Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi

    อคฺคาสนาทิอนุชานนํ

    Aggāsanādianujānanaṃ

    ๓๑๐. อถ โข ภควา เวสาลิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ ฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ อเนฺตวาสิกา ภิกฺขู พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา วิหาเร ปริคฺคณฺหนฺติ, เสยฺยาโย ปริคฺคณฺหนฺติ – อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ อาจริยานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสตี’’ติฯ

    310. Atha kho bhagavā vesāliyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena sāvatthi tena cārikaṃ pakkāmi . Tena kho pana samayena chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ antevāsikā bhikkhū buddhappamukhassa saṅghassa purato purato gantvā vihāre pariggaṇhanti, seyyāyo pariggaṇhanti – idaṃ amhākaṃ upajjhāyānaṃ bhavissati, idaṃ amhākaṃ ācariyānaṃ bhavissati, idaṃ amhākaṃ bhavissatī’’ti.

    อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต คนฺตฺวา วิหาเรสุ ปริคฺคหิเตสุ, เสยฺยาสุ ปริคฺคหิตาสุ, เสยฺยํ อลภมาโน อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสีทิฯ อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฎฺฐาย อุกฺกาสิฯ อายสฺมาปิ สาริปุโตฺต อุกฺกาสิฯ ‘‘โก เอตฺถา’’ติ? ‘‘อหํ, ภควา, สาริปุโตฺต’’ติฯ ‘‘กิสฺส ตฺวํ, สาริปุตฺตํ, อิธ นิสิโนฺน’’ติ? อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ อเนฺตวาสิกา ภิกฺขู พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา วิหาเร ปริคฺคณฺหนฺติ, เสยฺยาโย ปริคฺคณฺหนฺติ – อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ อาจริยานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… ‘‘กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา วิหาเร ปริคฺคเหสฺสนฺติ, เสยฺยาโย ปริคฺคเหสฺสนฺติ – อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ อาจริยานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสตีติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘โก, ภิกฺขเว, อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติ?

    Atha kho āyasmā sāriputto buddhappamukhassa saṅghassa piṭṭhito piṭṭhito gantvā vihāresu pariggahitesu, seyyāsu pariggahitāsu, seyyaṃ alabhamāno aññatarasmiṃ rukkhamūle nisīdi. Atha kho bhagavā rattiyā paccūsasamayaṃ paccuṭṭhāya ukkāsi. Āyasmāpi sāriputto ukkāsi. ‘‘Ko etthā’’ti? ‘‘Ahaṃ, bhagavā, sāriputto’’ti. ‘‘Kissa tvaṃ, sāriputtaṃ, idha nisinno’’ti? Atha kho āyasmā sāriputto bhagavato etamatthaṃ ārocesi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ antevāsikā bhikkhū buddhappamukhassa saṅghassa purato purato gantvā vihāre pariggaṇhanti, seyyāyo pariggaṇhanti – idaṃ amhākaṃ upajjhāyānaṃ bhavissati, idaṃ amhākaṃ ācariyānaṃ bhavissati, idaṃ amhākaṃ bhavissatī’’ti? ‘‘Saccaṃ bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… ‘‘kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā buddhappamukhassa saṅghassa purato purato gantvā vihāre pariggahessanti, seyyāyo pariggahessanti – idaṃ amhākaṃ upajjhāyānaṃ bhavissati, idaṃ amhākaṃ ācariyānaṃ bhavissati, idaṃ amhākaṃ bhavissatīti! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘ko, bhikkhave, arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti?

    เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ขตฺติยกุลา ปพฺพชิโต โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิโต โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, คหปติกุลา ปพฺพชิโต โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, สุตฺตนฺติโก โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, วินยธโร โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ธมฺมกถิโก โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ตติยสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, โสตาปโนฺน โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, สกทาคามี…เป.… โย, ภควา, อนาคามี…เป.… โย, ภควา , อรหา โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, เตวิโชฺช โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ฉฬภิโญฺญ โส อรหติ อคฺคาสนํ อโคฺคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ

    Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, khattiyakulā pabbajito so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, brāhmaṇakulā pabbajito so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, gahapatikulā pabbajito so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, suttantiko so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, vinayadharo so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, dhammakathiko so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, paṭhamassa jhānassa lābhī so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, dutiyassa jhānassa lābhī so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, tatiyassa jhānassa lābhī so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, catutthassa jhānassa lābhī so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, sotāpanno so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, sakadāgāmī…pe… yo, bhagavā, anāgāmī…pe… yo, bhagavā , arahā so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, tevijjo so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti. Ekacce bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘yo, bhagavā, chaḷabhiñño so arahati aggāsanaṃ aggodakaṃ aggapiṇḍa’’nti.

    ๓๑๑. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, หิมวนฺตปเทเส 1 มหานิโคฺรโธ อโหสิฯ ตํ ตโย สหายา อุปนิสฺสาย วิหริํสุ – ติตฺติโร จ, มกฺกโฎ จ, หตฺถินาโค จฯ เต อญฺญมญฺญํ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เตสํ สหายานํ เอตทโหสิ – ‘อโห นูน มยํ ชาเนยฺยาม ยํ อมฺหากํ ชาติยา มหนฺตตรํ ตํ มยํ สกฺกเรยฺยาม ครุํ กเรยฺยาม มาเนยฺยาม ปูเชยฺยาม, ตสฺส จ มยํ โอวาเท ติเฎฺฐยฺยามา’ติฯ

    311. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhūtapubbaṃ, bhikkhave, himavantapadese 2 mahānigrodho ahosi. Taṃ tayo sahāyā upanissāya vihariṃsu – tittiro ca, makkaṭo ca, hatthināgo ca. Te aññamaññaṃ agāravā appatissā asabhāgavuttikā viharanti. Atha kho, bhikkhave, tesaṃ sahāyānaṃ etadahosi – ‘aho nūna mayaṃ jāneyyāma yaṃ amhākaṃ jātiyā mahantataraṃ taṃ mayaṃ sakkareyyāma garuṃ kareyyāma māneyyāma pūjeyyāma, tassa ca mayaṃ ovāde tiṭṭheyyāmā’ti.

    ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ติตฺติโร จ มกฺกโฎ จ หตฺถินาคํ ปุจฺฉิํสุ – ‘ตฺวํ, สมฺม, กิํ โปราณํ สรสี’ติ? ‘ยทาหํ, สมฺมา, โปโต โหมิ, อิมํ นิโคฺรธํ อนฺตรา สตฺถีนํ 3 กริตฺวา อติกฺกมามิ, อคฺคงฺกุรกํ เม อุทรํ ฉุปติฯ อิมาหํ, สมฺมา, โปราณํ สรามี’ติฯ

    ‘‘Atha kho, bhikkhave, tittiro ca makkaṭo ca hatthināgaṃ pucchiṃsu – ‘tvaṃ, samma, kiṃ porāṇaṃ sarasī’ti? ‘Yadāhaṃ, sammā, poto homi, imaṃ nigrodhaṃ antarā satthīnaṃ 4 karitvā atikkamāmi, aggaṅkurakaṃ me udaraṃ chupati. Imāhaṃ, sammā, porāṇaṃ sarāmī’ti.

    ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ติตฺติโร จ หตฺถินาโค จ มกฺกฎํ ปุจฺฉิํสุ – ‘ตฺวํ, สมฺม, กิํ โปราณํ สรสี’ติ? ‘ยทาหํ, สมฺมา, ฉาโป โหมิ, ฉมายํ นิสีทิตฺวา อิมสฺส นิโคฺรธสฺส อคฺคงฺกุรกํ ขาทามิฯ อิมาหํ, สมฺมา, โปราณํ สรามี’ติฯ

    ‘‘Atha kho, bhikkhave, tittiro ca hatthināgo ca makkaṭaṃ pucchiṃsu – ‘tvaṃ, samma, kiṃ porāṇaṃ sarasī’ti? ‘Yadāhaṃ, sammā, chāpo homi, chamāyaṃ nisīditvā imassa nigrodhassa aggaṅkurakaṃ khādāmi. Imāhaṃ, sammā, porāṇaṃ sarāmī’ti.

    ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มกฺกโฎ จ หตฺถินาโค จ ติตฺติรํ ปุจฺฉิํสุ – ‘ตฺวํ, สมฺม, กิํ โปราณํ สรสี’ติ? ‘อมุกสฺมิํ, สมฺมา, โอกาเส มหานิโคฺรโธ อโหสิฯ ตโต อหํ ผลํ ภกฺขิตฺวา อิมสฺมิํ โอกาเส วจฺจํ อกาสิํ; ตสฺสายํ นิโคฺรโธ ชาโตฯ ตทาหํ, สมฺมา, ชาติยา มหนฺตตโร’ติ ฯ

    ‘‘Atha kho, bhikkhave, makkaṭo ca hatthināgo ca tittiraṃ pucchiṃsu – ‘tvaṃ, samma, kiṃ porāṇaṃ sarasī’ti? ‘Amukasmiṃ, sammā, okāse mahānigrodho ahosi. Tato ahaṃ phalaṃ bhakkhitvā imasmiṃ okāse vaccaṃ akāsiṃ; tassāyaṃ nigrodho jāto. Tadāhaṃ, sammā, jātiyā mahantataro’ti .

    ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มกฺกโฎ จ หตฺถินาโค จ ติตฺติรํ เอตทโวจุํ – ‘ตฺวํ, สมฺม, อมฺหากํ ชาติยา มหนฺตตโรฯ ตํ มยํ สกฺกริสฺสาม ครุํ กริสฺสาม มาเนสฺสาม ปูเชสฺสาม, ตุยฺหญฺจ มยํ โอวาเท ปติฎฺฐิสฺสามา’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, ติตฺติโร มกฺกฎญฺจ หตฺถินาคญฺจ ปญฺจสุ สีเลสุ สมาทเปสิ, อตฺตนา จ ปญฺจสุ สีเลสุ สมาทาย วตฺตติฯ เต อญฺญมญฺญํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติกา วิหริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิํสุฯ เอวํ โข ตํ, ภิกฺขเว, ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสิฯ

    ‘‘Atha kho, bhikkhave, makkaṭo ca hatthināgo ca tittiraṃ etadavocuṃ – ‘tvaṃ, samma, amhākaṃ jātiyā mahantataro. Taṃ mayaṃ sakkarissāma garuṃ karissāma mānessāma pūjessāma, tuyhañca mayaṃ ovāde patiṭṭhissāmā’ti. Atha kho, bhikkhave, tittiro makkaṭañca hatthināgañca pañcasu sīlesu samādapesi, attanā ca pañcasu sīlesu samādāya vattati. Te aññamaññaṃ sagāravā sappatissā sabhāgavuttikā viharitvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjiṃsu. Evaṃ kho taṃ, bhikkhave, tittiriyaṃ nāma brahmacariyaṃ ahosi.

    5 ‘‘เย วุฑฺฒมปจายนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;

    6 ‘‘Ye vuḍḍhamapacāyanti, narā dhammassa kovidā;

    ทิเฎฺฐ ธเมฺม จ ปาสํสา, สมฺปราเย จ สุคฺคตี’’ติฯ

    Diṭṭhe dhamme ca pāsaṃsā, samparāye ca suggatī’’ti.

    ‘‘เต หิ นาม, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา อญฺญมญฺญํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติกา วิหริสฺสนฺติฯ อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ ยํ ตุเมฺห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา อญฺญมญฺญํ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหเรยฺยาถ? เนตํ, ภิกฺขเว , อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยถาวุฑฺฒํ อภิวาทนํ, ปจฺจุฎฺฐานํ, อญฺชลิกมฺมํ, สามีจิกมฺมํ, อคฺคาสนํ, อโคฺคทกํ, อคฺคปิณฺฑํฯ น จ, ภิกฺขเว, สงฺฆิกํ ยถาวุฑฺฒํ ปฎิพาหิตพฺพํฯ โย ปฎิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    ‘‘Te hi nāma, bhikkhave, tiracchānagatā pāṇā aññamaññaṃ sagāravā sappatissā sabhāgavuttikā viharissanti. Idha kho taṃ, bhikkhave, sobhetha yaṃ tumhe evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitā samānā aññamaññaṃ agāravā appatissā asabhāgavuttikā vihareyyātha? Netaṃ, bhikkhave , appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yathāvuḍḍhaṃ abhivādanaṃ, paccuṭṭhānaṃ, añjalikammaṃ, sāmīcikammaṃ, aggāsanaṃ, aggodakaṃ, aggapiṇḍaṃ. Na ca, bhikkhave, saṅghikaṃ yathāvuḍḍhaṃ paṭibāhitabbaṃ. Yo paṭibāheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.







    Footnotes:
    1. หิมวนฺตปเสฺส (สี. สฺยา.)
    2. himavantapasse (sī. syā.)
    3. อนฺตราสตฺถิกํ (สี.)
    4. antarāsatthikaṃ (sī.)
    5. ชา. ๑.๑.๓๗
    6. jā. 1.1.37



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / วิหารานุชานนกถา • Vihārānujānanakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อคฺคาสนาทิอนุชานนกถาวณฺณนา • Aggāsanādianujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / วิหารานุชานนกถาวณฺณนา • Vihārānujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / วิหารานุชานนกถา • Vihārānujānanakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact