Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๔. อานนฺทสุตฺตํ
4. Ānandasuttaṃ
๑๗๔. อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เยนายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโกฎฺฐิเกน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมนฺตํ มหาโกฎฺฐิกํ เอตทโวจ –
174. Atha kho āyasmā ānando yenāyasmā mahākoṭṭhiko tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā mahākoṭṭhikena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando āyasmantaṃ mahākoṭṭhikaṃ etadavoca –
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthaññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā natthaññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthi ca natthi ca aññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā nevatthi no natthaññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ ฯ ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติ?
‘‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthaññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā natthaññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthi ca natthi ca aññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā nevatthi no natthaññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi . Yathā kathaṃ panāvuso, imassa bhāsitassa attho daṭṭhabbo’’ti?
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ยาวตา, อาวุโส, ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ ตาวตา ปปญฺจสฺส คติ ฯ ยาวตา ปปญฺจสฺส คติ ตาวตา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติฯ ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปญฺจนิโรโธ ปปญฺจวูปสโม’’ติฯ จตุตฺถํฯ
‘‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthaññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā natthaññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthi ca natthi ca aññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā nevatthi no natthaññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. Yāvatā, āvuso, channaṃ phassāyatanānaṃ gati tāvatā papañcassa gati . Yāvatā papañcassa gati tāvatā channaṃ phassāyatanānaṃ gati. Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā papañcanirodho papañcavūpasamo’’ti. Catutthaṃ.
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓-๔. มหาโกฎฺฐิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-4. Mahākoṭṭhikasuttādivaṇṇanā