Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา
9. Akusalamūlasuttavaṇṇanā
๗๐. นวเม อกุสลมูลานีติ อกุสลานํ มูลานิ, อกุสลานิ จ ตานิ มูลานิ จาติ วา อกุสลมูลานิฯ ยทปิ, ภิกฺขเว, โลโภติ โยปิ, ภิกฺขเว, โลโภฯ ตทปิ อกุสลมูลนฺติ โสปิ อกุสลมูลํฯ อกุสลมูลํ วา สนฺธาย อิธ ตมฺปีติ อโตฺถ วฎฺฎติเยวฯ เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ นโย เนตโพฺพฯ อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ สมฺปิเณฺฑติ ราสิํ กโรติฯ อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยตีติ อภูเตน อวิชฺชมาเนน ยํกิญฺจิ ตสฺส อภูตํ โทสํ วตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทติฯ วเธน วาติอาทิ เยนากาเรน ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, ตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ ตตฺถ ชานิยาติ ธนชานิยาฯ ปพฺพาชนายาติ คามโต วา รฎฺฐโต วา ปพฺพาชนียกเมฺมน ฯ พลวมฺหีติ อหมสฺมิ พลวาฯ พลโตฺถ อิติปีติ พเลน เม อโตฺถ อิติปิ, พเล วา ฐิโตมฺหีติปิ วทติฯ
70. Navame akusalamūlānīti akusalānaṃ mūlāni, akusalāni ca tāni mūlāni cāti vā akusalamūlāni. Yadapi, bhikkhave, lobhoti yopi, bhikkhave, lobho. Tadapiakusalamūlanti sopi akusalamūlaṃ. Akusalamūlaṃ vā sandhāya idha tampīti attho vaṭṭatiyeva. Etenupāyena sabbattha nayo netabbo. Abhisaṅkharotīti āyūhati sampiṇḍeti rāsiṃ karoti. Asatā dukkhaṃ uppādayatīti abhūtena avijjamānena yaṃkiñci tassa abhūtaṃ dosaṃ vatvā dukkhaṃ uppādeti. Vadhena vātiādi yenākārena dukkhaṃ uppādeti, taṃ dassetuṃ vuttaṃ. Tattha jāniyāti dhanajāniyā. Pabbājanāyāti gāmato vā raṭṭhato vā pabbājanīyakammena . Balavamhīti ahamasmi balavā. Balattho itipīti balena me attho itipi, bale vā ṭhitomhītipi vadati.
อกาลวาทีติ กาลสฺมิํ น วทติ, อกาลสฺมิํ วทติ นามฯ อภูตวาทีติ ภูตํ น วทติ , อภูตํ วทติ นามฯ อนตฺถวาทีติ อตฺถํ น วทติ, อนตฺถํ วทติ นามฯ อธมฺมวาทีติ ธมฺมํ น วทติ, อธมฺมํ วทติ นามฯ อวินยวาทีติ วินยํ น วทติ, อวินยํ วทติ นามฯ
Akālavādīti kālasmiṃ na vadati, akālasmiṃ vadati nāma. Abhūtavādīti bhūtaṃ na vadati , abhūtaṃ vadati nāma. Anatthavādīti atthaṃ na vadati, anatthaṃ vadati nāma. Adhammavādīti dhammaṃ na vadati, adhammaṃ vadati nāma. Avinayavādīti vinayaṃ na vadati, avinayaṃ vadati nāma.
ตถา หายนฺติ ตถา หิ อยํฯ น อาตปฺปํ กโรติ ตสฺส นิเพฺพฐนายาติ ตสฺส อภูตสฺส นิเพฺพฐนตฺถาย วีริยํ น กโรติฯ อิติเปตํ อตจฺฉนฺติ อิมินาปิ การเณน เอตํ อตจฺฉํฯ อิตรํ ตเสฺสว เววจนํฯ
Tathā hāyanti tathā hi ayaṃ. Na ātappaṃ karoti tassa nibbeṭhanāyāti tassa abhūtassa nibbeṭhanatthāya vīriyaṃ na karoti. Itipetaṃ atacchanti imināpi kāraṇena etaṃ atacchaṃ. Itaraṃ tasseva vevacanaṃ.
ทุคฺคติ ปาฎิกงฺขาติ นิรยาทิกา ทุคฺคติ อิจฺฉิตพฺพา, สา อสฺส อวสฺสภาวินี, ตตฺถาเนน นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ อโตฺถฯ อุทฺธโสฺตติ อุปริ ธํสิโตฯ ปริโยนโทฺธติ สมนฺตา โอนโทฺธฯ อนยํ อาปชฺชตีติ อวุฑฺฒิํ อาปชฺชติฯ พฺยสนํ อาปชฺชตีติ วินาสํ อาปชฺชติฯ คิมฺหกาลสฺมิญฺหิ มาลุวาสิปาฎิกาย ผลิตาย พีชานิ อุปฺปติตฺวา วฎรุกฺขาทีนํ มูเล ปตนฺติฯ ตตฺถ ยสฺส รุกฺขสฺส มูเล ตีสุ ทิสาสุ ตีณิ พีชานิ ปติตานิ โหนฺติ, ตสฺมิํ รุเกฺข ปาวุสฺสเกน เมเฆน อภิวเฎฺฐ ตีหิ พีเชหิ ตโย องฺกุรา อุฎฺฐหิตฺวา ตํ รุกฺขํ อลฺลียนฺติฯ ตโต ปฎฺฐาย รุกฺขเทวตาโย สกภาเวน สณฺฐาตุํ น สโกฺกนฺติฯ เตปิ องฺกุรา วฑฺฒมานา ลตาภาวํ อาปชฺชิตฺวา ตํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา สพฺพวิฎปสาขาปสาขา สํสิพฺพิตฺวา ตํ รุกฺขํ อุปริ ปริโยนนฺธนฺติฯ โส มาลุวาลตาหิ สํสิพฺพิโต ฆเนหิ มหเนฺตหิ มาลุวาปเตฺตหิ สญฺฉโนฺน เทเว วา วสฺสเนฺต วาเต วา วายเนฺต ตตฺถ ตตฺถ ปลุชฺชิตฺวา ขาณุมตฺตเมว อวสิสฺสติฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ
Duggati pāṭikaṅkhāti nirayādikā duggati icchitabbā, sā assa avassabhāvinī, tatthānena nibbattitabbanti attho. Uddhastoti upari dhaṃsito. Pariyonaddhoti samantā onaddho. Anayaṃ āpajjatīti avuḍḍhiṃ āpajjati. Byasanaṃāpajjatīti vināsaṃ āpajjati. Gimhakālasmiñhi māluvāsipāṭikāya phalitāya bījāni uppatitvā vaṭarukkhādīnaṃ mūle patanti. Tattha yassa rukkhassa mūle tīsu disāsu tīṇi bījāni patitāni honti, tasmiṃ rukkhe pāvussakena meghena abhivaṭṭhe tīhi bījehi tayo aṅkurā uṭṭhahitvā taṃ rukkhaṃ allīyanti. Tato paṭṭhāya rukkhadevatāyo sakabhāvena saṇṭhātuṃ na sakkonti. Tepi aṅkurā vaḍḍhamānā latābhāvaṃ āpajjitvā taṃ rukkhaṃ abhiruhitvā sabbaviṭapasākhāpasākhā saṃsibbitvā taṃ rukkhaṃ upari pariyonandhanti. So māluvālatāhi saṃsibbito ghanehi mahantehi māluvāpattehi sañchanno deve vā vassante vāte vā vāyante tattha tattha palujjitvā khāṇumattameva avasissati. Taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อญฺญตรรุโกฺข วิย หิ อยํ สโตฺต ทฎฺฐโพฺพ, ติโสฺส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ยาว รุกฺขสาขา อสมฺปตฺตา, ตาว ตาสํ ลตานํ อุชุกํ รุกฺขาโรหนํ วิย โลภาทีนํ ทฺวารํ อสมฺปตฺตกาโล, สาขานุสาเรน คมนกาโล วิย ทฺวารวเสน คมนกาโล, ปริโยนทฺธกาโล วิย โลภาทีหิ ปริยุฎฺฐิตกาโล, ขุทฺทกสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ทฺวารปฺปตฺตานํ กิเลสานํ วเสน ขุทฺทานุขุทฺทกา อาปตฺติโย อาปนฺนกาโล, มหาสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ครุกาปตฺติํ อาปนฺนกาโล, ลตานุสาเรน โอติเณฺณน อุทเกน มูเลสุ ติเนฺตสุ รุกฺขสฺส ภูมิยํ ปตนกาโล วิย กเมน จตฺตาริ ปาราชิกานิ อาปชฺชิตฺวา จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตนกาโล ทฎฺฐโพฺพฯ
Evameva khoti ettha pana idaṃ opammasaṃsandanaṃ – sālādīsu aññatararukkho viya hi ayaṃ satto daṭṭhabbo, tisso māluvālatā viya tīṇi akusalamūlāni, yāva rukkhasākhā asampattā, tāva tāsaṃ latānaṃ ujukaṃ rukkhārohanaṃ viya lobhādīnaṃ dvāraṃ asampattakālo, sākhānusārena gamanakālo viya dvāravasena gamanakālo, pariyonaddhakālo viya lobhādīhi pariyuṭṭhitakālo, khuddakasākhānaṃ palujjanakālo viya dvārappattānaṃ kilesānaṃ vasena khuddānukhuddakā āpattiyo āpannakālo, mahāsākhānaṃ palujjanakālo viya garukāpattiṃ āpannakālo, latānusārena otiṇṇena udakena mūlesu tintesu rukkhassa bhūmiyaṃ patanakālo viya kamena cattāri pārājikāni āpajjitvā catūsu apāyesu nibbattanakālo daṭṭhabbo.
สุกฺกปโกฺข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตโพฺพฯ เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อญฺญตรรุโกฺข วิย อยํ สโตฺต ทฎฺฐโพฺพ, ติโสฺส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ตาสํ อปฺปวตฺติํ กาตุํ อาคตปุริโส วิย โยคาวจโร, กุทฺทาโล วิย ปญฺญา, กุทฺทาลปิฎกํ วิย สทฺธาปิฎกํ, ปลิขนนขณิตฺติ วิย วิปสฺสนาปญฺญา, ขณิตฺติยา มูลเจฺฉทนํ วิย วิปสฺสนาญาเณน อวิชฺชามูลสฺส ฉินฺทนกาโล, ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทนกาโล วิย ขนฺธวเสน ทิฎฺฐกาโล, ผาลนกาโล วิย มคฺคญาเณน กิเลสานํ สมุคฺฆาติตกาโล, มสิกรณกาโล วิย ธรมานกปญฺจกฺขนฺธกาโล, มหาวาเต โอปุณิตฺวา อปฺปวตฺตนกาโล วิย อุปาทินฺนกกฺขนฺธานํ อปฺปฎิสนฺธิกนิโรเธน นิรุชฺฌิตฺวา ปุนพฺภเว ปฎิสนฺธิอคฺคหณกาโล ทฎฺฐโพฺพติฯ อิมสฺมิํ สุเตฺต วฎฺฎวิวฎฺฎํ กถิตํฯ
Sukkapakkho vuttavipallāsena veditabbo. Evameva khoti ettha pana idaṃ opammasaṃsandanaṃ – sālādīsu aññatararukkho viya ayaṃ satto daṭṭhabbo, tisso māluvālatā viya tīṇi akusalamūlāni, tāsaṃ appavattiṃ kātuṃ āgatapuriso viya yogāvacaro, kuddālo viya paññā, kuddālapiṭakaṃ viya saddhāpiṭakaṃ, palikhananakhaṇitti viya vipassanāpaññā, khaṇittiyā mūlacchedanaṃ viya vipassanāñāṇena avijjāmūlassa chindanakālo, khaṇḍākhaṇḍikaṃ chindanakālo viya khandhavasena diṭṭhakālo, phālanakālo viya maggañāṇena kilesānaṃ samugghātitakālo, masikaraṇakālo viya dharamānakapañcakkhandhakālo, mahāvāte opuṇitvā appavattanakālo viya upādinnakakkhandhānaṃ appaṭisandhikanirodhena nirujjhitvā punabbhave paṭisandhiaggahaṇakālo daṭṭhabboti. Imasmiṃ sutte vaṭṭavivaṭṭaṃ kathitaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. อกุสลมูลสุตฺตํ • 9. Akusalamūlasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา • 9. Akusalamūlasuttavaṇṇanā