Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. อกฺขมสุตฺตํ
9. Akkhamasuttaṃ
๑๓๙. ‘‘ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต รโญฺญ นาโค น ราชารโห โหติ น ราชโภโคฺค, น รโญฺญ องฺคํเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติ ฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ รูปานํ, อกฺขโม สทฺทานํ, อกฺขโม คนฺธานํ, อกฺขโม รสานํ, อกฺขโม โผฎฺฐพฺพานํฯ
139. ‘‘Pañcahi , bhikkhave, aṅgehi samannāgato rañño nāgo na rājāraho hoti na rājabhoggo, na rañño aṅgaṃtveva saṅkhaṃ gacchati . Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti rūpānaṃ, akkhamo saddānaṃ, akkhamo gandhānaṃ, akkhamo rasānaṃ, akkhamo phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ รูปานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต หตฺถิกายํ วา ทิสฺวา อสฺสกายํ วา ทิสฺวา รถกายํ วา ทิสฺวา ปตฺติกายํ วา ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ รูปานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti rūpānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato hatthikāyaṃ vā disvā assakāyaṃ vā disvā rathakāyaṃ vā disvā pattikāyaṃ vā disvā saṃsīdati visīdati, na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti rūpānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ สทฺทานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต หตฺถิสทฺทํ วา สุตฺวา อสฺสสทฺทํ วา สุตฺวา รถสทฺทํ วา สุตฺวา ปตฺติสทฺทํ วา สุตฺวา เภริปณวสงฺขติณวนินฺนาทสทฺทํ วา สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ สทฺทานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti saddānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato hatthisaddaṃ vā sutvā assasaddaṃ vā sutvā rathasaddaṃ vā sutvā pattisaddaṃ vā sutvā bheripaṇavasaṅkhatiṇavaninnādasaddaṃ vā sutvā saṃsīdati visīdati, na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti saddānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ คนฺธานํ? อิธ , ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต เย เต รโญฺญ นาคา อภิชาตา สงฺคามาวจรา เตสํ มุตฺตกรีสสฺส คนฺธํ ฆายิตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ คนฺธานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti gandhānaṃ? Idha , bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato ye te rañño nāgā abhijātā saṅgāmāvacarā tesaṃ muttakarīsassa gandhaṃ ghāyitvā saṃsīdati visīdati, na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti gandhānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ รสานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต เอกิสฺสา วา ติโณทกทตฺติยา วิมานิโต 1 ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ปญฺจหิ วา ติโณทกทตฺตีหิ วิมานิโต สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ รสานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti rasānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato ekissā vā tiṇodakadattiyā vimānito 2 dvīhi vā tīhi vā catūhi vā pañcahi vā tiṇodakadattīhi vimānito saṃsīdati visīdati, na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti rasānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต เอเกน วา สรเวเคน วิโทฺธ, ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ปญฺจหิ วา สรเวเคหิ วิโทฺธ สํสีทติ วิสีทติ, น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค อกฺขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti phoṭṭhabbānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato ekena vā saravegena viddho, dvīhi vā tīhi vā catūhi vā pañcahi vā saravegehi viddho saṃsīdati visīdati, na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo akkhamo hoti phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต รโญฺญ นาโค น ราชารโห โหติ น ราชโภโคฺค น รโญฺญ องฺคํเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
‘‘Imehi kho, bhikkhave, pañcahi aṅgehi samannāgato rañño nāgo na rājāraho hoti na rājabhoggo na rañño aṅgaṃtveva saṅkhaṃ gacchati.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ น อาหุเนโยฺย โหติ น ปาหุเนโยฺย น ทกฺขิเณโยฺย น อญฺชลิกรณีโย น อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ รูปานํ, อกฺขโม สทฺทานํ, อกฺขโม คนฺธานํ, อกฺขโม รสานํ, อกฺขโม โผฎฺฐพฺพานํฯ
‘‘Evamevaṃ kho, bhikkhave, pañcahi aṅgehi samannāgato bhikkhu na āhuneyyo hoti na pāhuneyyo na dakkhiṇeyyo na añjalikaraṇīyo na anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassa. Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti rūpānaṃ, akkhamo saddānaṃ, akkhamo gandhānaṃ, akkhamo rasānaṃ, akkhamo phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ รูปานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา รชนีเย รูเป สารชฺชติ, น สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ รูปานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti rūpānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā rajanīye rūpe sārajjati, na sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti rūpānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ สทฺทานํ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา รชนีเย สเทฺท สารชฺชติ, น สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ สทฺทานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti saddānaṃ? Idha , bhikkhave, bhikkhu sotena saddaṃ sutvā rajanīye sadde sārajjati, na sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti saddānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ คนฺธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา รชนีเย คเนฺธ สารชฺชติ, น สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ คนฺธานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti gandhānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu ghānena gandhaṃ ghāyitvā rajanīye gandhe sārajjati, na sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti gandhānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ รสานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา รชนีเย รเส สารชฺชติ, น สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ รสานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti rasānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu jivhāya rasaṃ sāyitvā rajanīye rase sārajjati, na sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti rasānaṃ.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา รชนีเย โผฎฺฐเพฺพ สารชฺชติ, น สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti phoṭṭhabbānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā rajanīye phoṭṭhabbe sārajjati, na sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu akkhamo hoti phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ น อาหุเนโยฺย โหติ น ปาหุเนโยฺย น ทกฺขิเณโยฺย น อญฺชลิกรณีโย น อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสฯ
‘‘Imehi kho, bhikkhave, pañcahi dhammehi samannāgato bhikkhu na āhuneyyo hoti na pāhuneyyo na dakkhiṇeyyo na añjalikaraṇīyo na anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassa.
‘‘ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต รโญฺญ นาโค ราชารโห โหติ ราชโภโคฺค, รโญฺญ องฺคํเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฎฺฐพฺพานํฯ
‘‘Pañcahi , bhikkhave, aṅgehi samannāgato rañño nāgo rājāraho hoti rājabhoggo, rañño aṅgaṃtveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti rūpānaṃ, khamo saddānaṃ, khamo gandhānaṃ, khamo rasānaṃ, khamo phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ รูปานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต หตฺถิกายํ วา ทิสฺวา อสฺสกายํ วา ทิสฺวา รถกายํ วา ทิสฺวา ปตฺติกายํ วา ทิสฺวา น สํสีทติ น วิสีทติ, สนฺถมฺภติ สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ รูปานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti rūpānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato hatthikāyaṃ vā disvā assakāyaṃ vā disvā rathakāyaṃ vā disvā pattikāyaṃ vā disvā na saṃsīdati na visīdati, santhambhati sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti rūpānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ สทฺทานํ? อิธ , ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต หตฺถิสทฺทํ วา สุตฺวา อสฺสสทฺทํ วา สุตฺวา รถสทฺทํ วา สุตฺวา ปตฺติสทฺทํ วา สุตฺวา เภริปณวสงฺขติณวนินฺนาทสทฺทํ วา สุตฺวา น สํสีทติ น วิสีทติ, สนฺถมฺภติ สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ สทฺทานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti saddānaṃ? Idha , bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato hatthisaddaṃ vā sutvā assasaddaṃ vā sutvā rathasaddaṃ vā sutvā pattisaddaṃ vā sutvā bheripaṇavasaṅkhatiṇavaninnādasaddaṃ vā sutvā na saṃsīdati na visīdati, santhambhati sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti saddānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ คนฺธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต เย เต รโญฺญ นาคา อภิชาตา สงฺคามาวจรา เตสํ มุตฺตกรีสสฺส คนฺธํ ฆายิตฺวา น สํสีทติ น วิสีทติ, สนฺถมฺภติ สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ คนฺธานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti gandhānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato ye te rañño nāgā abhijātā saṅgāmāvacarā tesaṃ muttakarīsassa gandhaṃ ghāyitvā na saṃsīdati na visīdati, santhambhati sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti gandhānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ รสานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต เอกิสฺสา วา ติโณทกทตฺติยา วิมานิโต ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ปญฺจหิ วา ติโณทกทตฺตีหิ วิมานิโต น สํสีทติ น วิสีทติ, สนฺถมฺภติ สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ รสานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti rasānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato ekissā vā tiṇodakadattiyā vimānito dvīhi vā tīhi vā catūhi vā pañcahi vā tiṇodakadattīhi vimānito na saṃsīdati na visīdati, santhambhati sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti rasānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค สงฺคามคโต เอเกน วา สรเวเคน วิโทฺธ, ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ปญฺจหิ วา สรเวเคหิ วิโทฺธ น สํสีทติ น วิสีทติ, สนฺถมฺภติ สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ นาโค ขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti phoṭṭhabbānaṃ? Idha, bhikkhave, rañño nāgo saṅgāmagato ekena vā saravegena viddho, dvīhi vā tīhi vā catūhi vā pañcahi vā saravegehi viddho na saṃsīdati na visīdati, santhambhati sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, rañño nāgo khamo hoti phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต รโญฺญ นาโค ราชารโห โหติ ราชโภโคฺค, รโญฺญ องฺคํเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
‘‘Imehi kho, bhikkhave, pañcahi aṅgehi samannāgato rañño nāgo rājāraho hoti rājabhoggo, rañño aṅgaṃtveva saṅkhaṃ gacchati.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนโยฺย โหติ ปาหุเนโยฺย ทกฺขิเณโยฺย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฎฺฐพฺพานํ ฯ
‘‘Evamevaṃ kho, bhikkhave, pañcahi dhammehi samannāgato bhikkhu āhuneyyo hoti pāhuneyyo dakkhiṇeyyo añjalikaraṇīyo anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassa. Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti rūpānaṃ, khamo saddānaṃ, khamo gandhānaṃ, khamo rasānaṃ, khamo phoṭṭhabbānaṃ .
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา รชนีเย รูเป น สารชฺชติ, สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti rūpānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā rajanīye rūpe na sārajjati, sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti rūpānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ สทฺทานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา รชนีเย สเทฺท น สารชฺชติ, สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ สทฺทานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti saddānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu sotena saddaṃ sutvā rajanīye sadde na sārajjati, sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti saddānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ คนฺธานํฯ อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา รชนีเย คเนฺธ น สารชฺชติ, สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ คนฺธานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti gandhānaṃ. Idha, bhikkhave, bhikkhu ghānena gandhaṃ ghāyitvā rajanīye gandhe na sārajjati, sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti gandhānaṃ.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รสานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา รชนีเย รเส น สารชฺชติ, สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รสานํฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhu khamo hoti rasānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu jivhāya rasaṃ sāyitvā rajanīye rase na sārajjati, sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti rasānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา รชนีเย โผฎฺฐเพฺพ น สารชฺชติ, สโกฺกติ จิตฺตํ สมาทหิตุํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ โผฎฺฐพฺพานํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti phoṭṭhabbānaṃ? Idha, bhikkhave, bhikkhu kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā rajanīye phoṭṭhabbe na sārajjati, sakkoti cittaṃ samādahituṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu khamo hoti phoṭṭhabbānaṃ.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนโยฺย โหติ ปาหุเนโยฺย ทกฺขิเณโยฺย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสา’’ติฯ นวมํฯ
‘‘Imehi kho, bhikkhave, pañcahi dhammehi samannāgato bhikkhu āhuneyyo hoti pāhuneyyo dakkhiṇeyyo añjalikaraṇīyo anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassā’’ti. Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. อกฺขมสุตฺตวณฺณนา • 9. Akkhamasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕-๙. ปตฺถนาสุตฺตาทิวณฺณนา • 5-9. Patthanāsuttādivaṇṇanā