Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๙. อนฺธสุตฺตํ

    9. Andhasuttaṃ

    ๒๙. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม ตโย? อโนฺธ, เอกจกฺขุ, ทฺวิจกฺขุฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อโนฺธ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคเจฺฉยฺย อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กเรยฺย 1; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธเมฺม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธเมฺม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม ชาเนยฺยฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อโนฺธฯ

    29. ‘‘Tayome, bhikkhave, puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame tayo? Andho, ekacakkhu, dvicakkhu. Katamo ca, bhikkhave, puggalo andho? Idha, bhikkhave, ekaccassa puggalassa tathārūpaṃ cakkhu na hoti yathārūpena cakkhunā anadhigataṃ vā bhogaṃ adhigaccheyya adhigataṃ vā bhogaṃ phātiṃ kareyya 2; tathārūpampissa cakkhu na hoti yathārūpena cakkhunā kusalākusale dhamme jāneyya, sāvajjānavajje dhamme jāneyya, hīnappaṇīte dhamme jāneyya, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme jāneyya. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, puggalo andho.

    ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เอกจกฺขุ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคเจฺฉยฺย อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กเรยฺย; ตถารูปํ ปนสฺส 3 จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธเมฺม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธเมฺม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม ชาเนยฺยฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เอกจกฺขุฯ

    ‘‘Katamo ca, bhikkhave, puggalo ekacakkhu? Idha, bhikkhave, ekaccassa puggalassa tathārūpaṃ cakkhu hoti yathārūpena cakkhunā anadhigataṃ vā bhogaṃ adhigaccheyya adhigataṃ vā bhogaṃ phātiṃ kareyya; tathārūpaṃ panassa 4 cakkhu na hoti yathārūpena cakkhunā kusalākusale dhamme jāneyya, sāvajjānavajje dhamme jāneyya, hīnappaṇīte dhamme jāneyya, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme jāneyya. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, puggalo ekacakkhu.

    ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทฺวิจกฺขุ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคเจฺฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธเมฺม ชาเนยฺย; สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธเมฺม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม ชาเนยฺยฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทฺวิจกฺขุฯ ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’’นฺติฯ

    ‘‘Katamo ca, bhikkhave, puggalo dvicakkhu? Idha, bhikkhave, ekaccassa puggalassa tathārūpaṃ cakkhu hoti yathārūpena cakkhunā anadhigataṃ vā bhogaṃ adhigaccheyya, adhigataṃ vā bhogaṃ phātiṃ kareyya; tathārūpampissa cakkhu hoti yathārūpena cakkhunā kusalākusale dhamme jāneyya; sāvajjānavajje dhamme jāneyya, hīnappaṇīte dhamme jāneyya, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme jāneyya. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, puggalo dvicakkhu. ‘Ime kho, bhikkhave, tayo puggalā santo saṃvijjamānā lokasmi’’’nti.

    ‘‘น เจว โภคา ตถารูปา, น จ ปุญฺญานิ กุพฺพติ;

    ‘‘Na ceva bhogā tathārūpā, na ca puññāni kubbati;

    อุภยตฺถ กลิคฺคาโห, อนฺธสฺส หตจกฺขุโนฯ

    Ubhayattha kaliggāho, andhassa hatacakkhuno.

    ‘‘อถาปรายํ อกฺขาโต, เอกจกฺขุ จ ปุคฺคโล;

    ‘‘Athāparāyaṃ akkhāto, ekacakkhu ca puggalo;

    ธมฺมาธเมฺมน สโฐโส 5, โภคานิ ปริเยสติฯ

    Dhammādhammena saṭhoso 6, bhogāni pariyesati.

    ‘‘เถเยฺยน กูฎกเมฺมน, มุสาวาเทน จูภยํ;

    ‘‘Theyyena kūṭakammena, musāvādena cūbhayaṃ;

    กุสโล โหติ สงฺฆาตุํ 7, กามโภคี จ มานโว;

    Kusalo hoti saṅghātuṃ 8, kāmabhogī ca mānavo;

    อิโต โส นิรยํ คนฺตฺวา, เอกจกฺขุ วิหญฺญติฯ

    Ito so nirayaṃ gantvā, ekacakkhu vihaññati.

    ‘‘ทฺวิจกฺขุ ปน อกฺขาโต, เสโฎฺฐ ปุริสปุคฺคโล;

    ‘‘Dvicakkhu pana akkhāto, seṭṭho purisapuggalo;

    ธมฺมลเทฺธหิ โภเคหิ, อุฎฺฐานาธิคตํ ธนํฯ

    Dhammaladdhehi bhogehi, uṭṭhānādhigataṃ dhanaṃ.

    ‘‘ททาติ เสฎฺฐสงฺกโปฺป, อพฺยคฺคมานโส นโร;

    ‘‘Dadāti seṭṭhasaṅkappo, abyaggamānaso naro;

    อุเปติ ภทฺทกํ ฐานํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจติฯ

    Upeti bhaddakaṃ ṭhānaṃ, yattha gantvā na socati.

    ‘‘อนฺธญฺจ เอกจกฺขุญฺจ, อารกา ปริวชฺชเย;

    ‘‘Andhañca ekacakkhuñca, ārakā parivajjaye;

    ทฺวิจกฺขุํ ปน เสเวถ, เสฎฺฐํ ปุริสปุคฺคล’’นฺติฯ นวมํ;

    Dvicakkhuṃ pana sevetha, seṭṭhaṃ purisapuggala’’nti. navamaṃ;







    Footnotes:
    1. ผาติกเรยฺย (สี.)
    2. phātikareyya (sī.)
    3. ตถารูปมฺปิสฺส (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    4. tathārūpampissa (syā. kaṃ. pī. ka.)
    5. สํสโฎฺฐ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สโฐติ (ก.)
    6. saṃsaṭṭho (sī. syā. kaṃ. pī.), saṭhoti (ka.)
    7. สํหาตุํ (สฺยา.)
    8. saṃhātuṃ (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. อนฺธสุตฺตวณฺณนา • 9. Andhasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. อนฺธสุตฺตวณฺณนา • 9. Andhasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact