Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    อาทายสตฺตกกถาวณฺณนา

    Ādāyasattakakathāvaṇṇanā

    ๓๑๑. สนฺนิฎฺฐานนฺติเก เทฺวปิ ปลิโพธา เอกโต ฉิชฺชนฺตีติ อิธ, ปริวารฎฺฐกถายญฺจ วุตฺตํ อิมิสฺสา ขนฺธกปาฬิยา สเมติ เอกโต อุภินฺนมฺปิ ธุรนิเกฺขปสฺส กตตฺตาฯ ‘‘อิทํ พหิสีมายเมว วุตฺตํ สนฺนิฎฺฐานนฺติกํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ยํ ปน วุตฺตํ ปริวาเร ‘จตฺตาโร กถินุทฺธารา สิยา อโนฺตสีมาย อุทฺธริยฺยนฺติ, สิยา พหิสีมาย อุทฺธริยฺยนฺติ, นิฎฺฐานนฺติโก สนฺนิฎฺฐานนฺติโก นาสนนฺติโก อาสาวเจฺฉทิโก’ติ (ปริ. ๔๑๖)ฯ ตตฺถ พหิสีมาย สนฺนิฎฺฐานนฺติโก อุทฺธริยฺยตีติ อิธ ทสฺสิตนโยวฯ กถํ อโนฺตสีมาย สนฺนิฎฺฐานนฺติโก? อกตจีวรมาทาย ‘น ปเจฺจสฺส’นฺติ คโต, คตคตฎฺฐาเน ผาสุวิหารํ อลภโนฺต ตเมว วิหารํ อาคจฺฉติ, ตสฺส จีวรปลิโพโธ ฐิโตฯ โส จ ‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’นฺติ จิเตฺต อุปฺปนฺนมเตฺต ฉิชฺชติ, ตสฺมา อโนฺตสีมาย อุทฺธริยฺยติ, ตสฺมา ทุวิโธ สนฺนิฎฺฐานนฺติโก’’ติ โปราณคณฺฐิปเท ลิขิตํ, ตํ ยุตฺตํ, อญฺญถา อโนฺตสีมาย ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ ปวตฺตอุพฺภาโร อิตเรสุ สโมธานํ น คจฺฉตีติ อติริโตฺต สิยาฯ สีมาติกฺกนฺติโกติ จีวรกาลสีมาติกฺกนฺติโกฯ สอุพฺภาเร จีวรปลิโพโธ ปฐมํ ฉิชฺชโนฺต วิย ขายติ, อถ โข สาเปกฺขตาย จีวรกรเณ สอุสฺสาโหว โหตีติ เลสํ สนฺธาย ปริวารวเสน ‘‘เทฺว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตี’’ติ (มหาว. อฎฺฐ. ๓๑๑) วุตฺตํฯ ‘‘กตจีวโร’’ติ วุตฺตตฺตา อิธ น สมฺภวติฯ

    311.Sanniṭṭhānantike dvepi palibodhā ekato chijjantīti idha, parivāraṭṭhakathāyañca vuttaṃ imissā khandhakapāḷiyā sameti ekato ubhinnampi dhuranikkhepassa katattā. ‘‘Idaṃ bahisīmāyameva vuttaṃ sanniṭṭhānantikaṃ sandhāya vuttaṃ. Yaṃ pana vuttaṃ parivāre ‘cattāro kathinuddhārā siyā antosīmāya uddhariyyanti, siyā bahisīmāya uddhariyyanti, niṭṭhānantiko sanniṭṭhānantiko nāsanantiko āsāvacchediko’ti (pari. 416). Tattha bahisīmāya sanniṭṭhānantiko uddhariyyatīti idha dassitanayova. Kathaṃ antosīmāya sanniṭṭhānantiko? Akatacīvaramādāya ‘na paccessa’nti gato, gatagataṭṭhāne phāsuvihāraṃ alabhanto tameva vihāraṃ āgacchati, tassa cīvarapalibodho ṭhito. So ca ‘nevimaṃ cīvaraṃ kāressa’nti citte uppannamatte chijjati, tasmā antosīmāya uddhariyyati, tasmā duvidho sanniṭṭhānantiko’’ti porāṇagaṇṭhipade likhitaṃ, taṃ yuttaṃ, aññathā antosīmāya ‘‘nevimaṃ cīvaraṃ kāressa’’nti pavattaubbhāro itaresu samodhānaṃ na gacchatīti atiritto siyā. Sīmātikkantikoti cīvarakālasīmātikkantiko. Saubbhāre cīvarapalibodho paṭhamaṃ chijjanto viya khāyati, atha kho sāpekkhatāya cīvarakaraṇe saussāhova hotīti lesaṃ sandhāya parivāravasena ‘‘dve palibodhā apubbaṃ acarimaṃ chijjantī’’ti (mahāva. aṭṭha. 311) vuttaṃ. ‘‘Katacīvaro’’ti vuttattā idha na sambhavati.

    ๓๑๖. สพฺพํ อตฺตโน ปริกฺขารํ อนวเสเสตฺวา ปกฺกมโนฺต ‘‘สมาทาย ปกฺกมตี’’ติ วุจฺจติฯ ‘‘กถินุทฺธาเร วิเสโส นตฺถิฯ ปุคฺคลาธิปฺปายวิเสเสน เกวลํ วารทสฺสนตฺถํ สมาทายวารา วุตฺตา’’ติ สเพฺพสุ คณฺฐิปเทสุ ลิขิตํฯ อิธ ปน ปุคฺคลาธิปฺปาเยน ปโยชนํ วีมํสิตพฺพํฯ ปกฺกมนนฺติกสฺส อภาวา ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ วุตฺตํฯ วิปฺปกเตปิ ธุรนิเกฺขปวเสน ปกฺกมนนฺติกตา สมฺภวติ, ตสฺมา ปกฺกมนนฺติกวาโรปิ วตฺตโพฺพติ เจ? น, สนฺนิฎฺฐานนฺติกลกฺขณปฺปสงฺคโตฯ อกตจีวรสฺส น สวนนฺติกตา จฯ

    316. Sabbaṃ attano parikkhāraṃ anavasesetvā pakkamanto ‘‘samādāya pakkamatī’’ti vuccati. ‘‘Kathinuddhāre viseso natthi. Puggalādhippāyavisesena kevalaṃ vāradassanatthaṃ samādāyavārā vuttā’’ti sabbesu gaṇṭhipadesu likhitaṃ. Idha pana puggalādhippāyena payojanaṃ vīmaṃsitabbaṃ. Pakkamanantikassa abhāvā ‘‘yathāsambhava’’nti vuttaṃ. Vippakatepi dhuranikkhepavasena pakkamanantikatā sambhavati, tasmā pakkamanantikavāropi vattabboti ce? Na, sanniṭṭhānantikalakkhaṇappasaṅgato. Akatacīvarassa na savanantikatā ca.

    ตตฺรายํ อาทิโต ปฎฺฐาย วารวิภาวนา – อาทายวารา สตฺต, ตถา สมาทายวาราติ เทฺว สตฺตกวาราฯ ตโต ปกฺกมนนฺติกํ วเชฺชตฺวา วิปฺปกตจีวรสฺส อาทายวารา, สมาทายวารา จาติ เทฺว ฉกฺกวาราฯ ตโต ปรํ นิฎฺฐานสนฺนิฎฺฐานนาสนนฺติกานํ วเสน ตีณิ ติกานิ ทสฺสิตานิ, ตตฺถ ปฐมตฺติกํ อโนฺตสีมาย ‘‘น ปเจฺจสฺส’’นฺติ อิมํ วิธิํ อนามสิตฺวา พหิสีมายํ เอว ‘‘น ปเจฺจสฺส’’นฺติ ปวตฺตํ, ตสฺมา ปกฺกมนนฺติกสีมาติกฺกนฺติกสอุพฺภารา ตตฺถ น ยุชฺชนฺติฯ ‘‘อาสาวเจฺฉทิโก สมฺภวโนฺตปิ ยถาวุตฺตการเณน น วุโตฺตฯ ทุติยตฺติกํ อโนฺตสีมาย ‘น ปเจฺจสฺส’นฺติ ปวตฺตํ, เอตฺถ กิญฺจาปิ ปกฺกมนนฺติโก สมฺภวติ, ตถาปิ เยหิ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ, เตสํเยวาธิเปฺปตตฺตา น วุโตฺต’’ติ โปราณคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ สพฺพสฺมิมฺปิ ปนฺนรสเก วิปฺปกตจีวรเสฺสวาธิเปฺปตตฺตาติ ตโกฺกฯ อธิฎฺฐานุปเค จ วิปฺปกเต สติ น นิฎฺฐานนฺติโกฯ นิฎฺฐานาวเสเส สติ น นาสนนฺติโกติ โปราณาฯ ตติยตฺติกํ อนธิฎฺฐิต-ปเทน วิเสเสตฺวา ปวตฺตํ, อตฺถโต ปฐมตฺติเกน สเมติฯ ตสฺส อตฺถทสฺสนปโยชนํ กิร ตํฯ ยสฺมา อิเม ตโย อตฺถวิกปฺปา อิเมหิ เอว ตีหิ กถินุทฺธาเรหิ สกฺกา ทเสฺสตุํ, ตสฺมา อิเมว โยชิตา เอกสมฺพนฺธวเสน, อญฺญถา ปฐมตฺติกํ ฉกฺกํ ภเวยฺย อิมสฺส ปนฺนรสกสฺส อเนฺต ฉกฺกํ วิยฯ ตติยตฺติกานนฺตรํ จตุตฺถตฺติกํ สมฺภวนฺตํ ‘‘อโนฺตสีมายํ ‘ปเจฺจสฺส’’นฺติ วจนวิเสเสน สมฺภวติฯ ตถา จ โยชิยมานํ อิตเรหิ สวนนฺติกาทีหิ อวิรุทฺธกฺกมํ โหติ, ตสฺมา จตุตฺถตฺติกํ อหุตฺวา ฉกฺกํ ชาตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เอวํ ตีณิ ติกานิ เอกํ ฉกฺกญฺจาติ ปฐมํ ปนฺนรสกํ เวทิตพฺพํฯ อิทานิ อิทเมว ปนฺนรสกํ อุปสคฺควิเสเสน ทุติยํ สมาทายปนฺนรสกํ นาม กตํฯ ปุน วิปฺปกตจีวรํ อาทายาติ ตติยํ ปนฺนรสกํ, สมาทายาติ จตุตฺถํ ปนฺนรสกํ ทสฺสิตํฯ เอวํ จตฺตาริ ปนฺนรสกานิ เวทิตพฺพานิ ฯ ตตฺถ ปฐมทุติเยสุ ปนฺนรสเกสุ สเพฺพน สพฺพํ อกตจีวรํ อธิเปฺปตํ, อิตเรสุ ทฺวีสุ วิปฺปกตนฺติ โยเชตพฺพํฯ ‘‘ปุเพฺพ นิพทฺธฎฺฐาเน จีวราสาย คเหตพฺพํ, อญฺญตฺถ น วฎฺฎติฯ อุปจฺฉินฺนาย เจ จีวราสาย จีวรํ อุปฺปนฺนํ, น ตํ จีวรปลิโพธํ กโรตี’’ติ โปราณคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ นิสฺสคฺคิเยสุ ตติยกถิเน อาคตจีวรปจฺจาสา อิธ จีวราสาติ ตโกฺกฯ ยตฺถ จีวราสา, ตํ ฐานํ อธิกรณูปจาเรน ‘‘จีวราสา’’เตฺวว วุจฺจตีติ กตฺวา ‘‘ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา อนาสาย ลภตีติ อนาสายิตฎฺฐาเน ลภตีติอาทินา อโตฺถ คเหตโพฺพฯ เอตฺถ นิฎฺฐานสนฺนิฎฺฐานนาสนอาสาวเจฺฉทิกวเสน เอโก วาโรติ อิทเมกํ จตุกฺกํ ชาตํ, ตสฺมา ปุเพฺพ วุตฺตานิ ตีณิ ติกานิ อาสาวเจฺฉทิกาธิกานิ ตีณิ จตุกฺกานีติ เอกํ อนาสายทฺวาทสกนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตทนนฺตเร อาสายทฺวาทสเก กิญฺจาปิ ปฐมทฺวาทสกฺกโม ลพฺภติ, ตถาปิ ตํ นิพฺพิเสสนฺติ ตเมกํ ทฺวาทสกํ อวุตฺตสิทฺธํ กตฺวา วิเสสโต ทเสฺสตุํ อาทิโต ปฎฺฐาย ‘‘อโนฺตสีมาย ปเจฺจสฺส’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทุติยจตุเกฺก ‘‘โส พหิสีมคโต สุณาตี’’ติอาทิวจนสฺส ตติยจตุเกฺก สวนนฺติกาทีนญฺจ โอกาสกรณตฺถนฺติ เวทิตพฺพํฯ อิทํ ปน ทฺวาทสกํ อนาสาย วเสน ลพฺภมานมฺปิ อิมินา อวุตฺตสิทฺธํ กตฺวา น ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เอวเมตฺถ เทฺว ทฺวาทสกานิ อุทฺธริตานิฯ กรณียทฺวาทสเกปิ ยถาทสฺสิตอนาสายทฺวาทสกํ, อวุตฺตสิทฺธํ อาสายทฺวาทสกญฺจาติ เทฺว ทฺวาทสกานิ อุทฺธริตพฺพานิฯ อิทานิ ทิสํคมิกนวกํ โหติฯ ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทิสํคมิโก ปกฺกมตี’’ติ วจเนเนว ‘‘น ปเจฺจสฺส’’นฺติ อิทํ อวุตฺตสิทฺธเมว, ตสฺมา ตํ น วุตฺตํฯ เอตฺตาวตา อาวาสปลิโพธาภาโว ทสฺสิโตฯ

    Tatrāyaṃ ādito paṭṭhāya vāravibhāvanā – ādāyavārā satta, tathā samādāyavārāti dve sattakavārā. Tato pakkamanantikaṃ vajjetvā vippakatacīvarassa ādāyavārā, samādāyavārā cāti dve chakkavārā. Tato paraṃ niṭṭhānasanniṭṭhānanāsanantikānaṃ vasena tīṇi tikāni dassitāni, tattha paṭhamattikaṃ antosīmāya ‘‘na paccessa’’nti imaṃ vidhiṃ anāmasitvā bahisīmāyaṃ eva ‘‘na paccessa’’nti pavattaṃ, tasmā pakkamanantikasīmātikkantikasaubbhārā tattha na yujjanti. ‘‘Āsāvacchediko sambhavantopi yathāvuttakāraṇena na vutto. Dutiyattikaṃ antosīmāya ‘na paccessa’nti pavattaṃ, ettha kiñcāpi pakkamanantiko sambhavati, tathāpi yehi cīvarapalibodho chijjati, tesaṃyevādhippetattā na vutto’’ti porāṇagaṇṭhipade vuttaṃ. Sabbasmimpi pannarasake vippakatacīvarassevādhippetattāti takko. Adhiṭṭhānupage ca vippakate sati na niṭṭhānantiko. Niṭṭhānāvasese sati na nāsanantikoti porāṇā. Tatiyattikaṃ anadhiṭṭhita-padena visesetvā pavattaṃ, atthato paṭhamattikena sameti. Tassa atthadassanapayojanaṃ kira taṃ. Yasmā ime tayo atthavikappā imehi eva tīhi kathinuddhārehi sakkā dassetuṃ, tasmā imeva yojitā ekasambandhavasena, aññathā paṭhamattikaṃ chakkaṃ bhaveyya imassa pannarasakassa ante chakkaṃ viya. Tatiyattikānantaraṃ catutthattikaṃ sambhavantaṃ ‘‘antosīmāyaṃ ‘paccessa’’nti vacanavisesena sambhavati. Tathā ca yojiyamānaṃ itarehi savanantikādīhi aviruddhakkamaṃ hoti, tasmā catutthattikaṃ ahutvā chakkaṃ jātanti veditabbaṃ. Evaṃ tīṇi tikāni ekaṃ chakkañcāti paṭhamaṃ pannarasakaṃ veditabbaṃ. Idāni idameva pannarasakaṃ upasaggavisesena dutiyaṃ samādāyapannarasakaṃ nāma kataṃ. Puna vippakatacīvaraṃ ādāyāti tatiyaṃ pannarasakaṃ, samādāyāti catutthaṃ pannarasakaṃ dassitaṃ. Evaṃ cattāri pannarasakāni veditabbāni . Tattha paṭhamadutiyesu pannarasakesu sabbena sabbaṃ akatacīvaraṃ adhippetaṃ, itaresu dvīsu vippakatanti yojetabbaṃ. ‘‘Pubbe nibaddhaṭṭhāne cīvarāsāya gahetabbaṃ, aññattha na vaṭṭati. Upacchinnāya ce cīvarāsāya cīvaraṃ uppannaṃ, na taṃ cīvarapalibodhaṃ karotī’’ti porāṇagaṇṭhipade vuttaṃ. Nissaggiyesu tatiyakathine āgatacīvarapaccāsā idha cīvarāsāti takko. Yattha cīvarāsā, taṃ ṭhānaṃ adhikaraṇūpacārena ‘‘cīvarāsā’’tveva vuccatīti katvā ‘‘taṃ cīvarāsaṃ payirupāsatī’’tiādi vuttaṃ, tasmā anāsāya labhatīti anāsāyitaṭṭhāne labhatītiādinā attho gahetabbo. Ettha niṭṭhānasanniṭṭhānanāsanaāsāvacchedikavasena eko vāroti idamekaṃ catukkaṃ jātaṃ, tasmā pubbe vuttāni tīṇi tikāni āsāvacchedikādhikāni tīṇi catukkānīti ekaṃ anāsāyadvādasakanti veditabbaṃ. Tadanantare āsāyadvādasake kiñcāpi paṭhamadvādasakkamo labbhati, tathāpi taṃ nibbisesanti tamekaṃ dvādasakaṃ avuttasiddhaṃ katvā visesato dassetuṃ ādito paṭṭhāya ‘‘antosīmāya paccessa’’nti vuttaṃ, taṃ dutiyacatukke ‘‘so bahisīmagato suṇātī’’tiādivacanassa tatiyacatukke savanantikādīnañca okāsakaraṇatthanti veditabbaṃ. Idaṃ pana dvādasakaṃ anāsāya vasena labbhamānampi iminā avuttasiddhaṃ katvā na dassitanti veditabbaṃ. Evamettha dve dvādasakāni uddharitāni. Karaṇīyadvādasakepi yathādassitaanāsāyadvādasakaṃ, avuttasiddhaṃ āsāyadvādasakañcāti dve dvādasakāni uddharitabbāni. Idāni disaṃgamikanavakaṃ hoti. Tattha yasmā ‘‘disaṃgamiko pakkamatī’’ti vacaneneva ‘‘na paccessa’’nti idaṃ avuttasiddhameva, tasmā taṃ na vuttaṃ. Ettāvatā āvāsapalibodhābhāvo dassito.

    ๓๒๑. ‘‘จีวรปฎิวีสํ อปวิลายมาโน’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธสมงฺคิตมสฺส ทเสฺสติฯ ปฎิวีโสติ อตฺตโน ปตฺตโพฺพ จีวรภาโคฯ อปวิลายมาโนติ อากงฺขมาโนฯ ตสฺส จีวรลาเภ สติ วสฺสํวุตฺถาวาเส นิฎฺฐานสนฺนิฎฺฐานนาสนนฺติกานํ วเสน เอกํ ติกํ, เตสํเยว วเสน อนฺตรามเคฺค เอกํ, คตฎฺฐาเน เอกนฺติ ติณฺณํ ติกานํ วเสน เอกํ นวกํ เวทิตพฺพํฯ ตโต ปรํ นิฎฺฐานสนฺนิฎฺฐานนาสนนฺติ กสีมาติกฺกนฺติกสอุพฺภารานํ วเสน ผาสุวิหารปญฺจกํ วุตฺตํฯ อุภยตฺถ เสสกถินุทฺธาราสมฺภโว ปากโฎวฯ อยํ ปเนตฺถ ปญฺจเก วิเสโส – สมาทายวาโร น สมฺภวติ ‘‘ปเจฺจสฺส’’นฺติ ปจฺจาคมนาธิปฺปายโตฯ

    321. ‘‘Cīvarapaṭivīsaṃ apavilāyamāno’’ti iminā cīvarapalibodhasamaṅgitamassa dasseti. Paṭivīsoti attano pattabbo cīvarabhāgo. Apavilāyamānoti ākaṅkhamāno. Tassa cīvaralābhe sati vassaṃvutthāvāse niṭṭhānasanniṭṭhānanāsanantikānaṃ vasena ekaṃ tikaṃ, tesaṃyeva vasena antarāmagge ekaṃ, gataṭṭhāne ekanti tiṇṇaṃ tikānaṃ vasena ekaṃ navakaṃ veditabbaṃ. Tato paraṃ niṭṭhānasanniṭṭhānanāsananti kasīmātikkantikasaubbhārānaṃ vasena phāsuvihārapañcakaṃ vuttaṃ. Ubhayattha sesakathinuddhārāsambhavo pākaṭova. Ayaṃ panettha pañcake viseso – samādāyavāro na sambhavati ‘‘paccessa’’nti paccāgamanādhippāyato.

    ๓๒๕. เทฺวเม ภิกฺขเว กถินสฺส ปลิโพธาติ กถินตฺถารสฺส อนุปพนฺธนปจฺจยาติฯ

    325.Dveme bhikkhave kathinassa palibodhāti kathinatthārassa anupabandhanapaccayāti.

    กถินกฺขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Kathinakkhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อาทายสตฺตกกถา • Ādāyasattakakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อาทายสตฺตกาทิกถาวณฺณนา • Ādāyasattakādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อาทายสตฺตกกถาวณฺณนา • Ādāyasattakakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๘๘. อาทายสตฺตกกถา • 188. Ādāyasattakakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact