Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๒. อานนฺทภเทฺทกรตฺตสุตฺตํ

    2. Ānandabhaddekarattasuttaṃ

    ๒๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานโนฺท อุปฎฺฐานสาลายํ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสติ สมาทเปติ สมุเตฺตเชติ สมฺปหํเสติ, ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ ภาสติฯ

    276. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā ānando upaṭṭhānasālāyaṃ bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandasseti samādapeti samuttejeti sampahaṃseti, bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca bhāsati.

    อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนุปฎฺฐานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว, อุปฎฺฐานสาลายํ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ, ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ อภาสี’’ติ? ‘‘อายสฺมา, ภเนฺต, อานโนฺท อุปฎฺฐานสาลายํ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ, ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ อภาสี’’ติฯ

    Atha kho bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yenupaṭṭhānasālā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘ko nu kho, bhikkhave, upaṭṭhānasālāyaṃ bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi, bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca abhāsī’’ti? ‘‘Āyasmā, bhante, ānando upaṭṭhānasālāyaṃ bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi, bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca abhāsī’’ti.

    อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, อานนฺท, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ , ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ อภาสี’’ติ? ‘‘เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิํ สมาทเปสิํ สมุเตฺตเชสิํ สมฺปหํเสสิํ, ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ อภาสิํ –

    Atha kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘yathā kathaṃ pana tvaṃ, ānanda, bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi , bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca abhāsī’’ti? ‘‘Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandassesiṃ samādapesiṃ samuttejesiṃ sampahaṃsesiṃ, bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca abhāsiṃ –

    ‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฎิกเงฺข อนาคตํ;

    ‘‘Atītaṃ nānvāgameyya, nappaṭikaṅkhe anāgataṃ;

    ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํฯ

    Yadatītaṃ pahīnaṃ taṃ, appattañca anāgataṃ.

    ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;

    ‘‘Paccuppannañca yo dhammaṃ, tattha tattha vipassati;

    อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเยฯ

    Asaṃhīraṃ asaṃkuppaṃ, taṃ vidvā manubrūhaye.

    ‘‘อเชฺชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชญฺญา มรณํ สุเว;

    ‘‘Ajjeva kiccamātappaṃ, ko jaññā maraṇaṃ suve;

    น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนาฯ

    Na hi no saṅgaraṃ tena, mahāsenena maccunā.

    ‘‘เอวํ วิหาริํ อาตาปิํ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;

    ‘‘Evaṃ vihāriṃ ātāpiṃ, ahorattamatanditaṃ;

    ตํ เว ภเทฺทกรโตฺตติ, สโนฺต อาจิกฺขเต มุนิ’’ฯ

    Taṃ ve bhaddekarattoti, santo ācikkhate muni’’.

    ๒๗๗. ‘‘กถญฺจ, อาวุโส, อตีตํ อนฺวาคเมติ? เอวํรูโป อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, เอวํสโญฺญ อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, เอวํสงฺขาโร อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อตีตํ อนฺวาคเมติฯ

    277. ‘‘Kathañca, āvuso, atītaṃ anvāgameti? Evaṃrūpo ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti, evaṃvedano ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti, evaṃsañño ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti, evaṃsaṅkhāro ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti, evaṃviññāṇo ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti – evaṃ kho, āvuso, atītaṃ anvāgameti.

    ‘‘กถญฺจ, อาวุโส, อตีตํ นานฺวาคเมติ? เอวํรูโป อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, เอวํสโญฺญ อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, เอวํสงฺขาโร อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อตีตํ นานฺวาคเมติฯ

    ‘‘Kathañca, āvuso, atītaṃ nānvāgameti? Evaṃrūpo ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti, evaṃvedano ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti, evaṃsañño ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti, evaṃsaṅkhāro ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti, evaṃviññāṇo ahosiṃ atītamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti – evaṃ kho, āvuso, atītaṃ nānvāgameti.

    ‘‘กถญฺจ, อาวุโส, อนาคตํ ปฎิกงฺขติ? เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ…เป.… เอวํสโญฺญ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิญฺญาโณ สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อนาคตํ ปฎิกงฺขติฯ

    ‘‘Kathañca, āvuso, anāgataṃ paṭikaṅkhati? Evaṃrūpo siyaṃ anāgatamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti, evaṃvedano siyaṃ…pe… evaṃsañño siyaṃ… evaṃsaṅkhāro siyaṃ… evaṃviññāṇo siyaṃ anāgatamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti – evaṃ kho, āvuso, anāgataṃ paṭikaṅkhati.

    ‘‘กถญฺจ, อาวุโส, อนาคตํ นปฺปฎิกงฺขติ? เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ…เป.… เอวํสโญฺญ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิญฺญาโณ สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อนาคตํ นปฺปฎิกงฺขติฯ

    ‘‘Kathañca, āvuso, anāgataṃ nappaṭikaṅkhati? Evaṃrūpo siyaṃ anāgatamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti, evaṃvedano siyaṃ…pe… evaṃsañño siyaṃ… evaṃsaṅkhāro siyaṃ… evaṃviññāṇo siyaṃ anāgatamaddhānanti tattha nandiṃ na samanvāneti – evaṃ kho, āvuso, anāgataṃ nappaṭikaṅkhati.

    ‘‘กถญฺจ, อาวุโส, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรติ? อิธ, อาวุโส, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธเมฺม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธเมฺม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมิํ วา อตฺตานํ; เวทนํ… สญฺญํ… สงฺขาเร… วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, อาวุโส, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรติฯ

    ‘‘Kathañca, āvuso, paccuppannesu dhammesu saṃhīrati? Idha, āvuso, assutavā puthujjano ariyānaṃ adassāvī ariyadhammassa akovido ariyadhamme avinīto sappurisānaṃ adassāvī sappurisadhammassa akovido sappurisadhamme avinīto rūpaṃ attato samanupassati, rūpavantaṃ vā attānaṃ, attani vā rūpaṃ, rūpasmiṃ vā attānaṃ; vedanaṃ… saññaṃ… saṅkhāre… viññāṇaṃ attato samanupassati, viññāṇavantaṃ vā attānaṃ, attani vā viññāṇaṃ, viññāṇasmiṃ vā attānaṃ – evaṃ kho, āvuso, paccuppannesu dhammesu saṃhīrati.

    ‘‘กถญฺจ , อาวุโส, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ น สํหีรติ? อิธ, อาวุโส, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธเมฺม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธเมฺม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมิํ วา อตฺตานํ; น เวทนํ… น สญฺญํ… น สงฺขาเร… น วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, น วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, อาวุโส, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ น สํหีรติฯ

    ‘‘Kathañca , āvuso, paccuppannesu dhammesu na saṃhīrati? Idha, āvuso, sutavā ariyasāvako ariyānaṃ dassāvī ariyadhammassa kovido ariyadhamme suvinīto sappurisānaṃ dassāvī sappurisadhammassa kovido sappurisadhamme suvinīto na rūpaṃ attato samanupassati, na rūpavantaṃ vā attānaṃ, na attani vā rūpaṃ, na rūpasmiṃ vā attānaṃ; na vedanaṃ… na saññaṃ… na saṅkhāre… na viññāṇaṃ attato samanupassati, na viññāṇavantaṃ vā attānaṃ, na attani vā viññāṇaṃ, na viññāṇasmiṃ vā attānaṃ – evaṃ kho, āvuso, paccuppannesu dhammesu na saṃhīrati.

    ‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฎิกเงฺข อนาคตํ;

    ‘‘Atītaṃ nānvāgameyya, nappaṭikaṅkhe anāgataṃ;

    ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํฯ

    Yadatītaṃ pahīnaṃ taṃ, appattañca anāgataṃ.

    ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;

    ‘‘Paccuppannañca yo dhammaṃ, tattha tattha vipassati;

    อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเยฯ

    Asaṃhīraṃ asaṃkuppaṃ, taṃ vidvā manubrūhaye.

    ‘‘อเชฺชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชญฺญา มรณํ สุเว;

    ‘‘Ajjeva kiccamātappaṃ, ko jaññā maraṇaṃ suve;

    น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนาฯ

    Na hi no saṅgaraṃ tena, mahāsenena maccunā.

    ‘‘เอวํ วิหาริํ อาตาปิํ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;

    ‘‘Evaṃ vihāriṃ ātāpiṃ, ahorattamatanditaṃ;

    ตํ เว ภเทฺทกรโตฺตติ, สโนฺต อาจิกฺขเต มุนี’’ติฯ

    Taṃ ve bhaddekarattoti, santo ācikkhate munī’’ti.

    ‘‘เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิํ สมาทเปสิํ สมุเตฺตเชสิํ สมฺปหํเสสิํ, ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ อภาสิ’’นฺติฯ

    ‘‘Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandassesiṃ samādapesiṃ samuttejesiṃ sampahaṃsesiṃ, bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca abhāsi’’nti.

    ๒๗๘. ‘‘สาธุ , สาธุ, อานนฺท! สาธุ โข ตฺวํ, อานนฺท, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ, ภเทฺทกรตฺตสฺส อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ อภาสิ –

    278. ‘‘Sādhu , sādhu, ānanda! Sādhu kho tvaṃ, ānanda, bhikkhūnaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi, bhaddekarattassa uddesañca vibhaṅgañca abhāsi –

    ‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป.…

    ‘‘Atītaṃ nānvāgameyya…pe…

    ตํ เว ภเทฺทกรโตฺตติ, สโนฺต อาจิกฺขเต มุนี’’ติฯ

    Taṃ ve bhaddekarattoti, santo ācikkhate munī’’ti.

    ‘‘กถญฺจ, อานนฺท, อตีตํ อนฺวาคเมติ…เป.… เอวํ โข, อานนฺท, อตีตํ อนฺวาคเมติฯ กถญฺจ, อานนฺท, อตีตํ นานฺวาคเมติ…เป.… เอวํ โข, อานนฺท, อตีตํ นานฺวาคเมติฯ กถญฺจ, อานนฺท, อนาคตํ ปฎิกงฺขติ…เป.… เอวํ โข, อานนฺท, อนาคตํ ปฎิกงฺขติฯ กถญฺจ, อานนฺท, อนาคตํ นปฺปฎิกงฺขติ…เป.… เอวํ โข, อานนฺท, อนาคตํ นปฺปฎิกงฺขติฯ กถญฺจ, อานนฺท, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรติ…เป.… เอวํ โข, อานนฺท, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรติฯ กถญฺจ, อานนฺท, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ น สํหีรติ…เป.… เอวํ โข, อานนฺท, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ น สํหีรติฯ

    ‘‘Kathañca, ānanda, atītaṃ anvāgameti…pe… evaṃ kho, ānanda, atītaṃ anvāgameti. Kathañca, ānanda, atītaṃ nānvāgameti…pe… evaṃ kho, ānanda, atītaṃ nānvāgameti. Kathañca, ānanda, anāgataṃ paṭikaṅkhati…pe… evaṃ kho, ānanda, anāgataṃ paṭikaṅkhati. Kathañca, ānanda, anāgataṃ nappaṭikaṅkhati…pe… evaṃ kho, ānanda, anāgataṃ nappaṭikaṅkhati. Kathañca, ānanda, paccuppannesu dhammesu saṃhīrati…pe… evaṃ kho, ānanda, paccuppannesu dhammesu saṃhīrati. Kathañca, ānanda, paccuppannesu dhammesu na saṃhīrati…pe… evaṃ kho, ānanda, paccuppannesu dhammesu na saṃhīrati.

    ‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป.…

    ‘‘Atītaṃ nānvāgameyya…pe…

    ตํ เว ภเทฺทกรโตฺตติ, สโนฺต อาจิกฺขเต มุนี’’ติฯ

    Taṃ ve bhaddekarattoti, santo ācikkhate munī’’ti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā ānando bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.

    อานนฺทภเทฺทกรตฺตสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ

    Ānandabhaddekarattasuttaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อานนฺทภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Ānandabhaddekarattasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๒. อานนฺทภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Ānandabhaddekarattasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact