Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๕. อชินเตฺถรคาถาวณฺณนา
5. Ajinattheragāthāvaṇṇanā
อปิ เจ โหติ เตวิโชฺชติอาทิกา อายสฺมโต อชินเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต พุทฺธสุเญฺญ โลเก กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เกนจิเทว กรณีเยน อรญฺญํ คโต ตตฺถ สุจินฺติตํ นาม ปเจฺจกสมฺพุทฺธํ อาพาเธน ปีฬิตํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เภสชฺชตฺถาย ปสนฺนมานโส ฆตมณฺฑํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส ทลิทฺทพฺราหฺมณสฺส เคเห ปฎิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตํ วิชายนกาเล อชินจเมฺมน สมฺปฎิจฺฉิํสุฯ เตนสฺส อชิโนเตฺวว นามํ อกํสุฯ โส โภคสํวตฺตนิยสฺส กมฺมสฺส อกตตฺตา ทลิทฺทกุเล นิพฺพโตฺต วยปฺปโตฺตปิ อปฺปนฺนปานโภชโน หุตฺวา วิจรโนฺต เชตวนปฎิคฺคหเณ พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต นจิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๓.๗๘-๘๗) –
Api ce hoti tevijjotiādikā āyasmato ajinattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto buddhasuññe loke kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto kenacideva karaṇīyena araññaṃ gato tattha sucintitaṃ nāma paccekasambuddhaṃ ābādhena pīḷitaṃ nisinnaṃ disvā upasaṅkamitvā vanditvā bhesajjatthāya pasannamānaso ghatamaṇḍaṃ adāsi. So tena puññakammena devaloke nibbattitvā aparāparaṃ puññāni katvā sugatīsuyeva saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ aññatarassa daliddabrāhmaṇassa gehe paṭisandhiṃ gaṇhi. Taṃ vijāyanakāle ajinacammena sampaṭicchiṃsu. Tenassa ajinotveva nāmaṃ akaṃsu. So bhogasaṃvattaniyassa kammassa akatattā daliddakule nibbatto vayappattopi appannapānabhojano hutvā vicaranto jetavanapaṭiggahaṇe buddhānubhāvaṃ disvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā vipassanāya kammaṃ karonto nacirasseva chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.43.78-87) –
‘‘สุจินฺติตํ ภควนฺตํ, โลกเชฎฺฐํ นราสภํ;
‘‘Sucintitaṃ bhagavantaṃ, lokajeṭṭhaṃ narāsabhaṃ;
อุปวิฎฺฐํ มหารญฺญํ, วาตาพาเธน ปีฬิตํฯ
Upaviṭṭhaṃ mahāraññaṃ, vātābādhena pīḷitaṃ.
‘‘ทิสฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ฆตมณฺฑมุปานยิํ;
‘‘Disvā cittaṃ pasādetvā, ghatamaṇḍamupānayiṃ;
กตตฺตา อาจิตตฺตา จ, คงฺคา ภาคีรถี อยํฯ
Katattā ācitattā ca, gaṅgā bhāgīrathī ayaṃ.
‘‘มหาสมุทฺทา จตฺตาโร, ฆตํ สมฺปชฺชเร มม;
‘‘Mahāsamuddā cattāro, ghataṃ sampajjare mama;
อยญฺจ ปถวี โฆรา, อปฺปมาณา อสงฺขิยาฯ
Ayañca pathavī ghorā, appamāṇā asaṅkhiyā.
‘‘มม สงฺกปฺปมญฺญาย, ภวเต มธุสกฺกรา;
‘‘Mama saṅkappamaññāya, bhavate madhusakkarā;
จาตุทฺทีปา อิเม รุกฺขา, ปาทปา ธรณีรุหาฯ
Cātuddīpā ime rukkhā, pādapā dharaṇīruhā.
‘‘มม สงฺกปฺปมญฺญาย, กปฺปรุกฺขา ภวนฺติ เต;
‘‘Mama saṅkappamaññāya, kapparukkhā bhavanti te;
ปญฺญาสกฺขตฺตุํ เทวิโนฺท, เทวรชฺชมการยิํฯ
Paññāsakkhattuṃ devindo, devarajjamakārayiṃ.
‘‘เอกปญฺญาสกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ;
‘‘Ekapaññāsakkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ;
ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํฯ
Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, ยํ ทานมททิํ ตทา;
‘‘Catunnavutito kappe, yaṃ dānamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ฆตมณฺฑสฺสิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, ghatamaṇḍassidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวาปิ ปุริมกมฺมนิสฺสเนฺทน อปฺปลาภี อปฺปญฺญาโตว อโหสิฯ อุเทฺทสภตฺตสลากภตฺตานิปิ ลามกาเนว ปาปุณนฺติฯ กมฺมผเลเนว จ นํ ปุถุชฺชนา ภิกฺขู สามเณรา จ ‘‘อปฺปญฺญาโต’’ติ อวมญฺญนฺติฯ เถโร เต ภิกฺขู สํเวเชโนฺต –
Arahattaṃ pana patvāpi purimakammanissandena appalābhī appaññātova ahosi. Uddesabhattasalākabhattānipi lāmakāneva pāpuṇanti. Kammaphaleneva ca naṃ puthujjanā bhikkhū sāmaṇerā ca ‘‘appaññāto’’ti avamaññanti. Thero te bhikkhū saṃvejento –
๑๒๙.
129.
‘‘อปิ เจ โหติ เตวิโชฺช, มจฺจุหายี อนาสโว;
‘‘Api ce hoti tevijjo, maccuhāyī anāsavo;
อปฺปญฺญาโตติ นํ พาลา, อวชานนฺติ อชานตาฯ
Appaññātoti naṃ bālā, avajānanti ajānatā.
๑๓๐.
130.
‘‘โย จ โข อนฺนปานสฺส, ลาภี โหตีธ ปุคฺคโล;
‘‘Yo ca kho annapānassa, lābhī hotīdha puggalo;
ปาปธโมฺมปิ เจ โหติ, โส เนสํ โหติ สกฺกโต’’ติฯ –
Pāpadhammopi ce hoti, so nesaṃ hoti sakkato’’ti. –
คาถาทฺวยํ อภาสิฯ
Gāthādvayaṃ abhāsi.
ตตฺถ อปีติ สมฺภาวเน นิปาโตฯ เจติ ปริกปฺปเนฯ โหตีติ ภวติฯ ติโสฺส วิชฺชา เอตสฺสาติ เตวิโชฺชฯ มจฺจุํ ปชหตีติ มจฺจุหายีฯ กามาสวาทีนํ อภาเวน อนาสโวฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทิพฺพจกฺขุญาณํ ปุเพฺพนิวาสญาณํ อาสวกฺขยญาณนฺติ อิมาสํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ อธิคตตฺตา เตวิโชฺช ตโต เอว สพฺพโส กามาสวาทีนํ ปริกฺขีณตฺตา อนาสโว อายติํ ปุนพฺภวสฺส อคฺคหณโต มรณาภาเวน มจฺจุหายี ยทิปิ โหติ, เอวํ สเนฺตปิ อปฺปญฺญาโตติ นํ พาลา อวชานนฺติ ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตํ สทตฺถํ อนุปาปุณิตฺวา ฐิตมฺปิ นํ อุตฺตมํ ปุริสํ ‘‘ธุตวาโท พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก’’ติ อุปฺปนฺนลาภสฺส อภาวโต ‘‘น ปญฺญาโต น ปากโฎ’’ติ พาลา ทุเมฺมธปุคฺคลา อวชานนฺติ, กสฺมา? อชานตา อชานนการณา คุณานํ อชานนเมว ตตฺถ การณนฺติ ทเสฺสติฯ
Tattha apīti sambhāvane nipāto. Ceti parikappane. Hotīti bhavati. Tisso vijjā etassāti tevijjo. Maccuṃ pajahatīti maccuhāyī. Kāmāsavādīnaṃ abhāvena anāsavo. Idaṃ vuttaṃ hoti – dibbacakkhuñāṇaṃ pubbenivāsañāṇaṃ āsavakkhayañāṇanti imāsaṃ tissannaṃ vijjānaṃ adhigatattā tevijjo tato eva sabbaso kāmāsavādīnaṃ parikkhīṇattā anāsavo āyatiṃ punabbhavassa aggahaṇato maraṇābhāvena maccuhāyī yadipi hoti, evaṃ santepi appaññātoti naṃ bālā avajānanti yassatthāya kulaputtā sammadeva agārasmā anagāriyaṃ pabbajanti, taṃ sadatthaṃ anupāpuṇitvā ṭhitampi naṃ uttamaṃ purisaṃ ‘‘dhutavādo bahussuto dhammakathiko’’ti uppannalābhassa abhāvato ‘‘na paññāto na pākaṭo’’ti bālā dummedhapuggalā avajānanti, kasmā? Ajānatā ajānanakāraṇā guṇānaṃ ajānanameva tattha kāraṇanti dasseti.
ยถา จ คุณานํ อชานนโต พาลา ลาภครุตาย สมฺภาวนียมฺปิ อวชานนฺติ, เอวํ คุณานํ อชานนโต ลาภครุตาย เอวํ อวชานิตพฺพมฺปิ สมฺภาเวนฺตีติ ทเสฺสโนฺต ทุติยํ คาถํ อาหฯ ตตฺถ โยติ อนิยมวจนํฯ จ-สโทฺท พฺยติเรเก, เตน ยถาวุตฺตปุคฺคลโต อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วุจฺจมานํเยว วิเสสํ ชเนติฯ โขติ อวธารเณฯ อนฺนปานสฺสาติ นิทสฺสนมตฺตํฯ ลาภีติ ลาภวาฯ อิธาติ อิมสฺมิํ โลเกฯ ชรามรเณหิ ตสฺส ตสฺส สตฺตาวาสสฺส ปูรณโต คลนโต จ ปุคฺคโลฯ ปาปธโมฺมติ ลามกธโมฺมฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – โย ปน ปุคฺคโล จีวราทิปจฺจยมตฺตเสฺสว ลาภี โหติ, น ฌานาทีนํ, โส ปาปิจฺฉตาย ทุสฺสีลภาเวน หีนธโมฺมปิ สมาโน อิธ อิมสฺมิํ โลเก พาลานํ ลาภครุตาย สกฺกโต ครุกโต โหตีติฯ
Yathā ca guṇānaṃ ajānanato bālā lābhagarutāya sambhāvanīyampi avajānanti, evaṃ guṇānaṃ ajānanato lābhagarutāya evaṃ avajānitabbampi sambhāventīti dassento dutiyaṃ gāthaṃ āha. Tattha yoti aniyamavacanaṃ. Ca-saddo byatireke, tena yathāvuttapuggalato imassa puggalassa vuccamānaṃyeva visesaṃ janeti. Khoti avadhāraṇe. Annapānassāti nidassanamattaṃ. Lābhīti lābhavā. Idhāti imasmiṃ loke. Jarāmaraṇehi tassa tassa sattāvāsassa pūraṇato galanato ca puggalo. Pāpadhammoti lāmakadhammo. Ayañhettha attho – yo pana puggalo cīvarādipaccayamattasseva lābhī hoti, na jhānādīnaṃ, so pāpicchatāya dussīlabhāvena hīnadhammopi samāno idha imasmiṃ loke bālānaṃ lābhagarutāya sakkato garukato hotīti.
อชินเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ajinattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๕. อชินเตฺถรคาถา • 5. Ajinattheragāthā