Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā |
๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุวณฺณนา
13. Akkharukkhapetavatthuvaṇṇanā
ยํ ททาติ น ตํ โหตีติ อิทํ อกฺขทายกเปตวตฺถุฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ สาวตฺถิยํ วิหรเนฺต อญฺญตโร สาวตฺถิวาสี อุปาสโก สกเฎหิ ภณฺฑสฺส ปูเรตฺวา วณิชฺชาย วิเทสํ คนฺตฺวา ตตฺถ อตฺตโน ภณฺฑํ วิกฺกิณิตฺวา ปฎิภณฺฑํ สกเฎสุ อาโรเปตฺวา สาวตฺถิํ อุทฺทิสฺส มคฺคํ ปฎิปชฺชิฯ ตสฺส มคฺคํ คจฺฉนฺตสฺส อฎวิยํ เอกสฺส สกฎสฺส อโกฺข ภิชฺชิฯ อถ อญฺญตโร ปุริโส รุกฺขคหณตฺถํ กุฐาริผรสุํ คาหาเปตฺวา อตฺตโน คามโต นิกฺขมิตฺวา อรเญฺญ วิจรโนฺต ตํ ฐานํ ปตฺวา ตํ อุปาสกํ อกฺขภญฺชเนน โทมนสฺสปฺปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ วาณิโช อกฺขภญฺชเนน อฎวิยํ กิลมตี’’ติ อนุกมฺปํ อุปาทาย รุกฺขทณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ทฬฺหํ อกฺขํ กตฺวา สกเฎ โยเชตฺวา อทาสิฯ
Yaṃ dadāti na taṃ hotīti idaṃ akkhadāyakapetavatthu. Tassa kā uppatti? Bhagavati sāvatthiyaṃ viharante aññataro sāvatthivāsī upāsako sakaṭehi bhaṇḍassa pūretvā vaṇijjāya videsaṃ gantvā tattha attano bhaṇḍaṃ vikkiṇitvā paṭibhaṇḍaṃ sakaṭesu āropetvā sāvatthiṃ uddissa maggaṃ paṭipajji. Tassa maggaṃ gacchantassa aṭaviyaṃ ekassa sakaṭassa akkho bhijji. Atha aññataro puriso rukkhagahaṇatthaṃ kuṭhāripharasuṃ gāhāpetvā attano gāmato nikkhamitvā araññe vicaranto taṃ ṭhānaṃ patvā taṃ upāsakaṃ akkhabhañjanena domanassappattaṃ disvā ‘‘ayaṃ vāṇijo akkhabhañjanena aṭaviyaṃ kilamatī’’ti anukampaṃ upādāya rukkhadaṇḍaṃ chinditvā daḷhaṃ akkhaṃ katvā sakaṭe yojetvā adāsi.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ตสฺมิํเยว อฎวิปเทเส ภุมฺมเทวตา หุตฺวา นิพฺพโตฺตฯ อตฺตโน กมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา รตฺติยํ ตสฺส อุปาสกสฺส เคหํ คนฺตฺวา เคหทฺวาเร ฐตฺวา –
So aparena samayena kālaṃ katvā tasmiṃyeva aṭavipadese bhummadevatā hutvā nibbatto. Attano kammaṃ paccavekkhitvā rattiyaṃ tassa upāsakassa gehaṃ gantvā gehadvāre ṭhatvā –
๘๐๐.
800.
‘‘ยํ ททาติ น ตํ โหติ, เทเถว ทานํ ทตฺวา อุภยํ ตรติ;
‘‘Yaṃ dadāti na taṃ hoti, detheva dānaṃ datvā ubhayaṃ tarati;
อุภยํ เตน ทาเนน คจฺฉติ, ชาครถ มา ปมชฺชถา’’ติฯ –
Ubhayaṃ tena dānena gacchati, jāgaratha mā pamajjathā’’ti. –
คาถมาหฯ ตตฺถ ยํ ททาติ น ตํ โหตีติ ยํ เทยฺยธมฺมํ ทายโก เทติ, น ตเทว ปรโลเก ตสฺส ทานสฺส ผลภาเวน โหติ, อถ โข อญฺญํ พหุํ อิฎฺฐํ กนฺตํ ผลํ โหติเยวฯ ตสฺมา เทเถว ทานนฺติ ยถา ตถา ทานํ เทถ เอวฯ ตตฺถ การณมาห ‘‘ทตฺวา อุภยํ ตรตี’’ติ , ทานํ ทตฺวา ทิฎฺฐธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ ทุกฺขํ อนตฺถญฺจ อติกฺกมติฯ อุภยํ เตน ทาเนน คจฺฉตีติ ทิฎฺฐธมฺมิกํ สมฺปรายิกญฺจาติ อุภยมฺปิ สุขํ เตน ทาเนน อุปคจฺฉติ ปาปุณาติ, อตฺตโน ปเรสญฺจ หิตสุขวเสนาปิ อยมโตฺถ โยเชตโพฺพฯ ชาครถ มา ปมชฺชถาติ เอวํ อุภยานตฺถนิวารณํ อุภยหิตสาธนํ ทานํ สมฺปาเทตุํ ชาครถ, ทานูปกรณานิ สเชฺชตฺวา ตตฺถ จ อปฺปมตฺตา โหถาติ อโตฺถฯ อาทรทสฺสนตฺถํ เจตฺถ อาเมฑิตวเสน วุตฺตํฯ
Gāthamāha. Tattha yaṃ dadāti na taṃ hotīti yaṃ deyyadhammaṃ dāyako deti, na tadeva paraloke tassa dānassa phalabhāvena hoti, atha kho aññaṃ bahuṃ iṭṭhaṃ kantaṃ phalaṃ hotiyeva. Tasmā detheva dānanti yathā tathā dānaṃ detha eva. Tattha kāraṇamāha ‘‘datvā ubhayaṃ taratī’’ti , dānaṃ datvā diṭṭhadhammikampi samparāyikampi dukkhaṃ anatthañca atikkamati. Ubhayaṃ tena dānena gacchatīti diṭṭhadhammikaṃ samparāyikañcāti ubhayampi sukhaṃ tena dānena upagacchati pāpuṇāti, attano paresañca hitasukhavasenāpi ayamattho yojetabbo. Jāgaratha mā pamajjathāti evaṃ ubhayānatthanivāraṇaṃ ubhayahitasādhanaṃ dānaṃ sampādetuṃ jāgaratha, dānūpakaraṇāni sajjetvā tattha ca appamattā hothāti attho. Ādaradassanatthaṃ cettha āmeḍitavasena vuttaṃ.
วาณิโช อตฺตโน กิจฺจํ ตีเรตฺวา ปฎินิวตฺติตฺวา อนุกฺกเมน สาวตฺถิํ ปตฺวา ทุติยทิวเส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสิโนฺน ตํ ปวตฺติํ ภควโต อาโรเจสิฯ สตฺถา ตมตฺถํ อฎฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิฯ สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติฯ
Vāṇijo attano kiccaṃ tīretvā paṭinivattitvā anukkamena sāvatthiṃ patvā dutiyadivase satthāraṃ upasaṅkamitvā vanditvā ekamantaṃ nisinno taṃ pavattiṃ bhagavato ārocesi. Satthā tamatthaṃ aṭṭhuppattiṃ katvā sampattaparisāya dhammaṃ desesi. Sā desanā mahājanassa sātthikā ahosīti.
อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Akkharukkhapetavatthuvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi / ๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ • 13. Akkharukkhapetavatthu