Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๒. อโกฺกสสุตฺตํ
2. Akkosasuttaṃ
๑๘๘. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อโสฺสสิ โข อโกฺกสกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ – ‘‘ภารทฺวาชโคโตฺต กิร พฺราหฺมโณ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติเก อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต’’ติ กุปิโต อนตฺตมโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อโกฺกสติ ปริภาสติฯ
188. Ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Assosi kho akkosakabhāradvājo brāhmaṇo – ‘‘bhāradvājagotto kira brāhmaṇo samaṇassa gotamassa santike agārasmā anagāriyaṃ pabbajito’’ti kupito anattamano yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ asabbhāhi pharusāhi vācāhi akkosati paribhāsati.
เอวํ วุเตฺต, ภควา อโกฺกสกภารทฺวาชํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, พฺราหฺมณ, อปิ นุ โข เต อาคจฺฉนฺติ มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา อติถิโย 1’’ติ? ‘‘อเปฺปกทา เม, โภ โคตม, อาคจฺฉนฺติ มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา อติถิโย’’ติฯ ‘‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, พฺราหฺมณ, อปิ นุ เตสํ อนุปฺปเทสิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สายนียํ วา’’’ติ? ‘‘‘อเปฺปกทา เนสาหํ, โภ โคตม, อนุปฺปเทมิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สายนียํ วา’’’ติฯ ‘‘‘สเจ โข ปน เต, พฺราหฺมณ, นปฺปฎิคฺคณฺหนฺติ , กสฺส ตํ โหตี’’’ติ? ‘‘‘สเจ เต, โภ โคตม, นปฺปฎิคฺคณฺหนฺติ, อมฺหากเมว ตํ โหตี’’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ยํ ตฺวํ อเมฺห อนโกฺกสเนฺต อโกฺกสสิ, อโรเสเนฺต โรเสสิ, อภณฺฑเนฺต ภณฺฑสิ, ตํ เต มยํ นปฺปฎิคฺคณฺหามฯ ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, โหติ; ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, โหติ’’ฯ
Evaṃ vutte, bhagavā akkosakabhāradvājaṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘taṃ kiṃ maññasi, brāhmaṇa, api nu kho te āgacchanti mittāmaccā ñātisālohitā atithiyo 2’’ti? ‘‘Appekadā me, bho gotama, āgacchanti mittāmaccā ñātisālohitā atithiyo’’ti. ‘‘‘Taṃ kiṃ maññasi, brāhmaṇa, api nu tesaṃ anuppadesi khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sāyanīyaṃ vā’’’ti? ‘‘‘Appekadā nesāhaṃ, bho gotama, anuppademi khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sāyanīyaṃ vā’’’ti. ‘‘‘Sace kho pana te, brāhmaṇa, nappaṭiggaṇhanti , kassa taṃ hotī’’’ti? ‘‘‘Sace te, bho gotama, nappaṭiggaṇhanti, amhākameva taṃ hotī’’’ti. ‘‘Evameva kho, brāhmaṇa, yaṃ tvaṃ amhe anakkosante akkosasi, arosente rosesi, abhaṇḍante bhaṇḍasi, taṃ te mayaṃ nappaṭiggaṇhāma. Tavevetaṃ, brāhmaṇa, hoti; tavevetaṃ, brāhmaṇa, hoti’’.
‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, อโกฺกสนฺตํ ปจฺจโกฺกสติ, โรเสนฺตํ ปฎิโรเสติ, ภณฺฑนฺตํ ปฎิภณฺฑติ, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สมฺภุญฺชติ วีติหรตีติฯ เต มยํ ตยา เนว สมฺภุญฺชาม น วีติหรามฯ ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, โหติ; ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, โหตี’’ติฯ ‘‘ภวนฺตํ โข โคตมํ สราชิกา ปริสา เอวํ ชานาติ – ‘อรหํ สมโณ โคตโม’ติฯ อถ จ ปน ภวํ โคตโม กุชฺฌตี’’ติฯ
‘‘Yo kho, brāhmaṇa, akkosantaṃ paccakkosati, rosentaṃ paṭiroseti, bhaṇḍantaṃ paṭibhaṇḍati, ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, sambhuñjati vītiharatīti. Te mayaṃ tayā neva sambhuñjāma na vītiharāma. Tavevetaṃ, brāhmaṇa, hoti; tavevetaṃ, brāhmaṇa, hotī’’ti. ‘‘Bhavantaṃ kho gotamaṃ sarājikā parisā evaṃ jānāti – ‘arahaṃ samaṇo gotamo’ti. Atha ca pana bhavaṃ gotamo kujjhatī’’ti.
‘‘อโกฺกธสฺส กุโต โกโธ, ทนฺตสฺส สมชีวิโน;
‘‘Akkodhassa kuto kodho, dantassa samajīvino;
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตสฺส, อุปสนฺตสฺส ตาทิโนฯ
Sammadaññā vimuttassa, upasantassa tādino.
‘‘ตเสฺสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฎิกุชฺฌติ;
‘‘Tasseva tena pāpiyo, yo kuddhaṃ paṭikujjhati;
กุทฺธํ อปฺปฎิกุชฺฌโนฺต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํฯ
Kuddhaṃ appaṭikujjhanto, saṅgāmaṃ jeti dujjayaṃ.
‘‘อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnamatthaṃ carati, attano ca parassa ca;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติฯ
Paraṃ saṅkupitaṃ ñatvā, yo sato upasammati.
‘‘อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnaṃ tikicchantānaṃ, attano ca parassa ca;
ชนา มญฺญนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’’ติฯ
Janā maññanti bāloti, ye dhammassa akovidā’’ti.
เอวํ วุเตฺต, อโกฺกสกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ ลเภยฺยาหํ, ภเนฺต, โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติฯ
Evaṃ vutte, akkosakabhāradvājo brāhmaṇo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama…pe… esāhaṃ bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāmi dhammañca bhikkhusaṅghañca. Labheyyāhaṃ, bhante, bhoto gotamassa santike pabbajjaṃ, labheyyaṃ upasampada’’nti.
อลตฺถ โข อโกฺกสกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ อจิรูปสมฺปโนฺน โข ปนายสฺมา อโกฺกสกภารทฺวาโช เอโก วูปกโฎฺฐ อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต นจิรเสฺสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโร จ ปนายสฺมา ภารทฺวาโช อรหตํ อโหสีติฯ
Alattha kho akkosakabhāradvājo brāhmaṇo bhagavato santike pabbajjaṃ, alattha upasampadaṃ. Acirūpasampanno kho panāyasmā akkosakabhāradvājo eko vūpakaṭṭho appamatto ātāpī pahitatto viharanto nacirasseva – yassatthāya kulaputtā sammadeva agārasmā anagāriyaṃ pabbajanti tadanuttaraṃ – brahmacariyapariyosānaṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja vihāsi. ‘‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ nāparaṃ itthattāyā’’ti abbhaññāsi. Aññataro ca panāyasmā bhāradvājo arahataṃ ahosīti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อโกฺกสสุตฺตวณฺณนา • 2. Akkosasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. อโกฺกสสุตฺตวณฺณนา • 2. Akkosasuttavaṇṇanā