Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā |
๑๓. วีสตินิปาโต
13. Vīsatinipāto
๑. อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา
1. Ambapālītherīgāthāvaṇṇanā
วีสตินิปาเต กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสาติอาทิกา อมฺพปาลิยา เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี สิขิสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา หุตฺวา ภิกฺขุนิสิกฺขาปทํ สมาทาย วิหรนฺตี, เอกทิวสํ สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ เจติยํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺตี ปุเรตรํ คจฺฉนฺติยา ขีณาสวเตฺถริยา ขิปนฺติยา สหสา เขฬปิณฺฑํ เจติยงฺคเณ ปติตํ, ขีณาสวเตฺถริยา อปสฺสิตฺวา คตาย อยํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตี ตํ เขฬปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘กา นาม คณิกา อิมสฺมิํ ฐาเน เขฬปิณฺฑํ ปาเตสี’’ติ อโกฺกสิฯ สา ภิกฺขุนิกาเล สีลํ รกฺขนฺตี คพฺภวาสํ ชิคุจฺฉิตฺวา โอปปาติกตฺตภาเว จิตฺตํ ฐเปสิฯ เตน จริมตฺตภาเว เวสาลิยํ ราชุยฺยาเน อมฺพรุกฺขมูเล โอปปาติกา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ตํ ทิสฺวา อุยฺยานปาโล นครํ อุปเนสิฯ อมฺพรุกฺขมูเล นิพฺพตฺตตาย สา อมฺพปาลีเตฺวว โวหรียิตฺถฯ อถ นํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ วิลาสกนฺตตาทิคุณวิเสสสมุทิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา ราชกุมารา อตฺตโน อตฺตโน ปริคฺคหํ กาตุกามา อญฺญมญฺญํ กลหํ อกํสุฯ เตสํ กลหวูปสมตฺถํ ตสฺสา กมฺมสโญฺจทิตา โวหาริกา ‘‘สเพฺพสํ โหตู’’ติ คณิกาฎฺฐาเน ฐเปสุํฯ สา สตฺถริ ปฎิลทฺธสทฺธา อตฺตโน อุยฺยาเน วิหารํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน ปุตฺตสฺส วิมลโกณฺฑญฺญเตฺถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อตฺตโน สรีรสฺส ชราชิณฺณภาวํ นิสฺสาย สํเวคชาตา สงฺขารานํ อนิจฺจตํ วิภาเวนฺตี –
Vīsatinipāte kāḷakā bhamaravaṇṇasādisātiādikā ambapāliyā theriyā gāthā. Ayampi purimabuddhesu katādhikārā tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinantī sikhissa bhagavato sāsane pabbajitvā upasampannā hutvā bhikkhunisikkhāpadaṃ samādāya viharantī, ekadivasaṃ sambahulāhi bhikkhunīhi saddhiṃ cetiyaṃ vanditvā padakkhiṇaṃ karontī puretaraṃ gacchantiyā khīṇāsavattheriyā khipantiyā sahasā kheḷapiṇḍaṃ cetiyaṅgaṇe patitaṃ, khīṇāsavattheriyā apassitvā gatāya ayaṃ pacchato gacchantī taṃ kheḷapiṇḍaṃ disvā ‘‘kā nāma gaṇikā imasmiṃ ṭhāne kheḷapiṇḍaṃ pātesī’’ti akkosi. Sā bhikkhunikāle sīlaṃ rakkhantī gabbhavāsaṃ jigucchitvā opapātikattabhāve cittaṃ ṭhapesi. Tena carimattabhāve vesāliyaṃ rājuyyāne ambarukkhamūle opapātikā hutvā nibbatti. Taṃ disvā uyyānapālo nagaraṃ upanesi. Ambarukkhamūle nibbattatāya sā ambapālītveva voharīyittha. Atha naṃ abhirūpaṃ dassanīyaṃ pāsādikaṃ vilāsakantatādiguṇavisesasamuditaṃ disvā sambahulā rājakumārā attano attano pariggahaṃ kātukāmā aññamaññaṃ kalahaṃ akaṃsu. Tesaṃ kalahavūpasamatthaṃ tassā kammasañcoditā vohārikā ‘‘sabbesaṃ hotū’’ti gaṇikāṭṭhāne ṭhapesuṃ. Sā satthari paṭiladdhasaddhā attano uyyāne vihāraṃ katvā buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa niyyādetvā pacchā attano puttassa vimalakoṇḍaññattherassa santike dhammaṃ sutvā pabbajitvā vipassanāya kammaṃ karontī attano sarīrassa jarājiṇṇabhāvaṃ nissāya saṃvegajātā saṅkhārānaṃ aniccataṃ vibhāventī –
๒๕๒.
252.
‘‘กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสา, เวลฺลิตคฺคา มม มุทฺธชา อหุํ;
‘‘Kāḷakā bhamaravaṇṇasādisā, vellitaggā mama muddhajā ahuṃ;
เต ชราย สาณวากสาทิสา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Te jarāya sāṇavākasādisā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๓.
253.
‘‘วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโก, ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโช;
‘‘Vāsitova surabhī karaṇḍako, pupphapūra mama uttamaṅgajo;
ตํ ชรายถ สโลมคนฺธิกํ, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Taṃ jarāyatha salomagandhikaṃ, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๔.
254.
‘‘กานนํว สหิตํ สุโรปิตํ, โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตํ;
‘‘Kānanaṃva sahitaṃ suropitaṃ, kocchasūcivicitaggasobhitaṃ;
ตํ ชราย วิรลํ ตหิํ ตหิํ, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Taṃ jarāya viralaṃ tahiṃ tahiṃ, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๕.
255.
‘‘กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตํ, โสภเต สุเวณีหิลงฺกตํ;
‘‘Kaṇhakhandhakasuvaṇṇamaṇḍitaṃ, sobhate suveṇīhilaṅkataṃ;
ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตํ, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Taṃ jarāya khalitaṃ siraṃ kataṃ, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๖.
256.
‘‘จิตฺตการสุกตาว เลขิกา, โสภเร สุ ภมุกา ปุเร มม;
‘‘Cittakārasukatāva lekhikā, sobhare su bhamukā pure mama;
ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Tā jarāya valibhippalambitā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๗.
257.
‘‘ภสฺสรา สุรุจิรา ยถา มณี, เนตฺตเหสุมภินีลมายตา;
‘‘Bhassarā surucirā yathā maṇī, nettahesumabhinīlamāyatā;
เต ชรายภิหตา น โสภเร, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Te jarāyabhihatā na sobhare, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๘.
258.
‘‘สณฺหตุงฺคสทิสี จ นาสิกา, โสภเต สุ อภิโยพฺพนํ ปติ;
‘‘Saṇhatuṅgasadisī ca nāsikā, sobhate su abhiyobbanaṃ pati;
สา ชราย อุปกูลิตา วิย, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Sā jarāya upakūlitā viya, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๕๙.
259.
‘‘กงฺกณํว สุกตํ สุนิฎฺฐิตํ, โสภเร สุ มม กณฺณปาฬิโย;
‘‘Kaṅkaṇaṃva sukataṃ suniṭṭhitaṃ, sobhare su mama kaṇṇapāḷiyo;
ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Tā jarāya valibhippalambitā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๐.
260.
‘‘ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสา , โสภเร สุ ทนฺตา ปุเร มม;
‘‘Pattalīmakulavaṇṇasādisā , sobhare su dantā pure mama;
เต ชราย ขณฺฑิตา จาสิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Te jarāya khaṇḍitā cāsitā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๑.
261.
‘‘กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหํ;
‘‘Kānanamhi vanasaṇḍacārinī, kokilāva madhuraṃ nikūjihaṃ;
ตํ ชราย ขลิตํ ตหิํ ตหิํ, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Taṃ jarāya khalitaṃ tahiṃ tahiṃ, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๒.
262.
‘‘สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตา, โสภเต สุ คีวา ปุเร มม;
‘‘Saṇhakamburiva suppamajjitā, sobhate su gīvā pure mama;
สา ชราย ภคฺคา วินามิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Sā jarāya bhaggā vināmitā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๓.
263.
‘‘วฎฺฎปลิฆสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ พาหา ปุเร มม;
‘‘Vaṭṭapalighasadisopamā ubho, sobhare su bāhā pure mama;
ตา ชราย ยถา ปาฎลิพฺพลิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Tā jarāya yathā pāṭalibbalitā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๔.
264.
‘‘สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตา , โสภเร สุ หตฺถา ปุเร มม;
‘‘Saṇhamuddikasuvaṇṇamaṇḍitā , sobhare su hatthā pure mama;
เต ชราย ยถา มูลมูลิกา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Te jarāya yathā mūlamūlikā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๕.
265.
‘‘ปีนวฎฺฎสหิภุคฺคตา อุโภ, โสภเร สุ ถนกา ปุเร มม;
‘‘Pīnavaṭṭasahibhuggatā ubho, sobhare su thanakā pure mama;
เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Thevikīva lambanti nodakā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๖.
266.
‘‘กญฺจนสฺส ผลกํว สมฺมฎฺฐํ, โสภเต สุ กาโย ปุเร มม;
‘‘Kañcanassa phalakaṃva sammaṭṭhaṃ, sobhate su kāyo pure mama;
โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโต, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
So valīhi sukhumāhi otato, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๗.
267.
‘‘นาคโภคสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ อูรู ปุเร มม;
‘‘Nāgabhogasadisopamā ubho, sobhare su ūrū pure mama;
เต ชราย ยถา เวฬุนาฬิโย, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Te jarāya yathā veḷunāḷiyo, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๘.
268.
‘‘สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตา, โสภเร สุ ชงฺฆา ปุเร มม;
‘‘Saṇhanūpurasuvaṇṇamaṇḍitā, sobhare su jaṅghā pure mama;
ตา ชราย ติลทณฺฑการิว, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Tā jarāya tiladaṇḍakāriva, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๖๙.
269.
‘‘ตูลปุณฺณสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ ปาทา ปุเร มม;
‘‘Tūlapuṇṇasadisopamā ubho, sobhare su pādā pure mama;
เต ชราย ผุฎิตา วลีมตา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ
Te jarāya phuṭitā valīmatā, saccavādivacanaṃ anaññathā.
๒๗๐.
270.
‘‘เอทิโส อหุ อยํ สมุสฺสโย, ชชฺชโร พหุทุขานมาลโย;
‘‘Ediso ahu ayaṃ samussayo, jajjaro bahudukhānamālayo;
โสปเลปปติโต ชราฆโร, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถา’’ติฯ –
Sopalepapatito jarāgharo, saccavādivacanaṃ anaññathā’’ti. –
อิมา คาถาโย อภาสิฯ
Imā gāthāyo abhāsi.
ตตฺถ กาฬกาติ กาฬกวณฺณาฯ ภมรวณฺณสาทิสาติ กาฬกา โหนฺตาปิ ภมรสทิสวณฺณา, สินิทฺธนีลาติ อโตฺถฯ เวลฺลิตคฺคาติ กุญฺจิตคฺคา, มูลโต ปฎฺฐาย ยาว อคฺคา กุญฺจิตา เวลฺลิตาติ อโตฺถฯ มุทฺธชาติ เกสาฯ ชรายาติ ชราเหตุ ชราย อุปหตโสภาฯ สาณวากสาทิสาติ สาณสทิสา วากสทิสา จ, สาณวากสทิสา เจว มกจิวากสทิสา จาติปิ อโตฺถฯ สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาติ สจฺจวาทิโน อวิตถวาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ‘‘สพฺพํ รูปํ อนิจฺจํ ชราภิภูต’’นฺติอาทิวจนํ อนญฺญถา ยถาภูตเมว, น ตตฺถ วิตถํ อตฺถีติฯ
Tattha kāḷakāti kāḷakavaṇṇā. Bhamaravaṇṇasādisāti kāḷakā hontāpi bhamarasadisavaṇṇā, siniddhanīlāti attho. Vellitaggāti kuñcitaggā, mūlato paṭṭhāya yāva aggā kuñcitā vellitāti attho. Muddhajāti kesā. Jarāyāti jarāhetu jarāya upahatasobhā. Sāṇavākasādisāti sāṇasadisā vākasadisā ca, sāṇavākasadisā ceva makacivākasadisā cātipi attho. Saccavādivacanaṃ anaññathāti saccavādino avitathavādino sammāsambuddhassa ‘‘sabbaṃ rūpaṃ aniccaṃ jarābhibhūta’’ntiādivacanaṃ anaññathā yathābhūtameva, na tattha vitathaṃ atthīti.
วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโกติ ปุปฺผคนฺธวาสจุณฺณาทีหิ วาสิโต วาสํ คาหาปิโต ปสาธนสมุโคฺค วิย สุคนฺธิฯ ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโชติ จมฺปกสุมนมลฺลิกาทีหิ ปุเปฺผหิ ปูริโต ปุเพฺพ มม เกสกลาโป นิมฺมโลติ อโตฺถฯ ตนฺติ อุตฺตมงฺคชํฯ อถ ปจฺฉา เอตรหิ สโลมคนฺธิกํ ปากติกโลมคนฺธเมว ชาตํฯ อถ วา สโลมคนฺธิกนฺติ เมณฺฑกโลเมหิ สมานคนฺธํฯ ‘‘เอฬกโลมคนฺธ’’นฺติปิ วทนฺติฯ
Vāsitova surabhī karaṇḍakoti pupphagandhavāsacuṇṇādīhi vāsito vāsaṃ gāhāpito pasādhanasamuggo viya sugandhi. Pupphapūra mama uttamaṅgajoti campakasumanamallikādīhi pupphehi pūrito pubbe mama kesakalāpo nimmaloti attho. Tanti uttamaṅgajaṃ. Atha pacchā etarahi salomagandhikaṃ pākatikalomagandhameva jātaṃ. Atha vā salomagandhikanti meṇḍakalomehi samānagandhaṃ. ‘‘Eḷakalomagandha’’ntipi vadanti.
กานนํว สหิตํ สุโรปิตนฺติ สุฎฺฐุ โรปิตํ สหิตํ ฆนสนฺนิเวสํ อุทฺธเมว อุฎฺฐิตํ อุชุกทีฆสาขํ อุปวนํ วิยฯ โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตนฺติ ปุเพฺพ โกเจฺฉน สุวณฺณสูจิยา จ เกสชฎาวิชฎเนน วิจิตคฺคํ หุตฺวา โสภิตํ, ฆนภาเวน วา โกจฺฉสทิสํ หุตฺวา ปณทนฺตสูจีหิ วิจิตคฺคตาย โสภิตํฯ ตนฺติ อุตฺตมงฺคชํฯ วิรลํ ตหิํ ตหินฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิรลํ วิลูนเกสํฯ
Kānanaṃva sahitaṃ suropitanti suṭṭhu ropitaṃ sahitaṃ ghanasannivesaṃ uddhameva uṭṭhitaṃ ujukadīghasākhaṃ upavanaṃ viya. Kocchasūcivicitaggasobhitanti pubbe kocchena suvaṇṇasūciyā ca kesajaṭāvijaṭanena vicitaggaṃ hutvā sobhitaṃ, ghanabhāvena vā kocchasadisaṃ hutvā paṇadantasūcīhi vicitaggatāya sobhitaṃ. Tanti uttamaṅgajaṃ. Viralaṃ tahiṃ tahinti tattha tattha viralaṃ vilūnakesaṃ.
กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตนฺติ สุวณฺณวชิราทีหิ วิภูสิตํ กณฺหเกสปุญฺชกํฯ เย ปน ‘‘สณฺหกณฺฑกสุวณฺณมณฺฑิต’’นฺติ ปฐนฺติ, เตสํ สณฺหาหิ สุวณฺณสูจีหิ ชฎาวิชฎเนน มณฺฑิตนฺติ อโตฺถฯ โสภเต สุเวณีหิลงฺกตนฺติ สุนฺทเรหิ ราชรุกฺขมาลา สทิเสหิ เกสเวณีหิ อลงฺกตํ หุตฺวา ปุเพฺพ วิราชเตฯ ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตนฺติ ตํ ตถา โสภิตํ สิรํ อิทานิ ชราย ขลิตํ ขณฺฑิตาขณฺฑิตํ วิลูนเกสํ กตํฯ
Kaṇhakhandhakasuvaṇṇamaṇḍitanti suvaṇṇavajirādīhi vibhūsitaṃ kaṇhakesapuñjakaṃ. Ye pana ‘‘saṇhakaṇḍakasuvaṇṇamaṇḍita’’nti paṭhanti, tesaṃ saṇhāhi suvaṇṇasūcīhi jaṭāvijaṭanena maṇḍitanti attho. Sobhate suveṇīhilaṅkatanti sundarehi rājarukkhamālā sadisehi kesaveṇīhi alaṅkataṃ hutvā pubbe virājate. Taṃ jarāya khalitaṃ siraṃ katanti taṃ tathā sobhitaṃ siraṃ idāni jarāya khalitaṃ khaṇḍitākhaṇḍitaṃ vilūnakesaṃ kataṃ.
จิตฺตการสุกตาว เลขิกาติ จิตฺตกาเรน สิปฺปินา นีลาย วณฺณธาตุยา สุฎฺฐุ กตา เลขา วิย โสภเตฯ สุ ภมุกา ปุเร มมาติ สุนฺทรา ภมุกา ปุเพฺพ มม โสภนํ คตาฯ วลิภิปฺปลมฺพิตาติ นลาฎเนฺต อุปฺปนฺนาหิ วลีหิ ปลมฺพนฺตา ฐิตาฯ
Cittakārasukatāva lekhikāti cittakārena sippinā nīlāya vaṇṇadhātuyā suṭṭhu katā lekhā viya sobhate. Su bhamukā pure mamāti sundarā bhamukā pubbe mama sobhanaṃ gatā. Valibhippalambitāti nalāṭante uppannāhi valīhi palambantā ṭhitā.
ภสฺสราติ ภาสุราฯ สุรุจิราติ สุฎฺฐุ รุจิราฯ ยถา มณีติ มณิมุทฺทิกา วิยฯ เนตฺตเหสุนฺติ สุเนตฺตา อเหสุํฯ อภินีลมายตาติ อภินีลา หุตฺวา อายตาฯ เตติ เนตฺตาฯ ชรายภิหตาติ ชราย อภิหตาฯ
Bhassarāti bhāsurā. Surucirāti suṭṭhu rucirā. Yathā maṇīti maṇimuddikā viya. Nettahesunti sunettā ahesuṃ. Abhinīlamāyatāti abhinīlā hutvā āyatā. Teti nettā. Jarāyabhihatāti jarāya abhihatā.
สณฺหตุงฺคสทิสี จาติ สณฺหา ตุงฺคา เสสมุขาวยวานํ อนุรูปา จฯ โสภเตติ วเฎฺฎตฺวา ฐปิตหริตาลวฎฺฎิ วิย มม นาสิกา โสภเตฯ สุ อภิโยพฺพนํ ปตีติ สุนฺทเร อภินวโยพฺพนกาเล สา นาสิกา อิทานิ ชราย นิวาริตโสภตาย ปริเสทิตา วิย วรตฺตา วิย จ ชาตาฯ
Saṇhatuṅgasadisīcāti saṇhā tuṅgā sesamukhāvayavānaṃ anurūpā ca. Sobhateti vaṭṭetvā ṭhapitaharitālavaṭṭi viya mama nāsikā sobhate. Su abhiyobbanaṃ patīti sundare abhinavayobbanakāle sā nāsikā idāni jarāya nivāritasobhatāya pariseditā viya varattā viya ca jātā.
กงฺกณํว สุกตํ สุนิฎฺฐิตนฺติ สุปริกมฺมกตํ สุวณฺณกงฺกณํ วิย วฎฺฎุลภาวํ สนฺธาย วทติฯ โสภเรติ โสภเนฺตฯ ‘‘โสภเนฺต’’ติ วา ปาโฐฯ สุอิติ นิปาตมตฺตํฯ กณฺณปาฬิโยติ กณฺณคนฺธาฯ วลิภิปฺปลมฺพิตาติ ตหิํ ตหิํ อุปฺปนฺนวลีหิ วลิตา หุตฺวา วฎฺฎนิยา ปณามิตวตฺถขนฺธา วิย ภสฺสนฺตา โอลมฺพนฺติฯ
Kaṅkaṇaṃvasukataṃ suniṭṭhitanti suparikammakataṃ suvaṇṇakaṅkaṇaṃ viya vaṭṭulabhāvaṃ sandhāya vadati. Sobhareti sobhante. ‘‘Sobhante’’ti vā pāṭho. Suiti nipātamattaṃ. Kaṇṇapāḷiyoti kaṇṇagandhā. Valibhippalambitāti tahiṃ tahiṃ uppannavalīhi valitā hutvā vaṭṭaniyā paṇāmitavatthakhandhā viya bhassantā olambanti.
ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสาติ กทลิมกุลสทิสวณฺณสณฺฐานาฯ ขณฺฑิตาติ เภทนปตเนหิ ขณฺฑิตา ขณฺฑภาวํ คตาฯ อสิตาติ วณฺณเภเทน อสิตภาวํ คตาฯ
Pattalīmakulavaṇṇasādisāti kadalimakulasadisavaṇṇasaṇṭhānā. Khaṇḍitāti bhedanapatanehi khaṇḍitā khaṇḍabhāvaṃ gatā. Asitāti vaṇṇabhedena asitabhāvaṃ gatā.
กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหนฺติ วนสเณฺฑ โคจรจรเณน วนสณฺฑจารินี กานเน อนุสํคีตนิวาสินี โกกิลา วิย มธุราลาปํ นิกูชิหํฯ ตนฺติ นิกูชิตํ อาลาปํฯ ขลิตํ ตหิํ ตหินฺติ ขณฺฑทนฺตาทิภาเวน ตตฺถ ตตฺถ ปกฺขลิตํ ชาตํฯ
Kānanamhi vanasaṇḍacārinī, kokilāva madhuraṃ nikūjihanti vanasaṇḍe gocaracaraṇena vanasaṇḍacārinī kānane anusaṃgītanivāsinī kokilā viya madhurālāpaṃ nikūjihaṃ. Tanti nikūjitaṃ ālāpaṃ. Khalitaṃ tahiṃ tahinti khaṇḍadantādibhāvena tattha tattha pakkhalitaṃ jātaṃ.
สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตาติ สุฎฺฐุ ปมชฺชิตา สณฺหา สุวณฺณสงฺขา วิยฯ ภคฺคา วินามิตาติ มํสปริกฺขเยน วิภูตสิราชาลตาย ภคฺคา หุตฺวา วินตาฯ
Saṇhakamburiva suppamajjitāti suṭṭhu pamajjitā saṇhā suvaṇṇasaṅkhā viya. Bhaggā vināmitāti maṃsaparikkhayena vibhūtasirājālatāya bhaggā hutvā vinatā.
วฎฺฎปลิฆสทิโสปมาติ วเฎฺฎน ปลิฆทเณฺฑน สมสมาฯ ตาติ ตา อุโภปิ พาหาโยฯ ยถา ปาฎลิพฺพลิตาติ ชชฺชรภาเวน ปลิตปาฎลิสาขาสทิสาฯ
Vaṭṭapalighasadisopamāti vaṭṭena palighadaṇḍena samasamā. Tāti tā ubhopi bāhāyo. Yathā pāṭalibbalitāti jajjarabhāvena palitapāṭalisākhāsadisā.
สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตาติ สุวณฺณมยาหิ มฎฺฐภาสุราหิ มุทฺทิกาหิ วิภูสิตาฯ ยถา มูลมูลิกาติ มูลกกณฺฑสทิสาฯ
Saṇhamuddikasuvaṇṇamaṇḍitāti suvaṇṇamayāhi maṭṭhabhāsurāhi muddikāhi vibhūsitā. Yathā mūlamūlikāti mūlakakaṇḍasadisā.
ปีนวฎฺฎสหิตุคฺคตาติ ปีนา วฎฺฎา อญฺญมญฺญํ สหิตาว หุตฺวา อุคฺคตา อุทฺธมุขาฯ โสภเต สุ ถนกา ปุเร มมาติ มม อุโภปิ ถนา ยถาวุตฺตรูปา หุตฺวา สุวณฺณกลสิโย วิย โสภิํสุฯ ปุถุเตฺต หิ อิทํ เอกวจนํ, อตีตเตฺถ จ วตฺตมานวจนํฯ เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกาติ เต อุโภปิ เม ถนา โนทกา คลิตชลา เวณุทณฺฑเก ฐปิตอุทกภสฺมา วิย ลมฺพนฺติฯ
Pīnavaṭṭasahituggatāti pīnā vaṭṭā aññamaññaṃ sahitāva hutvā uggatā uddhamukhā. Sobhate su thanakā pure mamāti mama ubhopi thanā yathāvuttarūpā hutvā suvaṇṇakalasiyo viya sobhiṃsu. Puthutte hi idaṃ ekavacanaṃ, atītatthe ca vattamānavacanaṃ. Thevikīva lambanti nodakāti te ubhopi me thanā nodakā galitajalā veṇudaṇḍake ṭhapitaudakabhasmā viya lambanti.
กญฺจนผลกํว สมฺมฎฺฐนฺติ ชาติหิงฺคุลเกน มกฺขิตฺวา จิรปริมชฺชิตโสวณฺณผลกํ วิย โสภเตฯ โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโตติ โส มม กาโย อิทานิ สุขุมาหิ วลีหิ ตหิํ ตหิํ วิตโต วลิตฺตจตํ อาปโนฺนฯ
Kañcanaphalakaṃvasammaṭṭhanti jātihiṅgulakena makkhitvā ciraparimajjitasovaṇṇaphalakaṃ viya sobhate. So valīhi sukhumāhi otatoti so mama kāyo idāni sukhumāhi valīhi tahiṃ tahiṃ vitato valittacataṃ āpanno.
นาคโภคสทิโสปมาติ หตฺถินาคสฺส หเตฺถน สมสมาฯ หโตฺถ หิ อิธ ภุญฺชติ เอเตนาติ โภโคติ วุโตฺตฯ เตติ อูรุโยฯ ยถา เวฬุนาฬิโยติ อิทานิ เวฬุปพฺพสทิสา อเหสุํฯ
Nāgabhogasadisopamāti hatthināgassa hatthena samasamā. Hattho hi idha bhuñjati etenāti bhogoti vutto. Teti ūruyo. Yathā veḷunāḷiyoti idāni veḷupabbasadisā ahesuṃ.
สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตาติ สินิทฺธมเฎฺฐหิ สุวณฺณนูปุเรหิ วิภูสิตาฯ ชงฺฆาติ อฎฺฐิชงฺฆาโยฯ ตาติ ตา ชงฺฆาโยฯ ติลทณฺฑการิวาติ อปฺปมํสโลหิตตฺตา กิสภาเวน ลูนาวสิฎฺฐวิสุกฺขติลทณฺฑกา วิย อเหสุํฯ ร-กาโร ปทสนฺธิกโรฯ
Saṇhanūpurasuvaṇṇamaṇḍitāti siniddhamaṭṭhehi suvaṇṇanūpurehi vibhūsitā. Jaṅghāti aṭṭhijaṅghāyo. Tāti tā jaṅghāyo. Tiladaṇḍakārivāti appamaṃsalohitattā kisabhāvena lūnāvasiṭṭhavisukkhatiladaṇḍakā viya ahesuṃ. Ra-kāro padasandhikaro.
ตูลปุณฺณสทิโสปมาติ มุทุสินิทฺธภาเวน สิมฺพลิตูลปุณฺณปลิคุณฺฐิตอุปาหนสทิสาฯ เต มม ปาทา อิทานิ ผุฎิตา ผลิตา, วลีมตา วลิมโนฺต ชาตาฯ
Tūlapuṇṇasadisopamāti mudusiniddhabhāvena simbalitūlapuṇṇapaliguṇṭhitaupāhanasadisā. Te mama pādā idāni phuṭitā phalitā, valīmatā valimanto jātā.
เอทิโสติ เอวรูโปฯ อหุ อโหสิ ยถาวุตฺตปฺปกาโรฯ อยํ สมุสฺสโยติ อยํ มม กาโยฯ ชชฺชโรติ สิถิลาพโนฺธ ฯ พหุทุขานมาลโยติ ชราทิเหตุกานํ พหูนํ ทุกฺขานํ อาลยภูโตฯ โสปเลปปติโตติ โส อยํ สมุสฺสโย อปเลปปติโต อภิสงฺขาราเลปปริกฺขเยน ปติโต ปาตาภิมุโขติ อโตฺถฯ โสปิ อเลปปติโตติ วา ปทวิภาโค, โส เอวโตฺถฯ ชราฆโรติ ชิณฺณฆรสทิโสฯ ชราย วา ฆรภูโต อโหสิฯ ตสฺมา สจฺจวาทิโน ธมฺมานํ ยถาภูตํ สภาวํ สมฺมเทว ญตฺวา กถนโต อวิตถวาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส มม สตฺถุวจนํ อนญฺญถาฯ
Edisoti evarūpo. Ahu ahosi yathāvuttappakāro. Ayaṃ samussayoti ayaṃ mama kāyo. Jajjaroti sithilābandho . Bahudukhānamālayoti jarādihetukānaṃ bahūnaṃ dukkhānaṃ ālayabhūto. Sopalepapatitoti so ayaṃ samussayo apalepapatito abhisaṅkhārālepaparikkhayena patito pātābhimukhoti attho. Sopi alepapatitoti vā padavibhāgo, so evattho. Jarāgharoti jiṇṇagharasadiso. Jarāya vā gharabhūto ahosi. Tasmā saccavādino dhammānaṃ yathābhūtaṃ sabhāvaṃ sammadeva ñatvā kathanato avitathavādino sammāsambuddhassa mama satthuvacanaṃ anaññathā.
เอวํ อยํ เถรี อตฺตโน อตฺตภาเว อนิจฺจตาย สลฺลกฺขณมุเขน สเพฺพสุปิ เตภูมกธเมฺมสุ อนิจฺจตํ อุปธาเรตฺวา ตทนุสาเรน ตตฺถ ทุกฺขลกฺขณํ อนตฺตลกฺขณญฺจ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตี มคฺคปฎิปาฎิยา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๔.๒๐๔-๒๑๙) –
Evaṃ ayaṃ therī attano attabhāve aniccatāya sallakkhaṇamukhena sabbesupi tebhūmakadhammesu aniccataṃ upadhāretvā tadanusārena tattha dukkhalakkhaṇaṃ anattalakkhaṇañca āropetvā vipassanaṃ ussukkāpentī maggapaṭipāṭiyā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. therī 2.4.204-219) –
‘‘โย รํสิผุสิตาเวโฬ, ผุโสฺส นาม มหามุนิ;
‘‘Yo raṃsiphusitāveḷo, phusso nāma mahāmuni;
ตสฺสาหํ ภคินี อาสิํ, อชายิํ ขตฺติเย กุเลฯ
Tassāhaṃ bhaginī āsiṃ, ajāyiṃ khattiye kule.
‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาหํ, วิปฺปสเนฺนน เจตสา;
‘‘Tassa dhammaṃ suṇitvāhaṃ, vippasannena cetasā;
มหาทานํ ททิตฺวาน, ปตฺถยิํ รูปสมฺปทํฯ
Mahādānaṃ daditvāna, patthayiṃ rūpasampadaṃ.
‘‘เอกติํเส อิโต กเปฺป, สิขี โลกคฺคนายโก;
‘‘Ekatiṃse ito kappe, sikhī lokagganāyako;
อุปฺปโนฺน โลกปโชฺชโต, ติโลกสรโณ ชิโนฯ
Uppanno lokapajjoto, tilokasaraṇo jino.
‘‘ตทารุณปุเร รเมฺม, พฺรหฺมญฺญกุลสมฺภวา;
‘‘Tadāruṇapure ramme, brahmaññakulasambhavā;
วิมุตฺตจิตฺตํ กุปิตา, ภิกฺขุนิํ อภิสาปยิํฯ
Vimuttacittaṃ kupitā, bhikkhuniṃ abhisāpayiṃ.
‘‘เวสิกาว อนาจารา, ชินสาสนทูสิกา;
‘‘Vesikāva anācārā, jinasāsanadūsikā;
เอวํ อโกฺกสยิตฺวาน, เตน ปาเปน กมฺมุนาฯ
Evaṃ akkosayitvāna, tena pāpena kammunā.
‘‘ทารุณํ นิรยํ คนฺตฺวา, มหาทุกฺขสมปฺปิตา;
‘‘Dāruṇaṃ nirayaṃ gantvā, mahādukkhasamappitā;
ตโต จุตา มนุเสฺสสุ, อุปปนฺนา ตปสฺสินีฯ
Tato cutā manussesu, upapannā tapassinī.
‘‘ทสชาติสหสฺสานิ, คณิกตฺตมการยิํ;
‘‘Dasajātisahassāni, gaṇikattamakārayiṃ;
ตมฺหา ปาปา น มุจฺจิสฺสํ, ภุตฺวา ทุฎฺฐวิสํ ยถาฯ
Tamhā pāpā na muccissaṃ, bhutvā duṭṭhavisaṃ yathā.
‘‘พฺรหฺมจริยมเสวิสฺสํ, กสฺสเป ชินสาสเน;
‘‘Brahmacariyamasevissaṃ, kassape jinasāsane;
เตน กมฺมวิปาเกน, อชายิํ ติทเส ปุเรฯ
Tena kammavipākena, ajāyiṃ tidase pure.
‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปเตฺต, อโหสิํ โอปปาติกา;
‘‘Pacchime bhave sampatte, ahosiṃ opapātikā;
อมฺพสาขนฺตเร ชาตา, อมฺพปาลีติ เตนหํฯ
Ambasākhantare jātā, ambapālīti tenahaṃ.
‘‘ปริวุตา ปาณโกฎีหิ, ปพฺพชิํ ชินสาสเน;
‘‘Parivutā pāṇakoṭīhi, pabbajiṃ jinasāsane;
ปตฺตาหํ อจลํ ฐานํ, ธีตา พุทฺธสฺส โอรสาฯ
Pattāhaṃ acalaṃ ṭhānaṃ, dhītā buddhassa orasā.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, โสตธาตุวิสุทฺธิยา;
‘‘Iddhīsu ca vasī homi, sotadhātuvisuddhiyā;
เจโตปริยญาณสฺส, วสี โหมิ มหามุนิฯ
Cetopariyañāṇassa, vasī homi mahāmuni.
‘‘ปุเพฺพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
‘‘Pubbenivāsaṃ jānāmi, dibbacakkhu visodhitaṃ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ
Sabbāsavaparikkhīṇā, natthi dāni punabbhavo.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฎิภาเน ตเถว จ;
‘‘Atthadhammaniruttīsu, paṭibhāne tatheva ca;
ญาณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฎฺฐสฺส วาหสาฯ
Ñāṇaṃ me vimalaṃ suddhaṃ, buddhaseṭṭhassa vāhasā.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สเพฺพ สมูหตา;
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ, bhavā sabbe samūhatā;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวาฯ
Nāgīva bandhanaṃ chetvā, viharāmi anāsavā.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฎฺฐสฺส สนฺติเก;
‘‘Svāgataṃ vata me āsi, buddhaseṭṭhassa santike;
ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
Tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส, วิโมกฺขาปิ จ อฎฺฐิเม;
‘‘Paṭisambhidā catasso, vimokkhāpi ca aṭṭhime;
ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
Chaḷabhiññā sacchikatā, kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ตา เอว คาถา ปจฺจุทาหาสีติฯ
Arahattaṃ pana patvā attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā udānavasena tā eva gāthā paccudāhāsīti.
อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ambapālītherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๑. อมฺพปาลีเถรีคาถา • 1. Ambapālītherīgāthā