Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๑๑. อหิํสานิคฺคหปโญฺห

    11. Ahiṃsāniggahapañho

    ๑๑. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ภาสิตเมฺปตํ ภควตา ‘อหิํสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’ติฯ ปุน จ ภณิตํ ‘นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ, ปคฺคเณฺห ปคฺคหารห’นฺติฯ นิคฺคโห นาม, ภเนฺต นาคเสน, หตฺถเจฺฉโท ปาทเจฺฉโท วโธ พนฺธนํ การณา มารณํ สนฺตติวิโกปนํ, น เอตํ วจนํ ภควโต ยุตฺตํ, น จ ภควา อรหติ เอตํ วจนํ วตฺตุํฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘อหิํสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’’ติ, เตน หิ ‘‘นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ, ปคฺคเณฺห ปคฺคหารห’’นฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘‘นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ, ปคฺคเณฺห ปคฺคหารห’’นฺติ, เตน หิ ‘‘อหิํสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโตฺต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพ’’ติฯ

    11. ‘‘Bhante nāgasena, bhāsitampetaṃ bhagavatā ‘ahiṃsayaṃ paraṃ loke, piyo hohisi māmako’ti. Puna ca bhaṇitaṃ ‘niggaṇhe niggahārahaṃ, paggaṇhe paggahāraha’nti. Niggaho nāma, bhante nāgasena, hatthacchedo pādacchedo vadho bandhanaṃ kāraṇā māraṇaṃ santativikopanaṃ, na etaṃ vacanaṃ bhagavato yuttaṃ, na ca bhagavā arahati etaṃ vacanaṃ vattuṃ. Yadi, bhante nāgasena, bhagavatā bhaṇitaṃ ‘ahiṃsayaṃ paraṃ loke, piyo hohisi māmako’’ti, tena hi ‘‘niggaṇhe niggahārahaṃ, paggaṇhe paggahāraha’’nti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi tathāgatena bhaṇitaṃ ‘‘niggaṇhe niggahārahaṃ, paggaṇhe paggahāraha’’nti, tena hi ‘‘ahiṃsayaṃ paraṃ loke, piyo hohisi māmako’’ti tampi vacanaṃ micchā. Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppatto, so tayā nibbāhitabbo’’ti.

    ‘‘ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อหิํสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’ติ, ภณิตญฺจ ‘นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ, ปคฺคเณฺห ปคฺคหารห’นฺติ ฯ ‘อหิํสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’ติ สเพฺพสํ, มหาราช, ตถาคตานํ อนุมตํ เอตํ, เอสา อนุสิฎฺฐิ, เอสา ธมฺมเทสนา, ธโมฺม หิ, มหาราช, อหิํสาลกฺขโณ, สภาววจนํ เอตํฯ ยํ ปน, มหาราช, ตถาคโต อาห ‘นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ, ปคฺคเณฺห ปคฺคหารห’นฺติ, ภาสา เอสา, อุทฺธตํ, มหาราช, จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, ลีนํ จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํฯ อกุสลํ จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, กุสลํ จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํฯ อโยนิโส มนสิกาโร นิคฺคเหตโพฺพ, โยนิโส มนสิกาโร ปคฺคเหตโพฺพฯ มิจฺฉาปฎิปโนฺน นิคฺคเหตโพฺพ, สมฺมาปฎิปโนฺน ปคฺคเหตโพฺพฯ อนริโย นิคฺคเหตโพฺพ อริโย ปคฺคเหตโพฺพฯ โจโร นิคฺคเหตโพฺพ, อโจโร ปคฺคเหตโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā ‘ahiṃsayaṃ paraṃ loke, piyo hohisi māmako’ti, bhaṇitañca ‘niggaṇhe niggahārahaṃ, paggaṇhe paggahāraha’nti . ‘Ahiṃsayaṃ paraṃ loke, piyo hohisi māmako’ti sabbesaṃ, mahārāja, tathāgatānaṃ anumataṃ etaṃ, esā anusiṭṭhi, esā dhammadesanā, dhammo hi, mahārāja, ahiṃsālakkhaṇo, sabhāvavacanaṃ etaṃ. Yaṃ pana, mahārāja, tathāgato āha ‘niggaṇhe niggahārahaṃ, paggaṇhe paggahāraha’nti, bhāsā esā, uddhataṃ, mahārāja, cittaṃ niggahetabbaṃ, līnaṃ cittaṃ paggahetabbaṃ. Akusalaṃ cittaṃ niggahetabbaṃ, kusalaṃ cittaṃ paggahetabbaṃ. Ayoniso manasikāro niggahetabbo, yoniso manasikāro paggahetabbo. Micchāpaṭipanno niggahetabbo, sammāpaṭipanno paggahetabbo. Anariyo niggahetabbo ariyo paggahetabbo. Coro niggahetabbo, acoro paggahetabbo’’ti.

    ‘‘โหตุ, ภเนฺต นาคเสน, อิทานิ ตฺวํ ปจฺจาคโตสิ มม วิสยํ, ยมหํ ปุจฺฉามิ, โส เม อโตฺถ อุปคโตฯ โจโร ปน, ภเนฺต นาคเสน, นิคฺคณฺหเนฺตน กถํ นิคฺคเหตโพฺพ’’ติ? ‘‘โจโร, มหาราช, นิคฺคณฺหเนฺตน เอวํ นิคฺคเหตโพฺพ, ปริภาสนีโย ปริภาสิตโพฺพ, ทณฺฑนีโย ทเณฺฑตโพฺพ, ปพฺพาชนีโย ปพฺพาเชตโพฺพ, พนฺธนีโย พนฺธิตโพฺพ, ฆาตนีโย ฆาเตตโพฺพ’’ติฯ ‘‘ยํ ปน, ภเนฺต นาคเสน, โจรานํ ฆาตนํ, ตํ ตถาคตานํ อนุมต’’นฺติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘กิสฺส ปน โจโร อนุสาสนีโย อนุมโต ตถาคตาน’’นฺติ? ‘‘โย โส, มหาราช, ฆาตียติ, น โส ตถาคตานํ อนุมติยา ฆาตียติ, สยํกเตน โส ฆาตียติ, อปิ จ ธมฺมานุสิฎฺฐิยา อนุสาสียติ, สกฺกา ปน, มหาราช, ตยา ปุริสํ อการกํ อนปราธํ วีถิยํ จรนฺตํ คเหตฺวา ฆาตยิตุ’’นฺติ? ‘‘น สกฺกา, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘อการกตฺตา, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น โจโร ตถาคตานํ อนุมติยา หญฺญติ, สยํกเตน โส หญฺญติ, กิํ ปเนตฺถ อนุสาสโก กิญฺจิ โทสํ อาปชฺชตี’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘เตน หิ, มหาราช, ตถาคตานํ อนุสิฎฺฐิ สมฺมานุสิฎฺฐิ โหตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ

    ‘‘Hotu, bhante nāgasena, idāni tvaṃ paccāgatosi mama visayaṃ, yamahaṃ pucchāmi, so me attho upagato. Coro pana, bhante nāgasena, niggaṇhantena kathaṃ niggahetabbo’’ti? ‘‘Coro, mahārāja, niggaṇhantena evaṃ niggahetabbo, paribhāsanīyo paribhāsitabbo, daṇḍanīyo daṇḍetabbo, pabbājanīyo pabbājetabbo, bandhanīyo bandhitabbo, ghātanīyo ghātetabbo’’ti. ‘‘Yaṃ pana, bhante nāgasena, corānaṃ ghātanaṃ, taṃ tathāgatānaṃ anumata’’nti? ‘‘Na hi, mahārājā’’ti. ‘‘Kissa pana coro anusāsanīyo anumato tathāgatāna’’nti? ‘‘Yo so, mahārāja, ghātīyati, na so tathāgatānaṃ anumatiyā ghātīyati, sayaṃkatena so ghātīyati, api ca dhammānusiṭṭhiyā anusāsīyati, sakkā pana, mahārāja, tayā purisaṃ akārakaṃ anaparādhaṃ vīthiyaṃ carantaṃ gahetvā ghātayitu’’nti? ‘‘Na sakkā, bhante’’ti. ‘‘Kena kāraṇena, mahārājā’’ti? ‘‘Akārakattā, bhante’’ti. ‘‘Evameva kho, mahārāja, na coro tathāgatānaṃ anumatiyā haññati, sayaṃkatena so haññati, kiṃ panettha anusāsako kiñci dosaṃ āpajjatī’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Tena hi, mahārāja, tathāgatānaṃ anusiṭṭhi sammānusiṭṭhi hotī’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.

    อหิํสานิคฺคหปโญฺห เอกาทสโมฯ

    Ahiṃsāniggahapañho ekādasamo.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact