Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๖-๙. อนิจฺจานุปสฺสีสุตฺตาทิวณฺณนา
6-9. Aniccānupassīsuttādivaṇṇanā
๑๖-๑๙. ฉเฎฺฐ ‘‘อิธ สมสีสี กถิโต’’ติ วตฺวา เอวํ สมสีสิตํ วิภชิตฺวา อิธาธิเปฺปตํ ทเสฺสตุํ ‘‘โส จตุพฺพิโธ โหตี’’ติอาทิมาหฯ โรควเสน สมสีสี โรคสมสีสีฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกเวลายเมวฯ โย จกฺขุโรคาทีสุ อญฺญตรสฺมิํ สติ ‘‘อิโต อนุฎฺฐิโต อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปสิ, อถสฺส อรหตฺตญฺจ โรคโต วุฎฺฐานญฺจ เอกกาลเมว โหติ , อยํ โรคสมสีสี นามฯ อิริยาปถสฺส ปริโยสานนฺติ อิริยาปถนฺตรสมาโยโคฯ โย ฐานาทีสุ อิริยาปเถสุ อญฺญตรํ อธิฎฺฐาย ‘‘อวิโกเปตฺวาว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปสิฯ อถสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ จ อิริยาปถวิโกปนญฺจ เอกปฺปหาเรเนว โหติ, อยํ อิริยาปถสมสีสี นามฯ ชีวิตสมสีสี นามาติ เอตฺถ ‘‘ปลิโพธสีสํ มาโน, ปรามาสสีสํ ทิฎฺฐิ, วิเกฺขปสีสํ อุทฺธจฺจํ, กิเลสสีสํ อวิชฺชา, อธิโมกฺขสีสํ สทฺธา, ปคฺคหสีสํ วีริยํ, อุปฎฺฐานสีสํ สติ, อวิเกฺขปสีสํ สมาธิ, ทสฺสนสีสํ ปญฺญา, ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ, จุติสีสํ วิโมโกฺข, สงฺขารสีสํ นิโรโธ’’ติ ปฎิสมฺภิทายํ (ปฎิ. ม. ๓.๓๓) วุเตฺตสุ สตฺตรสสุ สีเสสุ ปวตฺตสีสํ กิเลสสีสนฺติ เทฺว สีสานิ อิธาธิเปฺปตานิ – ‘‘อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานญฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานญฺจา’’ติ วจนโตฯ เตสุ กิเลสสีสํ อรหตฺตมโคฺค ปริยาทิยติ, ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยติฯ ตตฺถ อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยํ ปริยาทาตุํ น สโกฺกติ, ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ อวิชฺชํ ปริยาทาตุํ น สโกฺกติ ฯ อญฺญํ อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ, อญฺญํ ชีวิตนฺทฺริยปริยาทายกํฯ ยสฺส เจตํ สีสทฺวยํ สมํ ปริยาทานํ คจฺฉติ, โส ชีวิตสมสีสี นามฯ
16-19. Chaṭṭhe ‘‘idha samasīsī kathito’’ti vatvā evaṃ samasīsitaṃ vibhajitvā idhādhippetaṃ dassetuṃ ‘‘so catubbidho hotī’’tiādimāha. Rogavasena samasīsī rogasamasīsī. Esa nayo sesesupi. Ekappahārenevāti ekavelāyameva. Yo cakkhurogādīsu aññatarasmiṃ sati ‘‘ito anuṭṭhito arahattaṃ pāpuṇissāmī’’ti vipassanaṃ paṭṭhapesi, athassa arahattañca rogato vuṭṭhānañca ekakālameva hoti , ayaṃ rogasamasīsī nāma. Iriyāpathassa pariyosānanti iriyāpathantarasamāyogo. Yo ṭhānādīsu iriyāpathesu aññataraṃ adhiṭṭhāya ‘‘avikopetvāva arahattaṃ pāpuṇissāmī’’ti vipassanaṃ paṭṭhapesi. Athassa arahattappatti ca iriyāpathavikopanañca ekappahāreneva hoti, ayaṃ iriyāpathasamasīsī nāma. Jīvitasamasīsī nāmāti ettha ‘‘palibodhasīsaṃ māno, parāmāsasīsaṃ diṭṭhi, vikkhepasīsaṃ uddhaccaṃ, kilesasīsaṃ avijjā, adhimokkhasīsaṃ saddhā, paggahasīsaṃ vīriyaṃ, upaṭṭhānasīsaṃ sati, avikkhepasīsaṃ samādhi, dassanasīsaṃ paññā, pavattasīsaṃ jīvitindriyaṃ, cutisīsaṃ vimokkho, saṅkhārasīsaṃ nirodho’’ti paṭisambhidāyaṃ (paṭi. ma. 3.33) vuttesu sattarasasu sīsesu pavattasīsaṃ kilesasīsanti dve sīsāni idhādhippetāni – ‘‘apubbaṃ acarimaṃ āsavapariyādānañca hoti jīvitapariyādānañcā’’ti vacanato. Tesu kilesasīsaṃ arahattamaggo pariyādiyati, pavattasīsaṃ jīvitindriyaṃ cuticittaṃ pariyādiyati. Tattha avijjāpariyādāyakaṃ cittaṃ jīvitindriyaṃ pariyādātuṃ na sakkoti, jīvitindriyapariyādāyakaṃ avijjaṃ pariyādātuṃ na sakkoti . Aññaṃ avijjāpariyādāyakaṃ cittaṃ, aññaṃ jīvitandriyapariyādāyakaṃ. Yassa cetaṃ sīsadvayaṃ samaṃ pariyādānaṃ gacchati, so jīvitasamasīsī nāma.
กถํ ปนิทํ สมํ โหตีติ? วารสมตายฯ ยสฺมิญฺหิ วาเร มคฺควุฎฺฐานํ โหติ, โสตาปตฺติมเคฺค ปญฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ, สกทาคามิมเคฺค ปญฺจ, อนาคามิมเคฺค ปญฺจ, อรหตฺตมเคฺค จตฺตารีติ เอกูนวีสติเม ปจฺจเวกฺขณญาเณ ปติฎฺฐาย ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายโต อิมาย วารสมตาย อิทํ อุภยสีสปริยาทานมฺปิ สมํ โหตีติ อิมาย วารสมตายฯ วารสมวุตฺติทายเกน หิ มคฺคจิเตฺตน อตฺตโน อนนฺตรํ วิย นิปฺผาเทตพฺพา ปจฺจเวกฺขณวารา จ กิเลสปริยาทานเสฺสว วาราติ วตฺตพฺพตํ อรหติฯ ‘‘วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๘; สํ. นิ. ๓.๑๒, ๑๔) วจนโต ปจฺจเวกฺขณปริสมาปเนน กิเลสปริยาทานํ สมฺปาปิตํ นาม โหตีติ อิมาย วารวุตฺติยา สมตาย กิเลสปริยาทานชีวิตปริยาทานานํ สมตา เวทิตพฺพาฯ เตเนวาห ‘‘ยสฺมา ปนสฺส…เป... ตสฺมา เอวํ วุตฺต’’นฺติฯ
Kathaṃ panidaṃ samaṃ hotīti? Vārasamatāya. Yasmiñhi vāre maggavuṭṭhānaṃ hoti, sotāpattimagge pañca paccavekkhaṇāni, sakadāgāmimagge pañca, anāgāmimagge pañca, arahattamagge cattārīti ekūnavīsatime paccavekkhaṇañāṇe patiṭṭhāya bhavaṅgaṃ otaritvā parinibbāyato imāya vārasamatāya idaṃ ubhayasīsapariyādānampi samaṃ hotīti imāya vārasamatāya. Vārasamavuttidāyakena hi maggacittena attano anantaraṃ viya nipphādetabbā paccavekkhaṇavārā ca kilesapariyādānasseva vārāti vattabbataṃ arahati. ‘‘Vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇaṃ hotī’’ti (ma. ni. 1.78; saṃ. ni. 3.12, 14) vacanato paccavekkhaṇaparisamāpanena kilesapariyādānaṃ sampāpitaṃ nāma hotīti imāya vāravuttiyā samatāya kilesapariyādānajīvitapariyādānānaṃ samatā veditabbā. Tenevāha ‘‘yasmā panassa…pe... tasmā evaṃ vutta’’nti.
อายุโน เวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตราว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายตีติ อนฺตราปรินิพฺพายีฯ เตนาห ‘‘โย ปญฺจสุ สุทฺธาวาเสสู’’ติอาทิ ฯ เวมเชฺฌติ อวิหาทีสุ ยตฺถ อุปฺปโนฺน, ตตฺถ อายุโน เวมเชฺฌฯ อายุเวมชฺฌํ อุปหจฺจ อติกฺกมิตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายตีติ อุปหจฺจปรินิพฺพายีฯ เตนาห ‘‘โย ตเตฺถวา’’ติอาทิฯ อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อนุสฺสาเหน อกิลมโนฺต ติกฺขินฺทฺริยตาย สุเขเนว ปรินิพฺพายตีติ อสงฺขารปรินิพฺพายีฯ เตนาห ‘‘โย เตสํเยวา’’ติอาทิฯ เตสํเยว ปุคฺคลานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํฯ อปฺปโยเคนาติ อธิมตฺตปฺปโยเคน วินา อปฺปกสิเรนฯ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมโนฺต ทุเกฺขน ปรินิพฺพายตีติ สสงฺขารปรินิพฺพายีฯ อุทฺธํวาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฎฺฎโสตญฺจาติ, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฎิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโภโตฯ ปฎิสนฺธิวเสน อกนิฎฺฐํ คจฺฉตีติ อกนิฎฺฐคามีฯ
Āyuno vemajjhaṃ anatikkamitvā antarāva kilesaparinibbānena parinibbāyatīti antarāparinibbāyī. Tenāha ‘‘yo pañcasu suddhāvāsesū’’tiādi . Vemajjheti avihādīsu yattha uppanno, tattha āyuno vemajjhe. Āyuvemajjhaṃ upahacca atikkamitvā tattha parinibbāyatīti upahaccaparinibbāyī. Tenāha ‘‘yo tatthevā’’tiādi. Asaṅkhārena appayogena anussāhena akilamanto tikkhindriyatāya sukheneva parinibbāyatīti asaṅkhāraparinibbāyī. Tenāha ‘‘yo tesaṃyevā’’tiādi. Tesaṃyeva puggalānanti niddhāraṇe sāmivacanaṃ. Appayogenāti adhimattappayogena vinā appakasirena. Sasaṅkhārena sappayogena kilamanto dukkhena parinibbāyatīti sasaṅkhāraparinibbāyī. Uddhaṃvāhibhāvena uddhamassa taṇhāsotaṃ vaṭṭasotañcāti, uddhaṃ vā gantvā paṭilabhitabbato uddhamassa maggasotanti uddhaṃbhoto. Paṭisandhivasena akaniṭṭhaṃ gacchatīti akaniṭṭhagāmī.
เอตฺถ ปน จตุกฺกํ เวทิตพฺพํฯ โย หิ อวิหโต ปฎฺฐาย จตฺตาโร เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฎฺฐํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฎฺฐคามี นามฯ อยญฺหิ อวิเหสุ กปฺปสหสฺสํ วสโนฺต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา อตปฺปํ คจฺฉติ, ตตฺราปิ เทฺว กปฺปสหสฺสานิ วสโนฺต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา สุทสฺสํ คจฺฉติ, ตตฺราปิ จตฺตาริ กปฺปสหสฺสานิ วสโนฺต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา สุทสฺสิํ คจฺฉติ, ตตฺราปิ อฎฺฐ กปฺปสหสฺสานิ วสโนฺต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา อกนิฎฺฐํ คจฺฉติ, ตตฺถ วสโนฺต อคฺคมคฺคํ อธิคจฺฉติฯ ตตฺถ โย อวิหโต ปฎฺฐาย ทุติยํ วา จตุตฺถํ วา เทวโลกํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฎฺฐคามี นามฯ โย กามภวโต จวิตฺวา อกนิเฎฺฐสุ ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฎฺฐคามี นามฯ โย เหฎฺฐา จตูสุ เทวโลเกสุ ตตฺถ ตเตฺถว นิพฺพตฺติตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฎฺฐคามีติฯ
Ettha pana catukkaṃ veditabbaṃ. Yo hi avihato paṭṭhāya cattāro devaloke sodhetvā akaniṭṭhaṃ gantvā parinibbāyati, ayaṃ uddhaṃsoto akaniṭṭhagāmī nāma. Ayañhi avihesu kappasahassaṃ vasanto arahattaṃ pattuṃ asakkuṇitvā atappaṃ gacchati, tatrāpi dve kappasahassāni vasanto arahattaṃ pattuṃ asakkuṇitvā sudassaṃ gacchati, tatrāpi cattāri kappasahassāni vasanto arahattaṃ pattuṃ asakkuṇitvā sudassiṃ gacchati, tatrāpi aṭṭha kappasahassāni vasanto arahattaṃ pattuṃ asakkuṇitvā akaniṭṭhaṃ gacchati, tattha vasanto aggamaggaṃ adhigacchati. Tattha yo avihato paṭṭhāya dutiyaṃ vā catutthaṃ vā devalokaṃ gantvā parinibbāyati, ayaṃ uddhaṃsoto na akaniṭṭhagāmī nāma. Yo kāmabhavato cavitvā akaniṭṭhesu parinibbāyati, ayaṃ na uddhaṃsoto akaniṭṭhagāmī nāma. Yo heṭṭhā catūsu devalokesu tattha tattheva nibbattitvā parinibbāyati, ayaṃ na uddhaṃsoto na akaniṭṭhagāmīti.
เอเต ปน อวิเหสุ อุปฺปนฺนสมนนฺตรอายุเวมชฺฌํ อปฺปตฺวาว ปรินิพฺพายนวเสน ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโตติ ปญฺจวิโธ, อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายิวิภาเคน ทส โหนฺติ, ตถา อตปฺปสุทสฺสสุทสฺสีสูติ จตฺตาโร ทสกาติ จตฺตารีสํฯ อกนิเฎฺฐ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ, ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายีติ จตฺตาโร, อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายิวิภาเคน อฎฺฐาติ อฎฺฐจตฺตารีสํ อนาคามิโนฯ สตฺตมาทีสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํฯ
Ete pana avihesu uppannasamanantaraāyuvemajjhaṃ appatvāva parinibbāyanavasena tayo antarāparinibbāyino, eko upahaccaparinibbāyī, eko uddhaṃsototi pañcavidho, asaṅkhārasasaṅkhāraparinibbāyivibhāgena dasa honti, tathā atappasudassasudassīsūti cattāro dasakāti cattārīsaṃ. Akaniṭṭhe pana uddhaṃsoto natthi, tayo antarāparinibbāyino, eko upahaccaparinibbāyīti cattāro, asaṅkhārasasaṅkhāraparinibbāyivibhāgena aṭṭhāti aṭṭhacattārīsaṃ anāgāmino. Sattamādīsu natthi vattabbaṃ.
อนิจฺจานุปสฺสีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Aniccānupassīsuttādivaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya
๖. อนิจฺจานุปสฺสีสุตฺตํ • 6. Aniccānupassīsuttaṃ
๗. ทุกฺขานุปสฺสีสุตฺตํ • 7. Dukkhānupassīsuttaṃ
๘. อนตฺตานุปสฺสีสุตฺตํ • 8. Anattānupassīsuttaṃ
๙. นิพฺพานสุตฺตํ • 9. Nibbānasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)
๖. อนิจฺจานุปสฺสีสุตฺตวณฺณนา • 6. Aniccānupassīsuttavaṇṇanā
๗-๙. ทุกฺขานุปสฺสีสุตฺตาทิวณฺณนา • 7-9. Dukkhānupassīsuttādivaṇṇanā