Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๑๙] ๙. อกาลราวิชาตกวณฺณนา
[119] 9. Akālarāvijātakavaṇṇanā
อมาตาปิตรสํวโทฺธติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ อกาลราวิํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ โส กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุโตฺต สาสเน ปพฺพชิตฺวา วตฺตํ วา สิกฺขํ วา น อุคฺคณฺหิฯ โส ‘‘อิมสฺมิํ กาเล มยา วตฺตํ กาตพฺพํ, อิมสฺมิํ กาเล อุปฎฺฐาตพฺพํ, อิมสฺมิํ กาเล อุคฺคเหตพฺพํ, อิมสฺมิํ กาเล สชฺฌายิตพฺพ’’นฺติ น ชานาติ, ปฐมยาเมปิ มชฺฌิมยาเมปิ ปจฺฉิมยาเมปิ ปพุทฺธปพุทฺธกฺขเณเยว มหาสทฺทํ กโรติ, ภิกฺขู นิทฺทํ น ลภนฺติฯ ธมฺมสภายํ ภิกฺขู ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม ภิกฺขุ เอวรูเป รตนสาสเน ปพฺพชิตฺวา วตฺตํ วา สิกฺขํ วา กาลํ วา อกาลํ วา น ชานาตี’’ติ ตสฺส อคุณกถํ กเถสุํฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ , ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนเวส อกาลราวี, ปุเพฺพปิ อกาลราวีเยว, กาลากาลํ อชานนภาเวน จ คีวาย วฎฺฎิตาย ชีวิตกฺขยํ ปโตฺต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Amātāpitarasaṃvaddhoti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ akālarāviṃ bhikkhuṃ ārabbha kathesi. So kira sāvatthivāsī kulaputto sāsane pabbajitvā vattaṃ vā sikkhaṃ vā na uggaṇhi. So ‘‘imasmiṃ kāle mayā vattaṃ kātabbaṃ, imasmiṃ kāle upaṭṭhātabbaṃ, imasmiṃ kāle uggahetabbaṃ, imasmiṃ kāle sajjhāyitabba’’nti na jānāti, paṭhamayāmepi majjhimayāmepi pacchimayāmepi pabuddhapabuddhakkhaṇeyeva mahāsaddaṃ karoti, bhikkhū niddaṃ na labhanti. Dhammasabhāyaṃ bhikkhū ‘‘āvuso, asuko nāma bhikkhu evarūpe ratanasāsane pabbajitvā vattaṃ vā sikkhaṃ vā kālaṃ vā akālaṃ vā na jānātī’’ti tassa aguṇakathaṃ kathesuṃ. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha , bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idānevesa akālarāvī, pubbepi akālarāvīyeva, kālākālaṃ ajānanabhāvena ca gīvāya vaṭṭitāya jīvitakkhayaṃ patto’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต อุทิจฺจพฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต สพฺพสิเปฺปสุ ปารํ คนฺตฺวา พาราณสิยํ ทิสาปาโมโกฺข อาจริโย หุตฺวา ปญฺจสเต มาณเว สิปฺปํ วาเจติฯ เตสํ มาณวานํ เอโก กาลราวี กุกฺกุโฎ อตฺถิ, เต ตสฺส วสฺสิตสเทฺทน อุฎฺฐาย สิปฺปํ สิกฺขนฺติฯ โส กาลมกาสิฯ เต อญฺญํ กุกฺกุฎํ ปริเยสนฺตา จรนฺติฯ อเถโก มาณวโก สุสานวเน ทารูนิ อุทฺธรโนฺต เอกํ กุกฺกุฎํ ทิสฺวา อาเนตฺวา ปญฺชเร ฐเปตฺวา ปฎิชคฺคติฯ โส สุสาเน วฑฺฒิตตฺตา ‘‘อสุกเวลาย นาม วสฺสิตพฺพ’’นฺติ อชานโนฺต กทาจิ อติรตฺติํ วสฺสติ, กทาจิ อรุณุคฺคมเนฯ มาณวา ตสฺส อติรตฺติํ วสฺสิตกาเล สิปฺปํ สิกฺขนฺตา ยาว อรุณุคฺคมนา สิกฺขิตุํ น สโกฺกนฺติ, นิทฺทายมานา คหิตฎฺฐานมฺปิ น ปสฺสนฺติฯ อติปภาเต วสฺสิตกาเล สชฺฌายสฺส โอกาสเมว น ลภนฺติฯ มาณวา ‘‘อยํ อติรตฺติํ วา วสฺสติ อติปภาเต วา, อิมํ นิสฺสาย อมฺหากํ สิปฺปํ น นิฎฺฐายิสฺสตี’’ติ ตํ คเหตฺวา คีวํ วเฎฺฎตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ‘‘อกาลราวี กุกฺกุโฎ อเมฺหหิ ฆาติโต’’ติ อาจริยสฺส กเถสุํฯ อาจริโย ‘‘โอวาทํ อคฺคเหตฺวา สํวฑฺฒิตภาเวน มรณํ ปโตฺต’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto udiccabrāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto sabbasippesu pāraṃ gantvā bārāṇasiyaṃ disāpāmokkho ācariyo hutvā pañcasate māṇave sippaṃ vāceti. Tesaṃ māṇavānaṃ eko kālarāvī kukkuṭo atthi, te tassa vassitasaddena uṭṭhāya sippaṃ sikkhanti. So kālamakāsi. Te aññaṃ kukkuṭaṃ pariyesantā caranti. Atheko māṇavako susānavane dārūni uddharanto ekaṃ kukkuṭaṃ disvā ānetvā pañjare ṭhapetvā paṭijaggati. So susāne vaḍḍhitattā ‘‘asukavelāya nāma vassitabba’’nti ajānanto kadāci atirattiṃ vassati, kadāci aruṇuggamane. Māṇavā tassa atirattiṃ vassitakāle sippaṃ sikkhantā yāva aruṇuggamanā sikkhituṃ na sakkonti, niddāyamānā gahitaṭṭhānampi na passanti. Atipabhāte vassitakāle sajjhāyassa okāsameva na labhanti. Māṇavā ‘‘ayaṃ atirattiṃ vā vassati atipabhāte vā, imaṃ nissāya amhākaṃ sippaṃ na niṭṭhāyissatī’’ti taṃ gahetvā gīvaṃ vaṭṭetvā jīvitakkhayaṃ pāpetvā ‘‘akālarāvī kukkuṭo amhehi ghātito’’ti ācariyassa kathesuṃ. Ācariyo ‘‘ovādaṃ aggahetvā saṃvaḍḍhitabhāvena maraṇaṃ patto’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๑๑๙.
119.
‘‘อมาตาปิตร-สํวโทฺธ, อนาเจรกุเล วสํ;
‘‘Amātāpitara-saṃvaddho, anācerakule vasaṃ;
นายํ กาลํ อกาลํ วา, อภิชานาติ กุกฺกุโฎ’’ติฯ
Nāyaṃ kālaṃ akālaṃ vā, abhijānāti kukkuṭo’’ti.
ตตฺถ อมาตาปิตรสํวโทฺธติ มาตาปิตโร นิสฺสาย เตสํ โอวาทํ อคฺคเหตฺวา สํวโฑฺฒฯ อนาเจรกุเล วสนฺติ อาจริยกุเลปิ อวสมาโน, อาจารสิกฺขาปกํ กญฺจิ นิสฺสาย อวสิตตฺตาติ อโตฺถฯ นายํ กาลํ อกาลํ วาติ ‘‘อิมสฺมิํ กาเล วสฺสิตพฺพํ, อิมสฺมิํ น วสฺสิตพฺพ’’นฺติ เอวํ วสฺสิตพฺพยุตฺตกํ กาลํ วา อกาลํ วา เอส กุกฺกุโฎ น ชานาติ, อชานนภาเวเนว ชีวิตกฺขยํ ปโตฺตติฯ อิทํ การณํ ทเสฺสตฺวา โพธิสโตฺต ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยถากมฺมํ คโตฯ
Tattha amātāpitarasaṃvaddhoti mātāpitaro nissāya tesaṃ ovādaṃ aggahetvā saṃvaḍḍho. Anācerakule vasanti ācariyakulepi avasamāno, ācārasikkhāpakaṃ kañci nissāya avasitattāti attho. Nāyaṃ kālaṃ akālaṃ vāti ‘‘imasmiṃ kāle vassitabbaṃ, imasmiṃ na vassitabba’’nti evaṃ vassitabbayuttakaṃ kālaṃ vā akālaṃ vā esa kukkuṭo na jānāti, ajānanabhāveneva jīvitakkhayaṃ pattoti. Idaṃ kāraṇaṃ dassetvā bodhisatto yāvatāyukaṃ ṭhatvā yathākammaṃ gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อกาลราวี กุกฺกุโฎ อยํ ภิกฺขุ อโหสิ, อเนฺตวาสิกา พุทฺธปริสา, อาจริโย ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā akālarāvī kukkuṭo ayaṃ bhikkhu ahosi, antevāsikā buddhaparisā, ācariyo pana ahameva ahosi’’nti.
อกาลราวิชาตกวณฺณนา นวมาฯ
Akālarāvijātakavaṇṇanā navamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๑๙. อกาลราวิชาตกํ • 119. Akālarāvijātakaṃ