Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) |
๒. อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา
2. Aggivacchasuttavaṇṇanā
๑๘๗. เอวํ เม สุตนฺติ อคฺคิวจฺฉสุตฺตํฯ ตตฺถ น โข อหนฺติ ปฐมวาเร นาหํ สสฺสตทิฎฺฐิโกติ วทติ, ทุติเย นาหํ อุเจฺฉททิฎฺฐิโกติฯ เอวํ อนฺตานนฺติกาทิวเสน สพฺพวาเรสุ ปฎิเกฺขโป เวทิตโพฺพฯ โหติ จ น จ โหตีติ อยํ ปเนตฺถ เอกจฺจสสฺสตวาโทฯ เนว โหติ น น โหตีติ อยํ อมราวิเกฺขโปติ เวทิตโพฺพฯ
187.Evaṃme sutanti aggivacchasuttaṃ. Tattha na kho ahanti paṭhamavāre nāhaṃ sassatadiṭṭhikoti vadati, dutiye nāhaṃ ucchedadiṭṭhikoti. Evaṃ antānantikādivasena sabbavāresu paṭikkhepo veditabbo. Hoti ca na ca hotīti ayaṃ panettha ekaccasassatavādo. Neva hoti na na hotīti ayaṃ amarāvikkhepoti veditabbo.
๑๘๙. สทุกฺขนฺติ กิเลสทุเกฺขน เจว วิปากทุเกฺขน จ สทุกฺขํฯ สวิฆาตนฺติ เตสํเยว ทฺวินฺนํ วเสน สอุปฆาตกํฯ สอุปายาสนฺติ เตสํเยว วเสน สอุปายาสํฯ สปริฬาหนฺติ เตสํเยว วเสน สปริฬาหํฯ
189.Sadukkhanti kilesadukkhena ceva vipākadukkhena ca sadukkhaṃ. Savighātanti tesaṃyeva dvinnaṃ vasena saupaghātakaṃ. Saupāyāsanti tesaṃyeva vasena saupāyāsaṃ. Sapariḷāhanti tesaṃyeva vasena sapariḷāhaṃ.
กิญฺจิ ทิฎฺฐิคตนฺติ กาจิ เอกา ทิฎฺฐิปิ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คหิตา อตฺถีติ ปุจฺฉติฯ อปนีตนฺติ นีหฎํ อปวิทฺธํฯ ทิฎฺฐนฺติ ปญฺญาย ทิฎฺฐํฯ ตสฺมาติ ยสฺมา ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยวยํ อทฺทส, ตสฺมาฯ สพฺพมญฺญิตานนฺติ สเพฺพสํ ติณฺณมฺปิ ตณฺหาทิฎฺฐิมานมญฺญิตานํฯ มถิตานนฺติ เตสํเยว เววจนํฯ อิทานิ ตานิ วิภชิตฺวา ทเสฺสโนฺต สพฺพอหํการ-มมํการ-มานานุสยานนฺติ อาหฯ เอตฺถ หิ อหํกาโร ทิฎฺฐิ, มมํกาโร ตณฺหา, มานานุสโย มาโนฯ อนุปาทา วิมุโตฺตติ จตูหิ อุปาทาเนหิ กญฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา วิมุโตฺตฯ
Kiñci diṭṭhigatanti kāci ekā diṭṭhipi ruccitvā khamāpetvā gahitā atthīti pucchati. Apanītanti nīhaṭaṃ apaviddhaṃ. Diṭṭhanti paññāya diṭṭhaṃ. Tasmāti yasmā pañcannaṃ khandhānaṃ udayavayaṃ addasa, tasmā. Sabbamaññitānanti sabbesaṃ tiṇṇampi taṇhādiṭṭhimānamaññitānaṃ. Mathitānanti tesaṃyeva vevacanaṃ. Idāni tāni vibhajitvā dassento sabbaahaṃkāra-mamaṃkāra-mānānusayānanti āha. Ettha hi ahaṃkāro diṭṭhi, mamaṃkāro taṇhā, mānānusayo māno. Anupādā vimuttoti catūhi upādānehi kañci dhammaṃ anupādiyitvā vimutto.
๑๙๐. น อุเปตีติ น ยุชฺชติฯ เอตฺถ จ ‘‘น อุปปชฺชตี’’ติ อิทํ อนุชานิตพฺพํ สิยาฯ ยสฺมา ปน เอวํ วุเตฺต โส ปริพฺพาชโก อุเจฺฉทํ คเณฺหยฺย, อุปปชฺชตีติ ปน สสฺสตเมว, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ เอกจฺจสสฺสตํ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ อมราวิเกฺขปํ, ตสฺมา ภควา – ‘‘อยํ อปฺปติโฎฺฐ อนาลโมฺพ โหตุ, สุขปเวสนฎฺฐานํ มา ลภตู’’ติ อนนุญฺญาย ฐตฺวา อนุญฺญมฺปิ ปฎิกฺขิปิฯ อลนฺติ สมตฺถํ ปริยตฺตํ ฯ ธโมฺมติ ปจฺจยาการธโมฺมฯ อญฺญตฺรโยเคนาติ อญฺญตฺถ ปโยเคนฯ อญฺญตฺราจริยเกนาติ ปจฺจยาการํ อชานนฺตานํ อเญฺญสํ อาจริยานํ สนฺติเก วสเนฺตนฯ
190.Na upetīti na yujjati. Ettha ca ‘‘na upapajjatī’’ti idaṃ anujānitabbaṃ siyā. Yasmā pana evaṃ vutte so paribbājako ucchedaṃ gaṇheyya, upapajjatīti pana sassatameva, upapajjati ca na ca upapajjatīti ekaccasassataṃ, neva upapajjati na na upapajjatīti amarāvikkhepaṃ, tasmā bhagavā – ‘‘ayaṃ appatiṭṭho anālambo hotu, sukhapavesanaṭṭhānaṃ mā labhatū’’ti ananuññāya ṭhatvā anuññampi paṭikkhipi. Alanti samatthaṃ pariyattaṃ . Dhammoti paccayākāradhammo. Aññatrayogenāti aññattha payogena. Aññatrācariyakenāti paccayākāraṃ ajānantānaṃ aññesaṃ ācariyānaṃ santike vasantena.
๑๙๑. เตน หิ วจฺฉาติ ยสฺมา ตฺวํ สโมฺมหมาปาทินฺติ วทสิ, ตสฺมา ตํเยเวตฺถ ปฎิปุจฺฉิสฺสามิฯ อนาหาโร นิพฺพุโตติ อปฺปจฺจโย นิพฺพุโตฯ
191.Tena hi vacchāti yasmā tvaṃ sammohamāpādinti vadasi, tasmā taṃyevettha paṭipucchissāmi. Anāhāronibbutoti appaccayo nibbuto.
๑๙๒. เยน รูเปนาติ เยน รูเปน สตฺตสงฺขาตํ ตถาคตํ รูปีติ ปญฺญาเปยฺยฯ คมฺภีโรติ คุณคมฺภีโรฯ อปฺปเมโยฺยติ ปมาณํ คณฺหิตุํ น สกฺกุเณโยฺยฯ ทุปฺปริโยคาโฬฺหติ ทุโอคาโห ทุชฺชาโนฯ เสยฺยถาปิ มหาสมุโทฺทติ ยถา มหาสมุโทฺท คมฺภีโร อปฺปเมโยฺย ทุชฺชาโน, เอวเมว ขีณาสโวปิฯ ตํ อารพฺภ อุปปชฺชตีติอาทิ สพฺพํ น ยุชฺชติฯ กถํ? ยถา ปรินิพฺพุตํ อคฺคิํ อารพฺภ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คโตติอาทิ สพฺพํ น ยุชฺชติ, เอวํฯ
192.Yena rūpenāti yena rūpena sattasaṅkhātaṃ tathāgataṃ rūpīti paññāpeyya. Gambhīroti guṇagambhīro. Appameyyoti pamāṇaṃ gaṇhituṃ na sakkuṇeyyo. Duppariyogāḷhoti duogāho dujjāno. Seyyathāpi mahāsamuddoti yathā mahāsamuddo gambhīro appameyyo dujjāno, evameva khīṇāsavopi. Taṃ ārabbha upapajjatītiādi sabbaṃ na yujjati. Kathaṃ? Yathā parinibbutaṃ aggiṃ ārabbha puratthimaṃ disaṃ gatotiādi sabbaṃ na yujjati, evaṃ.
อนิจฺจตาติ อนิจฺจตายฯ สาเร ปติฎฺฐิตนฺติ โลกุตฺตรธมฺมสาเร ปติฎฺฐิตํฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Aniccatāti aniccatāya. Sāre patiṭṭhitanti lokuttaradhammasāre patiṭṭhitaṃ. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย
Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya
อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Aggivacchasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๒. อคฺคิวจฺฉสุตฺตํ • 2. Aggivacchasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๒. อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา • 2. Aggivacchasuttavaṇṇanā