Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๒. อโกฺกสสุตฺตวณฺณนา
2. Akkosasuttavaṇṇanā
๑๘๘. ภารทฺวาโชว โสติ ภารทฺวาโช นาม เอว โส พฺราหฺมโณฯ โคตฺตวเสน หิ ตยิทํ นามํ, วิเสเสน ปเนตํ ชาตนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘ปญฺจมเตฺตหี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ชานิกตาติ ญาติวคฺคหานิกตาฯ ปโกฺข ภิโนฺนติ ตโต เอว ญาติปโกฺข นโฎฺฐฯ ยถา โทมนสฺสิโต อนตฺตมโนติ วตฺตพฺพํ ลภติ, เอวํ กุปิโตติ อาห ‘‘โทมนเสฺสน จา’’ติฯ ทสหีติ อนวเสสปริยาทานวเสน วุตฺตํ ปญฺจหิ คาถาสเตหิ อโกฺกสโนฺต ตถา อโกฺกเสยฺยาติ กตฺวาฯ ตตฺถ ปน เยน เกนจิ อโกฺกสโนฺตปิ อโกฺกสติเยว นามฯ กโรสิ มม ภาติกสฺส ปพฺพชฺชํฯ
188.Bhāradvājova soti bhāradvājo nāma eva so brāhmaṇo. Gottavasena hi tayidaṃ nāmaṃ, visesena panetaṃ jātanti dassetuṃ ‘‘pañcamattehī’’tiādi vuttaṃ. Jānikatāti ñātivaggahānikatā. Pakkho bhinnoti tato eva ñātipakkho naṭṭho. Yathā domanassito anattamanoti vattabbaṃ labhati, evaṃ kupitoti āha ‘‘domanassena cā’’ti. Dasahīti anavasesapariyādānavasena vuttaṃ pañcahi gāthāsatehi akkosanto tathā akkoseyyāti katvā. Tattha pana yena kenaci akkosantopi akkosatiyeva nāma. Karosi mama bhātikassa pabbajjaṃ.
สมฺภุญฺชตีติ สโมฺภคํ กโรติฯ อโกฺกสาทีหิ เอกโต ภุญฺชติฯ วีติหรตีติ พฺยติหารํ กโรติ, อโกฺกสโต ปจฺจโกฺกสนาทินา วินิมยํ กโรตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘กตสฺส ปฎิการํ กโรตี’’ติฯ อสฺส อนุสฺสววเสน สุตฺวา ‘‘สปติ ม’’นฺติ สญฺญิโน ภยํ อุปฺปชฺชีติ โยชนาฯ อสฺสาติ พฺราหฺมณสฺสฯ สุตฺวาติ ปทํ อุภยตฺถาปิ โยเชตพฺพํ ‘‘ตเวเวตํ พฺราหฺมณาติ สุตฺวา, อนุสฺสววเสน สุตฺวา’’ติ จฯ กามํ กิสวจฺฉาทโย สปนํ นาทํสุ, เทวตานํเยว หิ โส อโตฺถ, สตฺตานํ ปน ตถา สญฺญา อุปฺปนฺนา, โสปิ ตถาสญฺญี อโหสิฯ เตนาห ‘‘อนุสฺสววเสนา’’ติฯ
Sambhuñjatīti sambhogaṃ karoti. Akkosādīhi ekato bhuñjati. Vītiharatīti byatihāraṃ karoti, akkosato paccakkosanādinā vinimayaṃ karotīti attho. Tenāha ‘‘katassa paṭikāraṃ karotī’’ti. Assa anussavavasena sutvā ‘‘sapati ma’’nti saññino bhayaṃ uppajjīti yojanā. Assāti brāhmaṇassa. Sutvāti padaṃ ubhayatthāpi yojetabbaṃ ‘‘tavevetaṃ brāhmaṇāti sutvā, anussavavasena sutvā’’ti ca. Kāmaṃ kisavacchādayo sapanaṃ nādaṃsu, devatānaṃyeva hi so attho, sattānaṃ pana tathā saññā uppannā, sopi tathāsaññī ahosi. Tenāha ‘‘anussavavasenā’’ti.
ทนฺตสฺส สพฺพโส ทมถํ อุปคตตฺตาฯ นิพฺพิเสวนสฺสาติ ราคโทสาทิเหตุกวิปฺผนฺทนรหิตสฺสฯ ตเสฺสวาติ ปฎิกุชฺฌนฺตเสฺสว ปุคฺคลสฺส เตน โกเธน ปาปํ โหติ ปาปสฺส สนฺตานนฺตรสงฺกนฺติยา อภาวโตฯ เกจิ ปน ‘‘ตเสฺสวาติ ตเสฺสว ปฎิกุชฺฌนฺตปุริสสฺส เตน ปฎิกุชฺฌเนนฯ ปาปิโยติ ปฎิกุชฺฌนฺตปุคฺคลสฺส ลามกตโร’’ติ เอวเมตฺถ อตฺถํ วทนฺติฯ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวา ปฎิสงฺขาเน ฐิโต อธิวาเสติ, น สโห มูโฬฺห หุตฺวาติ อธิปฺปาโยฯ อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตนฺติ อุภินฺนํ อุปฺปนฺนโกธสงฺขาตํ กิเลสพฺยาธิํ ติกิจฺฉนฺตํ วูปสเมนฺตํ ตํ ปุคฺคลํฯ โย ปุคฺคโลติอาทินา ปุริมาสุ คาถาสุ ปวตฺติตานิ ปทานิ สมฺพนฺธิตฺวา ทเสฺสติฯ ปญฺจสุ ขเนฺธสุ ยาถาวโต วินีตา อริยธมฺมสฺส โกวิทา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘ธมฺมสฺสาติ ปญฺจกฺขนฺธธมฺมสฺสา’’ติฯ อิทานิ ตมตฺถํ ปริปุณฺณํ กตฺวา ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘จตุสจฺจธมฺมสฺส วา’’ติฯ
Dantassa sabbaso damathaṃ upagatattā. Nibbisevanassāti rāgadosādihetukavipphandanarahitassa. Tassevāti paṭikujjhantasseva puggalassa tena kodhena pāpaṃ hoti pāpassa santānantarasaṅkantiyā abhāvato. Keci pana ‘‘tassevāti tasseva paṭikujjhantapurisassa tena paṭikujjhanena. Pāpiyoti paṭikujjhantapuggalassa lāmakataro’’ti evamettha atthaṃ vadanti. Satiyā samannāgato hutvā paṭisaṅkhāne ṭhito adhivāseti, na saho mūḷho hutvāti adhippāyo. Ubhinnaṃ tikicchantanti ubhinnaṃ uppannakodhasaṅkhātaṃ kilesabyādhiṃ tikicchantaṃ vūpasamentaṃ taṃ puggalaṃ. Yo puggalotiādinā purimāsu gāthāsu pavattitāni padāni sambandhitvā dasseti. Pañcasu khandhesu yāthāvato vinītā ariyadhammassa kovidā nāma hontīti āha ‘‘dhammassāti pañcakkhandhadhammassā’’ti. Idāni tamatthaṃ paripuṇṇaṃ katvā dassento āha ‘‘catusaccadhammassa vā’’ti.
อโกฺกสสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Akkosasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. อโกฺกสสุตฺตํ • 2. Akkosasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อโกฺกสสุตฺตวณฺณนา • 2. Akkosasuttavaṇṇanā