatra samayā’’ti ayamettha catubbidhā anupaññatti, sādhāraṇapaññatti, anāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, animantite nimantitasaññissa, vematikassa vā dukkaṭaṃ. Tasmiṃ animantitasaññissa, samaye santaṃ bhikkhuṃ āpucchitvā, asantaṃ bhikkhuṃ anāpucchitvā pavisato, aññassa gharena vā gharūpacārena vā maggo hoti, tena gacchato, antarārāmabhikkhunupassayatitthiyaseyyapaṭikkamanabhattiyagharāni gacchato, āpadāsu, ummattakādīnañca anāpatti. Pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena nimantanasādiyanaṃ, santaṃ bhikkhuṃ anāpucchanā, bhattiyagharato aññagharappavisanaṃ, majjhanhikānatikkamo, samayassa vā āpadānaṃ vā abhāvoti imānettha pañca aṅgāni. Samuṭṭhānādīni paṭhamakathinasadisāneva, idaṃ pana kiriyākiriyanti.

    จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cārittasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา

    7. Mahānāmasikkhāpadavaṇṇanā

    สตฺตเม จตุมาสปฺปจฺจยปวารณาติ จตฺตาโร มาเส คิลานปฺปจฺจยปวารณา, สพฺพเญฺจตํ วตฺถุวเสน วุตฺตํฯ อยํ ปเนตฺถ อโตฺถ – จตุมาสปวารณา วา โหตุ, ปุนปวารณา วา, นิจฺจปวารณา วา, สพฺพาปิ สาทิตพฺพา, ‘‘อิทานิ มม โรโค นตฺถี’’ติ น ปฎิกฺขิปิตพฺพา, ‘‘โรเค ปน สติ วิญฺญาเปสฺสามี’’ติ อธิวาเสตพฺพาติฯ ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ เอตฺถ สเจ ตตฺถ รตฺตีหิ วา เภสเชฺชหิ วา ปริเจฺฉโท กโต โหติ ‘‘เอตฺตกาเยว รตฺติโย, เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิญฺญาเปตพฺพานี’’ติ, อถ ตโต รตฺติปริยนฺตโต วา เภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตริ, น เภสชฺชกรณีเยน วา เภสชฺชํ, อญฺญเภสชฺชกรณีเยน วา อญฺญํ เภสชฺชํ วิญฺญาเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํฯ

    Sattame catumāsappaccayapavāraṇāti cattāro māse gilānappaccayapavāraṇā, sabbañcetaṃ vatthuvasena vuttaṃ. Ayaṃ panettha attho – catumāsapavāraṇā vā hotu, punapavāraṇā vā, niccapavāraṇā vā, sabbāpi sāditabbā, ‘‘idāni mama rogo natthī’’ti na paṭikkhipitabbā, ‘‘roge pana sati viññāpessāmī’’ti adhivāsetabbāti. Tato ce uttari sādiyeyyāti ettha sace tattha rattīhi vā bhesajjehi vā paricchedo kato hoti ‘‘ettakāyeva rattiyo, ettakāni vā bhesajjāni viññāpetabbānī’’ti, atha tato rattipariyantato vā bhesajjapariyantato vā uttari, na bhesajjakaraṇīyena vā bhesajjaṃ, aññabhesajjakaraṇīyena vā aññaṃ bhesajjaṃ viññāpentassa pācittiyaṃ.

    สเกฺกสุ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ เภสชฺชวิญฺญาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, นตตุตฺตริ ตตุตฺตริสญฺญิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฎํฯ นตตุตฺตริ นตตุตฺตริสญฺญิสฺส, เยหิ เภสเชฺชหิ ปวาริโต, ตโต อเญฺญหิ วา อธิกตเรหิ วา อเตฺถ สติ, ยาสุ จ รตฺตีสุ ปวาริโต, ตา อติกฺกมิตฺวาปิ อเตฺถ สติ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตฺวา วิญฺญาเปนฺตสฺส, เย จ ญาตเก วา ปุคฺคลิกปฺปวารณาย ปวาริเต วา อปริยนฺตปวารณาย วา ปวาริเต, อญฺญสฺส วา อตฺถาย, อตฺตโน วา ธเนน วิญฺญาเปนฺติ, เตสํ, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ สงฺฆปวารณตา, ตโต เภสชฺชวิญฺญตฺติ, อคิลานตา, ปริยนฺตาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ สญฺจริตฺตสทิสานีติฯ

    Sakkesu chabbaggiye ārabbha bhesajjaviññāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, sādhāraṇapaññatti, anāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, natatuttari tatuttarisaññino, vematikassa vā dukkaṭaṃ. Natatuttari natatuttarisaññissa, yehi bhesajjehi pavārito, tato aññehi vā adhikatarehi vā atthe sati, yāsu ca rattīsu pavārito, tā atikkamitvāpi atthe sati yathābhūtaṃ ācikkhitvā viññāpentassa, ye ca ñātake vā puggalikappavāraṇāya pavārite vā apariyantapavāraṇāya vā pavārite, aññassa vā atthāya, attano vā dhanena viññāpenti, tesaṃ, ummattakādīnañca anāpatti. Saṅghapavāraṇatā, tato bhesajjaviññatti, agilānatā, pariyantātikkamoti imānettha cattāri aṅgāni. Samuṭṭhānādīni sañcarittasadisānīti.

    มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahānāmasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

    8. Uyyuttasenāsikkhāpadavaṇṇanā

    อฎฺฐเม อุยฺยุตฺตนฺติ กตอุโยฺยคํ, คามโต นิกฺขนฺตนฺติ อโตฺถฯ เสนนฺติ จตุรงฺคินิํฯ อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยาติ ตถารูเป การเณ อสติ เกวลํ เสนํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฎํ, ทสฺสนูปจาเร ฐตฺวา ปสฺสโต ปาจิตฺติยํฯ ทสฺสนูปจาโร นาม ยตฺถ ฐิโต ปสฺสติ, ตํ ปน วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํฯ

    Aṭṭhame uyyuttanti katauyyogaṃ, gāmato nikkhantanti attho. Senanti caturaṅginiṃ. Aññatra tathārūpappaccayāti tathārūpe kāraṇe asati kevalaṃ senaṃ dassanatthāya gacchato pade pade dukkaṭaṃ, dassanūpacāre ṭhatvā passato pācittiyaṃ. Dassanūpacāro nāma yattha ṭhito passati, taṃ pana vijahitvā punappunaṃ passato payoge payoge pācittiyaṃ.

    สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ เสนาทสฺสนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ‘‘อญฺญตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปญฺญตฺติ, สาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, หตฺถิอาทีสุ เอกเมกํ ทสฺสนาย คมเน วุตฺตนเยเนว ทุกฺกฎํ, ตถา อนุยฺยุเตฺต อุยฺยุตฺตสญฺญิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฎํฯ อนุยฺยุตฺตสญฺญิโน ปน, อาราเม ฐตฺวา อตฺตโน ฐิโตกาสํ อาคตํ, ปฎิปถํ อาคจฺฉนฺตญฺจ ปสฺสโต, ตถารูปปฺปจฺจเย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อุยฺยุตฺตเสนํ ทสฺสนตฺถาย คมนํ, อนุญฺญาโตกาสโต อญฺญตฺร ทสฺสนํ, ตถารูปปฺปจฺจยสฺส อาปทาย วา อภาโวติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานิ, อิทํ ปน โลกวชฺชํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

    Sāvatthiyaṃ chabbaggiye ārabbha senādassanavatthusmiṃ paññattaṃ, ‘‘aññatra tathārūpappaccayā’’ti ayamettha anupaññatti, sādhāraṇapaññatti, anāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, hatthiādīsu ekamekaṃ dassanāya gamane vuttanayeneva dukkaṭaṃ, tathā anuyyutte uyyuttasaññino, vematikassa ca dukkaṭaṃ. Anuyyuttasaññino pana, ārāme ṭhatvā attano ṭhitokāsaṃ āgataṃ, paṭipathaṃ āgacchantañca passato, tathārūpappaccaye, āpadāsu, ummattakādīnañca anāpatti. Uyyuttasenaṃ dassanatthāya gamanaṃ, anuññātokāsato aññatra dassanaṃ, tathārūpappaccayassa āpadāya vā abhāvoti imānettha cattāri aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisāni, idaṃ pana lokavajjaṃ, akusalacittaṃ, tivedananti.

    อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Uyyuttasenāsikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา

    9. Senāvāsasikkhāpadavaṇṇanā

    นวเม ตโต เจ อุตฺตรีติ ติรตฺตโต อุตฺตริ จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย เสนาย ติฎฺฐตุ วา นิสีทตุ วา สยตุ วา, สเจปิ อากาเส อิทฺธิยา กญฺจิ อิริยาปถํ กเปฺปติ, ปาจิตฺติยเมวฯ

    Navame tato ce uttarīti tirattato uttari catutthadivase atthaṅgate sūriye senāya tiṭṭhatu vā nisīdatu vā sayatu vā, sacepi ākāse iddhiyā kañci iriyāpathaṃ kappeti, pācittiyameva.

    สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อติเรกติรตฺตํ เสนาย วสนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกติรเตฺต อติเรกสญฺญิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฎํฯ อูนกสญฺญิสฺส, ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสโต, คิลานสฺส วา คิลานกรณีเยน วา วสโต, ปฎิเสนารุทฺธาย เสนาย, เกนจิ ปลิพุทฺธสฺส, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ติรตฺตาติกฺกโม, เสนาย สูริยสฺส อตฺถงฺคโม, คิลานตาทีนํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติฯ

    Sāvatthiyaṃ chabbaggiye ārabbha atirekatirattaṃ senāya vasanavatthusmiṃ paññattaṃ, sādhāraṇapaññatti, anāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, ūnakatiratte atirekasaññino, vematikassa vā dukkaṭaṃ. Ūnakasaññissa, tatiyāya rattiyā purāruṇā nikkhamitvā puna vasato, gilānassa vā gilānakaraṇīyena vā vasato, paṭisenāruddhāya senāya, kenaci palibuddhassa, āpadāsu, ummattakādīnañca anāpatti. Tirattātikkamo, senāya sūriyassa atthaṅgamo, gilānatādīnaṃ abhāvoti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānevāti.

    เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Senāvāsasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๑๐. อุโยฺยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา

    10. Uyyodhikasikkhāpadavaṇṇanā

    ทสเม อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา เอตฺถ ยุชฺฌนฺตีติ อุโยฺยธิกํ, สมฺปหารฎฺฐานเสฺสตํ นามํฯ พลสฺส อคฺคํ ชานนฺติ เอตฺถาติ พลคฺคํ, พลคณนฎฺฐานนฺติ อโตฺถฯ เสนาย วิยูหํ เสนาพฺยูหํ, เสนานิเวสเสฺสตํ นามํฯ อนีกสฺส ทสฺสนํ อนีกทสฺสนํฯ อนีกํ นาม ‘‘ทฺวาทสปุริโส หตฺถี, ติปุริโส อโสฺส, จตุปฺปุริโส รโถ’’ติอิมินา (ปาจิ. ๓๑๔) ลกฺขเณน ตโย หตฺถี ปจฺฉิมกํ หตฺถานีกํ, อสฺสานีกรถานีเกสุปิ เอเสว นโยฯ จตฺตาโร ปน อาวุธหตฺถา ปุริสา ปจฺฉิมกํ ปตฺตานีกํฯ เอเตสุ ยํกิญฺจิ ทสฺสนาย คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฎํ, ทสฺสนูปจาเร ฐตฺวา ปสฺสโต ปาจิตฺติยํ, อุปจารํ ปน วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํฯ เสสํ อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อาปตฺติเภโท ปเนตฺถ นเตฺถวาติฯ

    Dasame uggantvā uggantvā ettha yujjhantīti uyyodhikaṃ, sampahāraṭṭhānassetaṃ nāmaṃ. Balassa aggaṃ jānanti etthāti balaggaṃ, balagaṇanaṭṭhānanti attho. Senāya viyūhaṃ senābyūhaṃ, senānivesassetaṃ nāmaṃ. Anīkassa dassanaṃ anīkadassanaṃ. Anīkaṃ nāma ‘‘dvādasapuriso hatthī, tipuriso asso, catuppuriso ratho’’tiiminā (pāci. 314) lakkhaṇena tayo hatthī pacchimakaṃ hatthānīkaṃ, assānīkarathānīkesupi eseva nayo. Cattāro pana āvudhahatthā purisā pacchimakaṃ pattānīkaṃ. Etesu yaṃkiñci dassanāya gacchato pade pade dukkaṭaṃ, dassanūpacāre ṭhatvā passato pācittiyaṃ, upacāraṃ pana vijahitvā punappunaṃ passato payoge payoge pācittiyaṃ. Sesaṃ uyyuttasenāsikkhāpade vuttanayeneva veditabbaṃ, āpattibhedo panettha natthevāti.

    อุโยฺยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Uyyodhikasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.

    อเจลกวโคฺค ปญฺจโมฯ

    Acelakavaggo pañcamo.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact