Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถา • Suttanipāta-aṭṭhakathā |
๑. อชิตสุตฺตวณฺณนา
1. Ajitasuttavaṇṇanā
๑๐๓๙. ตสฺมิํ ปน ปเญฺห นิวุโตติ ปฎิจฺฉาทิโตฯ กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสีติ กิํ อสฺส โลกสฺส อภิเลปนํ วเทสิฯ
1039. Tasmiṃ pana pañhe nivutoti paṭicchādito. Kissābhilepanaṃ brūsīti kiṃ assa lokassa abhilepanaṃ vadesi.
๑๐๔๐. เววิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตีติ มจฺฉริยเหตุ จ ปมาทเหตุ จ นปฺปกาสติฯ มจฺฉริยํ หิสฺส ทานาทิคุเณหิ ปกาสิตุํ น เทติ, ปมาโท สีลาทีหิฯ ชปฺปาภิเลปนนฺติ ตณฺหา อสฺส โลกสฺส มกฺกฎเลโป วิย มกฺกฎสฺส อภิเลปนํฯ ทุกฺขนฺติ ชาติอาทิกํ ทุกฺขํฯ
1040.Vevicchā pamādā nappakāsatīti macchariyahetu ca pamādahetu ca nappakāsati. Macchariyaṃ hissa dānādiguṇehi pakāsituṃ na deti, pamādo sīlādīhi. Jappābhilepananti taṇhā assa lokassa makkaṭalepo viya makkaṭassa abhilepanaṃ. Dukkhanti jātiādikaṃ dukkhaṃ.
๑๐๔๑. สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ สเพฺพสุ รูปาทิอายตเนสุ ตณฺหาทิกา โสตา สนฺทนฺติฯ กิํ นิวารณนฺติ เตสํ กิํ อาวรณํ กา รกฺขาติ? สํวรํ พฺรูหีติ ตํ เตสํ นิวารณสงฺขาตํ สํวรํ พฺรูหิฯ เอเตน สาวเสสปฺปหานํ ปุจฺฉติฯ เกน โสตา ปิธิยฺยเรติ เกน ธเมฺมน เอเต โสตา ปิธิยฺยนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺติฯ เอเตน อนวเสสปฺปหานํ ปุจฺฉติฯ
1041.Savanti sabbadhi sotāti sabbesu rūpādiāyatanesu taṇhādikā sotā sandanti. Kiṃ nivāraṇanti tesaṃ kiṃ āvaraṇaṃ kā rakkhāti? Saṃvaraṃ brūhīti taṃ tesaṃ nivāraṇasaṅkhātaṃ saṃvaraṃ brūhi. Etena sāvasesappahānaṃ pucchati. Kena sotā pidhiyyareti kena dhammena ete sotā pidhiyyanti pacchijjanti. Etena anavasesappahānaṃ pucchati.
๑๐๔๒. สติ เตสํ นิวารณนฺติ วิปสฺสนายุตฺตาฯ กุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมเนฺนสมานา สติ เตสํ โสตานํ นิวารณํฯ โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ ตเมวาหํ สติํ โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ อธิปฺปาโยฯ ปญฺญาเยเต ปิธิยฺยเรติ รูปาทีสุ ปน อนิจฺจตาทิปฎิเวธสาธิกาย มคฺคปญฺญาย เอเต โสตา สพฺพโส ปิธิยฺยนฺตีติฯ
1042.Sati tesaṃ nivāraṇanti vipassanāyuttā. Kusalānaṃ dhammānaṃ gatiyo samannesamānā sati tesaṃ sotānaṃ nivāraṇaṃ. Sotānaṃ saṃvaraṃ brūmīti tamevāhaṃ satiṃ sotānaṃ saṃvaraṃ brūmīti adhippāyo. Paññāyete pidhiyyareti rūpādīsu pana aniccatādipaṭivedhasādhikāya maggapaññāya ete sotā sabbaso pidhiyyantīti.
๑๐๔๓. ปญฺญา เจวาติ ปญฺหคาถาย, ยา จายํ ตยา วุตฺตา ปญฺญา ยา จ สติ, ยญฺจ ตทวเสสํ นามรูปํ, เอตํ สพฺพมฺปิ กตฺถ นิรุชฺฌติ, เอตํ เม ปญฺหํ ปุโฎฺฐ พฺรูหีติ เอวํ สเงฺขปโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
1043.Paññā cevāti pañhagāthāya, yā cāyaṃ tayā vuttā paññā yā ca sati, yañca tadavasesaṃ nāmarūpaṃ, etaṃ sabbampi kattha nirujjhati, etaṃ me pañhaṃ puṭṭho brūhīti evaṃ saṅkhepattho veditabbo.
๑๐๔๔. วิสฺสชฺชนคาถาย ปนสฺส ยสฺมา ปญฺญาสติโย นาเมเนว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตา วิสุํ น วุตฺตาฯ อยเมตฺถ สเงฺขปโตฺถ – ยํ มํ ตฺวํ, อชิต, เอตํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ ‘‘กเตฺถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ, ตํ เต ยตฺถ นามญฺจ รูปญฺจ อเสสํ อุปรุชฺฌติ, ตํ วทโนฺต วทามิ , ตสฺส, ตสฺส หิ วิญฺญาณสฺส นิโรเธน สเหว อปุพฺพํ อจริมํ เอเตฺถตํ อุปรุชฺฌติฯ เอเตฺถว วิญฺญาณนิโรเธ นิรุชฺฌติ เอตํ, วิญฺญาณนิโรธา ตสฺส นิโรโธ โหติฯ ตํ นาติวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติฯ
1044. Vissajjanagāthāya panassa yasmā paññāsatiyo nāmeneva saṅgahaṃ gacchanti, tasmā tā visuṃ na vuttā. Ayamettha saṅkhepattho – yaṃ maṃ tvaṃ, ajita, etaṃ pañhaṃ apucchi ‘‘katthetaṃ uparujjhatī’’ti, taṃ te yattha nāmañca rūpañca asesaṃ uparujjhati, taṃ vadanto vadāmi, tassa, tassa hi viññāṇassa nirodhena saheva apubbaṃ acarimaṃ etthetaṃ uparujjhati. Ettheva viññāṇanirodhe nirujjhati etaṃ, viññāṇanirodhā tassa nirodho hoti. Taṃ nātivattatīti vuttaṃ hoti.
๑๐๔๕. เอตฺตาวตา จ ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ อิมินา ปกาสิตํ ทุกฺขสจฺจํ, ‘‘ยานิ โสตานี’’ติ อิมินา สมุทยสจฺจํ ปญฺญาเยเต ปิธิยฺยเรติ อิมินา มคฺคสจฺจํ, ‘‘อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ อิมินา นิโรธสจฺจนฺติ เอวํ จตฺตาริ สจฺจานิ สุตฺวาปิ อริยภูมิํ อนธิคโต ปุน เสขาเสขปฎิปทํ ปุจฺฉโนฺต ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส’’ติ คาถมาหฯ ตตฺถ สงฺขาตธมฺมาติ อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสิตธมฺมา, อรหตํ เอตํ อธิวจนํฯ เสขาติ สีลาทีนิ สิกฺขมานา อวเสสา อริยปุคฺคลาฯ ปุถูติ พหู สตฺตชนาฯ เตสํ เม นิปโก อิริยํ ปุโฎฺฐ ปพฺรูหีติ เตสํ เม เสขาเสขานํ นิปโก ปณฺฑิโต ตฺวํ ปุโฎฺฐ ปฎิปตฺติํ พฺรูหีติฯ
1045. Ettāvatā ca ‘‘dukkhamassa mahabbhaya’’nti iminā pakāsitaṃ dukkhasaccaṃ, ‘‘yāni sotānī’’ti iminā samudayasaccaṃ paññāyete pidhiyyareti iminā maggasaccaṃ, ‘‘asesaṃ uparujjhatī’’ti iminā nirodhasaccanti evaṃ cattāri saccāni sutvāpi ariyabhūmiṃ anadhigato puna sekhāsekhapaṭipadaṃ pucchanto ‘‘ye ca saṅkhātadhammāse’’ti gāthamāha. Tattha saṅkhātadhammāti aniccādivasena parivīmaṃsitadhammā, arahataṃ etaṃ adhivacanaṃ. Sekhāti sīlādīni sikkhamānā avasesā ariyapuggalā. Puthūti bahū sattajanā. Tesaṃ me nipako iriyaṃ puṭṭho pabrūhīti tesaṃ me sekhāsekhānaṃ nipako paṇḍito tvaṃ puṭṭho paṭipattiṃ brūhīti.
๑๐๔๖. อถสฺส ภควา ยสฺมา เสเขน กามจฺฉนฺทนีวรณํ อาทิํ กตฺวา สพฺพกิเลสา ปหาตพฺพา เอว, ตสฺมา ‘‘กาเมสู’’ติ อุปฑฺฒคาถาย เสขปฎิปทํ ทเสฺสติฯ ตสฺสโตฺถ – วตฺถุ ‘‘กาเมสุ’’ กิเลสกาเมน นาภิคิเชฺฌยฺย กายทุจฺจริตาทโย จ มนโส อาวิลภาวกเร ธเมฺม ปชหโนฺต มนสา นาวิโล สิยาติฯ ยสฺมา ปน อเสโข อนิจฺจาทิวเสน สพฺพสงฺขาราทีนํ ปริตุลิตตฺตา กุสโล สพฺพธเมฺมสุ กายานุปสฺสนาสติอาทีหิ จ สโต สกฺกายทิฎฺฐิอาทีนํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขุภาวํ ปโตฺต จ หุตฺวา สพฺพิริยาปเถสุ ปริพฺพชติ, ตสฺมา ‘‘กุสโล’’ติ อุปฑฺฒคาถาย อเสขปฎิปทํ ทเสฺสติฯ เสสํ สพฺพตฺถ ปากฎเมวฯ
1046. Athassa bhagavā yasmā sekhena kāmacchandanīvaraṇaṃ ādiṃ katvā sabbakilesā pahātabbā eva, tasmā ‘‘kāmesū’’ti upaḍḍhagāthāya sekhapaṭipadaṃ dasseti. Tassattho – vatthu ‘‘kāmesu’’ kilesakāmena nābhigijjheyya kāyaduccaritādayo ca manaso āvilabhāvakare dhamme pajahanto manasā nāvilo siyāti. Yasmā pana asekho aniccādivasena sabbasaṅkhārādīnaṃ paritulitattā kusalo sabbadhammesu kāyānupassanāsatiādīhi ca sato sakkāyadiṭṭhiādīnaṃ bhinnattā bhikkhubhāvaṃ patto ca hutvā sabbiriyāpathesu paribbajati, tasmā ‘‘kusalo’’ti upaḍḍhagāthāya asekhapaṭipadaṃ dasseti. Sesaṃ sabbattha pākaṭameva.
เอวํ ภควา อรหตฺตนิกูเฎน เทสนํ นิฎฺฐาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน อชิโต อรหเตฺต ปติฎฺฐาสิ สทฺธิํ อเนฺตวาสิสหเสฺสน, อเญฺญสญฺจ อเนกสหสฺสานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิฯ สห อรหตฺตปฺปตฺติยา จ อายสฺมโต อชิตสฺส อเนฺตวาสิสหสฺสสฺส จ อชินชฎาวากจีราทีนิ อนฺตรธายิํสุฯ สเพฺพว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา, ทฺวงฺคุลเกสา เอหิภิกฺขู หุตฺวา ภควนฺตํ นมสฺสมานา ปญฺชลิกา นิสีทิํสูติฯ
Evaṃ bhagavā arahattanikūṭena desanaṃ niṭṭhāpesi, desanāpariyosāne ajito arahatte patiṭṭhāsi saddhiṃ antevāsisahassena, aññesañca anekasahassānaṃ dhammacakkhuṃ udapādi. Saha arahattappattiyā ca āyasmato ajitassa antevāsisahassassa ca ajinajaṭāvākacīrādīni antaradhāyiṃsu. Sabbeva iddhimayapattacīvaradharā, dvaṅgulakesā ehibhikkhū hutvā bhagavantaṃ namassamānā pañjalikā nisīdiṃsūti.
ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฎฺฐกถาย
Paramatthajotikāya khuddaka-aṭṭhakathāya
สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถาย อชิตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suttanipāta-aṭṭhakathāya ajitasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / สุตฺตนิปาตปาฬิ • Suttanipātapāḷi / ๑. อชิตมาณวปุจฺฉา • 1. Ajitamāṇavapucchā