Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    สมถเภทวณฺณนา

    Samathabhedavaṇṇanā

    อธิกรณปริยายวาราทิวณฺณนา

    Adhikaraṇapariyāyavārādivaṇṇanā

    ๒๙๓-๔. โลภการณา วิวาทนโต ‘‘โลโภ ปุพฺพงฺคโม’’ติ วุตฺตํฯ เอวํ เสเสสุฯ ฐานานีติอาทีนิ การณเววจนานิฯ การณญฺหิ ติฎฺฐนฺติ เอตฺถาติ ฐานํ, วสนฺติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ภวนฺติ เอตฺถาติ ภูมีติ วุจฺจติฯ เก ติฎฺฐนฺติ วสนฺติ ภวนฺติ จาติ? วิวาทาธิกรณาทโยฯ กุสลากุสลาพฺยากตจิโตฺต หุตฺวา วิวทนโต ‘‘นว เหตู’’ติ วุตฺตํฯ โกธโน โหติ อุปนาหีติอาทีนิ ทฺวาทส มูลานิฯ อโกฺกสเนฺตน หิ จตูสุ วิปตฺตีสุ เอเกน อนุวทนโต ‘‘จตโสฺส วิปตฺติโย ฐานานี’’ติ วุตฺตํฯ จุทฺทส มูลานีติ วิวาทาธิกรเณ วุตฺตา ทฺวาทส, กาโย, วาจา จฯ

    293-4.Lobhakāraṇāvivādanato ‘‘lobho pubbaṅgamo’’ti vuttaṃ. Evaṃ sesesu. Ṭhānānītiādīni kāraṇavevacanāni. Kāraṇañhi tiṭṭhanti etthāti ṭhānaṃ, vasanti etthāti vatthu, bhavanti etthāti bhūmīti vuccati. Ke tiṭṭhanti vasanti bhavanti cāti? Vivādādhikaraṇādayo. Kusalākusalābyākatacitto hutvā vivadanato ‘‘nava hetū’’ti vuttaṃ. Kodhano hoti upanāhītiādīni dvādasa mūlāni. Akkosantena hi catūsu vipattīsu ekena anuvadanato ‘‘catasso vipattiyo ṭhānānī’’ti vuttaṃ. Cuddasa mūlānīti vivādādhikaraṇe vuttā dvādasa, kāyo, vācā ca.

    ๒๙๕-๖. สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา ฐานานีติ เอตฺถ ‘‘อาปตฺติํ อาปชฺชิตฺวา ปฎิจฺฉาเทนฺตสฺส ยา อาปตฺติ โหติ, ตสฺสา อาปตฺติยา ปุเพฺพ อาปนฺนา อาปตฺติ ฐานํ โหตี’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสลนฺติ วจนโต นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณสฺส กุสลเหตุ, กุสลจิตฺตํ ปน องฺคํ โหตี’’ติ ลิขิตํฯ จตฺตาริ กมฺมานิ ฐานานีติ เอตฺถ ‘‘เอวํ กตฺตพฺพนฺติ ฐิตปาฬิ กมฺมํ นามฯ ‘ยถาฐิตปาฬิวเสน กโรนฺตานํ กิริยา กิจฺจาธิกรณํ นามา’’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปาฬิอนุสาเรน ปฎิกาตพฺพลกฺขณํ วา กมฺมํฯ ตเถว กรณํ กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ จฯ ญตฺติญตฺติทุติยญตฺติจตุตฺถกมฺมานิ ญตฺติโต ชายนฺติ, อปโลกนกมฺมํ อปโลกนโต, ‘‘กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติ สมฺปชฺชตีติ อโตฺถ’’ติ ลิขิตํฯ สิยุนฺติ โหนฺติฯ กถญฺจ สิยาติ กถํ โหติฯ วิวาทาธิกรณสฺส เทฺวติ เต เทฺว ฐเปตฺวา อเญฺญหิ น สมฺมติฯ

    295-6.Satta āpattikkhandhā ṭhānānīti ettha ‘‘āpattiṃ āpajjitvā paṭicchādentassa yā āpatti hoti, tassā āpattiyā pubbe āpannā āpatti ṭhānaṃ hotī’’ti vuttaṃ. ‘‘Natthi āpattādhikaraṇaṃ kusalanti vacanato natthi āpattādhikaraṇassa kusalahetu, kusalacittaṃ pana aṅgaṃ hotī’’ti likhitaṃ. Cattāri kammāni ṭhānānīti ettha ‘‘evaṃ kattabbanti ṭhitapāḷi kammaṃ nāma. ‘Yathāṭhitapāḷivasena karontānaṃ kiriyā kiccādhikaraṇaṃ nāmā’’’ti vuttaṃ, ‘‘pāḷianusārena paṭikātabbalakkhaṇaṃ vā kammaṃ. Tatheva karaṇaṃ kiccādhikaraṇa’’nti ca. Ñattiñattidutiyañatticatutthakammāni ñattito jāyanti, apalokanakammaṃ apalokanato, ‘‘kiccādhikaraṇaṃ ekena samathena sammati sampajjatīti attho’’ti likhitaṃ. Siyunti honti. Kathañca siyāti kathaṃ hoti. Vivādādhikaraṇassa dveti te dve ṭhapetvā aññehi na sammati.

    ๒๙๗. สาธารณาติ ตํ สเมตพฺพาฯ

    297.Sādhāraṇāti taṃ sametabbā.

    ๒๙๘. ตพฺภาคิยาติ ตํโกฎฺฐาสาฯ

    298.Tabbhāgiyāti taṃkoṭṭhāsā.

    ๒๙๙. เอกาธิกรณํ สเพฺพ สมถา สมคฺคา หุตฺวา สเมตุํ ภพฺพาติ ปุจฺฉโนฺต ‘‘สมถา สมถสฺส สาธารณา’’ติ อาหฯ สมถา สมถสฺสา สิยา สาธารณา สิยา อสาธารณาฯ

    299. Ekādhikaraṇaṃ sabbe samathā samaggā hutvā sametuṃ bhabbāti pucchanto ‘‘samathā samathassa sādhāraṇā’’ti āha. Samathā samathassā siyā sādhāraṇā siyā asādhāraṇā.

    ๓๐๐. สมถา สมถสฺส ตพฺภาคิยวาเรปิ เอเสว นโยฯ

    300. Samathā samathassa tabbhāgiyavārepi eseva nayo.

    ๓๐๑. อิเม สมถา สมถา, น สมฺมุขาวินโยติ อโตฺถฯ

    301. Ime samathā samathā, na sammukhāvinayoti attho.

    ๓๐๒. ‘‘สมถา วินโย’’ติปิ วุจฺจติ, ตสฺมา วินโย สมฺมุขาวินโยติ วินยวาโร อุทฺธโฎ สิยาฯ น สมฺมุขาวินโยติ สมฺมุขาวินยํ ฐเปตฺวา สติวินยาทโย เสสสมถาฯ

    302. ‘‘Samathā vinayo’’tipi vuccati, tasmā vinayo sammukhāvinayoti vinayavāro uddhaṭo siyā. Na sammukhāvinayoti sammukhāvinayaṃ ṭhapetvā sativinayādayo sesasamathā.

    ๓๐๓. สงฺฆสฺส สมฺมุขา ปฎิญฺญาเต ตํ ปฎิชานนํ สงฺฆสฺส สมฺมุขตา นาม โหตีติ ‘‘ตสฺส ปฎิชานนจิตฺตํ สนฺธาย ‘สมฺมุขาวินโย กุสโล’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ นตฺถิ สมฺมุขาวินโย อกุสโลติ ‘‘ธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขตาหิ ติวงฺคิโก สมฺมุขาวินโย เอเตหิ วินา นตฺถิฯ ตตฺถ กุสลจิเตฺตหิ กรณกาเล กุสโล, อรหนฺตานํ กรณกาเล อพฺยากโต, เอเตสํ อกุสลปฎิปกฺขตฺตา อกุสลสฺส สมฺภโว นตฺถิ, ตสฺมา ‘นตฺถิ สมฺมุขาวินโย อกุสโล’ติ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํฯ ‘‘เยภุยฺยสิกา อธมฺมวาทีหิ วูปสมนกาเล สลากคฺคาหาปเก ธมฺมวาทิมฺหิ กุสลา, ธมฺมวาทีนมฺปิ อธมฺมวาทิมฺหิ สลากคฺคาหาปเก ชาเต อกุสลา, สพฺพตฺถ อรหโต วเสเนว อพฺยากตตา, อนรหโต สญฺจิจฺจ สติวินยทาเน สติวินโย อกุสโล, อมูฬฺหวินโย อนุมฺมตฺตกสฺส ทาเน, ปฎิญฺญาตกรณํ มูฬฺหสฺส อชานนโต ปฎิญฺญายกรเณ, ตสฺสปาปิยสิกา สุทฺธสฺส กรเณ, ติณวตฺถารกํ มหากลเห, สญฺจิจฺจ กรเณ จ อกุสล’’นฺติ ลิขิตํฯ

    303. Saṅghassa sammukhā paṭiññāte taṃ paṭijānanaṃ saṅghassa sammukhatā nāma hotīti ‘‘tassa paṭijānanacittaṃ sandhāya ‘sammukhāvinayo kusalo’tiādi vutta’’nti vadanti. Natthi sammukhāvinayo akusaloti ‘‘dhammavinayapuggalasammukhatāhi tivaṅgiko sammukhāvinayo etehi vinā natthi. Tattha kusalacittehi karaṇakāle kusalo, arahantānaṃ karaṇakāle abyākato, etesaṃ akusalapaṭipakkhattā akusalassa sambhavo natthi, tasmā ‘natthi sammukhāvinayo akusalo’ti vutta’’nti likhitaṃ. ‘‘Yebhuyyasikā adhammavādīhi vūpasamanakāle salākaggāhāpake dhammavādimhi kusalā, dhammavādīnampi adhammavādimhi salākaggāhāpake jāte akusalā, sabbattha arahato vaseneva abyākatatā, anarahato sañcicca sativinayadāne sativinayo akusalo, amūḷhavinayo anummattakassa dāne, paṭiññātakaraṇaṃ mūḷhassa ajānanato paṭiññāyakaraṇe, tassapāpiyasikā suddhassa karaṇe, tiṇavatthārakaṃ mahākalahe, sañcicca karaṇe ca akusala’’nti likhitaṃ.







    Related texts:




    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact