Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา
10. Ādhipateyyasuttavaṇṇanā
๔๐. ทสเม อาธิปเตยฺยานีติ เชฎฺฐกการณโต นิพฺพตฺตานิฯ อตฺตาธิปเตยฺยนฺติอาทีสุ อตฺตานํ เชฎฺฐกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ คุณชาตํ อตฺตาธิปเตยฺยํฯ โลกํ เชฎฺฐกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ โลกาธิปเตยฺยํฯ นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ เชฎฺฐกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ ธมฺมาธิปเตยฺยํฯ น อิติ ภวาภวเหตูติ อิติ ภโว, อิติ ภโวติ เอวํ อายติํ, น ตสฺส ตสฺส สมฺปตฺติภวสฺส เหตุฯ โอติโณฺณติ อนุปวิโฎฺฐฯ ยสฺส หิ ชาติ อโนฺตปวิฎฺฐา, โส ชาติยา โอติโณฺณ นามฯ ชราทีสุปิ เอเสว นโยฯ เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ สกลสฺส วฎฺฎทุกฺขราสิสฺสฯ อนฺตกิริยา ปญฺญาเยถาติ อนฺตกรณํ ปริเจฺฉทปริวฎุมกรณํ ปญฺญาเยยฺยฯ โอหายาติ ปหายฯ ปาปิฎฺฐตเรติ ลามกตเรฯ อารทฺธนฺติ ปคฺคหิตํ ปริปุณฺณํ, อารทฺธตฺตาว อสลฺลีนํฯ อุปฎฺฐิตาติ จตุสติปฎฺฐานวเสน อุปฎฺฐิตาฯ อุปฎฺฐิตตฺตาว อสมฺมุฎฺฐาฯ ปสฺสโทฺธ กาโยติ นามกาโย จ กรชกาโย จ ปสฺสโทฺธ วูปสนฺตทรโถฯ ปสฺสทฺธตฺตาว อสารโทฺธฯ สมาหิตํ จิตฺตนฺติ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อาหิตํ สุฎฺฐุ ฐปิตํฯ สมฺมา อาหิตตฺตาว เอกคฺคํฯ อธิปติํ กริตฺวาติ เชฎฺฐกํ กตฺวาฯ สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตีติ สุทฺธํ นิมฺมลํ กตฺวา อตฺตานํ ปริหรติ ปฎิชคฺคติ, โคปายตีติ อโตฺถฯ อยญฺจ ยาว อรหตฺตมคฺคา ปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ นาม, ผลปฺปโตฺตว ปน นิปฺปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติฯ
40. Dasame ādhipateyyānīti jeṭṭhakakāraṇato nibbattāni. Attādhipateyyantiādīsu attānaṃ jeṭṭhakaṃ katvā nibbattitaṃ guṇajātaṃ attādhipateyyaṃ. Lokaṃ jeṭṭhakaṃ katvā nibbattitaṃ lokādhipateyyaṃ. Navavidhaṃ lokuttaradhammaṃ jeṭṭhakaṃ katvā nibbattitaṃ dhammādhipateyyaṃ. Na iti bhavābhavahetūti iti bhavo, iti bhavoti evaṃ āyatiṃ, na tassa tassa sampattibhavassa hetu. Otiṇṇoti anupaviṭṭho. Yassa hi jāti antopaviṭṭhā, so jātiyā otiṇṇo nāma. Jarādīsupi eseva nayo. Kevalassa dukkhakkhandhassāti sakalassa vaṭṭadukkharāsissa. Antakiriyāpaññāyethāti antakaraṇaṃ paricchedaparivaṭumakaraṇaṃ paññāyeyya. Ohāyāti pahāya. Pāpiṭṭhatareti lāmakatare. Āraddhanti paggahitaṃ paripuṇṇaṃ, āraddhattāva asallīnaṃ. Upaṭṭhitāti catusatipaṭṭhānavasena upaṭṭhitā. Upaṭṭhitattāva asammuṭṭhā. Passaddho kāyoti nāmakāyo ca karajakāyo ca passaddho vūpasantadaratho. Passaddhattāva asāraddho. Samāhitaṃ cittanti ārammaṇe cittaṃ sammā āhitaṃ suṭṭhu ṭhapitaṃ. Sammā āhitattāva ekaggaṃ. Adhipatiṃ karitvāti jeṭṭhakaṃ katvā. Suddhaṃattānaṃ pariharatīti suddhaṃ nimmalaṃ katvā attānaṃ pariharati paṭijaggati, gopāyatīti attho. Ayañca yāva arahattamaggā pariyāyena suddhamattānaṃ pariharati nāma, phalappattova pana nippariyāyena suddhamattānaṃ pariharati.
สฺวากฺขาโตติอาทีนิ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) วิตฺถาริตานิฯ ชานํ ปสฺสํ วิหรนฺตีติ ตํ ธมฺมํ ชานนฺตา ปสฺสนฺตา วิหรนฺติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อาธิปเตยฺยานีติ เอตฺตาวตา ตีณิ อาธิปเตยฺยานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานิฯ
Svākkhātotiādīni visuddhimagge (visuddhi. 1.147) vitthāritāni. Jānaṃ passaṃ viharantīti taṃ dhammaṃ jānantā passantā viharanti. Imāni kho, bhikkhave, tīṇi ādhipateyyānīti ettāvatā tīṇi ādhipateyyāni lokiyalokuttaramissakāni kathitāni.
ปกุพฺพโตติ กโรนฺตสฺสฯ อตฺตา เต ปุริส ชานาติ, สจฺจํ วา ยทิ วา มุสาติ ยํ ตฺวํ กโรสิ, ตํ ยทิ วา ยถาสภาวํ ยทิ วา โน ยถาสภาวนฺติ ตว อตฺตาว ชานาติฯ อิมินา จ การเณน เวทิตพฺพํ ‘‘ปาปกมฺมํ กโรนฺตสฺส โลเก ปฎิจฺฉนฺนฎฺฐานํ นาม นตฺถี’’ติฯ กลฺยาณนฺติ สุนฺทรํฯ อติมญฺญสีติ อติกฺกมิตฺวา มญฺญสิฯ อตฺตานํ ปริคูหสีติ ยถา เม อตฺตาปิ น ชานาติ, เอวํ นํ ปริคูหามีติ วายมสิฯ อตฺตาธิปเตยฺยโกติ อตฺตเชฎฺฐโกฯ โลกาธิโปติ โลกเชฎฺฐโกฯ นิปโกติ ปญฺญวาฯ ฌายีติ ฌายโนฺตฯ ธมฺมาธิโปติ ธมฺมเชฎฺฐโกฯ สจฺจปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม ภูตปรกฺกโมฯ ปสยฺห มารนฺติ มารํ ปสหิตฺวาฯ อภิภุยฺย อนฺตกนฺติ อิทํ ตเสฺสว เววจนํฯ โย จ ผุสี ชาติกฺขยํ ปธานวาติ โย ฌายี ปธานวา มารํ อภิภวิตฺวา ชาติกฺขยํ อรหตฺตํ ผุสิฯ โส ตาทิโสติ โส ตถาวิโธ ตถาสณฺฐิโตฯ โลกวิทูติ ตโย โลเก วิทิเต ปากเฎ กตฺวา ฐิโตฯ สุเมโธติ สุปโญฺญฯ สเพฺพสุ ธเมฺมสุ อตมฺมโย มุนีติ สเพฺพ เตภูมกธเมฺม ตณฺหาสงฺขาตาย ตมฺมยตาย อภาเวน อตมฺมโย ขีณาสวมุนิ กทาจิ กตฺถจิ น หียติ น ปริหียตีติ วุตฺตํ โหตีติฯ
Pakubbatoti karontassa. Attā te purisa jānāti, saccaṃ vā yadi vā musāti yaṃ tvaṃ karosi, taṃ yadi vā yathāsabhāvaṃ yadi vā no yathāsabhāvanti tava attāva jānāti. Iminā ca kāraṇena veditabbaṃ ‘‘pāpakammaṃ karontassa loke paṭicchannaṭṭhānaṃ nāma natthī’’ti. Kalyāṇanti sundaraṃ. Atimaññasīti atikkamitvā maññasi. Attānaṃ parigūhasīti yathā me attāpi na jānāti, evaṃ naṃ parigūhāmīti vāyamasi. Attādhipateyyakoti attajeṭṭhako. Lokādhipoti lokajeṭṭhako. Nipakoti paññavā. Jhāyīti jhāyanto. Dhammādhipoti dhammajeṭṭhako. Saccaparakkamoti thiraparakkamo bhūtaparakkamo. Pasayha māranti māraṃ pasahitvā. Abhibhuyya antakanti idaṃ tasseva vevacanaṃ. Yo ca phusī jātikkhayaṃ padhānavāti yo jhāyī padhānavā māraṃ abhibhavitvā jātikkhayaṃ arahattaṃ phusi. Sotādisoti so tathāvidho tathāsaṇṭhito. Lokavidūti tayo loke vidite pākaṭe katvā ṭhito. Sumedhoti supañño. Sabbesu dhammesu atammayo munīti sabbe tebhūmakadhamme taṇhāsaṅkhātāya tammayatāya abhāvena atammayo khīṇāsavamuni kadāci katthaci na hīyati na parihīyatīti vuttaṃ hotīti.
เทวทูตวโคฺค จตุโตฺถฯ
Devadūtavaggo catuttho.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตํ • 10. Ādhipateyyasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา • 10. Ādhipateyyasuttavaṇṇanā