Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๓. อกมฺมนิยวคฺควณฺณนา
3. Akammaniyavaggavaṇṇanā
๒๑. ตติยสฺส ปฐเม อภาวิตนฺติ สมถวิปสฺสนาภาวนาวเสน น ภาวิตํ ตถา อภาวิตตฺตาฯ ตญฺหิ ‘‘อวฑฺฒิต’’นฺติ วุจฺจติ ปฎิปกฺขาภิภเวน ปริพฺรูหนาภาวโตฯ เตนาห ภควา – ‘‘อกมฺมนิยํ โหตี’’ติฯ
21. Tatiyassa paṭhame abhāvitanti samathavipassanābhāvanāvasena na bhāvitaṃ tathā abhāvitattā. Tañhi ‘‘avaḍḍhita’’nti vuccati paṭipakkhābhibhavena paribrūhanābhāvato. Tenāha bhagavā – ‘‘akammaniyaṃ hotī’’ti.
๒๒. ทุติเย วุตฺตวิปริยาเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ปฐเมติ ตติยวคฺคสฺส ปฐมสุเตฺตฯ วฎฺฎวเสนาติ วิปากวฎฺฎวเสนฯ เตภูมกวฎฺฎนฺติ เตภูมกวิปากวฎฺฎํฯ วฎฺฎปฎิลาภาย กมฺมนฺติ วิปากวฎฺฎสฺส ปฎิลาภาย อุปนิสฺสยภูตํ กมฺมํ, ตสฺส สหายภูตํ กิเลสวฎฺฎมฺปิ กมฺมคฺคหเณเนว สงฺคหิตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ วิวฎฺฎปฎิลาภาย กมฺมนฺติ วิวฎฺฎาธิคมสฺส อุปนิสฺสยภูตํ กมฺมํฯ ยํ ปน จริมภวนิพฺพตฺตกํ กมฺมํ, ตํ วิวฎฺฎปฺปฎิลาภาย กมฺมํ โหติ, น โหตีติ? น โหติ วฎฺฎปาทกภาวโตฯ จริมภวปฎิสนฺธิ วิย ปน วิวฎฺฎูปนิสฺสโยติ สกฺกา วิญฺญาตุํฯ น หิ กทาจิ ติเหตุกปฎิสนฺธิยา วินา วิเสสาธิคโม สมฺภวติฯ อิเมสุ สุเตฺตสูติ อิเมสุ ปน ปฐมทุติยสุเตฺตสุ ยถากฺกมํ วฎฺฎวิวฎฺฎเมว กถิตํฯ
22. Dutiye vuttavipariyāyena attho veditabbo. Paṭhameti tatiyavaggassa paṭhamasutte. Vaṭṭavasenāti vipākavaṭṭavasena. Tebhūmakavaṭṭanti tebhūmakavipākavaṭṭaṃ. Vaṭṭapaṭilābhāya kammanti vipākavaṭṭassa paṭilābhāya upanissayabhūtaṃ kammaṃ, tassa sahāyabhūtaṃ kilesavaṭṭampi kammaggahaṇeneva saṅgahitanti daṭṭhabbaṃ. Vivaṭṭapaṭilābhāya kammanti vivaṭṭādhigamassa upanissayabhūtaṃ kammaṃ. Yaṃ pana carimabhavanibbattakaṃ kammaṃ, taṃ vivaṭṭappaṭilābhāya kammaṃ hoti, na hotīti? Na hoti vaṭṭapādakabhāvato. Carimabhavapaṭisandhi viya pana vivaṭṭūpanissayoti sakkā viññātuṃ. Na hi kadāci tihetukapaṭisandhiyā vinā visesādhigamo sambhavati. Imesu suttesūti imesu pana paṭhamadutiyasuttesu yathākkamaṃ vaṭṭavivaṭṭameva kathitaṃ.
๒๓. ตติเย อภาวิตนฺติ เอตฺถ ภาวนา นาม สมาธิภาวนาฯ สา ยตฺถ อาสงฺกิตพฺพา, ตํ กามาวจรปฐมมหากุสลจิตฺตาทิอภาวิตนฺติ อธิเปฺปตนฺติ อาห – ‘‘เทวมนุสฺสสมฺปตฺติโย’’ติอาทิฯ
23. Tatiye abhāvitanti ettha bhāvanā nāma samādhibhāvanā. Sā yattha āsaṅkitabbā, taṃ kāmāvacarapaṭhamamahākusalacittādiabhāvitanti adhippetanti āha – ‘‘devamanussasampattiyo’’tiādi.
๒๔. จตุเตฺถ ยสฺมา จิตฺตนฺติ วิวฎฺฎวเสเนว อุปฺปนฺนจิตฺตํ อธิเปฺปตํ, ตสฺมา ชาติชราพฺยาธิมรณโสกาทิทุกฺขสฺส อนิพฺพตฺตนโต มหโต อตฺถาย สํวตฺตตีติ โยชนา เวทิตพฺพาฯ
24. Catutthe yasmā cittanti vivaṭṭavaseneva uppannacittaṃ adhippetaṃ, tasmā jātijarābyādhimaraṇasokādidukkhassa anibbattanato mahato atthāya saṃvattatīti yojanā veditabbā.
๒๕-๒๖. ปญฺจมฉเฎฺฐสุ อุปฺปนฺนนฺติ อวิคตุปฺปาทาทิขณตฺตยมฺปิ อภาวิตํ ภาวนารหิตํ อปาตุภูตเมว ปณฺฑิตสมฺมตสฺส อุปฺปนฺนกิจฺจสฺส อสาธนโต ยถา ‘‘อปุโตฺต’’ติฯ โส หิ สมโตฺถ หุตฺวา ปิตุ ปุตฺตกิจฺจํ อสาเธโนฺต อปุโตฺตติ โลเก วุจฺจติ, เอวํ สมฺปทมิทํฯ เตนาห – ‘‘กสฺมา’’ติอาทิฯ เตสุ ธเมฺมสูติ โลกุตฺตรปาทกชฺฌานาทีสุฯ เถโร ปน มตฺถกปฺปตฺตเมว ภาวิตํ จิตฺตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘มคฺคจิตฺตเมวา’’ติ อาหฯ
25-26. Pañcamachaṭṭhesu uppannanti avigatuppādādikhaṇattayampi abhāvitaṃ bhāvanārahitaṃ apātubhūtameva paṇḍitasammatassa uppannakiccassa asādhanato yathā ‘‘aputto’’ti. So hi samattho hutvā pitu puttakiccaṃ asādhento aputtoti loke vuccati, evaṃ sampadamidaṃ. Tenāha – ‘‘kasmā’’tiādi. Tesu dhammesūti lokuttarapādakajjhānādīsu. Thero pana matthakappattameva bhāvitaṃ cittaṃ dassento ‘‘maggacittamevā’’ti āha.
๒๗-๒๘. สตฺตมฎฺฐเมสุ ปุนปฺปุนํ อกตนฺติ ภาวนาพหุลีการวเสน ปุนปฺปุนํ น กตํฯ อิมานิปิ เทฺวติ อิเมสุ ทฺวีสุ สุเตฺตสุ อาคตานิ อิมานิปิ เทฺว จิตฺตานิฯ
27-28. Sattamaṭṭhamesu punappunaṃ akatanti bhāvanābahulīkāravasena punappunaṃ na kataṃ. Imānipi dveti imesu dvīsu suttesu āgatāni imānipi dve cittāni.
๒๙-๓๐. นวเม อธิวหตีติ อาเนติฯ ทุเกฺขนาติ กิเจฺฉนฯ ทุเปฺปสนโตติ ทุเกฺขน เปเสตพฺพโตฯ มตฺถกปฺปตฺตํ วิปสฺสนาสุขํ ปากติกชฺฌานสุขโต สนฺตตรปณีตตรเมวาติ อาห – ‘‘ฌานสุขโต วิปสฺสนาสุข’’นฺติฯ เตนาห ภควา –
29-30. Navame adhivahatīti āneti. Dukkhenāti kicchena. Duppesanatoti dukkhena pesetabbato. Matthakappattaṃ vipassanāsukhaṃ pākatikajjhānasukhato santatarapaṇītataramevāti āha – ‘‘jhānasukhato vipassanāsukha’’nti. Tenāha bhagavā –
‘‘สุญฺญาคารํ ปวิฎฺฐสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
‘‘Suññāgāraṃ paviṭṭhassa, santacittassa bhikkhuno;
อมานุสี รติ โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโตฯ
Amānusī rati hoti, sammā dhammaṃ vipassato.
‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
‘‘Yato yato sammasati, khandhānaṃ udayabbayaṃ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติฯ (ธ. ป. ๓๗๔);
Labhatī pītipāmojjaṃ, amataṃ taṃ vijānata’’nti. (dha. pa. 374);
ตญฺหิ จิตฺตํ วิสฺสฎฺฐอินฺทวชิรสทิสํ อโมฆภาวโตฯ
Tañhi cittaṃ vissaṭṭhaindavajirasadisaṃ amoghabhāvato.
อกมฺมนิยวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Akammaniyavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๓. อกมฺมนิยวโคฺค • 3. Akammaniyavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. อกมฺมนิยวคฺควณฺณนา • 3. Akammaniyavaggavaṇṇanā