Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi |
๔. มหาวโคฺค
4. Mahāvaggo
๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ
1. Ambasakkarapetavatthu
๕๑๗.
517.
เวสาลี นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ, ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร 1;
Vesālī nāma nagaratthi vajjīnaṃ, tattha ahu licchavi ambasakkaro 2;
ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ, ตเตฺถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโกฯ
Disvāna petaṃ nagarassa bāhiraṃ, tattheva pucchittha taṃ kāraṇatthiko.
๕๑๘.
518.
‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ, อภิกฺกโม นตฺถิ ปฎิกฺกโม จ;
‘‘Seyyā nisajjā nayimassa atthi, abhikkamo natthi paṭikkamo ca;
อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา, ปริจาริกา 3 สาปิ อิมสฺส นตฺถิฯ
Asitapītakhāyitavatthabhogā, paricārikā 4 sāpi imassa natthi.
๕๑๙.
519.
‘‘เย ญาตกา ทิฎฺฐสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุเพฺพ;
‘‘Ye ñātakā diṭṭhasutā suhajjā, anukampakā yassa ahesuṃ pubbe;
ทฎฺฐุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ, วิราชิตโตฺต 5 หิ ชเนน เตนฯ
Daṭṭhumpi te dāni na taṃ labhanti, virājitatto 6 hi janena tena.
๕๒๐.
520.
‘‘น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;
‘‘Na oggatattassa bhavanti mittā, jahanti mittā vikalaṃ viditvā;
อตฺถญฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ, พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติฯ
Atthañca disvā parivārayanti, bahū mittā uggatattassa honti.
๕๒๑.
521.
‘‘นิหีนโตฺต สพฺพโภเคหิ กิโจฺฉ, สมฺมกฺขิโต สมฺปริภินฺนคโตฺต;
‘‘Nihīnatto sabbabhogehi kiccho, sammakkhito samparibhinnagatto;
อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโน, อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธฯ
Ussāvabindūva palimpamāno, ajja suve jīvitassūparodho.
๕๒๒.
522.
‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ, อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;
‘‘Etādisaṃ uttamakicchappattaṃ, uttāsitaṃ pucimandassa sūle;
‘อถ ตฺวํ เกน วเณฺณน วเทสิ ยกฺข, ชีว โภ ชีวิตเมว เสโยฺย’’’ติฯ
‘Atha tvaṃ kena vaṇṇena vadesi yakkha, jīva bho jīvitameva seyyo’’’ti.
๕๒๓.
523.
‘‘สาโลหิโต เอส อโหสิ มยฺหํ, อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;
‘‘Sālohito esa ahosi mayhaṃ, ahaṃ sarāmi purimāya jātiyā;
ทิสฺวา จ เม การุญฺญมโหสิ ราช, มา ปาปธโมฺม นิรยํ ปตายํ 7ฯ
Disvā ca me kāruññamahosi rāja, mā pāpadhammo nirayaṃ patāyaṃ 8.
๕๒๔.
524.
‘‘อิโต จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส, สตฺตุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;
‘‘Ito cuto licchavi esa poso, sattussadaṃ nirayaṃ ghorarūpaṃ;
อุปปชฺชติ ทุกฺกฎกมฺมการี, มหาภิตาปํ กฎุกํ ภยานกํฯ
Upapajjati dukkaṭakammakārī, mahābhitāpaṃ kaṭukaṃ bhayānakaṃ.
๕๒๕.
525.
‘‘อเนกภาเคน คุเณน เสโยฺย, อยเมว สูโล นิรเยน เตน;
‘‘Anekabhāgena guṇena seyyo, ayameva sūlo nirayena tena;
เอกนฺตทุกฺขํ กฎุกํ ภยานกํ, เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ 9ฯ
Ekantadukkhaṃ kaṭukaṃ bhayānakaṃ, ekantatibbaṃ nirayaṃ patāyaṃ 10.
๕๒๖.
526.
‘‘อิทญฺจ สุตฺวา วจนํ มเมโส, ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;
‘‘Idañca sutvā vacanaṃ mameso, dukkhūpanīto vijaheyya pāṇaṃ;
ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ, มา เม กโต ชีวิตสฺสูปโรโธ’’ฯ
Tasmā ahaṃ santike na bhaṇāmi, mā me kato jīvitassūparodho’’.
๕๒๗.
527.
‘‘อญฺญาโต เอโส 11 ปุริสสฺส อโตฺถ, อญฺญมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;
‘‘Aññāto eso 12 purisassa attho, aññampi icchāmase pucchituṃ tuvaṃ;
โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ, ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพ’’นฺติฯ
Okāsakammaṃ sace no karosi, pucchāma taṃ no na ca kujjhitabba’’nti.
๕๒๘.
528.
‘‘อทฺธา ปฎิญฺญา เม ตทา อหุ 13, นาจิกฺขนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;
‘‘Addhā paṭiññā me tadā ahu 14, nācikkhanā appasannassa hoti;
อกามา สเทฺธยฺยวโจติ กตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺห’’นฺติ 15ฯ
Akāmā saddheyyavacoti katvā, pucchassu maṃ kāmaṃ yathā visayha’’nti 16.
๕๒๙.
529.
‘‘ยํ กิญฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ 17, สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;
‘‘Yaṃ kiñcahaṃ cakkhunā passissāmi 18, sabbampi tāhaṃ abhisaddaheyyaṃ;
ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ, กเรยฺยาสิ 19 เม ยกฺข นิยสฺสกมฺม’’นฺติฯ
Disvāva taṃ nopi ce saddaheyyaṃ, kareyyāsi 20 me yakkha niyassakamma’’nti.
๕๓๐.
530.
‘‘สจฺจปฺปฎิญฺญา ตว เมสา โหตุ, สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;
‘‘Saccappaṭiññā tava mesā hotu, sutvāna dhammaṃ labha suppasādaṃ;
อญฺญตฺถิโก โน จ ปทุฎฺฐจิโตฺต, ยํ เต สุตํ อสุตญฺจาปิ ธมฺมํ;
Aññatthiko no ca paduṭṭhacitto, yaṃ te sutaṃ asutañcāpi dhammaṃ;
๕๓๑.
531.
‘‘เสเตน อเสฺสน อลงฺกเตน, อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;
‘‘Setena assena alaṅkatena, upayāsi sūlāvutakassa santike;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, กิเสฺสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติฯ
Yānaṃ idaṃ abbhutaṃ dassaneyyaṃ, kissetaṃ kammassa ayaṃ vipāko’’ti.
๕๓๒.
532.
‘‘เวสาลิยา นครสฺส 23 มเชฺฌ, จิกฺขลฺลมเคฺค นรกํ อโหสิ;
‘‘Vesāliyā nagarassa 24 majjhe, cikkhallamagge narakaṃ ahosi;
โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิโตฺต, เสตํ 25 คเหตฺวา นรกสฺมิํ นิกฺขิปิํฯ
Gosīsamekāhaṃ pasannacitto, setaṃ 26 gahetvā narakasmiṃ nikkhipiṃ.
๕๓๓.
533.
‘‘เอตสฺมิํ ปาทานิ ปติฎฺฐเปตฺวา, มยญฺจ อเญฺญ จ อติกฺกมิมฺหา;
‘‘Etasmiṃ pādāni patiṭṭhapetvā, mayañca aññe ca atikkamimhā;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, ตเสฺสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติฯ
Yānaṃ idaṃ abbhutaṃ dassaneyyaṃ, tasseva kammassa ayaṃ vipāko’’ti.
๕๓๔.
534.
‘‘วโณฺณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ, คโนฺธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;
‘‘Vaṇṇo ca te sabbadisā pabhāsati, gandho ca te sabbadisā pavāyati;
ยกฺขิทฺธิปโตฺตสิ มหานุภาโว, นโคฺค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติฯ
Yakkhiddhipattosi mahānubhāvo, naggo cāsi kissa ayaṃ vipāko’’ti.
๕๓๕.
535.
‘‘อโกฺกธโน นิจฺจปสนฺนจิโตฺต, สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;
‘‘Akkodhano niccapasannacitto, saṇhāhi vācāhi janaṃ upemi;
ตเสฺสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิโพฺพ เม วโณฺณ สตตํ ปภาสติฯ
Tasseva kammassa ayaṃ vipāko, dibbo me vaṇṇo satataṃ pabhāsati.
๕๓๖.
536.
‘‘ยสญฺจ กิตฺติญฺจ ธเมฺม ฐิตานํ, ทิสฺวาน มเนฺตมิ 27 ปสนฺนจิโตฺต;
‘‘Yasañca kittiñca dhamme ṭhitānaṃ, disvāna mantemi 28 pasannacitto;
ตเสฺสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิโพฺพ เม คโนฺธ สตตํ ปวายติฯ
Tasseva kammassa ayaṃ vipāko, dibbo me gandho satataṃ pavāyati.
๕๓๗.
537.
‘‘สหายานํ ติตฺถสฺมิํ นฺหายนฺตานํ, ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;
‘‘Sahāyānaṃ titthasmiṃ nhāyantānaṃ, thale gahetvā nidahissa dussaṃ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฎฺฐจิโตฺต, เตนมฺหิ นโคฺค กสิรา จ วุตฺตี’’ติฯ
Khiḍḍatthiko no ca paduṭṭhacitto, tenamhi naggo kasirā ca vuttī’’ti.
๕๓๘.
538.
‘‘โย กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ, ตเสฺสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;
‘‘Yo kīḷamāno pakaroti pāpaṃ, tassedisaṃ kammavipākamāhu;
อกีฬมาโน ปน โย กโรติ, กิํ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหู’’ติฯ
Akīḷamāno pana yo karoti, kiṃ tassa kammassa vipākamāhū’’ti.
๕๓๙.
539.
‘‘เย ทุฎฺฐสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สงฺกิลิฎฺฐา;
‘‘Ye duṭṭhasaṅkappamanā manussā, kāyena vācāya ca saṅkiliṭṭhā;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติฯ
Kāyassa bhedā abhisamparāyaṃ, asaṃsayaṃ te nirayaṃ upenti.
๕๔๐.
540.
‘‘อปเร ปน สุคติมาสมานา, ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;
‘‘Apare pana sugatimāsamānā, dāne ratā saṅgahitattabhāvā;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต สุคติํ อุเปนฺตี’’ติฯ
Kāyassa bhedā abhisamparāyaṃ, asaṃsayaṃ te sugatiṃ upentī’’ti.
๕๔๑.
541.
‘‘ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
‘‘Taṃ kinti jāneyyamahaṃ avecca, kalyāṇapāpassa ayaṃ vipāko;
กิํ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ, โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอต’’นฺติฯ
Kiṃ vāhaṃ disvā abhisaddaheyyaṃ, ko vāpi maṃ saddahāpeyya eta’’nti.
๕๔๒.
542.
‘‘ทิสฺวา จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
‘‘Disvā ca sutvā abhisaddahassu, kalyāṇapāpassa ayaṃ vipāko;
กลฺยาณปาเป อุภเย อสเนฺต, สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วาฯ
Kalyāṇapāpe ubhaye asante, siyā nu sattā sugatā duggatā vā.
๕๔๓.
543.
‘‘โน เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
‘‘No cettha kammāni kareyyuṃ maccā, kalyāṇapāpāni manussaloke;
นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเกฯ
Nāhesuṃ sattā sugatā duggatā vā, hīnā paṇītā ca manussaloke.
๕๔๔.
544.
‘‘ยสฺมา จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
‘‘Yasmā ca kammāni karonti maccā, kalyāṇapāpāni manussaloke;
ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเกฯ
Tasmā hi sattā sugatā duggatā vā, hīnā paṇītā ca manussaloke.
๕๔๕.
545.
‘‘ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ, สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;
‘‘Dvayajja kammānaṃ vipākamāhu, sukhassa dukkhassa ca vedanīyaṃ;
ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ, ปจฺจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโนฯ
Tā devatāyo paricārayanti, paccanti bālā dvayataṃ apassino.
๕๔๖.
546.
‘‘น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ, ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย 29 อาทิเสยฺย;
‘‘Na matthi kammāni sayaṃkatāni, datvāpi me natthi yo 30 ādiseyya;
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, เตนมฺหิ นโคฺค กสิรา จ วุตฺตี’’ติฯ
Acchādanaṃ sayanamathannapānaṃ, tenamhi naggo kasirā ca vuttī’’ti.
๕๔๗.
547.
‘‘สิยา นุ โข การณํ กิญฺจิ ยกฺข, อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;
‘‘Siyā nu kho kāraṇaṃ kiñci yakkha, acchādanaṃ yena tuvaṃ labhetha;
อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ 31 เหตุวโจ สุโณมา’’ติฯ
Ācikkha me tvaṃ yadatthi hetu, saddhāyikaṃ 32 hetuvaco suṇomā’’ti.
๕๔๘.
548.
‘‘กปฺปิตโก 33 นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ, ฌายี สุสีโล อรหา วิมุโตฺต;
‘‘Kappitako 34 nāma idhatthi bhikkhu, jhāyī susīlo arahā vimutto;
คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมโกฺข, สีติภูโต อุตฺตมทิฎฺฐิปโตฺตฯ
Guttindriyo saṃvutapātimokkho, sītibhūto uttamadiṭṭhipatto.
๕๔๙.
549.
‘‘สขิโล วทญฺญู สุวโจ สุมุโข, สฺวาคโม สุปฺปฎิมุตฺตโก จ;
‘‘Sakhilo vadaññū suvaco sumukho, svāgamo suppaṭimuttako ca;
ปุญฺญสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี, เทวมนุสฺสานญฺจ ทกฺขิเณโยฺยฯ
Puññassa khettaṃ araṇavihārī, devamanussānañca dakkhiṇeyyo.
๕๕๐.
550.
‘‘สโนฺต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, มุโตฺต วิสโลฺล อมโม อวโงฺก;
‘‘Santo vidhūmo anīgho nirāso, mutto visallo amamo avaṅko;
นิรูปธี สพฺพปปญฺจขีโณ, ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปโตฺต ชุติมาฯ
Nirūpadhī sabbapapañcakhīṇo, tisso vijjā anuppatto jutimā.
๕๕๑.
551.
‘‘อปฺปญฺญาโต ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน, มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;
‘‘Appaññāto disvāpi na ca sujāno, munīti naṃ vajjisu voharanti;
ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ, กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเกฯ
Jānanti taṃ yakkhabhūtā anejaṃ, kalyāṇadhammaṃ vicarantaṃ loke.
๕๕๒.
552.
‘‘ตสฺส ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา, มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;
‘‘Tassa tuvaṃ ekayugaṃ duve vā, mamuddisitvāna sace dadetha;
ปฎิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, มมญฺจ ปเสฺสถ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติฯ
Paṭiggahītāni ca tāni assu, mamañca passetha sannaddhadussa’’nti.
๕๕๓.
553.
‘‘กสฺมิํ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ, คนฺตฺวาน ปเสฺสมุ มยํ อิทานิ;
‘‘Kasmiṃ padese samaṇaṃ vasantaṃ, gantvāna passemu mayaṃ idāni;
โย มชฺช 35 กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตญฺจ, ทิฎฺฐีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา’’ติฯ
Yo majja 36 kaṅkhaṃ vicikicchitañca, diṭṭhīvisūkāni vinodayeyyā’’ti.
๕๕๔.
554.
‘‘เอโส นิสิโนฺน กปินจฺจนายํ, ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;
‘‘Eso nisinno kapinaccanāyaṃ, parivārito devatāhi bahūhi;
ธมฺมิํ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม, สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมโตฺต’’ติฯ
Dhammiṃ kathaṃ bhāsati saccanāmo, sakasmimācerake appamatto’’ti.
๕๕๕.
555.
‘‘ตถาหํ 37 กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ, อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;
‘‘Tathāhaṃ 38 kassāmi gantvā idāni, acchādayissaṃ samaṇaṃ yugena;
ปฎิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ตุวญฺจ ปเสฺสมุ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติฯ
Paṭiggahitāni ca tāni assu, tuvañca passemu sannaddhadussa’’nti.
๕๕๖.
556.
‘‘มา อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ, สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธโมฺม;
‘‘Mā akkhaṇe pabbajitaṃ upāgami, sādhu vo licchavi nesa dhammo;
ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา, ตเตฺถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺน’’นฺติฯ
Tato ca kāle upasaṅkamitvā, tattheva passāhi raho nisinna’’nti.
๕๕๗.
557.
ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;
Tathāti vatvā agamāsi tattha, parivārito dāsagaṇena licchavi;
โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา, วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเนฯ
So taṃ nagaraṃ upasaṅkamitvā, vāsūpagacchittha sake nivesane.
๕๕๘.
558.
ตโต จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา, นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;
Tato ca kāle gihikiccāni katvā, nhatvā pivitvā ca khaṇaṃ labhitvā;
วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฎฺฐ, คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิฯ
Viceyya peḷāto ca yugāni aṭṭha, gāhāpayī dāsagaṇena licchavi.
๕๕๙.
559.
โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;
So taṃ padesaṃ upasaṅkamitvā, taṃ addasa samaṇaṃ santacittaṃ;
ปฎิกฺกนฺตํ โคจรโต นิวตฺตํ, สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํฯ
Paṭikkantaṃ gocarato nivattaṃ, sītibhūtaṃ rukkhamūle nisinnaṃ.
๕๖๐.
560.
ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารญฺจ ปุจฺฉิ;
Tamenamavoca upasaṅkamitvā, appābādhaṃ phāsuvihārañca pucchi;
‘‘เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทเนฺต, ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโรฯ
‘‘Vesāliyaṃ licchavihaṃ bhadante, jānanti maṃ licchavi ambasakkaro.
๕๖๑.
561.
‘‘อิมานิ เม อฎฺฐ ยุคา สุภานิ 39, ปฎิคณฺห ภเนฺต ปททามิ ตุยฺหํ;
‘‘Imāni me aṭṭha yugā subhāni 40, paṭigaṇha bhante padadāmi tuyhaṃ;
เตเนว อเตฺถน อิธาคโตสฺมิ, ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺย’’นฺติฯ
Teneva atthena idhāgatosmi, yathā ahaṃ attamano bhaveyya’’nti.
๕๖๒.
562.
‘‘ทูรโตว สมณพฺราหฺมณา จ, นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;
‘‘Dūratova samaṇabrāhmaṇā ca, nivesanaṃ te parivajjayanti;
๕๖๓.
563.
‘‘อถาปเร ปาทกุฐาริกาหิ, อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;
‘‘Athāpare pādakuṭhārikāhi, avaṃsirā samaṇā pātayanti;
เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ, ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติฯ
Etādisaṃ pabbajitā vihesaṃ, tayā kataṃ samaṇā pāpuṇanti.
๕๖๔.
564.
‘‘ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ, มูฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;
‘‘Tiṇena telampi na tvaṃ adāsi, mūḷhassa maggampi na pāvadāsi;
อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ, เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;
Andhassa daṇḍaṃ sayamādiyāsi, etādiso kadariyo asaṃvuto tuvaṃ;
อถ ตฺวํ เกน วเณฺณน กิเมว ทิสฺวา,
Atha tvaṃ kena vaṇṇena kimeva disvā,
อเมฺหหิ สห สํวิภาคํ กโรสี’’ติฯ
Amhehi saha saṃvibhāgaṃ karosī’’ti.
๕๖๕.
565.
‘‘ปเจฺจมิ ภเนฺต ยํ ตฺวํ วเทสิ, วิเหสยิํ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;
‘‘Paccemi bhante yaṃ tvaṃ vadesi, vihesayiṃ samaṇe brāhmaṇe ca;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฎฺฐจิโตฺต, เอตมฺปิ เม ทุกฺกฎเมว ภเนฺตฯ
Khiḍḍatthiko no ca paduṭṭhacitto, etampi me dukkaṭameva bhante.
๕๖๖.
566.
‘‘ขิฑฺฑาย ยโกฺข ปสวิตฺวา ปาปํ, เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;
‘‘Khiḍḍāya yakkho pasavitvā pāpaṃ, vedeti dukkhaṃ asamattabhogī;
ทหโร ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี, กิํ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติฯ
Daharo yuvā nagganiyassa bhāgī, kiṃ su tato dukkhatarassa hoti.
๕๖๗.
567.
‘‘ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภเนฺต, ตปฺปจฺจยา วาปิ 45 ททามิ ทานํ;
‘‘Taṃ disvā saṃvegamalatthaṃ bhante, tappaccayā vāpi 46 dadāmi dānaṃ;
ปฎิคณฺห ภเนฺต วตฺถยุคานิ อฎฺฐ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติฯ
Paṭigaṇha bhante vatthayugāni aṭṭha, yakkhassimā gacchantu dakkhiṇāyo’’ti.
๕๖๘.
568.
‘‘อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ, ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;
‘‘Addhā hi dānaṃ bahudhā pasatthaṃ, dadato ca te akkhayadhammamatthu;
ปฎิคณฺหามิ เต วตฺถยุคานิ อฎฺฐ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติฯ
Paṭigaṇhāmi te vatthayugāni aṭṭha, yakkhassimā gacchantu dakkhiṇāyo’’ti.
๕๖๙.
569.
ตโต หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ, เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฎฺฐ;
Tato hi so ācamayitvā licchavi, therassa datvāna yugāni aṭṭha;
‘ปฎิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ยกฺขญฺจ ปเสฺสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ’ฯ
‘Paṭiggahitāni ca tāni assu, yakkhañca passetha sannaddhadussaṃ’.
๕๗๐.
570.
ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ, อาชญฺญมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;
Tamaddasā candanasāralittaṃ, ājaññamārūḷhamuḷāravaṇṇaṃ;
อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ, ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํฯ
Alaṅkataṃ sādhunivatthadussaṃ, parivāritaṃ yakkhamahiddhipattaṃ.
๕๗๑.
571.
โส ตํ ทิสฺวา อตฺตมนา อุทโคฺค, ปหฎฺฐจิโตฺต จ สุภคฺครูโป;
So taṃ disvā attamanā udaggo, pahaṭṭhacitto ca subhaggarūpo;
กมฺมญฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ, สนฺทิฎฺฐิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวาฯ
Kammañca disvāna mahāvipākaṃ, sandiṭṭhikaṃ cakkhunā sacchikatvā.
๕๗๒.
572.
ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;
Tamenamavoca upasaṅkamitvā, ‘‘dassāmi dānaṃ samaṇabrāhmaṇānaṃ;
น จาปิ เม กิญฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, ตุวญฺจ เม ยกฺข พหูปกาโร’’ติฯ
Na cāpi me kiñci adeyyamatthi, tuvañca me yakkha bahūpakāro’’ti.
๕๗๓.
573.
‘‘ตุวญฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ, อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;
‘‘Tuvañca me licchavi ekadesaṃ, adāsi dānāni amoghametaṃ;
สฺวาหํ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขิํ, อมานุโส มานุสเกน สทฺธิ’’นฺติฯ
Svāhaṃ karissāmi tayāva sakkhiṃ, amānuso mānusakena saddhi’’nti.
๕๗๔.
574.
ยาจามิ ตํ 51 ปญฺชลิโก ภวิตฺวา, อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนาปิ ทฎฺฐุ’’นฺติฯ
Yācāmi taṃ 52 pañjaliko bhavitvā, icchāmi taṃ yakkha punāpi daṭṭhu’’nti.
๕๗๕.
575.
‘‘สเจ ตุวํ อสฺสโทฺธ ภวิสฺสสิ, กทริยรูโป วิปฺปฎิปนฺนจิโตฺต;
‘‘Sace tuvaṃ assaddho bhavissasi, kadariyarūpo vippaṭipannacitto;
ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ 53 ทสฺสนาย, ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํฯ
Tvaṃ neva maṃ lacchasi 54 dassanāya, disvā ca taṃ nopi ca ālapissaṃ.
๕๗๖.
576.
‘‘สเจ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว, ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;
‘‘Sace pana tvaṃ bhavissasi dhammagāravo, dāne rato saṅgahitattabhāvo;
โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนายฯ
Opānabhūto samaṇabrāhmaṇānaṃ, evaṃ mamaṃ lacchasi dassanāya.
๕๗๗.
577.
‘‘ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทเนฺต, อิมญฺจ สูลโต ลหุํ ปมุญฺจ;
‘‘Disvā ca taṃ ālapissaṃ bhadante, imañca sūlato lahuṃ pamuñca;
ยโต นิทานํ อกริมฺห สกฺขิํ, มญฺญามิ สูลาวุตกสฺส การณาฯ
Yato nidānaṃ akarimha sakkhiṃ, maññāmi sūlāvutakassa kāraṇā.
๕๗๘.
578.
‘‘เต อญฺญมญฺญํ อกริมฺห สกฺขิํ, อยญฺจ สูลโต 55 ลหุํ ปมุโตฺต;
‘‘Te aññamaññaṃ akarimha sakkhiṃ, ayañca sūlato 56 lahuṃ pamutto;
สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรโนฺต, มุเจฺจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;
Sakkacca dhammāni samācaranto, mucceyya so nirayā ca tamhā;
กมฺมํ สิยา อญฺญตฺร เวทนียํฯ
Kammaṃ siyā aññatra vedanīyaṃ.
๕๗๙.
579.
‘‘กปฺปิตกญฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว 57 สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
‘‘Kappitakañca upasaṅkamitvā, teneva 58 saha saṃvibhajitvā kāle;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ, โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํฯ
Sayaṃ mukhenūpanisajja puccha, so te akkhissati etamatthaṃ.
๕๘๐.
580.
‘‘ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ อญฺญตฺถิโก โน จ ปทุฎฺฐจิโตฺต;
‘‘Tameva bhikkhuṃ upasaṅkamitvā, pucchassu aññatthiko no ca paduṭṭhacitto;
โส เต สุตํ อสุตญฺจาปิ ธมฺมํ,
So te sutaṃ asutañcāpi dhammaṃ,
สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชาน’’นฺติฯ
Sabbampi akkhissati yathā pajāna’’nti.
๕๘๑.
581.
โส ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา, สกฺขิํ กริตฺวาน อมานุเสน;
So tattha rahassaṃ samullapitvā, sakkhiṃ karitvāna amānusena;
ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวีนํ สกาสํ, อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํฯ
Pakkāmi so licchavīnaṃ sakāsaṃ, atha bravi parisaṃ sannisinnaṃ.
๕๘๒.
582.
‘‘สุณนฺตุ โภโนฺต มม เอกวากฺยํ, วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;
‘‘Suṇantu bhonto mama ekavākyaṃ, varaṃ varissaṃ labhissāmi atthaṃ;
๕๘๓.
583.
‘‘เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;
‘‘Ettāvatā vīsatirattimattā, yato āvuto neva jīvati na mato;
ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ, ยถามติํ อนุชานาตุ สโงฺฆ’’ติฯ
Tāhaṃ mocayissāmi dāni, yathāmatiṃ anujānātu saṅgho’’ti.
๕๘๔.
584.
‘‘เอตญฺจ อญฺญญฺจ ลหุํ ปมุญฺจ, โก ตํ วเทถ 63 ตถา กโรนฺตํ;
‘‘Etañca aññañca lahuṃ pamuñca, ko taṃ vadetha 64 tathā karontaṃ;
ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ, ยถามติํ อนุชานาติ สโงฺฆ’’ติฯ
Yathā pajānāsi tathā karohi, yathāmatiṃ anujānāti saṅgho’’ti.
๕๘๕.
585.
โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;
So taṃ padesaṃ upasaṅkamitvā, sūlāvutaṃ mocayi khippameva;
‘มา ภายิ สมฺมา’ติ จ ตํ อโวจ, ติกิจฺฉกานญฺจ อุปฎฺฐเปสิฯ
‘Mā bhāyi sammā’ti ca taṃ avoca, tikicchakānañca upaṭṭhapesi.
๕๘๖.
586.
‘‘กปฺปิตกญฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห 65 สํวิภชิตฺวา กาเล;
‘‘Kappitakañca upasaṅkamitvā, teneva saha 66 saṃvibhajitvā kāle;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ, ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโกฯ
Sayaṃ mukhenūpanisajja licchavi, tatheva pucchittha naṃ kāraṇatthiko.
๕๘๗.
587.
‘‘สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกโมฺม, ปณีตทโณฺฑ อนุสตฺตรูโป;
‘‘Sūlāvuto puriso luddakammo, paṇītadaṇḍo anusattarūpo;
เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโตฯ
Ettāvatā vīsatirattimattā, yato āvuto neva jīvati na mato.
๕๘๘.
588.
‘‘โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ, เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภเนฺต;
‘‘So mocito gantvā mayā idāni, etassa yakkhassa vaco hi bhante;
สิยา นุ โข การณํ กิญฺจิเทว, เยน โส นิรยํ โน วเชยฺยฯ
Siyā nu kho kāraṇaṃ kiñcideva, yena so nirayaṃ no vajeyya.
๕๘๙.
589.
‘‘อาจิกฺข ภเนฺต ยทิ อตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;
‘‘Ācikkha bhante yadi atthi hetu, saddhāyikaṃ hetuvaco suṇoma;
น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ, อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโว’’ติฯ
Na tesaṃ kammānaṃ vināsamatthi, avedayitvā idha byantibhāvo’’ti.
๕๙๐.
590.
‘‘สเจ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมโตฺต;
‘‘Sace sa dhammāni samācareyya, sakkacca rattindivamappamatto;
มุเจฺจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อญฺญตฺร เวทนีย’’นฺติฯ
Mucceyya so nirayā ca tamhā, kammaṃ siyā aññatra vedanīya’’nti.
๕๙๑.
591.
‘‘อญฺญาโต 67 เอโส ปุริสสฺส อโตฺถ, มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภเนฺต;
‘‘Aññāto 68 eso purisassa attho, mamampi dāni anukampa bhante;
อนุสาส มํ โอวท ภูริปญฺญ, ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺย’’นฺติฯ
Anusāsa maṃ ovada bhūripañña, yathā ahaṃ no nirayaṃ vajeyya’’nti.
๕๙๒.
592.
‘‘อเชฺชว พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ, ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ ปสนฺนจิโตฺต;
‘‘Ajjeva buddhaṃ saraṇaṃ upehi, dhammañca saṅghañca pasannacitto;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปญฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุฯ
Tatheva sikkhāya padāni pañca, akhaṇḍaphullāni samādiyassu.
๕๙๓.
593.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
‘‘Pāṇātipātā viramassu khippaṃ, loke adinnaṃ parivajjayassu;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุโฎฺฐ;
Amajjapo mā ca musā abhāṇī, sakena dārena ca hohi tuṭṭho;
อิมญฺจ อริยํ 69 อฎฺฐงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํฯ
Imañca ariyaṃ 70 aṭṭhaṅgavarenupetaṃ, samādiyāhi kusalaṃ sukhudrayaṃ.
๕๙๔.
594.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
‘‘Cīvaraṃ piṇḍapātañca, paccayaṃ sayanāsanaṃ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
Annaṃ pānaṃ khādanīyaṃ, vatthasenāsanāni ca;
๕๙๕.
595.
‘‘ภิกฺขูปิ สีลสมฺปเนฺน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
‘‘Bhikkhūpi sīlasampanne, vītarāge bahussute;
ตเปฺปหิ อนฺนปาเนน, สทา ปุญฺญํ ปวฑฺฒติฯ
Tappehi annapānena, sadā puññaṃ pavaḍḍhati.
๕๙๖.
596.
‘‘เอวญฺจ ธมฺมานิ 73 สมาจรโนฺต, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมโตฺต;
‘‘Evañca dhammāni 74 samācaranto, sakkacca rattindivamappamatto;
มุญฺจ ตุวํ 75 นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อญฺญตฺร เวทนีย’’นฺติฯ
Muñca tuvaṃ 76 nirayā ca tamhā, kammaṃ siyā aññatra vedanīya’’nti.
๕๙๗.
597.
‘‘อเชฺชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ, ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ ปสนฺนจิโตฺต;
‘‘Ajjeva buddhaṃ saraṇaṃ upemi, dhammañca saṅghañca pasannacitto;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปญฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิฯ
Tatheva sikkhāya padāni pañca, akhaṇḍaphullāni samādiyāmi.
๕๙๘.
598.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
‘‘Pāṇātipātā viramāmi khippaṃ, loke adinnaṃ parivajjayāmi;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุโฎฺฐ;
Amajjapo no ca musā bhaṇāmi, sakena dārena ca homi tuṭṭho;
อิมญฺจ อริยํ อฎฺฐงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํฯ
Imañca ariyaṃ aṭṭhaṅgavarenupetaṃ, samādiyāmi kusalaṃ sukhudrayaṃ.
๕๙๙.
599.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
‘‘Cīvaraṃ piṇḍapātañca, paccayaṃ sayanāsanaṃ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จฯ
Annaṃ pānaṃ khādanīyaṃ, vatthasenāsanāni ca.
๖๐๐.
600.
‘‘ภิกฺขู จ สีลสมฺปเนฺน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
‘‘Bhikkhū ca sīlasampanne, vītarāge bahussute;
๖๐๑.
601.
เอตาทิสา ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร, เวสาลิยํ อญฺญตโร อุปาสโก;
Etādisā licchavi ambasakkaro, vesāliyaṃ aññataro upāsako;
สโทฺธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ, สงฺฆญฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฎฺฐหิฯ
Saddho mudū kārakaro ca bhikkhu, saṅghañca sakkacca tadā upaṭṭhahi.
๖๐๒.
602.
สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา, เสรี สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ 79;
Sūlāvuto ca arogo hutvā, serī sukhī pabbajjaṃ upāgami 80;
ภิกฺขุญฺจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ, อุโภปิ สามญฺญผลานิ อชฺฌคุํฯ
Bhikkhuñca āgamma kappitakuttamaṃ, ubhopi sāmaññaphalāni ajjhaguṃ.
๖๐๓.
603.
เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;
Etādisā sappurisāna sevanā, mahapphalā hoti sataṃ vijānataṃ;
สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ 81, ผลํ กนิฎฺฐํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติฯ
Sūlāvuto aggaphalaṃ aphassayi 82, phalaṃ kaniṭṭhaṃ pana ambasakkaro’’ti.
อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ ปฐมํฯ
Ambasakkarapetavatthu paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุวณฺณนา • 1. Ambasakkarapetavatthuvaṇṇanā