Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๕-๖. อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

    5-6. Ānandasuttādivaṇṇanā

    ๓๗-๓๘. ปญฺจเม ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ ปญฺญายตีติ ธรมานสฺส ชีวมานสฺส ชรา ปญฺญายติฯ ฐิตีติ หิ ชีวิตินฺทฺริยสงฺขาตาย อนุปาลนาย นามํฯ อญฺญถตฺตนฺติ ชรายฯ เตนาหุ โปราณา –

    37-38. Pañcame ṭhitassa aññathattaṃ paññāyatīti dharamānassa jīvamānassa jarā paññāyati. Ṭhitīti hi jīvitindriyasaṅkhātāya anupālanāya nāmaṃ. Aññathattanti jarāya. Tenāhu porāṇā –

    ‘‘อุปฺปาโท ชาติ อกฺขาโต, ภโงฺค วุโตฺต วโยติ จ;

    ‘‘Uppādo jāti akkhāto, bhaṅgo vutto vayoti ca;

    อญฺญถตฺตํ ชรา วุตฺตา, ฐิตี จ อนุปาลนา’’ติฯ

    Aññathattaṃ jarā vuttā, ṭhitī ca anupālanā’’ti.

    เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส อุปฺปาทชราภงฺคสงฺขาตานิ ตีณิ ลกฺขณานิ โหนฺติ ยานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗)ฯ

    Evaṃ ekekassa khandhassa uppādajarābhaṅgasaṅkhātāni tīṇi lakkhaṇāni honti yāni sandhāya vuttaṃ ‘‘tīṇimāni, bhikkhave, saṅkhatassa saṅkhatalakkhaṇānī’’ti (a. ni. 3.47).

    ตตฺถ สงฺขตํ นาม ปจฺจยนิพฺพโตฺต โย โกจิ สงฺขาโรฯ สงฺขาโร จ น ลกฺขณํ, ลกฺขณํ น สงฺขาโร, น จ สงฺขาเรน วินา ลกฺขณํ ปญฺญาเปตุํ สกฺกา, นาปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขาโร, ลกฺขเณน ปน สงฺขาโร ปากโฎ โหติฯ ยถา หิ น จ คาวีเยว ลกฺขณํ, ลกฺขณเมว น คาวี, นาปิ คาวิํ มุญฺจิตฺวา ลกฺขณํ ปญฺญาเปตุํ สกฺกา, นาปิ ลกฺขณํ มุญฺจิตฺวา คาวิํ, ลกฺขเณน ปน คาวี ปากฎา โหติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํฯ

    Tattha saṅkhataṃ nāma paccayanibbatto yo koci saṅkhāro. Saṅkhāro ca na lakkhaṇaṃ, lakkhaṇaṃ na saṅkhāro, na ca saṅkhārena vinā lakkhaṇaṃ paññāpetuṃ sakkā, nāpi lakkhaṇaṃ vinā saṅkhāro, lakkhaṇena pana saṅkhāro pākaṭo hoti. Yathā hi na ca gāvīyeva lakkhaṇaṃ, lakkhaṇameva na gāvī, nāpi gāviṃ muñcitvā lakkhaṇaṃ paññāpetuṃ sakkā, nāpi lakkhaṇaṃ muñcitvā gāviṃ, lakkhaṇena pana gāvī pākaṭā hoti, evaṃsampadamidaṃ veditabbaṃ.

    ตตฺถ สงฺขารานํ อุปฺปาทกฺขเณ สงฺขาโรปิ อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปญฺญายติฯ ‘‘อุปฺปาโทปี’’ติ วุเตฺต สงฺขาโรปิ ชราลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปญฺญายติฯ ภงฺคกฺขเณ สงฺขาโรปิ ตํลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปญฺญายติฯ อปเร ปน วทนฺติ ‘‘อรูปธมฺมานํ ชราขโณ นาม น สกฺกา ปญฺญาเปตุํ, สมฺมาสมฺพุโทฺธ จ ‘เวทนาย อุปฺปาโท ปญฺญายติ, วโย ปญฺญายติ, ฐิตาย อญฺญถตฺตํ ปญฺญายตี’ติ วทโนฺต อรูปธมฺมานมฺปิ ตีณิ ลกฺขณานิ ปญฺญาเปติ, ตานิ อตฺถิกฺขณํ อุปาทาย ลพฺภนฺตี’’ติ วตฺวา –

    Tattha saṅkhārānaṃ uppādakkhaṇe saṅkhāropi uppādalakkhaṇampi kālasaṅkhāto tassa khaṇopi paññāyati. ‘‘Uppādopī’’ti vutte saṅkhāropi jarālakkhaṇampi kālasaṅkhāto tassa khaṇopi paññāyati. Bhaṅgakkhaṇe saṅkhāropi taṃlakkhaṇampi kālasaṅkhāto tassa khaṇopi paññāyati. Apare pana vadanti ‘‘arūpadhammānaṃ jarākhaṇo nāma na sakkā paññāpetuṃ, sammāsambuddho ca ‘vedanāya uppādo paññāyati, vayo paññāyati, ṭhitāya aññathattaṃ paññāyatī’ti vadanto arūpadhammānampi tīṇi lakkhaṇāni paññāpeti, tāni atthikkhaṇaṃ upādāya labbhantī’’ti vatvā –

    ‘‘อตฺถิตา สพฺพธมฺมานํ, ฐิติ นาม ปวุจฺจติ;

    ‘‘Atthitā sabbadhammānaṃ, ṭhiti nāma pavuccati;

    ตเสฺสว เภโท มรณํ, สพฺพทา สพฺพปาณิน’’นฺติฯ –

    Tasseva bhedo maraṇaṃ, sabbadā sabbapāṇina’’nti. –

    อิมาย อาจริยคาถาย ตมตฺถํ สาเธนฺติฯ อถ วา สนฺตติวเสน ฐานํ ฐิตีติ เวทิตพฺพนฺติ จ วทนฺติฯ ยสฺมา ปน สุเตฺต อยํ วิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา อาจริยมติยา สุตฺตํ อปฎิพาเหตฺวา สุตฺตเมว ปมาณํ กตฺตพฺพํฯ ฉฎฺฐํ อุตฺตานเมวฯ ปญฺจมฉฎฺฐานิฯ

    Imāya ācariyagāthāya tamatthaṃ sādhenti. Atha vā santativasena ṭhānaṃ ṭhitīti veditabbanti ca vadanti. Yasmā pana sutte ayaṃ viseso natthi, tasmā ācariyamatiyā suttaṃ apaṭibāhetvā suttameva pamāṇaṃ kattabbaṃ. Chaṭṭhaṃ uttānameva. Pañcamachaṭṭhāni.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya
    ๕. อานนฺทสุตฺตํ • 5. Ānandasuttaṃ
    ๖. ทุติยอานนฺทสุตฺตํ • 6. Dutiyaānandasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕-๖. อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา • 5-6. Ānandasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact