Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๙๐] ๑๐. อกตญฺญุชาตกวณฺณนา
[90] 10. Akataññujātakavaṇṇanā
โย ปุเพฺพ กตกลฺยาโณติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อนาถปิณฺฑิกํ อารพฺภ กเถสิฯ ตสฺส กิเรโก ปจฺจนฺตวาสิโก เสฎฺฐิ อทิฎฺฐสหาโย อโหสิฯ โส เอกทา ปจฺจเนฺต อุฎฺฐานกภณฺฑสฺส ปญฺจ สกฎสตานิ ปูเรตฺวา กมฺมนฺติกมนุเสฺส อาห – ‘‘คจฺฉถ, โภ, อิมํ ภณฺฑํ สาวตฺถิํ เนตฺวา อมฺหากํ สหายกสฺส อนาถปิณฺฑิกมหาเสฎฺฐิสฺส ปจฺจเคฺฆน วิกฺกิณิตฺวา ปฎิภณฺฑํ อาหรถา’’ติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา สาวตฺถิํ คนฺตฺวา มหาเสฎฺฐิํ ทิสฺวา ปณฺณาการํ ทตฺวา ตํ ปวตฺติํ อาโรเจสุํฯ มหาเสฎฺฐิ ‘‘สฺวาคตํ โว’’ติ เตสํ อาวาสญฺจ ปริพฺพยญฺจ ทาเปตฺวา สหายกสฺส สุขํ ปุจฺฉิตฺวา ภณฺฑํ วิกฺกิณิตฺวา ปฎิภณฺฑํ ทาเปสิฯ เต ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อตฺตโน เสฎฺฐิสฺส อาโรเจสุํฯ
Yo pubbe katakalyāṇoti idaṃ satthā jetavane viharanto anāthapiṇḍikaṃ ārabbha kathesi. Tassa kireko paccantavāsiko seṭṭhi adiṭṭhasahāyo ahosi. So ekadā paccante uṭṭhānakabhaṇḍassa pañca sakaṭasatāni pūretvā kammantikamanusse āha – ‘‘gacchatha, bho, imaṃ bhaṇḍaṃ sāvatthiṃ netvā amhākaṃ sahāyakassa anāthapiṇḍikamahāseṭṭhissa paccagghena vikkiṇitvā paṭibhaṇḍaṃ āharathā’’ti. Te ‘‘sādhū’’ti tassa vacanaṃ sampaṭicchitvā sāvatthiṃ gantvā mahāseṭṭhiṃ disvā paṇṇākāraṃ datvā taṃ pavattiṃ ārocesuṃ. Mahāseṭṭhi ‘‘svāgataṃ vo’’ti tesaṃ āvāsañca paribbayañca dāpetvā sahāyakassa sukhaṃ pucchitvā bhaṇḍaṃ vikkiṇitvā paṭibhaṇḍaṃ dāpesi. Te paccantaṃ gantvā tamatthaṃ attano seṭṭhissa ārocesuṃ.
อปรภาเค อนาถปิณฺฑิโกปิ ตเถว ปญฺจ สกฎสตานิ ตตฺถ เปเสสิฯ มนุสฺสา ตตฺถ คนฺตฺวา ปณฺณาการํ อาทาย ปจฺจนฺตวาสิกเสฎฺฐิํ ปสฺสิํสุฯ โส ‘‘กุโต อาคจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สาวตฺถิโต ตุมฺหากํ สหายกสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส สนฺติกา’’ติ วุเตฺต ‘‘อนาถปิณฺฑิโกติ กสฺสจิ ปุริสสฺส นามํ ภวิสฺสตี’’ติ ปริหาสํ กตฺวา ปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุเมฺห’’ติ อุโยฺยเชสิ, เนว นิวาสํ, น ปริพฺพยํ ทาเปสิฯ เต สยเมว ภณฺฑํ วิกฺกิณิตฺวา ปฎิภณฺฑํ อาทาย สาวตฺถิํ อาคนฺตฺวา เสฎฺฐิสฺส ตํ ปวตฺติํ อาโรเจสุํฯ
Aparabhāge anāthapiṇḍikopi tatheva pañca sakaṭasatāni tattha pesesi. Manussā tattha gantvā paṇṇākāraṃ ādāya paccantavāsikaseṭṭhiṃ passiṃsu. So ‘‘kuto āgacchathā’’ti pucchitvā ‘‘sāvatthito tumhākaṃ sahāyakassa anāthapiṇḍikassa santikā’’ti vutte ‘‘anāthapiṇḍikoti kassaci purisassa nāmaṃ bhavissatī’’ti parihāsaṃ katvā paṇṇākāraṃ gahetvā ‘‘gacchatha tumhe’’ti uyyojesi, neva nivāsaṃ, na paribbayaṃ dāpesi. Te sayameva bhaṇḍaṃ vikkiṇitvā paṭibhaṇḍaṃ ādāya sāvatthiṃ āgantvā seṭṭhissa taṃ pavattiṃ ārocesuṃ.
อถ โส ปจฺจนฺตวาสี ปุนปิ เอกวารํ ตเถว ปญฺจ สกฎสตานิ สาวตฺถิํ เปเสสิ, มนุสฺสา ปณฺณาการํ อาทาย มหาเสฎฺฐิํ ปสฺสิํสุฯ เต ปน ทิสฺวา อนาถปิณฺฑิกสฺส มนุสฺสา ‘‘มยํ, สามิ, เอเตสํ นิวาสญฺจ ภตฺตญฺจ ปริพฺพยญฺจ ชานิสฺสามา’’ติ วตฺวา เตสํ สกฎานิ พหินคเร ตถารูเป ฐาเน โมจาเปตฺวา ‘‘ตุเมฺห อิเธว วสถ, อมฺหากํ โว ฆเร ยาคุภตฺตญฺจ ปริพฺพโย จ ภวิสฺสตี’’ติ คนฺตฺวา ทาสกมฺมกเร สนฺนิปาเตตฺวา มชฺฌิมยามสมนนฺตเร ปญฺจ สกฎสตานิ วิลุมฺปิตฺวา นิวาสนปารุปนานิปิ เนสํ อจฺฉินฺทิตฺวา โคเณ ปลาเปตฺวา สกฎานิ วิจกฺกานิ กตฺวา ภูมิยํ ฐเปตฺวา จกฺกานิปิ คณฺหิตฺวาว อคมํสุฯ ปจฺจนฺตวาสิโน นิวาสนมตฺตสฺสปิ สามิกา อหุตฺวา ภีตา เวเคน ปลายิตฺวา ปจฺจนฺตเมว คตาฯ เสฎฺฐิมนุสฺสาปิ ตมตฺถํ มหาเสฎฺฐิโน อาโรเจสุํฯ โส ‘‘อตฺถิ ทานิทํ กถาปาภต’’นฺติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อาทิโต ปฎฺฐาย สพฺพํ ตํ ปวตฺติํ อาโรเจสิฯ สตฺถา ‘‘น โข, คหปติ, โส ปจฺจนฺตวาสี อิทาเนว เอวํสีโล, ปุเพฺพปิ เอวํสีโลเยว อโหสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Atha so paccantavāsī punapi ekavāraṃ tatheva pañca sakaṭasatāni sāvatthiṃ pesesi, manussā paṇṇākāraṃ ādāya mahāseṭṭhiṃ passiṃsu. Te pana disvā anāthapiṇḍikassa manussā ‘‘mayaṃ, sāmi, etesaṃ nivāsañca bhattañca paribbayañca jānissāmā’’ti vatvā tesaṃ sakaṭāni bahinagare tathārūpe ṭhāne mocāpetvā ‘‘tumhe idheva vasatha, amhākaṃ vo ghare yāgubhattañca paribbayo ca bhavissatī’’ti gantvā dāsakammakare sannipātetvā majjhimayāmasamanantare pañca sakaṭasatāni vilumpitvā nivāsanapārupanānipi nesaṃ acchinditvā goṇe palāpetvā sakaṭāni vicakkāni katvā bhūmiyaṃ ṭhapetvā cakkānipi gaṇhitvāva agamaṃsu. Paccantavāsino nivāsanamattassapi sāmikā ahutvā bhītā vegena palāyitvā paccantameva gatā. Seṭṭhimanussāpi tamatthaṃ mahāseṭṭhino ārocesuṃ. So ‘‘atthi dānidaṃ kathāpābhata’’nti satthu santikaṃ gantvā ādito paṭṭhāya sabbaṃ taṃ pavattiṃ ārocesi. Satthā ‘‘na kho, gahapati, so paccantavāsī idāneva evaṃsīlo, pubbepi evaṃsīloyeva ahosī’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต พาราณสิยํ มหาวิภโว เสฎฺฐิ อโหสิฯ ตเสฺสโก ปจฺจนฺตวาสิโก เสฎฺฐิ อทิฎฺฐสหาโย อโหสิฯ สพฺพํ อตีตวตฺถุ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุสทิสเมว โพธิสโตฺต ปน อตฺตโน มนุเสฺสหิ ‘‘อชฺช อเมฺหหิ อิทํ นาม กต’’นฺติ อาโรจิเต ‘‘ปฐมํ อตฺตโน กตํ อุปการํ อชานนฺตา ปจฺฉา เอวรูปํ ลภนฺติเยวา’’ติ วตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสโนฺต อิมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto bārāṇasiyaṃ mahāvibhavo seṭṭhi ahosi. Tasseko paccantavāsiko seṭṭhi adiṭṭhasahāyo ahosi. Sabbaṃ atītavatthu paccuppannavatthusadisameva bodhisatto pana attano manussehi ‘‘ajja amhehi idaṃ nāma kata’’nti ārocite ‘‘paṭhamaṃ attano kataṃ upakāraṃ ajānantā pacchā evarūpaṃ labhantiyevā’’ti vatvā sampattaparisāya dhammaṃ desento imaṃ gāthamāha –
๙๐.
90.
‘‘โย ปุเพฺพ กตกลฺยาโณ, กตโตฺถ นาวพุชฺฌติ;
‘‘Yo pubbe katakalyāṇo, katattho nāvabujjhati;
ปจฺฉา กิเจฺจ สมุปฺปเนฺน, กตฺตารํ นาธิคจฺฉตี’’ติฯ
Pacchā kicce samuppanne, kattāraṃ nādhigacchatī’’ti.
ตตฺรายํ ปิณฺฑโตฺถ – ขตฺติยาทีสุ โย โกจิ ปุริโส ปุเพฺพ ปฐมตรํ อเญฺญน กตกลฺยาโณ กตูปกาโร กตโตฺถ นิปฺผาทิตกิโจฺจ หุตฺวา ตํ ปเรน อตฺตนิ กตํ กลฺยาณเญฺจว อตฺถญฺจ น ชานาติ, โส ปจฺฉา อตฺตโน กิเจฺจ สมุปฺปเนฺน ตสฺส กิจฺจสฺส กตฺตารํ นาธิคจฺฉติ น ลภตีติฯ
Tatrāyaṃ piṇḍattho – khattiyādīsu yo koci puriso pubbe paṭhamataraṃ aññena katakalyāṇo katūpakāro katattho nipphāditakicco hutvā taṃ parena attani kataṃ kalyāṇañceva atthañca na jānāti, so pacchā attano kicce samuppanne tassa kiccassa kattāraṃ nādhigacchati na labhatīti.
เอวํ โพธิสโตฺต อิมาย คาถาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา ยถากมฺมํ คโตฯ
Evaṃ bodhisatto imāya gāthāya dhammaṃ desetvā dānādīni puññāni katvā yathākammaṃ gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปจฺจนฺตวาสี อิทานีปิ ปจฺจนฺตวาสีเยว, พาราณสิเสฎฺฐิ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā paccantavāsī idānīpi paccantavāsīyeva, bārāṇasiseṭṭhi pana ahameva ahosi’’nti.
อกตญฺญุชาตกวณฺณนา ทสมาฯ
Akataññujātakavaṇṇanā dasamā.
อปายิมฺหวโคฺค นวโมฯ
Apāyimhavaggo navamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
สุราปานํ มิตฺตวินฺทํ, กาฬกณฺณี อตฺถทฺวารํ;
Surāpānaṃ mittavindaṃ, kāḷakaṇṇī atthadvāraṃ;
กิํปกฺกสีลวีมํสํ, มงฺคลญฺจาปิ สารมฺภํ;
Kiṃpakkasīlavīmaṃsaṃ, maṅgalañcāpi sārambhaṃ;
กุหกํ อกตญฺญู จาติฯ
Kuhakaṃ akataññū cāti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๙๐. อกตญฺญุชาตกํ • 90. Akataññujātakaṃ