Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๒. ภิกฺขุวโคฺค
2. Bhikkhuvaggo
๑. อมฺพลฎฺฐิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา
1. Ambalaṭṭhikarāhulovādasuttavaṇṇanā
๑๐๗. อมฺพลฎฺฐิกายนฺติ เอตฺถ อมฺพลฎฺฐิกา วุจฺจติ สุชาโต ตรุณมฺพรุโกฺข, ตสฺส ปน อวิทูเร กโต ปาสาโท อิธ ‘‘อมฺพลฎฺฐิกา’’ติ อธิเปฺปโตฯ เตนาห ‘‘เวฬุวนวิหารสฺสา’’ติอาทิฯ ปธานฆรสเงฺขเปติ ภาวนาเคหปฺปกาเร โยคีนํ เคเหติ อโตฺถฯ ติขิโณว โหติ, น ตสฺส ติขิณภาโว เกนจิ กาตโพฺพ สภาวสิทฺธตฺตาฯ เอวเมว อตฺตโน วิมุตฺติปริปาจนกมฺมุนา ติกฺขวิสทภาวปฺปตฺติยา อยมฺปิ อายสฺมา…เป.… ตตฺถ วิหาสิฯ ปกติปญฺญตฺตเมวาติ ปกติยา ปญฺญตฺตํ พุทฺธานํ อุปคมนโต ปุเรตรเมว จาริตฺตวเสน ปญฺญตฺตํฯ
107.Ambalaṭṭhikāyanti ettha ambalaṭṭhikā vuccati sujāto taruṇambarukkho, tassa pana avidūre kato pāsādo idha ‘‘ambalaṭṭhikā’’ti adhippeto. Tenāha ‘‘veḷuvanavihārassā’’tiādi. Padhānagharasaṅkhepeti bhāvanāgehappakāre yogīnaṃ geheti attho. Tikhiṇova hoti, na tassa tikhiṇabhāvo kenaci kātabbo sabhāvasiddhattā. Evameva attano vimuttiparipācanakammunā tikkhavisadabhāvappattiyā ayampi āyasmā…pe… tattha vihāsi. Pakatipaññattamevāti pakatiyā paññattaṃ buddhānaṃ upagamanato puretarameva cārittavasena paññattaṃ.
๑๐๘. อุทกํ อเนน ธียติ, ฐปียติ วา เอตฺถาติ อุทกาธานํฯ อุทกฎฺฐานนฺติ จ ขุทฺทกภาชนํฯ ‘‘โอวาททานตฺถํ อามเนฺตสี’’ติ วตฺวา ตํ ปนสฺส โอวาททานํ น อิเธว, อถ โข พหูสุ ฐาเนสุ พหุกฺขตฺตุํ ปวตฺติตนฺติ ตานิ ตานิ สเงฺขปโต ทเสฺสตฺวา อิธ สํวณฺณนตฺถํ ‘‘ภควตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
108. Udakaṃ anena dhīyati, ṭhapīyati vā etthāti udakādhānaṃ. Udakaṭṭhānanti ca khuddakabhājanaṃ. ‘‘Ovādadānatthaṃ āmantesī’’ti vatvā taṃ panassa ovādadānaṃ na idheva, atha kho bahūsu ṭhānesu bahukkhattuṃ pavattitanti tāni tāni saṅkhepato dassetvā idha saṃvaṇṇanatthaṃ ‘‘bhagavatā hī’’tiādi vuttaṃ.
ตตฺถ สพฺพพุเทฺธหิ อวิชหิตนฺติ อิมินา สเพฺพสํ พุทฺธานํ สาสเน กุมารปญฺหา นาม โหตีติ ทเสฺสติฯ เอเกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา ปวตฺตา ทส ปุจฺฉา เอตสฺสาติ ทสปุจฺฉํ, เอเกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา เอกุตฺตรวเสน ปวตฺตํ วิสฺสชฺชนตฺถาย ปญฺจปณฺณสวิสฺสชฺชนํ สามเณรปญฺหนฺติ สมฺพโนฺธฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรมตฺถโชติกายํ ขุทฺทกฎฺฐกถายํ (ขุ. ปา. อฎฺฐ. ๔.กุมารปญฺหวณฺณนา) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ อนาทีนวทสฺสิตาย อภิณฺหํ มุสา สมุทาจรณโต ‘‘ปิยมุสาวาทา’’ติ วุตฺตํ, อุทกาวเสสฉฑฺฑนอุทกาธานนิกุชฺชนอุกฺกุชฺชนทสฺสนสญฺญิตา จตโสฺส อุทกาธานูปมาโย สพฺพสฺส ยุทฺธกมฺมสฺส อกรณกรณวเสน ทสฺสิตา เทฺว หตฺถิอุปมาโยฯ
Tattha sabbabuddhehi avijahitanti iminā sabbesaṃ buddhānaṃ sāsane kumārapañhā nāma hotīti dasseti. Ekekato paṭṭhāya yāva dasakā pavattā dasa pucchā etassāti dasapucchaṃ, ekekato paṭṭhāya yāva dasakā ekuttaravasena pavattaṃ vissajjanatthāya pañcapaṇṇasavissajjanaṃ sāmaṇerapañhanti sambandho. Yaṃ panettha vattabbaṃ, taṃ paramatthajotikāyaṃ khuddakaṭṭhakathāyaṃ (khu. pā. aṭṭha. 4.kumārapañhavaṇṇanā) vuttanayeneva veditabbaṃ. Anādīnavadassitāya abhiṇhaṃ musā samudācaraṇato ‘‘piyamusāvādā’’ti vuttaṃ, udakāvasesachaḍḍanaudakādhānanikujjanaukkujjanadassanasaññitā catasso udakādhānūpamāyo sabbassa yuddhakammassa akaraṇakaraṇavasena dassitā dve hatthiupamāyo.
ตตฺถ ราหุลสุตฺตนฺติ สุตฺตนิปาเต อาคตํ ราหุลสุตฺตํ (สุ. นิ. ๓๓๗ อาทโย)ฯ อภิโณฺหวาทวเสน วุตฺตนฺติ อิมินา อนฺตรนฺตรา ตํ สุตฺตํ กเถตฺวา ภควา เถรํ โอวทตีติ ทเสฺสติฯ อิทญฺจ ปนาติ อิทํ ยถาวุตฺตํ ภควโต ตํตํกาลานุรูปํ อตฺตโน โอวาททานํ สนฺธายฯ พีชนฺติ อณฺฑํฯ ปสฺสสิ นูติ นุ-สโทฺท อนุชานเน, นนุ ปสฺสสีติ อโตฺถฯ สจฺจธมฺมํ ลงฺฆิตฺวา ฐิตสฺส กิญฺจิปิ อกตฺตพฺพํ นาม ปาปํ นตฺถีติ อาห – ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท สํวรรหิตสฺส โอปมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตา’’ติฯ ตถา หิ –
Tattharāhulasuttanti suttanipāte āgataṃ rāhulasuttaṃ (su. ni. 337 ādayo). Abhiṇhovādavasena vuttanti iminā antarantarā taṃ suttaṃ kathetvā bhagavā theraṃ ovadatīti dasseti. Idañca panāti idaṃ yathāvuttaṃ bhagavato taṃtaṃkālānurūpaṃ attano ovādadānaṃ sandhāya. Bījanti aṇḍaṃ. Passasi nūti nu-saddo anujānane, nanu passasīti attho. Saccadhammaṃ laṅghitvā ṭhitassa kiñcipi akattabbaṃ nāma pāpaṃ natthīti āha – ‘‘sampajānamusāvāde saṃvararahitassa opammadassanatthaṃ vuttā’’ti. Tathā hi –
‘‘เอกํ ธมฺมมตีตสฺส, มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน;
‘‘Ekaṃ dhammamatītassa, musāvādissa jantuno;
วิติณฺณปรโลกสฺส, นตฺถิ ปาปมการิย’’นฺติฯ (ธ. ป. ๑๗๖);
Vitiṇṇaparalokassa, natthi pāpamakāriya’’nti. (dha. pa. 176);
อุรุฬฺหวาติ อุรุโฬฺห หุตฺวา อุสฺสิโตฯ โส ปน ทมวเสน อภิรุยฺห วฑฺฒิโต อาโรหนโยโคฺย จ โหตีติ อาห ‘‘อภิวฑฺฒิโต อาโรหสมฺปโนฺน’’ติฯ อาคตาคเตติ อตฺตโน โยคฺยปเทสํ อาคตาคเตฯ ปฎิเสนาย ผลกโกฎฺฐกมุณฺฑปาการาทโยติ ปฎิเสนาย อตฺตโน อารกฺขตฺถาย ฐปิเต ผลกโกฎฺฐเก เจว อุทฺธจฺฉทปาการาทิเก จฯ เอตํ ปเทสนฺติ เอตํ ปรเสนาปเทสํฯ เอตฺตเกนาติ โอโลกนมเตฺตนฯ ตสฺส โอโลกนาการทสฺสเนเนวฯ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ เสนานีกํ เทฺวธา ภิชฺชติ, ตีรปาติกํ มทฺทิตํ หุตฺวา ปทาตา หุตฺวา เทฺวธา หุตฺวา ปลายนฺติฯ กเณฺณหิ ปหริตฺวาติ ปเคว สรานํ อาคมนสทฺทํ อุปธาเรตฺวา ยถา เวโค น โหติ, เอวํ สมุฎฺฐาเปตฺวา เตหิ ปหริตฺวา ปาตนํฯ ปฎิหตฺถิปฎิอสฺสาติอาทินา ปเจฺจกํ ปติ-สโทฺท โยเชตโพฺพติฯ ทีฆาสิลฎฺฐิยาติ ทีฆลตาย อสิลฎฺฐิยาฯ
Uruḷhavāti uruḷho hutvā ussito. So pana damavasena abhiruyha vaḍḍhito ārohanayogyo ca hotīti āha ‘‘abhivaḍḍhito ārohasampanno’’ti. Āgatāgateti attano yogyapadesaṃ āgatāgate. Paṭisenāya phalakakoṭṭhakamuṇḍapākārādayoti paṭisenāya attano ārakkhatthāya ṭhapite phalakakoṭṭhake ceva uddhacchadapākārādike ca. Etaṃ padesanti etaṃ parasenāpadesaṃ. Ettakenāti olokanamattena. Tassa olokanākāradassaneneva. Satampi sahassampi senānīkaṃ dvedhā bhijjati, tīrapātikaṃ madditaṃ hutvā padātā hutvā dvedhā hutvā palāyanti. Kaṇṇehi paharitvāti pageva sarānaṃ āgamanasaddaṃ upadhāretvā yathā vego na hoti, evaṃ samuṭṭhāpetvā tehi paharitvā pātanaṃ. Paṭihatthipaṭiassātiādinā paccekaṃ pati-saddo yojetabboti. Dīghāsilaṭṭhiyāti dīghalatāya asilaṭṭhiyā.
กรเณติ กมฺมกรเณฯ มญฺญติ หตฺถาโรโหฯ อยมุคฺครนฺติ ตาทิเส กาเล คหิตมุคฺครํฯ โอโลเกตฺวาติ ญาณจกฺขุนา ทิสฺวา, อภิณฺหํ สมฺปชญฺญํ อุปฎฺฐเปตฺวาติ อโตฺถฯ
Karaṇeti kammakaraṇe. Maññati hatthāroho. Ayamuggaranti tādise kāle gahitamuggaraṃ. Oloketvāti ñāṇacakkhunā disvā, abhiṇhaṃ sampajaññaṃ upaṭṭhapetvāti attho.
๑๐๙. สสกฺกนฺติ ปสฺสิตุํ ยุตฺตํ กตฺวา อุสฺสาหํ ชเนตฺวา น กรณียํ, ตาทิสํ นิยมโต อกตฺตพฺพํ โหตีติ อาห ‘‘เอกํเสเนว น กาตพฺพ’’นฺติฯ ปฎิสํหเรยฺยาสีติ กรณโต สโงฺกจํ อาปเชฺชยฺยาสิฯ ยถาภูโต อสโนฺต นิวโตฺต อกโรโนฺต นาม โหตีติ อาห ‘‘นิวเตฺตยฺยาสิ มา กเรยฺยาสี’’ติฯ อนุปเทยฺยาสีติ อนุพลปฺปทายี ภเวยฺยาสิฯ เตนาห ‘‘อุปตฺถเมฺภยฺยาสี’’ติฯ ตํ ปน อนุพลปฺปทานํ อุปตฺถมฺภนํ ปุนปฺปุนํ กรณเมวาติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ กเรยฺยาสี’’ติ ฯ สิกฺขมาโนติ ตํเยว อธิสีลสิกฺขํ ตนฺนิสฺสยญฺจ สิกฺขาทฺวยํ สิกฺขโนฺต สมฺปาเทโนฺตฯ
109.Sasakkanti passituṃ yuttaṃ katvā ussāhaṃ janetvā na karaṇīyaṃ, tādisaṃ niyamato akattabbaṃ hotīti āha ‘‘ekaṃseneva na kātabba’’nti. Paṭisaṃhareyyāsīti karaṇato saṅkocaṃ āpajjeyyāsi. Yathābhūto asanto nivatto akaronto nāma hotīti āha ‘‘nivatteyyāsi mā kareyyāsī’’ti. Anupadeyyāsīti anubalappadāyī bhaveyyāsi. Tenāha ‘‘upatthambheyyāsī’’ti. Taṃ pana anubalappadānaṃ upatthambhanaṃ punappunaṃ karaṇamevāti āha ‘‘punappunaṃ kareyyāsī’’ti . Sikkhamānoti taṃyeva adhisīlasikkhaṃ tannissayañca sikkhādvayaṃ sikkhanto sampādento.
๑๑๑. กิตฺตเก ปน ฐาเนติ กิตฺตเก ฐาเน ปวตฺตานิฯ อวิทูเร เอว ปวตฺตานีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘เอกสฺมิํ ปุเรภเตฺตเยว โสเธตพฺพานี’’ติ อาหฯ เอวญฺหิ ตานิ สุโสธิตานิ โหนฺติ สุปริสุทฺธานิฯ ปเรสํ อปฺปิยํ ครุํ คารยฺหํ, ยถาวุตฺตฎฺฐานโต ปน อญฺญํ วา กมฺมฎฺฐานมนสิกาเรเนว กายกมฺมาทีนิ ปริโสธิตานิ โหนฺตีติ น คหิตํฯ ปฎิฆํ วาติ เอตฺถ วา-สเทฺทน อสมเปกฺขเณ โมหสฺส สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ
111.Kittakepana ṭhāneti kittake ṭhāne pavattāni. Avidūre eva pavattānīti dassento ‘‘ekasmiṃ purebhatteyeva sodhetabbānī’’ti āha. Evañhi tāni susodhitāni honti suparisuddhāni. Paresaṃ appiyaṃ garuṃ gārayhaṃ, yathāvuttaṭṭhānato pana aññaṃ vā kammaṭṭhānamanasikāreneva kāyakammādīni parisodhitāni hontīti na gahitaṃ. Paṭighaṃ vāti ettha vā-saddena asamapekkhaṇe mohassa saṅgaho daṭṭhabbo.
๑๑๒. วุตฺตนเยน กายกมฺมาทิปริโสธนํ นาม อิเธว, น อิโต พหิทฺธาติ อาห ‘‘พุทฺธา…เป.… สาวกา วา’’ติฯ เต หิ อตฺถโต สมณพฺราหฺมณา วาติฯ ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺพพุทฺธปเจฺจกพุทฺธสาวเกหิ อารุฬฺหมโคฺค, ราหุล, มยา ตุยฺหํ อาจิกฺขิโต, ตสฺมาฯ เตน อนุสิกฺขเนฺตน ตยา เอวํ สิกฺขิตพฺพนฺติ โอวาทํ อทาสิฯ เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
112. Vuttanayena kāyakammādiparisodhanaṃ nāma idheva, na ito bahiddhāti āha ‘‘buddhā…pe… sāvakā vā’’ti. Te hi atthato samaṇabrāhmaṇā vāti. Tasmāti yasmā sabbabuddhapaccekabuddhasāvakehi āruḷhamaggo, rāhula, mayā tuyhaṃ ācikkhito, tasmā. Tena anusikkhantena tayā evaṃ sikkhitabbanti ovādaṃ adāsi. Sesaṃ vuttanayattā suviññeyyameva.
อมฺพลฎฺฐิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา
Ambalaṭṭhikarāhulovādasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā
สมตฺตาฯ
Samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๑. อมฺพลฎฺฐิกราหุโลวาทสุตฺตํ • 1. Ambalaṭṭhikarāhulovādasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. อมฺพลฎฺฐิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา • 1. Ambalaṭṭhikarāhulovādasuttavaṇṇanā