Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    อธิฎฺฐายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถาวณฺณนา

    Adhiṭṭhāyāti mātikāvasena āṇattikapayogakathāvaṇṇanā

    เอวํ วิชฺฌาติ เอวํ ธนุํ กเฑฺฒตฺวา วิชฺฌฯ เอวํ ปหราติ เอวํ ทฬฺหํ อสิํ คเหตฺวา ปหรฯ เอวํ ฆาเตหีติ เอวํ กมฺมการณํ กตฺวา มาเรหิฯ มเชฺฌติ หตฺถิโน ปิฎฺฐิมเชฺฌฯ เอเตนาติ ‘‘อธิฎฺฐหิตฺวา อาณาเปตี’’ติอาทินาฯ ตตฺถาติ อาณตฺติกปฺปโยเคฯ

    Evaṃvijjhāti evaṃ dhanuṃ kaḍḍhetvā vijjha. Evaṃ paharāti evaṃ daḷhaṃ asiṃ gahetvā pahara. Evaṃ ghātehīti evaṃ kammakāraṇaṃ katvā mārehi. Majjheti hatthino piṭṭhimajjhe. Etenāti ‘‘adhiṭṭhahitvā āṇāpetī’’tiādinā. Tatthāti āṇattikappayoge.

    กิญฺจาปิ กิริยวิเสโส อฎฺฐกถาสุ อนาคโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘เอวํ วิชฺฌ, เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ กิริยาวิเสสสฺส ปรามฎฺฐตฺตา อาจริยปรมฺปราย อาภตํ กิริยาวิเสสํ ปาฬิยา สํสนฺทนโต คเหตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิมาหฯ เฉทนนฺติ หตฺถาทิเฉทนํฯ เภทนนฺติ กุจฺฉิอาทิผาลนํฯ อถ วา อุสุนา วิชฺฌนํ, อสินา เฉทนํ, มุคฺคราทีหิ สีสาทิเภทนนฺติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ สงฺขมุณฺฑกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฎฺฐอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฎกปริเจฺฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺฐิํ กตฺวา ทณฺฑเกน ปลิเวเฐตฺวา อุปฺปาเฎนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฎฺฐหติ, ตโต สีสกฎาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติฯ เอวมาทีติ อาทิ-สเทฺทน พิลงฺคถาลิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปโชฺชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณิกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีฐกนฺติ เอวมาทิํ สพฺพํ กมฺมการณํ สงฺคณฺหาติฯ

    Kiñcāpi kiriyaviseso aṭṭhakathāsu anāgato, pāḷiyaṃ pana ‘‘evaṃ vijjha, evaṃ pahara, evaṃ ghātehī’’ti kiriyāvisesassa parāmaṭṭhattā ācariyaparamparāya ābhataṃ kiriyāvisesaṃ pāḷiyā saṃsandanato gahetvā dassento ‘‘aparo nayo’’tiādimāha. Chedananti hatthādichedanaṃ. Bhedananti kucchiādiphālanaṃ. Atha vā usunā vijjhanaṃ, asinā chedanaṃ, muggarādīhi sīsādibhedananti evamettha attho daṭṭhabbo. Saṅkhamuṇḍakanti saṅkhamuṇḍakammakāraṇaṃ. Taṃ karontā uttaroṭṭhaubhatokaṇṇacūḷikagalavāṭakaparicchedena cammaṃ chinditvā sabbakese ekato gaṇṭhiṃ katvā daṇḍakena paliveṭhetvā uppāṭenti, saha kesehi cammaṃ uṭṭhahati, tato sīsakaṭāhaṃ thūlasakkharāhi ghaṃsitvā dhovantā saṅkhavaṇṇaṃ karonti. Evamādīti ādi-saddena bilaṅgathālikaṃ rāhumukhaṃ jotimālikaṃ hatthapajjotikaṃ erakavattikaṃ cīrakavāsikaṃ eṇeyyakaṃ baḷisamaṃsikaṃ kahāpaṇikaṃ khārāpatacchikaṃ palighaparivattikaṃ palālapīṭhakanti evamādiṃ sabbaṃ kammakāraṇaṃ saṅgaṇhāti.

    ตตฺถ (อ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒.๑) พิลงฺคถาลิกนฺติ กญฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํฯ ตํ กมฺมํ กโรนฺตา สีสกปาลํ อุปฺปาเฎตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา อุปริ อุตฺตรติฯ ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํฯ ตํ กโรโนฺต สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อโนฺตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฎฺฐาย มุขํ นิขาทเนน ขณนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติฯ โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเฐตฺวา อาลิเมฺปนฺติฯ หตฺถปโชฺชติกนฺติ หเตฺถ เตลปิโลติกาย เวเฐตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติฯ เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา เหฎฺฐาคีวโต ปฎฺฐาย จมฺมวเฎฺฎ กนฺติตฺวา โคปฺผเก ปาเตนฺติ, อถ นํ โยเตฺตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ, โส อตฺตโนว จมฺมวเฎฺฎ อกฺกมิตฺวา ปตติฯ จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวเฎฺฎ กนฺติตฺวา กฎิยํ ฐเปนฺติ, กฎิโต ปฎฺฐาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ ฐเปนฺติ, อุปริเมหิ เหฎฺฐิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติฯ เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ ชณฺณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกเฎฺฎนฺติ, โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฎฺฐหติ, อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคิํ กโรนฺติ, ตํ กาเลน กาลํ สนฺธิโต สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฎฺฐิโกฎีหิเยว ฐเปนฺติฯ

    Tattha (a. ni. aṭṭha. 2.2.1) bilaṅgathālikanti kañjiyaukkhalikakammakāraṇaṃ. Taṃ kammaṃ karontā sīsakapālaṃ uppāṭetvā tattaṃ ayoguḷaṃ saṇḍāsena gahetvā tattha pakkhipanti, tena matthaluṅgaṃ pakkuthitvā upari uttarati. Rāhumukhanti rāhumukhakammakāraṇaṃ. Taṃ karonto saṅkunā mukhaṃ vivaritvā antomukhe dīpaṃ jālenti, kaṇṇacūḷikāhi vā paṭṭhāya mukhaṃ nikhādanena khaṇanti, lohitaṃ paggharitvā mukhaṃ pūreti. Jotimālikanti sakalasarīraṃ telapilotikāya veṭhetvā ālimpenti. Hatthapajjotikanti hatthe telapilotikāya veṭhetvā dīpaṃ viya pajjālenti. Erakavattikanti erakavattakammakāraṇaṃ. Taṃ karontā heṭṭhāgīvato paṭṭhāya cammavaṭṭe kantitvā gopphake pātenti, atha naṃ yottehi bandhitvā kaḍḍhanti, so attanova cammavaṭṭe akkamitvā patati. Cīrakavāsikanti cīrakavāsikakammakāraṇaṃ. Taṃ karontā tatheva cammavaṭṭe kantitvā kaṭiyaṃ ṭhapenti, kaṭito paṭṭhāya kantitvā gopphakesu ṭhapenti, uparimehi heṭṭhimasarīraṃ cīrakanivāsananivatthaṃ viya hoti. Eṇeyyakanti eṇeyyakammakāraṇaṃ. Taṃ karontā ubhosu kapparesu ca jaṇṇukesu ca ayavalayāni datvā ayasūlāni koṭṭenti, so catūhi ayasūlehi bhūmiyaṃ patiṭṭhahati, atha naṃ parivāretvā aggiṃ karonti, taṃ kālena kālaṃ sandhito sūlāni apanetvā catūhi aṭṭhikoṭīhiyeva ṭhapenti.

    พฬิสมํสิกนฺติ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนหารูนิ อุปฺปาเฎนฺติฯ กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติขิณาหิ วาสีหิ โกฎิโต ปฎฺฐาย กหาปณมตฺตํ กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกเฎฺฎนฺติฯ ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกเจฺฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ, จมฺมมํสนหารูนิ ปคฺฆริตฺวา อฎฺฐิกสงฺขลิกาว ติฎฺฐติฯ ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปเสฺสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณฉิเทฺท อยสูลํ โกเฎฺฎตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ, อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิญฺฉนฺติฯ ปลาลปีฐกนฺติ เฉโก การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฎฺฐีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, มํสราสิเยว โหติ, อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺตา ปลาลวฎฺฎิํ วิย กตฺวา ปลิเวเฐนฺติฯ

    Baḷisamaṃsikanti ubhatomukhehi baḷisehi paharitvā cammamaṃsanahārūni uppāṭenti. Kahāpaṇikanti sakalasarīraṃ tikhiṇāhi vāsīhi koṭito paṭṭhāya kahāpaṇamattaṃ kahāpaṇamattaṃ pātentā koṭṭenti. Khārāpatacchikanti sarīraṃ tattha tattha āvudhehi paharitvā kocchehi khāraṃ ghaṃsanti, cammamaṃsanahārūni paggharitvā aṭṭhikasaṅkhalikāva tiṭṭhati. Palighaparivattikanti ekena passena nipajjāpetvā kaṇṇachidde ayasūlaṃ koṭṭetvā pathaviyā ekābaddhaṃ karonti, atha naṃ pāde gahetvā āviñchanti. Palālapīṭhakanti cheko kāraṇiko chavicammaṃ acchinditvā nisadapotehi aṭṭhīni bhinditvā kesesu gahetvā ukkhipati, maṃsarāsiyeva hoti, atha naṃ keseheva pariyonandhitvā gaṇhantā palālavaṭṭiṃ viya katvā paliveṭhenti.

    วตฺถุํ วิสํวาเทตฺวา ตโต อญฺญํ มาเรตีติ สมฺพโนฺธฯ ปุริมปสฺสาทีนมฺปิ วตฺถุสภาคโต วตฺถุคฺคหเณเนว คหณนฺติ อาห ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา’’ติอาทิฯ จิเตฺตน ‘‘ปุรโต วา’’ติ นิยมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วุเตฺต สเจ อญฺญตฺถ ปหริตฺวา มาเรติ, เลสํ โอเฑฺฑตฺวา อวุตฺตตฺตา วิสเงฺกโตว โหติฯ จิเตฺตน ปน ยตฺถ กตฺถจิ ปหริตฺวา มารณํ อิจฺฉโนฺตปิ สเจ ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วทติ, ตสฺส เลสํ โอเฑฺฑตฺวา ตถา วุตฺตมตฺถํ ฐเปตฺวา เตเนว จิเตฺตน สมุฎฺฐาปิตวิญฺญตฺติกตฺตา มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกโต ปริยาเยน อมุจฺจนโต ‘‘อญฺญตฺถ ปหริตฺวา มาริเตปิ เนวตฺถิ วิสเงฺกโต’’ติ วทนฺติ, เกจิ ปน ตํ น อิจฺฉนฺติฯ วตฺถุวิเสเสนาติ มาตุอาทิวตฺถุวิเสเสน ฯ กมฺมวิเสโสติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิเสโสฯ อาปตฺติวิเสโสติ ปาราชิกาทิอาปตฺติวิเสโสฯ

    Vatthuṃ visaṃvādetvā tato aññaṃ māretīti sambandho. Purimapassādīnampi vatthusabhāgato vatthuggahaṇeneva gahaṇanti āha ‘‘purato paharitvā’’tiādi. Cittena ‘‘purato vā’’ti niyamaṃ katvā vā akatvā vā ‘‘purato paharitvā mārehī’’ti vutte sace aññattha paharitvā māreti, lesaṃ oḍḍetvā avuttattā visaṅketova hoti. Cittena pana yattha katthaci paharitvā māraṇaṃ icchantopi sace ‘‘purato paharitvā mārehī’’ti vadati, tassa lesaṃ oḍḍetvā tathā vuttamatthaṃ ṭhapetvā teneva cittena samuṭṭhāpitaviññattikattā manussaviggahapārājikato pariyāyena amuccanato ‘‘aññattha paharitvā māritepi nevatthi visaṅketo’’ti vadanti, keci pana taṃ na icchanti. Vatthuvisesenāti mātuādivatthuvisesena . Kammavisesoti ānantariyādikammaviseso. Āpattivisesoti pārājikādiāpattiviseso.

    ‘‘เอตํ คาเม ฐิต’’นฺติ คาโม ปุคฺคลนิยมนตฺถํ วุโตฺต, น โอกาสนิยมนตฺถํ, ตสฺมา โอกาสํ อนิยเมตฺวา ปุคฺคลเสฺสว นิยมิตตฺตา นตฺถิ วิสเงฺกโตฯ ‘‘คาเมเย วา’’ติอาทีสุ ปน โอกาสสฺส นิยมิตตฺตา อญฺญตฺถ มาริเต วิสเงฺกโต วุโตฺตฯ

    ‘‘Etaṃ gāme ṭhita’’nti gāmo puggalaniyamanatthaṃ vutto, na okāsaniyamanatthaṃ, tasmā okāsaṃ aniyametvā puggalasseva niyamitattā natthi visaṅketo. ‘‘Gāmeye vā’’tiādīsu pana okāsassa niyamitattā aññattha mārite visaṅketo vutto.

    ตุเณฺฑนาติ ขคฺคโกฎิยาฯ ถรุนาติ ขคฺคมุฎฺฐินาฯ

    Tuṇḍenāti khaggakoṭiyā. Tharunāti khaggamuṭṭhinā.

    ‘‘เอตํ คจฺฉนฺต’’นฺติ คมเนน ปุคฺคโลว นิยมิโต, น อิริยาปโถฯ เตนาห ‘‘นตฺถิ วิสเงฺกโต’’ติฯ ‘‘คจฺฉนฺตเมวา’’ติอาทินา อิริยาปโถ นิยมิโตฯ เตนาห ‘‘วิสเงฺกโต โหตี’’ติฯ

    ‘‘Etaṃ gacchanta’’nti gamanena puggalova niyamito, na iriyāpatho. Tenāha ‘‘natthi visaṅketo’’ti. ‘‘Gacchantamevā’’tiādinā iriyāpatho niyamito. Tenāha ‘‘visaṅketo hotī’’ti.

    ‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ วุเตฺตปิ ทีฆสณฺฐานานํ พหุภาวโต อิตฺถนฺนามํ เอวรูปญฺจ ทีฆนฺติ อเญฺญสํ อสาธารณลกฺขเณน อนิทฺทิฎฺฐตฺตา ‘‘อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ วุตฺตํฯ เตเนวาห ‘‘ยํ กิญฺจิ ตาทิสํ มาเรตี’’ติฯ เอตฺถ จ ‘‘จิเตฺตน พหูสุ ทีฆสณฺฐาเนสุ เอกํ นิยเมตฺวา วุเตฺตปิ วาจาย อนิยมิตตฺตา อญฺญสฺมิํ ตาทิเส มาริเต นตฺถิ วิสเงฺกโต’’ติ วทนฺติฯ ปรปาณิมฺหิ ปาณสญฺญิตาลกฺขณสฺส องฺคสฺส อภาวโต เนวตฺถิ ปาณาติปาโตติ อาห ‘‘อาณาปโก มุจฺจตี’’ติฯ ยทิ เอวํ โอกาสนิยเม สติ กถํ ปาณาติปาโตติ? โอกาสํ นิยเมนฺตสฺส ตสฺมิํ โอกาเส นิสินฺนสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ โหตีติ คเหตพฺพํฯ โอกาสญฺหิ นิยเมตฺวา นิทฺทิสโนฺต ตสฺมิํ โอกาเส นิสินฺนํ มาราเปตุกาโม โหติ, สยํ ปน ตทา ตตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา โอกาเสน สห อตฺตโน ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ น โหตีติ วทนฺติฯ

    ‘‘Dīghaṃ mārehī’’ti vuttepi dīghasaṇṭhānānaṃ bahubhāvato itthannāmaṃ evarūpañca dīghanti aññesaṃ asādhāraṇalakkhaṇena aniddiṭṭhattā ‘‘aniyametvā āṇāpetī’’ti vuttaṃ. Tenevāha ‘‘yaṃ kiñci tādisaṃ māretī’’ti. Ettha ca ‘‘cittena bahūsu dīghasaṇṭhānesu ekaṃ niyametvā vuttepi vācāya aniyamitattā aññasmiṃ tādise mārite natthi visaṅketo’’ti vadanti. Parapāṇimhi pāṇasaññitālakkhaṇassa aṅgassa abhāvato nevatthi pāṇātipātoti āha ‘‘āṇāpako muccatī’’ti. Yadi evaṃ okāsaniyame sati kathaṃ pāṇātipātoti? Okāsaṃ niyamentassa tasmiṃ okāse nisinnassa jīvitindriyaṃ ārammaṇaṃ hotīti gahetabbaṃ. Okāsañhi niyametvā niddisanto tasmiṃ okāse nisinnaṃ mārāpetukāmo hoti, sayaṃ pana tadā tattha natthi, tasmā okāsena saha attano jīvitindriyaṃ ārammaṇaṃ na hotīti vadanti.

    อธิฎฺฐายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Adhiṭṭhāyāti mātikāvasena āṇattikapayogakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact