Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā

    ๘. อาทีนวญาณนิเทฺทสวณฺณนา

    8. Ādīnavañāṇaniddesavaṇṇanā

    ๕๓. อาทีนวญาณนิเทฺทเส อุปฺปาโทติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺติฯ ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺติฯ นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารนิมิตฺตํฯ อายูหนาติ อายติํ ปฎิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํฯ ปฎิสนฺธีติ อายติํ อุปฺปตฺติฯ คตีติ ยาย คติยา สา ปฎิสนฺธิ โหติฯ นิพฺพตฺตีติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํฯ อุปปตฺตีติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ธ. ส. ๑๒๘๙) เอวํ วุตฺตา วิปากปฺปวตฺติ ฯ ชาตีติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตา ภวปจฺจยา ชาติฯ นิปฺปริยายโต ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ ปฐมปาตุภาโว ชาติฯ ชราติ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺนขนฺธสนฺตานสฺส ปุราณภาโวฯ โสโกติ ญาติพฺยสนาทีหิ ผุฎฺฐสฺส จิตฺตสนฺตาโปฯ ปริเทโวติ ญาติพฺยสนาทีหิ ผุฎฺฐสฺส วจีปลาโปฯ อุปายาโสติ ภุโส อายาโส, ญาติพฺยสนาทีหิ ผุฎฺฐสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยวฯ เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปเญฺจว อาทีนวญาณสฺส วตฺถุวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสนฯ ‘‘นิพฺพตฺติ ชาตี’’ติ อิทญฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฎิสนฺธิยา จ เววจนํ, ‘‘คติ อุปปตฺตี’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติฯ เตนาห –

    53. Ādīnavañāṇaniddese uppādoti purimakammapaccayā idha uppatti. Pavattanti tathāuppannassa pavatti. Nimittanti sabbampi saṅkhāranimittaṃ. Āyūhanāti āyatiṃ paṭisandhihetubhūtaṃ kammaṃ. Paṭisandhīti āyatiṃ uppatti. Gatīti yāya gatiyā sā paṭisandhi hoti. Nibbattīti khandhānaṃ nibbattanaṃ. Upapattīti ‘‘samāpannassa vā upapannassa vā’’ti (dha. sa. 1289) evaṃ vuttā vipākappavatti . Jātīti jarādīnaṃ paccayabhūtā bhavapaccayā jāti. Nippariyāyato tattha tattha nibbattamānānaṃ sattānaṃ ye ye khandhā pātubhavanti, tesaṃ paṭhamapātubhāvo jāti. Jarāti khaṇḍiccādisammato santatiyaṃ ekabhavapariyāpannakhandhasantānassa purāṇabhāvo. Sokoti ñātibyasanādīhi phuṭṭhassa cittasantāpo. Paridevoti ñātibyasanādīhi phuṭṭhassa vacīpalāpo. Upāyāsoti bhuso āyāso, ñātibyasanādīhi phuṭṭhassa adhimattacetodukkhappabhāvito dosoyeva. Ettha ca uppādādayo pañceva ādīnavañāṇassa vatthuvasena vuttā, sesā tesaṃ vevacanavasena. ‘‘Nibbatti jātī’’ti idañhi dvayaṃ uppādassa ceva paṭisandhiyā ca vevacanaṃ, ‘‘gati upapattī’’ti idaṃ dvayaṃ pavattassa, jarādayo nimittassāti. Tenāha –

    ‘‘อุปฺปาทญฺจ ปวตฺตญฺจ, นิมิตฺตํ ทุกฺขนฺติ ปสฺสติ;

    ‘‘Uppādañca pavattañca, nimittaṃ dukkhanti passati;

    อายูหนํ ปฎิสนฺธิํ, ญาณํ อาทีนเว อิท’’นฺติฯ จ

    Āyūhanaṃ paṭisandhiṃ, ñāṇaṃ ādīnave ida’’nti. ca

    ‘‘อิทํ อาทีนเว ญาณํ, ปญฺจฐาเนสุ ชายตี’’ติฯ จ

    ‘‘Idaṃ ādīnave ñāṇaṃ, pañcaṭhānesu jāyatī’’ti. ca

    สพฺพปเทสุ จ ภยนฺติ อิเจฺจตสฺส วจนสฺส ภยํ อิตีติ ปทเจฺฉโท ฯ ภยนฺติ ปีฬาโยคโต สปฺปฎิภยตาย ภยํฯ อิตีติ ภยตุปฎฺฐานสฺส การณนิเทฺทโสฯ

    Sabbapadesu ca bhayanti iccetassa vacanassa bhayaṃ itīti padacchedo . Bhayanti pīḷāyogato sappaṭibhayatāya bhayaṃ. Itīti bhayatupaṭṭhānassa kāraṇaniddeso.

    อนุปฺปาโท เขมนฺติ สนฺติปเท ญาณนฺติอาทิ ปน อาทีนวญาณสฺส ปฎิปกฺขญาณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ภยตุปฎฺฐาเนน วา อาทีนวํ ทิสฺวา อุพฺพิคฺคหทยานํ อภยมฺปิ อตฺถิ เขมํ นิราทีนวนฺติ อสฺสาสชนนตฺถมฺปิ เอตํ วุตฺตํฯ ยสฺมา วา ยสฺส อุปฺปาทาทโย ภยโต สูปฎฺฐิตา โหนฺติ, ตสฺส ตปฺปฎิปกฺขนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมา ภยตุปฎฺฐานวเสน สิทฺธสฺส อาทีนวญาณสฺส อานิสํสทสฺสนตฺถเมฺปตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อนุปฺปาโท อปฺปวตฺตนฺติอาทิ นิพฺพานเมวฯ สนฺติปเทติ สนฺติโกฎฺฐาเส, นิพฺพาเนติ อโตฺถฯ อนุสฺสววเสนาปิ หิ สนฺติปทนฺติ นามมตฺตํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนํ ญาณมฺปิ ‘‘สนฺติปเท ญาณ’’นฺติ วุตฺตํฯ

    Anuppādo khemanti santipade ñāṇantiādi pana ādīnavañāṇassa paṭipakkhañāṇadassanatthaṃ vuttaṃ. Bhayatupaṭṭhānena vā ādīnavaṃ disvā ubbiggahadayānaṃ abhayampi atthi khemaṃ nirādīnavanti assāsajananatthampi etaṃ vuttaṃ. Yasmā vā yassa uppādādayo bhayato sūpaṭṭhitā honti, tassa tappaṭipakkhaninnaṃ cittaṃ hoti, tasmā bhayatupaṭṭhānavasena siddhassa ādīnavañāṇassa ānisaṃsadassanatthampetaṃ vuttanti veditabbaṃ. Anuppādo appavattantiādi nibbānameva. Santipadeti santikoṭṭhāse, nibbāneti attho. Anussavavasenāpi hi santipadanti nāmamattaṃ gahetvā uppannaṃ ñāṇampi ‘‘santipade ñāṇa’’nti vuttaṃ.

    อุปฺปาโท ภยํ, อนุปฺปาโท เขมนฺติอาทิ วิปกฺขปฎิปกฺขวเสน อุภยํ สมาเสตฺวา อุปฺปชฺชมานํ ญาณํ คเหตฺวา วุตฺตํฯ เอตฺถ จ ยํ ภยํ, ตํ ยสฺมา นิยมโต ทุกฺขํฯ ยญฺจ ทุกฺขํ, ตํ วฎฺฎามิสโลกามิสกิเลสามิเสหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา สามิสเมวฯ ยญฺจ สามิสํ, ตํ สงฺขารมตฺตเมวฯ ตสฺมา อุปฺปาโท ทุกฺขนฺติ ภยตุปฎฺฐาเน ปญฺญา อาทีนเว ญาณนฺติอาทิ วุตฺตํฯ เอวํ สเนฺตปิ ภยากาเรน ทุกฺขากาเรน สามิสากาเรน สงฺขารากาเรนาติ เอวํ อาการนานตฺตโต ปวตฺติวเสเนตฺถ นานตฺตํ เวทิตพฺพํฯ อุปฺปาโท ภยํ, ทุกฺขํ, สามิสํ, สงฺขารา จาติ อุปฺปาทาทิลิงฺคมนเปกฺขิตฺวา ‘‘เนตํ โข สรณํ เขมํ, เนตํ สรณมุตฺตม’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๘๙) วิย อตฺตโน ลิงฺคาเปกฺขเมว วุตฺตํฯ สงฺขาราติ จ เอกตฺตมนเปกฺขิตฺวา ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา, อสงฺขตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗-๘) วิย พหุวจนํ กตํ, อุปฺปาทาทีนํ วา สงฺขาเรกเทสตฺตา ‘‘อุตฺตเร ปญฺจาลา, ทกฺขิเณ ปญฺจาลา’’ติอาทีสุ วิย พหุนฺนํ เอกเทเสปิ พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เขมํ สุขํ นิรามิสํ นิพฺพานนฺติ นิพฺพานเมว วุตฺตาการานํ ปฎิปกฺขวเสน จตุธา วุตฺตํฯ ทส ญาเณ ปชานาตีติ อาทีนเว ญาณํ ปชานโนฺต อุปฺปาทาทิวตฺถุกานิ ปญฺจ, อนุปฺปาทาทิวตฺถุกานิ ปญฺจาติ ทส ญาเณ ปชานาติ ปฎิวิชฺฌติ สจฺฉิกโรติฯ ทฺวินฺนํ ญาณานํ กุสลตาติ อาทีนวญาณสฺส เจว สนฺติปทญาณสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ญาณานํ กุสลตายฯ นานาทิฎฺฐีสุ น กมฺปตีติ ปรมทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานาทิวเสน ปวตฺตาสุ ทิฎฺฐีสุ น เวธตีติฯ

    Uppādobhayaṃ, anuppādo khemantiādi vipakkhapaṭipakkhavasena ubhayaṃ samāsetvā uppajjamānaṃ ñāṇaṃ gahetvā vuttaṃ. Ettha ca yaṃ bhayaṃ, taṃ yasmā niyamato dukkhaṃ. Yañca dukkhaṃ, taṃ vaṭṭāmisalokāmisakilesāmisehi avippamuttattā sāmisameva. Yañca sāmisaṃ, taṃ saṅkhāramattameva. Tasmā uppādo dukkhanti bhayatupaṭṭhāne paññā ādīnave ñāṇantiādi vuttaṃ. Evaṃ santepi bhayākārena dukkhākārena sāmisākārena saṅkhārākārenāti evaṃ ākāranānattato pavattivasenettha nānattaṃ veditabbaṃ. Uppādo bhayaṃ, dukkhaṃ, sāmisaṃ, saṅkhārā cāti uppādādiliṅgamanapekkhitvā ‘‘netaṃ kho saraṇaṃ khemaṃ, netaṃ saraṇamuttama’’ntiādīsu (dha. pa. 189) viya attano liṅgāpekkhameva vuttaṃ. Saṅkhārāti ca ekattamanapekkhitvā ‘‘appaccayā dhammā, asaṅkhatā dhammā’’tiādīsu (dha. sa. dukamātikā 7-8) viya bahuvacanaṃ kataṃ, uppādādīnaṃ vā saṅkhārekadesattā ‘‘uttare pañcālā, dakkhiṇe pañcālā’’tiādīsu viya bahunnaṃ ekadesepi bahuvacanaṃ katanti veditabbaṃ. Khemaṃ sukhaṃ nirāmisaṃ nibbānanti nibbānameva vuttākārānaṃ paṭipakkhavasena catudhā vuttaṃ. Dasa ñāṇe pajānātīti ādīnave ñāṇaṃ pajānanto uppādādivatthukāni pañca, anuppādādivatthukāni pañcāti dasa ñāṇe pajānāti paṭivijjhati sacchikaroti. Dvinnaṃ ñāṇānaṃ kusalatāti ādīnavañāṇassa ceva santipadañāṇassa cāti imesaṃ dvinnaṃ ñāṇānaṃ kusalatāya. Nānādiṭṭhīsu na kampatīti paramadiṭṭhadhammanibbānādivasena pavattāsu diṭṭhīsu na vedhatīti.

    อาทีนวญาณนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ādīnavañāṇaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๘. อาทีนวญาณนิเทฺทโส • 8. Ādīnavañāṇaniddeso


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact