Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๓. อธิปติปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา
3. Adhipatipaccayaniddesavaṇṇanā
๓. อธิปติปจฺจยนิเทฺทเส ฉนฺทาธิปตีติ ฉนฺทสงฺขาโต อธิปติฯ ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา ฉนฺทํ เชฎฺฐกํ กตฺวา จิตฺตุปฺปตฺติกาเล อุปฺปนฺนสฺส กตฺตุกมฺยตาฉนฺทเสฺสตํ นามํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ กสฺมา ปน ยถา เหตุปจฺจยนิเทฺทเส เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกานนฺติ อวตฺวา ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติอาทินา นเยน เทสนา กตาติ? เอกกฺขเณ อภาวโตฯ ปุริมนยสฺมิญฺหิ เทฺว ตโย เหตู เอกกฺขเณปิ เหตุปจฺจโย โหนฺติ มูลเฎฺฐนฯ อุปการกภาวสฺส อวิชหนโตฯ อธิปติ ปน เชฎฺฐกเฎฺฐน อุปการโก, น จ เอกกฺขเณ พหู เชฎฺฐกา นาม โหนฺติฯ ตสฺมา เอกโต อุปฺปนฺนานมฺปิ เนสํ เอกกฺขเณ อธิปติปจฺจยภาโว นตฺถิฯ ตสฺส อธิปติปจฺจยภาวสฺส เอกกฺขเณ อภาวโต อิธ เอวํ เทสนา กตาติฯ
3. Adhipatipaccayaniddese chandādhipatīti chandasaṅkhāto adhipati. Chandaṃ dhuraṃ katvā chandaṃ jeṭṭhakaṃ katvā cittuppattikāle uppannassa kattukamyatāchandassetaṃ nāmaṃ. Sesesupi eseva nayo. Kasmā pana yathā hetupaccayaniddese hetū hetusampayuttakāna’’nti vuttaṃ, evamidha ‘‘adhipatī adhipatisampayuttakānanti avatvā ‘‘chandādhipati chandasampayuttakāna’’ntiādinā nayena desanā katāti? Ekakkhaṇe abhāvato. Purimanayasmiñhi dve tayo hetū ekakkhaṇepi hetupaccayo honti mūlaṭṭhena. Upakārakabhāvassa avijahanato. Adhipati pana jeṭṭhakaṭṭhena upakārako, na ca ekakkhaṇe bahū jeṭṭhakā nāma honti. Tasmā ekato uppannānampi nesaṃ ekakkhaṇe adhipatipaccayabhāvo natthi. Tassa adhipatipaccayabhāvassa ekakkhaṇe abhāvato idha evaṃ desanā katāti.
เอวํ สหชาตาธิปติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อารมฺมณาธิปติํ ทเสฺสตุํ ยํ ยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ยํ ยํ ธมฺมนฺติ ยํ ยํ อารมฺมณธมฺมํฯ ครุํ กตฺวาติ ครุการจิตฺตีการวเสน วา อสฺสาทวเสน วา ครุํ ภาริยํ ลทฺธพฺพํ อวิชหิตพฺพํ อนวญฺญาตํ กตฺวาฯ เต เต ธมฺมาติ เต เต ครุกาตพฺพธมฺมาฯ เตสํ เตสนฺติ เตสํ เตสํ ครุการกธมฺมานํฯ อธิปติปจฺจเยนาติ อารมฺมณาธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนาฯ
Evaṃ sahajātādhipatiṃ dassetvā idāni ārammaṇādhipatiṃ dassetuṃ yaṃ yaṃ dhammaṃ garuṃ katvātiādi āraddhaṃ. Tattha yaṃ yaṃ dhammanti yaṃ yaṃ ārammaṇadhammaṃ. Garuṃ katvāti garukāracittīkāravasena vā assādavasena vā garuṃ bhāriyaṃ laddhabbaṃ avijahitabbaṃ anavaññātaṃ katvā. Te te dhammāti te te garukātabbadhammā. Tesaṃ tesanti tesaṃ tesaṃ garukārakadhammānaṃ. Adhipatipaccayenāti ārammaṇādhipatipaccayena paccayo hotīti ayaṃ tāvettha pāḷivaṇṇanā.
อยํ ปน อธิปติ นาม สหชาตารมฺมณวเสน ทุวิโธฯ ตตฺถ สหชาโต ฉนฺทาทิวเสน จตุพฺพิโธฯ เตสุ เอเกโก กามาวจราทิวเสน ภูมิโต จตุพฺพิโธฯ ตตฺถ กามาวจโร กุสลากุสลกิริยวเสน ติวิโธฯ อกุสลํ ปตฺวา ปเนตฺถ วีมํสาธิปติ น ลพฺภติฯ รูปารูปาวจโร กุสลกิริยวเสน ทุวิโธ, อปริยาปโนฺน กุสลวิปากวเสน ทุวิโธฯ อารมฺมณาธิปติ ปน ชาติเภทโต กุสลากุสลวิปากกิริยรูปนิพฺพานานํ วเสน ฉพฺพิโธติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิญฺญาตโพฺพ วินิจฺฉโยฯ
Ayaṃ pana adhipati nāma sahajātārammaṇavasena duvidho. Tattha sahajāto chandādivasena catubbidho. Tesu ekeko kāmāvacarādivasena bhūmito catubbidho. Tattha kāmāvacaro kusalākusalakiriyavasena tividho. Akusalaṃ patvā panettha vīmaṃsādhipati na labbhati. Rūpārūpāvacaro kusalakiriyavasena duvidho, apariyāpanno kusalavipākavasena duvidho. Ārammaṇādhipati pana jātibhedato kusalākusalavipākakiriyarūpanibbānānaṃ vasena chabbidhoti evamettha nānappakārabhedato viññātabbo vinicchayo.
เอวํ ภิเนฺน ปเนตฺถ สหชาตาธิปติมฺหิ ตาว กามาวจรกุสลกิริยสงฺขาโต อธิปติ ทุเหตุกติเหตุเกสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ ฉนฺทาทีนํ อญฺญตรํ เชฎฺฐกํ กตฺวา อุปฺปตฺติกาเล อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺส จ อธิปติปจฺจโย โหติฯ รูปาวจรกุสลกิริยสงฺขาเตปิ เอเสว นโยฯ อยํ ปน เอกเนฺตเนว ลพฺภติฯ น หิ เต ธมฺมา สหชาตาธิปติํ วินา อุปฺปชฺชนฺติฯ อรูปาวจรกุสลกิริยสงฺขาโต ปน ปญฺจโวกาเร รูปาวจรอธิปติสทิโสว จตุโวกาเร ปน สมฺปยุตฺตธมฺมานเญฺญว อธิปติปจฺจโย โหติฯ ตถา ตตฺถุปฺปโนฺน สโพฺพปิ กามาวจราธิปติฯ อปริยาปโนฺน กุสลโตปิ วิปากโตปิ ปญฺจโวกาเร เอกเนฺตเนว สมฺปยุตฺตธมฺมานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปานญฺจ อธิปติปจฺจโย โหติ, จตุโวกาเร อรูปธมฺมานเญฺญวฯ อกุสโล กามภเว มิจฺฉตฺตนิยตจิเตฺตสุ เอกเนฺตเนว สมฺปยุตฺตกานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปานญฺจ อธิปติปจฺจโย โหติฯ อนิยโต กามภวรูปภเวสุ อตฺตโน อธิปติกาเล เตสเญฺญวฯ อรูปภเว อรูปธมฺมานเญฺญว อธิปติปจฺจโย โหติฯ อยํ ตาว สหชาตาธิปติมฺหิ นโยฯ
Evaṃ bhinne panettha sahajātādhipatimhi tāva kāmāvacarakusalakiriyasaṅkhāto adhipati duhetukatihetukesu cittuppādesu chandādīnaṃ aññataraṃ jeṭṭhakaṃ katvā uppattikāle attanā sampayuttadhammānañceva cittasamuṭṭhānarūpassa ca adhipatipaccayo hoti. Rūpāvacarakusalakiriyasaṅkhātepi eseva nayo. Ayaṃ pana ekanteneva labbhati. Na hi te dhammā sahajātādhipatiṃ vinā uppajjanti. Arūpāvacarakusalakiriyasaṅkhāto pana pañcavokāre rūpāvacaraadhipatisadisova catuvokāre pana sampayuttadhammānaññeva adhipatipaccayo hoti. Tathā tatthuppanno sabbopi kāmāvacarādhipati. Apariyāpanno kusalatopi vipākatopi pañcavokāre ekanteneva sampayuttadhammānañceva cittasamuṭṭhānarūpānañca adhipatipaccayo hoti, catuvokāre arūpadhammānaññeva. Akusalo kāmabhave micchattaniyatacittesu ekanteneva sampayuttakānañceva cittasamuṭṭhānarūpānañca adhipatipaccayo hoti. Aniyato kāmabhavarūpabhavesu attano adhipatikāle tesaññeva. Arūpabhave arūpadhammānaññeva adhipatipaccayo hoti. Ayaṃ tāva sahajātādhipatimhi nayo.
อารมฺมณาธิปติมฺหิ ปน กามาวจรกุสโล อารมฺมณาธิปติ กามาวจรกุสลสฺส โลภสหคตากุสลสฺสาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ราสีนํ อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ รูปาวจรารูปาวจเรปิ กุสลารมฺมณาธิปติมฺหิ เอเสว นโยฯ อปริยาปนฺนกุสโล ปน อารมฺมณาธิปติ กามาวจรโต ญาณสมฺปยุตฺตกุสลสฺส เจว ญาณสมฺปยุตฺตกิริยสฺส จ อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ อกุสโล ปน อารมฺมณาธิปติ นาม โลภสหคตจิตฺตุปฺปาโท วุจฺจติฯ โส โลภสหคตากุสลเสฺสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ กามาวจโร ปน วิปาการมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลเสฺสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ ตถา รูปาวจรารูปาวจรวิปาการมฺมณาธิปติฯ โลกุตฺตโร ปน วิปาการมฺมณาธิปติ กามาวจรโต ญาณสมฺปยุตฺตกุสลกิริยานเญฺญว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ กามาวจราทิเภทโต ปน ติวิโธปิ กิริยารมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลเสฺสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ จตุสมุฎฺฐานิกรูปสงฺขาโต รูปกฺขโนฺธ อารมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลเสฺสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติฯ นิพฺพานํ กามาวจรโต ญาณสมฺปยุตฺตกุสลสฺส ญาณสมฺปยุตฺตกิริยสฺส โลกุตฺตรกุสลสฺส โลกุตฺตรวิปากสฺส จาติ อิเมสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิญฺญาตโพฺพ วินิจฺฉโยติฯ
Ārammaṇādhipatimhi pana kāmāvacarakusalo ārammaṇādhipati kāmāvacarakusalassa lobhasahagatākusalassāti imesaṃ dvinnaṃ rāsīnaṃ ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Rūpāvacarārūpāvacarepi kusalārammaṇādhipatimhi eseva nayo. Apariyāpannakusalo pana ārammaṇādhipati kāmāvacarato ñāṇasampayuttakusalassa ceva ñāṇasampayuttakiriyassa ca ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Akusalo pana ārammaṇādhipati nāma lobhasahagatacittuppādo vuccati. So lobhasahagatākusalasseva ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Kāmāvacaro pana vipākārammaṇādhipati lobhasahagatākusalasseva ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Tathā rūpāvacarārūpāvacaravipākārammaṇādhipati. Lokuttaro pana vipākārammaṇādhipati kāmāvacarato ñāṇasampayuttakusalakiriyānaññeva ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Kāmāvacarādibhedato pana tividhopi kiriyārammaṇādhipati lobhasahagatākusalasseva ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Catusamuṭṭhānikarūpasaṅkhāto rūpakkhandho ārammaṇādhipati lobhasahagatākusalasseva ārammaṇādhipatipaccayo hoti. Nibbānaṃ kāmāvacarato ñāṇasampayuttakusalassa ñāṇasampayuttakiriyassa lokuttarakusalassa lokuttaravipākassa cāti imesaṃ catunnaṃ rāsīnaṃ ārammaṇādhipatipaccayo hotīti evamettha paccayuppannatopi viññātabbo vinicchayoti.
อธิปติปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนาฯ
Adhipatipaccayaniddesavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / (๒) ปจฺจยนิเทฺทโส • (2) Paccayaniddeso