Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya |
๔. อคฺคญฺญสุตฺตํ
4. Aggaññasuttaṃ
วาเสฎฺฐภารทฺวาชา
Vāseṭṭhabhāradvājā
๑๑๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทฯ เตน โข ปน สมเยน วาเสฎฺฐภารทฺวาชา ภิกฺขูสุ ปริวสนฺติ ภิกฺขุภาวํ อากงฺขมานาฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต ปาสาทา โอโรหิตฺวา ปาสาทปจฺฉายายํ 1 อโพฺภกาเส จงฺกมติฯ
111. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati pubbārāme migāramātupāsāde. Tena kho pana samayena vāseṭṭhabhāradvājā bhikkhūsu parivasanti bhikkhubhāvaṃ ākaṅkhamānā. Atha kho bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito pāsādā orohitvā pāsādapacchāyāyaṃ 2 abbhokāse caṅkamati.
๑๑๒. อทฺทสา โข วาเสโฎฺฐ ภควนฺตํ สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิตํ ปาสาทา โอโรหิตฺวา ปาสาทปจฺฉายายํ อโพฺภกาเส จงฺกมนฺตํฯ ทิสฺวาน ภารทฺวาชํ อามเนฺตสิ – ‘‘อยํ, อาวุโส ภารทฺวาช, ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต ปาสาทา โอโรหิตฺวา ปาสาทปจฺฉายายํ อโพฺภกาเส จงฺกมติฯ อายามาวุโส ภารทฺวาช, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อเปฺปว นาม ลเภยฺยาม ภควโต สนฺติกา 3 ธมฺมิํ กถํ สวนายา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข ภารทฺวาโช วาเสฎฺฐสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ
112. Addasā kho vāseṭṭho bhagavantaṃ sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhitaṃ pāsādā orohitvā pāsādapacchāyāyaṃ abbhokāse caṅkamantaṃ. Disvāna bhāradvājaṃ āmantesi – ‘‘ayaṃ, āvuso bhāradvāja, bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito pāsādā orohitvā pāsādapacchāyāyaṃ abbhokāse caṅkamati. Āyāmāvuso bhāradvāja, yena bhagavā tenupasaṅkamissāma; appeva nāma labheyyāma bhagavato santikā 4 dhammiṃ kathaṃ savanāyā’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho bhāradvājo vāseṭṭhassa paccassosi.
๑๑๓. อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ภควนฺตํ จงฺกมนฺตํ อนุจงฺกมิํสุฯ อถ โข ภควา วาเสฎฺฐํ อามเนฺตสิ – ‘‘ตุเมฺห ขฺวตฺถ, วาเสฎฺฐ, พฺราหฺมณชจฺจา พฺราหฺมณกุลีนา พฺราหฺมณกุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, กจฺจิ โว, วาเสฎฺฐ, พฺราหฺมณา น อโกฺกสนฺติ น ปริภาสนฺตี’’ติ? ‘‘ตคฺฆ โน, ภเนฺต, พฺราหฺมณา อโกฺกสนฺติ ปริภาสนฺติ อตฺตรูปาย ปริภาสาย ปริปุณฺณาย, โน อปริปุณฺณายา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน โว, วาเสฎฺฐ, พฺราหฺมณา อโกฺกสนฺติ ปริภาสนฺติ อตฺตรูปาย ปริภาสาย ปริปุณฺณาย, โน อปริปุณฺณายา’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา, ภเนฺต, เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีนา อเญฺญ วณฺณา 5ฯ พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ , กณฺหา อเญฺญ วณฺณา 6ฯ พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณาฯ พฺราหฺมณาว 7 พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทาฯ เต ตุเมฺห เสฎฺฐํ วณฺณํ หิตฺวา หีนมตฺถ วณฺณํ อชฺฌุปคตา, ยทิทํ มุณฺฑเก สมณเก อิเพฺภ กเณฺห พนฺธุปาทาปเจฺจฯ ตยิทํ น สาธุ, ตยิทํ นปฺปติรูปํ, ยํ ตุเมฺห เสฎฺฐํ วณฺณํ หิตฺวา หีนมตฺถ วณฺณํ อชฺฌุปคตา ยทิทํ มุณฺฑเก สมณเก อิเพฺภ กเณฺห พนฺธุปาทาปเจฺจ’ติฯ เอวํ โข โน, ภเนฺต, พฺราหฺมณา อโกฺกสนฺติ ปริภาสนฺติ อตฺตรูปาย ปริภาสาย ปริปุณฺณาย, โน อปริปุณฺณายา’’ติฯ
113. Atha kho vāseṭṭhabhāradvājā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā bhagavantaṃ caṅkamantaṃ anucaṅkamiṃsu. Atha kho bhagavā vāseṭṭhaṃ āmantesi – ‘‘tumhe khvattha, vāseṭṭha, brāhmaṇajaccā brāhmaṇakulīnā brāhmaṇakulā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā, kacci vo, vāseṭṭha, brāhmaṇā na akkosanti na paribhāsantī’’ti? ‘‘Taggha no, bhante, brāhmaṇā akkosanti paribhāsanti attarūpāya paribhāsāya paripuṇṇāya, no aparipuṇṇāyā’’ti. ‘‘Yathā kathaṃ pana vo, vāseṭṭha, brāhmaṇā akkosanti paribhāsanti attarūpāya paribhāsāya paripuṇṇāya, no aparipuṇṇāyā’’ti? ‘‘Brāhmaṇā, bhante, evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīnā aññe vaṇṇā 8. Brāhmaṇova sukko vaṇṇo , kaṇhā aññe vaṇṇā 9. Brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā. Brāhmaṇāva 10 brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā. Te tumhe seṭṭhaṃ vaṇṇaṃ hitvā hīnamattha vaṇṇaṃ ajjhupagatā, yadidaṃ muṇḍake samaṇake ibbhe kaṇhe bandhupādāpacce. Tayidaṃ na sādhu, tayidaṃ nappatirūpaṃ, yaṃ tumhe seṭṭhaṃ vaṇṇaṃ hitvā hīnamattha vaṇṇaṃ ajjhupagatā yadidaṃ muṇḍake samaṇake ibbhe kaṇhe bandhupādāpacce’ti. Evaṃ kho no, bhante, brāhmaṇā akkosanti paribhāsanti attarūpāya paribhāsāya paripuṇṇāya, no aparipuṇṇāyā’’ti.
๑๑๔. ‘‘ตคฺฆ โว, วาเสฎฺฐ, พฺราหฺมณา โปราณํ อสฺสรนฺตา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีนา อเญฺญ วณฺณา; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ, กณฺหา อเญฺญ วณฺณา; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติฯ ทิสฺสนฺติ โข ปน, วาเสฎฺฐ, พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณิโย อุตุนิโยปิ คพฺภินิโยปิ วิชายมานาปิ ปายมานาปิฯ เต จ พฺราหฺมณา โยนิชาว สมานา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีนา อเญฺญ วณฺณา; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ, กณฺหา อเญฺญ วณฺณา; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติฯ เต 11 พฺรหฺมานเญฺจว อพฺภาจิกฺขนฺติ, มุสา จ ภาสนฺติ, พหุญฺจ อปุญฺญํ ปสวนฺติฯ
114. ‘‘Taggha vo, vāseṭṭha, brāhmaṇā porāṇaṃ assarantā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīnā aññe vaṇṇā; brāhmaṇova sukko vaṇṇo, kaṇhā aññe vaṇṇā; brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’ti. Dissanti kho pana, vāseṭṭha, brāhmaṇānaṃ brāhmaṇiyo utuniyopi gabbhiniyopi vijāyamānāpi pāyamānāpi. Te ca brāhmaṇā yonijāva samānā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīnā aññe vaṇṇā; brāhmaṇova sukko vaṇṇo, kaṇhā aññe vaṇṇā; brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’ti. Te 12 brahmānañceva abbhācikkhanti, musā ca bhāsanti, bahuñca apuññaṃ pasavanti.
จตุวณฺณสุทฺธิ
Catuvaṇṇasuddhi
๑๑๕. ‘‘จตฺตาโรเม, วาเสฎฺฐ, วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทาฯ ขตฺติโยปิ โข, วาเสฎฺฐ, อิเธกโจฺจ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิโตฺต มิจฺฉาทิฎฺฐีฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เยเม ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา นอลมริยา นอลมริยสงฺขาตา กณฺหา กณฺหวิปากา วิญฺญุครหิตา, ขตฺติเยปิ เต 13 อิเธกเจฺจ สนฺทิสฺสนฺติฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… เวโสฺสปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ, อิเธกโจฺจ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิโตฺต มิจฺฉาทิฎฺฐีฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เยเม ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา…เป.… กณฺหา กณฺหวิปากา วิญฺญุครหิตา; สุเทฺทปิ เต อิเธกเจฺจ สนฺทิสฺสนฺติฯ
115. ‘‘Cattārome, vāseṭṭha, vaṇṇā – khattiyā, brāhmaṇā, vessā, suddā. Khattiyopi kho, vāseṭṭha, idhekacco pāṇātipātī hoti adinnādāyī kāmesumicchācārī musāvādī pisuṇavāco pharusavāco samphappalāpī abhijjhālu byāpannacitto micchādiṭṭhī. Iti kho, vāseṭṭha, yeme dhammā akusalā akusalasaṅkhātā sāvajjā sāvajjasaṅkhātā asevitabbā asevitabbasaṅkhātā naalamariyā naalamariyasaṅkhātā kaṇhā kaṇhavipākā viññugarahitā, khattiyepi te 14 idhekacce sandissanti. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha…pe… vessopi kho, vāseṭṭha…pe… suddopi kho, vāseṭṭha, idhekacco pāṇātipātī hoti adinnādāyī kāmesumicchācārī musāvādī pisuṇavāco pharusavāco samphappalāpī abhijjhālu byāpannacitto micchādiṭṭhī. Iti kho, vāseṭṭha, yeme dhammā akusalā akusalasaṅkhātā…pe… kaṇhā kaṇhavipākā viññugarahitā; suddepi te idhekacce sandissanti.
‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฎฺฐ, อิเธกโจฺจ ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต, มุสาวาทา ปฎิวิรโต, ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต, ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต, สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต, อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิโตฺต, สมฺมาทิฎฺฐีฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เยเม ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา อลมริยา อลมริยสงฺขาตา สุกฺกา สุกฺกวิปากา วิญฺญุปฺปสตฺถา, ขตฺติเยปิ เต อิเธกเจฺจ สนฺทิสฺสนฺติฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… เวโสฺสปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ, อิเธกโจฺจ ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ…เป.… อนภิชฺฌาลุ , อพฺยาปนฺนจิโตฺต, สมฺมาทิฎฺฐีฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เยเม ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา อลมริยา อลมริยสงฺขาตา สุกฺกา สุกฺกวิปากา วิญฺญุปฺปสตฺถา; สุเทฺทปิ เต อิเธกเจฺจ สนฺทิสฺสนฺติฯ
‘‘Khattiyopi kho, vāseṭṭha, idhekacco pāṇātipātā paṭivirato hoti, adinnādānā paṭivirato, kāmesumicchācārā paṭivirato, musāvādā paṭivirato, pisuṇāya vācāya paṭivirato, pharusāya vācāya paṭivirato, samphappalāpā paṭivirato, anabhijjhālu abyāpannacitto, sammādiṭṭhī. Iti kho, vāseṭṭha, yeme dhammā kusalā kusalasaṅkhātā anavajjā anavajjasaṅkhātā sevitabbā sevitabbasaṅkhātā alamariyā alamariyasaṅkhātā sukkā sukkavipākā viññuppasatthā, khattiyepi te idhekacce sandissanti. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha…pe… vessopi kho, vāseṭṭha…pe… suddopi kho, vāseṭṭha, idhekacco pāṇātipātā paṭivirato hoti…pe… anabhijjhālu , abyāpannacitto, sammādiṭṭhī. Iti kho, vāseṭṭha, yeme dhammā kusalā kusalasaṅkhātā anavajjā anavajjasaṅkhātā sevitabbā sevitabbasaṅkhātā alamariyā alamariyasaṅkhātā sukkā sukkavipākā viññuppasatthā; suddepi te idhekacce sandissanti.
๑๑๖. ‘‘อิเมสุ โข, วาเสฎฺฐ, จตูสุ วเณฺณสุ เอวํ อุภยโวกิเณฺณสุ วตฺตมาเนสุ กณฺหสุเกฺกสุ ธเมฺมสุ วิญฺญุครหิเตสุ เจว วิญฺญุปฺปสเตฺถสุ จ ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีนา อเญฺญ วณฺณา; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ, กณฺหา อเญฺญ วณฺณา; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติฯ ตํ เตสํ วิญฺญู นานุชานนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิเมสญฺหิ, วาเสฎฺฐ, จตุนฺนํ วณฺณานํ โย โหติ ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุโตฺต, โส เนสํ อคฺคมกฺขายติ ธเมฺมเนว, โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ, ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจ ฯ
116. ‘‘Imesu kho, vāseṭṭha, catūsu vaṇṇesu evaṃ ubhayavokiṇṇesu vattamānesu kaṇhasukkesu dhammesu viññugarahitesu ceva viññuppasatthesu ca yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīnā aññe vaṇṇā; brāhmaṇova sukko vaṇṇo, kaṇhā aññe vaṇṇā; brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’ti. Taṃ tesaṃ viññū nānujānanti. Taṃ kissa hetu? Imesañhi, vāseṭṭha, catunnaṃ vaṇṇānaṃ yo hoti bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññāvimutto, so nesaṃ aggamakkhāyati dhammeneva, no adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ, diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca .
๑๑๗. ‘‘ตทมินาเปตํ, วาเสฎฺฐ, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ธโมฺมว เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ, ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
117. ‘‘Tadamināpetaṃ, vāseṭṭha, pariyāyena veditabbaṃ, yathā dhammova seṭṭho janetasmiṃ, diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
‘‘ชานาติ โข 15, วาเสฎฺฐ, ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘สมโณ โคตโม อนนฺตรา 16 สกฺยกุลา ปพฺพชิโต’ติฯ สกฺยา โข ปน, วาเสฎฺฐ, รโญฺญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อนุยุตฺตา 17 ภวนฺติฯ กโรนฺติ โข, วาเสฎฺฐ, สกฺยา รเญฺญ ปเสนทิมฺหิ โกสเล นิปจฺจการํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, ยํ กโรนฺติ สกฺยา รเญฺญ ปเสนทิมฺหิ โกสเล นิปจฺจการํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ, กโรติ ตํ ราชา ปเสนทิ โกสโล ตถาคเต นิปจฺจการํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ, น นํ 18 ‘สุชาโต สมโณ โคตโม, ทุชฺชาโตหมสฺมิฯ พลวา สมโณ โคตโม, ทุพฺพโลหมสฺมิฯ ปาสาทิโก สมโณ โคตโม, ทุพฺพโณฺณหมสฺมิฯ มเหสโกฺข สมโณ โคตโม, อเปฺปสโกฺขหมสฺมี’ติฯ อถ โข นํ ธมฺมํเยว สกฺกโรโนฺต ธมฺมํ ครุํ กโรโนฺต ธมฺมํ มาเนโนฺต ธมฺมํ ปูเชโนฺต ธมฺมํ อปจายมาโน เอวํ ราชา ปเสนทิ โกสโล ตถาคเต นิปจฺจการํ กโรติ, อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํฯ อิมินาปิ โข เอตํ, วาเสฎฺฐ, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ธโมฺมว เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ, ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
‘‘Jānāti kho 19, vāseṭṭha, rājā pasenadi kosalo – ‘samaṇo gotamo anantarā 20 sakyakulā pabbajito’ti. Sakyā kho pana, vāseṭṭha, rañño pasenadissa kosalassa anuyuttā 21 bhavanti. Karonti kho, vāseṭṭha, sakyā raññe pasenadimhi kosale nipaccakāraṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ. Iti kho, vāseṭṭha, yaṃ karonti sakyā raññe pasenadimhi kosale nipaccakāraṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ, karoti taṃ rājā pasenadi kosalo tathāgate nipaccakāraṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ, na naṃ 22 ‘sujāto samaṇo gotamo, dujjātohamasmi. Balavā samaṇo gotamo, dubbalohamasmi. Pāsādiko samaṇo gotamo, dubbaṇṇohamasmi. Mahesakkho samaṇo gotamo, appesakkhohamasmī’ti. Atha kho naṃ dhammaṃyeva sakkaronto dhammaṃ garuṃ karonto dhammaṃ mānento dhammaṃ pūjento dhammaṃ apacāyamāno evaṃ rājā pasenadi kosalo tathāgate nipaccakāraṃ karoti, abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ. Imināpi kho etaṃ, vāseṭṭha, pariyāyena veditabbaṃ, yathā dhammova seṭṭho janetasmiṃ, diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
๑๑๘. ‘‘ตุเมฺห ขฺวตฺถ, วาเสฎฺฐ, นานาชจฺจา นานานามา นานาโคตฺตา นานากุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตาฯ ‘เก ตุเมฺห’ติ – ปุฎฺฐา สมานา ‘สมณา สกฺยปุตฺติยามฺหา’ติ – ปฎิชานาถฯ ยสฺส โข ปนสฺส, วาเสฎฺฐ, ตถาคเต สทฺธา นิวิฎฺฐา มูลชาตา ปติฎฺฐิตา ทฬฺหา อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิํ, ตเสฺสตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ภควโตมฺหิ ปุโตฺต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท’ติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาคตสฺส เหตํ, วาเสฎฺฐ, อธิวจนํ ‘ธมฺมกาโย’ อิติปิ, ‘พฺรหฺมกาโย’ อิติปิ, ‘ธมฺมภูโต’ อิติปิ, ‘พฺรหฺมภูโต’ อิติปิฯ
118. ‘‘Tumhe khvattha, vāseṭṭha, nānājaccā nānānāmā nānāgottā nānākulā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā. ‘Ke tumhe’ti – puṭṭhā samānā ‘samaṇā sakyaputtiyāmhā’ti – paṭijānātha. Yassa kho panassa, vāseṭṭha, tathāgate saddhā niviṭṭhā mūlajātā patiṭṭhitā daḷhā asaṃhāriyā samaṇena vā brāhmaṇena vā devena vā mārena vā brahmunā vā kenaci vā lokasmiṃ, tassetaṃ kallaṃ vacanāya – ‘bhagavatomhi putto oraso mukhato jāto dhammajo dhammanimmito dhammadāyādo’ti. Taṃ kissa hetu? Tathāgatassa hetaṃ, vāseṭṭha, adhivacanaṃ ‘dhammakāyo’ itipi, ‘brahmakāyo’ itipi, ‘dhammabhūto’ itipi, ‘brahmabhūto’ itipi.
๑๑๙. ‘‘โหติ โข โส, วาเสฎฺฐ, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฎฺฎติฯ สํวฎฺฎมาเน โลเก เยภุเยฺยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติฯ เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฎฺฐายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฎฺฐนฺติฯ
119. ‘‘Hoti kho so, vāseṭṭha, samayo yaṃ kadāci karahaci dīghassa addhuno accayena ayaṃ loko saṃvaṭṭati. Saṃvaṭṭamāne loke yebhuyyena sattā ābhassarasaṃvattanikā honti. Te tattha honti manomayā pītibhakkhā sayaṃpabhā antalikkhacarā subhaṭṭhāyino ciraṃ dīghamaddhānaṃ tiṭṭhanti.
‘‘โหติ โข โส, วาเสฎฺฐ, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฎฺฎติฯ วิวฎฺฎมาเน โลเก เยภุเยฺยน สตฺตา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉนฺติฯ เตธ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฎฺฐายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฎฺฐนฺติฯ
‘‘Hoti kho so, vāseṭṭha, samayo yaṃ kadāci karahaci dīghassa addhuno accayena ayaṃ loko vivaṭṭati. Vivaṭṭamāne loke yebhuyyena sattā ābhassarakāyā cavitvā itthattaṃ āgacchanti. Tedha honti manomayā pītibhakkhā sayaṃpabhā antalikkhacarā subhaṭṭhāyino ciraṃ dīghamaddhānaṃ tiṭṭhanti.
รสปถวิปาตุภาโว
Rasapathavipātubhāvo
๑๒๐. ‘‘เอโกทกีภูตํ โข ปน, วาเสฎฺฐ, เตน สมเยน โหติ อนฺธกาโร อนฺธการติมิสา ฯ น จนฺทิมสูริยา ปญฺญายนฺติ, น นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปญฺญายนฺติ, น รตฺตินฺทิวา ปญฺญายนฺติ, น มาสฑฺฒมาสา ปญฺญายนฺติ, น อุตุสํวจฺฉรา ปญฺญายนฺติ , น อิตฺถิปุมา ปญฺญายนฺติ, สตฺตา สตฺตาเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติฯ อถ โข เตสํ, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน รสปถวี อุทกสฺมิํ สมตนิ 23; เสยฺยถาปิ นาม ปยโส ตตฺตสฺส 24 นิพฺพายมานสฺส อุปริ สนฺตานกํ โหติ, เอวเมว ปาตุรโหสิฯ สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนา, เสยฺยถาปิ นาม สมฺปนฺนํ วา สปฺปิ สมฺปนฺนํ วา นวนีตํ เอวํวณฺณา อโหสิฯ เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทมธุํ 25 อเนฬกํ 26, เอวมสฺสาทา อโหสิฯ อถ โข, วาเสฎฺฐ, อญฺญตโร สโตฺต โลลชาติโก – ‘อโมฺภ, กิเมวิทํ ภวิสฺสตี’ติ รสปถวิํ องฺคุลิยา สายิฯ ตสฺส รสปถวิํ องฺคุลิยา สายโต อจฺฉาเทสิ, ตณฺหา จสฺส โอกฺกมิฯ อเญฺญปิ โข, วาเสฎฺฐ, สตฺตา ตสฺส สตฺตสฺส ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชมานา รสปถวิํ องฺคุลิยา สายิํสุฯ เตสํ รสปถวิํ องฺคุลิยา สายตํ อจฺฉาเทสิ, ตณฺหา จ เตสํ โอกฺกมิฯ
120. ‘‘Ekodakībhūtaṃ kho pana, vāseṭṭha, tena samayena hoti andhakāro andhakāratimisā . Na candimasūriyā paññāyanti, na nakkhattāni tārakarūpāni paññāyanti, na rattindivā paññāyanti, na māsaḍḍhamāsā paññāyanti, na utusaṃvaccharā paññāyanti , na itthipumā paññāyanti, sattā sattātveva saṅkhyaṃ gacchanti. Atha kho tesaṃ, vāseṭṭha, sattānaṃ kadāci karahaci dīghassa addhuno accayena rasapathavī udakasmiṃ samatani 27; seyyathāpi nāma payaso tattassa 28 nibbāyamānassa upari santānakaṃ hoti, evameva pāturahosi. Sā ahosi vaṇṇasampannā gandhasampannā rasasampannā, seyyathāpi nāma sampannaṃ vā sappi sampannaṃ vā navanītaṃ evaṃvaṇṇā ahosi. Seyyathāpi nāma khuddamadhuṃ 29 aneḷakaṃ 30, evamassādā ahosi. Atha kho, vāseṭṭha, aññataro satto lolajātiko – ‘ambho, kimevidaṃ bhavissatī’ti rasapathaviṃ aṅguliyā sāyi. Tassa rasapathaviṃ aṅguliyā sāyato acchādesi, taṇhā cassa okkami. Aññepi kho, vāseṭṭha, sattā tassa sattassa diṭṭhānugatiṃ āpajjamānā rasapathaviṃ aṅguliyā sāyiṃsu. Tesaṃ rasapathaviṃ aṅguliyā sāyataṃ acchādesi, taṇhā ca tesaṃ okkami.
จนฺทิมสูริยาทิปาตุภาโว
Candimasūriyādipātubhāvo
๑๒๑. ‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา รสปถวิํ หเตฺถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมิํสุ ปริภุญฺชิตุํฯ ยโต โข เต 31, วาเสฎฺฐ, สตฺตา รสปถวิํ หเตฺถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมิํสุ ปริภุญฺชิตุํฯ อถ เตสํ สตฺตานํ สยํปภา อนฺตรธายิฯ สยํปภาย อนฺตรหิตาย จนฺทิมสูริยา ปาตุรเหสุํฯ จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุรเหสุํฯ นกฺขเตฺตสุ ตารกรูเปสุ ปาตุภูเตสุ รตฺตินฺทิวา ปญฺญายิํสุฯ รตฺตินฺทิเวสุ ปญฺญายมาเนสุ มาสฑฺฒมาสา ปญฺญายิํสุฯ มาสฑฺฒมาเสสุ ปญฺญายมาเนสุ อุตุสํวจฺฉรา ปญฺญายิํสุฯ เอตฺตาวตา โข , วาเสฎฺฐ, อยํ โลโก ปุน วิวโฎฺฎ โหติฯ
121. ‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā rasapathaviṃ hatthehi āluppakārakaṃ upakkamiṃsu paribhuñjituṃ. Yato kho te 32, vāseṭṭha, sattā rasapathaviṃ hatthehi āluppakārakaṃ upakkamiṃsu paribhuñjituṃ. Atha tesaṃ sattānaṃ sayaṃpabhā antaradhāyi. Sayaṃpabhāya antarahitāya candimasūriyā pāturahesuṃ. Candimasūriyesu pātubhūtesu nakkhattāni tārakarūpāni pāturahesuṃ. Nakkhattesu tārakarūpesu pātubhūtesu rattindivā paññāyiṃsu. Rattindivesu paññāyamānesu māsaḍḍhamāsā paññāyiṃsu. Māsaḍḍhamāsesu paññāyamānesu utusaṃvaccharā paññāyiṃsu. Ettāvatā kho , vāseṭṭha, ayaṃ loko puna vivaṭṭo hoti.
๑๒๒. ‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา รสปถวิํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา 33 ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุฯ ยถา ยถา โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา รสปถวิํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ (รสปถวิํ ปริภุญฺชนฺตานํ) 34 ขรตฺตเญฺจว กายสฺมิํ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา 35 จ ปญฺญายิตฺถฯ เอกิทํ สตฺตา วณฺณวโนฺต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณาฯ ตตฺถ เย เต สตฺตา วณฺณวโนฺต, เต ทุพฺพเณฺณ สเตฺต อติมญฺญนฺติ – ‘มยเมเตหิ วณฺณวนฺตตรา, อเมฺหเหเต ทุพฺพณฺณตรา’ติฯ เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยา มานาติมานชาติกานํ รสปถวี อนฺตรธายิฯ รสาย ปถวิยา อนฺตรหิตาย สนฺนิปติํสุฯ สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนิํสุ – ‘อโห รสํ, อโห รส’นฺติ! ตเทตรหิปิ มนุสฺสา กญฺจิเทว สุรสํ 36 ลภิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อโห รสํ, อโห รส’นฺติ! ตเทว โปราณํ อคฺคญฺญํ อกฺขรํ อนุสรนฺติ, น เตฺววสฺส อตฺถํ อาชานนฺติฯ
122. ‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā rasapathaviṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā 37 tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu. Yathā yathā kho te, vāseṭṭha, sattā rasapathaviṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu, tathā tathā tesaṃ sattānaṃ (rasapathaviṃ paribhuñjantānaṃ) 38 kharattañceva kāyasmiṃ okkami, vaṇṇavevaṇṇatā 39 ca paññāyittha. Ekidaṃ sattā vaṇṇavanto honti, ekidaṃ sattā dubbaṇṇā. Tattha ye te sattā vaṇṇavanto, te dubbaṇṇe satte atimaññanti – ‘mayametehi vaṇṇavantatarā, amhehete dubbaṇṇatarā’ti. Tesaṃ vaṇṇātimānapaccayā mānātimānajātikānaṃ rasapathavī antaradhāyi. Rasāya pathaviyā antarahitāya sannipatiṃsu. Sannipatitvā anutthuniṃsu – ‘aho rasaṃ, aho rasa’nti! Tadetarahipi manussā kañcideva surasaṃ 40 labhitvā evamāhaṃsu – ‘aho rasaṃ, aho rasa’nti! Tadeva porāṇaṃ aggaññaṃ akkharaṃ anusaranti, na tvevassa atthaṃ ājānanti.
ภูมิปปฺปฎกปาตุภาโว
Bhūmipappaṭakapātubhāvo
๑๒๓. ‘‘อถ โข เตสํ, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํ รสาย ปถวิยา อนฺตรหิตาย ภูมิปปฺปฎโก ปาตุรโหสิฯ เสยฺยถาปิ นาม อหิจฺฉตฺตโก, เอวเมว ปาตุรโหสิฯ โส อโหสิ วณฺณสมฺปโนฺน คนฺธสมฺปโนฺน รสสมฺปโนฺน, เสยฺยถาปิ นาม สมฺปนฺนํ วา สปฺปิ สมฺปนฺนํ วา นวนีตํ เอวํวโณฺณ อโหสิฯ เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทมธุํ อเนฬกํ, เอวมสฺสาโท อโหสิฯ
123. ‘‘Atha kho tesaṃ, vāseṭṭha, sattānaṃ rasāya pathaviyā antarahitāya bhūmipappaṭako pāturahosi. Seyyathāpi nāma ahicchattako, evameva pāturahosi. So ahosi vaṇṇasampanno gandhasampanno rasasampanno, seyyathāpi nāma sampannaṃ vā sappi sampannaṃ vā navanītaṃ evaṃvaṇṇo ahosi. Seyyathāpi nāma khuddamadhuṃ aneḷakaṃ, evamassādo ahosi.
‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา ภูมิปปฺปฎกํ อุปกฺกมิํสุ ปริภุญฺชิตุํฯ เต ตํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุฯ ยถา ยถา โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา ภูมิปปฺปฎกํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ ภิโยฺยโส มตฺตาย ขรตฺตเญฺจว กายสฺมิํ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา จ ปญฺญายิตฺถฯ เอกิทํ สตฺตา วณฺณวโนฺต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณาฯ ตตฺถ เย เต สตฺตา วณฺณวโนฺต, เต ทุพฺพเณฺณ สเตฺต อติมญฺญนฺติ – ‘มยเมเตหิ วณฺณวนฺตตรา, อเมฺหเหเต ทุพฺพณฺณตรา’ติฯ เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยา มานาติมานชาติกานํ ภูมิปปฺปฎโก อนฺตรธายิฯ
‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā bhūmipappaṭakaṃ upakkamiṃsu paribhuñjituṃ. Te taṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu. Yathā yathā kho te, vāseṭṭha, sattā bhūmipappaṭakaṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu, tathā tathā tesaṃ sattānaṃ bhiyyoso mattāya kharattañceva kāyasmiṃ okkami, vaṇṇavevaṇṇatā ca paññāyittha. Ekidaṃ sattā vaṇṇavanto honti, ekidaṃ sattā dubbaṇṇā. Tattha ye te sattā vaṇṇavanto, te dubbaṇṇe satte atimaññanti – ‘mayametehi vaṇṇavantatarā, amhehete dubbaṇṇatarā’ti. Tesaṃ vaṇṇātimānapaccayā mānātimānajātikānaṃ bhūmipappaṭako antaradhāyi.
ปทาลตาปาตุภาโว
Padālatāpātubhāvo
‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา ปทาลตํ อุปกฺกมิํสุ ปริภุญฺชิตุํฯ เต ตํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุฯ ยถา ยถา โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา ปทาลตํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ ภิโยฺยโสมตฺตาย ขรตฺตเญฺจว กายสฺมิํ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา จ ปญฺญายิตฺถฯ เอกิทํ สตฺตา วณฺณวโนฺต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณาฯ ตตฺถ เย เต สตฺตา วณฺณวโนฺต, เต ทุพฺพเณฺณ สเตฺต อติมญฺญนฺติ – ‘มยเมเตหิ วณฺณวนฺตตรา, อเมฺหเหเต ทุพฺพณฺณตรา’ติฯ เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยา มานาติมานชาติกานํ ปทาลตา อนฺตรธายิฯ
‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā padālataṃ upakkamiṃsu paribhuñjituṃ. Te taṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu. Yathā yathā kho te, vāseṭṭha, sattā padālataṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu, tathā tathā tesaṃ sattānaṃ bhiyyosomattāya kharattañceva kāyasmiṃ okkami, vaṇṇavevaṇṇatā ca paññāyittha. Ekidaṃ sattā vaṇṇavanto honti, ekidaṃ sattā dubbaṇṇā. Tattha ye te sattā vaṇṇavanto, te dubbaṇṇe satte atimaññanti – ‘mayametehi vaṇṇavantatarā, amhehete dubbaṇṇatarā’ti. Tesaṃ vaṇṇātimānapaccayā mānātimānajātikānaṃ padālatā antaradhāyi.
‘‘ปทาลตาย อนฺตรหิตาย สนฺนิปติํสุฯ สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนิํสุ – ‘อหุ วต โน, อหายิ วต โน ปทาลตา’ติ! ตเทตรหิปิ มนุสฺสา เกนจิ 45 ทุกฺขธเมฺมน ผุฎฺฐา เอวมาหํสุ – ‘อหุ วต โน, อหายิ วต โน’ติ! ตเทว โปราณํ อคฺคญฺญํ อกฺขรํ อนุสรนฺติ, น เตฺววสฺส อตฺถํ อาชานนฺติฯ
‘‘Padālatāya antarahitāya sannipatiṃsu. Sannipatitvā anutthuniṃsu – ‘ahu vata no, ahāyi vata no padālatā’ti! Tadetarahipi manussā kenaci 46 dukkhadhammena phuṭṭhā evamāhaṃsu – ‘ahu vata no, ahāyi vata no’ti! Tadeva porāṇaṃ aggaññaṃ akkharaṃ anusaranti, na tvevassa atthaṃ ājānanti.
อกฎฺฐปากสาลิปาตุภาโว
Akaṭṭhapākasālipātubhāvo
๑๒๕. ‘‘อถ โข เตสํ, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํ ปทาลตาย อนฺตรหิตาย อกฎฺฐปาโก สาลิ ปาตุรโหสิ อกโณ อถุโส สุโทฺธ สุคโนฺธ ตณฺฑุลปฺผโลฯ ยํ ตํ สายํ สายมาสาย อาหรนฺติ, ปาโต ตํ โหติ ปกฺกํ ปฎิวิรูฬฺหํฯ ยํ ตํ ปาโต ปาตราสาย อาหรนฺติ, สายํ ตํ โหติ ปกฺกํ ปฎิวิรูฬฺหํ; นาปทานํ ปญฺญายติฯ อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา อกฎฺฐปากํ สาลิํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุฯ
125. ‘‘Atha kho tesaṃ, vāseṭṭha, sattānaṃ padālatāya antarahitāya akaṭṭhapāko sāli pāturahosi akaṇo athuso suddho sugandho taṇḍulapphalo. Yaṃ taṃ sāyaṃ sāyamāsāya āharanti, pāto taṃ hoti pakkaṃ paṭivirūḷhaṃ. Yaṃ taṃ pāto pātarāsāya āharanti, sāyaṃ taṃ hoti pakkaṃ paṭivirūḷhaṃ; nāpadānaṃ paññāyati. Atha kho te, vāseṭṭha, sattā akaṭṭhapākaṃ sāliṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu.
อิตฺถิปุริสลิงฺคปาตุภาโว
Itthipurisaliṅgapātubhāvo
๑๒๖. ‘‘ยถา ยถา โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา อกฎฺฐปากํ สาลิํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ ภิโยฺยโสมตฺตาย ขรตฺตเญฺจว กายสฺมิํ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา จ ปญฺญายิตฺถ, อิตฺถิยา จ อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุรโหสิ ปุริสสฺส จ ปุริสลิงฺคํฯ อิตฺถี จ ปุริสํ อติเวลํ อุปนิชฺฌายติ ปุริโส จ อิตฺถิํฯ เตสํ อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายตํ สาราโค อุทปาทิ, ปริฬาโห กายสฺมิํ โอกฺกมิฯ เต ปริฬาหปจฺจยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิํสุฯ
126. ‘‘Yathā yathā kho te, vāseṭṭha, sattā akaṭṭhapākaṃ sāliṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhaṃsu, tathā tathā tesaṃ sattānaṃ bhiyyosomattāya kharattañceva kāyasmiṃ okkami, vaṇṇavevaṇṇatā ca paññāyittha, itthiyā ca itthiliṅgaṃ pāturahosi purisassa ca purisaliṅgaṃ. Itthī ca purisaṃ ativelaṃ upanijjhāyati puriso ca itthiṃ. Tesaṃ ativelaṃ aññamaññaṃ upanijjhāyataṃ sārāgo udapādi, pariḷāho kāyasmiṃ okkami. Te pariḷāhapaccayā methunaṃ dhammaṃ paṭiseviṃsu.
‘‘เย โข ปน เต, วาเสฎฺฐ, เตน สมเยน สตฺตา ปสฺสนฺติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวเนฺต, อเญฺญ ปํสุํ ขิปนฺติ, อเญฺญ เสฎฺฐิํ ขิปนฺติ , อเญฺญ โคมยํ ขิปนฺติ – ‘นสฺส อสุจิ 47, นสฺส อสุจี’ติฯ ‘กถญฺหิ นาม สโตฺต สตฺตสฺส เอวรูปํ กริสฺสตี’ติ! ตเทตรหิปิ มนุสฺสา เอกเจฺจสุ ชนปเทสุ วธุยา นิพฺพุยฺหมานาย 48 อเญฺญ ปํสุํ ขิปนฺติ, อเญฺญ เสฎฺฐิํ ขิปนฺติ, อเญฺญ โคมยํ ขิปนฺติฯ ตเทว โปราณํ อคฺคญฺญํ อกฺขรํ อนุสรนฺติ, น เตฺววสฺส อตฺถํ อาชานนฺติฯ
‘‘Ye kho pana te, vāseṭṭha, tena samayena sattā passanti methunaṃ dhammaṃ paṭisevante, aññe paṃsuṃ khipanti, aññe seṭṭhiṃ khipanti , aññe gomayaṃ khipanti – ‘nassa asuci 49, nassa asucī’ti. ‘Kathañhi nāma satto sattassa evarūpaṃ karissatī’ti! Tadetarahipi manussā ekaccesu janapadesu vadhuyā nibbuyhamānāya 50 aññe paṃsuṃ khipanti, aññe seṭṭhiṃ khipanti, aññe gomayaṃ khipanti. Tadeva porāṇaṃ aggaññaṃ akkharaṃ anusaranti, na tvevassa atthaṃ ājānanti.
เมถุนธมฺมสมาจาโร
Methunadhammasamācāro
๑๒๗. ‘‘อธมฺมสมฺมตํ โข ปน 51, วาเสฎฺฐ, เตน สมเยน โหติ, ตเทตรหิ ธมฺมสมฺมตํฯ เย โข ปน, วาเสฎฺฐ, เตน สมเยน สตฺตา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺติ, เต มาสมฺปิ เทฺวมาสมฺปิ น ลภนฺติ คามํ วา นิคมํ วา ปวิสิตุํฯ ยโต โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา ตสฺมิํ อสทฺธเมฺม อติเวลํ ปาตพฺยตํ อาปชฺชิํสุฯ อถ อคารานิ อุปกฺกมิํสุ กาตุํ ตเสฺสว อสทฺธมฺมสฺส ปฎิจฺฉาทนตฺถํฯ อถ โข, วาเสฎฺฐ, อญฺญตรสฺส สตฺตสฺส อลสชาติกสฺส เอตทโหสิ – ‘อโมฺภ, กิเมวาหํ วิหญฺญามิ สาลิํ อาหรโนฺต สายํ สายมาสาย ปาโต ปาตราสาย! ยํนูนาหํ สาลิํ อาหเรยฺยํ สกิํเทว 52 สายปาตราสายา’ติ !
127. ‘‘Adhammasammataṃ kho pana 53, vāseṭṭha, tena samayena hoti, tadetarahi dhammasammataṃ. Ye kho pana, vāseṭṭha, tena samayena sattā methunaṃ dhammaṃ paṭisevanti, te māsampi dvemāsampi na labhanti gāmaṃ vā nigamaṃ vā pavisituṃ. Yato kho te, vāseṭṭha, sattā tasmiṃ asaddhamme ativelaṃ pātabyataṃ āpajjiṃsu. Atha agārāni upakkamiṃsu kātuṃ tasseva asaddhammassa paṭicchādanatthaṃ. Atha kho, vāseṭṭha, aññatarassa sattassa alasajātikassa etadahosi – ‘ambho, kimevāhaṃ vihaññāmi sāliṃ āharanto sāyaṃ sāyamāsāya pāto pātarāsāya! Yaṃnūnāhaṃ sāliṃ āhareyyaṃ sakiṃdeva 54 sāyapātarāsāyā’ti !
‘‘อถ โข โส, วาเสฎฺฐ, สโตฺต สาลิํ อาหาสิ สกิํเทว สายปาตราสายฯ อถ โข, วาเสฎฺฐ, อญฺญตโร สโตฺต เยน โส สโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ สตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สาลาหารํ คมิสฺสามา’ติฯ ‘อลํ, โภ สตฺต, อาหโต 55 เม สาลิ สกิํเทว สายปาตราสายา’ติฯ อถ โข โส, วาเสฎฺฐ, สโตฺต ตสฺส สตฺตสฺส ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชมาโน สาลิํ อาหาสิ สกิํเทว ทฺวีหายฯ ‘เอวมฺปิ กิร, โภ, สาธู’ติฯ
‘‘Atha kho so, vāseṭṭha, satto sāliṃ āhāsi sakiṃdeva sāyapātarāsāya. Atha kho, vāseṭṭha, aññataro satto yena so satto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ sattaṃ etadavoca – ‘ehi, bho satta, sālāhāraṃ gamissāmā’ti. ‘Alaṃ, bho satta, āhato 56 me sāli sakiṃdeva sāyapātarāsāyā’ti. Atha kho so, vāseṭṭha, satto tassa sattassa diṭṭhānugatiṃ āpajjamāno sāliṃ āhāsi sakiṃdeva dvīhāya. ‘Evampi kira, bho, sādhū’ti.
‘‘อถ โข, วาเสฎฺฐ, อญฺญตโร สโตฺต เยน โส สโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ สตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สาลาหารํ คมิสฺสามา’ติฯ ‘อลํ, โภ สตฺต, อาหโต เม สาลิ สกิํเทว ทฺวีหายา’ติฯ อถ โข โส, วาเสฎฺฐ, สโตฺต ตสฺส สตฺตสฺส ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชมาโน สาลิํ อาหาสิ สกิํเทว จตูหาย, ‘เอวมฺปิ กิร, โภ, สาธู’ติฯ
‘‘Atha kho, vāseṭṭha, aññataro satto yena so satto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ sattaṃ etadavoca – ‘ehi, bho satta, sālāhāraṃ gamissāmā’ti. ‘Alaṃ, bho satta, āhato me sāli sakiṃdeva dvīhāyā’ti. Atha kho so, vāseṭṭha, satto tassa sattassa diṭṭhānugatiṃ āpajjamāno sāliṃ āhāsi sakiṃdeva catūhāya, ‘evampi kira, bho, sādhū’ti.
‘‘อถ โข, วาเสฎฺฐ, อญฺญตโร สโตฺต เยน โส สโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ สตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สาลาหารํ คมิสฺสามา’ติฯ ‘อลํ, โภ สตฺต, อาหโต เม สาลิ สกิเทว จตูหายา’ติฯ อถ โข โส, วาเสฎฺฐ, สโตฺต ตสฺส สตฺตสฺส ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชมาโน สาลิํ อาหาสิ สกิเทว อฎฺฐาหาย, ‘เอวมฺปิ กิร, โภ, สาธู’ติฯ
‘‘Atha kho, vāseṭṭha, aññataro satto yena so satto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ sattaṃ etadavoca – ‘ehi, bho satta, sālāhāraṃ gamissāmā’ti. ‘Alaṃ, bho satta, āhato me sāli sakideva catūhāyā’ti. Atha kho so, vāseṭṭha, satto tassa sattassa diṭṭhānugatiṃ āpajjamāno sāliṃ āhāsi sakideva aṭṭhāhāya, ‘evampi kira, bho, sādhū’ti.
‘‘ยโต โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา สนฺนิธิการกํ สาลิํ อุปกฺกมิํสุ ปริภุญฺชิตุํฯ อถ กโณปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ, ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ; ลูนมฺปิ นปฺปฎิวิรูฬฺหํ , อปทานํ ปญฺญายิตฺถ, สณฺฑสณฺฑา สาลโย อฎฺฐํสุฯ
‘‘Yato kho te, vāseṭṭha, sattā sannidhikārakaṃ sāliṃ upakkamiṃsu paribhuñjituṃ. Atha kaṇopi taṇḍulaṃ pariyonandhi, thusopi taṇḍulaṃ pariyonandhi; lūnampi nappaṭivirūḷhaṃ , apadānaṃ paññāyittha, saṇḍasaṇḍā sālayo aṭṭhaṃsu.
สาลิวิภาโค
Sālivibhāgo
๑๒๘. ‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา สนฺนิปติํสุ, สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนิํสุ – ‘ปาปกา วต, โภ, ธมฺมา สเตฺตสุ ปาตุภูตาฯ มยญฺหิ ปุเพฺพ มโนมยา อหุมฺหา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฎฺฐายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐมฺหาฯ เตสํ โน อมฺหากํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน รสปถวี อุทกสฺมิํ สมตนิฯ สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนาฯ เต มยํ รสปถวิํ หเตฺถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมิมฺห ปริภุญฺชิตุํ, เตสํ โน รสปถวิํ หเตฺถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมตํ ปริภุญฺชิตุํ สยํปภา อนฺตรธายิฯ สยํปภาย อนฺตรหิตาย จนฺทิมสูริยา ปาตุรเหสุํ, จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุรเหสุํ, นกฺขเตฺตสุ ตารกรูเปสุ ปาตุภูเตสุ รตฺตินฺทิวา ปญฺญายิํสุ, รตฺตินฺทิเวสุ ปญฺญายมาเนสุ มาสฑฺฒมาสา ปญฺญายิํสุฯ มาสฑฺฒมาเสสุ ปญฺญายมาเนสุ อุตุสํวจฺฉรา ปญฺญายิํสุฯ เต มยํ รสปถวิํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐมฺหาฯ เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา รสปถวี อนฺตรธายิฯ รสปถวิยา อนฺตรหิตาย ภูมิปปฺปฎโก ปาตุรโหสิฯ โส อโหสิ วณฺณสมฺปโนฺน คนฺธสมฺปโนฺน รสสมฺปโนฺนฯ เต มยํ ภูมิปปฺปฎกํ อุปกฺกมิมฺห ปริภุญฺชิตุํฯ เต มยํ ตํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐมฺหาฯ เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา ภูมิปปฺปฎโก อนฺตรธายิฯ ภูมิปปฺปฎเก อนฺตรหิเต ปทาลตา ปาตุรโหสิฯ สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนาฯ เต มยํ ปทาลตํ อุปกฺกมิมฺห ปริภุญฺชิตุํฯ เต มยํ ตํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐมฺหาฯ เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา ปทาลตา อนฺตรธายิฯ ปทาลตาย อนฺตรหิตาย อกฎฺฐปาโก สาลิ ปาตุรโหสิ อกโณ อถุโส สุโทฺธ สุคโนฺธ ตณฺฑุลปฺผโลฯ ยํ ตํ สายํ สายมาสาย อาหราม, ปาโต ตํ โหติ ปกฺกํ ปฎิวิรูฬฺหํฯ ยํ ตํ ปาโต ปาตราสาย อาหราม, สายํ ตํ โหติ ปกฺกํ ปฎิวิรูฬฺหํฯ นาปทานํ ปญฺญายิตฺถฯ เต มยํ อกฎฺฐปากํ สาลิํ ปริภุญฺชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฎฺฐมฺหาฯ เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา กโณปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ, ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ, ลูนมฺปิ นปฺปฎิวิรูฬฺหํ, อปทานํ ปญฺญายิตฺถ, สณฺฑสณฺฑา สาลโย ฐิตาฯ ยํนูน มยํ สาลิํ วิภเชยฺยาม, มริยาทํ ฐเปยฺยามา’ติ! อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา สาลิํ วิภชิํสุ, มริยาทํ ฐเปสุํฯ
128. ‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā sannipatiṃsu, sannipatitvā anutthuniṃsu – ‘pāpakā vata, bho, dhammā sattesu pātubhūtā. Mayañhi pubbe manomayā ahumhā pītibhakkhā sayaṃpabhā antalikkhacarā subhaṭṭhāyino, ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhamhā. Tesaṃ no amhākaṃ kadāci karahaci dīghassa addhuno accayena rasapathavī udakasmiṃ samatani. Sā ahosi vaṇṇasampannā gandhasampannā rasasampannā. Te mayaṃ rasapathaviṃ hatthehi āluppakārakaṃ upakkamimha paribhuñjituṃ, tesaṃ no rasapathaviṃ hatthehi āluppakārakaṃ upakkamataṃ paribhuñjituṃ sayaṃpabhā antaradhāyi. Sayaṃpabhāya antarahitāya candimasūriyā pāturahesuṃ, candimasūriyesu pātubhūtesu nakkhattāni tārakarūpāni pāturahesuṃ, nakkhattesu tārakarūpesu pātubhūtesu rattindivā paññāyiṃsu, rattindivesu paññāyamānesu māsaḍḍhamāsā paññāyiṃsu. Māsaḍḍhamāsesu paññāyamānesu utusaṃvaccharā paññāyiṃsu. Te mayaṃ rasapathaviṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhamhā. Tesaṃ no pāpakānaṃyeva akusalānaṃ dhammānaṃ pātubhāvā rasapathavī antaradhāyi. Rasapathaviyā antarahitāya bhūmipappaṭako pāturahosi. So ahosi vaṇṇasampanno gandhasampanno rasasampanno. Te mayaṃ bhūmipappaṭakaṃ upakkamimha paribhuñjituṃ. Te mayaṃ taṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhamhā. Tesaṃ no pāpakānaṃyeva akusalānaṃ dhammānaṃ pātubhāvā bhūmipappaṭako antaradhāyi. Bhūmipappaṭake antarahite padālatā pāturahosi. Sā ahosi vaṇṇasampannā gandhasampannā rasasampannā. Te mayaṃ padālataṃ upakkamimha paribhuñjituṃ. Te mayaṃ taṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhamhā. Tesaṃ no pāpakānaṃyeva akusalānaṃ dhammānaṃ pātubhāvā padālatā antaradhāyi. Padālatāya antarahitāya akaṭṭhapāko sāli pāturahosi akaṇo athuso suddho sugandho taṇḍulapphalo. Yaṃ taṃ sāyaṃ sāyamāsāya āharāma, pāto taṃ hoti pakkaṃ paṭivirūḷhaṃ. Yaṃ taṃ pāto pātarāsāya āharāma, sāyaṃ taṃ hoti pakkaṃ paṭivirūḷhaṃ. Nāpadānaṃ paññāyittha. Te mayaṃ akaṭṭhapākaṃ sāliṃ paribhuñjantā taṃbhakkhā tadāhārā ciraṃ dīghamaddhānaṃ aṭṭhamhā. Tesaṃ no pāpakānaṃyeva akusalānaṃ dhammānaṃ pātubhāvā kaṇopi taṇḍulaṃ pariyonandhi, thusopi taṇḍulaṃ pariyonandhi, lūnampi nappaṭivirūḷhaṃ, apadānaṃ paññāyittha, saṇḍasaṇḍā sālayo ṭhitā. Yaṃnūna mayaṃ sāliṃ vibhajeyyāma, mariyādaṃ ṭhapeyyāmā’ti! Atha kho te, vāseṭṭha, sattā sāliṃ vibhajiṃsu, mariyādaṃ ṭhapesuṃ.
๑๒๙. ‘‘อถ โข, วาเสฎฺฐ, อญฺญตโร สโตฺต โลลชาติโก สกํ ภาคํ ปริรกฺขโนฺต อญฺญตรํ 57 ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภุญฺชิฯ ตเมนํ อคฺคเหสุํ, คเหตฺวา เอตทโวจุํ – ‘ปาปกํ วต, โภ สตฺต, กโรสิ, ยตฺร หิ นาม สกํ ภาคํ ปริรกฺขโนฺต อญฺญตรํ ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภุญฺชสิฯ มาสฺสุ, โภ สตฺต, ปุนปิ เอวรูปมกาสี’ติฯ ‘เอวํ, โภ’ติ โข, วาเสฎฺฐ, โส สโตฺต เตสํ สตฺตานํ ปจฺจโสฺสสิฯ ทุติยมฺปิ โข, วาเสฎฺฐ, โส สโตฺต…เป.… ตติยมฺปิ โข, วาเสฎฺฐ, โส สโตฺต สกํ ภาคํ ปริรกฺขโนฺต อญฺญตรํ ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภุญฺชิฯ ตเมนํ อคฺคเหสุํ, คเหตฺวา เอตทโวจุํ – ‘ปาปกํ วต, โภ สตฺต, กโรสิ, ยตฺร หิ นาม สกํ ภาคํ ปริรกฺขโนฺต อญฺญตรํ ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภุญฺชสิฯ มาสฺสุ, โภ สตฺต, ปุนปิ เอวรูปมกาสี’ติฯ อเญฺญ ปาณินา ปหริํสุ, อเญฺญ เลฑฺฑุนา ปหริํสุ, อเญฺญ ทเณฺฑน ปหริํสุฯ ตทเคฺค โข, วาเสฎฺฐ, อทินฺนาทานํ ปญฺญายติ, ครหา ปญฺญายติ, มุสาวาโท ปญฺญายติ, ทณฺฑาทานํ ปญฺญายติฯ
129. ‘‘Atha kho, vāseṭṭha, aññataro satto lolajātiko sakaṃ bhāgaṃ parirakkhanto aññataraṃ 58 bhāgaṃ adinnaṃ ādiyitvā paribhuñji. Tamenaṃ aggahesuṃ, gahetvā etadavocuṃ – ‘pāpakaṃ vata, bho satta, karosi, yatra hi nāma sakaṃ bhāgaṃ parirakkhanto aññataraṃ bhāgaṃ adinnaṃ ādiyitvā paribhuñjasi. Māssu, bho satta, punapi evarūpamakāsī’ti. ‘Evaṃ, bho’ti kho, vāseṭṭha, so satto tesaṃ sattānaṃ paccassosi. Dutiyampi kho, vāseṭṭha, so satto…pe… tatiyampi kho, vāseṭṭha, so satto sakaṃ bhāgaṃ parirakkhanto aññataraṃ bhāgaṃ adinnaṃ ādiyitvā paribhuñji. Tamenaṃ aggahesuṃ, gahetvā etadavocuṃ – ‘pāpakaṃ vata, bho satta, karosi, yatra hi nāma sakaṃ bhāgaṃ parirakkhanto aññataraṃ bhāgaṃ adinnaṃ ādiyitvā paribhuñjasi. Māssu, bho satta, punapi evarūpamakāsī’ti. Aññe pāṇinā pahariṃsu, aññe leḍḍunā pahariṃsu, aññe daṇḍena pahariṃsu. Tadagge kho, vāseṭṭha, adinnādānaṃ paññāyati, garahā paññāyati, musāvādo paññāyati, daṇḍādānaṃ paññāyati.
มหาสมฺมตราชา
Mahāsammatarājā
๑๓๐. ‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา สนฺนิปติํสุ, สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนิํสุ – ‘ปาปกา วต โภ ธมฺมา สเตฺตสุ ปาตุภูตา, ยตฺร หิ นาม อทินฺนาทานํ ปญฺญายิสฺสติ, ครหา ปญฺญายิสฺสติ, มุสาวาโท ปญฺญายิสฺสติ, ทณฺฑาทานํ ปญฺญายิสฺสติฯ ยํนูน มยํ เอกํ สตฺตํ สมฺมเนฺนยฺยาม, โย โน สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีเยยฺย, สมฺมา ครหิตพฺพํ ครเหยฺย, สมฺมา ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชยฺยฯ มยํ ปนสฺส สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทสฺสามา’ติฯ
130. ‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā sannipatiṃsu, sannipatitvā anutthuniṃsu – ‘pāpakā vata bho dhammā sattesu pātubhūtā, yatra hi nāma adinnādānaṃ paññāyissati, garahā paññāyissati, musāvādo paññāyissati, daṇḍādānaṃ paññāyissati. Yaṃnūna mayaṃ ekaṃ sattaṃ sammanneyyāma, yo no sammā khīyitabbaṃ khīyeyya, sammā garahitabbaṃ garaheyya, sammā pabbājetabbaṃ pabbājeyya. Mayaṃ panassa sālīnaṃ bhāgaṃ anuppadassāmā’ti.
‘‘อถ โข เต, วาเสฎฺฐ, สตฺตา โย เนสํ สโตฺต อภิรูปตโร จ ทสฺสนียตโร จ ปาสาทิกตโร จ มเหสกฺขตโร จ ตํ สตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีย, สมฺมา ครหิตพฺพํ ครห, สมฺมา ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชหิฯ มยํ ปน เต สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทสฺสามา’ติฯ ‘เอวํ, โภ’ติ โข, วาเสฎฺฐ, โส สโตฺต เตสํ สตฺตานํ ปฎิสฺสุณิตฺวา สมฺมา ขียิตพฺพํ ขียิ, สมฺมา ครหิตพฺพํ ครหิ, สมฺมา ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชสิฯ เต ปนสฺส สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทํสุฯ
‘‘Atha kho te, vāseṭṭha, sattā yo nesaṃ satto abhirūpataro ca dassanīyataro ca pāsādikataro ca mahesakkhataro ca taṃ sattaṃ upasaṅkamitvā etadavocuṃ – ‘ehi, bho satta, sammā khīyitabbaṃ khīya, sammā garahitabbaṃ garaha, sammā pabbājetabbaṃ pabbājehi. Mayaṃ pana te sālīnaṃ bhāgaṃ anuppadassāmā’ti. ‘Evaṃ, bho’ti kho, vāseṭṭha, so satto tesaṃ sattānaṃ paṭissuṇitvā sammā khīyitabbaṃ khīyi, sammā garahitabbaṃ garahi, sammā pabbājetabbaṃ pabbājesi. Te panassa sālīnaṃ bhāgaṃ anuppadaṃsu.
๑๓๑. ‘‘มหาชนสมฺมโตติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘มหาสมฺมโต, มหาสมฺมโต’ เตฺวว ปฐมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ เขตฺตานํ อธิปตีติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘ขตฺติโย, ขตฺติโย’ เตฺวว ทุติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ ธเมฺมน ปเร รเญฺชตีติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘ราชา, ราชา’ เตฺวว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เอวเมตสฺส ขตฺติยมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคเญฺญน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสํเยว สตฺตานํ, อนเญฺญสํฯ สทิสานํเยว, โน อสทิสานํฯ ธเมฺมเนว, โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
131. ‘‘Mahājanasammatoti kho, vāseṭṭha, ‘mahāsammato, mahāsammato’ tveva paṭhamaṃ akkharaṃ upanibbattaṃ. Khettānaṃ adhipatīti kho, vāseṭṭha, ‘khattiyo, khattiyo’ tveva dutiyaṃ akkharaṃ upanibbattaṃ. Dhammena pare rañjetīti kho, vāseṭṭha, ‘rājā, rājā’ tveva tatiyaṃ akkharaṃ upanibbattaṃ. Iti kho, vāseṭṭha, evametassa khattiyamaṇḍalassa porāṇena aggaññena akkharena abhinibbatti ahosi tesaṃyeva sattānaṃ, anaññesaṃ. Sadisānaṃyeva, no asadisānaṃ. Dhammeneva, no adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
พฺราหฺมณมณฺฑลํ
Brāhmaṇamaṇḍalaṃ
๑๓๒. ‘‘อถ โข เตสํ, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํเยว 59 เอกจฺจานํ เอตทโหสิ – ‘ปาปกา วต, โภ, ธมฺมา สเตฺตสุ ปาตุภูตา, ยตฺร หิ นาม อทินฺนาทานํ ปญฺญายิสฺสติ, ครหา ปญฺญายิสฺสติ, มุสาวาโท ปญฺญายิสฺสติ, ทณฺฑาทานํ ปญฺญายิสฺสติ, ปพฺพาชนํ ปญฺญายิสฺสติฯ ยํนูน มยํ ปาปเก อกุสเล ธเมฺม วาเหยฺยามา’ติฯ เต ปาปเก อกุสเล ธเมฺม วาเหสุํ ฯ ปาปเก อกุสเล ธเมฺม วาเหนฺตีติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘พฺราหฺมณา, พฺราหฺมณา’ เตฺวว ปฐมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ เต อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎิโย กริตฺวา ปณฺณกุฎีสุ ฌายนฺติ วีตงฺคารา วีตธูมา ปนฺนมุสลา สายํ สายมาสาย ปาโต ปาตราสาย คามนิคมราชธานิโย โอสรนฺติ ฆาสเมสมานา 60ฯ เต ฆาสํ ปฎิลภิตฺวา ปุนเทว อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ ฌายนฺติฯ ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิเม โข, โภ, สตฺตา อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎิโย กริตฺวา ปณฺณกุฎีสุ ฌายนฺติ, วีตงฺคารา วีตธูมา ปนฺนมุสลา สายํ สายมาสาย ปาโต ปาตราสาย คามนิคมราชธานิโย โอสรนฺติ ฆาสเมสมานาฯ เต ฆาสํ ปฎิลภิตฺวา ปุนเทว อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ ฌายนฺตี’ติ, ฌายนฺตีติ โข 61, วาเสฎฺฐ, ‘ฌายกา, ฌายกา’ เตฺวว ทุติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ เตสํเยว โข, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํ เอกเจฺจ สตฺตา อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ ตํ ฌานํ อนภิสมฺภุณมานา 62 คามสามนฺตํ นิคมสามนฺตํ โอสริตฺวา คเนฺถ กโรนฺตา อจฺฉนฺติฯ ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิเม โข, โภ, สตฺตา อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ ตํ ฌานํ อนภิสมฺภุณมานา คามสามนฺตํ นิคมสามนฺตํ โอสริตฺวา คเนฺถ กโรนฺตา อจฺฉนฺติ, น ทานิเม ฌายนฺตี’ติฯ น ทานิเม 63 ฌายนฺตีติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘อชฺฌายกา อชฺฌายกา’ เตฺวว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ หีนสมฺมตํ โข ปน, วาเสฎฺฐ, เตน สมเยน โหติ, ตเทตรหิ เสฎฺฐสมฺมตํฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เอวเมตสฺส พฺราหฺมณมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคเญฺญน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสํเยว สตฺตานํ , อนเญฺญสํ สทิสานํเยว โน อสทิสานํ ธเมฺมเนว , โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
132. ‘‘Atha kho tesaṃ, vāseṭṭha, sattānaṃyeva 64 ekaccānaṃ etadahosi – ‘pāpakā vata, bho, dhammā sattesu pātubhūtā, yatra hi nāma adinnādānaṃ paññāyissati, garahā paññāyissati, musāvādo paññāyissati, daṇḍādānaṃ paññāyissati, pabbājanaṃ paññāyissati. Yaṃnūna mayaṃ pāpake akusale dhamme vāheyyāmā’ti. Te pāpake akusale dhamme vāhesuṃ . Pāpake akusale dhamme vāhentīti kho, vāseṭṭha, ‘brāhmaṇā, brāhmaṇā’ tveva paṭhamaṃ akkharaṃ upanibbattaṃ. Te araññāyatane paṇṇakuṭiyo karitvā paṇṇakuṭīsu jhāyanti vītaṅgārā vītadhūmā pannamusalā sāyaṃ sāyamāsāya pāto pātarāsāya gāmanigamarājadhāniyo osaranti ghāsamesamānā 65. Te ghāsaṃ paṭilabhitvā punadeva araññāyatane paṇṇakuṭīsu jhāyanti. Tamenaṃ manussā disvā evamāhaṃsu – ‘ime kho, bho, sattā araññāyatane paṇṇakuṭiyo karitvā paṇṇakuṭīsu jhāyanti, vītaṅgārā vītadhūmā pannamusalā sāyaṃ sāyamāsāya pāto pātarāsāya gāmanigamarājadhāniyo osaranti ghāsamesamānā. Te ghāsaṃ paṭilabhitvā punadeva araññāyatane paṇṇakuṭīsu jhāyantī’ti, jhāyantīti kho 66, vāseṭṭha, ‘jhāyakā, jhāyakā’ tveva dutiyaṃ akkharaṃ upanibbattaṃ. Tesaṃyeva kho, vāseṭṭha, sattānaṃ ekacce sattā araññāyatane paṇṇakuṭīsu taṃ jhānaṃ anabhisambhuṇamānā 67 gāmasāmantaṃ nigamasāmantaṃ osaritvā ganthe karontā acchanti. Tamenaṃ manussā disvā evamāhaṃsu – ‘ime kho, bho, sattā araññāyatane paṇṇakuṭīsu taṃ jhānaṃ anabhisambhuṇamānā gāmasāmantaṃ nigamasāmantaṃ osaritvā ganthe karontā acchanti, na dānime jhāyantī’ti. Na dānime 68 jhāyantīti kho, vāseṭṭha, ‘ajjhāyakā ajjhāyakā’ tveva tatiyaṃ akkharaṃ upanibbattaṃ. Hīnasammataṃ kho pana, vāseṭṭha, tena samayena hoti, tadetarahi seṭṭhasammataṃ. Iti kho, vāseṭṭha, evametassa brāhmaṇamaṇḍalassa porāṇena aggaññena akkharena abhinibbatti ahosi tesaṃyeva sattānaṃ , anaññesaṃ sadisānaṃyeva no asadisānaṃ dhammeneva , no adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
เวสฺสมณฺฑลํ
Vessamaṇḍalaṃ
๑๓๓. ‘‘เตสํเยว โข, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํ เอกเจฺจ สตฺตา เมถุนํ ธมฺมํ สมาทาย วิสุกมฺมเนฺต 69 ปโยเชสุํฯ เมถุนํ ธมฺมํ สมาทาย วิสุกมฺมเนฺต ปโยเชนฺตีติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘เวสฺสา, เวสฺสา’ เตฺวว อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เอวเมตสฺส เวสฺสมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคเญฺญน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสเญฺญว สตฺตานํ อนเญฺญสํ สทิสานํเยว , โน อสทิสานํ, ธเมฺมเนว โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
133. ‘‘Tesaṃyeva kho, vāseṭṭha, sattānaṃ ekacce sattā methunaṃ dhammaṃ samādāya visukammante 70 payojesuṃ. Methunaṃ dhammaṃ samādāya visukammante payojentīti kho, vāseṭṭha, ‘vessā, vessā’ tveva akkharaṃ upanibbattaṃ. Iti kho, vāseṭṭha, evametassa vessamaṇḍalassa porāṇena aggaññena akkharena abhinibbatti ahosi tesaññeva sattānaṃ anaññesaṃ sadisānaṃyeva , no asadisānaṃ, dhammeneva no adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
สุทฺทมณฺฑลํ
Suddamaṇḍalaṃ
๑๓๔. ‘‘เตสเญฺญว โข, วาเสฎฺฐ, สตฺตานํ เย เต สตฺตา อวเสสา เต ลุทฺทาจารา ขุทฺทาจารา อเหสุํฯ ลุทฺทาจารา ขุทฺทาจาราติ โข, วาเสฎฺฐ, ‘สุทฺทา, สุทฺทา’ เตฺวว อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํฯ อิติ โข, วาเสฎฺฐ, เอวเมตสฺส สุทฺทมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคเญฺญน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสํเยว สตฺตานํ อนเญฺญสํ, สทิสานํเยว โน อสทิสานํ, ธเมฺมเนว, โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
134. ‘‘Tesaññeva kho, vāseṭṭha, sattānaṃ ye te sattā avasesā te luddācārā khuddācārā ahesuṃ. Luddācārā khuddācārāti kho, vāseṭṭha, ‘suddā, suddā’ tveva akkharaṃ upanibbattaṃ. Iti kho, vāseṭṭha, evametassa suddamaṇḍalassa porāṇena aggaññena akkharena abhinibbatti ahosi tesaṃyeva sattānaṃ anaññesaṃ, sadisānaṃyeva no asadisānaṃ, dhammeneva, no adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
๑๓๕. ‘‘อหุ โข โส, วาเสฎฺฐ, สมโย, ยํ ขตฺติโยปิ สกํ ธมฺมํ ครหมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ – ‘สมโณ ภวิสฺสามี’ติฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… เวโสฺสปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ, สกํ ธมฺมํ ครหมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ – ‘สมโณ ภวิสฺสามี’ติฯ อิเมหิ โข, วาเสฎฺฐ, จตูหิ มณฺฑเลหิ สมณมณฺฑลสฺส อภินิพฺพตฺติ อโหสิ, เตสํเยว สตฺตานํ อนเญฺญสํ, สทิสานํเยว โน อสทิสานํ, ธเมฺมเนว โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
135. ‘‘Ahu kho so, vāseṭṭha, samayo, yaṃ khattiyopi sakaṃ dhammaṃ garahamāno agārasmā anagāriyaṃ pabbajati – ‘samaṇo bhavissāmī’ti. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha…pe… vessopi kho, vāseṭṭha…pe… suddopi kho, vāseṭṭha, sakaṃ dhammaṃ garahamāno agārasmā anagāriyaṃ pabbajati – ‘samaṇo bhavissāmī’ti. Imehi kho, vāseṭṭha, catūhi maṇḍalehi samaṇamaṇḍalassa abhinibbatti ahosi, tesaṃyeva sattānaṃ anaññesaṃ, sadisānaṃyeva no asadisānaṃ, dhammeneva no adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
ทุจฺจริตาทิกถา
Duccaritādikathā
๑๓๖. ‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา มิจฺฉาทิฎฺฐิโก มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทาโน 71 มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… เวโสฺสปิ โข, วาเสฎฺฐ… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ… สมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา มิจฺฉาทิฎฺฐิโก มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทาโน มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ
136. ‘‘Khattiyopi kho, vāseṭṭha, kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā micchādiṭṭhiko micchādiṭṭhikammasamādāno 72 micchādiṭṭhikammasamādānahetu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha…pe… vessopi kho, vāseṭṭha… suddopi kho, vāseṭṭha… samaṇopi kho, vāseṭṭha, kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā micchādiṭṭhiko micchādiṭṭhikammasamādāno micchādiṭṭhikammasamādānahetu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati.
‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา สมฺมาทิฎฺฐิโก สมฺมาทิฎฺฐิกมฺมสมาทาโน 73 สมฺมาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… เวโสฺสปิ โข, วาเสฎฺฐ… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ… สมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา สมฺมาทิฎฺฐิโก สมฺมาทิฎฺฐิกมฺมสมาทาโน สมฺมาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ
‘‘Khattiyopi kho, vāseṭṭha, kāyena sucaritaṃ caritvā vācāya sucaritaṃ caritvā manasā sucaritaṃ caritvā sammādiṭṭhiko sammādiṭṭhikammasamādāno 74 sammādiṭṭhikammasamādānahetu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha…pe… vessopi kho, vāseṭṭha… suddopi kho, vāseṭṭha… samaṇopi kho, vāseṭṭha, kāyena sucaritaṃ caritvā vācāya sucaritaṃ caritvā manasā sucaritaṃ caritvā sammādiṭṭhiko sammādiṭṭhikammasamādāno sammādiṭṭhikammasamādānahetu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati.
๑๓๗. ‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน ทฺวยการี, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี, วิมิสฺสทิฎฺฐิโก วิมิสฺสทิฎฺฐิกมฺมสมาทาโน วิมิสฺสทิฎฺฐิกมฺมสมาทานเหตุ 75 กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุขทุกฺขปฺปฎิสํเวที โหติฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ …เป.… เวโสฺสปิ โข, วาเสฎฺฐ… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ… สมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน ทฺวยการี , วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี, วิมิสฺสทิฎฺฐิโก วิมิสฺสทิฎฺฐิกมฺมสมาทาโน วิมิสฺสทิฎฺฐิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุขทุกฺขปฺปฎิสํเวที โหติฯ
137. ‘‘Khattiyopi kho, vāseṭṭha, kāyena dvayakārī, vācāya dvayakārī, manasā dvayakārī, vimissadiṭṭhiko vimissadiṭṭhikammasamādāno vimissadiṭṭhikammasamādānahetu 76 kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sukhadukkhappaṭisaṃvedī hoti. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha …pe… vessopi kho, vāseṭṭha… suddopi kho, vāseṭṭha… samaṇopi kho, vāseṭṭha, kāyena dvayakārī , vācāya dvayakārī, manasā dvayakārī, vimissadiṭṭhiko vimissadiṭṭhikammasamādāno vimissadiṭṭhikammasamādānahetu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sukhadukkhappaṭisaṃvedī hoti.
โพธิปกฺขิยภาวนา
Bodhipakkhiyabhāvanā
๑๓๘. ‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนมนฺวาย ทิเฎฺฐว ธเมฺม ปรินิพฺพายติ 77ฯ พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ…เป.… เวโสฺสปิ โข วาเสฎฺฐ… สุโทฺทปิ โข, วาเสฎฺฐ … สมโณปิ โข, วาเสฎฺฐ, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนมนฺวาย ทิเฎฺฐว ธเมฺม ปรินิพฺพายติฯ
138. ‘‘Khattiyopi kho, vāseṭṭha, kāyena saṃvuto vācāya saṃvuto manasā saṃvuto sattannaṃ bodhipakkhiyānaṃ dhammānaṃ bhāvanamanvāya diṭṭheva dhamme parinibbāyati 78. Brāhmaṇopi kho, vāseṭṭha…pe… vessopi kho vāseṭṭha… suddopi kho, vāseṭṭha … samaṇopi kho, vāseṭṭha, kāyena saṃvuto vācāya saṃvuto manasā saṃvuto sattannaṃ bodhipakkhiyānaṃ dhammānaṃ bhāvanamanvāya diṭṭheva dhamme parinibbāyati.
๑๓๙. ‘‘อิเมสญฺหิ, วาเสฎฺฐ, จตุนฺนํ วณฺณานํ โย โหติ ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต โส เนสํ อคฺคมกฺขายติ ธเมฺมเนวฯ โน อธเมฺมนฯ ธโมฺม หิ, วาเสฎฺฐ, เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อภิสมฺปรายญฺจฯ
139. ‘‘Imesañhi, vāseṭṭha, catunnaṃ vaṇṇānaṃ yo hoti bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto so nesaṃ aggamakkhāyati dhammeneva. No adhammena. Dhammo hi, vāseṭṭha, seṭṭho janetasmiṃ diṭṭhe ceva dhamme abhisamparāyañca.
๑๔๐. ‘‘พฺรหฺมุนา เปสา, วาเสฎฺฐ, สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา –
140. ‘‘Brahmunā pesā, vāseṭṭha, sanaṅkumārena gāthā bhāsitā –
‘ขตฺติโย เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ, เย โคตฺตปฎิสาริโน;
‘Khattiyo seṭṭho janetasmiṃ, ye gottapaṭisārino;
วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน, โส เสโฎฺฐ เทวมานุเส’ติฯ
Vijjācaraṇasampanno, so seṭṭho devamānuse’ti.
‘‘สา โข ปเนสา, วาเสฎฺฐ, พฺรหฺมุนา สนงฺกุมาเรน คาถา สุคีตา, โน ทุคฺคีตาฯ สุภาสิตา, โน ทุพฺภาสิตาฯ อตฺถสํหิตา, โน อนตฺถสํหิตาฯ อนุมตา มยาฯ อหมฺปิ, วาเสฎฺฐ, เอวํ วทามิ –
‘‘Sā kho panesā, vāseṭṭha, brahmunā sanaṅkumārena gāthā sugītā, no duggītā. Subhāsitā, no dubbhāsitā. Atthasaṃhitā, no anatthasaṃhitā. Anumatā mayā. Ahampi, vāseṭṭha, evaṃ vadāmi –
‘ขตฺติโย เสโฎฺฐ ชเนตสฺมิํ, เย โคตฺตปฎิสาริโน;
‘Khattiyo seṭṭho janetasmiṃ, ye gottapaṭisārino;
วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน, โส เสโฎฺฐ เทวมานุเส’ติฯ
Vijjācaraṇasampanno, so seṭṭho devamānuse’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา วาเสฎฺฐภารทฺวาชา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamanā vāseṭṭhabhāradvājā bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.
อคฺคญฺญสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ
Aggaññasuttaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā) / ๔. อคฺคญฺญสุตฺตวณฺณนา • 4. Aggaññasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā) / ๔. อคฺคญฺญสุตฺตวณฺณนา • 4. Aggaññasuttavaṇṇanā