Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
อชปาลกถาวณฺณนา
Ajapālakathāvaṇṇanā
๔. ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยนาติ ปลฺลงฺกสตฺตาหสฺส อปคมเนนฯ ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฎฺฐหิตฺวาติ ตโต อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาธิโต ยถากาลปริเจฺฉทํ วุฎฺฐหิตฺวาฯ อเญฺญปิ พุทฺธตฺตกราติ วิสาขปุณฺณมิโต ปฎฺฐาย รตฺตินฺทิวํ เอวํ นิจฺจสมาหิตภาวเหตุภูตานํ พุทฺธคุณานํ อุปริ อเญฺญปิ พุทฺธตฺตสาธกาฯ ‘‘อยํ พุโทฺธ’’ติ พุทฺธภาวสฺส ปเรสํ วิภาวนา ธมฺมา กิํ นุ โข สนฺตีติ โยชนาฯ เอกจฺจานํ เทวตานนฺติ ยา อธิคตมคฺคา สจฺฉิกตนิโรธา เอกปเทเสน พุทฺธคุเณ ชานนฺติ, ตา ฐเปตฺวา ตทญฺญาสํ เทวตานํฯ อนิมิเสหีติ ธมฺมปีติวิปฺผารวเสน ปสาทวิภาวนิจฺจลทลตาย นิเมสรหิเตหิฯ รตนจงฺกเมติ เทวตาหิ มาปิเต รตนมยจงฺกเมฯ ‘‘รตนภูตานํ สตฺตนฺนํ ปกรณานํ ตตฺถ จ อนุตฺตรสฺส ธมฺมรตนสฺส สมฺมสเนน ตํ ฐานํ รตนฆรเจติยํ นาม ชาต’’นฺติปิ วทนฺติฯ เตเนว อฎฺฐสาลินิยํ (ธ. ส. อฎฺฐ. นิทานกถา) ‘‘รตนฆรํ นาม น รตนมยํ เคหํ, สตฺตนฺนํ ปน ปกรณานํ สมฺมสิตฎฺฐานํ รตนฆรนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ
4.Tassa sattāhassa accayenāti pallaṅkasattāhassa apagamanena. Tamhā samādhimhā vuṭṭhahitvāti tato arahattaphalasamāpattisamādhito yathākālaparicchedaṃ vuṭṭhahitvā. Aññepi buddhattakarāti visākhapuṇṇamito paṭṭhāya rattindivaṃ evaṃ niccasamāhitabhāvahetubhūtānaṃ buddhaguṇānaṃ upari aññepi buddhattasādhakā. ‘‘Ayaṃ buddho’’ti buddhabhāvassa paresaṃ vibhāvanā dhammā kiṃ nu kho santīti yojanā. Ekaccānaṃ devatānanti yā adhigatamaggā sacchikatanirodhā ekapadesena buddhaguṇe jānanti, tā ṭhapetvā tadaññāsaṃ devatānaṃ. Animisehīti dhammapītivipphāravasena pasādavibhāvaniccaladalatāya nimesarahitehi. Ratanacaṅkameti devatāhi māpite ratanamayacaṅkame. ‘‘Ratanabhūtānaṃ sattannaṃ pakaraṇānaṃ tattha ca anuttarassa dhammaratanassa sammasanena taṃ ṭhānaṃ ratanagharacetiyaṃ nāma jāta’’ntipi vadanti. Teneva aṭṭhasāliniyaṃ (dha. sa. aṭṭha. nidānakathā) ‘‘ratanagharaṃ nāma na ratanamayaṃ gehaṃ, sattannaṃ pana pakaraṇānaṃ sammasitaṭṭhānaṃ ratanagharanti veditabba’’nti vuttaṃ.
กสฺมา ปนายํ อชปาลนิโคฺรโธ นาม ชาโตติ อาห ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิฯ เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา ตตฺถ เวเท สชฺฌายิตุํ อสมตฺถา มหลฺลกพฺราหฺมณา ปาการปริเกฺขปยุตฺตานิ นิเวสนานิ กตฺวา สเพฺพ วสิํสุ, ตสฺมาสฺส ‘อชปาลนิโคฺรโธ’ติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติฯ ตตฺรายํ วจนโตฺถ – น ชปนฺตีติ อชปา, มนฺตานํ อนชฺฌายกาติ อโตฺถฯ อชปา ลนฺติ อาทิยนฺติ นิวาสํ เอตฺถาติ อชปาโลติฯ อปเร ปน วทนฺติ ‘‘ยสฺมา มชฺฌนฺหิเก สมเย อโนฺต ปวิเฎฺฐ อเช อตฺตโน ฉายาย ปาเลติ รกฺขติ, ตสฺมา ‘อชปาโล’ติสฺส นามํ รุฬฺห’’นฺติฯ สพฺพถาปิ นามเมตํ ตสฺส รุกฺขสฺสฯ
Kasmā panāyaṃ ajapālanigrodho nāma jātoti āha ‘‘tassa kirā’’tiādi. Keci pana ‘‘yasmā tattha vede sajjhāyituṃ asamatthā mahallakabrāhmaṇā pākāraparikkhepayuttāni nivesanāni katvā sabbe vasiṃsu, tasmāssa ‘ajapālanigrodho’ti nāmaṃ jāta’’nti vadanti. Tatrāyaṃ vacanattho – na japantīti ajapā, mantānaṃ anajjhāyakāti attho. Ajapā lanti ādiyanti nivāsaṃ etthāti ajapāloti. Apare pana vadanti ‘‘yasmā majjhanhike samaye anto paviṭṭhe aje attano chāyāya pāleti rakkhati, tasmā ‘ajapālo’tissa nāmaṃ ruḷha’’nti. Sabbathāpi nāmametaṃ tassa rukkhassa.
วิมุตฺติสุขํ ปฎิสํเวเทโนฺตติ ธมฺมํ วิจินโนฺตเยว อนฺตรนฺตรา วิมุตฺติสุขญฺจ ปฎิสํเวเทโนฺตฯ ‘‘ธมฺมํ วิจินโนฺต วิมุตฺติสุขญฺจ ปฎิสํเวเทโนฺต’’ติ เอวํ วา เอตฺถ ปาโฐ คเหตโพฺพฯ อุทานฎฺฐกถายมฺปิ (อุทา. อฎฺฐ. ๔) หิ อยเมว ปาโฐฯ ธมฺมํ วิจินโนฺต เจตฺถ เอวํ อภิธเมฺม นยมคฺคํ สมฺมสิ ปฐมํ ธมฺมสงฺคณีปกรณํ นาม, ตโต วิภงฺคปฺปกรณํ, ธาตุกถาปกรณํ, ปุคฺคลปญฺญตฺติปฺปกรณํ, กถาวตฺถุํ นาม, ยมกํ นาม, ตโต มหาปกรณํ ปฎฺฐานํ นามาติฯ ตตฺถสฺส สณฺหสุขุมฎฺฐานมฺหิ จิเตฺต โอติเณฺณ ปีติ อุปฺปชฺชิ, ปีติยา อุปฺปนฺนาย โลหิตํ ปสีทิ, โลหิเต ปสเนฺน ฉวิ ปสีทิ, ฉวิยา ปสนฺนาย ปุรตฺถิมกายโต กูฎาคาราทิปฺปมาณา รสฺมิโย อุฎฺฐหิตฺวา อากาเส ปกฺขนฺทํ ฉทฺทนฺตนาคกุลํ วิย ปาจีนทิสาย อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ ปกฺขนฺทาฯ ปจฺฉิมกายโต อุฎฺฐหิตฺวา ปจฺฉิมทิสาย, ทกฺขิณํสกูฎโต อุฎฺฐหิตฺวา ทกฺขิณทิสาย, วามํสกูฎโต อุฎฺฐหิตฺวา อุตฺตรทิสาย อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ ปกฺขนฺทาฯ ปาทตเลหิ ปวาฬงฺกุรวณฺณา รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา มหาปถวิํ วินิพฺพิชฺฌ อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา วาตกฺขนฺธํ ปทาเลตฺวา อชฎากาสํ ปกฺขนฺทาฯ สีสโต สํปริวตฺติยมานํ มณิทามํ วิย นีลวณฺณรสฺมิวฎฺฎิ อุฎฺฐหิตฺวา ฉ เทวโลเก วินิวิชฺฌิตฺวา นว พฺรหฺมโลเก อติกฺกมฺม อชฎากาสํ ปกฺขนฺทาฯ ตสฺมิํ ทิวเส อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา สเพฺพ สุวณฺณวณฺณาว อเหสุํฯ ตํ ทิวสญฺจ ปน ภควโต สรีรา นิกฺขนฺตา ยาวชฺชทิวสาปิ กิร ตา รสฺมิโย อนนฺตโลกธาตุโย คจฺฉนฺติเยวฯ น เกวลญฺจ อิมสฺมิํเยว สตฺตาเห ธมฺมํ วิจินนฺตสฺส สรีรโต รสฺมิโย นิกฺขมิํสุ, อถ โข รตนฆรสตฺตาเหปิ ปฎฺฐานํ สมฺมสนฺตสฺส เอวเมว สรีรโต รสฺมิโย นิกฺขนฺตา เอวาติ เวทิตพฺพํฯ
Vimuttisukhaṃ paṭisaṃvedentoti dhammaṃ vicinantoyeva antarantarā vimuttisukhañca paṭisaṃvedento. ‘‘Dhammaṃ vicinanto vimuttisukhañca paṭisaṃvedento’’ti evaṃ vā ettha pāṭho gahetabbo. Udānaṭṭhakathāyampi (udā. aṭṭha. 4) hi ayameva pāṭho. Dhammaṃ vicinanto cettha evaṃ abhidhamme nayamaggaṃ sammasi paṭhamaṃ dhammasaṅgaṇīpakaraṇaṃ nāma, tato vibhaṅgappakaraṇaṃ, dhātukathāpakaraṇaṃ, puggalapaññattippakaraṇaṃ, kathāvatthuṃ nāma, yamakaṃ nāma, tato mahāpakaraṇaṃ paṭṭhānaṃ nāmāti. Tatthassa saṇhasukhumaṭṭhānamhi citte otiṇṇe pīti uppajji, pītiyā uppannāya lohitaṃ pasīdi, lohite pasanne chavi pasīdi, chaviyā pasannāya puratthimakāyato kūṭāgārādippamāṇā rasmiyo uṭṭhahitvā ākāse pakkhandaṃ chaddantanāgakulaṃ viya pācīnadisāya anantāni cakkavāḷāni pakkhandā. Pacchimakāyato uṭṭhahitvā pacchimadisāya, dakkhiṇaṃsakūṭato uṭṭhahitvā dakkhiṇadisāya, vāmaṃsakūṭato uṭṭhahitvā uttaradisāya anantāni cakkavāḷāni pakkhandā. Pādatalehi pavāḷaṅkuravaṇṇā rasmiyo nikkhamitvā mahāpathaviṃ vinibbijjha udakaṃ dvidhā bhinditvā vātakkhandhaṃ padāletvā ajaṭākāsaṃ pakkhandā. Sīsato saṃparivattiyamānaṃ maṇidāmaṃ viya nīlavaṇṇarasmivaṭṭi uṭṭhahitvā cha devaloke vinivijjhitvā nava brahmaloke atikkamma ajaṭākāsaṃ pakkhandā. Tasmiṃ divase aparimāṇesu cakkavāḷesu aparimāṇā sattā sabbe suvaṇṇavaṇṇāva ahesuṃ. Taṃ divasañca pana bhagavato sarīrā nikkhantā yāvajjadivasāpi kira tā rasmiyo anantalokadhātuyo gacchantiyeva. Na kevalañca imasmiṃyeva sattāhe dhammaṃ vicinantassa sarīrato rasmiyo nikkhamiṃsu, atha kho ratanagharasattāhepi paṭṭhānaṃ sammasantassa evameva sarīrato rasmiyo nikkhantā evāti veditabbaṃ.
วุตฺตเญฺหตํ อฎฺฐสาลินิยํ (ธ. ส. อฎฺฐ. นิทานกถา) –
Vuttañhetaṃ aṭṭhasāliniyaṃ (dha. sa. aṭṭha. nidānakathā) –
‘‘อิเมสุ จ เอกวีสติยา ทิวเสสุ เอกทิวเสปิ สตฺถุ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา, จตุเตฺถ ปน สตฺตาเห ปจฺฉิมุตฺตราย ทิสาย รตนฆเร นิสีทิฯ ตตฺถ ธมฺมสงฺคณิํ สมฺมสนฺตสฺสปิ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตาฯ วิภงฺคปฺปกรณํ, ธาตุกถํ, ปุคฺคลปญฺญตฺติํ, กถาวตฺถุปฺปกรณํ, ยมกปฺปกรณํ สมฺมสนฺตสฺสปิ รสฺมิโย น นิกฺขนฺตาฯ ยทา ปน มหาปกรณํ โอรุยฺห ‘เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย…เป.… อวิคตปจฺจโย’ติ สมฺมสนํ อารภิ, อถสฺส จตุวีสติสมนฺตปฎฺฐานํ สมฺมสนฺตสฺส เอกนฺตโต สพฺพญฺญุตญฺญาณํ มหาปกรเณ โอกาสํ ลภิฯ ยถา หิ ติมิรปิงฺคลมหามโจฺฉ จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีเร มหาสมุเทฺทเยว โอกาสํ ลภติ, เอวเมว สพฺพญฺญุตญฺญาณํ เอกนฺตโต มหาปกรเณเยว โอกาสํ ลภิฯ
‘‘Imesu ca ekavīsatiyā divasesu ekadivasepi satthu sarīrato rasmiyo na nikkhantā, catutthe pana sattāhe pacchimuttarāya disāya ratanaghare nisīdi. Tattha dhammasaṅgaṇiṃ sammasantassapi sarīrato rasmiyo na nikkhantā. Vibhaṅgappakaraṇaṃ, dhātukathaṃ, puggalapaññattiṃ, kathāvatthuppakaraṇaṃ, yamakappakaraṇaṃ sammasantassapi rasmiyo na nikkhantā. Yadā pana mahāpakaraṇaṃ oruyha ‘hetupaccayo ārammaṇapaccayo…pe… avigatapaccayo’ti sammasanaṃ ārabhi, athassa catuvīsatisamantapaṭṭhānaṃ sammasantassa ekantato sabbaññutaññāṇaṃ mahāpakaraṇe okāsaṃ labhi. Yathā hi timirapiṅgalamahāmaccho caturāsītiyojanasahassagambhīre mahāsamuddeyeva okāsaṃ labhati, evameva sabbaññutaññāṇaṃ ekantato mahāpakaraṇeyeva okāsaṃ labhi.
‘‘สตฺถุ เอวํ ลโทฺธกาเสน สพฺพญฺญุตญฺญาเณน ยถาสุขํ สณฺหสุขุมธมฺมํ สมฺมสนฺตสฺส สรีรโต นีลปีตโลหิโตทาตมญฺชิฎฺฐปภสฺสรวเสน ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมิํสุฯ เกสมสฺสูหิ เจว อกฺขีนญฺจ นีลฎฺฐาเนหิ นีลรสฺมิโย นิกฺขมิํสุ, ยาสํ วเสน คคนตลํ อญฺชนจุณฺณสโมกิณฺณํ วิย อุมาปุปฺผนีลุปฺปลทลสญฺฉนฺนํ วิย วีติปตนฺตมณิตาลวณฺฎํ วิย สมฺปสาริตเมจกปฎํ วิย จ อโหสิฯ ฉวิโต เจว อกฺขีนญฺจ ปีตฎฺฐาเนหิ ปีตรสฺมิโย นิกฺขมิํสุ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา สุวณฺณรสนิสิญฺจมานา วิย สุวณฺณปฎปสาริตา วิย กุงฺกุมจุณฺณกณิการปุปฺผสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจิํสุฯ มํสโลหิเตหิ เจว อกฺขีนญฺจ รตฺตฎฺฐาเนหิ โลหิตรสฺมิโย นิกฺขมิํสุ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา จีนปิฎฺฐจุณฺณรญฺชิตา วิย สุปกฺกลาขารสนิสิญฺจมานา วิย รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตา วิย ชยสุมนปาริพทฺธกพนฺธุชีวกกุสุมสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจิํสุฯ อฎฺฐีหิ เจว ทเนฺตหิ จ อกฺขีนญฺจ เสตฎฺฐาเนหิ โอทาตรสฺมิโย นิกฺขมิํสุ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา รชตกุเฎหิ อาสิญฺจมานขีรธาราสมฺปริกิณฺณา วิย ปสาริตรชตปฎวิตานา วิย วีติปตนฺตรชตตาลวณฺฎา วิย กุนฺทกุมุทสินฺธุวารสุมนมลฺลิกาทิกุสุมสญฺฉนฺนา วิย จ วิโรจิํสุฯ มญฺชิฎฺฐปภสฺสรา ปน ตมฺหา ตมฺหา สรีรปฺปเทสา นิกฺขมิํสุฯ อิติ ตา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา ฆนมหาปถวิํ คณฺหิํสุฯ
‘‘Satthu evaṃ laddhokāsena sabbaññutaññāṇena yathāsukhaṃ saṇhasukhumadhammaṃ sammasantassa sarīrato nīlapītalohitodātamañjiṭṭhapabhassaravasena chabbaṇṇarasmiyo nikkhamiṃsu. Kesamassūhi ceva akkhīnañca nīlaṭṭhānehi nīlarasmiyo nikkhamiṃsu, yāsaṃ vasena gaganatalaṃ añjanacuṇṇasamokiṇṇaṃ viya umāpupphanīluppaladalasañchannaṃ viya vītipatantamaṇitālavaṇṭaṃ viya sampasāritamecakapaṭaṃ viya ca ahosi. Chavito ceva akkhīnañca pītaṭṭhānehi pītarasmiyo nikkhamiṃsu, yāsaṃ vasena disābhāgā suvaṇṇarasanisiñcamānā viya suvaṇṇapaṭapasāritā viya kuṅkumacuṇṇakaṇikārapupphasamparikiṇṇā viya ca virociṃsu. Maṃsalohitehi ceva akkhīnañca rattaṭṭhānehi lohitarasmiyo nikkhamiṃsu, yāsaṃ vasena disābhāgā cīnapiṭṭhacuṇṇarañjitā viya supakkalākhārasanisiñcamānā viya rattakambalaparikkhittā viya jayasumanapāribaddhakabandhujīvakakusumasamparikiṇṇā viya ca virociṃsu. Aṭṭhīhi ceva dantehi ca akkhīnañca setaṭṭhānehi odātarasmiyo nikkhamiṃsu, yāsaṃ vasena disābhāgā rajatakuṭehi āsiñcamānakhīradhārāsamparikiṇṇā viya pasāritarajatapaṭavitānā viya vītipatantarajatatālavaṇṭā viya kundakumudasindhuvārasumanamallikādikusumasañchannā viya ca virociṃsu. Mañjiṭṭhapabhassarā pana tamhā tamhā sarīrappadesā nikkhamiṃsu. Iti tā chabbaṇṇarasmiyo nikkhamitvā ghanamahāpathaviṃ gaṇhiṃsu.
‘‘จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา มหาปถวี นิทฺธนฺตสุวณฺณปิณฺฑิ วิย อโหสิฯ ปถวิํ ภินฺทิตฺวา เหฎฺฐา อุทกํ คณฺหิํสุฯ ปถวีสนฺธารกํ อฎฺฐนหุตาธิกจตุโยชนสตสหสฺสพหลํ อุทกํ สุวณฺณกลเสหิ อาสิญฺจมานวิลีนสุวณฺณํ วิย อโหสิฯ อุทกํ วินิวิชฺฌิตฺวา วาตํ อคฺคเหสุํฯ ฉนฺนวุตาธิกนวโยชนสตสหสฺสพหโล วาโต สมุสฺสิตสุวณฺณกฺขโนฺธ วิย อโหสิฯ วาตํ วินิวิชฺฌิตฺวา เหฎฺฐา อชฎากาสํ ปกฺขนฺทิํสุฯ อุปริภาเคน อุคฺคนฺตฺวาปิ จตุมหาราชิเก คณฺหิํสุฯ เต วินิวิชฺฌิตฺวา ตาวติํเส, ตโต ยาเม, ตโต ตุสิเต, ตโต นิมฺมานรตี, ตโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี, ตโต นว พฺรหฺมโลเก, ตโต เวหปฺผเล, ตโต ปญฺจ สุทฺธาวาเส วินิวิชฺฌิตฺวา จตฺตาโร อารุเปฺป คณฺหิํสุฯ จตฺตาโร จ อารุเปฺป วินิวิชฺฌิตฺวา อชฎากาสํ ปกฺขนฺทิํสุฯ
‘‘Catunahutādhikadviyojanasatasahassabahalā mahāpathavī niddhantasuvaṇṇapiṇḍi viya ahosi. Pathaviṃ bhinditvā heṭṭhā udakaṃ gaṇhiṃsu. Pathavīsandhārakaṃ aṭṭhanahutādhikacatuyojanasatasahassabahalaṃ udakaṃ suvaṇṇakalasehi āsiñcamānavilīnasuvaṇṇaṃ viya ahosi. Udakaṃ vinivijjhitvā vātaṃ aggahesuṃ. Channavutādhikanavayojanasatasahassabahalo vāto samussitasuvaṇṇakkhandho viya ahosi. Vātaṃ vinivijjhitvā heṭṭhā ajaṭākāsaṃ pakkhandiṃsu. Uparibhāgena uggantvāpi catumahārājike gaṇhiṃsu. Te vinivijjhitvā tāvatiṃse, tato yāme, tato tusite, tato nimmānaratī, tato paranimmitavasavattī, tato nava brahmaloke, tato vehapphale, tato pañca suddhāvāse vinivijjhitvā cattāro āruppe gaṇhiṃsu. Cattāro ca āruppe vinivijjhitvā ajaṭākāsaṃ pakkhandiṃsu.
‘‘ติริยภาเคหิ อนนฺตา โลกธาตุโย ปกฺขนฺทิํสุ, เอตฺตเก ฐาเน จนฺทมฺหิ จนฺทปฺปภา นตฺถิ, สูริเย สูริยปฺปภา นตฺถิ, ตารกรูเปสุ ตารกรูปปฺปภา นตฺถิ, เทวตานํ อุยฺยานวิมานกปฺปรุเกฺขสุ สรีเร อาภรเณสูติ สพฺพตฺถ ปภา นตฺถิฯ ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุยา อาโลกผรณสมโตฺถ มหาพฺรหฺมาปิ สูริยุคฺคมเน ขโชฺชปนโก วิย อโหสิ, จนฺทสูริยตารกรูปเทวตุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขานํ ปริเจฺฉทมตฺตกเมว ปญฺญายิตฺถฯ เอตฺตกํ ฐานํ พุทฺธรสฺมีหิเยว อโชฺฌตฺถฎํ อโหสิฯ อยญฺจ เนว พุทฺธานํ อธิฎฺฐานิทฺธิ, น ภาวนามยิทฺธิฯ สณฺหสุขุมธมฺมํ ปน สมฺมสโต โลกนาถสฺส โลหิตํ ปสีทิ, วตฺถุรูปํ ปสีทิ, ฉวิวโณฺณ ปสีทิฯ จิตฺตสมุฎฺฐานา วณฺณธาตุ สมนฺตา อสีติหตฺถมเตฺต ปเทเส นิจฺจลา อฎฺฐาสี’’ติฯ
‘‘Tiriyabhāgehi anantā lokadhātuyo pakkhandiṃsu, ettake ṭhāne candamhi candappabhā natthi, sūriye sūriyappabhā natthi, tārakarūpesu tārakarūpappabhā natthi, devatānaṃ uyyānavimānakapparukkhesu sarīre ābharaṇesūti sabbattha pabhā natthi. Tisahassimahāsahassilokadhātuyā ālokapharaṇasamattho mahābrahmāpi sūriyuggamane khajjopanako viya ahosi, candasūriyatārakarūpadevatuyyānavimānakapparukkhānaṃ paricchedamattakameva paññāyittha. Ettakaṃ ṭhānaṃ buddharasmīhiyeva ajjhotthaṭaṃ ahosi. Ayañca neva buddhānaṃ adhiṭṭhāniddhi, na bhāvanāmayiddhi. Saṇhasukhumadhammaṃ pana sammasato lokanāthassa lohitaṃ pasīdi, vatthurūpaṃ pasīdi, chavivaṇṇo pasīdi. Cittasamuṭṭhānā vaṇṇadhātu samantā asītihatthamatte padese niccalā aṭṭhāsī’’ti.
เอวํ นิสิเนฺนติ ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฎฺฐหิตฺวา นิสิเนฺนฯ เอโก พฺราหฺมโณติ นามโคตฺตวเสน อนภิญฺญาโต อปากโฎ เอโก พฺราหฺมโณฯ ‘‘หุํ หุ’’นฺติ กโรโนฺต วิจรตีติ สพฺพํ อโจกฺขชาติกํ ปสฺสิตฺวา ชิคุจฺฉโนฺต ‘‘หุํ หุ’’นฺติ กโรโนฺต วิจรติฯ เอตทโวจาติ (อุทา. อฎฺฐ. ๔) เอตํ อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข’’ติอาทิวจนํ อโวจฯ ตตฺถ กิตฺตาวตาติ กิตฺตเกน ปมาเณนฯ นุ-ติ สํสยเตฺถ นิปาโต, โข-ติ ปทปูรเณฯ โภ-ติ พฺราหฺมณานํ ชาติสมุทาคตํ อาลปนํฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘โภวาทิ นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิญฺจโน’’ติ (ธ. ป. ๓๙๖; สุ. นิ. ๖๒๕)ฯ โคตมาติ ภควนฺตํ โคเตฺตน อาลปติฯ กถํ ปนายํ พฺราหฺมโณ สมฺปติ สมาคโต ภควโต โคตฺตํ ชานาตีติ? นายํ สมฺปติ สมาคโต, ฉพฺพสฺสานิ ปธานกรณกาเล อุปฎฺฐหเนฺตหิ ปญฺจวคฺคิเยหิ สทฺธิํ จรมาโน อปรภาเค ตํ วตํ ฉเฑฺฑตฺวา อุรุเวลายํ เสนนิคเม เอโก อทุติโย หุตฺวา ปิณฺฑาย จรมาโนปิ เตน พฺราหฺมเณน ทิฎฺฐปุโพฺพ เจว สลฺลปิตปุโพฺพ จ, เตน โส ปุเพฺพ ปญฺจวคฺคิเยหิ คยฺหมานํ ภควโต โคตฺตํ อนุสฺสรโนฺต ‘‘โภ โคตมา’’ติ ภควนฺตํ โคเตฺตน อาลปติฯ ยโต ปฎฺฐาย วา ภควา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขโนฺต อโนมานทีตีเร ปพฺพชิ, ตโต ปภุติ ‘‘สมโณ โคตโม’’ติ จโนฺท วิย สูริโย วิย ปากโฎ ปญฺญาโต โหติ, น จ ตสฺส โคตฺตชานเน การณํ คเวสิตพฺพํฯ พฺราหฺมณกรณาติ พฺราหฺมณํ กโรนฺตีติ พฺราหฺมณกรณา, พฺราหฺมณภาวกราติ อโตฺถฯ เอตฺถ จ ‘‘กิตฺตาวตา’’ติ เอเตน เยหิ ธเมฺมหิ พฺราหฺมโณ โหติ, เตสํ ธมฺมานํ ปริมาณํ ปุจฺฉติฯ ‘‘กตเม’’ติ ปน อิมินา เตสํ สรูปํ ปุจฺฉติฯ
Evaṃ nisinneti tamhā samādhimhā vuṭṭhahitvā nisinne. Eko brāhmaṇoti nāmagottavasena anabhiññāto apākaṭo eko brāhmaṇo. ‘‘Huṃ hu’’nti karonto vicaratīti sabbaṃ acokkhajātikaṃ passitvā jigucchanto ‘‘huṃ hu’’nti karonto vicarati. Etadavocāti (udā. aṭṭha. 4) etaṃ idāni vattabbaṃ ‘‘kittāvatā nu kho’’tiādivacanaṃ avoca. Tattha kittāvatāti kittakena pamāṇena. Nu-ti saṃsayatthe nipāto, kho-ti padapūraṇe. Bho-ti brāhmaṇānaṃ jātisamudāgataṃ ālapanaṃ. Tathā hi vuttaṃ ‘‘bhovādi nāma so hoti, sace hoti sakiñcano’’ti (dha. pa. 396; su. ni. 625). Gotamāti bhagavantaṃ gottena ālapati. Kathaṃ panāyaṃ brāhmaṇo sampati samāgato bhagavato gottaṃ jānātīti? Nāyaṃ sampati samāgato, chabbassāni padhānakaraṇakāle upaṭṭhahantehi pañcavaggiyehi saddhiṃ caramāno aparabhāge taṃ vataṃ chaḍḍetvā uruvelāyaṃ senanigame eko adutiyo hutvā piṇḍāya caramānopi tena brāhmaṇena diṭṭhapubbo ceva sallapitapubbo ca, tena so pubbe pañcavaggiyehi gayhamānaṃ bhagavato gottaṃ anussaranto ‘‘bho gotamā’’ti bhagavantaṃ gottena ālapati. Yato paṭṭhāya vā bhagavā mahābhinikkhamanaṃ nikkhanto anomānadītīre pabbaji, tato pabhuti ‘‘samaṇo gotamo’’ti cando viya sūriyo viya pākaṭo paññāto hoti, na ca tassa gottajānane kāraṇaṃ gavesitabbaṃ. Brāhmaṇakaraṇāti brāhmaṇaṃ karontīti brāhmaṇakaraṇā, brāhmaṇabhāvakarāti attho. Ettha ca ‘‘kittāvatā’’ti etena yehi dhammehi brāhmaṇo hoti, tesaṃ dhammānaṃ parimāṇaṃ pucchati. ‘‘Katame’’ti pana iminā tesaṃ sarūpaṃ pucchati.
อุทานํ อุทาเนสีติ ‘‘โย พฺราหฺมโณ’’ติอาทิกํ อุทานํ อุทาเนสิ, น ปน ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ธมฺมํ เทเสสิฯ กสฺมา? ธมฺมเทสนาย อภาชนภาวโตฯ ตถา หิ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อิมํ คาถํ สุตฺวา น สจฺจาภิสมโย อโหสิฯ ยถา จ อิมสฺส, เอวํ อุปกสฺส อาชีวกสฺส พุทฺธคุณปฺปกาสนํ สุตฺวาฯ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต หิ ปุพฺพภาเค ภควตา ภาสิตํ ปเรสํ สุณนฺตานมฺปิ ตปุสฺสภลฺลิกานํ สรณทานํ วิย วาสนาภาคิยเมว ชาตํ, น อเสกฺขภาคิยํ วา นิเพฺพธภาคิยํ วาฯ เอสา หิ ธมฺมตาติฯ เวเทหิ วา อนฺตนฺติ เอตฺถ อนฺตํ นาม สพฺพสงฺขารปริโยสานํ นิพฺพานํฯ อิเม อุสฺสทา นตฺถีติ สพฺพโส อิเม ปหีนตฺตา น สนฺติฯ
Udānaṃ udānesīti ‘‘yo brāhmaṇo’’tiādikaṃ udānaṃ udānesi, na pana tassa brāhmaṇassa dhammaṃ desesi. Kasmā? Dhammadesanāya abhājanabhāvato. Tathā hi tassa brāhmaṇassa imaṃ gāthaṃ sutvā na saccābhisamayo ahosi. Yathā ca imassa, evaṃ upakassa ājīvakassa buddhaguṇappakāsanaṃ sutvā. Dhammacakkappavattanato hi pubbabhāge bhagavatā bhāsitaṃ paresaṃ suṇantānampi tapussabhallikānaṃ saraṇadānaṃ viya vāsanābhāgiyameva jātaṃ, na asekkhabhāgiyaṃ vā nibbedhabhāgiyaṃ vā. Esā hi dhammatāti. Vedehi vā antanti ettha antaṃ nāma sabbasaṅkhārapariyosānaṃ nibbānaṃ. Ime ussadā natthīti sabbaso ime pahīnattā na santi.
อชปาลกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ajapālakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๒. อชปาลกถา • 2. Ajapālakathā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อชปาลกถา • Ajapālakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อชปาลกถาวณฺณนา • Ajapālakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อชปาลกถาวณฺณนา • Ajapālakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒. อชปาลกถา • 2. Ajapālakathā