Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā

    อธิกรณสมถวณฺณนา

    Adhikaraṇasamathavaṇṇanā

    คณนปริเจฺฉโทติ สงฺขฺยาปริเจฺฉโทฯ อธิกรียนฺติ เอตฺถาติ อธิกรณานิฯ เก อธิกรียนฺติ? สมถาฯ กถํ อธิกรียนฺติ? สมนวเสนฯ ตสฺมา เต เตสํ สมนวเสน ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘อธิกรณานิ สเมนฺตี’’ติอาทิฯ อุปฺปนฺนานํ อุปฺปนฺนานนฺติ อุฎฺฐิตานํ อุฎฺฐิตานํฯ กิญฺจาปิ อธิกรณเฎฺฐน เอกวิธํ, ตถาปิ วตฺถุวเสน นานา โหตีติ ‘‘อธิกรณาน’’นฺติ พหุวจนํ กตํฯ อิทานิ ตสฺส นานาตฺตํ ทเสฺสตฺวา วิวริตุํ ‘‘วิวาทาธิกรณ’’นฺติอาทิมาหฯ วิวาโทเยว อธิกรณํ วิวาทาธิกรณํฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ สมถตฺถนฺติ สมนตฺถํฯ

    Gaṇanaparicchedoti saṅkhyāparicchedo. Adhikarīyanti etthāti adhikaraṇāni. Ke adhikarīyanti? Samathā. Kathaṃ adhikarīyanti? Samanavasena. Tasmā te tesaṃ samanavasena pavattantīti āha ‘‘adhikaraṇāni samentī’’tiādi. Uppannānaṃ uppannānanti uṭṭhitānaṃ uṭṭhitānaṃ. Kiñcāpi adhikaraṇaṭṭhena ekavidhaṃ, tathāpi vatthuvasena nānā hotīti ‘‘adhikaraṇāna’’nti bahuvacanaṃ kataṃ. Idāni tassa nānāttaṃ dassetvā vivarituṃ ‘‘vivādādhikaraṇa’’ntiādimāha. Vivādoyeva adhikaraṇaṃ vivādādhikaraṇaṃ. Esa nayo sesesupi. Samathatthanti samanatthaṃ.

    อธิกรณสฺส สมฺมุขา วินยนโต สมฺมุขาวินโยฯ ทพฺพมลฺลปุตฺตเตฺถรสทิสสฺส สติเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส ขีณาสวเสฺสว ทาตโพฺพ วินโย สติวินโยฯ สมฺมูฬฺหสฺส คคฺคภิกฺขุสทิสสฺส อุมฺมตฺตกสฺส ทาตโพฺพ วินโย อมูฬฺหวินโยฯ ปฎิญฺญาเตน กรณภูเตน กรณํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ อถ วา ปฎิญฺญาเต อาปนฺนภาวาทิเก กรณํ กิริยา, ‘‘อายติํ สํวเรยฺยาสี’’ติ ปริวาสทานาทิวเสน จ ปวตฺตํ วจีกมฺมํ ปฎิญฺญาตกรณํฯ ยสฺสา กิริยาย ธมฺมวาทิโน พหุตรา, เอสา เยภุยฺยสิกา นามฯ โย ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิโย, ปุคฺคโล, ตสฺส อุปวาฬภิกฺขุสทิสสฺส กตฺตพฺพโต ตสฺสปาปิยสิกา, อลุตฺตสมาโสยํฯ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ติณวตฺถารโกฯ ยถา (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๑๒) หิ คูถํ วา มุตฺตํ วา ฆฎฺฎิยมานํ ทุคฺคนฺธตาย พาธติ, ติเณหิ อวตฺถริตฺวา สุปฺปฎิจฺฉาทิตสฺส ปนสฺส คโนฺธ น พาธติ, เอวเมว ยํ อธิกรณํ มูลานุมูลํ คนฺตฺวา วูปสมิยมานํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺตติ, ตํ อิมินา กเมฺมน วูปสนฺตํ คูถํ วิย ติณวตฺถารเกน ปฎิจฺฉนฺนํ สุวูปสนฺตํ โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ติณวตฺถารโก’’ติฯ

    Adhikaraṇassa sammukhā vinayanato sammukhāvinayo. Dabbamallaputtattherasadisassa sativepullappattassa khīṇāsavasseva dātabbo vinayo sativinayo. Sammūḷhassa gaggabhikkhusadisassa ummattakassa dātabbo vinayo amūḷhavinayo. Paṭiññātena karaṇabhūtena karaṇaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Atha vā paṭiññāte āpannabhāvādike karaṇaṃ kiriyā, ‘‘āyatiṃ saṃvareyyāsī’’ti parivāsadānādivasena ca pavattaṃ vacīkammaṃ paṭiññātakaraṇaṃ. Yassā kiriyāya dhammavādino bahutarā, esā yebhuyyasikā nāma. Yo pāpussannatāya pāpiyo, puggalo, tassa upavāḷabhikkhusadisassa kattabbato tassapāpiyasikā, aluttasamāsoyaṃ. Tiṇavatthārakasadisattā tiṇavatthārako. Yathā (cūḷava. aṭṭha. 212) hi gūthaṃ vā muttaṃ vā ghaṭṭiyamānaṃ duggandhatāya bādhati, tiṇehi avattharitvā suppaṭicchāditassa panassa gandho na bādhati, evameva yaṃ adhikaraṇaṃ mūlānumūlaṃ gantvā vūpasamiyamānaṃ kakkhaḷattāya vāḷattāya bhedāya saṃvattati, taṃ iminā kammena vūpasantaṃ gūthaṃ viya tiṇavatthārakena paṭicchannaṃ suvūpasantaṃ hoti. Tena vuttaṃ ‘‘tiṇavatthārakasadisattā tiṇavatthārako’’ti.

    ตตฺราติ เตสุ สตฺตสุ อธิกรณสมเถสุฯ ‘‘อฎฺฐารสหิ วตฺถูหี’’ติ ลกฺขณวจนเมตํ ‘‘ยทิ เม พฺยาธิกา ภเวยฺยุํ, ทาตพฺพมิทโมสธ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ฎี. ๒.๓.๓๙-๔๒) วิยฯ ตสฺมา เตสุ อญฺญตเรน วิวทนฺตา อฎฺฐารสหิ วตฺถูหิ วิวทนฺตีติ วุจฺจติฯ วิวาโทติ วิปจฺจนีกวาโทฯ อุปวทนาติ อโกฺกโสฯ โจทนาติ อนุโยโคฯ เทฺวติ ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตาปตฺติโย เทฺวฯ จตุนฺนํ กมฺมานํ กรณนฺติ จตุนฺนํ กมฺมานํ อนฺตเร ยสฺส กสฺสจิ กมฺมสฺส กรณํฯ

    Tatrāti tesu sattasu adhikaraṇasamathesu. ‘‘Aṭṭhārasahi vatthūhī’’ti lakkhaṇavacanametaṃ ‘‘yadi me byādhikā bhaveyyuṃ, dātabbamidamosadha’’ntiādinā (saṃ. ni. ṭī. 2.3.39-42) viya. Tasmā tesu aññatarena vivadantā aṭṭhārasahi vatthūhi vivadantīti vuccati. Vivādoti vipaccanīkavādo. Upavadanāti akkoso. Codanāti anuyogo. Dveti thullaccayadubbhāsitāpattiyo dve. Catunnaṃ kammānaṃ karaṇanti catunnaṃ kammānaṃ antare yassa kassaci kammassa karaṇaṃ.

    เอวํ อธิกรณานิ ทเสฺสตฺวา อิทานิ เตสุ อิทํ อธิกรณํ เอตฺตเกหิ สมเถหิ สมฺมตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ยสฺมิํ วิหาเร อุปฺปนฺนํ , ตสฺมิํเยว วา สมฺมตีติ สมฺพโนฺธฯ เอวํ เสเสสุปิฯ ตตฺถ ยสฺมิํ วิหาเร อุปฺปนฺนนฺติ ‘‘ยสฺมิํ วิหาเร มยฺหํ อิมินา ปโตฺต คหิโต, จีวรํ คหิต’’นฺติอาทินา (ปริ. อฎฺฐ. ๓๔๑) นเยน ปตฺตจีวราทีนํ อตฺถาย วิวาทาธิกรณํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ ตสฺมิํเยว วา สมฺมตีติ ตสฺมิํ วิหาเรเยว อาวาสิเกหิ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อลํ, อาวุโส’’ติ อตฺถปจฺจตฺถิเก สญฺญาเปตฺวา ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉเยเนว วูปสเมเนฺตหิ สมฺมติฯ สเจ ปน ตํ อธิกรณํ เนวาสิกา วูปสเมตุํ น สโกฺกนฺติ, อถโญฺญ วินยธโร อาคนฺตฺวา ‘‘กิํ, อาวุโส, อิมสฺมิํ วิหาเร อุโปสโถ วา ปวารณา วา ฐิตา’’ติ ปุจฺฉติ, เตหิ จ ตสฺมิํ การเณ กถิเต ตํ อธิกรณํ ขนฺธกโต จ ปริวารโต จ สุเตฺตน วินิจฺฉินิตฺวา วูปสเมติฯ เอวมฺปิ เอตสฺมิํเยว สมฺมตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Evaṃ adhikaraṇāni dassetvā idāni tesu idaṃ adhikaraṇaṃ ettakehi samathehi sammatīti dassetuṃ ‘‘tatthā’’tiādi vuttaṃ. Yasmiṃ vihāre uppannaṃ , tasmiṃyeva vā sammatīti sambandho. Evaṃ sesesupi. Tattha yasmiṃ vihāre uppannanti ‘‘yasmiṃ vihāre mayhaṃ iminā patto gahito, cīvaraṃ gahita’’ntiādinā (pari. aṭṭha. 341) nayena pattacīvarādīnaṃ atthāya vivādādhikaraṇaṃ uppannaṃ hoti. Tasmiṃyeva vā sammatīti tasmiṃ vihāreyeva āvāsikehi sannipatitvā ‘‘alaṃ, āvuso’’ti atthapaccatthike saññāpetvā pāḷimuttakavinicchayeneva vūpasamentehi sammati. Sace pana taṃ adhikaraṇaṃ nevāsikā vūpasametuṃ na sakkonti, athañño vinayadharo āgantvā ‘‘kiṃ, āvuso, imasmiṃ vihāre uposatho vā pavāraṇā vā ṭhitā’’ti pucchati, tehi ca tasmiṃ kāraṇe kathite taṃ adhikaraṇaṃ khandhakato ca parivārato ca suttena vinicchinitvā vūpasameti. Evampi etasmiṃyeva sammatīti daṭṭhabbaṃ.

    อญฺญตฺถ วูปสเมตุํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามเคฺค วา สมฺมตีติ ‘‘น มยํ เอตสฺส วินิจฺฉเย ติฎฺฐาม, นายํ วินเย กุสโล, อมุกสฺมิํ นาม คาเม วินยธรา เถรา วสนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา วินิจฺฉินิสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามเคฺค วา การณํ สลฺลเกฺขตฺวา อญฺญมญฺญํ สญฺญาเปเนฺตหิ, อเญฺญหิ วา เต ภิกฺขู นิชฺฌาเปเนฺตหิ สมฺมติฯ น เหว โข ปน อญฺญมญฺญสญฺญตฺติยา วา สภาคภิกฺขุนิชฺฌาปเนน วา วูปสนฺตํ โหติ, อปิจ โข ปฎิปถํ อาคจฺฉโนฺต เอโก วินยธโร ทิสฺวา ‘‘กตฺถาวุโส, คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อมุกํ นาม คามํ อิมินา นาม กรเณนา’’ติ วุเตฺต ‘‘อลํ, อาวุโส, กิํ ตตฺถ คเตนา’’ติ ตเตฺถว ธเมฺมน วินเยน ตํ อธิกรณํ วูปสเมติฯ เอวมฺปิ อนฺตรามเคฺค วูปสมฺมติ นามฯ

    Aññattha vūpasametuṃ gacchantānaṃ antarāmagge vā sammatīti ‘‘na mayaṃ etassa vinicchaye tiṭṭhāma, nāyaṃ vinaye kusalo, amukasmiṃ nāma gāme vinayadharā therā vasanti, tattha gantvā vinicchinissāmā’’ti gacchantānaṃ antarāmagge vā kāraṇaṃ sallakkhetvā aññamaññaṃ saññāpentehi, aññehi vā te bhikkhū nijjhāpentehi sammati. Na heva kho pana aññamaññasaññattiyā vā sabhāgabhikkhunijjhāpanena vā vūpasantaṃ hoti, apica kho paṭipathaṃ āgacchanto eko vinayadharo disvā ‘‘katthāvuso, gacchathā’’ti pucchitvā ‘‘amukaṃ nāma gāmaṃ iminā nāma karaṇenā’’ti vutte ‘‘alaṃ, āvuso, kiṃ tattha gatenā’’ti tattheva dhammena vinayena taṃ adhikaraṇaṃ vūpasameti. Evampi antarāmagge vūpasammati nāma.

    ยตฺถ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส นิยฺยาติตํ, ตตฺถ สเงฺฆน วาติ สเจ ปน ‘‘อลํ, อาวุโส, กิํ ตตฺถ คเตนา’’ติ วุจฺจมานาปิ ‘‘มยํ ตเตฺถว คนฺตฺวา วินิจฺฉยํ ปาเปสฺสามา’’ติ (ปริ. อฎฺฐ. ๓๔๑) วินยธรสฺส วจนํ อนาทิยิตฺวา ยตฺถ คนฺตฺวา สภาคภิกฺขุสงฺฆสฺส อธิกรณํ นิยฺยาติตํ, ตตฺถ สเงฺฆน ‘‘อลํ, อาวุโส, สงฺฆสนฺนิปาตํ นาม ครุก’’นฺติ ตเตฺถว นิสีทิตฺวา วินิจฺฉิตํ สมฺมติฯ น เหว โข ปน สภาคภิกฺขูนํ สญฺญตฺติยา วูปสนฺตํ โหติ, อปิจ โข สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อาโรจิตํ สงฺฆมเชฺฌ วินยธรา วูปสเมนฺติฯ เอวมฺปิ ตตฺถ สเงฺฆน วินิจฺฉิตํ สมฺมติ นามฯ

    Yattha gantvā saṅghassa niyyātitaṃ, tattha saṅghena vāti sace pana ‘‘alaṃ, āvuso, kiṃ tattha gatenā’’ti vuccamānāpi ‘‘mayaṃ tattheva gantvā vinicchayaṃ pāpessāmā’’ti (pari. aṭṭha. 341) vinayadharassa vacanaṃ anādiyitvā yattha gantvā sabhāgabhikkhusaṅghassa adhikaraṇaṃ niyyātitaṃ, tattha saṅghena ‘‘alaṃ, āvuso, saṅghasannipātaṃ nāma garuka’’nti tattheva nisīditvā vinicchitaṃ sammati. Na heva kho pana sabhāgabhikkhūnaṃ saññattiyā vūpasantaṃ hoti, apica kho saṅghaṃ sannipātetvā ārocitaṃ saṅghamajjhe vinayadharā vūpasamenti. Evampi tattha saṅghena vinicchitaṃ sammati nāma.

    อุพฺพาหิกาย สมฺมตปุคฺคเลหิ วา วินิจฺฉิตนฺติ อปโลเกตฺวา วา ขนฺธเก วุตฺตาย วา ญตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมเตหิ ปุคฺคเลหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา, ตสฺสาเยว วา ปริสาย ‘‘อเญฺญน น กิญฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๓๑) สาเวตฺวา วินิจฺฉิตํฯ อยนฺติ อยํ ยถาวุตฺตา จตุพฺพิธา สมฺมุขตาฯ

    Ubbāhikāyasammatapuggalehi vā vinicchitanti apaloketvā vā khandhake vuttāya vā ñattidutiyakammavācāya sammatehi puggalehi visuṃ vā nisīditvā, tassāyeva vā parisāya ‘‘aññena na kiñci kathetabba’’nti (cūḷava. aṭṭha. 231) sāvetvā vinicchitaṃ. Ayanti ayaṃ yathāvuttā catubbidhā sammukhatā.

    การกสงฺฆสฺสาติ วูปสเมตุํ สนฺนิปติตสฺส การกสงฺฆสฺสฯ สงฺฆสามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโวติ ‘‘ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉโนฺท อาหโฎ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฎิโกฺกสนฺตี’’ติ (จูฬว. ๒๒๘) เอวํ วุตฺตสงฺฆสามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว, เอเตน ยถา ตถา ปธานการกปุคฺคลานํ สมฺมุขตามตฺตํ สงฺฆสมฺมุขตา นาม น โหตีติ ทเสฺสติฯ ภูตตาติ ตจฺฉตาฯ สจฺจปริยาโย หิ อิธ ธมฺมสโทฺท ‘‘ธมฺมวาที’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๙, ๑๙๔) วิยฯ วิเนติ เอเตนาติ วินโย, ตสฺส ตสฺส อธิกรณสฺส วูปสมนาย ภควตา วุตฺตวิธิ, ตสฺส วินยสฺส สมฺมุขตา วินยสมฺมุขตาฯ เตนาห ‘‘ยถา ตํ…เป.… วินยสมฺมุขตา’’ติฯ เยนาติ เยน ปุคฺคเลนฯ อตฺถปจฺจตฺถิกานนฺติ (สารตฺถ. ฎี. จูฬวคฺค ๓.๒๒๘) วิวาทวตฺถุสงฺขาเต อเตฺถ ปจฺจตฺถิกานํฯ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ สมฺมตปุคฺคเลเหว วูปสมนโตฯ

    Kārakasaṅghassāti vūpasametuṃ sannipatitassa kārakasaṅghassa. Saṅghasāmaggivasena sammukhībhāvoti ‘‘yāvatikā bhikkhū kammappattā, te āgatā honti, chandārahānaṃ chando āhaṭo hoti, sammukhībhūtā na paṭikkosantī’’ti (cūḷava. 228) evaṃ vuttasaṅghasāmaggivasena sammukhībhāvo, etena yathā tathā padhānakārakapuggalānaṃ sammukhatāmattaṃ saṅghasammukhatā nāma na hotīti dasseti. Bhūtatāti tacchatā. Saccapariyāyo hi idha dhammasaddo ‘‘dhammavādī’’tiādīsu (dī. ni. 1.9, 194) viya. Vineti etenāti vinayo, tassa tassa adhikaraṇassa vūpasamanāya bhagavatā vuttavidhi, tassa vinayassa sammukhatā vinayasammukhatā. Tenāha ‘‘yathā taṃ…pe… vinayasammukhatā’’ti. Yenāti yena puggalena. Atthapaccatthikānanti (sārattha. ṭī. cūḷavagga 3.228) vivādavatthusaṅkhāte atthe paccatthikānaṃ. Saṅghasammukhatā parihāyati sammatapuggaleheva vūpasamanato.

    นฺติ วิวาทาธิกรณํฯ ปญฺจงฺคสมนฺนาคตนฺติ (จูฬว. ๒๓๔) ‘‘น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, คหิตาคหิตํ ชานาตี’’ติ วุเตฺตหิ ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตํฯ คูฬฺหกวิวฎกสกณฺณชปฺปเกสุ ตีสุ สลากคฺคาเหสูติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ สญฺญตฺติยา ตโย สลากคฺคาหเก คูฬฺหกํ, วิวฎกํ, สกณฺณชปฺปก’’นฺติ (จูฬว. ๒๓๕) สมถกฺขนฺธเก วุเตฺตสุ ตีสุ สลากคฺคาเหสุฯ สลากํ คาเหตฺวาติ ธมฺมวาทีนญฺจ อธมฺมวาทีนญฺจ สลากาโย นิมิตฺตสญฺญํ อาโรเปตฺวา จีวรโภเค กตฺวา สมถกฺขนฺธเก วุตฺตนเยน คาหาเปตฺวาฯ เอวญฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ

    Nanti vivādādhikaraṇaṃ. Pañcaṅgasamannāgatanti (cūḷava. 234) ‘‘na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, gahitāgahitaṃ jānātī’’ti vuttehi pañcahaṅgehi samannāgataṃ. Gūḷhakavivaṭakasakaṇṇajappakesu tīsu salākaggāhesūti ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tesaṃ bhikkhūnaṃ saññattiyā tayo salākaggāhake gūḷhakaṃ, vivaṭakaṃ, sakaṇṇajappaka’’nti (cūḷava. 235) samathakkhandhake vuttesu tīsu salākaggāhesu. Salākaṃ gāhetvāti dhammavādīnañca adhammavādīnañca salākāyo nimittasaññaṃ āropetvā cīvarabhoge katvā samathakkhandhake vuttanayena gāhāpetvā. Evañhi tattha vuttaṃ

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, คูฬฺหโก สลากคฺคาโห โหติ? เตน สลากคฺคาหาปเกน ภิกฺขุนา สลากาโย วณฺณาวณฺณาโย กตฺวา เอกเมโก ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘อยํ เอวํวาทิสฺส สลากา, อยํ เอวํวาทิสฺส สลากา, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺหาหี’ติฯ คหิเต วตฺตโพฺพ ‘มา จ กสฺสจิ ทเสฺสหี’ติฯ สเจ ชานาติ ‘อธมฺมวาที พหุตรา’ติ, ‘ทุคฺคโห’ติ ปจฺจุกฺกฑฺฒิตพฺพํฯ สเจ ชานาติ ‘ธมฺมวาที พหุตรา’ติ , ‘สุคฺคโห’ติ สาเวตพฺพํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, คูฬฺหโก สลากคฺคาโห โหติฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, gūḷhako salākaggāho hoti? Tena salākaggāhāpakena bhikkhunā salākāyo vaṇṇāvaṇṇāyo katvā ekameko bhikkhu upasaṅkamitvā evamassa vacanīyo ‘ayaṃ evaṃvādissa salākā, ayaṃ evaṃvādissa salākā, yaṃ icchasi, taṃ gaṇhāhī’ti. Gahite vattabbo ‘mā ca kassaci dassehī’ti. Sace jānāti ‘adhammavādī bahutarā’ti, ‘duggaho’ti paccukkaḍḍhitabbaṃ. Sace jānāti ‘dhammavādī bahutarā’ti , ‘suggaho’ti sāvetabbaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, gūḷhako salākaggāho hoti.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, วิวฎโก สลากคฺคาโห โหติ? สเจ ชานาติ ‘ธมฺมวาที พหุตรา’ติ, วิสฺสเฎฺฐเนว วิวเฎน คาเหตโพฺพฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, วิวฎโก สลากคฺคาโห โหติฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, vivaṭako salākaggāho hoti? Sace jānāti ‘dhammavādī bahutarā’ti, vissaṭṭheneva vivaṭena gāhetabbo. Evaṃ kho, bhikkhave, vivaṭako salākaggāho hoti.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, สกณฺณชปฺปโก สลากคฺคาโห โหติ? เตน สลากคฺคาหาปเกน ภิกฺขุนา เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน อุปกณฺณเก อาโรเจตพฺพํ ‘อยํ เอวํวาทิสฺส สลากา, อยํ เอววาทิสฺส สลากา, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺหาหี’ติฯ คหิเต วตฺตโพฺพ ‘มา จ กสฺสจิ อาโรเจหี’ติฯ สเจ ชานาติ ‘อธมฺมวาที พหุตรา’ติ, ‘ทุคฺคโห’ติ ปจฺจุกฺกฑฺฒิตพฺพํฯ สเจ ชานาติ ‘ธมฺมวาที พหุตรา’ติ, ‘สุคฺคโห’ติ สาเวตพฺพํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, สกณฺณชปฺปโก สลากคฺคาโห โหตี’’ติฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, sakaṇṇajappako salākaggāho hoti? Tena salākaggāhāpakena bhikkhunā ekamekassa bhikkhuno upakaṇṇake ārocetabbaṃ ‘ayaṃ evaṃvādissa salākā, ayaṃ evavādissa salākā, yaṃ icchasi, taṃ gaṇhāhī’ti. Gahite vattabbo ‘mā ca kassaci ārocehī’ti. Sace jānāti ‘adhammavādī bahutarā’ti, ‘duggaho’ti paccukkaḍḍhitabbaṃ. Sace jānāti ‘dhammavādī bahutarā’ti, ‘suggaho’ti sāvetabbaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, sakaṇṇajappako salākaggāho hotī’’ti.

    เอตฺถ จ อลชฺชุสฺสนฺนาย (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๓๕) ปริสาย คูฬฺหโก สลากคฺคาโห กาตโพฺพ, ลชฺชุสฺสนฺนาย วิวฎโก, พาลุสฺสนฺนาย สกณฺณชปฺปโกติ เวทิตโพฺพฯ ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยตายาติ ธมฺมวาทีนํ เอเกนปิ อธิกตาย, โก ปน วาโท ทฺวีหิ ตีหิฯ

    Ettha ca alajjussannāya (cūḷava. aṭṭha. 235) parisāya gūḷhako salākaggāho kātabbo, lajjussannāya vivaṭako, bālussannāya sakaṇṇajappakoti veditabbo. Dhammavādīnaṃ yebhuyyatāyāti dhammavādīnaṃ ekenapi adhikatāya, ko pana vādo dvīhi tīhi.

    ‘‘จตูหิ สมเถหิ สมฺมตี’’ติ อิทํ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตํ, ตตฺถ ปน ทฺวีหิ เอว วูปสมนํ ทฎฺฐพฺพํฯ เอวํ วินิจฺฉิตนฺติ สเจ อาปตฺติ นตฺถิ, อุโภ ขมาเปตฺวา, อถ อตฺถิ, อาปตฺติํ ทเสฺสตฺวา โรปนวเสน วินิจฺฉิตํฯ ปฎิกมฺมํ ปน อาปตฺตาธิกรณสมเถ ปรโต อาคมิสฺสตีติฯ น สมณสารุปฺปํ อสฺสามณกํ, สมเณหิ อกตฺตพฺพํ, ตสฺมิํฯ อชฺฌาจาเร วีติกฺกเม สติฯ

    ‘‘Catūhi samathehi sammatī’’ti idaṃ sabbasaṅgāhakavasena vuttaṃ, tattha pana dvīhi eva vūpasamanaṃ daṭṭhabbaṃ. Evaṃ vinicchitanti sace āpatti natthi, ubho khamāpetvā, atha atthi, āpattiṃ dassetvā ropanavasena vinicchitaṃ. Paṭikammaṃ pana āpattādhikaraṇasamathe parato āgamissatīti. Na samaṇasāruppaṃ assāmaṇakaṃ, samaṇehi akattabbaṃ, tasmiṃ. Ajjhācāre vītikkame sati.

    ปาราชิกสามเนฺตน วาติ ทุกฺกเฎน วา ถุลฺลจฺจเยน วาฯ เมถุนธเมฺม หิ ปาราชิกสามนฺตา นาม ทุกฺกฎํ โหติ, อทินฺนาทานาทีสุ ถุลฺลจฺจยํฯ ปฎิจรโตติ ปฎิจฺฉาเทนฺตสฺสฯ อจฺฉินฺนมูโล ภวิสฺสตีติ ปาราชิกํ อนาปโนฺน ภวิสฺสติ, สีลวา ภวิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติฯ สมฺมา วตฺติตฺวาติ วตฺตํ ปูเรตฺวาฯ โอสารณํ ลภิสฺสตีติ กมฺมปฺปฎิปฺปสฺสทฺธิํ ลภิสฺสติฯ

    Pārājikasāmantenati dukkaṭena vā thullaccayena vā. Methunadhamme hi pārājikasāmantā nāma dukkaṭaṃ hoti, adinnādānādīsu thullaccayaṃ. Paṭicaratoti paṭicchādentassa. Acchinnamūlo bhavissatīti pārājikaṃ anāpanno bhavissati, sīlavā bhavissatīti vuttaṃ hoti. Sammā vattitvāti vattaṃ pūretvā. Osāraṇaṃ labhissatīti kammappaṭippassaddhiṃ labhissati.

    ตสฺสาติ อาปตฺตาธิกรณสฺสฯ สมฺมุขาวินเยเนว วูปสโม นตฺถิ ปฎิญฺญาย, ตถารูปาย ขนฺติยา วา วินา อวูปสมนโตฯ ยา ปน ปฎิญฺญาติ สมฺพโนฺธฯ

    Tassāti āpattādhikaraṇassa. Sammukhāvinayeneva vūpasamo natthi paṭiññāya, tathārūpāya khantiyā vā vinā avūpasamanato. Yā pana paṭiññāti sambandho.

    เอตฺถาติ อาปตฺติเทสนายํฯ สิยาติ อวสฺสํฯ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตายาติ กกฺขฬภาวาย เจว วาฬภาวาย จฯ ถุลฺลวชฺชนฺติ ปาราชิกเญฺจว สงฺฆาทิเสสญฺจฯ คิหิปฺปฎิสํยุตฺตนฺติ คิหีนํ หีเนน ขุํสนวมฺภนธมฺมิกปฺปฎิสฺสเวสุ อาปนฺนํ อาปตฺติํฯ

    Etthāti āpattidesanāyaṃ. Siyāti avassaṃ. Kakkhaḷattāya vāḷattāyāti kakkhaḷabhāvāya ceva vāḷabhāvāya ca. Thullavajjanti pārājikañceva saṅghādisesañca. Gihippaṭisaṃyuttanti gihīnaṃ hīnena khuṃsanavambhanadhammikappaṭissavesu āpannaṃ āpattiṃ.

    ยถานุรูปนฺติ ‘‘ทฺวีหิ สมเถหิ, ตีหิ, จตูหิ, เอเกนา’’ติ เอวํ วุตฺตนเยเนว ยถานุรูปํฯ เอตฺถาติ อิมสฺมิํ สมถาธิกาเรฯ วินิจฺฉยนโยติ วินิจฺฉยนยมตฺตํฯ เตนาห ‘‘วิตฺถาโร ปนา’’ติอาทิฯ อสฺสาติ วิตฺถารสฺสฯ สมนฺตปาสาทิกายํ วุโตฺตติ สมนฺตปาสาทิกาย นาม วินยฎฺฐกถายํ วุโตฺตฯ ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพติ อธิปฺปาโยฯ

    Yathānurūpanti ‘‘dvīhi samathehi, tīhi, catūhi, ekenā’’ti evaṃ vuttanayeneva yathānurūpaṃ. Etthāti imasmiṃ samathādhikāre. Vinicchayanayoti vinicchayanayamattaṃ. Tenāha ‘‘vitthāro panā’’tiādi. Assāti vitthārassa. Samantapāsādikāyaṃ vuttoti samantapāsādikāya nāma vinayaṭṭhakathāyaṃ vutto. Tasmā tattha vuttanayeneva veditabboti adhippāyo.

    เอตฺตกนฺติ เอตํปรมํ, น อิโต ภิโยฺยฯ

    Ettakanti etaṃparamaṃ, na ito bhiyyo.

    อธิกรณสมถวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Adhikaraṇasamathavaṇṇanā niṭṭhitā.

    อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย

    Iti kaṅkhāvitaraṇiyā pātimokkhavaṇṇanāya

    วินยตฺถมญฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ

    Vinayatthamañjūsāyaṃ līnatthappakāsaniyaṃ

    ภิกฺขุปาติโมกฺขวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Bhikkhupātimokkhavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact