Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๔. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

    4. Ānandasuttavaṇṇanā

    ๒๑๒. ราโคติ เอตฺถ อายสฺมโต วงฺคีสสฺส ราคสฺส อุปฺปตฺติยา การณํ วิภาเวตุํ ‘‘อายสฺมา อานโนฺท’’ติอาทิ วุตฺตํฯ นฺติ อานนฺทเตฺถรํฯ อารมฺมณํ ปริคฺคเหตุนฺติ กายเวทนาทิเภทํ อารมฺมณํ สติโคจรํฯ อสุภทุกฺขาทิโต, รูปาทิเอเกกเมว วา ฉฬารมฺมณํ อนิจฺจทุกฺขาทิโต ปริคฺคณฺหิตุํ ปริจฺฉิชฺช ชานิตุํฯ อิตฺถิรูปารมฺมเณติ อิตฺถิสนฺตาเน รูปสภาเว อารมฺมเณฯ

    212.Rāgoti ettha āyasmato vaṅgīsassa rāgassa uppattiyā kāraṇaṃ vibhāvetuṃ ‘‘āyasmā ānando’’tiādi vuttaṃ. Tanti ānandattheraṃ. Ārammaṇaṃ pariggahetunti kāyavedanādibhedaṃ ārammaṇaṃ satigocaraṃ. Asubhadukkhādito, rūpādiekekameva vā chaḷārammaṇaṃ aniccadukkhādito pariggaṇhituṃ paricchijja jānituṃ. Itthirūpārammaṇeti itthisantāne rūpasabhāve ārammaṇe.

    นิพฺพาปนนฺติ นิพฺพาปยติ เอเตนาติ นิพฺพาปนํฯ วิปลฺลาเสนาติ อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสภาวเหตุฯ ราคฎฺฐานิยนฺติ ราคุปฺปตฺติเหตุฯ อิฎฺฐารมฺมณนฺติ สุภารมฺมณํฯ เอตฺถ จ อิฎฺฐารมฺมณสีเสน ตตฺถ อิฎฺฐาการคฺคหณํ วทติฯ ตญฺหิ วชฺชนียํฯ ปรโตติ อวสวตฺตนเตฺถน อญฺญโตฯ สงฺขารา หิ ‘‘มา ภิชฺชนฺตู’’ติ อิจฺฉิตาปิ ภิชฺชเนฺตว, ตสฺมา เต อวสวตฺติตฺตา ปโร นาม, สา จ เนสํ ปรตา อนิจฺจทสฺสเนน ปากฎา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปรโต ปสฺสาติ อนิจฺจโต ปสฺสา’’ติฯ กามํ วิปสฺสนา สงฺขารนิมิตฺตํ น ปริจฺจชติ สงฺขาเร อารพฺภ วตฺตนโต, เยสํ ปน นิมิตฺตานํ อคฺคหเณน อนิมิตฺตาติ คหิตุํ อรหติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘นิจฺจาทีนํ นิมิตฺตาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ สลกฺขณ-สามญฺญลกฺขณ-ทสฺสนวเสน มานสฺส ทสฺสนาภิสมโย, วิปสฺสนาย ปหานาภิสมโยฯ ‘‘มเคฺคนา’’ติ วทนฺติ, มเคฺคเนว ปน อสโมฺมหโต ปริญฺญาปฎิเวธวเสน ทสฺสนาภิสมโย, ปหานปฎิเวธวเสน ปหานาภิสมโยฯ ราคาทิสนฺตตายาติ ราคาทีนํ สมุเจฺฉทวเสน ปฎิปฺปสฺสทฺธิวเสน วูปสเมตพฺพโต สนฺตภาเวนฯ

    Nibbāpananti nibbāpayati etenāti nibbāpanaṃ. Vipallāsenāti asubhe ‘‘subha’’nti vipallāsabhāvahetu. Rāgaṭṭhāniyanti rāguppattihetu. Iṭṭhārammaṇanti subhārammaṇaṃ. Ettha ca iṭṭhārammaṇasīsena tattha iṭṭhākāraggahaṇaṃ vadati. Tañhi vajjanīyaṃ. Paratoti avasavattanatthena aññato. Saṅkhārā hi ‘‘mā bhijjantū’’ti icchitāpi bhijjanteva, tasmā te avasavattittā paro nāma, sā ca nesaṃ paratā aniccadassanena pākaṭā hotīti vuttaṃ ‘‘parato passāti aniccato passā’’ti. Kāmaṃ vipassanā saṅkhāranimittaṃ na pariccajati saṅkhāre ārabbha vattanato, yesaṃ pana nimittānaṃ aggahaṇena animittāti gahituṃ arahati, taṃ dassetuṃ ‘‘niccādīnaṃ nimittāna’’ntiādi vuttaṃ. Salakkhaṇa-sāmaññalakkhaṇa-dassanavasena mānassa dassanābhisamayo, vipassanāya pahānābhisamayo. ‘‘Maggenā’’ti vadanti, maggeneva pana asammohato pariññāpaṭivedhavasena dassanābhisamayo, pahānapaṭivedhavasena pahānābhisamayo. Rāgādisantatāyāti rāgādīnaṃ samucchedavasena paṭippassaddhivasena vūpasametabbato santabhāvena.

    อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ānandasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. อานนฺทสุตฺตํ • 4. Ānandasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา • 4. Ānandasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact