Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๕. สฬายตนวโคฺค

    5. Saḷāyatanavaggo

    ๑. อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตํ

    1. Anāthapiṇḍikovādasuttaṃ

    ๓๘๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อญฺญตรํ ปุริสํ อามเนฺตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อโมฺภ ปุริส, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ 1 – ‘อนาถปิณฺฑิโก, ภเนฺต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ โส ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติฯ เยน จายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทาหิ 2 – ‘อนาถปิณฺฑิโก, ภเนฺต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ โส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติฯ เอวญฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร, ภเนฺต, อายสฺมา สาริปุโตฺต เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ

    383. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena anāthapiṇḍiko gahapati ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati aññataraṃ purisaṃ āmantesi – ‘‘ehi tvaṃ, ambho purisa, yena bhagavā tenupasaṅkama; upasaṅkamitvā mama vacanena bhagavato pāde sirasā vandāhi 3 – ‘anāthapiṇḍiko, bhante, gahapati ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. So bhagavato pāde sirasā vandatī’ti. Yena cāyasmā sāriputto tenupasaṅkama; upasaṅkamitvā mama vacanena āyasmato sāriputtassa pāde sirasā vandāhi 4 – ‘anāthapiṇḍiko, bhante, gahapati ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. So āyasmato sāriputtassa pāde sirasā vandatī’ti. Evañca vadehi – ‘sādhu kira, bhante, āyasmā sāriputto yena anāthapiṇḍikassa gahapatissa nivesanaṃ tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’’ti.

    ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข โส ปุริโส อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส ปุริโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อนาถปิณฺฑิโก, ภเนฺต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ โส ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติฯ เยน จายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อนาถปิณฺฑิโก, ภเนฺต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ โส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ; เอวญฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร, ภเนฺต, อายสฺมา สาริปุโตฺต เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ อธิวาเสสิ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ตุณฺหีภาเวนฯ

    ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho so puriso anāthapiṇḍikassa gahapatissa paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho so puriso bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘anāthapiṇḍiko, bhante, gahapati ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. So bhagavato pāde sirasā vandatī’’ti. Yena cāyasmā sāriputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho so puriso āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca – ‘‘anāthapiṇḍiko, bhante, gahapati ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. So āyasmato sāriputtassa pāde sirasā vandati; evañca vadeti – ‘sādhu kira, bhante, āyasmā sāriputto yena anāthapiṇḍikassa gahapatissa nivesanaṃ tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’’ti. Adhivāsesi kho āyasmā sāriputto tuṇhībhāvena.

    ๓๘๔. อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา อานเนฺทน ปจฺฉาสมเณน เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข อายสฺมา สาริปุโตฺต อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, คหปติ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ? กจฺจิ เต ทุกฺขา เวทนา ปฎิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฎิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ?

    384. Atha kho āyasmā sāriputto nivāsetvā pattacīvaramādāya āyasmatā ānandena pacchāsamaṇena yena anāthapiṇḍikassa gahapatissa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho āyasmā sāriputto anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘kacci te, gahapati, khamanīyaṃ, kacci yāpanīyaṃ? Kacci te dukkhā vedanā paṭikkamanti, no abhikkamanti; paṭikkamosānaṃ paññāyati, no abhikkamo’’ti?

    ‘‘น เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ติเณฺหน สิขเรน มุทฺธนิ 5 อภิมเตฺถยฺย 6; เอวเมว โข เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา มุทฺธนิ 7 อูหนนฺติ 8ฯ น เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ทเฬฺหน วรตฺตขเณฺฑน สีเส สีสเวฐํ ทเทยฺย; เอวเมว โข เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, อธิมตฺตา สีเส สีสเวทนาฯ น เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต สาริปุตฺต, ทโกฺข โคฆาตโก วา โคฆาตกเนฺตวาสี วา ติเณฺหน โควิกนฺตเนน กุจฺฉิํ ปริกเนฺตยฺย; เอวเมว โข เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา กุจฺฉิํ ปริกนฺตนฺติฯ น เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต สาริปุตฺต, เทฺว พลวโนฺต ปุริสา ทุพฺพลตรํ ปุริสํ นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุยา สนฺตาเปยฺยุํ, สมฺปริตาเปยฺยุํ; เอวเมว โข เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, อธิมโตฺต กายสฺมิํ ฑาโหฯ น เม, ภเนฺต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโม’’ติฯ

    ‘‘Na me, bhante sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi, bhante sāriputta, balavā puriso tiṇhena sikharena muddhani 9 abhimattheyya 10; evameva kho me, bhante sāriputta, adhimattā vātā muddhani 11 ūhananti 12. Na me, bhante sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi, bhante sāriputta, balavā puriso daḷhena varattakhaṇḍena sīse sīsaveṭhaṃ dadeyya; evameva kho me, bhante sāriputta, adhimattā sīse sīsavedanā. Na me, bhante sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi, bhante sāriputta, dakkho goghātako vā goghātakantevāsī vā tiṇhena govikantanena kucchiṃ parikanteyya; evameva kho me, bhante sāriputta, adhimattā vātā kucchiṃ parikantanti. Na me, bhante sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi, bhante sāriputta, dve balavanto purisā dubbalataraṃ purisaṃ nānābāhāsu gahetvā aṅgārakāsuyā santāpeyyuṃ, samparitāpeyyuṃ; evameva kho me, bhante sāriputta, adhimatto kāyasmiṃ ḍāho. Na me, bhante sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo’’ti.

    ๓๘๕. ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    385. ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na cakkhuṃ upādiyissāmi, na ca me cakkhunissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม โสตนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ฆานํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ฆานนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ชิวฺหํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ชิวฺหานิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น กายํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม กายนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น มนํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม มโนนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na sotaṃ upādiyissāmi, na ca me sotanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na ghānaṃ upādiyissāmi, na ca me ghānanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na jivhaṃ upādiyissāmi, na ca me jivhānissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na kāyaṃ upādiyissāmi, na ca me kāyanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na manaṃ upādiyissāmi, na ca me manonissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น รูปํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม รูปนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น สทฺทํ อุปาทิยิสฺสามิ…เป.… น คนฺธํ อุปาทิยิสฺสามิ… น รสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น โผฎฺฐพฺพํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ธมฺมํ อุปาทิยิสฺสามิ น จ เม ธมฺมนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na rūpaṃ upādiyissāmi, na ca me rūpanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na saddaṃ upādiyissāmi…pe… na gandhaṃ upādiyissāmi… na rasaṃ upādiyissāmi… na phoṭṭhabbaṃ upādiyissāmi… na dhammaṃ upādiyissāmi na ca me dhammanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุวิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุวิญฺญาณนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตวิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ฆานวิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ชิวฺหาวิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น กายวิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น มโนวิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ น จ เม มโนวิญฺญาณนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na cakkhuviññāṇaṃ upādiyissāmi, na ca me cakkhuviññāṇanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na sotaviññāṇaṃ upādiyissāmi… na ghānaviññāṇaṃ upādiyissāmi… na jivhāviññāṇaṃ upādiyissāmi… na kāyaviññāṇaṃ upādiyissāmi… na manoviññāṇaṃ upādiyissāmi na ca me manoviññāṇanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุสมฺผสฺสนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ฆานสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ชิวฺหาสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น กายสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น มโนสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม มโนสมฺผสฺสนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na cakkhusamphassaṃ upādiyissāmi, na ca me cakkhusamphassanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na sotasamphassaṃ upādiyissāmi… na ghānasamphassaṃ upādiyissāmi… na jivhāsamphassaṃ upādiyissāmi… na kāyasamphassaṃ upādiyissāmi… na manosamphassaṃ upādiyissāmi, na ca me manosamphassanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนานิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต , คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ฆานสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ชิวฺหาสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น กายสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม มโนสมฺผสฺสชาเวทนานิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na cakkhusamphassajaṃ vedanaṃ upādiyissāmi, na ca me cakkhusamphassajāvedanānissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te , gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na sotasamphassajaṃ vedanaṃ upādiyissāmi… na ghānasamphassajaṃ vedanaṃ upādiyissāmi… na jivhāsamphassajaṃ vedanaṃ upādiyissāmi… na kāyasamphassajaṃ vedanaṃ upādiyissāmi… na manosamphassajaṃ vedanaṃ upādiyissāmi, na ca me manosamphassajāvedanānissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ๓๘๖. ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ปถวีธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ปถวีธาตุนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อาโปธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น เตโชธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น วาโยธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น อากาสธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น วิญฺญาณธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม วิญฺญาณธาตุนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    386. ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na pathavīdhātuṃ upādiyissāmi, na ca me pathavīdhātunissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na āpodhātuṃ upādiyissāmi… na tejodhātuṃ upādiyissāmi… na vāyodhātuṃ upādiyissāmi… na ākāsadhātuṃ upādiyissāmi… na viññāṇadhātuṃ upādiyissāmi, na ca me viññāṇadhātunissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น รูปํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม รูปนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น สญฺญํ อุปาทิยิสฺสามิ… น สงฺขาเร อุปาทิยิสฺสามิ… น วิญฺญาณํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม วิญฺญาณนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na rūpaṃ upādiyissāmi, na ca me rūpanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na vedanaṃ upādiyissāmi… na saññaṃ upādiyissāmi… na saṅkhāre upādiyissāmi… na viññāṇaṃ upādiyissāmi, na ca me viññāṇanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อากาสานญฺจายตนํ อุปาทิยิสฺสามิ , น จ เม อากาสานญฺจายตนนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติ ฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น อากิญฺจญฺญายตนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปาทิยิสฺสามิ น จ เม เนวสญฺญานาสญฺญายตนนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na ākāsānañcāyatanaṃ upādiyissāmi , na ca me ākāsānañcāyatananissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti . Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na viññāṇañcāyatanaṃ upādiyissāmi… na ākiñcaññāyatanaṃ upādiyissāmi… na nevasaññānāsaññāyatanaṃ upādiyissāmi na ca me nevasaññānāsaññāyatananissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ.

    ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อิธโลกํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม อิธโลกนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ปรโลกํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ปรโลกนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํฯ ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยมฺปิ เม ทิฎฺฐํ สุตํ มุตํ วิญฺญาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุปริเยสิตํ อนุจริตํ มนสา ตมฺปิ น อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ตํนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ

    ‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na idhalokaṃ upādiyissāmi, na ca me idhalokanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na paralokaṃ upādiyissāmi, na ca me paralokanissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabbaṃ. Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘yampi me diṭṭhaṃ sutaṃ mutaṃ viññātaṃ pattaṃ pariyesitaṃ anupariyesitaṃ anucaritaṃ manasā tampi na upādiyissāmi, na ca me taṃnissitaṃ viññāṇaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabba’’nti.

    ๓๘๗. เอวํ วุเตฺต, อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ปโรทิ, อสฺสูนิ ปวเตฺตสิฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘โอลียสิ โข ตฺวํ, คหปติ, สํสีทสิ โข ตฺวํ, คหปตี’’ติ? ‘‘นาหํ, ภเนฺต อานนฺท, โอลียามิ, นปิ สํสีทามิ; อปิ จ เม ทีฆรตฺตํ สตฺถา ปยิรุปาสิโต มโนภาวนียา จ ภิกฺขู; น จ เม เอวรูปี ธมฺมี กถา สุตปุพฺพา’’ติฯ ‘‘น โข, คหปติ, คิหีนํ โอทาตวสนานํ เอวรูปี ธมฺมี กถา ปฎิภาติ; ปพฺพชิตานํ โข, คหปติ, เอวรูปี ธมฺมี กถา ปฎิภาตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภเนฺต สาริปุตฺต, คิหีนมฺปิ โอทาตวสนานํ เอวรูปี ธมฺมี กถา ปฎิภาตุฯ สนฺติ หิ, ภเนฺต, กุลปุตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ; ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อญฺญาตาโร’’ติฯ

    387. Evaṃ vutte, anāthapiṇḍiko gahapati parodi, assūni pavattesi. Atha kho āyasmā ānando anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘olīyasi kho tvaṃ, gahapati, saṃsīdasi kho tvaṃ, gahapatī’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhante ānanda, olīyāmi, napi saṃsīdāmi; api ca me dīgharattaṃ satthā payirupāsito manobhāvanīyā ca bhikkhū; na ca me evarūpī dhammī kathā sutapubbā’’ti. ‘‘Na kho, gahapati, gihīnaṃ odātavasanānaṃ evarūpī dhammī kathā paṭibhāti; pabbajitānaṃ kho, gahapati, evarūpī dhammī kathā paṭibhātī’’ti. ‘‘Tena hi, bhante sāriputta, gihīnampi odātavasanānaṃ evarūpī dhammī kathā paṭibhātu. Santi hi, bhante, kulaputtā apparajakkhajātikā, assavanatā dhammassa parihāyanti; bhavissanti dhammassa aññātāro’’ti.

    อถ โข อายสฺมา จ สาริปุโตฺต อายสฺมา จ อานโนฺท อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกมิํสุฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ, อจิรปกฺกเนฺต อายสฺมเนฺต จ สาริปุเตฺต อายสฺมเนฺต จ อานเนฺท , กาลมกาสิ ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชิฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก เทวปุโตฺต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวโณฺณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ชฺฐิโต โข อนาถปิณฺฑิโก เทวปุโตฺต ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

    Atha kho āyasmā ca sāriputto āyasmā ca ānando anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ iminā ovādena ovaditvā uṭṭhāyāsanā pakkamiṃsu. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati, acirapakkante āyasmante ca sāriputte āyasmante ca ānande , kālamakāsi tusitaṃ kāyaṃ upapajji. Atha kho anāthapiṇḍiko devaputto abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇo kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ jṭhito kho anāthapiṇḍiko devaputto bhagavantaṃ gāthāhi ajjhabhāsi –

    ‘‘อิทญฺหิ ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;

    ‘‘Idañhi taṃ jetavanaṃ, isisaṅghanisevitaṃ;

    อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสญฺชนนํ มมฯ

    Āvutthaṃ dhammarājena, pītisañjananaṃ mama.

    ‘‘กมฺมํ วิชฺชา จ ธโมฺม จ, สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;

    ‘‘Kammaṃ vijjā ca dhammo ca, sīlaṃ jīvitamuttamaṃ;

    เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ, น โคเตฺตน ธเนน วาฯ

    Etena maccā sujjhanti, na gottena dhanena vā.

    ‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;

    ‘‘Tasmā hi paṇḍito poso, sampassaṃ atthamattano;

    โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ, เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติฯ

    Yoniso vicine dhammaṃ, evaṃ tattha visujjhati.

    ‘‘สาริปุโตฺตว ปญฺญาย, สีเลน อุปสเมน;

    ‘‘Sāriputtova paññāya, sīlena upasamena;

    โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติฯ

    Yopi pāraṅgato bhikkhu, etāvaparamo siyā’’ti.

    อิทมโวจ อนาถปิณฺฑิโก เทวปุโตฺตฯ สมนุโญฺญ สตฺถา อโหสิฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก เทวปุโตฺต – ‘‘สมนุโญฺญ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถวนฺตรธายิฯ

    Idamavoca anāthapiṇḍiko devaputto. Samanuñño satthā ahosi. Atha kho anāthapiṇḍiko devaputto – ‘‘samanuñño me satthā’’ti bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tatthevantaradhāyi.

    ๓๘๘. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺติํ อญฺญตโร เทวปุโตฺต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวโณฺณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส เทวปุโตฺต มํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

    388. Atha kho bhagavā tassā rattiyā accayena bhikkhū āmantesi – ‘‘imaṃ, bhikkhave, rattiṃ aññataro devaputto abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇo kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yenāhaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā maṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho so devaputto maṃ gāthāhi ajjhabhāsi –

    ‘‘อิทญฺหิ ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;

    ‘‘Idañhi taṃ jetavanaṃ, isisaṅghanisevitaṃ;

    อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสญฺชนนํ มมฯ

    Āvutthaṃ dhammarājena, pītisañjananaṃ mama.

    ‘‘กมฺมํ วิชฺชา จ ธโมฺม จ, สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;

    ‘‘Kammaṃ vijjā ca dhammo ca, sīlaṃ jīvitamuttamaṃ;

    เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ, น โคเตฺตน ธเนน วาฯ

    Etena maccā sujjhanti, na gottena dhanena vā.

    ‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;

    ‘‘Tasmā hi paṇḍito poso, sampassaṃ atthamattano;

    โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ, เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติฯ

    Yoniso vicine dhammaṃ, evaṃ tattha visujjhati.

    ‘‘สาริปุโตฺตว ปญฺญาย, สีเลน อุปสเมน;

    ‘‘Sāriputtova paññāya, sīlena upasamena;

    โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติฯ

    Yopi pāraṅgato bhikkhu, etāvaparamo siyā’’ti.

    ‘‘อิทมโวจ , ภิกฺขเว, โส เทวปุโตฺตฯ ‘สมนุโญฺญ เม สตฺถา’ติ มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถวนฺตรธายี’’ติฯ

    ‘‘Idamavoca , bhikkhave, so devaputto. ‘Samanuñño me satthā’ti maṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tatthevantaradhāyī’’ti.

    เอวํ วุเตฺต, อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โส หิ นูน โส, ภเนฺต, อนาถปิณฺฑิโก เทวปุโตฺต ภวิสฺสติฯ อนาถปิณฺฑิโก, ภเนฺต, คหปติ อายสฺมเนฺต สาริปุเตฺต อภิปฺปสโนฺน อโหสี’’ติฯ ‘‘สาธุ, สาธุ, อานนฺท! ยาวตกํ โข, อานนฺท, ตกฺกาย ปตฺตพฺพํ, อนุปฺปตฺตํ ตํ ตยาฯ อนาถปิณฺฑิโก โส, อานนฺท, เทวปุโตฺต’’ติฯ

    Evaṃ vutte, āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘so hi nūna so, bhante, anāthapiṇḍiko devaputto bhavissati. Anāthapiṇḍiko, bhante, gahapati āyasmante sāriputte abhippasanno ahosī’’ti. ‘‘Sādhu, sādhu, ānanda! Yāvatakaṃ kho, ānanda, takkāya pattabbaṃ, anuppattaṃ taṃ tayā. Anāthapiṇḍiko so, ānanda, devaputto’’ti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā ānando bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.

    อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ

    Anāthapiṇḍikovādasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. วนฺทาหิ เอวญฺจ วเทหิ (สพฺพตฺถ) อญฺญสุเตฺตสุ ปน นตฺถิ
    2. วนฺทาหิ เอวญฺจ วเทหิ (สพฺพตฺถ) อญฺญสุเตฺตสุ ปน นตฺถิ
    3. vandāhi evañca vadehi (sabbattha) aññasuttesu pana natthi
    4. vandāhi evañca vadehi (sabbattha) aññasuttesu pana natthi
    5. มุทฺธานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    6. อภิมเนฺถยฺย (สี. ปี.)
    7. โอหนนฺติ (สฺยา. กํ.)
    8. อธิมตฺตา วาตา สีลํ ปริกนฺตนฺติ (สี. สฺยา. กํ.)
    9. muddhānaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    10. abhimantheyya (sī. pī.)
    11. ohananti (syā. kaṃ.)
    12. adhimattā vātā sīlaṃ parikantanti (sī. syā. kaṃ.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตวณฺณนา • 1. Anāthapiṇḍikovādasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตวณฺณนา • 1. Anāthapiṇḍikovādasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact