Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๒. อาชีวกสุตฺตํ

    2. Ājīvakasuttaṃ

    ๗๓. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานโนฺท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ อถ โข อญฺญตโร อาชีวกสาวโก คหปติ เยนายสฺมา อานโนฺท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส อาชีวกสาวโก คหปติ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –

    73. Ekaṃ samayaṃ āyasmā ānando kosambiyaṃ viharati ghositārāme. Atha kho aññataro ājīvakasāvako gahapati yenāyasmā ānando tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ ānandaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho so ājīvakasāvako gahapati āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca –

    ‘‘เกสํ โน, ภเนฺต อานนฺท, ธโมฺม สฺวากฺขาโต? เก โลเก สุปฺปฎิปนฺนา? เก โลเก สุกตา’’ติ 1? ‘‘เตน หิ, คหปติ, ตเญฺญเวตฺถ ปฎิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, เย ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โทสสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โมหสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, เตสํ ธโมฺม สฺวากฺขาโต โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘เย , ภเนฺต, ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โทสสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โมหสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, เตสํ ธโมฺม สฺวากฺขาโตฯ เอวํ เม เอตฺถ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Kesaṃ no, bhante ānanda, dhammo svākkhāto? Ke loke suppaṭipannā? Ke loke sukatā’’ti 2? ‘‘Tena hi, gahapati, taññevettha paṭipucchissāmi, yathā te khameyya tathā naṃ byākareyyāsi. Taṃ kiṃ maññasi, gahapati, ye rāgassa pahānāya dhammaṃ desenti, dosassa pahānāya dhammaṃ desenti, mohassa pahānāya dhammaṃ desenti, tesaṃ dhammo svākkhāto no vā? Kathaṃ vā te ettha hotī’’ti? ‘‘Ye , bhante, rāgassa pahānāya dhammaṃ desenti, dosassa pahānāya dhammaṃ desenti, mohassa pahānāya dhammaṃ desenti, tesaṃ dhammo svākkhāto. Evaṃ me ettha hotī’’ti.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, เย ราคสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โทสสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โมหสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, เต โลเก สุปฺปฎิปนฺนา โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘เย, ภเนฺต, ราคสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โทสสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โมหสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, เต โลเก สุปฺปฎิปนฺนาฯ เอวํ เม เอตฺถ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, gahapati, ye rāgassa pahānāya paṭipannā, dosassa pahānāya paṭipannā, mohassa pahānāya paṭipannā, te loke suppaṭipannā no vā? Kathaṃ vā te ettha hotī’’ti? ‘‘Ye, bhante, rāgassa pahānāya paṭipannā, dosassa pahānāya paṭipannā, mohassa pahānāya paṭipannā, te loke suppaṭipannā. Evaṃ me ettha hotī’’ti.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, เยสํ ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เยสํ โทโส ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เยสํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เต โลเก สุกตา โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘เยสํ, ภเนฺต, ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เยสํ โทโส ปหีโน…เป.… เยสํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เต โลเก สุกตาฯ เอวํ เม เอตฺถ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, gahapati, yesaṃ rāgo pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo, yesaṃ doso pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṅkato āyatiṃ anuppādadhammo, yesaṃ moho pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo, te loke sukatā no vā? Kathaṃ vā te ettha hotī’’ti? ‘‘Yesaṃ, bhante, rāgo pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo, yesaṃ doso pahīno…pe… yesaṃ moho pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo, te loke sukatā. Evaṃ me ettha hotī’’ti.

    ‘‘อิติ โข, คหปติ, ตยาเวตํ 3 พฺยากตํ – ‘เย, ภเนฺต, ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โทสสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, โมหสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสนฺติ, เตสํ ธโมฺม สฺวากฺขาโต’ติฯ ตยาเวตํ พฺยากตํ – ‘เย, ภเนฺต, ราคสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โทสสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โมหสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, เต โลเก สุปฺปฎิปนฺนา’ติฯ ตยาเวตํ พฺยากตํ – ‘เยสํ, ภเนฺต, ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เยสํ โทโส ปหีโน…เป.… เยสํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, เต โลเก สุกตา’’’ติฯ

    ‘‘Iti kho, gahapati, tayāvetaṃ 4 byākataṃ – ‘ye, bhante, rāgassa pahānāya dhammaṃ desenti, dosassa pahānāya dhammaṃ desenti, mohassa pahānāya dhammaṃ desenti, tesaṃ dhammo svākkhāto’ti. Tayāvetaṃ byākataṃ – ‘ye, bhante, rāgassa pahānāya paṭipannā, dosassa pahānāya paṭipannā, mohassa pahānāya paṭipannā, te loke suppaṭipannā’ti. Tayāvetaṃ byākataṃ – ‘yesaṃ, bhante, rāgo pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṅkato āyatiṃ anuppādadhammo, yesaṃ doso pahīno…pe… yesaṃ moho pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṅkato āyatiṃ anuppādadhammo, te loke sukatā’’’ti.

    ‘‘อจฺฉริยํ, ภเนฺต, อพฺภุตํ, ภเนฺต! น เจว นาม สธมฺมุกฺกํสนา ภวิสฺสติ, น จ ปรธมฺมาปสาทนา 5ฯ อายตเนว 6 ธมฺมเทสนา, อโตฺถ จ วุโตฺต, อตฺตา จ อนุปนีโตฯ ตุเมฺห, ภเนฺต อานนฺท, ราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสถ, โทสสฺส…เป.… โมหสฺส ปหนาย ธมฺมํ เทเสถฯ ตุมฺหากํ, ภเนฺต อานนฺท, ธโมฺม สฺวากฺขาโตฯ ตุเมฺห, ภเนฺต อานนฺท, ราคสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนา, โทสสฺส…เป.… โมหสฺส ปหานาย ปฎิปนฺนาฯ ตุเมฺห, ภเนฺต, โลเก สุปฺปฎิปนฺนาฯ ตุมฺหากํ, ภเนฺต อานนฺท, ราโค ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม, ตุมฺหากํ โทโส ปหีโน…เป.… ตุมฺหากํ โมโห ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺมฯ ตุเมฺห โลเก สุกตาฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bhante, abbhutaṃ, bhante! Na ceva nāma sadhammukkaṃsanā bhavissati, na ca paradhammāpasādanā 7. Āyataneva 8 dhammadesanā, attho ca vutto, attā ca anupanīto. Tumhe, bhante ānanda, rāgassa pahānāya dhammaṃ desetha, dosassa…pe… mohassa pahanāya dhammaṃ desetha. Tumhākaṃ, bhante ānanda, dhammo svākkhāto. Tumhe, bhante ānanda, rāgassa pahānāya paṭipannā, dosassa…pe… mohassa pahānāya paṭipannā. Tumhe, bhante, loke suppaṭipannā. Tumhākaṃ, bhante ānanda, rāgo pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṅkato āyatiṃ anuppādadhammo, tumhākaṃ doso pahīno…pe… tumhākaṃ moho pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṅkato āyatiṃ anuppādadhammo. Tumhe loke sukatā.

    ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต, อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต! เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ อเยฺยน อานเนฺทน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภเนฺต อานนฺท, ตํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ อโยฺย อานโนฺท ธาเรตุ, อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ทุติยํฯ

    ‘‘Abhikkantaṃ, bhante, abhikkantaṃ, bhante! Seyyathāpi, bhante, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – ‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’ti; evamevaṃ ayyena ānandena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ, bhante ānanda, taṃ bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāmi dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsakaṃ maṃ ayyo ānando dhāretu, ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Dutiyaṃ.







    Footnotes:
    1. สุคตาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    2. sugatāti (sī. syā. kaṃ. pī.)
    3. ตยา เจตํ (สี. ปี. ก.)
    4. tayā cetaṃ (sī. pī. ka.)
    5. น ปรธมฺมาปสาทนา (สี. ปี.), น ปรธมฺมวมฺภนา (ม. นิ. ๒.๒๓๖)
    6. อายตเน จ (ม. นิ. ๒.๒๓๖)
    7. na paradhammāpasādanā (sī. pī.), na paradhammavambhanā (ma. ni. 2.236)
    8. āyatane ca (ma. ni. 2.236)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อาชีวกสุตฺตวณฺณนา • 2. Ājīvakasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๒. อาชีวกสุตฺตวณฺณนา • 2. Ājīvakasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact