Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
๓. อธิปติปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา
3. Adhipatipaccayaniddesavaṇṇanā
๓. ธุรสหจริยโต โธเรโยฺย ‘‘ธุร’’นฺติ วุโตฺตติ อาห ‘‘ธุรนฺติ ธุรคฺคาห’’นฺติฯ ฉนฺทสฺส ปุพฺพงฺคมตาสิทฺธํ ปาสํสภาวํ อุปาทาย อฎฺฐกถายํ ‘‘เชฎฺฐก’’นฺติ วุตฺตนฺติ ตเมวตฺถํ ทีเปโนฺต ‘‘เสฎฺฐ’’นฺติ อาหฯ ตถา หิ วุตฺตํ อฎฺฐสาลินิยํ ‘‘ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อายูหิต’’นฺติฯ ปุริมฉนฺทสฺสาติ ‘‘ฉนฺทาธิปตี’’ติ ปุริมสฺมิํ ปเท นิเทฺทสวเสน วุตฺตสฺส ฉนฺทสทฺทสฺส สมานรูเปน สทิสากาเรนฯ ตทนนฺตรํ นิทฺทิเฎฺฐนาติ ตสฺส ปุริมสฺส ฉนฺทสทฺทสฺส อนนฺตรํ นิเทฺทสวเสน วุเตฺตนฯ ตโต เอว จ ตํสมานตฺถตาย จ ตํสมฺพเนฺธน ‘‘ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ เอตฺถ ฉนฺทสเทฺทเนว อธิปติสทฺทรหิเตนาติ อโตฺถฯ ปจฺจยภูตสฺสาติ อธิปติปจฺจยภูตสฺสฯ สมฺปยุตฺตกวิเสสนภาโวติ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ โส เอว อธิปติปจฺจยตาสงฺขาโต วิเสสนภาโวฯ เอส นโยติ อิมินา ‘‘วีริยาธิปติ วีริยสมฺปยุตฺตกานนฺติอาทีสุ ปุริมวีริยสฺส สมานรูเปนา’’ติอาทินา วตฺตพฺพํ อตฺถวจนํ อติทิสติฯ
3. Dhurasahacariyato dhoreyyo ‘‘dhura’’nti vuttoti āha ‘‘dhuranti dhuraggāha’’nti. Chandassa pubbaṅgamatāsiddhaṃ pāsaṃsabhāvaṃ upādāya aṭṭhakathāyaṃ ‘‘jeṭṭhaka’’nti vuttanti tamevatthaṃ dīpento ‘‘seṭṭha’’nti āha. Tathā hi vuttaṃ aṭṭhasāliniyaṃ ‘‘chandaṃ pubbaṅgamaṃ katvā āyūhita’’nti. Purimachandassāti ‘‘chandādhipatī’’ti purimasmiṃ pade niddesavasena vuttassa chandasaddassa samānarūpena sadisākārena. Tadanantaraṃ niddiṭṭhenāti tassa purimassa chandasaddassa anantaraṃ niddesavasena vuttena. Tato eva ca taṃsamānatthatāya ca taṃsambandhena ‘‘chandasampayuttakāna’’nti ettha chandasaddeneva adhipatisaddarahitenāti attho. Paccayabhūtassāti adhipatipaccayabhūtassa. Sampayuttakavisesanabhāvoti attanā sampayuttadhammānaṃ so eva adhipatipaccayatāsaṅkhāto visesanabhāvo. Esa nayoti iminā ‘‘vīriyādhipati vīriyasampayuttakānantiādīsu purimavīriyassa samānarūpenā’’tiādinā vattabbaṃ atthavacanaṃ atidisati.
กุสลาพฺยากตานํ ปวตฺตินฺติ กุสลาพฺยากตานํ อธิปตีนํ ปวตฺตนาการํฯ อลทฺธํ อารมฺมณํ ลทฺธพฺพํ ลพฺภนียํ, ลทฺธุํ วา สกฺกุเณยฺยํ, ทุติเย ปน อเตฺถ ลาภมรหตีติ ลทฺธพฺพํฯ อวญฺญาตนฺติ ปเคว อนวญฺญาตนฺติ อโตฺถฯ
Kusalābyākatānaṃ pavattinti kusalābyākatānaṃ adhipatīnaṃ pavattanākāraṃ. Aladdhaṃ ārammaṇaṃ laddhabbaṃ labbhanīyaṃ, laddhuṃ vā sakkuṇeyyaṃ, dutiye pana atthe lābhamarahatīti laddhabbaṃ. Avaññātanti pageva anavaññātanti attho.
อปฺปนาปฺปตฺตา กุสลกิริยธมฺมา มหาพลา สาธิปติกา เอว โหนฺติ, ตถา มิจฺฉตฺตนิยตาปีติ อาห ‘‘อปฺปนาสทิสา…เป.… นุปฺปชฺชนฺตี’’ติฯ อปฺปนาสทิสาติ อปฺปนาปฺปตฺตสทิสาฯ กมฺมกิเลสาวรณภูตา จ เตติ เต มิจฺฉตฺตนิยตธมฺมา กมฺมาวรณภูตา, เย อานนฺตริยปฺปการา กิเลสาวรณภูตา, เย นิยตมิจฺฉาทิฎฺฐิธมฺมา, สมฺปยุตฺตเจตนาย ปเนตฺถ กิเลสาวรณปกฺขิกตา ทฎฺฐพฺพา อานนฺตริยเจตนาสมฺปยุตฺตสฺส ปฎิฆสฺส กมฺมาวรณปกฺขิกตา วิยฯ ปจฺจกฺขคติ อนนฺตรตาย วินา ภาวินีติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจกฺขสคฺคานํ กามาวจรเทวานมฺปี’’ติฯ เตน เตสุ อานนฺตริยา วิย อสมฺภาวิโน อเหตุกาภินิเวสาทโยปีติ ทเสฺสติฯ
Appanāppattā kusalakiriyadhammā mahābalā sādhipatikā eva honti, tathā micchattaniyatāpīti āha ‘‘appanāsadisā…pe… nuppajjantī’’ti. Appanāsadisāti appanāppattasadisā. Kammakilesāvaraṇabhūtā ca teti te micchattaniyatadhammā kammāvaraṇabhūtā, ye ānantariyappakārā kilesāvaraṇabhūtā, ye niyatamicchādiṭṭhidhammā, sampayuttacetanāya panettha kilesāvaraṇapakkhikatā daṭṭhabbā ānantariyacetanāsampayuttassa paṭighassa kammāvaraṇapakkhikatā viya. Paccakkhagati anantaratāya vinā bhāvinīti vuttaṃ ‘‘paccakkhasaggānaṃ kāmāvacaradevānampī’’ti. Tena tesu ānantariyā viya asambhāvino ahetukābhinivesādayopīti dasseti.
ติวิโธปิ กิริยารมฺมณาธิปตีติ เอตฺถ อยํ กิริยารมฺมณาธิปตีติ อชฺฌตฺตารมฺมโณ อธิเปฺปโต, อุทาหุ พหิทฺธารมฺมโณติ อุภยถาปิ น สมฺภโว เอวาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘กามาวจราทิเภทโต ปนา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปรสนฺตานคตานํ สารมฺมณธมฺมานํ อธิปติปจฺจยตา นตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ อภาวโตติ อวจนโตฯ อวจนญฺหิ นาม ยถาธมฺมสาสเน อภิธเมฺม อภาโว เอวาติ เอเตเนว อนุทฺธฎตาปิ อวุตฺตโต เวทิตพฺพาฯ อชฺฌตฺตารมฺมณพหิทฺธารมฺมณทฺวยวินิมุตฺตสฺส สารมฺมณธมฺมสฺส อภาวโต นตฺถีติ วิญฺญายตีติ วตฺตเพฺพ ตเมว วิญฺญายมานตํ สมฺภาเวโนฺต ‘‘นตฺถีติ วิญฺญายมาเนปี’’ติ อาหฯ เตน วุตฺตํ ‘‘พหิทฺธา ขเนฺธ’’ติอาทิฯ รูเป เอว ภวิตุํ อรหติ เอทิเสสุ ฐาเนสุ อรูเป อสมฺภวโตติ อธิปฺปาโยฯ อสมฺภวโต จ ยถาวุตฺตปาฬิอนุสารโตติ เวทิตพฺพนฺติฯ ‘‘วิจาริต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘อตีตารมฺมเณ อนาคเต ขเนฺธ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทตี’’ติอาทิวจนโต อรูเปปิ เอทิเสสุ ฐาเนสุ ขนฺธสโทฺท ปวตฺตเตวฯ อาวชฺชนกิริยสพฺภาวโต ปนาติ อิทํ ยถาทสฺสิตปาฬิยา วิโรธปริหรณาธิปฺปาเยน วุตฺตํ, อวจนํ ปน กตฺถจิ วิเนยฺยชฺฌาสเยน, กตฺถจิ นยทสฺสเนน โหตีติ กุโต วิโรธาวสโรฯ
Tividhopi kiriyārammaṇādhipatīti ettha ayaṃ kiriyārammaṇādhipatīti ajjhattārammaṇo adhippeto, udāhu bahiddhārammaṇoti ubhayathāpi na sambhavo evāti dassento ‘‘kāmāvacarādibhedato panā’’tiādimāha. Tattha parasantānagatānaṃ sārammaṇadhammānaṃ adhipatipaccayatā natthīti sambandho. Abhāvatoti avacanato. Avacanañhi nāma yathādhammasāsane abhidhamme abhāvo evāti eteneva anuddhaṭatāpi avuttato veditabbā. Ajjhattārammaṇabahiddhārammaṇadvayavinimuttassa sārammaṇadhammassa abhāvato natthīti viññāyatīti vattabbe tameva viññāyamānataṃ sambhāvento ‘‘natthīti viññāyamānepī’’ti āha. Tena vuttaṃ ‘‘bahiddhā khandhe’’tiādi. Rūpe eva bhavituṃ arahati edisesu ṭhānesu arūpe asambhavatoti adhippāyo. Asambhavato ca yathāvuttapāḷianusāratoti veditabbanti. ‘‘Vicārita’’nti kasmā vuttaṃ, nanu ‘‘atītārammaṇe anāgate khandhe garuṃ katvā assādetī’’tiādivacanato arūpepi edisesu ṭhānesu khandhasaddo pavattateva. Āvajjanakiriyasabbhāvato panāti idaṃ yathādassitapāḷiyā virodhapariharaṇādhippāyena vuttaṃ, avacanaṃ pana katthaci vineyyajjhāsayena, katthaci nayadassanena hotīti kuto virodhāvasaro.
อธิปติปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Adhipatipaccayaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / (๒) ปจฺจยนิเทฺทโส • (2) Paccayaniddeso
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๓. อธิปติปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา • 3. Adhipatipaccayaniddesavaṇṇanā