Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๓. อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา
3. Anantarāpayuttakathāvaṇṇanā
๖๖๐-๖๖๒. อิทานิ อนนฺตราปยุตฺตกถา นาม โหติฯ ตตฺถ อนนฺตราปยุโตฺต นาม เยน ขนฺธเภทโต อนนฺตรา วิปากทายกํ มาตุฆาตาทิ อานนฺตริยกมฺมํ อาณตฺตํฯ ตตฺถ ยสฺส นิยตาย อาณตฺติยา อาณโตฺต ตํ กมฺมํ กริสฺสติ, โส อตฺถสาธิกาย เจตนาย อุปฺปาทิตตฺตา มิจฺฉตฺตนิยโต โหติ, อภโพฺพ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุํฯ ยสฺส อนิยตาย อาณตฺติยา อาณโตฺต ตํ กมฺมํ กริสฺสติ, โส อตฺถสาธิกาย เจตนาย อนุปฺปาทิตตฺตา น มิจฺฉตฺตนิยโต, ภโพฺพ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุนฺติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฎฺฐานํฯ เยสํ ปน ‘‘อนิยตายปิ อาณตฺติยา อภโพฺพเยว สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุ’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เตสํ ตํ ลทฺธิํ ภินฺทิตุํ สกวาที ปุพฺพปกฺขํ ทตฺวา อนนฺตราปยุโตฺตติ ปรวาทินา อตฺตานํ ปุจฺฉาเปติฯ เตเนตฺถ ปฐมปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, อตฺถสาธิกเจตนาย อภาวํ สนฺธาย ปฎิญฺญา สกวาทิสฺสฯ ตโต ปรวาที มาตุฆาตาทิกมฺมสฺส อาณตฺตตฺตาว ‘‘โส มิจฺฉตฺตนิยโต’’ติ มญฺญติฯ ตสฺมา มิจฺฉตฺตนิยามญฺจาติ ปญฺหํ ปุจฺฉติฯ สกวาที ปน เอกสฺส ปุคฺคลสฺส ทฺวินฺนํ นิยามานํ อโนกฺกนฺติมตฺตเมว สนฺธาย น เหวนฺติ ปฎิกฺขิปติฯ
660. Idāni anantarāpayuttakathā nāma hoti. Tattha anantarāpayutto nāma yena khandhabhedato anantarā vipākadāyakaṃ mātughātādi ānantariyakammaṃ āṇattaṃ. Tattha yassa niyatāya āṇattiyā āṇatto taṃ kammaṃ karissati, so atthasādhikāya cetanāya uppāditattā micchattaniyato hoti, abhabbo sammattaniyāmaṃ okkamituṃ. Yassa aniyatāya āṇattiyā āṇatto taṃ kammaṃ karissati, so atthasādhikāya cetanāya anuppāditattā na micchattaniyato, bhabbo sammattaniyāmaṃ okkamitunti idaṃ sakasamaye sanniṭṭhānaṃ. Yesaṃ pana ‘‘aniyatāyapi āṇattiyā abhabboyeva sammattaniyāmaṃ okkamitu’’nti laddhi, seyyathāpi uttarāpathakānaṃ; tesaṃ taṃ laddhiṃ bhindituṃ sakavādī pubbapakkhaṃ datvā anantarāpayuttoti paravādinā attānaṃ pucchāpeti. Tenettha paṭhamapucchā paravādissa, atthasādhikacetanāya abhāvaṃ sandhāya paṭiññā sakavādissa. Tato paravādī mātughātādikammassa āṇattattāva ‘‘so micchattaniyato’’ti maññati. Tasmā micchattaniyāmañcāti pañhaṃ pucchati. Sakavādī pana ekassa puggalassa dvinnaṃ niyāmānaṃ anokkantimattameva sandhāya na hevanti paṭikkhipati.
นนุ ตํ กมฺมนฺติ มาตุฆาตาทิกมฺมํฯ ตตฺถ อนิยตาณตฺติํ สนฺธาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฎิญฺญา สกวาทิสฺสฯ อนิยตมฺปิ หิ อาณตฺติํ ปโยเชตฺวา ฐิตสฺส ‘‘อนนุจฺฉวิกํ มยา กต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชเตว, วิปฺปฎิสาโร ชายเตวฯ หญฺจีติอาทิ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติมตฺตํ คเหตฺวา ปรวาทินา ลทฺธิปติฎฺฐาปนตฺถํ วุตฺตํฯ
Nanu taṃ kammanti mātughātādikammaṃ. Tattha aniyatāṇattiṃ sandhāya ‘‘āmantā’’ti paṭiññā sakavādissa. Aniyatampi hi āṇattiṃ payojetvā ṭhitassa ‘‘ananucchavikaṃ mayā kata’’nti kukkuccaṃ uppajjateva, vippaṭisāro jāyateva. Hañcītiādi kukkuccuppattimattaṃ gahetvā paravādinā laddhipatiṭṭhāpanatthaṃ vuttaṃ.
๖๖๑. อิทานิ ยสฺส อนิยตาณตฺติกสฺสาปิ อนนฺตราปยุตฺตสฺส ปรวาทินา สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนํ ปฎิสิทฺธํ, ตเมว ปุคฺคลํ คเหตฺวา อนนฺตราปยุโตฺต ปุคฺคโล อภโพฺพติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฎิญฺญา อิตรสฺสฯ อถ นํ สกวาที ‘‘อภโพฺพ นาม มาตุฆาตาทิกมฺมานํ การโก, กิํ เต เตน ตานิ กมฺมานิ กตานี’’ติ โจเทตุํ มาตา ชีวิตา โวโรปิตาติอาทิมาหฯ อิตโร เตสํ วตฺถูนํ อโรคตาย ตถารูปํ กิริยํ อปสฺสโนฺต ‘‘น เหว’’นฺติ ปฎิกฺขิปติฯ
661. Idāni yassa aniyatāṇattikassāpi anantarāpayuttassa paravādinā sammattaniyāmokkamanaṃ paṭisiddhaṃ, tameva puggalaṃ gahetvā anantarāpayuttopuggalo abhabboti pucchā sakavādissa, attano laddhivasena paṭiññā itarassa. Atha naṃ sakavādī ‘‘abhabbo nāma mātughātādikammānaṃ kārako, kiṃ te tena tāni kammāni katānī’’ti codetuṃ mātā jīvitā voropitātiādimāha. Itaro tesaṃ vatthūnaṃ arogatāya tathārūpaṃ kiriyaṃ apassanto ‘‘na heva’’nti paṭikkhipati.
ตํ กมฺมํ ปฎิสํหริตฺวาติ อนิยตาณตฺติกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ตญฺหิ ‘‘มา โข มยา อาณตฺตํ อากาสี’’ติ อาณตฺตํ นิวาเรเนฺตน ปฎิสํหฎํ นาม โหติฯ ปฎิสํหฎตฺตาเยว เจตฺถ กุกฺกุจฺจํ ปฎิวิโนทิตํ, วิปฺปฎิสาโร ปฎิวินีโต นาม โหติฯ เอวํ สเนฺตปิ ปเนตฺถ ปุริมาณตฺติยาเยว นิยตภาวํ มญฺญมาโน ปรวาที ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฎิชานาติฯ อถ นํ สกวาที ตสฺส กมฺมสฺส ปฎิสํหฎภาวํ สมฺปฎิจฺฉาเปตฺวา อตฺตโน ลทฺธิํ ปติฎฺฐาเปตฺวา หญฺจีติอาทิมาหฯ
Taṃ kammaṃ paṭisaṃharitvāti aniyatāṇattikammaṃ sandhāya vuttaṃ. Tañhi ‘‘mā kho mayā āṇattaṃ ākāsī’’ti āṇattaṃ nivārentena paṭisaṃhaṭaṃ nāma hoti. Paṭisaṃhaṭattāyeva cettha kukkuccaṃ paṭivinoditaṃ, vippaṭisāro paṭivinīto nāma hoti. Evaṃ santepi panettha purimāṇattiyāyeva niyatabhāvaṃ maññamāno paravādī ‘‘āmantā’’ti paṭijānāti. Atha naṃ sakavādī tassa kammassa paṭisaṃhaṭabhāvaṃ sampaṭicchāpetvā attano laddhiṃ patiṭṭhāpetvā hañcītiādimāha.
๖๖๒. ปุน อนนฺตราปยุโตฺตติ ปริโยสานปเญฺห ปฐมปเญฺห วิย ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฎิญฺญา สกวาทิสฺสฯ นนุ ตํ กมฺมนฺติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส, ปฎิสํหฎกาลโต ปุเพฺพ ปยุตฺตกาลํ สนฺธาย ปฎิญฺญา สกวาทิสฺสฯ ปยุตฺตปุพฺพตามตฺตํ คเหตฺวา อนิยตาณตฺติวเสน หญฺจีติ ลทฺธิปติฎฺฐาปนํ ปรวาทิสฺสฯ อยํ ปน ลทฺธิ อโยนิโส ปติฎฺฐิตตฺตา อปฺปติฎฺฐิตาว โหตีติฯ
662. Puna anantarāpayuttoti pariyosānapañhe paṭhamapañhe viya pucchā paravādissa, paṭiññā sakavādissa. Nanu taṃ kammanti anuyogo paravādissa, paṭisaṃhaṭakālato pubbe payuttakālaṃ sandhāya paṭiññā sakavādissa. Payuttapubbatāmattaṃ gahetvā aniyatāṇattivasena hañcīti laddhipatiṭṭhāpanaṃ paravādissa. Ayaṃ pana laddhi ayoniso patiṭṭhitattā appatiṭṭhitāva hotīti.
อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนาฯ
Anantarāpayuttakathāvaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi / (๑๒๘) ๓. อนนฺตราปยุตฺตกถา • (128) 3. Anantarāpayuttakathā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๓. อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา • 3. Anantarāpayuttakathāvaṇṇanā