Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๕. อญฺญตรพฺรหฺมสุตฺตํ
5. Aññatarabrahmasuttaṃ
๑๗๖. สาวตฺถินิทานํ ฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส พฺรหฺมุโน เอวรูปํ ปาปกํ ทิฎฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘‘นตฺถิ โส สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา โย อิธ อาคเจฺฉยฺยา’’ติฯ อถ โข ภควา ตสฺส พฺรหฺมุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป.… ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิฯ อถ โข ภควา ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลเงฺกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาฯ
176. Sāvatthinidānaṃ . Tena kho pana samayena aññatarassa brahmuno evarūpaṃ pāpakaṃ diṭṭhigataṃ uppannaṃ hoti – ‘‘natthi so samaṇo vā brāhmaṇo vā yo idha āgaccheyyā’’ti. Atha kho bhagavā tassa brahmuno cetasā cetoparivitakkamaññāya – seyyathāpi nāma balavā puriso…pe… tasmiṃ brahmaloke pāturahosi. Atha kho bhagavā tassa brahmuno upari vehāsaṃ pallaṅkena nisīdi tejodhātuṃ samāpajjitvā.
อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน 1 ภควนฺตํ ทิเพฺพน จกฺขุนา วิสุเทฺธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลเงฺกน นิสินฺนํ เตโชธาตุํ สมาปนฺนํฯ ทิสฺวาน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปุรตฺถิมํ ทิสํ นิสฺสาย 2 ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลเงฺกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโตฯ
Atha kho āyasmato mahāmoggallānassa etadahosi – ‘‘kahaṃ nu kho bhagavā etarahi viharatī’’ti? Addasā kho āyasmā mahāmoggallāno 3 bhagavantaṃ dibbena cakkhunā visuddhena atikkantamānusakena tassa brahmuno upari vehāsaṃ pallaṅkena nisinnaṃ tejodhātuṃ samāpannaṃ. Disvāna – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya evameva – jetavane antarahito tasmiṃ brahmaloke pāturahosi. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno puratthimaṃ disaṃ nissāya 4 tassa brahmuno upari vehāsaṃ pallaṅkena nisīdi tejodhātuṃ samāpajjitvā nīcataraṃ bhagavato.
อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภควนฺตํ ทิเพฺพน จกฺขุนา…เป.… ทิสฺวาน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป.… เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ทกฺขิณํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลเงฺกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโตฯ
Atha kho āyasmato mahākassapassa etadahosi – ‘‘kahaṃ nu kho bhagavā etarahi viharatī’’ti? Addasā kho āyasmā mahākassapo bhagavantaṃ dibbena cakkhunā…pe… disvāna – seyyathāpi nāma balavā puriso…pe… evameva – jetavane antarahito tasmiṃ brahmaloke pāturahosi. Atha kho āyasmā mahākassapo dakkhiṇaṃ disaṃ nissāya tassa brahmuno upari vehāsaṃ pallaṅkena nisīdi tejodhātuṃ samāpajjitvā nīcataraṃ bhagavato.
อถ โข อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา มหากปฺปิโน ภควนฺตํ ทิเพฺพน จกฺขุนา…เป.… เตโชธาตุํ สมาปนฺนํฯ ทิสฺวาน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป.… เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิฯ อถ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน ปจฺฉิมํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลเงฺกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโตฯ
Atha kho āyasmato mahākappinassa etadahosi – ‘‘kahaṃ nu kho bhagavā etarahi viharatī’’ti? Addasā kho āyasmā mahākappino bhagavantaṃ dibbena cakkhunā…pe… tejodhātuṃ samāpannaṃ. Disvāna – seyyathāpi nāma balavā puriso…pe… evameva – jetavane antarahito tasmiṃ brahmaloke pāturahosi. Atha kho āyasmā mahākappino pacchimaṃ disaṃ nissāya tassa brahmuno upari vehāsaṃ pallaṅkena nisīdi tejodhātuṃ samāpajjitvā nīcataraṃ bhagavato.
อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ…เป.… เตโชธาตุํ สมาปนฺนํฯ ทิสฺวาน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป.… ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิฯ อถ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ อุตฺตรํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลเงฺกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโตฯ
Atha kho āyasmato anuruddhassa etadahosi – ‘‘kahaṃ nu kho bhagavā etarahi viharatī’’ti? Addasā kho āyasmā anuruddho…pe… tejodhātuṃ samāpannaṃ. Disvāna – seyyathāpi nāma balavā puriso…pe… tasmiṃ brahmaloke pāturahosi. Atha kho āyasmā anuruddho uttaraṃ disaṃ nissāya tassa brahmuno upari vehāsaṃ pallaṅkena nisīdi tejodhātuṃ samāpajjitvā nīcataraṃ bhagavato.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ พฺรหฺมานํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
Atha kho āyasmā mahāmoggallāno taṃ brahmānaṃ gāthāya ajjhabhāsi –
‘‘อชฺชาปิ เต อาวุโส สา ทิฎฺฐิ, ยา เต ทิฎฺฐิ ปุเร อหุ;
‘‘Ajjāpi te āvuso sā diṭṭhi, yā te diṭṭhi pure ahu;
ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสร’’นฺติฯ
Passasi vītivattantaṃ, brahmaloke pabhassara’’nti.
‘‘น เม มาริส สา ทิฎฺฐิ, ยา เม ทิฎฺฐิ ปุเร อหุ;
‘‘Na me mārisa sā diṭṭhi, yā me diṭṭhi pure ahu;
ปสฺสามิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ;
Passāmi vītivattantaṃ, brahmaloke pabhassaraṃ;
สฺวาหํ อชฺช กถํ วชฺชํ, อหํ นิโจฺจมฺหิ สสฺสโต’’ติฯ
Svāhaṃ ajja kathaṃ vajjaṃ, ahaṃ niccomhi sassato’’ti.
อถ โข ภควา ตํ พฺรหฺมานํ สํเวเชตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย เอวเมว – ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิฯ อถ โข โส พฺรหฺมา อญฺญตรํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ อามเนฺตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาริส, เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอวํ วเทหิ – ‘อตฺถิ นุ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อเญฺญปิ ตสฺส ภควโต สาวกา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา ; เสยฺยถาปิ ภวํ โมคฺคลฺลาโน กสฺสโป กปฺปิโน อนุรุโทฺธ’’’ติ? ‘‘เอวํ, มาริสา’’ติ โข โส พฺรหฺมปาริสโชฺช ตสฺส พฺรหฺมุโน ปฎิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อเญฺญปิ ตสฺส ภควโต สาวกา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา; เสยฺยถาปิ ภวํ โมคฺคลฺลาโน กสฺสโป กปฺปิโน อนุรุโทฺธ’’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
Atha kho bhagavā taṃ brahmānaṃ saṃvejetvā – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya evameva – tasmiṃ brahmaloke antarahito jetavane pāturahosi. Atha kho so brahmā aññataraṃ brahmapārisajjaṃ āmantesi – ‘‘ehi tvaṃ, mārisa, yenāyasmā mahāmoggallāno tenupasaṅkama; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ evaṃ vadehi – ‘atthi nu kho, mārisa moggallāna, aññepi tassa bhagavato sāvakā evaṃmahiddhikā evaṃmahānubhāvā ; seyyathāpi bhavaṃ moggallāno kassapo kappino anuruddho’’’ti? ‘‘Evaṃ, mārisā’’ti kho so brahmapārisajjo tassa brahmuno paṭissutvā yenāyasmā mahāmoggallāno tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca – ‘‘atthi nu kho, mārisa moggallāna, aññepi tassa bhagavato sāvakā evaṃmahiddhikā evaṃmahānubhāvā; seyyathāpi bhavaṃ moggallāno kassapo kappino anuruddho’’ti? Atha kho āyasmā mahāmoggallāno taṃ brahmapārisajjaṃ gāthāya ajjhabhāsi –
‘‘เตวิชฺชา อิทฺธิปตฺตา จ, เจโตปริยายโกวิทา;
‘‘Tevijjā iddhipattā ca, cetopariyāyakovidā;
ขีณาสวา อรหโนฺต, พหู พุทฺธสฺส สาวกา’’ติฯ
Khīṇāsavā arahanto, bahū buddhassa sāvakā’’ti.
อถ โข โส พฺรหฺมปาริสโชฺช อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา เยน โส พฺรหฺมา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา มาริส, มหาโมคฺคลฺลาโน เอวมาห –
Atha kho so brahmapārisajjo āyasmato mahāmoggallānassa bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā yena so brahmā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ brahmānaṃ etadavoca – ‘‘āyasmā mārisa, mahāmoggallāno evamāha –
‘‘เตวิชฺชา อิทฺธิปตฺตา จ, เจโตปริยายโกวิทา;
‘‘Tevijjā iddhipattā ca, cetopariyāyakovidā;
ขีณาสวา อรหโนฺต, พหู พุทฺธสฺส สาวกา’’ติฯ
Khīṇāsavā arahanto, bahū buddhassa sāvakā’’ti.
อิทมโวจ โส พฺรหฺมปาริสโชฺชฯ อตฺตมโน จ โส พฺรหฺมา ตสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
Idamavoca so brahmapārisajjo. Attamano ca so brahmā tassa brahmapārisajjassa bhāsitaṃ abhinandīti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. อญฺญตรพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา • 5. Aññatarabrahmasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. อญฺญตรพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา • 5. Aññatarabrahmasuttavaṇṇanā