Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๒๖. อทุกฺขมสุขีสุตฺตํ
26. Adukkhamasukhīsuttaṃ
๒๔๙. ‘‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ? ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมา…เป.… ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สติ, รูปํ อุปาทาย, รูปํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติฯ เวทนาย สติ… สญฺญาย สติ… สงฺขาเรสุ สติ… วิญฺญาเณ สติ, วิญฺญาณํ อุปาทาย, วิญฺญาณํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติฯ
249. ‘‘Adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’’ti? Bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammā…pe… ‘‘rūpe kho, bhikkhave, sati, rūpaṃ upādāya, rūpaṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’ti. Vedanāya sati… saññāya sati… saṅkhāresu sati… viññāṇe sati, viññāṇaṃ upādāya, viññāṇaṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’’’ti.
‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต’’…เป.… วิปริณามธมฺมํ, อปิ นุ ตํ อนุปาทาย เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปเชฺชยฺย – ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ทุเกฺข สติ, ทุกฺขํ อุปาทาย, ทุกฺขํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘เวทนา… สญฺญา… สงฺขารา… วิญฺญาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต’’…เป.… วิปริณามธมฺมํ, อปิ นุ ตํ อนุปาทาย เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปเชฺชยฺย – ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว , ทุเกฺข สติ, ทุกฺขํ อุปาทาย, ทุกฺขํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติฯ ฉพฺพีสติมํฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, rūpaṃ niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti? ‘‘Aniccaṃ, bhante’’…pe… vipariṇāmadhammaṃ, api nu taṃ anupādāya evaṃ diṭṭhi uppajjeyya – ‘adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Iti kho, bhikkhave, dukkhe sati, dukkhaṃ upādāya, dukkhaṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’’’ti. ‘‘Vedanā… saññā… saṅkhārā… viññāṇaṃ niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti? ‘‘Aniccaṃ, bhante’’…pe… vipariṇāmadhammaṃ, api nu taṃ anupādāya evaṃ diṭṭhi uppajjeyya – ‘adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Iti kho, bhikkhave , dukkhe sati, dukkhaṃ upādāya, dukkhaṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘adukkhamasukhī attā hoti arogo paraṃ maraṇā’’’ti. Chabbīsatimaṃ.
ทุติยเปยฺยาโลฯ
Dutiyapeyyālo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
วาตํ เอตํ มม โส, อตฺตา โน จ เม สิยา;
Vātaṃ etaṃ mama so, attā no ca me siyā;
นตฺถิ กโรโต เหตุ จ, มหาทิเฎฺฐน อฎฺฐมํฯ
Natthi karoto hetu ca, mahādiṭṭhena aṭṭhamaṃ.
สสฺสโต อสสฺสโต เจว, อนฺตานนฺตวา จ วุจฺจติ;
Sassato asassato ceva, antānantavā ca vuccati;
ตํ ชีวํ อญฺญํ ชีวญฺจ, ตถาคเตน จตฺตาโรฯ
Taṃ jīvaṃ aññaṃ jīvañca, tathāgatena cattāro.
รูปี อตฺตา โหติ, อรูปี จ อตฺตา โหติ;
Rūpī attā hoti, arūpī ca attā hoti;
รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ;
Rūpī ca arūpī ca attā hoti;
เนว รูปี นารูปี อตฺตา โหติ, เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติฯ
Neva rūpī nārūpī attā hoti, ekantasukhī attā hoti.
เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา โหติ, สุขทุกฺขี อตฺตา โหติ;
Ekantadukkhī attā hoti, sukhadukkhī attā hoti;
อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ, อโรโค ปรํ มรณาติ;
Adukkhamasukhī attā hoti, arogo paraṃ maraṇāti;
อิเม ฉพฺพีสติ สุตฺตา, ทุติยวาเรน เทสิตาฯ
Ime chabbīsati suttā, dutiyavārena desitā.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา • 2. Dutiyagamanādivaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา • 2. Dutiyagamanādivaggavaṇṇanā